Group Blog
All Blog
### ดอกพวงแก้วกุดั่น ###



















ดอกพวงแก้วกุดั่น

 ....................

ไม้ดอกหอมสีขาว ไม้เลื้อยขนาดเล็ก

 เจริญได้ไกล 1-3 เมตร ใช้ก้านใบเกาะพัน พยุงเถายอด

 ข้อใบมีสีม่วง ใบคล้ายใบพลู แต่หนา สีเขียวเข้ม

ช่อดอกออกตามซอกใบ ยาว 10-15 เซนติเมตร

มีดอกย่อย 2-7 ดอก ดอกตูมมีกลีบเลี้ยง สีน้ำตาลห่อหุ้ม

 เมื่อบานมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 2-2.5 เซนติเมตร

มีเกสรเพศผู้สีขาวจำนวนมาก

ผลแก่แห้งและปลิวไปตามลม

ฤดูดอกบาน : มกราคม - มีนาคม

ดอกบานอยู่ได้หลายวัน ส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ ตลอดวัน

และหอมแรงในช่วงค่ำ

ชื่ออื่น จางน้อย ครือจางหลวง จางน้อย กลิ่นหอมนาน

 ที่มีถิ่นกำเนิดในอินเดีย หรือตามแนวริมน้ำ ป่าละเมาะ

 ทางตอนเหนือของไทย นักเล่นต้นไม้นิยมปลูก

 เป็นไม้ประดับ- ไม้กระถาง



















 
























ขอบคุณข้อมูลจาก  fb. Siriwanna Jill

ขอบคุณเจ้าของภาพทุกภาพ




Create Date : 26 เมษายน 2558
Last Update : 18 กันยายน 2558 10:00:24 น.
Counter : 2642 Pageviews.

0 comment
### ดอกสร้อยสายเพชร ###




















ดอกสร้อยสายเพชร

...............

