Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2553
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
31 พฤษภาคม 2553
 
All Blogs
 

หมอนรองศีรษะ..สำคัญกว่าที่คิด

หมอนรองศีรษะ..สำคัญกว่าที่คิด

เทคโนโลยียานยนต์ในปัจจุบัน นอกจากความเร็วแรงแต่ประหยัด และรักษาสภาพแวดล้อมแล้ว
ความปลอดภัยก็เป็นเงื่อนไขสำคัญในการสร้างความสนใจ เพื่อชิงส่วนแบ่งตลาด
ท่ามกลางความร้อนระอุของการแข่งขัน

อุปกรณ์นิรภัยที่ติดตั้งอยู่ในรถยนต์ ก็เพื่อผู้ขับได้รับความปลอดภัยสูงสุดจากอุบัติเหตุ
เราเคยทราบถึงประโยชน์ของเข็มขัดนิรภัยและถุงลมนิรภัยกันมาบ้างแล้ว
รวมถึงเบาะนิรภัยที่มีการติดตั้งในรถยนต์ราคาปานกลางถึงสูง
แต่ยังมีอุปกรณ์อีกชิ้นหนึ่งที่มีในรถยนต์ทุกระดับราคา
แต่ยังมีการใช้งานกันไม่ตรงตามวัตถุประสงค์อย่างเต็มที่ อุปกรณ์นั้นคือ "หมอนพิงศีรษะ" (Head Rest)

ลักษณะอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่มักเป็นการชนด้านหน้า
แต่ยังมีรูปแบบการบาดเจ็บของกระดุกต้นคอที่เกิดจากการถูกชนด้านหลัง
การถูกชนในลักษณะนี้อาจทำให้มีการฉีกขาดของเอ็นยึดกระดูกต้นคอ
ทางการแพทย์เรียกว่า Whiplsh Injury
ถ้ายังจำกันได้ถึงกลไกการบาดเจ็บของคอที่เคยเขียนถึง เมื่อเกิดการชนที่ด้านหน้า
ถุงลมนิรภัยจะพองออกมารับศีรษะ ไม่ให้คอก้มลงมากเกินไปเนื่องจากแรงสะบัด
ในขณะที่ลำตัวถูกเข็มขัดนิรภัยยึดไว้ นี่เป็นภาพที่เริ่มชินตากันจากโฆษณาต่าง ๆ
แต่ในอีกมุมหนึ่งที่มีโอกาสเกิดได้ไม่น้อย คือการถูกชนจากด้านหลัง


หมอนรองศีรษะ..สำคัญกว่าที่คิด

ถ้าถูกชนจากด้านหลังอย่างรุนแรงเท่ากับตัวรถยนต์หยุดนิ่ง
แล้วมีแรงมากระทำให้พุ่งไปข้างหน้าอย่างรุนแรง เกิดความเร่งขนาดสูงมากกระทำกับตัวรถยนต์
ความเร่งนี้จะถ่ายทอดมาที่เบาะ ทำให้พุ่งไปข้างหน้าอย่างแรง
ในขณะที่ศีรษะที่มีความเฉื่อยอยู่ จะอยู่นิ่งในช่วงแรก
ผลรวมที่เกิดขึ้นจากการที่ลำตัวพุ่งไปข้างหน้า ในขณะที่ศีรษะอยู่นิ่ง ทำให้เกิดการเงยคออย่างรุนแรง
เหตุการณ์ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาเพียง 0.2 วินาทีเท่านั้น
ผลที่ตามมาคือ เอ็นยึดกระดูกคอฉีกขาด เกิดอาการปวดคออย่างรุนแรง
ผลสุดท้ายคือต้องเสียเงินรักษา เสียเวลาทำงาน


อุปกรณ์ความปลอดภัยที่ใช้ได้ผลมาตลอด
คือคาดเข็มขัดนิรภัย ยังมีบทบาทสำคัญในการดึงลำตัวไว้กับเบาะ ไม่ให้พุ่งไปข้างหน้า

อุปกรณ์สำคัญต่อมา คือหมอนพิงศีรษะ
เพราะแม้ว่าลำตัวถูกยึดอยู่กับเบาะ แต่เบาะที่ยึดกับตัวรถยนต์ก็ยังพุ่งไปข้างหน้า
ศีรษะที่ไม่มีอะไรรองรับก็ยังแกว่งไปข้างหลังอย่างแรงได้
แต่ถ้ามีหมอนพิงศีรษะมารับไว้ ก็จะช่วยไม่ให้คอเงยมากเกินไปจนเกิดอันตรายขึ้น


