Chapter 47

ตอนที่ 47

"ไจ่ไจ๋! พรุ่งนี้ช่วงบ่ายเรือจะเทียบท่าอีกครั้ง พี่ว่าเราลงจากเรือไปเที่ยวกันดีกว่าเสร็จแล้วก็กลับบ้านกันเอง" เคนเสนอความคิดขึ้นมาหลังจากที่พวกเขาเที่ยวเล่นทุกอย่างบนเรือสำราญจนครบหมดแล้ว

"ผมว่าแบบนี้ไม่ดีนะ แล้วถ้าพี่ใหญ่ยืนยันว่าจะมารับหละครับ?" ไจ่ไจ๋แย้งความคิดของเคนขึ้นหลังจากที่ฟังจบแล้ว

"ไม่หรอก เดี๋ยวพี่บอกมันเอง เพราะไหนๆพี่เองก็ว่างอยู่แล้วแถมเรายังมีเวลาว่างกันอีกตั้งสองวัน หรือว่านายไม่อยากไปเที่ยวกับพี่?" เคนว่าพร้อมกับย้อนถามน้อง

"อยากสิครับ แต่ถ้าเรื่องที่พี่ถูกพักงานรู้ไปถึงหูพี่ใหญ่แล้วมันจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมานะ" แม้จะอยากไปแต่ไจ่ไจ๋ก็ยังห่วงพี่ชายอยู่

"เรื่องนั้นน่ะช่างมันก่อนเถอะ" เคนบอกปัดอย่างไม่สนใจนัก

"พี่อยากเที่ยวทะเล เราลงเรือแล้วไปหาเช่าโรงแรมนอนซักสองคืนแล้วค่อยหารถกลับบ้าน เอาแบบว่าเหมือนกลับไปเซอร์ไพรส์พี่ใหญ่พี่รองงัย" เคนให้เหตุผลกับน้องอีก

"งั้นก็ตามใจพี่กลางเถอะ ผมน่ะยังงัยก็ได้เพราะเที่ยวฟรีอยู่แล้ว" เมื่อเห็นว่าพี่ชายอยากเที่ยวไจ่ไจ๋จึงไม่โต้แย้งอีกแม้ในใจจะกลัวพี่ชายคนโตสงสัยก็ตาม

"ฮึ! สบายจริงๆเลยเชียว" เคนพูดกระแนะกระแหนน้อง

"เออพี่.....แล้วถ้าหากพี่ใหญ่โทรมาตอนเราไม่อยู่บนเรือแล้วหละจะทำยังงัย?" ไจ่ไจ๋ไม่วายกังวลต่อไปอีก

"ไจ่ไจ๋เอ้ยไจ่ไจ๋......" เคนว่าพลางจับหัวน้องชายโยกไปมาอย่างระอา

"โทรศัพท์มือถือของพี่ใหญ่น่ะมันมีเรด้าติดอยู่ด้วยหรืองัยพี่เขาถึงรู้ความเคลื่อนไหวของนายทุกฝีก้าวน่ะ" น้องเล็กได้ยินเช่นนั้นก็เพิ่งคิดได้จึงยิ้มแหยๆให้พี่ชาย

"ทำไมถึงซื่อบื้อแบบนี้วะ? พี่ก็ออกจะฉลาดเชื้อมันไม่ได้ตกทอดไปถึงนายบ้างหรืองัย?" เคนต่อว่าน้องชายออกมาอีก

"หูยยยย.....ฉลาดตายหละ.....อยากรู้จังเวลากลับบ้านเจอหน้าพี่ใหญ่พี่กลางจะทำหน้าระรื่นแบบนี้ได้อีกหรือเปล่า?" ไจ่ไจ๋หมั่นไส้เลยพูดจาเหน็บแนมพี่ชายเข้าให้บ้าง เคนได้ยินก็ตวัดสายตาใส่น้อง

"นั่นมันก็อีกเรื่องนึง! อนาคตเป็นเรื่องที่เราไม่สามารถหยั่งรู้ได้ฉะนั้นไม่มีความจำเป็นที่จะต้องกังวลไปก่อน" เคนเถียงเจ้าน้องชายตัวแสบเสียงแข็ง

"แล้วใครน้า.....เวลานอนต้องเอามือก่ายหน้าผากแถมต้องพลิกตัวกลับไปกลับมาหลายตลบเพราะนอนไม่หลับเนื่องจากกังวลเรื่องอะไรซักอย่างน่ะ" น้องเล็กพูดขึ้นมาอย่างรู้ทันพี่ชาย

"เฮ้ย! พี่ไม่ได้กลัวพี่ใหญ่ซักหน่อย พี่แค่นอนคำนวณค่าใช้จ่ายในเวลาหนึ่งเดือนที่ไม่ได้รับเงินเดือนต่างหาก" เคนเถียงข้างๆคูๆเมื่อน้องชายรู้ทัน

"อ้อ.....อย่างนั้นเองน่ะหรอ?" ไจ่ไจ๋ทำหน้าล้อเลียนพี่ชาย เคนเลยผลักหัวน้องด้วยความหมั่นไส้

"พี่กลาง ค่าใช้จ่ายของพี่เดือนหน้านี้ให้ผมช่วยนะ" หลังจากเงียบไปครู่หนึ่งไจ่ไจ๋ก็พูดด้วยน้ำเสียงเป็นการเป็นงานขึ้นเพราะเขาเองก็มีส่วนต้องรับผิดชอบกับการที่พี่ชายถูกพักงานเช่นกัน

"ไม่ต้องหรอก พี่ไม่ถังแตกขนาดนั้น เงินเก็บพี่น่ะมีตั้งเยอะเชียวนะ" เคนรีบปฏิเสธทันที

"แต่นั่นมันเป็นเงินเก็บพี่เผื่อพี่ต้องการใช้อะไรฉุกเฉิน" น้องเล็กแย้งขึ้นมาอีก คำพูดของน้องทำเอาเคนหลุดหัวเราะออกมาจนได้

"ไอ้บ้า! เดือนนึงพี่ใช้เงินไม่กี่ตังค์เอง นายคิดว่าพี่จะถอนเงินหมดบัญชีเพื่อมาใช้ภายในเดือนเดียวหรอ?" เคนย้อนถามพลางหัวเราะไปด้วย

"ก็.....เอ่อ.....นั่นสินะ....." น้องเล็กตั้งท่าจะเถียงแต่พอคิดๆไปแล้วก็จริงอย่างที่พี่ชายพูด

"แต่ถึงพี่ไม่มียังงัยพี่ก็ไม่รบกวนนายหรอก ไถ่พี่ใหญ่นิดไถ่พี่รองหน่อยเดี๋ยวพี่ก็มีพอกินไปทั้งเดือนแล้ว" เคนพูดต่อยิ้มๆ

"ทำไมพี่กลางถึงไม่อยากให้ผมช่วยหละครับ?" ไจ่ไจ๋ถามพี่ชายอย่างไม่เข้าใจเพราะพี่ชายไม่เคยเอ่ยปากขอให้เขาช่วยเหลือเรื่องการเงินเลยซักครั้ง

