All Blog
ฉันรักเธอนะ ตอนที่ 15 จบบริบูรณ์



นับดาวหั่นผักอยู่ในห้องครัว เธอสะดุ้งเพราะทำมีดบาดนิ้ว เลือดออกนิดหน่อย วราพรรณที่กำลังตักข้าวใส่หม้อเตรียมจะหุง หันมามอง

“เจ็บไหมอ่ะ ไหนดูสิ”
“ไม่เป็นไร”
นับดาวเบี่ยงแขนไปปัดจานที่วางไว้หล่นไปแตกอีก วราพรรณตกใจ
“ว้าย”
นับดาวอึ้งๆ รจนากับองอาจตามเข้ามาดู
“ทำอะไรกัน เสียงลั่นเชียว”
“นับดาวน่ะสิ จิตใจมันไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเลย”
นับดาวตัดสินใจดึงผ้ากันเปื้อนออก
“ขอโทษนะ ฉันมีธุระ”
นับดาวเดินลิ่วจะไป องอาจยกมือขวาง
“จะไปไหน”
“ฉันรู้ว่ามันไร้สาระ แต่ถ้าฉันไม่เห็นเขาสบายดีกับตาฉันนอนไม่หลับแน่”
นับดาวเดินออกไปเลย วราพรรณ องอาจรีบตามไปด้วย
“นับดาว รอด้วย”

สังวรณ์เอาปืนจี้เป็นไทขึ้นมาที่ดาดฟ้าของคอนโด เขาถีบเป็นไทกระเด็นไป แล้วตบด้วยด้ามปืนอีกที เป็นไทล้มกลิ้งไปกับพื้น
“แกจัดคอนเสิร์ตยูกิได้ยังไง ฉันไม่เห็นว่าแกจะเหนือฉันตรงไหน”
“เพราะฉันจริงใจกับงานของฉัน ฉันไม่เคยใช้วิธีสกปรกทำร้ายใครอย่างแก”
สังวรณ์เตะปากเป็นไท คว่ำไปอีก
“ปากดีอีกสิ”
“คนขี้อิจฉาอย่างแก ไม่มีทางมีความสุข”
สังวรณ์จะเข้าไปต่อยอีก คราวนี้เป็นไทถีบเปรี้ยง สังวรณ์ล้มลงไป ปืนกระเด็นหลุดจากมือ เป็นไทจะวิ่งเข้าไปหยิบปืน แต่สังวรณ์พุ่งเข้าไปกระชากเขามาต่อย เป็นไทหลบ ต่อยกลับ ทังสองคนแลกหมัดกันนัวเนีย
นับดาว วราพรรณ องอาจวิ่งเข้ามาที่หน้าห้องเป็นไททุบประตูเรียก
“คุณเป็นไท ๆๆ”
องอาจร้อนใจ
“เจ้านายครับ เปิดประตูด้วย”
แต่ทุกอย่างก็เงียบ นับดาวกังวลใจหันไปถาม
“คุณเป็นไทกลับมาแล้วไมใช่เหรอ ทำไมเงียบเหมือนไม่มีคนอยู่”
“หรือว่าออกไปข้างนอกอีก” วราพรรณออกความเห็น
องอาจส่ายหน้า
“ไม่นะ รถยังจอดอยู่ข้างล่างเลย”
“แล้วเขาหายไปไหน”
นับดาวถามอย่างเป็นห่วง