บางท้องถิ่นก็จะเรียก ระย้าแก้ว พวงระย้า ตุ้มหูพระอินทร์

และอีกหลายชื่อ แต่ที่มีคนเรียกกันมากที่สุด

 คือ สร้อยสายเพชร และ ระย้าแก้ว

ชื่อสามัญ Nodding Clerodendron

ถิ่นกำเนิด อินเดียและ เนปาล

 สร้อยสายเพชร เป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก

ความสูงเต็มที่ 2-4 เมตร กิ่งก้านจะโค้งลงหาโคนต้น

รูปทรงต้นจะคล้ายกับน้ำพุ

ช่อดอกงามที่ห้อยย้อยลงมาจากปลายกิ่ง

เหมือนแชนเดอร์เลียร์ดอกไม้

สร้อยสายเพชร เป็นต้นไม้ที่ชอบแดดเช้า หรือแดดรำไร

เนื่องจากเป็นต้นไม้ที่ขึ้นตามป่า ตามเขาบนที่สูง

ก่อนจะลงมือปลูก ให้เลือกทำเล ให้กับต้นไม้

 เพราะธรรมชาติของสร้อยสายเพชร

กิ่งก้านจะค่อนข้างเปราะ หักง่าย

จะไม่เหมาะกับบริเวณ ที่มีลมพัดแรง

หรือเป็นจุดที่คนต้องเดินไปมา เบียดกับต้นไม้


ดอกสีขาว เมื่อบานออกจะแยกเป็นกลีบสีขาว 5 กลีบ

 มีก้านเกสร ยื่นออกมาจากกลางดอกประมาณ 5 ก้าน

 ที่ปลายก้านเป็นปุ่มเกสร มีกลิ่นหอมอ่อนๆ

ออกดอกในช่วงประมาณธันวาคมไปจนถึงกุมภาพันธ์

หรือ ช่วงที่อากาศหนาวๆ ดอกบานได้อยู่ไม่นาน

แต่เรียกแมลง ผีเสื้อให้เข้ามาตอมได้

ใน 1 ช่อ จะแตกเป็นกลุ่มช่อย่อย อีกหลายช่อ

 แต่ละช่อย่อย จะมีดอกรวมกันนับสิบดอก

 ยิ่งดอกออกดกเท่าไหร่ ช่อดอกก็จะเป็นช่อใหญ่

มองแล้วคล้ายแชนเดอร์เลียร์กลางสวน

เคล็ดลับที่จะทำให้ต้นออกดอกดกขาวโพลนไปทั้งต้นได้

มีอยู่ว่า ช่วงก่อนถึงหน้าหนาว หมั่นบำรุงต้น

 ตัดแต่งกิ่ง ทรงพุ่มรอเอาไว้

พอถึงหน้าหนาว ก็ดอกจะออกดกเป็นพิเศษ

ใบของสร้อยสายเพชร สีเขียวเข้ม ใบยาว แคบ

ส่วนดอก จะออกเป็นช่อ โดยจะแตกช่อจากปลายกิ่ง

หรือยอดพุ่ม เป็นช่อยาวประมาณ 1 คืบ

แต่ถ้าต้นสมบูรณ์เต็มที่ ช่อดอกจะยาวได้มากกว่านี้

ตัวก้านช่อเป็นสีแดงเข้ม

 เช่นเดียวกับกลีบรองฐานดอกก็เป็นสีแดงปลายบานเป็นแฉก

 ถัดจากกลีบรองฐานก็จะเป็นดอกจริง

















ขอบคุณเจ้าของภาพทุกภาพค่ะ
ขอบคุณที่มา fb. Siriwanna Jill




Create Date : 25 เมษายน 2558
Last Update : 25 เมษายน 2558 9:42:12 น.
Counter : 5717 Pageviews.

0 comment
### ดอกมธุรดา หรือ รุ่งอรุณ ###





















ดอกมธุรดา หรือ รุ่งอรุณ

 ................

 พันธุ์ไม้เลื้อยพื้นเมือง ของประเทศจีนตอนใต้

 สามารถเลื้อยไปได้ไกลถึง 6 เมตร

มีรากพิเศษ ที่ออกเป็นกระจุกอยู่รอบข้อ

 ควรปลูกในบริเวณที่มีแสงแดดจัด

 เพราะจะช่วยทำให้ ดอกดกและออกดอก ได้ตลอดทั้งปี

ดอกเป็นช่อแยกแขนงสั้น โดยจะออกตามซอกใบ

 และที่ปลายยอด ดอกเป็นสีส้มอมสีแดง

 แต่ละช่อ มีดอกย่อยประมาณ 4-10 ดอก

แต่ละดอกมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง ประมาณ 4-5 เซนติเมตร

 กลีบเลี้ยงเชื่อมติดกัน เป็นรูประฆัง

มีความยาวประมาณ 3.2-3.5 เซนติเมตร

ส่วนกลีบดอกเชื่อมติดกัน เป็นหลอด

ส่วนปลายแผ่ออกเป็นกลีบ 5 กลีบ ขอบกลีบดอกหยักเล็กน้อย

แต่ละดอกมีเกสรตัวผู้ 4 อัน ส่วนรังไข่จะอยู่เหนือวงกลีบ

และมักไม่ค่อยติดผล


ใบเป็นใบประกอบ แบบขนนกปลายคี่

มีใบย่อยประมาณ 4-5 คู่ ออกเรียงตรงข้ามกัน

 ลักษณะของใบเป็นรูปไข่ ปลายใบแหลม โคนใบมน

ส่วนขอบใบเป็นหยักแบบฟันเลื่อย

ใบมีขนาดกว้างประมาณ 3-5 เซนติเมตร

และยาวประมาณ 4-7 เซนติเมตร

ชาวจีน นำมาใช้เป็นยาสมุนไพรสำหรับขับเสมหะ

ชื่อสามัญ Morning Calm หรือ Chinese trumpet creeper
























ขอบคุณที่มา fb. Siriwanna Jill
ขอบคุณเจ้าของภาพทุกภาพค่ะ




Create Date : 24 เมษายน 2558
Last Update : 24 เมษายน 2558 10:14:45 น.
Counter : 3597 Pageviews.

