"ทำไมมานอนตรงนี้หละ?" เสียงแวนเนสที่ร้องเรียกทำให้เจอร์รี่ค่อยลืมตาขึ้นมา เขากระพริบตาถี่ๆก่อนจะมองหน้าน้องชายที่จ้องเขาอยู่
"มีงานหรอวันนี้?" เอ่ยถามน้องด้วยน้ำเสียงแหบแห้งพลางขยับตัวลุกขึ้น
"อืม...." แวนเนสตอบพร้อมกับพยักหน้าเล็กน้อย
"ทำไมไม่นอนที่ห้องหละ?" ถามพี่ชายต่ออีก
"ไม่มีอะไรหรอก" เจอร์รี่ตอบแล้วเอามือเสยผมให้เข้าที่เข้าทาง
"เสี้ยวเทียนหละ?" ถามหาน้องชายอีกคน
"มันยึดเตียงชั้นไปน่ะสิชั้นถึงระเห็จออกมานอนตรงนี้" ตอบแบบติดตลกเพราะไม่อยากให้น้องคิดมาก
"เราหละเป็นงัย?" ถามน้องต่ออีก
"ก็ไม่เป็นไรหนิ" แวนเนสตอบพร้อมกับหลบตาพี่ชาย
"งั้นก็ดี ไปทำงานซะจะได้ไม่ต้องคิดอะไรมาก" เอื้อมมือมาขยี้หัวน้องเบาๆ
"แล้วนายหละ?" แวนเนสถามพี่ชายบ้าง
"ขอดูสถานการณ์ก่อน ถ้าไม่มีอะไรมากก็ว่าจะเข้าบริษัทเหมือนกัน" พูดจบก็พยักหน้าให้น้องคล้ายจะตัดบท แต่แวนเนสก็พูดขึ้นอีก
"ให้ชั้นเอาเสี้ยวเทียนไปด้วยดีมั๊ย? นายจะได้ไม่ต้องห่วงโน้นกังวลนี่" เสนอขึ้นมาเพราะรู้ว่าพี่ชายเป็นห่วงน้อง
"ไม่เป็นไรหรอกชั้นดูมันเอง ขืนนายเอามันไปด้วยเวลามันดื้อขึ้นมาจะคุมไม่อยู่" แวนเนสหัวเราะเฝื่อนๆก่อนจะพยักหน้า
"เออนี่.....เรื่องที่เกิดขึ้นน่ะชั้นบอกพ่อแม่แล้วนะ" แล้วเจอร์รี่ก็บอกน้องชายไปตรงๆ
"หา!!?? บอกไปแล้วหรอ?" แวนเนสอุทานอย่างตกใจ
"แล้วพ่อแม่ไม่ตกใจแย่หรอ?" ซักไซร้พี่ชายต่ออีก
"ก็ตกใจเหมือนกัน และก็บอกว่าจะรีบกลับมาทันที" ตอบคำถามนั้นจบก็ถอนหายใจ
"ชั้นโดนสวดไปหลายยกเหมือนกัน ที่มีเรื่องอะไรแล้วไม่รีบบอก" แวนเนสมองพี่ชายอย่างเห็นใจ เขารู้ดีว่าความรับผิดชอบของพี่ชายนั้นใหญ่หลวงมากนัก
"แล้วชั้นก็คุยกับพ่อแม่แล้วด้วยว่าหากความทรงจำของไจ่ไจ๋ยังไม่กลับคืนมาในเร็ววัน ชั้นจะให้แม่พาเสี้ยวเทียนไปอยู่กับแม่ซักระยะ" แวนเนสนิ่งไปเมื่อได้ยินเช่นนั้น
"เมื่อคืนมันอาละวาดอีกหรอ?" ย้อนถามพี่ชายกลับไป
"ไม่เชิงหรอก แต่น้องมันเสียใจแล้วก็เอาแต่โทษตัวเองตลอด ชั้นเลยไม่อยากให้น้องอยู่กับสภาพแวดล้อมเดิมๆ บางทีการได้ไปพักผ่อนไกลๆซักช่วงนึงอาจทำให้น้องสงบลงก็ได้" คำอธิบายของพี่ชายนั้นทำให้แวนเนสไม่รู้จะพูดอะไรต่อเพราะแม้เขาไม่อยากให้น้องไปไหนไกลหูไกลตาแต่เขาก็ต้องเลือกหนทางที่ดีที่สุดสำหรับน้อง
"ชั้นเลยบอกนายไว้ก่อน แล้วจะหาทางบอกไจ่ไจ๋อีกทีแต่รายนั้นคงไม่ยากเย็นอะไรเพราะน้องก็จำเราไม่ได้อยู่แล้ว" แวนเนสพยักหน้ารับอีกครั้งก่อนจะพูดตัดบท
