Group Blog
All Blog
### ดอกหิรัญญิการ์ ###














ดอกหิรัญญิการ์

 .......

ไม้เถาใหญ่เนื้อแข็งทุกส่วนของลำต้นหรือเถา

จะมียางสีขาวคล้ายน้ำนม  ส่วนยอดหรือส่วนอื่น

ที่ยังอ่อนอยู่จะมีขนสีน้ำตาลอมแดง ขึ้นปกคลุม

หิรัญญิการ์มักเลื้อยเกาะพันต้นไม้อื่น

และสามารถ เลื้อยไปได้ไกลประมาณ 15 เมตร

 แตกกิ่งก้านสาขา แผ่เป็นพุ่มแน่นเฉพาะส่วนยอด

 หรือบริเวณที่ได้รับแสงแดดอย่างเต็มที่

หิรัญญิการ์ ไม้ดอกหอม ดอกมีขนาดใหญ่ สีขาว

ดอกมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ

ออกดอกเป็นช่อ ตามซอกใบและปลายกิ่งลักษณะคล้ายถ้วย

 ตอนปลายของดอก จะบานกว้างมี 5 กลีบ

มีเกสรตัวผู้ติดอยู่กับเนื้อบริเวณ โคนกลีบ

มีลักษณะเป็นเส้นยาว แยกออกจากกัน

 คือจะมีเกสรติดอยู่ กลีบละ 1 อัน

 หนึ่งดอกมีเกสร ตัวผู้อยู่ 5 อัน

ส่วนเกสรตัวเมีย จะมีลักษณะเป็นแท่งขนาดเล็ก

 ซ่อนอยู่ข้างในดอก ดอกเมื่อบานเต็มที่

จะมีความกว้างประมาณ 8 เซนติเมตร

 และยาวประมาณ 13 เซนติเมตร

ช่อดอกหนึ่ง จะมีดอกตั้งแต่ 6-15 ดอก

 ดอกจะผลัดกันบาน ครั้งละประมาณ 4 ดอก

 จะออกดอกระหว่างเดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์


ใบหิรัญญิการ์เป็นไม้ใบเดี่ยว ออกใบเป็นคู่ตรงข้ามกัน

ตามข้อต้นลักษณะใบหยาบยาวหนา รูปใบมน

 ปลายใบแหลมเป็นติ่ง ขอบใบเรียบ เกลี้ยง ไม่มีจัก

ใบมีความยาวประมาณ 20 เซนติเมตร

 และกว้างประมาณ 4-6 เซนติเมตร ใบด้านบนเป็นมัน

ชื่อสามัญ Easter Lily Vine, Herald's Trumpet

 ชื่ออื่น เถาตุ้มยำช้าง (ภาคเหนือ)

ชอบขึ้นอยู่ตามชายป่าดิบ

หรือป่าเบญจพรรณใกล้ลำธาร

ทางภาคเหนือ ภาคตะวันออก ภาคอิสาน

และภาคตะวันตกเฉียงใต้

มีผลใหญ่เหมือนลูกฟัก ด้านในมีเมล็ดเหมือนชวนชม

ขยายพันธุ์โดยใช้เมล็ดหรือตอนกิ่ง























ขอบคุณที่มา fb. Siriwanna Jill
ขอบคุณเจ้าของภาพทุกภาพ




Create Date : 10 เมษายน 2558
Last Update : 10 เมษายน 2558 11:53:01 น.
Counter : 2491 Pageviews.

0 comment
### ดอกราตรีสีม่วง ###













ดอกราตรีสีม่วง

......

