Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2554
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
21 ธันวาคม 2554
 
All Blogs
 
อายุของแบตเตอรี่

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ถ้ามีความจำเป็นจะเปลี่ยนแบตเตอรี่ ก็เลือกขนาดเท่าเดิม
หรือต้องการแบตที่มีกำลังไฟมากกว่าเดิม ก็ไม่ควรจะเกินกว่าร้อยละยี่สิบ


แบตเตอรี่เป็นอุปกรณ์สำคัญชิ้นหนึ่งในรถยนต์ที่จะขาดมิได้ แบตเตอรี่ลูกหนึ่งๆ มีราคาค่อนข้างสูง
แบตเตอรี่ในรถยนต์ปัจจุปันจะมีอยู่ด้วยกันสองแบบคือ
แบบเดิมๆ ที่ต้องคอยหมั่นตรวจเติมน้ำกลั่นให้อยู่ในระดับที่ถูกต้อง
และอีกแบบหนึ่งเป็นแบบที่อ้างว่า ไม่ต้องตรวจเติมน้ำกลั่นหรือไม่ต้องการดูแลบำรุงรักษา (Maintenance free)
ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องนัก เพราะอย่างไรก็ตามการตรวจเติมน้ำกลั่น ก็ยังจำเป็นที่จะต้องทำอยู่ตลอดเวลา

สำหรับท่านที่ใช้แบตเตอรี่แบบนั้นอยู่ ก็ต้องดูแลระดับน้ำกลั่นในแบตเตอรี่อย่างเดิมครับ
เพียงแต่อาจจะทอดเวลาให้นานขึ้นหน่อยเท่านั้นเอง

การขับรถในสภาพจราจรที่แออัด ขับแล้วหยุดในระยะทางสั้นๆ ตลอดเวลา
ก็คือใช้เครื่องยนต์ที่รอบต่ำๆ ก็จะบั่นทอนอายุการใช้งานของแบตเตอรี่
เพราะตามปกตินั้นไดชาร์จหรืออัลเทอร์เนเตอร์ จะปั่นไฟเข้าไปเก็บในแบตเตอรี่
ก็ด้วยรอบการทำงานของเครื่องที่รอบเดินเบา ไปจนถึงไม่เกินสองพันห้าร้อยรอบ
เรียกว่ารอบน้อยก็ชาร์จออกมาน้อยรอบมากก็ชาร์จมาก
แต่ถ้ารอบไต่เกินกว่าสองพันห้าร้อยรอบ ก็จะชาร์จได้สูงสุดเท่าที่จะมีกำลังปั่นไฟออกมาได้
หรือพูดอีกอย่างว่ารอบเกินสองพันห้าร้อยรอบก็ชาร์จได้เท่าเดิม

โดยเฉพาะในขณะนี้ ที่รถรุ่นใหม่ประเคนความสะดวกสบาย และระบบความปลอดภัยที่เป็นระบบไฟฟ้า
หรืออิเล็คโทรนิคส์เข้ามาในรถกันเต็มที่ หลายยี่ห้อที่ระบบบังคับเลี้ยวที่ก่อนนี้ทำงานด้วยระบบกลไก
มีการช่วยผ่อนแรงด้วยการใช้ไฮดรอลิก หรือแรงดันน้ำมันที่เรียกกันว่าพวงมาลัยพาวเวอร์
ก็เปลี่ยนมาเป็นพวงมาลัยที่ใช้ผ่อนแรงด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (Electric power steering)
ก็แน่นอนที่จะต้องใช้กระแสไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น ประสิทธิภาพของตัวสร้างกระแสไฟคือไดชาร์จก็ต้องเพิ่มมากขึ้น
พร้อมๆ กับการเก็บกระแสไฟให้มีใช้งานได้ตลอดเวลา ที่เป็นหน้าที่ของแบตเตอรี่ก็ต้องมีประสิทธิภาพมากขึ้น

