Group Blog
All Blog
|
### ชบาดอกจิ๋ว แสนสวย ###
ดอกชบาจิ๋ว บางทีก็เรียกชบาหนูเพราะเป็นชบาดอกเล็กลักษณะเหมือนดอกชบาทั่วไปเลี้ยงง่ายตายยากออกดอกตลอดปีมีหลายสีสวยสดงดงามชอบแดด
ปลูกง่ายไม่เลือกดินขอให้โปร่งเราปลูกโดยใช้ดินเพียงเล็กน้อยผสมกาบมะพร้าว แกลบและขี้วัวเท่านี้เธอก็งามออกดอกให้ชื่นชมมากมายต้องหมั่นตัดแต่งต้นเธอบ่อยๆเธอก็จะแตกยอดและออกดอกพร้อมกันดอกมีลักษณะดอกเดี่ยว ออกดอกทุกฤดู
ที่มา...ตังเก ศรีราชา
### ดอกไม้หน้าร้อนบ้านเรา ###
### ดอกไม้ริมทาง ขาดคนเหลียวแล "อังกาบหนู" ###
ดอกอะไรไม่รู้เธอบานอยู่ริมทาง เราเห็นเธอสวยแต่ไม่มีใครสนใจเธอเลย เธออาจจะแลดูไร้ค่า แต่ดอกที่เธอบานให้เราได้ชื่นชมนั้้นงามจริงๆ เราสนใจเธอทันทีที่ได้เห็น หลังจากเก็บภาพมาให้ชมกันแล้ว เราก็บอกเธอว่า ไปอยู่ด้วยกันนะไม่อยากให้เธอต้องโดดเดี่ยว ออกดอกบานล้อลมอยู่ด้วยความเหงา เราจึงนำต้นเธอมาปลูก ต้นของเธอไม่ใหญ่นัก ลำต้นเล็กๆ โคนก้านใบทุกใบ จะมีหนามเล็กๆแผ่กระจายล้อมไว้ ธรรมชาติอาจจะสร้างอาวุธป้องกันภัยไว้ให้กับเธอก็ได้ หรือเพราะหนามแหลมโคนก้านใบนี่เอง ที่ทำให้ไม่มีใครรักและสนใจเธอ เราไม่รู้จักชื่อของเธอหรอกนะ หากใครรู้ช่วยบอกที เธอออกดอกเป็นพวงหลายดอก ลักษณะดอกของเธอจะแหลมและมีสีเหลืองอ่อน ตัดกับสีเขียวของใบงามเชียวละ ดอกเธอจะค่อยๆบานทีละดอก จนครบทุกดอก เกสรของเธอยาวและงามมาก ดอกของเธอจะอยู่ได้แค่วันเดียวก็จะเริ่มเหี่ยว เพราะกลีบดอกของเธอนั้นบางเบายิ่งนัก แต่ถึงอย่างไรเราก็รักเธอ และได้ชวนเธอมาอยู่บ้านเราแล้วละ ยังไม่รู้เลยว่าเธอจะพอใจหรือไม่เพราะสองวันแล้ว เธอก็ยังอ่อนแทบหมดแรงอยู่เลย เราได้แต่อธิษฐานว่าอย่าเพิ่งตายนะ อยู่เป็นเพื่อนกันไปก่อน ออกดอกสวยๆมาให้เราได้ชมเยอะๆนะ เราจะได้เอามาฝากแฟนๆที่เข้ามาแอบดูเธอกัน และแล้ววันนี้ก็มาถึงเราได้ชื่อของเธอแล้วละ เธอมีชื่อว่า "อังกาบหนู" ชื่อเพราะเชียว ดอกก็สวย แถมเธอมีสรรพคุณรักษาโรคได้อีก หาอ่านได้นะจ๊ะ แค่พิมพ์ชื่ออังกาบหนูก็รู้สรรพคุณเธอแล้ว ขอบคุณ "อากู๋"จริงๆ        ### ดอกพุดตานญี่ปุ่น ###
ต้นดอกพุดตานญี่ปุ่นนี้ คนชอบปลูกต้นไม้ดอกไม้ประดับเช่นเรา คุยกันถูกคอเลยเอาต้นมาให้ปลูกเล่น แรกๆที่เอามานั้นเราไม่รู้จักหรอก เพราะเราไม่เคยเห็นต้นและดอกของเธอเลย แต่
เมื่อปลูกไปแล้วเห็นว่าเธอโตเร็วมาก ต้นเริ่มสูงขึ้นประมาณสักเมตรครึ่ง ลำต้นนั้นขยันแตก
กิ่งก้านสาขามากมาย ใบเธอใหญ่โตพอบังแดดได้เชียวละ เราปลูกได้ประมาณสักห้าหกเดือน
ก็เริ่มเห็นเธอแทงก้านดอกออกมายาวประมาณสักคืบกว่าๆ