"เพราะมันยังไม่ถึงเวลาน่ะสิ ไจ่ไจ๋.....ตอนนี้นายยังเรียนอยู่ยังไม่มีรายได้เป็นของตัวเองพี่ถึงไม่ต้องการความช่วยเหลือจากนายในเรื่องนี้ แต่เมื่อไหร่เมื่อนายเรียนจบมีงานทำแล้วเมื่อนั้นหละถ้านายอยากจะเลี้ยงข้าวพี่หรือพาพี่ไปเที่ยวพี่จะไม่ปฏิเสธนายเลย" ไจ่ไจ๋ได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มออกเข้าใจเหตุผลของพี่ชายอย่างง่ายดาย

"พี่กลาง.....ผมสัญญาว่าเมื่อไหร่ที่ผมทำงานมีเงินเดือนเป็นของตัวเองผมจะเป็นคนพาพี่ไปเที่ยวเอง จะพาไปทุกที่ที่พี่อยากไปเลยด้วย" เคนได้ยินก็ยิ้มอย่างปลื้มใจกับเจ้าน้องชายคนเดียวของเขา

"พูดแล้วห้ามลืมนะ เพราะพี่จะให้นายพาพี่เที่ยวรอบโลกเลย" เคนพูดกระเซ้าน้องชายต่อ

"ได้แน่นอน ถ้าผมเรียนจบเมื่อไหร่ผมจะรีบหางานทำแล้วตั้งหน้าตั้งตาเก็บเงิน พอผมได้เงินก้อนหนึ่งผมจะพาพ่อแม่แล้วก็พวกพี่สามคนไปเที่ยว" ไจ่ไจ๋ให้คำมั่นกับพี่ชายเสียงหนักแน่น

"พี่ภูมิใจในตัวนายมากเลยนะไจ่ไจ๋ แม้ว่าน้องพี่คนนี้จะซื่อไปนิดหรือจะบื้อไปหน่อยแต่พี่ก็ภูมิใจที่นายไม่เคยลืมครอบครัว" เคนเอ่ยชมแล้ววาดแขนออกไปโอบไหล่น้องชาย

"ผมก็ภูมิใจที่มีพี่ชายที่แสนดีอย่างพี่กลาง ถึงแม้พี่ชายผมคนนี้จะดื้อไปบ้างจะชอบโวยวายไปหน่อยแต่ผมก็ภูมิใจที่พี่ไม่เคยทอดทิ้งผม" ไจ่ไจ๋เอาคำพี่ชายพูดย้อน

"เดี๋ยวเถอะ! ปากเก่งนักนะเรา" เคนแกล้งดุน้องแต่สีหน้ากลับยิ้มแย้ม

"นอนเถอะ เดี๋ยวพรุ่งนี้เราก็จะได้เที่ยวกันแล้ว" แล้วเคนก็พูดตัดบทเมื่อเห็นว่าน้องอ้าปากหาวตาเริ่มปรือแล้ว

"อืม....." ไจ่ไจ๋พยักหน้าแล้วเอนตัวลงนอนที่เตียงอย่างว่าง่าย ซึ่งเคนเองก็นอนลงข้างน้องเขาเฝ้ามองดูเจ้าน้องชายของเขาจนกระทั่งน้องหลับสนิทแล้วจึงค่อยกลับห้องพักของตัวเองเพื่อพักผ่อนบ้าง



- วันต่อมา -

"ลมพัดเย็นสบายจังเลย ว่าแต่เราจะไปพักที่ไหนกันดีหละครับ?" ไจ่ไจ๋เอ่ยถามพี่ชายขึ้นมาหลังจากที่ทั้งคู่เดินหอบสัมภาระทั้งหมดเดินเลาะตามชายหาดไปเรื่อยๆ

"ตรงข้างหน้านั้นที่พักเยอะเลย เราเลือกแบบแค่พออยู่ได้ก็พอแล้วหละ ประหยัดเงินดี" เคนตอบน้องชายแล้วชวนน้องเดินต่อ

"ความจริงไม่ต้องเช่าโรงแรมก็ได้ เรานอนริมหาดนี้ก็ท่าจะดีนะ" ไจ่ไจ๋ให้ความเห็นกับพี่ชาย

"จะบ้าหรืองัย! เดี๋ยวนอนดิ้นตกทะเลจะตายไม่รู้ตัวนะ แล้วน้ำท่าน่ะไม่ต้องอาบหรืองัยไอ้เซ่อ?" เคนรีบแย้งความเห็นนั้นโดยพลัน

"แหม.....ใครจะนอนดิ้นลงน้ำได้หละ แต่เอาเถอะนอนโรงแรมก็ดีเหมือนกันยุงจะได้ไม่กัด" น้องเล็กเถียงแต่ก็คิดว่านอนโรงแรมท่าจะดีกว่า

"เดี๋ยวหาโรงแรมได้แล้วเราออกมาเล่นน้ำกัน เล่นซักพักแล้วกลับไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วไปหาอาหารทะเลกินกัน ดีมั๊ย?" เคนถามความเห็นน้องชาย

"ดีครับ!" ไจ่ไจ๋ตอบรับพร้อมกับรอยยิ้มรู้สึกมีความสุขที่จะได้เที่ยวเล่นแบบจริงๆจังๆเสียที และแล้วสองพี่น้องก็มาเจอโรงแรมหนึ่งที่ถูกใจจึงตัดสินใจเข้าพักที่นี่

"เปิดห้องพักหนึ่งห้องครับ" เคนเดินไปจัดการเปิดห้องพัก จากนั้นเจ้าหน้าที่ของโรงแรมก็พาสองพี่น้องขึ้นมาที่ห้อง

"บรรยากาศดีจัง มองเห็นทะเลด้วย" ไจ่ไจ๋เปิดผ้าม่านแล้วชี้ทิวทัศน์ข้างนอกให้พี่ชายดู

"อืม.....บรรยากาศดีราคาก็ไม่แพง แบบนี้วันหลังชวนพวกพี่ๆเขามาเที่ยวแถวนี้ก็ดีนะ" เคนตอบรับแล้วเดินมายืนข้างน้องชาย ไจ่ไจ๋เหลือบมองพี่ชายแล้วยิ้ม

"นั่นสิ แต่ถ้าพี่ใหญ่กับพี่รองมาด้วยต้องเปิดห้องใหญ่เลยเราจะได้นอนด้วยกันทั้งสี่คน" เคนยิ้มตอบน้องแล้วเดินกลับมานั่งลงบนเตียง

"อยากออกไปเล่นน้ำหรือยัง? หรือว่าจะหาอาหารว่างรองท้องก่อน?" เคนถามความต้องการของน้องชาย