0 comment
### ดอกกุมาริกา ###















ดอกกุมาริกา

.....

ไม้เลื้อย ดอกหอม ที่มีลำต้นและเถาเหนียวแข็งแรง

ชอบเลื้อยพันต้นไม้ หรือพุ่มไม้ที่อยู่ข้างเคียง พุ่มใบดกแน่น

ใบรูปรีแกมรูปไข่กลับ ปลายแหลม ผิวใบเรียบเป็นมันสีเขียวเข้ม

 ดอกกุมาริกา มีกลีบบิดงุ้มเข้าหากัน มีดอกเล็กกระจิดริด

 แต่ออกดอกดกมาก มักออกเป็นช่อตามซอกใบ

เวลาบานสะพรั่ง จะเห็นเป็นสีขาว ปกคลุมไปทั้งต้น

 ราวกับละอองหิมะพร่างพรู ส่งกลิ่นขจรขจายไปไกล

เป็นกลิ่นคล้าย คัดเค้าและพุทธชาด

ถือเป็นไม้ดอกอีกชนิดที่เหมาะจะปลูก ให้เลื้อยตามซุ้มในสวน

ชื่อ กุมาริกา นี้ สมาคมไม้ประดับแห่งประเทศไทย

ได้ขึ้นทำเนียบไว้เมื่อปี 2520 ที่เรียกว่า กุมาริกา ก็คงเพราะ

เป็นไม้ที่มีถิ่นกำเนิด ในประเทศอินเดีย

คำว่า กุมาริกา นี้เป็นคำบาลีสันสกฤต

แปลว่า บุตรี ธิดาหรือเด็กหญิง

ชาวอินเดียนิยมนำไปตั้งชื่อลูกสาว

หากจะย้อนไปถึงสมัยพุทธกาล ก็จะพบว่า

มีสตรี ที่ถูกเรียกว่า กุมาริกา นั่นคืออยู่ในสถานะของบุตรสาว

 มีทั้งที่เกี่ยวข้องในทางได้สดับฟัง

พระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า

จนได้บรรลุคุณธรรมชั้นวิเศษ

 และที่เกี่ยวข้องกับอุบาสก ผู้มาฟังธรรมจากพระพุทธองค์

 ถ้าไปหาซื้อไม้ชนิดนี้ ตามตลาดต้นไม้

พวกพ่อค้าแม่ค้า จะรู้จักกันในชื่อ “ช่อมาลี”

ชื่ออื่น เครือเขามวก เครือซูด ส้มเย็น สร้อยสุมาลี

ชื่อสามัญ The Variegata Flower.