"ก็เอาตามนั้น งั้นชั้นไปทำงานก่อนนะ" ว่าแล้วก็หมุนตัวจะออกจากบ้าน
"เสี่ยวจือไม่มารับหรอ?" ถามน้องไล่หลังไป
"เปล่า ชั้นจะนั่งแท๊กซี่ไป" พูดจบก็เปิดประตูเดินออกไปทันที หลังจากน้องออกไปแล้วเจอร์รี่ก็ถอนหายใจเบาๆก่อนจะขยับตัวลุกขึ้นเดินไปล้างหน้าล้างตาในห้องน้ำ เมื่อเดินออกมาก็เจอไจ่ไจ๋ที่เดินงัวเงียลงมา
"ตื่นแล้วหรอ? หลับสบายมั๊ย?" เจอร์รี่เอ่ยทักแล้วปั้นรอยยิ้มสดใสให้น้องชาย
"สบายครับ ขอโทษนะครับที่ตื่นสาย" ไจ่ไจ๋ตอบพร้อมกับยิ้มแหยๆรู้สึกอายที่ตื่นสายกว่าคนอื่น
"ปกตินายก็ตื่นสายอยู่แล้วนี่" เจอร์รี่พูดยิ้มๆ
"หิวหรือยัง? พี่ต้มข้าวต้มไว้เดี๋ยวจะออกไปซื้อกับข้าวมาให้" ถามน้องชายต่ออีก
"ไม่ต้องหรอกครับ คือว่า.....ผมออกไปซื้อให้พวกคุณดีกว่า" ไจ่ไจ๋รีบปฏิเสธเพราะรู้สึกเกรงใจที่ตัวเองไม่ได้ช่วยทำอะไร
"พี่คงหิวตายก่อนแน่เลย กว่านายจะอาบน้ำเสร็จ" เจอร์รี่แกล้งพูดแหย่น้อง
"แหม....ผมล้างหน้าแปรงฟันเสร็จก็ออกไปซื้อได้แล้ว รอเดี๋ยวเดียวนะเดี๋ยวผมไปซื้อให้!" พูดจบก็วิ่งจู๊ดเข้าห้องน้ำทันที ท่าทางของน้องเล็กทำให้เจอร์รี่หัวเราะออกมาได้
"ไม่ต้องรีบหรอก พี่พูดเล่นพี่ไม่ได้หิวอะไรเลย" เจอร์รี่ร้องบอกน้องชายก่อนจะเดินมานั่งลงที่โซฟาแล้วหยิบหนังสือพิมพ์ขึ้นมาอ่าน ตอนนั้นเองเคนก็เดินลงมาจากบันได
"อ้าว....มาทำหน้างอใส่พี่ใหญ่อีกแล้ว" เจอร์รี่เหลือบตาขึ้นมองเมื่อเห็นน้องยืนค้ำหัวเขาพร้อมกับทำหน้ามุ่ยใส่
"เมื่อคืนบอกชั้นว่าจะช่วยจัดรูป จนป่านนี้รูปทุกใบยังกองอยู่ที่เดิมเลย" พูดด้วยน้ำเสียงกระเง้ากระงอด
"วันอื่นยังมีเวลาอีกตั้งเยอะ" เจอร์รี่แย้งก่อนจะตบที่ว่างข้างๆ
"นั่งลงมานี่ ยืนค้ำหัวผู้ใหญ่ได้ยังงัย?" เคนเบ้ปากแต่ก็ทรุดตัวนั่งลงกับพี่ชาย
"แวนเนสหละ?" ถามถึงพี่ชายอีกคน
"ออกไปทำงานตั้งแต่นายยังนอนอุตุอยู่ข้างบนแล้ว" เจอร์รี่ตอบแล้วยิ้มบางๆ
"แล้วมันเป็นยังงัยบ้าง?" ถามพี่ชายต่ออีก
"เราน่ะเอาแต่เป็นห่วงคนอื่นตัวเองเอาให้รอดก่อนเถอะ" ว่ากระทบน้องชายไปในตัว
"นี่! ตอนนี้ชั้นไม่เป็นแล้ว ถึงจะมีอะไรเกิดขึ้นอีกชั้นก็รับมือได้ทุกอย่าง" เคนพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
"ตอนนี้ทำเป็นพูดดีไป เดี๋ยวตกดึกหน่อยก็ร้องไห้วิ่งหาพี่ใหญ่อีก" เคนได้ยินก็ตีแขนพี่ชายอย่างขัดใจที่พี่ชายชอบพูดขัดคอเขาตลอด
