All Blog
ฉันรักเธอนะ ตอนที่ 14 (ต่อ)



ซีซีเล่าให้ทุกคนฟังถึงตอนที่เธอถูกสมุนไคคุงตามล่า เธอวิ่งหนีพวกมันเข้ามายังลานจอดรถ แล้วมาเจอกับอีกคนหนึ่งที่รอดักอยู่ เธอตกใจมาก เธอมองเห็นว่ารถเธออยู่ไม่ไกลนัก สมุนไคคุง 3 คนล้อมเธอ
สองคนกำลังจะมัดเชือกที่แขนซีซี คนหนึ่งโทรคุยกับไคคุง
“เรียบร้อยครับหัวหน้า ไม่ต้องเป็นห่วงเลย”
สมุนวางโทรศัพท์ มาสั่งงานต่อ
“เอาเร็ว ชักช้า เดี๋ยวมีคนมาเห็นเข้าพอดี”
ซีซีมองเห็นยามเดินอยู่ไกลๆ เธอเอามือกดรีโมทรถให้สัญญาณกันขโมยดังขึ้น ยามต่างกรูมาทางเธอ คนต่างก็หันมาดู จังหวะนั้นเองเธอก็ร้องให้คนช่วยทันที
“ช่วยด้วยค่ะ ช่วยด้วยค่ะ โจรกำลังจะทำร้ายร่างกายฉัน”
ยามจากทุกชั้นวิ่งลงมาดักสมุนทั้งสามไว้ หนีไม่รอด ผู้คนต่างก็มุงดูกัน
“คิดจะเล่นกับฉันแบบนี้เหรอไคคุง ได้...”
ซีซีแค้นจัดไม่ยอมง่ายๆ

ซีซีมาให้การที่โรงพักเธอเล่าเหตุการณ์ให้ตำรวจฟัง
“ฉันกลัวมากเลยค่ะ พวกมันน่ะเป็นพวกแก๊งค้ายาข้ามชาติ บังเอิญว่าฉันไปรู้ความลับมัน มันเลยขู่จะเก็บฉัน”
“คุณพูดน่ะ คุณมีหลักฐานมั้ย”
“เรื่องค้ายาน่ะ ตำรวจสืบเองไม่ยากหรอกค่ะ แต่ฉันหาหลักฐานเรื่องจ้างวานฆ่าให้ได้ ฉันไม่เชื่อคนอย่างไคคุงน่ะ ไม่นานต้องกำจัดใครอีกแน่ๆ”
ซีซีบอกอย่างแค้นมากๆ...อีกด้าน ตำรวจกำลังสอบสวนจากสมุน
“คุณจะบอกว่าคุณไม่ได้เกี่ยวข้องกับไคคุงว่างั้น ในเมื่อผู้เคราะห์ร้ายเขาบอกชัดเจนขนาดนั้น”
“ไม่รู้จักครับ ผมแค่อยากจะขโมยของผู้หญิงคนนั้น ก็แค่นั้น”
ทันใดนั้น เสียงโทรศัพท์ของสมุนดังขึ้น ซึ่งตอนนี้กลายเป็นของกลางแล้วตำรวจกดรับฟังเงียบๆไม่พูดอะไร เสียงจากปลายสายดังมา
“แกรีบมาหาฉันที่โรงพยาบาลเดี๋ยวนี้เลยนะ ฉันจะให้แกฆ่าไอ้ยามาดะให้ตายไปซะที ฉันทนมันไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว”
ไคคุงวางสาย ตำรวจฟังนิ่ง แล้วมองหน้าสมุนยิ้มๆ
“นี่น่ะเหรอ ไม่เกี่ยวข้อง” ตำรวจยกวอขึ้นมาพูด “เดี๋ยวเตรียมกำลังเสริมไปโรงพยาบาลเลย”