ปัญหาที่ตามมา
คือผู้ขับรถยนต์บางคนไม่ให้ความสำคัญกับการปรับหมองรองศีรษะ
ให้เตรียมพร้อมรับกับอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น

ผู้ผลิตรถยนต์บางรายทราบถึงปัญหานี้ดี จึงออกแบบหมอนพิงศีรษะแบบตายตัวไม่สามารถปรับได้
แต่อยู่ในตำแหน่งที่รองรับศีรษะเมื่อเกิดเหตุได้เป็นอย่างดี
แต่ผู้ใช้รถยนต์บางคนอาจจะบ่นว่า หมอนที่ปรับไม่ได้ทำให้พิงแล้วไม่สบายคอ

ผู้เชี่ยวชาญทางอุบัติเหตุท่านหนึ่ง ได้เขียนถึงเรื่องนี้ไว้อย่างน่าสนใจว่า
ยังมีความเข้าใจผิดกันมากเกี่ยวกับ Headrest นี้ แม้จริงแล้วหมอนพิงศีรษะมีชื่อจริงว่า Head Restraint
ถ้าเมื่อใดถูกใช้เป็นหมอนพิงศีรษะก็จะผิดจุดประสงค์ทันที
เพราะถูกออกแบบมาให้เป็นตัว Restraint หมายถึงให้การปกป้องต่อศีรษะและคอ
ถ้าถูกปรับลงมาเพื่อให้หนุนคอสบายจะกลายเป็นจุดหมุนของต้นคอทันที
นั่นคือศีรษะจะสะบัดไปด้านหลัง
โดยมีหมอนพิงศีรษะค้ำที่ต้นคอให้ศีรษะสะบัดไปข้างหน้า-หลังได้ดีและแรงยิ่งขึ้น


ความสูงของหมอนพิงศีรษะ อย่างน้อยที่สุดต้องไม่ต่ำกว่าระดับเหนือใบหู

จากการทดสอบพบว่า ความสูงของหมอนพิงศีรษะ อย่างน้อยที่สุดต้องไม่ต่ำกว่าระดับเหนือใบหู
และถ้าสังเกตให้ดีจะเห็นว่า หมอนรองศีรษะในรถยนต์หลายรุ่นจะออกแบบมาให้เอนมาด้านหน้า

การตรวจสอบตำแหน่งง่าย ๆ
คือถ้าพิงพนักเต็มที่แล้ว ศีรษะด้านหลังส่วนที่เป็นกระโหลกแข็ง ๆ สัมผัสกับหมอนพิงศีรษะพอดี
แสดงว่าปรับได้ตำแหน่งที่ถูกต้อง
ถ้าพิงไปแล้วหมอนมารับท้ายทอยอย่างสบายเท่ากับว่าหมอนต่ำเกินไป

อุปกรณ์ใช้ร่วมกันเสมอคือเข็มขัดนิรภัย ถ้าปรับหมอนดีแต่ตัวพุ่งไปข้างหน้าก็ไม่มีประโยชน์อะไร
นอกจากนี้ "ซาบ" ก็ยังมีการพัฒนาหมอนพิงศีรษะ
ที่เรียกว่า Protech นี้จะพุ่งมาข้างหน้าทันทีที่พนักพิงกระแทกกับแผ่นหลัง
ช่วยยันศีรษะไม่ให้หงายไปด้านหลัง อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

เมื่ออุปกรณ์นิรภัยต่าง ๆ ถูกแนะนำขึ้น จากจำนวนผู้เสียชีวิตก็ลดลง จำนวนผู้บาดเจ็บก็มากขึ้น
และการเรียนรู้รูปแบบของการบาดเจ็บแบบต่าง ๆ ก็ทำให้มีการสร้างอุปกรณ์นิรภัยใหม่ ๆ ตามออกมา
เป้าหมายของผู้ผลิตเหล่านี้ คือทำให้รถยนต์มีความปลอดภัยสูงสุด
แบบนี้แล้วเวลาขึ้นรถอย่าลืมปรับตำแหน่งของหมอนพิงศีรษะให้ถูกต้อง
เพราะจุดเล็ก ๆ ที่หลายคนมองข้ามนั้นอาจจะหมายถึงชีวิตทั้งชีวิตเลยก็ได้


ที่มา : //www.manager.co.th


สารบัญ รู้เรื่องรถ




 

Create Date : 31 พฤษภาคม 2553
0 comments
Last Update : 22 กรกฎาคม 2554 16:11:35 น.
Counter : 1817 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.