ปลายก้านจะมีดอกตูมๆของเธออยู่เป็นพวงเชียวละ เมื่อเธอเริ่มโตเธอก็เริ่มค่อยบานทีละดอกสองดอก
จนกระทั่งบานเต็มพวงดอกของเธอนั่นแหละ ดอกเธอเป็นสีชมพูอ่อนสวยหวานเชียวละ คนให้มาบอกว่าเธอจะบานอยู่นานกว่าดอกจะแห้ง เราจะคอยดู แต่วันนี้จะชื่นชมคนเดียวไม่ได้ เลยต้องนำมาให้แฟนๆได้ชื่นชมด้วย
สำหรับกลิ่นนั้นไม่ต้องถามหรอกเพราะเราไม่รู้ว่า เธอมีกลิ่นหรือเปล่า เพราะดอกของเธอสูงเกินกว่า
เราจะดอมดมได้ แต่ขอบอกว่าเธอเลี้ยงง่าย โตเร็ว ลำต้นเธอแข็งแรง ใบโต แต่กิ่งก้านเธอบอบบาง และทุกกิ่งที่แตกออกมา จะมีก้านดอกออกมา ร่วมด้วยช่วยกันงาม มากมายเชียวละ
เรากำลังรอคอยว่า เมื่อเธอได้เบ่งบานอวดโฉมพร้อมกันเมื่อไร เธอคงจะงาม ห้อยระย้าน่าชมเชียว        ### หม้อข้าวหม้อแกงลิง ###
ชื่อนี้สำคัญไฉน "หม้อข้าวหม้อแกงลิง" ใครนะช่างสรรสร้างชื่อของเธอ สุดจะคาดเดา ที่แน่ๆ เธอเป็นไม้เลื้อย เขาเลี้ยงใส่กระถางห้อยโตงเตง เธอก็ทอดยอดออกดอกห้อยระย้าพาชวนชมซะงั้น เธอเลี้ยงง่าย มีหลายพันธุ์ เราไม่รู้หรอกว่ามีกี่พันธุ์ เพราะแค่เห็นเราก็ตะลึงและทึ่งในความประหลาดของเธอแล้ว ลายเธอสวยจนดูลานตาไปหมด ลายอย่างนี้มองแล้ว ไม่ทำร้ายตาหรอกก็แค่ตาลายไปก็เท่านั้นเอง ด้วยความแปลกของเธอนั่นแหละ ราคาของเธอจึงแพงสักหน่อย หาซื้อได้ตามร้านขายต้นไม้ทั่วไป หรือตามแหล่งที่ขายไม้ประดับก็คงจะมีให้เห็น ถ้าชอบก็ตัดสินใจพาเธอเข้าไปเป็นสมาชิกในบ้านซะอย่าลังเล เธออาจจะเป็นเพื่อนยามเหงาได้แน่ ไม่รู้จะคุยกับใครก็คุยกับเธอได้นะ เธออาจจะไม่ตอบเรา แต่เธอก็คงรู้สึกรักเราแล้วละ เพราะเธอจะบรรจงแต้มสีสันของช่อเธอ ให้เรางงๆ เล่นก็เท่านั้นเองแหละ
หม้อข้าวหม้อแกงลิง ..................... ชื่อสามัญ tropical pitcher plants หรือ monkey cups เป็นพืชกิน แมลง พืชอนุรักษ์ในบัญชี IIA ในบัญชี CITES เป็นพืชที่ได้รับความสนใจ ในตลาดไม้ประดับ ทั้งในและต่างประเทศ ทำให้ถูกเก็บจากธรรมชาติ มาจำหน่ายเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้หม้อข้าวหม้อแกงลิง มีแนวโน้มไปสู่ความเสี่ยง ต่อการสูญพันธุ์ ในต่างประเทศพบมากบน เกาะบอร์เนียว เกาะสุมาตรา และในประเทศไทย สามารถพบเห็นได้ ในหลายจังหวัด เช่น อุบลราชธานี นราธิวาส สุราษฎร์ธานี ฯลฯ ปัจจุบันได้มีนักเลี้ยงพันธุ์ไม้กินแมลง ได้พัฒนาสายพันธุ์ หม้อข้าวหม้อแกงลิง ด้วยการผสมเกสร ทำให้เกิด หม้อข้าวหม้อแกงลิง ลูกผสมใหม่ ๆ ที่หลากหลาย มีสีสันสวยงาม และลักษณะแปลกใหม่ หม้อข้าวหม้อแกงลิง มีการปรับเปลี่ยนลักษณะของใบ ให้เป็นกับดักรูปทรงกระบอก เอาไว้ดักจับแมลง เพื่อนำสารอาหาร ที่ได้จากการย่อยแมลง มาเป็นอาหาร ลักษณะของกับดัก จะมีฝาปิด เพื่อป้องกันน้ำฝนตกลงไปเจือจางน้ำย่อยที่หลั่งออกมาในกับดัก และกับดักจะมีสารพวกขี้ผึ้งอยู่ที่ผนังภายในส่วนบน ช่วยให้บริเวณนั้นลื่น ทำให้แมลงตกลงไปได้ง่าย หม้อข้าวหม้อแกงลิงบางชนิด ยังมีขนแหลม ที่บริเวณปากของกับดัก และบริเวณถัดมา ทำให้แมลงไต่หนีขึ้นมาได้ยาก เมื่อแมลงตกลงไป ถึงด้านล่างของกับดัก จะจมน้ำตาย และจะถูกย่อยด้วยน้ำย่อยสารอาหาร ที่ได้จะถูกลำเลียงไปใช้ประโยชน์ ส่วนกากที่ไม่สามารถย่อยได้ จะถูกทิ้งไว้ที่ก้น ของกับดัก หม้อข้าวหม้อแกงลิง แต่ละชนิดจะมีวิธีล่อเหยื่อให้มาติดกับดัก ด้วยวิธีต่างๆ กัน เช่น สร้างน้ำหวานจากต่อม ที่อยู่บริเวณถัดจาก ขอบของปากกับดักทางด้านใน หรืออาจจะผลิตกลิ่นของแมลงตัวเมีย เพื่อล่อแมลงตัวผู้ให้มาผสมพันธุ์ หรืออาจมีกับดักที่มีสีสันสะดุดตา พื้นที่ภาคใต้ นิยมนำยอดอ่อนมาลวก เป็นผักจิ้มน้ำพริก หม้อข้าวหม้อแกงลิง หรือใส่ในแกงคั่วหอยขม ใช้หม้อข้าวหม้อแกงลิง ใส่ข้าวเหนียว ไม่ต่างจากการทำข้าวต้มมัด มีข้าวเหนียวกับกะทิเป็นหลัก แล้วนึ่งนำมารับประทาน ให้รสชาติหวานและกลิ่นหอม แถมรูปทรงที่น่าดู
ขอบคุณข้อมูลนี้จาก fb. Siriwanna Jill
ขอบคุณเจ้าของภาพสามภาพล่างนี้ด้วยค่ะ |
tangkay
 ฝากข้อความหลังไมค์ Rss Feed  Smember ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [?] (‿✿) พออายุเลยเลขหกฉันยกเครื่อง มอบทุกเรื่องที่เคยรู้คู่ความเห็น มอบประสบการณ์ผ่านพบจบประเด็น ไม่ยากเย็นเรื่องความรู้ตามดูกัน ฉันคนเก่าเล่าความหลังยังจำได้ แต่ด้วยวัยที่เหลือน้อยค่อยสร้างสรร ยอมรับเรื่องเนตโซเชียลเรียนไม่ทัน อย่าโกรธฉันแค่สูงวัยแต่ใจจริง ด้วยอายุมากมายอยากได้เพื่อน หลากหลายเกลื่อนทุกวัยทั้งชายหญิง คุยทุกเรื่องแลกเปลี่ยนรู้คู่ความจริง หลากหลายสิ่งฉันไม่รู้ดูจากเธอ .... สิบปีผ่านไป....... อายุเข้าเลขเจ็ดไม่เผ็ดจี๊ด เคยเปรี้ยวปรี๊ดก็ต้องถอยคอยเติมหวาน ด้วยเคยเกริ่นบอกเล่ามาเนิ่นนาน ก็ยังพาลหมดแรงล้าพากายตรม ด้วยชีวิตผ่านมาพาเป็นสุข ยังสนุกกับการให้ใจสุขสม อยากบอกเล่ากล่าวอ้างบางอารมณ์ แม้คนชมจะร้องว้า....ไม่ว่ากัน ปัจจุบันเขียนน้อยค่อยเหินห่าง ระบบร่างเปลี่ยนแปลงเหมือนแกล้งฉัน เราคนแก่ตามแก้ไม่ค่อยทัน ยักแย่ยันค่อยศึกษาหาข้อมูล แต่ด้วยคิดถึงแฟนคลับกระชับมิตร จึงต้องคิดตามต่อไปไม่ให้สูญ ส่งความรู้คู่ธรรมะทวีคูณ เพื่อเพิ่มพูนให้รู้กันฉันสุขใจ Link |
