Group Blog
All Blog
### ดอกสุพรรณิการ์ ###

10394056_602268403240732_7957414749557531718_n

ดอกสุพรรณิการ์

 ทางภาคเหนือเรียกว่า “ฝ้ายคำ”

จะออกดอกสีเหลือง บานสะพรั่งเต็มลาน

ตั้งแต่เดือนธันวาคม จนถึงเดือนกุมภาพันธ์

มีทั้งดอกที่บานอยู่บนต้น

และดอกที่ร่วงหล่นตามพื้นดิน

จนเหลืองไปหมด

มีความสวยงามสร้างความประทับใจ

ให้กับนักท่องเที่ยว

10885533_602268196574086_4024173387702322257_n

ความเชื่อปลูกต้นสุพรรณิการ์ไว้ประจำบ้าน

จะทำให้มีความศักดิ์สิทธิ์

เพราะต้นสุพรรณิการ์โบราณเรียกว่า

ต้นปาริชาติ คือ ดอกไม้ศักดิ์สิทธิ์

ที่ปลูกไว้ตามวิหาร

ของพระเจ้าในสมัยพุทธกาล

นอกจากนี้ยังมีความเชื่ออีกว่า

เป็นต้นไม้ที่มีค่าสูง เปรียบเสมือนทองคำ

เพราะต้นสุพรรณิการ์ บางคนเรียกว่า

ต้นฝ้ายคำ ซึ่งดอกมีสีเหลืองทองคำ

ชูช่อสู่ฟ้า ดุจอันเบิกบานตระการตา

คนทั่วไปจึงยกย่องสรรเสริญว่า

เป็นดอกไม้คู่ฟ้า ไม้มงคลนาม

ควรปลูกไว้ทางทิศใต้

ผู้ปลูกควรปลูกในวันพุธ

ถ้าจะให้เป็นมงคลยิ่งขึ้น ผู้ปลูกในปีระกา

เพราะเป็นต้นไม้ประจำปีระกา

ถ้าผู้อาศัยในบ้านเกิดในปีระกาด้วยแล้ว

ก็จะเป็นสิริมงคลมากยิ่งขึ้น

สุพรรณิการ์ เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง

มีทั้งหมด 2 ชนิด 3 สายพันธุ์ ได้แก่

1.สายพันธุ์ที่มีถิ่นกำเนิด ในแถบอเมริกากลาง

และทวีปอเมริกาใต้ ชื่อสามัญที่นิยมใช้คือ

butter-cup tree

หรือ yellow-cotton tree

มี 2 พันธุ์ คือ

- พันธุ์กลีบดอกซ้อน หรือสุพรรณิการ์ซ้อน

(double butter-cup)

เป็นสายพันธุ์ที่พบมากที่สุด และกระจายอยู่ทั่ว

ทั้งมหาวิทยาลัยรามคำแหง หัวหมาก

มีลักษณะเด่นคือใบหยักเป็นแฉกลึก 75-80%

ดอกเป็นช่อแบบช่อแยกแขนงแน่น

ดอกย่อยบานพร้อมกัน เป็นดอกไม่สมบูรณ์

คือมีเฉพาะเกสรเพศผู้ กลีบเลี้ยง 5 กลีบ

ร่วงยาก กลีบดอกสีเหลืองจำนวนมาก

มีหลายชั้นและร่วงยาก

เกสรเพศผู้สีเหลือง จำนวนมาก

มีทั้งอยู่วงในสุดและแทรกอยู่ในชั้นของกลีบดอก

ขณะออกดอกใบมักจะร่วงหมดทั้งต้น

เป็นพันธุ์ที่ไม่มีผล การขยายพันธุ์โดยการปักชำ

- พันธุ์กลีบดอกชั้นเดียว หรือสุพรรณิการ์ดอกลา

(single butter-cup)