ต้นกุมาริกานี้มีสรรพคุณโดดเด่น เกี่ยวกับระบบสืบพันธุ์

ชาวอินโดนีเซียเรียกว่า Kayu Rapat

คำว่า kayu แปลว่า ไม้ และ rapat แปลว่า แน่นหรือกระชับ

ที่เรียกอย่างนี้เพราะสาวๆ เมืองอิเหนา

 นิยมใช้เป็นตัวยากระชับช่องคลอด หลังให้กำเนิดบุตร

ทุกส่วนของต้นสามารถนำมาใช้ได้ทั้งหมด

ไม่ว่าจะเป็นดอก ใบ แต่ส่วนที่ดีที่สุดคือเปลือกต้น

ซึ่งใช้ชงน้ำดื่มเหมือนชา ส่วนสาวมาเลเซีย

ชอบใช้ใบกุมาริกาเช่นเดียวกัน เรียกว่า Daun Serapat

 แปลว่าใบไม้ที่ให้ความกระชับ

สาวไทยจะเอาอย่างบ้าง จะช่วยประหยัดทั้งเงิน

และไม่ต้องเจ็บตัวไปขึ้นเขียง

ทำรีแพร์หรือผ่าตัดกระชับช่องคลอด

 สรรพคุณด้านอื่น ของกุมาริกา มีอีกมาก

 คนไทยเรารู้จักใช้เปลือกต้น ผสมในตัวยา

บรรเทาอาการไข้มาลาเรีย ยางใช้รักษาโรคบิด

 ส่วนต้นใช้ผสมในยาฆ่าเชื้อ สำหรับล้างแผล

ใบและดอกยังมีสรรพคุณขับระดูอีกด้วย

ดอก ออกเป็นช่อตามซอกใบและปลายกิ่ง

แต่ละช่อมีดอกย่อยขนาดเล็กจำนวนมาก

ดอกย่อยมีโคนเชื่อม ติดกันเป็นหลอด

ปลายดอกบานเป็น 5 แฉกสีขาวนวล

 เวลาลมพัดจะส่งกลิ่นหอมไกลทั้งวัน

 ออกดอกช่วงเดือนพฤศจิกายน- มกราคม

ใบ เป็นใบเดี่ยว ออกเรียงสลับเป็นคู่ตามเถา

รูปมนกึ่งรี กว้าง 4-6 ซม.ยาว 5-8 ซม.

โคนใบมน และปลายใบแหลม ขอบเรียบ ผิวเกลี้ยง

สีเขียวเข้มเป็นมัน ผล เป็นฝักยาวรี ย่าวราว 8-10 ซม.

ด้านในเมล็ดจำนวนมาก

กุมาริกาด่าง

....

ดอกหอมเหมือนกุมาริกาใบเขียว

สันนิฐานว่าน่าจะกลายพันธุ์ เป็นพันธุ์ไม้เลื้อยที่ออกดอกเร็ว

 ออกดอกให้ชมได้ภายใน 6 เดือนหลังปลูก

มีความสามารถในการเกาะยึดสิ่งที่อยู่ใกล้ๆ ได้ดี

เหมาะที่จะปลูกไว้ใช้กับซุ้ม ที่มีขนาดไม่ใหญ่นัก

เพราะน้ำหนักต้นไม้ชนิดนี้ไม่มาก เป็นพันธุ์ไม้เลื้อย

ที่ทนทานสภาพแวดล้อมดีมากชนิดหนึ่ง

































ขอบคุณที่มา fb. Siriwanna Jill
ขอบคุณเจ้าของภาพทุกภาพค่ะ




Create Date : 23 เมษายน 2558
Last Update : 23 เมษายน 2558 10:26:53 น.
Counter : 4658 Pageviews.

0 comment
### ดอกชบา ###














ดอกชบา

........

มีลักษณะเป็นไม้พุ่มขนาดกลาง ใบค่อนข้างมนรี

มีปลายแหลม ขอบของใบเป็นจักเล็กน้อย

และมีสีเขียวเข้มเมื่อขยี้ใบจะเป็นเมือกเหนียว

 ลักษณะดอกชบา มีทั้งกลีบชั้นเดียวและหลายชั้น

 หากเป็นชั้นเดียวปกติจะมีกลีบดอก 5 กลีบ

 มีก้านเกสรอยู่ตรงกลางดอกหนึ่งก้าน

 ลักษณะของกลีบดอกชบาจะมีขนาดใหญ่

 มีหลายสีไม่ว่าจะเป็น ขาว แดง แสด เหลือง

ม่วง ชมพู และสีอื่นๆ โดยดอกชบาแบ่งออกเป็น 3 ลักษณะ

คือ ดอกบานเป็นรูปถ้วย, ดอกบานเป็นรูปแผ่แบน,

 กลีบดอกบานแบบแผ่โค้ง และขยายพันธุ์ด้วยการปักชำ

 การติดตา และการเสียบยอด

ชบา มีชื่อท้องถิ่นอื่นๆ ว่า  ชุมเบา (ปัตตานี),

ใหม่ ใหม่แดง (ภาคเหนือ), บา (ภาคใต้) เป็นต้น

 โดยต้นชบานั้นมีต้นกำเนิดในประเทศจีน

 อินเดีย และในหมู่เกาะฮาวาย



ดอกชบา ชื่อภาษาอังกฤษ Shoe Flower,

Hibiscus, Chinese rose

มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Hibiscus rosa sinensis.