ลักษณะดอกคล้ายราตรีทั่วไป แต่ดอกมีสีม่วง

ชื่อสามัญ Lady of the night, Night jessamine,

 Night blooming jasmine, Queen of the night

เป็นไม้พุ่มกึ่งเลื้อย ขนาดเล็ก สูงประมาณ 6 เมตร

 ให้ดอกตลอดทั้งปี เปลือกต้นสีเทา แตกกิ่งก้านจำนวนมาก

ใบเดี่ยวรูปไข่แกมรี ขอบใบเป็นคลื่น ปลายแหลม

 สีเขียวเข้ม ดอกเป็นช่อที่ปลายยอด สีม่วงอ่อน

มีดอกย่อยจำนวนมาก กลีบดอก 5 กลับ

โคนดอกเชื่อมติดกันเป็นหลอดยาว

 มีกลิ่นหอมทั้งวัน ผลกลมสีดำ มีเมล็ด
















ขอบคุณที่มา fb. Siriwanna Jill
ขอบคุณเจ้าของภาพทุกภาพค่ะ




Create Date : 09 เมษายน 2558
Last Update : 9 เมษายน 2558 19:32:40 น.
Counter : 3240 Pageviews.

0 comment
### ดอกราชาวดีหลวง ###














ดอกราชาวดีหลวง

..............

มีเขตการกระจายพันธุ์กว้าง พบตั้งแต่อินเดีย ภูฎาน

 บังคลาเทศ พม่า จีนตอนใต้ เวียดนาม

และภาคเหนือของไทย ที่จังหวัดเชียงใหม่

บริเวณดอยเชียงดาว และดอยผ้าห่มปก

ขึ้นตามที่โล่งบนเขาหินปูน ระดับความสูง 1600-2200 เมตร

 ช่อสีชมพูยาว กลิ่นหอมแรง กลิ่นเดียวกับราชาวดี

ลักษณะ ไม้พุ่มหรือไม้ต้นขนาดเล็ก สูงได้ประมาณ 5 ม.

 กิ่งเป็นสี่เหลี่ยมหรือเป็นปีก มีขนกระจุกตามกิ่งอ่อน

แผ่นใบ กลีบเลี้ยงและหลอดกลีบดอกด้านนอก

หลอดกลีบดอก รังไข่ และผล หูใบคล้ายใบ

 ใบเรียงตรงข้าม รูปขอบขนานหรือรูปใบหอก ยาว 4-45 ซม.

 ปลายใบแหลมยาว โคนใบรูปลิ่มหรือเรียวสอบจรดลำต้น

ขอบใบจักมน เส้นแขนงใบข้างละ 15-25 เส้น

ไร้ก้านหรือเกือบไร้ก้าน ช่อดอกแบบช่อเชิงลด

 ออกที่ปลายกิ่ง ยาว 5-20 ซม. เรียงหนาแน่น

เป็นกระจุก 1-3 ดอก กลีบเลี้ยงรูประฆัง ยาว 3-6 มม.

 กลีบรูปสามเหลี่ยม ยาวประมาณ 2 มม.

กลีบดอกสีชมพูอมม่วง เชื่อมติดกันเป็นหลอด

ปากหลอดกลีบสีส้ม หลอดกลีบรูปทรงกระบอกแคบ ๆ

 ยาว 0.8-1 ซม. มีขนยาวด้านใน กลีบเกือบกลม ยาว 2-4 มม.

 เกสรเพศผู้ติดใต้ปากหลอดกลีบดอก ก้านชูอับเรณูสั้นมาก

 อับเรณูยาวประมาณ 2 มม. รังไข่รูปรี ยาว 2-4 มม.

มีขนกระจุกสั้นนุ่ม ก้านเกสรเพศเมียยาว 0.5-3 มม.

 ยอดเกสรรูปคล้ายกระบอง ผลแห้งแตก รูปรี ยาว 0.7-1 ซม.

เมล็ดสีน้ำตาลอ่อน ยาวประมาณ 3 มม. มีปีกที่ปลายทั้งสองข้าง















ขอบคุณที่มา fb. Siriwanna Jill
ขอบคุณเจ้าของภาพทุกภาพค่ะ




Create Date : 05 เมษายน 2558
Last Update : 5 เมษายน 2558 18:01:00 น.
Counter : 2402 Pageviews.