รถติดขับด้วยเครื่องรอบต่ำๆ อุปกรณ์ในรถใช้พร้อมๆ กันเกือบหมดทุกระบบ
ความสามารถที่แบตเตอรี่จะกักเก็บประจุไฟใว้ใช้งานก็น้อยลง
ไม่ว่าจะเป็นรถใหม่รถเก่า พร้อมที่จะเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา
และปัจจุบันรถที่ใช้งานส่วนใหญ่จะเป็นเกียร์ออโต้เมติกกันทั้งนั้น
โอกาสที่ไฟหมดหม้อแล้วจะเข็นให้รถติดเป็นไปไม่ได้เลย

นอกจากการหมั่นดูแลรักษาแบตเตอรี่อย่างเป็นประจำแล้ว
จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีสายพ่วงแบตเตอรี่ (Booster cables) ติดรถไว้สักคู่หนึ่ง

สายพ่วงแบตนี่ก็สำคัญครับต้องเลือกขนาดที่เหมาะสมถูกต้อง
ในบางประเทศเขาจะมีข้อกำหนดบังคับไว้เลยว่า ในรถเก๋งนั่งหรือรถที่ใช้แบตเตอรี่ขนาด 12โวลท์
จะต้องใช้สายที่มีขนาดหน้าตัดไม่ต่ำกว่า 25 ตารางมิลลิเมตร
และถ้าเป็นรถที่ใช้ไฟมากกว่า 12 โวลท์เช่นรถบรรทุกที่ใช้ไฟ 24 โวลท์
ขนาดหน้าตัดของสายพ่วงแบตต้องมีพื้นที่หน้าตัดไม่ต่ำกว่า 70 มิลลิเมตร

ได้ขนาดสายพ่วงแล้วต้องดูที่ ตัวคีบขั้วแบต ต้องแน่นหนาแข็งแรง
คีบจับไปที่ขั้วของแบตแล้วไม่หลวมหลุดโยกคลอน


ถ้ารถคุณไฟหมดหม้อกลางถนนก็ต้องใช้การพ่วงแบตเตอรี่จากรถคันอื่น
ต้องดูด้วยครับว่ารถคันที่เข้ามาช่วยคุณนั้น แบตเตอรี่มีกำลังไฟมากหรือน้อยกว่าคุณ

เช่นแบตคุณใช้อยู่ห้าสิบห้าแอมป์ มีรถเข้ามาช่วยคุณ แต่รถของเขาใช้แบตเพียงสี่สิบห้าแอมป์ก็ไม่เกิดประโยชน์
หรือรถอีกคันที่เข้ามาช่วยคุณใช้แบตขนาดเก้าสิบแอมป์ แน่นนอนมีกำลังไฟมากเกินพอที่จะช่วยคุณ
แต่กำลังไฟที่มากเกินก็อาจจะทำให้ระบบอื่นในรถเสียหายได้
ควรเลือกแบตที่มาพ่วง มีกำลังไฟไม่สูงเกินกว่าร้อยละยี่สิบของที่มีอยู่ในรถคุณ
อย่างในกรณีนี้คุณไม่ควรใช้แบตที่มีกำลังไฟสูงเกินกว่าเจ็ดสิบแอมป์

เมื่อได้รถพร้อมกับขนาดของแบตเตอรี่ที่เหมาะสม และสายพ่วงแบตของคุณอยู่ในสภาพที่เหมาะสม
คุณก็ให้ผู้มาช่วยเหลือติดเครื่องเดินเบาเอาไว้ คุณหรือเขาจะต้องเอาขั้วบวกของสายพ่วงแบต
คีบเข้าไปที่ขั้วบวกของแบตรถคันที่มาช่วยเหลือ
แล้วเอาขั้วบวกของอีกข้างหนึ่งคีบไปที่ขั้วบวกของแบตเตอรี่ของรถคุณ
ต่อจากนั้น เอาขั้วลบของสายพ่วงแบตต่อเข้ากับขั้วลบของรถคันที่มาช่วยเหลือ
ปลายขั้วลบของสายพ่วงที่เหลือก็จะต่อเข้ากับขั้วลบของแบตของรถคุณ
อ่านยาวแล้วสับสนก็จำง่ายๆ บวกต่อบวกลบต่อลบ เริ่มผู้มาเยือนก่อน (ต่อขั้วผิดเสียหายมากครับ)