ซีซีเล่าเสร็จหันมามองหน้าไคคุง
“คุณจะโทษฉันฝ่ายเดียวก็ไม่ถูกนะ เพราะคุณเองเป็นคนเรียกตำรวจให้มาที่นี่เอง”
ยามาดะมองหน้าไคคุงแค้นๆ
“นี่คิดจะฆ่าฉันเหรอ”
ยูกิช็อค
“ไคคุง คุณค้ายาโดยมีธุรกิจอาหารทะเลบังหน้าเหรอ นี่คุณหลอกฉันมาตลอด ทำไมคุณเป็นแบบนี้”
ไคคุงหน้าเสียพยายามจะอธิบาย
“ยูกิ... ผม...ฟังผม อย่าไปฟังยายซีซีนี่ มันต้องการจะให้เราเข้าใจผิดกัน อย่าไปฟังผมไม่เคยจะฆ่าใคร ผมไม่เคยค้ายา ผมไม่ใช่เจ้าพ่อที่ไหน ผมทำงานสุจริตนะ”
ไคคุงพยายามแก้ตัว

สังวรณ์ถอดเสื้อตัวเองออก จ้องมองที่นับดาวอย่างหื่นกระหาย
“จะมีใครซักกี่คนที่จะได้เป็นเจ้าของคุณอย่างสมบูรณ์แบบอย่างผมตอนนี้”
นับดาวกลัวสุดขีดแต่ขยับตัวไม่ได้ พูดก็ไม่ถนัด
“อย่า ทำ ฉัน เลย นะ”
เธอส่งสายตาวิงวอน

เสียงวอตำรวจข้างนอกดังแว่วมา ซีซียิ้มสะใจ
“จบให้สวยนะไคคุง...คุณมีเวลาไม่มาก ข้างนอกน่ะตำรวจทั้งนั้น”
ไคคุงแค้นมาก
“ซีซี...เธอทำฉันแสบมาก”
“ฉันบอกแล้วไง ว่าอย่าลองดีกับฉัน” ซีซีหันไปหายูกิ “เป็นไง เจ็บปวดมากเลยสินะ คนรักต้องมากลายเป็นอาชญากรแบบนี้น่ะ ถึงฉันจะทำลายงานของเธอไม่ได้ ฉันก็ทำลายหัวใจของเธอสำเร็จจนได้”
ยูกิสุดทนโพล่งออกมา
“ฉันไม่รักไคคุง...เธอทำลายผิดคนแล้วซีซี”
ซีซีไม่เชื่อ
“ไม่จริงหรอก”
ไคคุงหน้าเสีย
“ไม่จริง...ยูกิคุณอย่าพูดแบบนี้เพราะแค่โกรธ เราคบกันมาเจ็ดปีนะ คุณจะบอกว่าคุณไม่รักผมได้ยังไง”
ยูกิมองหน้าไคคุง
“เพราะคุณดีกับฉัน ก็แค่นั้น ฉันไม่เคยรักคุณ ฉันมีคนที่ชอบอยู่แล้ว”
ซีซียังไม่เชื่อ
“ไม่จริงอ่ะ มันจะผิดคนได้ยังไง เป็นไปไม่ได้หรอก”
ตำรวจบุกเข้ามาจับตัว ขณะที่ไคคุงแทบคลั่ง รับไม่ได้กับสิ่งที่ได้ยิน ซีซีก็เช่นกัน ตำรวจพาเธอไปด้วย ยามาดะกับยูกิจับมือกันแน่น
เป็นไทจอดรถที่หน้าบริษัทสังวรณ์ แล้วรีบวิ่งไปด้านใน
เวลาเดียวกันสังวรณ์ลูบไล้เนื้อตัวนับดาว ที่ไม่สามารถขัดขืนได้ น้ำตาเธอไหลออกมาแสดงความรู้สึกกลัว
สังวรณ์ปลดกระดุมเสื้อเม็ดแรกของเธออย่างหื่นกระหาย