สังวรณ์กับเป็นไทยังสู้กันอย่างพัวพัน เป็นไทโดนต่อยไปติดขอบระเบียง สังวรณ์ตามเข้ามาบีบคอ ศีรษะเป็นไท ยื่นออกไปข้างนอกอย่างหวาดเสียว
นับดาวกับวราพรรณ ตามหาเป็นไท องอาจวิ่งตามเข้ามาจากอีกทาง
“ผมไปเอากุญแจสำรองมาไขห้องแล้ว ไม่มีใครอยู่ในห้องเลย”
นับดาวครุ่นคิด
“แต่ยังไงเขาต้องอยู่ในคอนโดนี่แหละ แยกกันตามนะ”
ทั้งหมดพยักหน้าให้กัน แล้วแยกย้ายกันไปตามหา
สังวรณ์บีบคอเป็นไท กะเอาให้ตาย เป็นไทพยายามสู้ แต่อ่อนแรงลงจนเกือบหมดลม นับดาวเปิดประตูดาดฟ้าออกมาเห็นเข้าตะลึง ร้องเสียงหลง
“หยุดนะ”
นับดาววิ่งเข้าไปที่สังวรณ์ ทั้งทุบทั้งตี
“ปล่อยเขาเดี๋ยวนี้ ปล่อยๆ”
สังวรณ์เจ็บร้องขึ้น แล้วปล่อยมือออกจากเป็นไท หันไปตบนับดาวหน้าคว่ำลงไป
“อ๊อย”
สังวรณ์อึ้งนึกว่าเป็นยูกิ
“ยูกิ”
“ถ้าแกทำอะไรคุณเป็นไท ฉันฆ่าแกแน่”
สังวรณ์แค้น
“เธอไม่ควรพูดกับคนที่รักเธอแบบนี้”
“แกไม่ได้รักยูกิ แกมันเห็นแก่ตัว”
สังวรณ์ปริ๊ดสุดขีด หยิบปืนขึ้นมาถือ เล็งไปที่นับดาว
“ถ้าเห็นคนอื่นดีกว่าฉัน ก็ตายซะเถอะ”
เป็นไทตะลึงรีบวิ่งเข้าไป แย่งปืนกับสังวรณ์
“อย่า”
เป็นไทจับมือสังวรณ์ให้ ปืนลั่นเปรี้ยงไปบนฟ้า ไม่โดนใครแล้วขึ้นเข่าใส่ สังวรณ์จนจุกตัวงอ เป็นไทดึงปืนไปได้ สังวรณ์จุกเจ็บทรุดคุกเข่าลงไปตรงหน้า เป็นไทยกกระบอกปืนเล็งไปตรงหน้า สังวรณ์ร้องเสียงหลง กลัวตาย
“อย่ายิง ฉันยอมแล้ว”

ตำรวจกุมตัวสังวรณ์ที่ถูกจับใส่กุญแจเดินออกมาจากคอนโด นักข่าวเข้ามารุมถ่ายรูปวูบวาบ นักข่าวคนหนึ่งรายงานข่าวกับกล้องทีวี อยู่แถวๆนั้น
“จากหลักฐานจากกล้องวงจรปิด และพยานบุคคลบ่งชี้ว่า นายสังวรณ์ เป็นผู้ต้องหาคดีพยายามฆ่า ผู้จัดคอนเสิร์ตชื่อดังและปิดฉาก บทบาทบอกอหนังสือนินทาดาราไปอย่างสิ้นเชิง...”
สังวรณ์เดินผ่านมาที่ เป็นไท วราพรรณ องอาจยืนอยู่ เขามองอย่างแพ้หมดสภาพแล้วหลบตา ตำรวจคุมตัวขึ้นรถแล้วขับออกไป เป็นไทมองตาม...
“ไม่น่าเชื่อนะ แค่ความอิจฉาตัวเดียว มันทำให้ชื่อเสียง ผลงานความสามารถทุกอย่างที่เคยสร้างสมมา ให้สูญสลายไปในพริบตา”
องอาจถอนหายใจ
“นายสังวรณ์คงต้องไปทบทวนบทเรียนชีวิตตัวเองในตะรางแล้วล่ะครับ”
วราพรรณยกมือพนมท่วมหัว
“เจ้าประคู้ณ เรื่องร้ายๆ ผ่านไปแล้ว ต่อไปนี้ของให้มีแต่เรื่องดีๆ เฮงๆ รวยๆสมหวังในความรักกันทุกคนด้วยเถอะ”
เป็นไทนึกได้มองหานับดาวแต่ไม่เห็นแล้ว องอาจแปลกใจ
“คุณไทมองหาใครหรือครับ”
“ยูกิไง...เขาหายไปไหนแล้ว”
วราพรรณงง
“ยูกิ...ฮึ...ยูกิมาตั้งแต่เมื่อไร”
“ก็เขาเป็นคนขึ้นไปช่วยฉันบนดาดฟ้าไง...ฉันอยากจะขอบคุณเขาน่ะ”
องอาจกับวราพรรณมองหน้ากัน แล้วองอาจหันมาบอกเป็นไท
“เจ้านายครับ คนที่ช่วยเจ้านายไม่ใช่ ยูกิหรอกนะครับ”
เป็นไทชะงัก
“ฮึ”
วราพรรณถอนใจ
“นั่นน่ะ นับดาว...”
“อะไรนะ” เป็นไทดีใจ “นับดาวเหรอ แล้วเธออยู่ไหน บอกฉันมาซิ”
องอาจกับวราพรรณนิ่งอึ้ง ไม่รู้เหมือนกัน