"อย่างหลังท่าจะดีกว่า" น้องเล็กตอบพร้อมกับยิ้มเขินๆ เคนจึงหัวเราะออกมาอย่างขำๆ

"ได้! ไป.....เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วลงไปหาอะไรรองท้องเสร็จแล้วเราไปเล่นน้ำกัน" พูดจบสองคนพี่น้องก็รีบเปลี่ยนชุดสำหรับจะไปลงเล่นน้ำทะเล

"เอากระเป๋าเงินใส่ในถุงพลาสติกด้วยนะพี่กลาง" ไจ่ไจ๋เอ่ยเตือนเมื่อเห็นพี่ชายสอดกระเป๋าเงินลงในกระเป๋ากางเกง

"เออใช่! ขอบใจนะที่เตือน" เคนว่าพร้อมกับตบไหล่น้องเบาๆแล้วเดินไปหาถุงพลาสติกกับหนังยางติดตัวไปด้วย

"จะกินอะไร?" หลังจากมานั่งในห้องอาหารของโรงแรมแล้วเคนก็ถามน้องชาย

"เอาแซนวิสทูน่ากับน้ำสับปะรดก็แล้วกัน" ไจ่ไจ๋ตอบ ได้ยินดังนั้นเคนจึงหันไปสั่งของที่น้องต้องการให้และสั่งในส่วนของตัวเองด้วย

"นายดูออกมั๊ยว่าฝั่งตรงข้ามโน้นน่ะเป็นแถบทะเลที่อยู่แถวบ้านอาเจียง" เคนชี้นิ้วไปทางทิวทัศน์ด้านนอกพร้อมกับถามน้องชาย

"จริงหรอ? พี่กลางรู้ได้ยังงัย? ผมดูไม่ออกเลย เพราะดูแล้วมันก็เหมือนๆกันทุกที่" ไจ่ไจ๋หันไปดูก่อนจะหันกลับมาทำหน้ายุ่งกับพี่ชาย

"หึๆๆๆ พี่ก็ดูจากแผนที่น่ะสิ แถมพี่น่ะทำงานบนเรือมาเป็นปีแล้วก็เลยพอรู้ทิศทางการเดินเรือว่าจะไปที่ไหนบ้าง" เคนตอบน้องยิ้มๆ

"งั้นถ้าเรานั่งเรือจากตรงนี้ไปก็ไปบ้านอาเจียงได้น่ะสิ" ไจ่ไจ๋ถามพี่ชายต่อ เคนได้ยินรอยยิ้มก็ค่อยๆจางลงเพราะเริ่มคิดถึงบ้านนั้นขึ้นมา

"ก็ไปได้ แต่ก็ไกลพอสมควรเลย" ไจ่ไจ๋เห็นสีหน้าของพี่ชายสลดลงก็พอจะรู้ความรู้สึกของพี่ชาย

"พี่กลางครับ ตอนนี้ยังไม่มีคนติดต่อขอซื้อบ้านพี่ยังกลับใจทันนะ" ไจ่ไจ๋เอ่ยขึ้นโดยไม่รู้แผนการของพ่อแม่เพราะพี่ใหญ่ไม่เคยบอกให้เขารู้

"ไม่หรอก ขายไปนั่นแหละดีแล้ว พี่จะได้ทำบุญให้อาเจียงด้วย" เคนตอบแล้วยิ้มบางๆให้น้องชาย

"ไม่น่าขายเลย น่าจะเก็บไว้เป็นบ้านพักเวลาที่พวกเราอยากไปเที่ยวก็ได้" ไจ่ไจ๋ยังคงรู้สึกเสียดายแทนพี่ชายอยู่

"โธ่! ถ้านายอยากได้บ้านพักตากอากาศเดี๋ยวพอถึงวันเกิดก็อ้อนพ่อแม่กับพี่ใหญ่พี่รองหน่อยสิ ไม่วายเขาจะรีบหามาให้" เคนพูดแบบติดตลก

"หูยยย.....ของมีค่าขนาดนั้นผมไม่กล้าขอหรอกครับ" ไจ่ไจ๋ส่ายหน้าปฏิเสธทันที ในขณะนั้นอาหารที่พวกเขาสั่งก็มาเสริฟให้

"ขอบคุณครับ" ไจ่ไจ๋เอ่ยขอบคุณแล้วยกจานมาไว้ตรงหน้าตัวเอง

"หอมมากเลยพี่กลาง" บอกพี่ชายด้วยสีหน้ายิ้มแย้มเหมือนเด็กๆได้ขนม

"งั้นก็รีบกินซะสิ" เคนว่าแล้วเร่งให้น้องรีบกิน ใช้เวลาเพียงไม่นานของว่างที่สั่งมาก็หมดลงไปอย่างรวดเร็ว สองพี่น้องจึงชวนกันไปเล่นน้ำทะเล

"อย่าไปไกลนะ" เคนไม่วายเตือนน้องด้วยความเป็นห่วงทั้งๆที่รู้ดีว่าน้องก็ว่ายน้ำออกจะเก่ง

"รู้แล้วครับ" ไจ่ไจ๋ว่าแล้วก็ดำผุดดำว่ายอย่างสนุกสนาน ส่วนเคนก็คอยจับตาดูน้องอยู่ไม่ห่างจึงทำให้ไม่ค่อยได้ว่ายน้ำซักเท่าไหร่เพียงแต่เดินตามไปอยู่ใกล้ๆน้องชายเท่านั้น

"ไม่ว่ายน้ำหรอพี่กลาง? เดินตามอยู่ได้" ไจ่ไจ๋โผล่หน้าขึ้นมาจากน้ำแล้วก็ถามพี่ชายอย่างสงสัย

"ไม่หละ" เคนปฏิเสธ ได้ยินดังนั้นน้องเล็กจึงทำหน้าเจ้าเล่ห์แล้วรีบว่ายน้ำหนีพี่ชาย

"เฮ้ยไจ่ไจ๋!!!" เคนตะโกนเรียกน้องแล้วรีบว่ายน้ำตามไปด้วย ไจ่ไจ๋เห็นพี่ชายว่ายน้ำตามมาก็รีบเร่งให้เร็วขึ้นอีก จนเมื่อว่ายตามมาทันเคนก็ดึงตัวน้องชายไว้

"ทำไมพี่เรียกแล้วไม่หยุด" เคนดุพร้อมกับบิดหูน้องชายไปด้วย

"โอ้ยๆๆๆๆ......ขอโทษครับพี่กลาง....." ไจ่ไจ๋ส่งเสียงร้องพลางขอโทษขอโพยพี่ชาย

"หูย! ก็พี่อ่ะเอาแต่เดินตามผม ว่ายน้ำก็ไม่ว่ายผมก็เลยอยากให้พี่ได้ว่ายน้ำออกกำลังมั่งสิ" ไจ่ไจ๋ว่าพร้อมกับทำหน้ามุ่ยเล็กน้อย

"ไม่ต้องยุ่งกับพี่นักเลย! ชอบทำให้พี่ใจหายใจคว่ำอยู่เรื่อย ถ้านายเป็นอะไรไปแม้แต่นิดเดียวพี่เตรียมหาที่อยู่ใหม่ได้เลย" เคนเอ็ดใส่น้องแล้ววักน้ำสาดใส่ด้วยความหมั่นไส้

"แหมๆๆๆ พี่ใหญ่ไม่โหดขนาดนั้นหรอก แล้วอีกอย่างผมน่ะอึดกว่าที่พี่คิดอีกนะ ไม่เป็นอะไรง่ายๆหรอก" ไจ่ไจ๋ว่าพร้อมกับหยิกแก้มพี่ชายทั้งสองข้างไปด้วย

"ว่ายน้ำแข่งกันขึ้นฝั่ง ไปก่อปราสาททรายกัน" ไจ่ไจ๋เสนอ เคนได้ยินก็หัวเราะ

"ไอ้บ้าเอ้ย.....อายุเท่าไหร่แล้วจะมานั่งก่อปราสาททราย" ไจ่ไจ๋ได้ยินก็ค้อนใส่

"ทำไมหละ? โตแล้วก่อปราสาททรายไม่ได้หรอ? ผมเห็นคู่รักเขายังนั่งปั้นกองทรายกันกระหนุงกระหนิงเลย" ไจ่ไจ๋เถียงพี่ชายกลับ

"เฮ้ย! งั้นพี่ขอบายว่ะ กลัวใครจะมาหาว่าพี่เป็นแฟนกับนายอีก" เคนพูดเป็นเชิงแซวน้องชาย น้องเล็กได้ยินก็ทำหน้าแหยๆ

"พี่กลางอ่ะ! อุตส่าห์ลืมๆไปแล้วเชียวดันพูดขึ้นมาอีก" เคนหัวเราะร่าอย่างอารมณ์ดีที่แหย่น้องได้

"เอางี้ดีกว่า ในเมื่อนายอยากให้พี่ว่ายน้ำงั้นก็ได้ แต่แข่งกันสองรอบไปกลับ ว่ายเข้าหาฝั่งแล้วว่ายกลับมาแถวๆนี้เอาธงที่ปักตรงนั้นเป็นแนวกั้นโอเคมั๊ย?" เคนพูดท้าน้องชาย ไจ่ไจ๋มองระยะทางก่อนที่จะพยักหน้ารับคำท้านั้น

"แต่ว่า.....ถ้าเหนื่อยหรือเป็นตะคริวต้องหยุดทันทีแล้วเรียกพี่ดังๆเลยนะ ห้ามฝืนว่ายต่อไป" ตั้งข้อแม้เพิ่มอีกเพราะรู้ว่าเวลาแข่งอะไรกันแล้วน้องชอบทุ่มสุดตัวเพื่อที่จะเอาชนะ

"ครับ" ไจ่ไจ๋รับปากอย่างหนักแน่นแล้วขยับเข้ามายืนข้างๆเคน

"เอาหละนะ หนึ่ง....สอง.....สาม!" สิ้นการนับของเคนสองพี่น้องก็ว่ายน้ำเข้าหาฝั่งกันอย่างรวดเร็ว ในตอนแรกเคนปล่อยให้น้องนำไปก่อนเมื่อเเห็นว่าน้องไปได้ครึ่งทางและบริเวณนั้นพอมีคนเล่นอยู่บ้างซึ่งน่าจะปลอดภัยสำหรับน้องแล้วเขาจึงออกแรงว่ายตามจนทัน

"เฮ้ย! มาได้งัยเนี่ย!" เมื่อว่ายมาถึงบริเวณน้ำตื้นจนไม่สามารถว่ายต่อไปได้แล้วไจ่ไจ๋จึงยืนขึ้นแต่พอเห็นพี่ชายยืนยิ้มพลางยักคิ้วให้เขาอยู่ข้างๆก็อุทานอย่างแปลกใจ

"ทำไมมาเร็วจัง เมื่อกี้ยังห่างกันตั้งเยอะ" ไจ่ไจ๋ถามพี่ชายอย่างทึ่งๆ

"ไม่รู้หรอว่าพี่น่ะเกาะหลังปลาโลมามา" เคนแกล้งพูดแบบติดตลก

"บ้าเปล่า! ปลาโลมาที่ไหนจะพาพยูนมาเกยตื้นได้ ฮ่าๆๆๆๆ!!!" พูดจบไจ่ไจ๋ก็หัวเราะชอบใจที่ได้แขวะพี่ชาย

"ไอ้ตัวดี!" เคนผลักหัวน้องชายแล้วใช้ช่วงที่น้องเผลอเตรียมพร้อมที่จะว่ายกลับออกไปอีก

"การแข่งขันยังไม่จบนะต้องว่ายกลับไปอีก พี่ไปหละนะ" พูดจบเคนก็ว่ายน้ำออกไปทันที

"อ้าวเฮ้ย! ขี้โกงนี่นา" ไจ่ไจ๋โวยวายแล้วรีบว่ายน้ำตามพี่ชายไป แม้เคนจะว่ายน้ำห่างออกไปแล้วแต่ก็ยังเหลียวมามองน้องชายเรื่อยๆแต่ไม่ใช่เพราะเขากลัวน้องจะตามมาทันแล้วเขาจะแพ้แต่เขามองเพราะห่วงความปลอดภัยของน้อง

"โอ้ย.....เหนื่อย....." เมื่อเห็นว่าตัวเองตามพี่ชายไม่ทันแน่แล้วไจ่ไจ๋จึงหยุดว่ายแล้วมองตามพี่ชายอย่างเคืองๆก่อนที่จะตัดสินใจไม่ตามไปแต่ดำน้ำเล่นอยู่แถวๆนั้น

"อ้าว! หายไปไหนของมัน" เมื่อเคนว่ายมาถึงจุดหมายแล้วเขาก็เหลียวกลับไปมองหาน้อง

"เอ....เมื่อกี้ก็ตามมาอยู่นี่นา....." เคนพำพึมกับตัวเองแล้วกวาดสายตามองหน้าน้องจนทั่วแต่ก็ไม่เจอ คราวนี้เคนเริ่มใจเสียเพราะกลัวว่าน้องจะเป็นตะคริวแล้วจมน้ำ เขาไม่รอช้ารีบว่ายน้ำกลับไปบริเวณที่เห็นน้องว่ายอยู่ครั้งสุดท้ายแต่เขาก็ยังหาน้องไม่เจออยู่ดี

"ไจ่ไจ๋!!!! ไจ่ไจ๋!!! นายอยู่ไหน!!???" เคนตะโกนเรียกน้อง ไจ่ไจ๋ที่ดำน้ำเล่นอยู่ไม่ไกลจากพี่ชายนักโผล่หัวขึ้นมาพอเห็นพี่ชายก็นึกอยากแกล้งจึงดำน้ำลงไปแล้วเอามือจับขาพี่ชาย

"เฮ้ย!!!!!" เคนร้องอุทานอย่างตกใจแต่พอตั้งสติได้เขาก็พอจะรู้ว่าต้องเป็นฝีมือเจ้าน้องชายตัวดีแน่ๆ