สังวรณ์ลูบไล้เนื้อตัว นับดาวไม่สามารถขัดขืนได้ น้ำตาเธอไหลออกมาแสดงความรู้สึกกลัว สังวรณ์ปลดกระดุมเสื้อเม็ดแรกของเธอ
“ยูกิของฉัน”
ทางด้านเป็นไทวิ่งกระหืดกระหอบเพื่อไปช่วยนับดาว เขาวิ่งไปเปิดประตูห้องโน้นห้องนี้ไปตลอดทาง เพื่อดูว่านับดาวอยู่ห้องนั้นรึเปล่า

สังวรณ์ซุกไซร้ไม่ปราณี ด้วยคิดว่านับดาวเป็นยูกิ นับดาวน้ำตาไหลพรากทำอะไรไม่ได้ เป็นไทถีบประตูเข้ามาพอดี เขากระชากสังวรณ์ออกจากนับดาว แล้วชกเข้าหน้าเต็มแรง สังวรณ์เซถลาไป เป็นไทเข้าไปหานับดาวอย่างเป็นห่วง
“นับดาว...นับดาว เป็นอะไรรึเปล่า”
แต่ยังไม่ทันที่เป็นไทจะได้ดูว่านับดาวเป็นอะไรมั้ย สังวรณ์ที่ตั้งสติได้ก็มาชกเป็นไทกลับเต็มแรงเช่นกัน เป็นไทล้มไปกับพื้น สังวรณ์จะเข้ามาซ้ำ
“ยูกิเป็นของฉัน...” สังวรคิดได้ “เมื่อกี้แกเรียกยูกิว่าอะไรนะ”
“นับดาว”
“หมายความว่า...”
“ใช่...นี่มันนับดาว ไม่ใช่ยูกิ”
สังวรณ์ช็อค ถึงกับเข่าอ่อนลงไปนั่ง
“ไม่จริง...ไม่ งั้นที่ทำไปเมื่อกี้” สังวรลุกขึ้นจะเอาเรื่องนับดาวที่นอนอยู่ “เอาความเป็นชายชาตรีฉันคืนมานะ”
เป็นไทผลักสังวรณ์ออก
“นี่...คุณจะเลวไปถึงไหนเนี่ย ออกไปให้ห่างจากนับดาวเลยนะ”
“ยูกิของฉัน”
“ยูกิไม่ใช่ของคุณ แล้วก็ไม่ใช่ของใครทั้งนั้น คุณเลิกทำตัวแบบนี้ซะทีเถอะ ทุกคนต้องวุ่นวายเพราะพฤติกรรมของคุณ”
“แกนั่นแหละต้นเหตุทุกอย่าง ถ้าคอนเสิร์ตยูกิปล่อยให้ฉันได้ทำมันก็จบ”
“ตามใจ จะคิดยังไงผมไม่สนใจหรอก ผมจะพานับดาวไปแจ้งตำรวจ ให้ตำรวจจัดการคุณ”
สังวรณ์ตกใจ
“อย่าทำแบบนั้นนะ”
“ถ้าผมไม่ทำคุณก็จะวุ่นวายกับผมอยู่นั่น ข้อหาทำร้ายผู้อื่นโดยเจตนา แล้วก็ล่วงละเมิดทางเพศเนี่ย ไม่ธรรมดาเลยนะ”
สังวรณ์ไม่รู้จะทำยังไง วิ่งไปเปิดลิ้นชัก คว้าปืนออกมา เป็นไทยังไม่เห็น นับดาวตกใจ เธอใช้แรงทั้งหมดที่มีกลิ้งตัวโดนเป็นไทล้มลง เพื่อป้องกันเขา เธอตะโกนออกมาแต่ไม่ชัด
“ระ วัง”
สังวรณ์เล็งปืนมาที่เป็นไท
“ไม่ต้องทำมาปกป้องกันหรอก ไหนๆมาถึงขั้นนี้ จะโดนอีกซักข้อหาจะเป็นไร”
เป็นไทหันมาเห็นปืนจ่อมาทางเขากับนับดาวก็ตกใจ เป็นไทตั้งสติ
“เอาสิ ยิงเลย”
นับดาวพูดไม่ชัด
“จะ...ท้า...ทำ...ไม”
เป็นไทมองอย่างไม่กลัว
“ถ้ายิง ยิงให้ตายนะ ไม่งั้นผมก็เอาเรื่องให้ถึงที่สุดเหมือนกัน”
สังวรณ์โมโห
“แกคิดว่าฉันไม่กล้าเหรอ...”
เป็นไทไม่สนใจ อุ้มนับดาวขึ้ยแล้วเดินหันหลังให้จะเดินออกไป สังวรณ์ตวาดลั่น
“อย่าออกไปนะ ไม่งั้นฉันยิงทั้งคู่แน่”
“ถ้าอยากจะยิงปืนน่ะ เปิดคู่มือหาวิธีปลดเซฟก่อนดีมั้ย”
เป็นไทเดินอุ้มนับดาวออกไปโดยไม่สนใจ สังวรณ์เจ็บใจที่ขู่เป็นไทไม่ได้ มองปืนในมืองงๆ
“เซฟมันอยู่ตรงไหนวะเนี่ย”