เย็นนั้น รจนาเปิดประตูบ้านออกมาเห็นเป็นไท
“คุณนั่นเอง...”
“นับดาวกลับมาแล้วใช่ไหมครับ”
“ใช่...”
เป็นไทตื่นเต้นดีใจ
“ผมขอพบนับดาวนะครับ”
เป็นไททำท่าจะเข้าไป รจนาห้าม
“เดี๋ยวๆๆ”
“อย่าห้ามผมเลยนะครับ ผมอยากเจอเขาจริงๆ”
“ฉันไม่ได้ห้าม แต่เข้าไปก็ไม่เจอเขาหรอก”
“อะไรนะครับ”
“เขาไปแล้ว”
เป็นไทอึ้งหน้าสลดลง
“ผมงงไปหมดแล้ว นี่มันอะไรกัน”
“นับดาวกลับมาแล้ว แต่ก็ไปแล้ว”
“ไปไหนครับ”
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน”
“งั้น ผมรอ”
“อย่าเลยจ้า นับดาวมันบอกว่า มันเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะกลับมาเมื่อไร”
เป็นไทอึ้ง รจนาหยิบจดหมายออกมายื่นให้
“อะ เขาฝากจดหมายนี่ไว้ให้คุณด้วย”
เป็นไทรับจดหมายไปอย่างจ๋อยๆ
“ขอบคุณครับ”

ค่ำนั้น...เป็นไทเดินอย่างเศร้าสลดมาที่กลางสะพานแล้วหยิบจดหมายของนับดาวออกมาคลี่อ่าน
“สวัสดีคะ คุณเป็นไท...กว่าคุณจะได้รับจดหมายฉบับนี้ ฉันก็คงจากคุณมาไกลแล้ว...และคงไม่มีโอกาสได้พบคุณอีก จนกว่าความฝันของฉันมันจะเป็นจริงขึ้นมา...มันอาจจะดูไม่มีเหตุผล แต่ฉันก็อยากให้คุณเข้าใจว่าความมุ่งมั่นของฉันในวันนี้ ไม่ได้ทำเพื่อตัวฉันเอง แต่ฉันอยากให้คนที่ฉันรัก เขาภาคภูมิใจในตัวฉันด้วย...คุณเองก็เหมือนกันนะคะ ฉันขออวยพรให้คุณเดินหน้าต่อไป ทำความฝันของคุณให้เป็นจริง แล้วสักวันหนึ่งที่ความฝันของคุณกับฉันมาบรรจบกัน เราคงได้พบกันอีกครั้ง...นับดาว”

ก่อนหน้านี้...นับดาวหิ้วกระเป๋าเสื้อผ้าออกมาจากบ้าน เหลียวมองบ้านเศร้าๆ เธอไหว้ลารจนา แล้วหันเดินออกจากประตูรั้วไป รถตู้คันหนึ่งแล่นเข้ามาจอด เทียบ ประตูรถตู้เปิดออกยูกิโบกมือทักทาย นับดาวหันไป ยิ้มบางๆ แล้วหิ้วกระเป๋าเสื้อผ้าขึ้นรถตู้ไปกับยูกิ รถแล่นออกไป
ในรถ นับดาวนั่งเหม่อมองวิวข้างทางเศร้าๆ ยูกิเอื้อมมือมาตบหลังมือนับดาวเบาๆให้กำลังใจ นับดาวยิ้มรับบางๆเป็นการขอบใจ

เป็นไทอ่านจดหมายจบแล้วยิ่งเศร้า ไม่รู้ว่าจะได้พบนับดาวเมื่อไร เขาค่อยๆหันไปอีกทางแล้วทรุดลงนั่งกับพื้น หมดแรงคิดว่าคงไม่มีโอกาสได้พบเธออีกแล้ว