มีลักษณะเด่นคือใบเป็นแฉกลึก 50-60%

ดอกย่อยเป็นดอกสมบูรณ์ มีกลีบเลี้ยง 5 กลีบ

ร่วงยาก กลีบดอก 5 กลีบ สีเหลืองสด ร่วงง่าย

เกสรเพศผู้จำนวนมาก รังไข่อยู่เหนือวงกลีบ

ผลทรงกลมแบบ capsule ทรงกลม

เมล็ดรูปไตหรือรูปก้นหอย หุ้มด้วยปุยสีขาว

มีทั้งหมดจำนวน 4 ต้นเท่านั้น

2. สายพันธุ์จากทวีปอินเดีย ชื่อสามัญคือ

silk-cotton tree 

หรือ Cotton  tree

ลักษณะเด่นคือใบเป็นแฉกลึก 30-35%

แผ่นใบหนา กิ่ง ก้านใบ

และผิวใบด้านล่างมีขนหนานุ่ม

ดอกเป็นช่อแบบช่อกระจะ

เป็นดอกสมบูรณ์ กลีบเลี้ยง 5 กลีบ ร่วงยาก

กลีบดอก 5 กลีบสีเหลืองสด ร่วงง่าย

เกสรเพศผู้จำนวนมาก รังไข่อยู่เหนือวงกลีบ

ผลแบบแคบซูลรูปไข่

เมล็ดรูปไตหรือรูปก้นหอย

หุ้มด้วยปุยสีขาว มีทั้งหมดจำนวน 4

เหมือนกับพันธุ์กลีบดอกชั้นเดียว

สุพรรณิการ์ นอกจากเป็นไม้ประดับแล้ว

ยางจากต้นให้ผลิตผลเป็น Karaya gum

หรือทางการค้าเรียกว่า Crystalgum

เป็นก้อนผลึกสีเหลืองอ่อน

หรือน้ำตาลอมชมพูใช้เป็นยาระบาย

ใช้เป็นส่วนผสมในน้ำยาเซทผม

เป็นยาทาบำรุงผิว

ใช้ในอุตสาหกรรมทอผ้าและการพิมพ์

อุตสาหกรรม อาหารกระป๋อง

ผสมไอศกรีมทำให้ข้น

เนื้อไม้ต้มกับแป้งเป็นอาหาร

ใบอ่อนใช้สระผม

ดอกแห้งและใบแห้งใช้เป็นยาบำรุงกำลัง

ขอบคุณที่มา  fb  Anna Jill

ขอบคุณเจ้าของภาพทุกภาพ

คัดลอกมาจาก....ตังเก ศรีราชา




Create Date : 02 มกราคม 2558
Last Update : 2 มกราคม 2558 9:59:46 น.
Counter : 3357 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

tangkay
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [?]



(•‿•✿) พออายุเลยเลขหกฉันยกเครื่อง
มอบทุกเรื่องที่เคยรู้คู่ความเห็น
มอบประสบการณ์ผ่านพบจบประเด็น
ไม่ยากเย็นเรื่องความรู้ตามดูกัน
ฉันคนเก่าเล่าความหลังยังจำได้
แต่ด้วยวัยที่เหลือน้อยค่อยสร้างสรร
ยอมรับเรื่องเนตโซเชียลเรียนไม่ทัน
อย่าโกรธฉันแค่สูงวัยแต่ใจจริง
ด้วยอายุมากมายอยากได้เพื่อน
หลากหลายเกลื่อนทุกวัยทั้งชายหญิง
คุยทุกเรื่องแลกเปลี่ยนรู้คู่ความจริง
หลากหลายสิ่งฉันไม่รู้ดูจากเธอ ....
สิบปีผ่านไป.......
อายุเข้าเลขเจ็ดไม่เผ็ดจี๊ด
เคยเปรี้ยวปรี๊ดก็ต้องถอยคอยเติมหวาน
ด้วยเคยเกริ่นบอกเล่ามาเนิ่นนาน
ก็ยังพาลหมดแรงล้าพากายตรม
ด้วยชีวิตผ่านมาพาเป็นสุข
ยังสนุกกับการให้ใจสุขสม
อยากบอกเล่ากล่าวอ้างบางอารมณ์
แม้คนชมจะร้องว้า....ไม่ว่ากัน
ปัจจุบันเขียนน้อยค่อยเหินห่าง
ระบบร่างเปลี่ยนแปลงเหมือนแกล้งฉัน
เราคนแก่ตามแก้ไม่ค่อยทัน
ยักแย่ยันค่อยศึกษาหาข้อมูล
แต่ด้วยคิดถึงแฟนคลับกระชับมิตร
จึงต้องคิดตามต่อไปไม่ให้สูญ
ส่งความรู้คู่ธรรมะทวีคูณ
เพื่อเพิ่มพูนให้รู้กันฉันสุขใจ