"ไจ่ไจ๋!!! ถ้าไม่โผล่หัวขึ้นมาให้เห็นตอนนี้หละก็เราไม่ต้องมาพูดกันอีก!!" เสียงประกาศของเคนทำเอาไจ่ไจ๋ที่หลบอยู่ด้านหลังพี่ชายถึงกับสะดุ้ง

"ทำไมใจร้ายแบบนี้หละ?" ไจ่ไจ๋ว่ายน้ำไปขี่หลังพี่ชายพร้อมกับทำเสียงประจบ

"สนุกมากมั๊ย?" เคนดึงมือน้องออกแล้วหันมาจ้องหน้าน้องชายตาเขม็ง

"ผมขอโทษ ก็ผมเห็นว่าผมว่ายตามพี่ไปไม่ทันแล้วก็เลยดำน้ำเล่นอยู่แถวนี้" ไจ่ไจ๋แก้ตัวเสียงอ่อยๆ

"พี่ไม่คิดว่านายจะไม่รู้ว่าพี่กำลังหานายอยู่" เคนพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง ไจ่ไจ๋หน้าจ๋อยเมื่อคำแก้ตัวของตัวเองฟังไม่ขึ้น

"กลับไปเล่นใกล้ๆฝั่ง พี่ให้เวลาอีกครึ่งชั่วโมง" พูดจบก็เดินขึ้นฝั่งไปอย่างหงุดหงิด ไจ่ไจ๋มองตามพี่ชายอย่างรู้สึกผิดก่อนจะเดินตามพี่ชายไปด้วย

"ผมขอโทษครับพี่กลางที่เล่นอะไรไม่รู้จักคิด" ไจ่ไจ๋ง้อพี่ชายเมื่อเคนกลับมานั่งหน้าขรึมอยู่บนชายหาด

"พี่จะด่าว่าผมหรือจะตีผมก็ได้แต่พี่อย่าทำหน้าเครียดแบบนี้เลย เดี๋ยวไม่หล่อนะ" ไจ่ไจ๋ว่าแล้วขยับเข้าไปกอดพร้อมกับซบหน้าลงที่ไหล่ของพี่ชาย เคนเหลือบตามองเจ้าน้องชายตัวดีก่อนจะถอนหายใจ

"ฟังให้ดี พอกลับไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าที่โรงแรมเสร็จแล้วพี่จะตีเรา" บอกน้องด้วยสีหน้าขรึมๆ ไจ่ไจ๋ได้ยินก็ชะงักไปเพราะไม่นึกว่าพี่ชายจะตีเขาจริงๆ

"จะเล่นน้ำก็ไป พี่จะรอตรงนี้" เคนบอกน้องเสียงดุๆทั้งที่จริงแล้วเขาเองก็ไม่ได้โกรธอะไรน้องมากมายเพียงแต่ขู่ให้กลัวเพื่อที่น้องจะได้ไม่กล้าทำซ่าส์กับเขาเท่านั้น

"ไม่ไป" ไจ่ไจ๋ส่ายหน้าดิกแล้วขยับเข้าไปกอดแขนพี่ชายเอาไว้

"ไม่ไปก็กลับโรงแรมแล้วเตรียมตัวโดนตีไว้ด้วย" เคนว่าพลางเหลือบมองเจ้าน้องชายตัวดี

"กลับก็กลับสิ" พูดเสียงแผ่วแล้วแอบลอบถอนใจที่พี่ชายดูท่าจะไม่ใจอ่อนกับเขา

"ดี! งั้นก็ลุกขึ้น!" ว่าแล้วเคนก็ขยับตัวลุกขึ้นก่อนจะหันมามองเจ้าน้องเล็กที่ทำท่าอิดออด

"จะนั่งอยู่ตรงนี้ให้เป็นหวัดตายหรืองัย!?" เอ็ดใส่พร้อมกับทำหน้าเข้ม ไจ่ไจ๋ทำตาละห้อยใส่พี่ชายแล้วยื่นมือจะให้พี่ชายดึงขึ้นมาแต่เคนกลับทำเมินแล้วเดินหนีไป

"ใจร้าย! คอยดูกลับไปจะฟ้องพี่ใหญ่!" ไจ่ไจ๋บ่นอุบอิบคนเดียวแล้วขยับตัวลุกขึ้นก่อนจะวิ่งตามพี่ชายไป

"พี่กลางรอด้วยสิ!" ร้องเรียกพี่ชายให้ชะลอฝีเท้า เคนได้ยินแล้วแต่ทำเป็นไม่ได้ยินแล้วไม่เหลียวมามองด้วย

"ฮึ! นึกว่าง้อหรืองัย!" เมื่อเห็นพี่ชายใจร้ายกับเขาเกินไปไจ่ไจ๋จึงไม่เดินต่อแล้วนั่งลงตรงแนวชายหาดตรงนั้นเอาดื้อๆ ส่วนเคนนั้นเมื่อไม่ได้ยินเสียงน้องชายก็อดไม่ได้ที่จะหันกลับมามอง

"อ้าว! ไปไหนอีกหละเนี่ย" บ่นพึมพำแล้วกวาดสายตามองหาน้องแล้วก็เห็นเจ้าน้องชายตัวแสบนั่งเอาไม้เขี่ยพื้นทรายด้วยสีหน้ามุ่ยๆ เห็นเช่นนั้นแล้วเคนก็อดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้เพราะตอนนี้น้องเล็กของเขาเหมือนกับเด็กซนๆที่ถูกขัดใจ

"ตกลงคืนนี้จะนอนตรงนี้ใช่มั๊ย?" เคนเดินกลับไปหาน้องแล้วเอ่ยด้วยสีหน้าขรึมๆ

"ใช่" ไจ่ไจ๋ตอบแล้วใช้ไม้ในมือเขียนอักษรที่พื้นที่มีใจความว่าพี่ชายใจร้าย เคนเหลือบมองที่น้องเขียนแล้วก็ได้แต่ส่ายหน้าไปมา

"ดื้ออีกแล้วนะ" ทำเสียงดุน้องแต่ก็นั่งยองๆลงข้างๆ ไจ่ไจ๋หมุนตัวนั่งหันหลังให้พี่ชายอย่างงอนๆ เคนยิ้มนิดๆแล้วหันไปดึงเศษไม้ในมือน้องมาเขียนบนพื้นทรายบ้าง

"เด็กดื้อไม่มีใครรัก" พูดพร้อมกับออกเสียงให้น้องได้ยินด้วย ไจ่ไจ๋หันหน้ากลับมาแล้วมองที่พี่ชายเขียนก่อนที่จะแย่งไม้ในมือพี่ชายมาแล้วเขียนโต้ตอบพี่ชายอีก

"ไม่รักก็ช่างสิ คนใจร้าย" เคนยิ้มกับข้อความนั้นแล้วเหลือบมองเจ้าน้องชายตัวดีก่อนจะดึงไม้ในมือน้องมาเขียนต่อ