นับดาวกำลังรื้อเสื้อผ้าออกมาจากกระเป๋าอย่างเศร้าๆ แล้วเธอก็ชะงักเมื่อได้ยินเสียง เป็นไทให้สัมภาษณ์ในทีวีอยู่ เธอหันไปมองแล้วรีบเข้าไปดูใกล้ๆ
เป็นไทกำลังให้สัมภาษณ์นักข่าวอยู่ที่แถวหน้าคอนโด
“ปลอดภัยดีครับ ไม่มีใครเป็นอะไร ส่วนเรื่องคดีความก็ให้เป็นไปตามขั้นตอน คนผิดก็ควรได้รับโทษตามกฎหมาย”
นับดาวเอื้อมมือไปแตะที่หน้าเป็นไทในทีวี คิดถึงเขาจนจะร้องไห้ ภาพข่าวจบไป เธอหันมานั่งชันเข่าเศร้าหมองร้องไห้...
“คุณเป็นไท ขอโทษนะที่ตัดสินใจแบบนี้”

เช้าวันใหม่...เสียงเคาะประตูหน้าห้องดังขึ้น นับดาวเปิดประตูรับ ยูกิกับยามาดะยืนยิ้มอยู่
“กู้ดมอร์นิ่ง”
นับดาวยิ้มทักทายทั้งสอง
“ยูกิ...ยามาดะ เข้ามาก่อนสิ”
ทั้งสองเดินตามนับดาวเข้ามาในห้อง ยูกิถามอย่างห่วงใย
“นอนหลับสบายดีมั้ย”
“ก็ดีจ้า...ขอบใจยูกิ มากเลยนะ ที่ช่วยเหลือฉันทุกอย่าง”
“ไม่เป็นไรหรอก...แต่ว่า...”
“อะไรเหรอ”
“เธอแน่ใจแล้วเหรอที่จะทำแบบนี้...”
ยามาดะมองนับดาวอย่างไม่เข้าใจ
“นั่นสิ...ทำไมไม่บอกคุณเป็นไท ปล่อยให้เขาเข้าใจว่าเธอหายตัวไปแบบนี้ทำไม”
นับดาวอึ้งไปแล้วตอบขึ้น
“มันเป็นเดิมพันที่ฉันตั้งขึ้นมาเอง”
ยูกิงงๆ
“เธอหมายความว่าไง”
“ฉันอยากจะทำความฝันของฉันให้เป็นจริง ซะก่อน...ให้ทุกคนได้รู้จักฉัน ยอมรับฉัน ในฐานะที่ฉันเป็นฉัน...แล้วฉันจะเดินอย่างมั่นใจเข้าไปหาคุณเป็นไท ให้เขาได้ภูมิใจในตัวฉัน ด้วยความสามารถของฉันเองจริงๆ”
นับดาวบอกอย่างมุ่งมั่น

นับดาวซ้อมเต้นอยู่กับเหล่าแดนเซอร์ ยูกิกับยามาดะ ยืนดูอยู่อีกด้าน นับดาวเต้นแล้วล้ม แต่ก็ลุกขึ้นซ้อมต่อ อย่างไม่ย่อท้อ ยูกิกัยามาดะ พยักหน้าให้กัน แบบ ปลื้มๆที่เห็นนับดาวสู้เต็มร้อย
นับดาวเดินเช็ดเหงื่อออกมาจากห้องซ้อม เข้ามาหา ยูกิ กับยามาดะ ยูกิยกนิ้วให้
“เยี่ยมมาก เก่งมากเลยนับดาว งานนี้นับดาวเกิดแน่”
นับดาวยิ้มรับ
“ขอบใจจ๊ะ”
“แต่ถ้าเกิดว่าดับล่ะครับ จะทำยังไง”
นับดาวอึ้ง ยูกิหันมาทำตาเขียวใส่ยามาดะ
“ถามอะไรน่ะ ยามาดะ นิสัยไม่ดีเลย”
ยามาดะจ๋อยๆ
“ผมก็อยากให้คุณนับดาวรอบคอบ ถ้าเกิดทุกอย่างมันไม่เป็นอย่างที่คุณคิด คุณจะทำยังไง”
“ฉันก็จะไม่มาให้คุณเป็นไทเห็นหน้าอีกเลย”
ยูกิตะลึง
“นับดาว!”
“นี่เป็นเดิมพันครั้งที่สำคัญที่สุดในชีวิตของฉัน ขอตัวไปซ้อมร้องเพลงก่อนนะ”
นับดาวเดินออกไป ยูกิกับยามาดะมองตามเป็นห่วง