จัดอยู่ในวงศ์ MALVACEAE เช่นเดียวกับกระเจี๊ยบแดง

 กระเจี๊ยบเขียว ครอบฟันสี ปอกะบิด พลับพลา โพทะเล

 หญ้าขัด หญ้าขัดใบยาว หญ้าขัดใบป้อม และหญ้าขัดหลวง









ประวัติดอกชบา

มีความเชื่อของคนโบราณในบ้านเรานั้น

ยังมีอคติกับดอกชบาอยู่

อาจเป็นเพราะเราได้รับดอกชบามาจากอินเดีย

จึงได้รับความเชื่อของคนอินเดียมาด้วย

เพราะในอินเดียนั้นดอกชบาจะนำมาใช้บูชาเจ้าแม่กาลี

และนำมาร้อยพวงมาลัยสวมคอนักโทษประหาร

และความหมายของดอกชบา

ในสมัยสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก

 จะใช้ดอกชบาไว้สำหรับลงโทษและประจานผู้หญิงร้าย

หรือผู้หญิงแพศยา ด้วยการนำดอกชบามาทัดหูทั้ง 2 ข้าง

 และร้อยดอกชบาแดงเป็นมาลัยใส่ศีรษะและใส่คอ

ด้วยเหตุนี้จึงทำให้คนโบราณไม่นิยมใช้

และมีอคติกับดอกชบานั่นเอง !

แต่ความสวยงามของดอกชบานั้น

ในต่างประเทศให้สมญานามดอกชบาว่า

เป็น ราชินีแห่งไม้ดอกเมืองร้อน

 (Queen of Tropic Flower)เลยทีเดียว

และยังจัดเป็นดอกไม้ประจำชาติของประเทศมาเลเซีย

 จาไมก้า รวมไปถึงรัฐฮาวายอีกด้วย

ซึ่งเป็นที่ได้รับความนิยมอย่างมากในการนำมาทัดหูหรือแซมผม





ขอบคุณที่มาของเรื่องราวดีๆ logo frynn


















...ชบา...
.....

ในคัมภีร์อายุรเวท ได้พูดถึงสรรพคุณของดอกชบาไว้ว่า

สามารถช่วยฟอกโลหิต บำรุงจิตใจให้แช่มชื่น บำรุงผิวพรรณ

 นอกจากนี้ยังช่วยบรรเทาโรคเกี่ยวกับไต

 ระบบสืบพันธุ์ของผู้หญิง เช่น เสียเลือดประจำเดือนมากเกินไป

 ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ รวมทั้งปัญหาระดูขาว

และไม่เพียงแต่ดอกชบาเท่านั้น ที่ใช้เป็นยาดีของอินเดีย

 ส่วนอื่นๆของชบา ก็ยังสามารถใช้เป็นยารักษาโรคได้

เช่น เปลือกต้น ใช้รักษาโรคผิวหนังที่เกิดจากเชื้อรา

 ใบ ใช้แก้แผลไฟไหม้น้ำร้อนลวก บำรุงเส้นผม

และประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ

** ตำรับยา **


1. ดับร้อนและแก้ไข้ ใช้ ดอกชบา 4 ดอก แช่ในน้ำต้มสุก 2 แก้ว

 แล้วดื่ม ต่างน้ำ จะช่วยดับร้อน แก้กระหายและแก้ไข้ได้ดี

2. ระดูขาว ให้นำดอกชบาสด 4 ดอก มาตำให้แหลก

 แล้วกินตอนท้องว่าง ในตอนเช้าติดต่อกัน 7 วัน

นำดอกชบามาตากแห้งในที่ร่ม

เมื่อแห้งสนิทดีแล้ว เอามาบดเป็นผง

กินครั้งละ 1 ช้อนชา ตอนเช้า ต่อเนื่อง 7 วัน

3. ประจำเดือนไม่มา ใช้ดอกชบา 3 ดอก บดให้แหลก

 แล้วผสมกับน้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ หรือผสมกับนม 1 แก้ว