"ใจร้ายกับเด็กดื้อเท่านั้น" ไจ่ไจ๋มองข้อความนั้นแล้วก็เขียนโต้ตอบพี่ชายอีก

"แถวนี้ไม่มีเด็ก" เคนหัวเราะเบาๆแล้วเขียนตอบน้องอีก

"มีสิ นั่งอยู่ตรงนี้งัย" เคนเขียนเครื่องหมายลูกศรชี้ไปทางน้องชาย ไจ่ไจ๋เห็นก็รีบกระเถิบตัวหนีให้พ้นหัวลูกศรของพี่ชายที่ชี้มาทางเขา

"หึๆๆๆ" เคนหัวเราะในลำคอแล้วขยับเข้าไปกอดคอน้องชาย

"ยอมแพ้แล้ว ลุกขึ้นแล้วกลับโรงแรมกัน เดี๋ยวจะเป็นหวัด" เอ่ยปากง้อน้องชายขึ้นมาก่อน

"ไม่กลับ เดี๋ยวถูกตี" ไจ่ไจ๋ทำเสียงกระเง้ากระงอดใส่พี่ชาย

"ถ้าไม่กลับนี่แหละจะถูกตี โดนตีตรงนี้อายคนอื่นด้วยนะจะบอกให้" เคนว่าแล้วลุกขึ้นก่อนจะยื่นมือไปหาน้อง แต่ไจ่ไจ๋ยังทำหน้างออยู่

"เอ้า! ไม่ตีก็ได้ ลุกขึ้นเร็วเข้า" พอได้ยินดังนั้นไจ่ไจ๋ก็ค่อยยิ้มออก

"จริงนะ! ถ้ากลับคำผมฟ้องพี่ใหญ่ด้วย" ไจ่ไจ๋ย้ำคำด้วยสีหน้าเปลี่ยนอารมณ์แบบกระทันหัน

"จริงสิ" เคนรับปากน้องอีกครั้ง ดังนั้นไจ่ไจ๋จึงยื่นมือไปหาพี่ชายแล้วลุกขึ้น

"ฮัดเช้ย!!!" แล้วก็จามตามออกมา เคนเห็นดังนั้นก็ถอนหายใจ

"เห็นมั๊ย? นั่งใส่เสื้อผ้าเปียกๆตากลมแบบนี้หวัดจะถามหาอยู่แล้ว" บ่นน้องชายออกมาอย่างเอือมระอา

"ก็เพราะใครหละ? ฮัดเช้ย!!!" น้องเล็กโทษพี่ชายหน้าตาเฉยก่อนที่จะจามออกมาอีกครั้ง

"เฮ่อ! ไม่เถียงด้วยแล้ว กลับโรงแรมอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเลยเร็วๆ ขืนนายเป็นหวัดกลับไปมีหวังพี่โดนพี่ชายสุดที่รักของนายเทศน์สามวันเจ็ดวันไม่เลิกแน่" เคนตัดบ่นแต่ไม่วายบ่นน้องชายไปด้วย

"หนาวจัง" ไจ่ไจ๋บอกพี่ชายเพราะรู้สึกหนาวขึ้นมาตะหงิดๆ

"นั่นงัย! ไม่สบายแล้วใช่มั๊ยเนี่ย? เฮ่อ!....." เคนได้ยินก็บ่นออกมาอีกแต่ยังมีแก่ใจโอบไหล่น้องเอาไว้เพื่อเพิ่มความอบอุ่นให้น้องด้วย

"เดินเร็วๆหน่อย เดี๋ยวก็ถึงโรงแรมแล้ว" พูดจบก็รีบพาน้องเดินกลับโรงแรมโดยเร็ว



- ตอนกลางคืน -

"เป็นงัย? นอนพักแล้วดีขึ้นมั๊ย?" เคนถามทันทีที่น้องลืมตาตื่น ไจ่ไจ๋เอามือขยี้ตาด้วยท่าทางงัวเงีย

"กี่โมงแล้วครับพี่กลาง?" ถามพี่ชายเสียงแหบๆ

"ทุ่มกว่าๆแล้ว นายงีบยาวเลย" เคนตอบแล้วเอามือปัดผมเผ้าของน้องให้เข้ารูป

"มีน้ำมูกไหลหรือเปล่า? แล้วปวดหัวมั๊ย?" ถามน้องต่ออย่างเป็นห่วงเพราะกลัวน้องจะไม่สบาย

"ไม่ครับ แต่เจ็บคอนิดหน่อย" ไจ่ไจ๋ตอบไปตามจริง

"ตายหละ จะเป็นไข้แหงๆเลยแบบนี้ เดี๋ยวนายต้องกินยาดักไว้แต่เนิ่นๆเลยนะ" พอได้ยินเช่นนั้นเคนเองก็พลอยว้าวุ่นไปด้วย เขารีบลุกไปหายามาให้น้องกิน

"ยังไม่ได้กินข้าวเลยนะพี่กลาง" ไจ่ไจ๋ท้วงติง

"กินยาเข้าไปก่อนเถอะ เดี๋ยวพี่จะสั่งอาหารขึ้นมาให้" เคนว่าแล้วหันไปรินน้ำใส่แก้วให้น้อง

"อ้าว! ไหนบอกว่าจะออกไปหาอาหารทะเลกินกันยังงัยหละ?" ไจ่ไจ๋ทักท้วงพี่ชายอีกเพราะอยากกินอาหารทะเลอยู่เหมือนกัน

"จะออกไปยังงัย? ข้างนอกลมแรงออกเดี๋ยวนายจะไม่สบายเอาง่ายๆอีก" เคนให้เหตุผลแต่พอเห็นสีหน้าผิดหวังของน้องแล้วก็พูดต่ออย่างเอาใจ

"เดี๋ยวไว้พรุ่งนี้แล้วค่อยกินอาหารทะเล" แม้จะเสียดายที่ไม่ได้ออกไปในค่ำคืนนี้แต่ไจ่ไจ๋ก็ไม่งอแงอีกเพราะรู้ว่าเขาทำให้พี่ชายเป็นห่วงอีกแล้ว

"เอางั้นก็ได้ครับ" ไจ่ไจ๋รับคำก่อนจะกินยาลงไป

"งั้นเรามาดูกันดีกว่าว่าคืนนี้เราจะกินอะไรกันดี" เคนว่าแล้วก็เอาเมนูมานั่งดูกับน้อง

"ข้าวผัดอเมริกันก็น่ากินนะ" ไจ่ไจ๋ดูแล้วชี้เมนูที่หมายตาไว้

"นายเอาอันนี้ใช่มั๊ย?" เคนว่าแล้วถามน้องเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง

"อืม.....แต่เสต็กปลาก็น่ากินเหมือนกัน" พอพี่ชายถามย้ำไจ่ไจ๋ก็เริ่มลังเล เคนจึงยิ้มออกเมื่อเห็นความตะกละของน้อง