ยูกิหันมาพูดกับยามาดะที่นั่งอยู่ตอนหลังด้วยกัน
“นับดาวนี่บทเวลาจะเอาจริงขึ้นมา ก็หัวรั้นจริงๆ เลย”
“ไม่รู้ว่าคุณเป็นไทป่านนี้จะเป็นยังไงบ้าง”
“เรามีนัดถ่ายโปรโมทคอนเสิร์ตไม่ใช่เหรอ เดี๋ยวก็ต้องเจอ คุณเป็นไทอยู่แล้ว”
ทันใดนั้นเสียงข้อความเข้ามือถือยามาดะดังขึ้นมา เขากดอ่านแล้วบอกยูกิ
“สงสัยว่าจะไม่ได้เจอแล้วล่ะ คุณเป็นไทไม่สบาย... ให้คุณองอาจไปดูแลแทน”
ยูกิถอนใจ
“ป่วยเป็นไข้ใจหรือเปล่าก็ไม่รู้ เฮ้อ พูดความจริงก็ไม่ได้ เอาไงดีล่ะ ยามาดะ เราจะช่วย คุณเป็นไทกับนับดาวได้ยังไง”
ยูกิกังวล

เป็นไทนอนนิ่งอยู่ที่โซฟา หมดอาลัยตายอยาก เสียงออดดังขึ้น เขาขยับลุกขึ้นอย่างอ่อนล้าไปเปิดประตู
ยามาดะถือตะกร้าผลไม้ยืนอยู่หน้าห้อง
“คุณยามาดะ”
“ยูกิจังฝากให้ผมมาเยี่ยมคุณครับ”
เป็นไทชวนยามาดะเข้าไปในห้อง เขารินน้ำส้มใส่แก้วแล้ววางให้ยามาดะที่โต๊ะ
“ผมเป็นหวัดนิดหน่อยน่ะครับ...ขอโทษด้วยที่ทำให้เป็นห่วง”
“ผมกับยูกิ ถือว่าคุณเป็นมากกว่าเพื่อนร่วมงาน คุณเป็นเพื่อนของเรา”
“ขอบคุณมากครับ”
“งั้นเพื่อนพูดกับเพื่อนตรงๆ ได้ใช่มั้ยครับ”
“ครับ...คุณมีอะไรก็ว่ามาเถอะ”
“สาเหตุที่ทำให้คนบ้างานอย่างคุณหยุดงาน ไม่ได้เกิดจากไวรัส แต่เป็นความรัก”
เป็นไทอึ้งไป
“อย่าปฏิเสธเลยนะครับ ผมทราบเรื่องนับดาวแล้ว”
เป็นไปถอนหายใจ ระบายความในใจให้ยามาดะฟัง
“ผมยอมรับ...ผมไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน แต่พอนับดาวทิ้งผมไปมันทำให้ผมหมดแรง เหมือนโลกทั้งโลกมันหยุดนิ่ง”
“ผมเข้าใจ...ที่ผ่านมา ผมพยายามหาเงินให้ได้มากที่สุด เพื่อที่จะได้มีฐานะที่ทัดเทียมกับยูกิ...ซึ่งผมก็รู้ว่า มันไม่มีทางเป็นไปได้”
“นั่นสิ แล้วมันเกิดอะไรขึ้น...คุณถึงมีวันนี้ได้”
“ความรักและความจริงใจของผม มันทำให้ผมสมหวังโดยไม่ต้องใช้เงินสักเยนเดียว”
“นี่คุณกำลังจะพูดอะไร”
“ผมอยากให้คุณเชื่อมั่นในความรักที่คุณมีต่อนับดาว...แล้วความรักของคุณ จะสร้างปาฏิหาริย์ขึ้นมาเอง”
เป็นไทอึ้ง ยามาดะยิ้มให้กำลังใจ แล้วลุกเดินออกไป เป็นไทนั่งครุ่นคิด เหม่อมองออกไป