เป็นไทขับรถโดยมีนับดาวนั่งอยู่เบาะข้างคนขับหลับไม่ได้สติ เขานึกถึงนับดาวตอนที่สดใสร่าเริงต่างๆที่ทำให้เขาหัวเราะได้ เขายิ้มออกมาเอาเอื้อมมือไปลูบหัวนับดาวขณะขับรถ
เป็นไทพานับดาวมาที่บ้านรจนา อุ้มเธอไปนอนบนเตียง นับดาวยังหลับไม่ได้สติ เขานั่งมองเธอหลับ เอื้อมมือไปติดกระดุมเสื้อที่ถูกปลด มองเธออย่างเอ็นดู

เช้าวันใหม่...นับดาวสะดุ้งตื่นเด้งจากที่นอนมาทันที เธอสำรวจตัวเองพบว่าชุดถูกเปลี่ยน
“เฮ้ย...ชุดฉัน”
รจนาเดินเข้ามาในห้องเก็บเสื้อผ้าไปซัก
“ตื่นแล้วเหรอ”
นับดาวตกใจ
“ย่า”
รจนายิ้มให้
“ไม่ต้องตกใจหรอก ชุดน่ะ ย่าเปลี่ยนให้เอง”
วราพรรณลุกจากที่นอนข้างๆ
“ตกลงเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นน่ะ”
“ฉันพูดได้ปกติแล้วนี่ แขนขา ขยับได้แล้ว”
วราพรรณงงๆ
“อะไรของแก”
“แล้วนี่ฉันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงเนี่ย”
“ก็คุณเป็นไทเขาพาแกมาส่งน่ะสิ” รจนาบอก
วราพรรณส่ายหน้า
“หลับไม่รู้เรื่องมาเลย ตกใจแทบแย่ นึกว่าเป็นอะไร”
นับดาวนิ่งคิด
“คุณไท...”
วราพรรณมองหน้าเพื่อนอย่างสงสัย
“มีเรื่องอะไรกันรึเปล่า”
นับดาวนึกถึงตอนที่เป็นไทว่าเธอที่ทำยูกิตกลงมา เธอหันไปถามเพื่อน
“นี่...แกมีงานอะไรให้ฉันทำรึเปล่า”
“จะบ้าเหรอ ฉันยังเอาตัวไม่รอดอยู่นี่”
รจนามองหน้าหลานสาว
“หน้าแบบนี้ต้องมีเรื่องอะไรแน่ๆ”
“ย่า หนูกลับมาเป็นผู้ช่วยย่าเหมือนเดิมได้มั้ย”
“สายไปแล้วล่ะ ตอนนี้ย่ายุ่งจนจ้างผู้จัดการมาดูแลแล้ว”
นับดาวจ๋อยไป
“อ้าว...”
วราพรรณมองเพื่อนอย่างสงสัย
“นี่แกลาออกจากคุณไทแล้วเหรอ”
“ไม่อยากทำแล้ว”
“ฉันบอกแล้วว่าอย่าทำ เสียเวลาเปล่า”
นับดาวสลดลง
“เสียเวลาน่ะไม่ใช่ประเด็นหรอก เสียความรู้สึกมากกว่า ต่อไปนี้ฉันไม่เจอเขาอีกฉันจะไม่ให้อภัยเขาอีกแล้ว”
“แล้วถ้ามันมีเหตุให้บังเอิญเจอกันละวะ”
“ถ้ามันบังเอิญแบบนั้นจริงๆ ฉันให้ 3 ครั้ง...แบบนั้นฉันถึงจะให้อภัยเขา”
“ชีวิตไม่ใช่เรื่องล้อเล่นนะเว้ย จะเอาไปผูกกับชะตาบ้าบออะไรนี่ จะดีเหรอ”
นับดาวเหม่อมองไป ท้อกับอนาคตของตัวเอง