2 comment
### ดอกเอื้องแซะ ###













ดอกเอื้องแซะ

.......

กล้วยไม้แห่งความรัก ความศรัทธา

เป็นกล้วยไม้ที่หายากชนิดหนึ่ง

แต่ทว่าความงดงามของดอก และกลิ่นหอมนั้นคล้ายดั่งดอกพิกุล

 ที่ยากนักที่จะลืมได้ลง หอมหวลติดตรึงหัวใจไปแสนนาน

 เป็นกลิ่นหอมที่ทำให้รู้สึกเย็นสบาย สดชื่น และเยือกเย็น

 กลิ่นหอมแบบลึกลับชวนให้ใหลหลง

เอื้องแซะ หรือเอื้องซะหอม เป็นกล้วยไม้พื้นเมือง

 ที่สำคัญของภาคเหนือ ดอกสีขาว ขนาด 2 – 3 เซนติเมตร

มีกลิ่นหอม กลีบหนาเป็นมัน บานได้นาน

ออกดอกตามข้อ 1 – 3 ดอกต่อช่อ ปากมี 3 แฉก

กลีบปากสีเหลือง สีเหลืองอมเขียว หรือสีเหลืองอมแสด

มักเกาะอยู่ตามต้นไม้ใหญ่ บนภูเขาสูง อากาศหนาวเย็น ชื้น

มีเมฆหมอกปกคลุมตลอดปี ดอกบานสะพรั่ง ส่งกลิ่นหอมอ่อน ๆ

ท่ามกลางความหนาวเย็น ของหมอกหนา

ในช่วงเดือนพฤศจิกายน – กุมภาพันธ์

ประเทศไทย พบมากในพื้นที่ป่าดิบแล้ง

และป่าสนของจังหวัดแม่ฮ่องสอน และเชียงใหม่

ที่ความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,000 เมตรขึ้นไป

ปัจจุบัน ปัญหาการลักลอบเก็บต้น ออกจากป่า

เพื่อจำหน่ายคราวละมาก ๆ ส่งผลให้

จำนวนเอื้องแซะหอม ในป่าลดปริมาณลง อย่างต่อเนื่องทุกปี

ตามตำนานของชาวเหนือ ที่เกี่ยวข้องกับดอกเอื้องแซะนั้น

 ได้ถูกเล่าขาน สืบทอดต่อกันมา เป็นเรื่องของความรัก ร

ะหว่างหนุ่มสาวคู่หนึ่ง ชายหนุ่มได้บอกกับหญิงสาวคนรักว่า

จะไปหาเงินทองมาสู่ขอเธอแต่งงาน

 แต่เมื่อเวลาผ่านไป หนุ่มคนรักก็ไม่กลับมา

แม้แต่ข่าวคราวหญิงสาว ก็ไม่ได้รับรู้

ไม่แม้แต่สักนิด ที่หญิงสาวจะคิดคลางแคลงใจ

ว่าคนรักจะลืมเลือน หรือแปรเปลี่ยนใจ ให้คนอื่นเสียแล้ว

หรือแม้แต่ว่าล้มหายตายจากไป

หญิงสาวยังคงรอ ด้วยใจที่เปี่ยมไปด้วยความหวัง

ทุกคืนก่อนนอน จะไหว้พระอธิษฐาน ขอให้คนรักกลับคืน

 จนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต เมื่อสิ้นใจด้วยจิตที่ยังผูกพัน