เสียงมือถือขององอาจดังขึ้น เขากดรับสาย
“เจ้านายหรือครับ...ไม่ต้องห่วงนะครับ ถ้ายังลุกไม่ไหว ก็พักผ่อนนะครับ ผมจะจัดการให้เอง
เป็นไทพูดมือถืออยู่ที่ระเบียงห้อง
“ฉันจะเข้าไปดูซ้อมใหญ่ ค่ำวันนี้ แล้วหลังจากนั้น เราจะประชุมสรุปสิ่งที่ต้องเพิ่มเติมแก้ไขทั้งหมด”
“อ้าว...เจ้านาย ไหนว่าไม่สบาย”
“จัดการตามที่ฉันสั่งเถอะน่า ฉันอยากให้วันงานคอนเสิร์ตของเราเป็นงานที่น่าประทับใจ และ สมบูรณ์แบบที่สุด”
เป็นไทกดปิดมือถือ ยิ้มมองออกไปที่ท้องฟ้า
“นับดาว ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน ผมอยากให้คุณรู้นะ ว่าคอนเสิร์ตครั้งนี้ผมไม่ได้ทำเพื่อตัวเองคนเดียว แต่ผมจะทำเพื่อคุณด้วย”

เย็นนั้น ในงานคอนเสิร์ต คนเต็มฮอลล์ไปหมด ไฟบนเวทีดับ สโมคถูกปล่อยเสียงดนตรีดังขึ้น แล้วยูกิก็ออกมา ร้องเพลงสะกดคนดูทั้งฮอลล์ คนดูส่งเสียงกรี๊ดชอบใจ เป็นไทยืนดูคอนเสิร์ตอย่างภาคภูมิใจ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่...นับดาวอยู่คนเดียวที่ข้างเวทีตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก เธอสูดหายใจเข้า หายใจออกลึกๆ เพื่อคลายความตื่นเต้น
คนดูกรี๊ดกับการแสดงของยูกิมาก ปรบมือชอบใจกันใหญ่
“ค่ะ...สำหรับคอนเสิร์ตนี้ หลายคนอาจสงสัยว่าแขกรับเชิญคือใคร ฉันก็ได้รับโจทย์มาว่าให้เชิญใครก็ได้ มันเป็นเซอร์ไพรส์ที่ฉันเตรียมมาเอง ทีมงานหลายคนยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำ ฉันเลือกเชิญเธอคนนี้มา เธอเป็นผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งที่เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ฉันได้มายืนที่คอนเสิร์ตวันนี้ เชิญพบกับเธอเลยค่ะ”
เสียงคนปรบมือต้อนรับแขกรับเชิญของยูกิ เป็นไทงงว่ายูกิพูดถึงเรื่องอะไร
“ในคิวมันไม่ใช่แบบนี้นี่ เซอร์ไพรส์อะไรเนี่ย”
เป็นไทงง เขาไม่รู้ว่าใครกำลังจะขึ้นมา...นับดาวเดินขึ้นมาร้องเพลงบนเวที คนดูต่างงงกันเป็นทิวแถว เธอร้องเพลงไทย ชัดถ้อยชัดคำ ต่างจากยูกิ คนดูซุบซิบกันตรงหน้าเป็นไท
“นั่นมันก็ยูกิไม่ใช่เหรอ งงว่ะ”
“ฉันว่าไม่ใช่ยูกิหรอก คนที่เป็นข่าวว่าเป็นยูกิตัวปลอมมากกว่า”
“แต่ก็ร้องเพลงเพราะไม่แพ้ยูกิเลยเนอะ”
เป็นไทที่ยืนอยู่ด้านหลัง ตะลึงกับภาพที่เห็นบนเวที
“นับดาว”
เสียงนับดาวทำเอาคนดูทั้งฮอลล์เคลิ้มไปด้วยเช่นกัน ทุกคนฟังเธออย่างตั้งใจ ไม่ใกล้ไม่ใกล้ รจนากับวราพรรณยืนชูป้ายไฟชื่อนับดาวอยู่กับคนดูด้วย...นับดาวร้องเพลงจบลง คนตบมือให้นับดาวกันทั้งฮอลล์ นับดาวยิ้มดีใจ
“ขอบคุณทุกคนมากที่ไม่โห่ไล่ฉันนะคะ เห็นฉันหน้าคล้ายยูกิแบบนี้ฉันไม่มีอะไรในชีวิตเหมือนเธอเลยค่ะ ขอบคุณยูกิที่ให้คนธรรมดาอย่างฉันได้มาร้องเพลงให้คนดูเยอะขนาดนี้ได้ฟัง ฉันตื่นเต้นมากเลย”
ยูกิเดินออกมาหานับดาว
“ได้ฟังนับดาวร้องเพลงแล้ว ฉันอยากจะบอกว่า ถ้าใครจะเรียกฉันว่าเป็นซุปเปอร์สตาร์ ขอให้เรียกเธอด้วยค่ะ”
คนดูปรบมือกันเกรียวทั้งฮอลล์ นับดาวปลื้มจนน้ำตาไหล
“ขอบคุณนับดาวมากค่ะ ฉันว่าเราคงได้ฟังเพลงของเธอเร็วๆนี้แน่”
เสียงปรบมือโห่ร้อง ทำเอานับดาวน้ำตาไหลไม่หยุดก่อนจะลงจากเวทีไป

