น้ำเข้าห้องโดยสารของรถ
วันนี้เป็นวันอาสาฬหบูชาเป็นวันหยุดต่อเนื่องสามสี่วัน ทำให้หลายท่านเดินทางไปเที่ยวหรือไปทำบุญต่างจังหวัดกันมาก ในขณะที่สภาพดินฟ้าอากาศก็เต็มไปด้วยเมฆฝน ที่พร้อมจะเทกระหน่ำลงมาตลอดเวลา การเลือกชนิดรถสำหรับใช้เดินทาง จึงเป็นสิ่งสำคัญประการแรกที่ต้องคำนึงถึง
เป็นที่รู้กันดีว่าสภาวะน้ำท่วมทางขาด ถนนเป็นหลุมเป็นบ่อ และดินถล่มขวางทาง เกิดขึ้นถี่มากขึ้นในประเทศไทย ทำให้รถเก๋งกลายเป็นรถที่มีข้อด้อยมากที่สุด สำหรับการใช้งานในสภาวการณ์คับขันดังกล่าว ผู้ที่มีฐานะทางการเงินดีจึงหันไปหารถยนต์แบบขับเคลื่อนสี่ล้อ SUV แพงๆ เป็นรถคันที่สองเพื่อใช้เดินทางต่างจังหวัด
ส่วนคนที่เห็นว่ารถคันที่สองไม่ควรมีราคาแพงมาก เพราะใช้งานไม่มากนัก ก็หันไปหารถยนต์ปิกอัพดัดแปลงจำพวกขับเคลื่อนสี่ล้อ 4 ประตู หรือขยับไปเล่นกับรถยนต์แบบ PPV ซึ่งมีการพัฒนาสมรรถนะและประสิทธิภาพขึ้นมามาก ดังนั้นใครที่มีรถยนต์ประเภทที่ผมกล่าวมา หากต้องการเดินทางต่างจังหวัดในสภาวะอย่างนี้ เปิดประตูสตาร์ทเครื่องเอามันออกมาใช้งานได้เลย รับรองได้ว่าถูกต้องและเหมาะสมที่สุด ไปเจอของน่าซื้อน่าหาระหว่างทางยังจ่ายเงินจับโยนขึ้นรถได้อีกด้วย
ทีนี้เข้ามาตอบคำถามของ คุณรุ้งพลอยศรี ที่บอกว่ามีปัญหากับรถเก๋งของเธอมีน้ำเข้าห้องโดยสาร เนื่องจากก่อนหน้านั้นเธอและครอบครัว ได้ใช้รถเก๋งเดินทางไปพักผ่อนหย่อนใจที่หัวหิน ระหว่างทางฝนตกหนักมากแต่ก็พอขับรถไปได้เรื่อยๆ อย่างปลอดภัย
ปัญหามันเกิดขึ้นเมื่อไปถึงปลายทาง และเปิดฝากระโปรงท้ายเพื่อหยิบกระเป๋าเสื้อผ้าออกมา จึงพบว่ามีน้ำเปียกอยู่ที่กระเป๋าเสื้อผ้าเต็มไปหมด ไม่รู้ว่าน้ำมาจากที่ไหนและจะแก้ไขได้อย่างไร
คำถามดังกล่าวนั้นหากเจ้าของรถสังเกต ก่อนที่จะรื้อกระเป๋าทั้งหมดออกมา แล้วตรวจดูว่ากระเป๋าใบที่อยู่ข้างบน หรือใบที่อยู่ข้างล่างเปียกมากกว่ากัน ก็จะสะดวกในการเดามากขึ้น แต่เมื่อคุณรุ้งพลอยศรีไม่ทันสังเกตก็ไม่เป็นไร ให้เริ่มต้นด้วยการรื้อผ้ายางปูพื้นห้องเก็บของท้ายรถทั้งหมดออกมา
จุดที่ต้องตรวจละเอียด คือซุ้มเก็บยางอะไหล่ เพราะรถที่มีอายุมากๆ มักจะพบว่ามีการผุเกิดขึ้นบริเวณซุ้มตรงที่ยางอะไหล่วางทับอยู่ ถ้าพบว่ามีรอยผุก็จัดการเอากระดาษทรายมาขัดสนิมออกให้หมด แล้วหากาวอุดท่อแอร์ที่เรียกว่าก้อนขี้หมามาอุดยารอยผุให้หมด หรือถ้าผุมากก็ต้องเอารถไปให้อู่ทำสีจัดการปะผุ
จุดที่สองคือบริเวณขอบไฟท้ายทั้งซ้ายและขวา เพราะหลายครั้งที่เราพบว่ายางขอบไฟท้ายหดตัว จนมีช่องว่างเกิดขึ้นเล็กน้อย เมื่อต้องวิ่งผ่านฝนที่ตกหนักหรือเมื่อล้างรถ น้ำจะไหลย้อยผ่านซอกดังกล่าวเข้าไปขังในห้องเก็บของได้ วิธีแก้ไขก็ต้องเปลี่ยนยางขอบไฟท้ายเสียใหม่ หรือใช้ก้อนขี้หมามายาอุดเอาไว้เป็นการแก้ไขชั่วคราวอีกเช่นกัน
จุดที่สามคือบริเวณขอบยางฝากระโปรงท้าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งรถยนต์ที่มีท้ายลาดแบบแฮทช์แบ็ค เพราะยางขอบฝากระโปรงท้ายที่ต้องตากแดด ตากความร้อนแนบติดกับฝากระโปรง และมีโอกาสเปิดน้อยครั้ง จนบางครั้งเมื่อเปิดฝากระโปรงท้ายขึ้นมา จะได้ยินเสียงยางยึดติดกับฝากระโปรงท้ายยืดตัวดังเอี๊ยด เพราะความร้อนทำให้ยางละลายติดกับโครงโลหะฝากระโปรงนั่นเอง มันจึงเกิดรอยฉีกขาดขึ้นมาได้ หรือเกิดการเสื่อมสภาพของยางได้ ทำให้ประสิทธิภาพในการป้องกันน้ำลดน้อยลง เมื่อมีฝนตกหนักไหลผ่านลงมาตามกรอบฝากระโปรง ที่ทำหน้าที่เป็นรางน้ำฝนไปในตัวด้วย น้ำฝนจึงไหลเข้าไปในห้องเก็บของท้ายรถ วิธีแก้ไขก็คือเปลี่ยนยางขอบฝากระโปรงท้ายเสียใหม่ ส่วนวิธีป้องกันก็คือให้เปิดฝากระโปรงท้ายบ่อยๆ อย่าทิ้งไว้จนยางเหนียวละลายติดกรอบ หรือจะใช้แป้งฝุ่นโรยรอบๆ ยางเอาไว้บ่อยๆ ก็ช่วยได้เช่นกันครับ
ที่มา : //www.bangkokbiznews.com ภาพจาก : //www.fotosearch.com
เรื่องที่เกี่ยวข้อง : น้ำเข้าห้องโดยสารของรถ ขับรถฝนปรอยๆ ปภ.แนะเทคนิคขับรถลุยน้ำท่วม แอ่งน้ำบนถนน มีอันตรายซ่อนอยู่ ขับรถลุยทำอย่างไรดี ขับรถลุยลำธาร
สารบัญ รู้เรื่องรถ
Create Date : 27 พฤษภาคม 2554 |
Last Update : 22 ตุลาคม 2554 11:44:24 น. |
|
1 comments
|
Counter : 1682 Pageviews. |
|
|
|