 วิญญาณจึงลอยไปหุ้มห่ม เป็นขนสีดำ

เหมือนความโศกเศร้า ในจิตใจ กับต้นดอกเอื้องแซะ

ยามดอกเอื้องแซะบาน จะส่งกลิ่นหอมแรงมาก

กลิ่นหอมจะฟุ้งขจรขจายไปตามสายลม

โศกนาฏกรรมความรัก ตำนานนี้ได้ มีการนำมาแต่ง

เป็นเพลงเอื้องแซะ ซึ่งแต่งเป็นเพลง

ขับร้องโดยคุณสุนทรี เวชานนท์


ดอกเอื้องแซะ จึงได้เป็นตัวแทนแห่งความรัก ที่มั่นคง

ดั่งความเชื่อที่ว่าหากชายใด ได้เอาดอกเอื้องแซะ

แซมผม ให้หญิงคนรักแล้วนั้น เป็นสิ่งที่ทำให้คนรักรับรู้ว่า

 ชายผู้นั้นมีความรักต่อเธอจริง

ยกย่องเธอเสมอเหมือน ที่เอื้องแซะเป็นของสูง

ก็ต้องคู่ควรกับหญิงสาวที่ตนรัก

นอกจากความเชื่อในเรื่องความรักแล้ว

การแซมดอกเอื้องแซะ ที่มวยผม

ยังเป็นการบูชาขวัญ ที่สถิตอยู่บนกระหม่อม

ด้วยดอกไม้ที่มีกลิ่นหอม เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตัวเอง

 และเป็นการประดับตกแต่งเกล้ามวยผม

เพื่อความสวยงามและ มีกลิ่นหอมด้วย


















ขอบคุณข้อมูลจาก fb. Siriwanna Jill
ขอบคุณเจ้าของภาพทุกภาพค่ะ




Create Date : 04 เมษายน 2558
Last Update : 4 เมษายน 2558 10:27:55 น.
Counter : 2915 Pageviews.

0 comment
### จำปีสิรินทร ###
















จำปีสิรินธร

 .....

พรรณไม้สกุลมหิดล เป็นพรรณไม้ชนิดใหม่ของโลก

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

 โปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญพระนามาภิไธย

เป็นชื่อพรรณไม้ชนิดใหม่นี้ว่า “จำปีสิรินธร”

 และคำระบุชื่อชนิดว่า ‘sirindhorniae’

สำรวจพบครั้งแรกโดย ดร.ปิยะ เฉลิมกลิ่น

 ที่บริเวณป่าพรุน้ำจืด ตำบลซับจำปา

 อำเภอท่าหลวง จังหวัดลพบุรี

จำปีสิรินธร หรือที่ชาวจังหวัดลพบุรีเรียกว่า “จำปา จำปีสัก”