เสียงเพลงจากยูกิยังดังคลอ นับดาวลงเวทีมาห้ามตัวเองไม่ให้ร้องไห้ไม่ได้ เธอไม่เคยรู้สึกดีอะไรแบบนี้มาก่อนในชีวิต รจนากับวราพรรณเดินมาหา
“ทำได้ดีมากเลยหลานย่า”
นับดาวโผเข้ากอดรจนาร้องไห้ไม่หยุด วราพรรณยิ้มภูมิใจในตัวเพื่อน
“ฉันภูมิใจที่ได้เป็นเพื่อนแกว่ะ”
นับดาวโผเข้ากอดวราพรรณเช่นกัน
“ขอบคุณทุกคนเลย”
เป็นไทมายืนตรงหน้าเธออีกครั้ง เธอรวบรวมความกล้าเดินไปหาเขา
“คุณไท...เพลงที่ฉันร้องเมื่อกี้ ฉันร้องไห้คุณนะ จริงๆแล้ว ฉันชอบคุณ ชอบมาตั้งนานแล้ว แต่คุณ...”
“ผมรู้แล้ว ผมก็ชอบคุณเหมือนกัน”
นับดาวโผเข้ากอดเป็นไทอย่างมีความสุข แต่ยังไม่ทันไร แพรวไพลินก็เข้ามาขัดจังหวะทั้งคู่
“จะมีความสุขกัน ลืมแพรวไปได้ยังไงคะ ลืมไปแล้วเหรอว่าเรามีข้อตกลงอะไรร่วมกันอยู่”
“คุณมาก็ดีแล้ว”
เป็นไทกวักมือเรียก องอาจเดินมาหา
“ผมขอของที่ให้คุณเตรียมไว้ด้วย”
องอาจหยิบเช็ค จากกระเป๋าเสื้อ ยื่นให้เป็นไท
“นี่ครับ”
เป็นไทรับมา ยื่นให้แพรวไพลิน
“นี่คือเงินทั้งหมดที่ผมเคยยืมคุณมาพร้อมดอกเบี้ย”
แพรวไพลินรับมาอย่างจำใจ
“เป็นอันว่าผมกับคุณจบกันซะทีนะ ไปดูคอนเสิร์ตกันต่อเถอะครับ”
ทุกคนพากันเดินออกไป ทิ้งแพรวไพลินยืนกรี๊ดๆอยู่คนเดียว องอาจเดินตีคู่วราพรรณแล้วกระซิบ
“เมื่อกี้เขามีกอดกัน เราไม่ทำกันบ้างเหรอ”
“บ้า”
ทุกคนยืนดูยูกิร้องเพลงอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข โดยเฉพาะยามาดะที่ถือช่อดอกไม้อยู่ในมือ
นับดาวกับเป็นไท ทั้งคู่จับมือสบตากัน และดูคอนเสิร์ตอย่างมีความสุข

จบบริบูรณ์








Create Date : 04 เมษายน 2555
Last Update : 4 เมษายน 2555 10:48:47 น.
Counter : 547 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

มิกัง
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]