ในขณะนี้รถของผู้มาช่วยเหลือยังติดเครื่องเดินเบาอยู่ คุณเข้าไปในรถปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าทั้งหมดติดเครื่อง
เมื่อเครื่องติดแล้ว ให้คุณเปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าทั้งหมดให้ใช้งานได้ที่ปัดน้ำฝน
(ต้องระวังในกรณีที่เปิดฝากระโปรงรถอยู่) ไฟไล่ฝ้าที่มีอยู่ วิทยุ เทป ซีดี ทีวี เปิดให้หมด ยกเว้นไฟหน้าทุกดวง
ในขณะที่คุณใช้เวลาเปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าทุกตัวเวลาที่เสียไป ก็มากพอที่ที่จะตรวจสอบและยืนยันได้แน่นอนว่า
เครื่องของคุณดับเพราะไฟหมด ต่อไปก็เริ่มกันอีกครั้งที่ถอดสายพ่วงออก
ต้องเริ่มกันที่ถอดสายลบออกก่อนทั้งจากรถคุณหรือรถผู้ช่วยเหลือ
ใครก่อนหลังไม่จำเป็นแต่เมื่อจะถอดต้องถอดขั้วลบก่อน (เมื่อต้องต่อ ต่อขั้วบวกก่อน)

ครับตรวจดูแลแบตเตอรี่ตามหนังสือคู่มือเป็นประจำ รวมทั้งขั้วสายที่ต่ออยู่กับขั้วแบตด้วยว่ามั่นคงแข็งแรงดีไหม
ขั้วแบตเตอรี่ มีคราบขุยขาวๆ หรือที่เรียกว่าขี้เกลือบ้างไหม ถ้ามีก็เอาน้ำร้อนราดเช็ดถูทำความสะอาด
หาจารบีทาไปที่รอบๆ ขั้วแบต ก็น่าจะอุ่นใจขึ้น


ถ้ามีความจำเป็นจะเปลี่ยนแบตเตอรี่ ก็เลือกขนาดเท่าเดิม
หรือต้องการแบตที่มีกำลังไฟมากกว่าเดิม ก็ไม่ควรจะเกินกว่าร้อยละยี่สิบของลูกเดิม


การชาร์จแบตเตอรี่ทั้งใหม่และเก่าควรจะชาร์จแบบช้า (ไม่เกินสิบเปอร์เซ็นต์ของกำลังไฟคือแอมแปร์)
และถ้ารีบร้อนต้องการจะชาร์จแบบเร็วหรือเร่งด่วน ก็ไม่ควรชาร์จเกินกว่าร้อยละห้าสิบ
และต้องคอยสัมผัสที่แบตตลอดเวลา
ในขณะที่ชาร์จเร็วนั้นอุณหภูมิของเปลือกผิวนอกของแบต จะต้องไม่ร้อนเกินกว่า 55 องศาเซลเชียส

อายุของแบตเตอรี่ นอกจากจะขึ้นอยู่กับการดูแลบำรุงรักษาที่ดีแล้ว
การเลือกใช้น้ำกลั่นก็ต้องพิถีพิถันในการเลือกใช้ ต้องแน่ใจว่าเป็นน้ำกลั่นที่บริสุทธิ์จริงๆ

ที่สำคัญแบตเตอรี่ลูกใหม่จะต้องใช้น้ำกรดมีคุณภาพสูง
ควรจะเจาะจงไปที่ร้านแบตเตอรี่ว่า ให้ใช้น้ำกรดยี่ห้อเดียวกับแบตเตอรี่นั้น


ที่มา : //www.bangkokbiznews.com
ภาพจาก : //www.fotosearch.com.au


สารบัญ รู้เรื่องรถ


Create Date : 21 ธันวาคม 2554
Last Update : 21 ธันวาคม 2554 12:29:09 น. 1 comments
Counter : 1083 Pageviews.

 


โดย: new pek วันที่: 21 ธันวาคม 2554 เวลา:12:40:15 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.