เป็นไทนั่งครุ่นคิดนึกถึงตอนที่นับดาว ทิ้งตัวกลิ้งมาช่วยเขาจากปืนของสังวรณ์ เขายิ้ม ขณะเดียวกันนั้นเสียงเคาะประตูดังขึ้น เขาดีใจ นึกว่าเป็นนับดาว
“เข้ามาสิ”
องอาจเปิดประตูเข้ามา เป็นไทผิดหวังเล็กน้อย
“อ้าว...องอาจเองเหรอ”
“ทำไม...นึกว่าใครล่ะ ยูกิหรือนับดาว”
“มีอะไรก็ว่ามา”
“คุณไทไม่ยอมอยู่ที่โรงพยาบาลเมื่อวาน สถานการณ์พลิกผันมันระเบิดมากเลย”
“เหรอ”
“เฮ้ย...แค่เหรอไม่ได้ มีตำรวจด้วยนะ”
“ผมได้ยินคนพูดกันทั้งออฟฟิศแล้ว นี่คุณเล่าให้คนอื่นฟังตั้งแต่เมื่อไหร่น่ะ เรื่องถึงได้ไวขนาดนั้น”
องอาจยิ้มแหยๆ
“เมื่อคืน...แล้วเรื่องคุณไทเป็นไงบ้าง ผมละงงไปหมดว่าตกลงเกิดอะไรขึ้น”
“ไม่มีอะไรหรอก ผมจัดการเรียบร้อยแล้ว”
เสียงเคาะประตูดังขึ้นอีก เป็นไทยิ้มแต้ แต่คนที่เปิดมากลับเป็นวราพรรณ เป็นไทผิดหวังอีก
“สวัสดีค่ะ”
องอาจยิ้มดีใจ
“อ้าวๆไม่คิดจะได้เจอกันอีก นี่มันพรหมลิขิตชัดๆ”
“แหวะ”
วราพรรณเบ้หน้า เป็นไทรีบถาม
“แล้วนับดาวล่ะ”
“ตั้งแต่วันนี้ไป นับดาวขอให้ฉันมาทำงานแทนค่ะ”
องอาจดีใจอีก
“ก็ดีน่ะสิ”
เป็นไทหน้าเสีย
“หมายความว่าไง”
“นับดาวบอกว่าไม่สร้างความวุ่นวายให้พวกคุณอีก ส่วนเรื่องหนี้ที่ติดไว้ เธอจะส่งคืนคุณทุกเดือน”
“ทำแบบนี้ไม่ได้นะ”
เป็นไทไม่พอใจ รีบหุนหันออกไปทันที เหลือองอาจกับวราพรรณอยู่ในห้องกันสองคน
“แบบนี้ก็ถือเป็นโอกาสที่ดี ที่เราจะได้รู้จักกันมากขึ้น ว่ามั้ย”
“ใครอยากรู้จักคุณ”
วราพรรณเดินออกจากห้อง
“อย่าเพิ่งไปสิ”

องอาจเดินตาม











Create Date : 24 มีนาคม 2555
Last Update : 24 มีนาคม 2555 1:40:01 น.
Counter : 307 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

มิกัง
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]