"สลัดกุ้งก็ท่าจะดีนะเนี่ย" เคนพูดต่อเป็นเชิงแหย่น้อง

"นั่นสิ เขาทำดูแล้วน่ากินจังเนอะ" ไจ่ไจ๋เองก็ไม่ปฏิเสธ

"ป่อเปี๊ยะทะเลก็น่าสนด้วยเหมือนกัน" เคนพูดต่อแล้วรอดูว่าน้องจะปฏิเสธอะไรบ้างหรือไม่

"ใช่เลยพี่กลาง อันนี้ผมก็มองอยู่" แต่ไจ่ไจ๋ก็ไม่ปฏิเสธเลยซักอย่าง

"แบบนี้นายคงเลือกไม่ถูกแหงๆ" เคนพูดดักคอน้องชายขึ้นมาอีก ไจ่ไจ๋มองพี่ชายแล้วยิ้มเขินๆ

"ฮึ! ไอ้ตะกละ! พานายมาด้วยค่ากินของนายแต่ละวันเท่ากับพี่ใช้เป็นอาทิตย์เลย" เคนผลักหัวน้องชายอย่างหมั่นไส้

"งั้นเอาข้าวผัดสองจาน แล้วเอาสเต็กปลา สลัดกุ้ง แล้วก็ป่อเปี๊ยะทะเลมาแบ่งกันกิน โอเคมั๊ย?" เคนถามไปงั้นๆเพราะรู้ว่าน้องก็คงไม่แย้งอะไรอยู่แล้ว

"ผมตามใจคนจ่ายครับ" น้องเล็กพูดเป็นเชิงหยอกพี่ชาย

"ตามใจคนจ่ายงั้นข้าวไข่เจียวสองจานก็พอ" เคนแหย่น้องกลับ

"แหมๆๆๆ อย่างกนักเลย เงินเก็บมีเยอะไม่ใช่หรอ? ใช้จ่ายกับน้องกับนุ่งเท่านี้ทำงกไปได้" ไจ่ไจ๋รีบแย้งขึ้นมาทันที

"ฮึ! ไอ้เจ้าเล่ห์" เคนต่อว่าน้องแล้วเดินไปโทรสั่งอาหารตามที่น้องชายต้องการ

"อุ๊ย! จะสองทุ่มแล้ว ยังไม่ได้โทรไปคุยกับพี่ใหญ่เลย" แล้วน้องเล็กก็อุทานขึ้นมาอย่างนึกขึ้นได้

"ทำไมต้องโทรหามันด้วย ถ้ามันอยากคุยก็ให้มันโทรมาเองสิ" เคนต่อว่าน้องชายกลายๆ

"ไม่ได้ครับ พี่ใหญ่บอกว่าช่วงนี้พี่รองเขางอนที่พี่ใหญ่เอาแต่โทรมาคุยกับผม เลยบอกให้ผมเป็นคนโทรไปหาพี่เขาเองพี่รองจะได้ไม่งอแงมาก" เคนได้ยินเหตุผลก็หัวเราะอย่างนึกขำพี่ชายคนรอง

"ไอ้พี่รองของนายนี่บางทีก็นึกว่ามันเป็นน้องชายคนเล็กนะเนี่ย" เคนได้ทีนินทาพี่ชาย

"นั่นน่ะสิครับ เห็นพี่ใหญ่บ่นอุบเลยว่าพี่รองขี้งอนมากแล้วก็เรียกร้องความสนใจตลอดจนพี่ใหญ่อ่อนใจเลย" ไจ่ไจ๋รีบผสมโรงทันที

"กรรมของพี่ใหญ่....." เคนว่าพลางหัวเราะไปด้วยก่อนจะพยักหน้าให้น้องโทรไปหาพี่ชาย

"พี่ใหญ่ครับ" เมื่อฝ่ายตรงข้ามรับสายไจ่ไจ๋ก็ทักทายออกไป

"ทำไมวันนี้โทรมาช้าจัง? พี่รอตั้งนาน" เสียงพี่ชายโอดครวญตามมาทันที

"แหม....ผมงีบหลับยาวไปหน่อยเลยโทรมาช้า พี่รองอยู่เปล่า?" ไจ่ไจ๋ตอบแล้วถามหาแวนเนส

"อยู่สิ นอนหลับปุ๋ยหนุนตักพี่อยู่เนี่ย แหม.....อยากจะหยิกแก้มมันให้ช้ำซะจริงจริ้งงง......โครตอ้อนเลย....." ไจ่ไจ๋ได้ยินดังนั้นก็หัวเราะ

"ก็ดีแล้วนี่ พี่รองเขาช่วยอ้อนพี่ใหญ่แทนผม แบบนี้พี่ใหญ่ก็ไม่เหงาแล้วงัย" พูดโต้ตอบพี่ชายอย่างอารมณ์ดี

"ไม่เหมือนกันเพราะไอ้พี่รองตัวดีของนายมันอ้อนได้น่าเตะกว่านายเยอะ" แม้จะพูดแบบนั้นแต่น้ำเสียงของพี่ชายก็เหมือนจะเอ็นดูแวนเนสมากกว่าจะหมั่นไส้เหมือนที่พูด

"ฮึ! ให้ผมเดานะว่าตอนนี้พี่ใหญ่ต้องกำลังแอบหอมแก้มพี่รองอยู่แน่ๆ" ไจ่ไจ๋แกล้งพูดแหย่พี่ชายไป

"นายรู้ได้ยังงัยเนี่ย?" พี่ใหญ่ถามกลับมาด้วยน้ำเสียงปนหัวเราะ

"รู้สิ เพราะโทรศัพท์ผมติดเรด้าอยู่" พูดจบไจ่ไจ๋ก็หัวเราะกับมุกของตัวเองที่ได้มาจากเคนอีกทีหนึ่ง เคนได้ยินน้องพูดก็ได้แต่ส่ายหัวยิ้มๆ

"ไอ้เจ้าพี่กลางหละ?" ไจ่ไจ๋เหลือบมองหน้าเคนเมื่อได้ยินพี่ใหญ่ถาม

"ทำงานอยู่" เคนบอกน้องแบบไม่ออกเสียง

"พี่กลางทำงานอยู่ครับ" ไจ่ไจ๋ตอบไปตามนั้น

"งั้นนายก็อยู่คนเดียวน่ะสิ" พี่ใหญ่ถามกลับมาอีก

"ครับ แต่เดี๋ยวว่าจะไปกินข้าว" ตอบพี่ชายกลับไป

"วันนี้กินข้าวกับอะไรหละ? หรือว่ากินแบบปุฟเฟ่อีก?" ซักถามน้องชายไม่เลิก

"ก็.....บุฟเฟ่เหมือนเดิม....." ไจ่ไจ๋ตอบพร้อมกับยิ้มแหยๆเพราะก็รู้สึกไม่ดีที่ปิดบังพี่ชาย