 ดื่มตอนท้องว่างตอนเช้า จะช่วยปรับเรื่องประจำเดือนได้

4. ยาบำรุงประจำเดือน ให้นำเฉพาะกลีบดอกชบา

 ผสมกับน้ำตาลอ้อย หรือน้ำตาลปี๊บอย่างละเท่าๆกัน

ใส่ในโถแก้วที่มีฝาปิด จากนั้นนำโถแก้วไปตากแดด

ติดต่อกันประมาณ 21 วัน น้ำตาลจะละลายผสมกับดอกชบา

 พอครบกำหนด ให้นำมากินครั้งละ 2 ช้อนชา

 วันละ 2 ครั้ง นาน 2-3 สัปดาห์

5. รักษาโรคผิวหนังที่เกิดจากเชื้อรา ฮ่องกงฟุต

ใช้เปลือกต้นชบา 50 กรัม แช่ในแอลกอฮอล์ 150 ซีซี

นานหนึ่งวันแล้วกรองเอาแต่น้ำยาไว้ทาบริเวณที่เป็นฮ่องกงฟุต

6. รักษาแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวก ใช้ใบชบาหรือฐานดอก

มาตำให้แหลก แล้วเอามาพอกบริเวณที่ถูกไฟไหม้น้ำร้อนลวก

 น้ำเมือกจากใบจะช่วยรักษาแผลได้เป็นอย่างดี

7. บำรุงผม ใช้ชบาหนึ่งกำมือ ล้างให้สะอาด ตำให้แหลก

 เติมน้ำเล็กน้อย แล้วคั้นเอาแต่น้ำ กรองเอากากทิ้ง

แล้วใช้น้ำเมือกจากใบชบาสระผม ช่วยชำระล้างสิ่งสกปรก

 และบำรุงเส้นผมให้ดกดำเงางาม



ขอบคุณข้อมูลจากสมุนไพร อภัยภูเบศร์









































































Create Date : 22 เมษายน 2558
Last Update : 24 เมษายน 2558 10:39:02 น.
Counter : 2716 Pageviews.

0 comment
1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  

tangkay
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [?]



(•‿•✿) พออายุเลยเลขหกฉันยกเครื่อง
มอบทุกเรื่องที่เคยรู้คู่ความเห็น
มอบประสบการณ์ผ่านพบจบประเด็น
ไม่ยากเย็นเรื่องความรู้ตามดูกัน
ฉันคนเก่าเล่าความหลังยังจำได้
แต่ด้วยวัยที่เหลือน้อยค่อยสร้างสรร
ยอมรับเรื่องเนตโซเชียลเรียนไม่ทัน
อย่าโกรธฉันแค่สูงวัยแต่ใจจริง
ด้วยอายุมากมายอยากได้เพื่อน
หลากหลายเกลื่อนทุกวัยทั้งชายหญิง
คุยทุกเรื่องแลกเปลี่ยนรู้คู่ความจริง
หลากหลายสิ่งฉันไม่รู้ดูจากเธอ ....
สิบปีผ่านไป.......
อายุเข้าเลขเจ็ดไม่เผ็ดจี๊ด
เคยเปรี้ยวปรี๊ดก็ต้องถอยคอยเติมหวาน
ด้วยเคยเกริ่นบอกเล่ามาเนิ่นนาน
ก็ยังพาลหมดแรงล้าพากายตรม
ด้วยชีวิตผ่านมาพาเป็นสุข
ยังสนุกกับการให้ใจสุขสม
อยากบอกเล่ากล่าวอ้างบางอารมณ์
แม้คนชมจะร้องว้า....ไม่ว่ากัน
ปัจจุบันเขียนน้อยค่อยเหินห่าง
ระบบร่างเปลี่ยนแปลงเหมือนแกล้งฉัน
เราคนแก่ตามแก้ไม่ค่อยทัน
ยักแย่ยันค่อยศึกษาหาข้อมูล
แต่ด้วยคิดถึงแฟนคลับกระชับมิตร
จึงต้องคิดตามต่อไปไม่ให้สูญ
ส่งความรู้คู่ธรรมะทวีคูณ
เพื่อเพิ่มพูนให้รู้กันฉันสุขใจ