 เป็นพรรณไม้ที่จัดอยู่ในวงศ์จำปา MAGNOLIACEAE

มีชื่อวิทยาศาสตร์ คือ

 Magnolia sirindhorniae Noot. & Chalermglin


จำปีสิรินธรเป็นพืชถิ่นเดียวและพืชหายากของไทย

พบขึ้นในป่าพรุน้ำจืด และมีน้ำไหลผ่านตลอดเวลา

 ทางภาคกลาง ที่ระดับความสูง ๕๐ – ๒๐๐ เมตร

 ออกดอกเดือนมิถุนายนถึงเดือนกรกฎาคม

 ดอกบานวันเดียวแล้วโรย ดอกเริ่มแย้มและส่งกลิ่นหอม

ตั้งแต่ช่วงใกล้พลบค่ำ มีกลิ่นหอมแรงตลอดวัน

 ในวันต่อมากลีบดอกจะกางบานและร่วง

ผลแก่เดือนตุลาคมถึงเดือนพฤศจิกายน

ปลูกเป็นไม้ดอก ให้ร่มเงาได้ดี

ลักษณะเด่นของ จำปีสิรินธร คือ

เป็นพืชเฉพาะถิ่น Endemic to Thailand

คือมีขึ้นอยู่เฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น

 และมีขึ้นอยู่เฉพาะพื้นที่ชุ่มน้ำ หรือในป่าพุน้ำจืด

ที่มี น้ำพุไหลผ่านตลอดเวลา เท่านั้น

 แตกต่างจากจำปีทั่วไป ที่ต้นไม่สูงและไม่ชอบน้ำ

และจะออกดอกเดี่ยวอยู่ที่ซอก ใบใกล้ปลายยอด

 โดยดอกจะตูมเป็นรูปกระสวย

กาบหุ้มดอกมี ๑ แผ่น สีเขียวอ่อน และมีขนอ่อนๆ คลุมอยู่

กาบของดอกจะฉีกออก และหลุดไปเมื่อกลีบดอกเริ่มแย้มบาน

 ส่วนก้านดอกมีความยาว ๑.๘ เซนติเมตร

จำปีสิรินทร เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่

สูง ๒๐ – ๒๕ เมตร เปลือกสีน้ำตาล แตกเป็นร่องตามยาว

 มีกลิ่นฉุนเฉพาะตัว ใบ เดี่ยว รูปขอบขนานออกเรียงเวียนรอบกิ่ง

 ดอก เดี่ยว ออกที่ซอกใบใกล้ปลายยอด กลีบดอกสีขาวนวล

 เมื่อใกล้โรย เปลี่ยนเป็นสีเหลืองเล็กน้อย

ผล กลุ่ม เมื่อแก่สีน้ำตาลแตกตามยาว เมล็ด รูปทรงรี สีแดงเข้ม

ขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ดหรือทาบกิ่งโดยใช้จำปาเป็นต้นตอ








ขอบคุณที่มา fb. Siriwanna Jill
ขอบคุณเจ้าของภาพทุกภาพค่ะ




Create Date : 02 เมษายน 2558
Last Update : 4 เมษายน 2558 10:19:35 น.
Counter : 2057 Pageviews.

0 comment
1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  

tangkay
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [?]



(•‿•✿) พออายุเลยเลขหกฉันยกเครื่อง
มอบทุกเรื่องที่เคยรู้คู่ความเห็น
มอบประสบการณ์ผ่านพบจบประเด็น
ไม่ยากเย็นเรื่องความรู้ตามดูกัน
ฉันคนเก่าเล่าความหลังยังจำได้
แต่ด้วยวัยที่เหลือน้อยค่อยสร้างสรร
ยอมรับเรื่องเนตโซเชียลเรียนไม่ทัน
อย่าโกรธฉันแค่สูงวัยแต่ใจจริง
ด้วยอายุมากมายอยากได้เพื่อน
หลากหลายเกลื่อนทุกวัยทั้งชายหญิง
คุยทุกเรื่องแลกเปลี่ยนรู้คู่ความจริง
หลากหลายสิ่งฉันไม่รู้ดูจากเธอ ....
สิบปีผ่านไป.......
อายุเข้าเลขเจ็ดไม่เผ็ดจี๊ด
เคยเปรี้ยวปรี๊ดก็ต้องถอยคอยเติมหวาน
ด้วยเคยเกริ่นบอกเล่ามาเนิ่นนาน
ก็ยังพาลหมดแรงล้าพากายตรม
ด้วยชีวิตผ่านมาพาเป็นสุข
ยังสนุกกับการให้ใจสุขสม
อยากบอกเล่ากล่าวอ้างบางอารมณ์
แม้คนชมจะร้องว้า....ไม่ว่ากัน
ปัจจุบันเขียนน้อยค่อยเหินห่าง
ระบบร่างเปลี่ยนแปลงเหมือนแกล้งฉัน
เราคนแก่ตามแก้ไม่ค่อยทัน
ยักแย่ยันค่อยศึกษาหาข้อมูล
แต่ด้วยคิดถึงแฟนคลับกระชับมิตร
จึงต้องคิดตามต่อไปไม่ให้สูญ
ส่งความรู้คู่ธรรมะทวีคูณ
เพื่อเพิ่มพูนให้รู้กันฉันสุขใจ