"ก๊อกๆๆๆ!!! อาหารมาส่งค่ะ" เสียงเคาะประตูห้องพักดังขึ้น เคนรีบลุกพรวดไปเปิดประตูทันที

"เอ๊ะ! พี่ว่าพี่ได้ยินเหมือนใครมาเคาะประตูห้องนายหรือเปล่า? สั่งอาหารมาหรอ? ไหนบอกว่าจะไปกินบุฟเฟ่งัย?" เสียงพี่ใหญ่ถามซักออกมาอีกยาวเหยียด

"เอ่อ....คือว่า.....เดี๋ยวนะครับพี่ใหญ่......" ไจ่ไจ๋ว่าแล้วก็เอามือปิดลำโพงโทรศัพท์แล้วหันมาทำหน้าแหยๆกับเคน

"ส่งผิดห้อง" เคนส่งซิกส์ให้น้องโกหกพี่ชาย ไจ่ไจ๋พยักหน้ารับหงึกๆแล้วรออีกครู่หนึ่งจึงยกโทรศัพท์ขึ้นมาใหม่

"เขามาส่งผิดห้องน่ะครับ งงเหมือนกันที่จู่ๆมีคนเอาอาหารมาเสริฟ" ไจ่ไจ๋ว่าพลางหัวเราะกร่อยๆ ส่วนเคนเองพอจ่ายเงินเสร็จก็รีบยกอาหารทั้งหมดเข้ามาวางไว้

"งั้นหรอ?" เสียงพี่ชายพึมพำมาตามสาย

"พี่ใหญ่ครับ คือว่าผมมีสายซ้อนของพี่กลางเข้ามาน่ะ พี่ถือสายรอก่อนนะ" ไจ่ไจ๋ตั้งใจจะตัดบทพี่ชาย

"อืม.....เดี๋ยวพี่รอ....." แต่พี่ชายกลับตอบรับ ไจ่ไจ๋จึงได้แต่ยิ้มเฝื่อนๆให้พี่ชายคนกลาง เคนถอนหายใจเฮือกแล้วดึงโทรศัพท์ในมือน้องไปกดวางสายแล้วปิดเครื่องทันที

"พี่กลาง! ทำแบบนี้พี่ใหญ่จะยิ่งสงสัยนะ" ไจ่ไจ๋ร้องท้วงอย่างไม่เห็นด้วย

"ไม่หรอก นายก็แก้ตัวว่าแบตหมด" เคนตอบแล้วบอกให้น้องมานั่งกินข้าว

"รู้สึกไม่ดีเลยที่โกหกพี่ใหญ่" น้องเล็กพูดเสียงอ่อยๆ เคนเองก็รู้สึกเช่นเดียวกับน้องแต่เขาก็ไม่กล้าพอที่จะบอกพี่ชายว่าเขาถูกพักงาน

"ไม่ได้โกหกซักหน่อยแค่เราบอกความจริงไม่หมดเอง" เคนแย้งขึ้นแล้วจัดเรียงอาหารที่สั่งมาลงที่โต๊ะ

"กินข้าวเถอะ" ว่าแล้วก็บอกให้น้องลงมือกินข้าว และในระหว่างที่กำลังจะลงมือกินข้าวนั้นเสียงมือถือของเคนก็ดังขึ้น

"โอ้ย! ไม่เลิกเลยโว้ย!" เคนบ่นเมื่อเห็นว่าเป็นพี่ใหญ่โทรมา

"ครับ" เคนรับสายแล้วเอานิ้วทาบปากเป็นเชิงบอกให้น้องไม่ต้องพูดอะไร

"อยู่ไหน?" เสียงพี่ชายถามกลับมา

"เอ่อ.....ทำงานอยู่" เคนตอบ

"ทำงานอยู่หรอ? ทำไมเสียงในครัวเงียบจัง?" เคนกลืนน้ำลายเอื๊อกเมื่อพอจะรู้ว่าพี่ชายโทรมาเพื่อจับพิรุธพวกเขา

"อ้อ! ชั้นออกมาเข้าห้องน้ำพอดีน่ะ กำลังจะกลับเข้าไปในครัว นายมีอะไรหรือเปล่า?" เคนแก้ตัวแล้วถามพี่ชายกลับไป

"เมื่อกี้นายโทรหาน้องหรือเปล่า?" เคนได้ยินก็เหลือบตาไปทางน้องชาย

"โทร ชั้นจะบอกให้มันรีบลงไปกินข้าวแต่ยังคุยกันไม่จบเลยสายก็หลุดไป สงสัยแบตมันหมด" เคนตอบพร้อมกับแก้ตัวแทนน้องอย่างลื่นไหล จนไจ่ไจ๋ที่นั่งฟังอยู่ต้องยกนิ้วโป้งให้

"อ้อ! งั้นไม่มีอะไรหรอก เพราะน้องคุยกับชั้นอยู่แล้วสายก็หลุดไปเหมือนกัน แค่นี้แหละนายไปทำงานต่อเถอะ" เมื่อได้ยินดังนั้นเคนก็ค่อยโล่งอกขึ้นมาหน่อย

"ครับ" เคนรับคำก่อนจะวางสายไป

"เฮ้ย! อะไรมันจะจับผิดเก่งแบบนี้วะเนี่ย เกือบไปแล้วเชียว" พอวางสายจากพี่ชายได้เคนก็บ่นออกมาด้วยความโล่งใจ

"แหม.....พี่กลางนี้ก็เนียนอย่างชนิดที่ว่าใครก็ไม่สามารถนะเนี่ย" ไจ่ไจ๋พูดเหมือนจะชมแต่เคนถือว่าเป็นคำด่ามากกว่า

"นี่! ถ้าไม่พูดแบบนั้นนายก็โดนด่าด้วยกันนั่นแหละ" พูดกับน้องเสียงห้วน

"ครับๆๆๆ สรุปว่าพี่กลางเก่งที่สุดเลย" ไจ่ไจ๋ว่าแล้วก็ยิ้มให้พี่ชาย เคนทำท่าจะเขกหัวน้องแต่ก็ไม่ได้ทำ

"ช่วงนี้พี่หละกลัวเสียงโทรศัพท์ดังจริงๆ" เคนไม่วายบ่นต่ออีกด้วย

"เอาเถอะๆๆๆ จะเกิดอะไรขึ้นแล้วค่อยว่ากันแต่ว่าตอนนี้ท้องผมร้องขออาหารแล้ว" พูดจบไจ่ไจ๋ก็ตักอาหารตรงหน้ากินทันที เคนเหลือบตามองน้องแล้วก็อดยิ้มกับความตะกละของน้องไม่ได้เพราะไม่ว่าจะตกอยู่ในสถานการณ์ไหนน้องเล็กของเขาก็มีความสุขกับสิ่งเล็กๆน้อยๆได้เสมอ



Create Date : 30 ธันวาคม 2550
Last Update : 30 ธันวาคม 2550 21:34:54 น. 0 comments
Counter : 1108 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 
 

loving_zai
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]




[Add loving_zai's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com