ฝาสูบกับความร้อน
ผมขอเอาคำถามของคุณ birdytee ที่ถามมาเกี่ยวกับปัญหาความร้อนมาตอบดังต่อไปนี้
ถาม ผมใช้รถยนต์ โตโยต้า สปอร์ตไรเดอร์ เมื่อใช้มาถึงระยะทาง 135,000 กิโลเมตร เครื่องยนต์ของผมเกิดโอเวอร์ฮีทจนน็อกดับคาเท้า ต้องใช้รถลากไปเข้าอู่ที่อยู่แถวๆ บ้าน ช่างก็จัดการซ่อมให้ผมด้วยการเอาฝาสูบมาไสเจียร (ช่างบอกอย่างนั้น) เสียค่าซ่อมไปเก้าพันบาท ใช้เวลาสองวันเท่านั้น แล้วก็ให้ผมเอารถกลับมาใช้งานต่อ
แต่สิ่งที่พบหลังจากซ่อมมาแล้ว ก็คือสังเกตว่าเข็มความร้อนสูงกว่าปกติตอนก่อนจะซ่อม เพราะปกติรถของผม เข็มความร้อนจะชี้ไม่ถึงระดับครึ่งหนึ่ง แต่ซ่อมมาแล้วเข็มความร้อนจะชี้เกินครึ่งไปเล็กน้อย ถ้าเอาไปใช้งานในพื้นที่รถติดมากๆ เข็มก็จะชี้ไปจนเกือบถึงเศษสามส่วนสี่ของหน้าปัด หรือบางครั้งที่เอาไปขับต่างจังหวัด เข็มความร้อนก็จะชี้ขึ้นไปถึงเศษสามส่วนสี่เช่นกัน แต่พอลดความเร็วลงเข็มก็จะชี้ลดลงตามความเร็วเล็กน้อย อยากทราบว่าอาการอย่างนี้เกิดจากอะไร และต้องแก้ไขอย่างไร บอกตรงๆ ว่า ทุกวันนี้ ใช้รถไประแวงไปว่าความร้อนจะโอเวอร์ฮีทขึ้นมาอีก ไม่มีความสุขกับการใช้รถเลยครับ
ตอบ จากราคาค่าซ่อมและระยะเวลาในการซ่อมครั้งแรก ผมเดาว่าช่างน่าจะทำการซ่อมเพียงแค่ยกเอาฝาสูบออกมาไสผิวหน้า เปลี่ยนปะเก็นฝาสูบ ทำการปรับแต่งบริเวณบ่าวาล์ว และอาจจะมีการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง และไส้กรองน้ำมันเครื่องเท่านั้น
ดังนั้น การที่รถของคุณจะมีความร้อนสูงกว่าเดิม หลังจากซ่อมออกมาจึงไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะการที่ไสเอาฝาสูบออกไปเท่ากับทำให้ปริมาตรในห้องไหม้ มีลดน้อยลง แต่แรงอัดที่เกิดในห้องเผาไหม้กลับมีสูงขึ้น จึงเป็นผลที่ทำให้ความร้อนสูงขึ้น ทั้งนี้ โดยปกติสำหรับรถที่ซ่อมถึงขั้นไสฝาสูบ ผมมักจะแนะนำด้วยข้อความที่ขัดหูนักทฤษฎีอยู่บ้าง นั่นคือผมจะแนะนำให้ถอดเอาวาล์วน้ำ หรือเทอร์โมสตรัทออกไปเสีย ซึ่งจะทำให้ปริมาณน้ำไหลผ่านเพื่อระบายความร้อนสูงขึ้น จะช่วยลดความร้อนลงไปได้บ้าง
วิธีการแก้ไขที่ค่อนข้างจะได้ผลยั่งยืนอีกวิธีหนึ่ง คือการเปิดฝาสูบขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง แล้วหาปะเก็นฝาสูบที่มีความหนาพิเศษมาใส่เข้าไป วิธีนี้จะช่วยลดแรงอัดในกระบอกสูบหรือในห้องเผาไหม้ลงไปได้ เท่ากับช่วยลดความร้อนของห้องเผาไหม้ลง หรือเท่ากับลดความร้อนของเครื่องยนต์ลงนั่นเอง ปะเก็นหนาพิเศษที่บอกมานั้น สามารถหาซื้อได้ตามร้านอะไหล่ใหญ่ๆ ทั่วไป ราคาไม่แตกต่างไปจากปะเก็นปกติของแท้เท่าใดนัก
ในเครื่องยนต์ที่เกิดโอเวอร์ฮีทจนน็อกมาแล้ว ควรตรวจดูท่อยางหม้อน้ำด้วย เพราะท่อยางหม้อน้ำที่ถูกน้ำที่มีความร้อนสูงไหลผ่าน อาจจะมีการบวมแยกตัวของชั้นในท่อยางเกิดขึ้น หรืออาจจะทำให้มีการอ่อนตัวของท่อยางเกิดขึ้น เมื่อเครื่องยนต์ทำงานจนน้ำมีอุณหภูมิสูงขึ้น ท่อยางก็จะอ่อนตัวหรือบีบตัวจนน้ำไหลผ่านไม่สะดวก ทำให้เกิดความร้อนสูงกว่าปกติได้
ส่วนวิธีการหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดความร้อนสูงขึ้นมาอีก ในเครื่องยนต์ที่ผ่านการซ่อมลักษณะนี้มาแล้ว คือหลีกเลี่ยงการใช้รถในรอบเครื่องยนต์สูงๆ อย่างต่อเนื่อง เช่น ไม่ใช้ความเร็วสูงๆ คงที่ในขณะเดินทางต่างจังหวัด เพราะเครื่องยนต์ที่ทำงานในรอบสูงๆ ย่อมทำให้แรงอัดและแรงดูดบริเวณห้องเผาไหม้สูงตามไปด้วย ซึ่งหากปะเก็นฝาสูบมีความแข็งแรงไม่เพียงพอ แรงดูดที่สูงขึ้นนั้น อาจจะทำให้เกิดการดูดเอาน้ำที่ไหลผ่านบริเวณฝาสูบ เข้าไปเผาในห้องเผาไหม้ จนทำให้ปริมาณน้ำขาดหายไป ไม่พอใช้ในการระบายความร้อน จึงพบปริมาณน้ำในหม้อน้ำขาดหายอยู่เสมอๆ และมีความร้อนสูงตามมา
เครื่องยนต์ที่ผ่านการซ่อมระดับนี้มา จึงเป็นเครื่องยนต์ที่เปราะบาง ต้องการการดูแลที่มากเป็นพิเศษกว่าเครื่องยนต์ปกติครับ
โดย : พัฒนเดช อาสาสรรพกิจ ที่มา: //www.bangkokbiznews.com ภาพจาก: //www.fotosearch.com.au
สารบัญรู้เรื่องรถ
Create Date : 26 มกราคม 2555 |
Last Update : 26 มกราคม 2555 18:48:51 น. |
|
0 comments
|
Counter : 3317 Pageviews. |
|
|
|
|
|