"โอ้ย! มาตีชั้นทำไมเนี่ย!" เจอร์รี่โวยวายใส่น้อง ในตอนนั้นเองไจ่ไจ๋เดินออกมาจากห้องน้ำพอดีเขาหยุดยืนมองสองพี่น้องเงียบๆ
"ก็ชั้นพูดอะไรนายก็ขัดตลอด เออออกับชั้นซักเรื่องได้มั๊ย!?" ตวัดเสียงพูดกับพี่ชาย
"เออออกับนายก็เท่ากับให้ท้ายเวลานายทำตัวเกเรน่ะสิ" พี่ใหญ่ได้ทีพูดแขวะน้องอีก
"ชั้นทำตัวเกเรที่ไหน?" เคนเริ่มโวยวายขึ้นมาบ้าง
"โอโห.....ถามแบบนี้จะให้ชั้นตอบยังงัยหละ? เพราะถ้าให้ตอบจริงๆคงต้องคุยกันเป็นเดือน" พี่ใหญ่ไม่วายแหย่น้องอีก เพราะแม้ในใจเขาจะรู้สึกเจ็บแต่อย่างน้อยการได้เห็นน้องโวยวายใส่ก็ยังดีกว่าการที่น้องนิ่งเงียบเป็นไหนๆ
"ไม่คุยด้วยแล้ว! ลุกเลยไปช่วยกันข้างบน!" แล้วเคนก็ดึงแขนพี่ชายเป็นการใหญ่
"เฮ้ยๆๆๆๆ!!! เรื่องอะไรมาฉุดกระชากชั้นแบบนี้หละ? คิดจะทำอะไรฮึ?" พี่ใหญ่เป็นฝ่ายโวยวายบ้าง
"ไอ้บ้า!! ชั้นไม่พิศวาสนายหรอก! ไปช่วยกันจัดเรียงรูปต่อเร็วๆ!" ออกคำสั่งกับพี่ชายแล้วเร่งพี่ชายยิกๆ
"เรื่องอะไรชั้นต้องช่วย นายรื้อออกมาเองก็เก็บเองสิ วันนี้ไม่หลงกลนายง่ายๆหรอก" เจอร์รี่ว่าแล้วก็นั่งลงตามเดิม
"ได้!! งั้นชั้นก็ไม่ทำเหมือนกัน เพราะยังงัยมันก็ไม่ใช่ห้องนอนของชั้นจะรกยังงัยก็ช่างมัน!" แล้วเคนก็นั่งลงบ้าง
"อ้าวเฮ้ย!! อยากมีเรื่องหรืองัย? นายเป็นคนรื้อก็ต้องเป็นคนเก็บสิเรื่องอะไรมาทิ้งของเละเทะในห้องชั้น" เจอร์รี่ถลึงตาใส่น้องชาย
"ห้องนายแล้วชั้นเกี่ยวอะไรด้วย? ห้องนายรกแล้วมันกงการอะไรของชั้น?" เคนลอยหน้าลอยตาถามพี่ชาย คราวนี้พี่ใหญ่เงื้อมือขึ้นเคนที่ระวังตัวอยู่แล้วจึงรีบลุกหนีได้ทันก่อนจะโดนฝ่ามือพิฆาตของพี่ชาย
"เดี๋ยวโดนแน่!" พี่ใหญ่ชี้หน้าน้องพร้อมกับพูดขู่ ไจ่ไจ๋ที่ยืนมองอยู่นานจึงหลุดหัวเราะออกมากับการทะเลาะกันเหมือนเด็กๆของทั้งสองคน
"อ้าว! มาอยู่นี่ตั้งแต่เมื่อไหร่" เคนอุทานก่อนจะร้องทักน้องชายเพราะเพิ่งเห็น
"ออกมาทันดูพวกคุณสองคนปะทะคารมกันแหละครับ" ไจ่ไจ๋ตอบขำๆแล้วพูดต่อ
"ผมจะออกไปซื้อกับข้าว พวกคุณจะเอาอะไรเป็นพิเศษมั๊ย?" เคนหันไปมองพี่ชายก่อนจะหันกลับมาทางน้องชายอีก
"พี่ไปด้วย" พูดกับน้องเล็กอย่างกระตือรือร้น
"ไม่ต้องเลย ให้น้องไปแหละดีแล้ว กว่านายจะล้างหน้าล้างตาอาบน้ำเสร็จได้หิวตายกันพอดี" เจอร์รี่พูดแย้งขึ้นมา
"ชั้นไม่อาบก็ได้ ไปแบบนี้แหละ" เคนเถียงพี่ชายก่อนจะลุกมายืนข้างน้อง
"น้องมันคงอยากเดินกับนายหรอก น้ำท่าไม่อาบหน้าตาไม่ล้างออกไปเดินข้างนอกอายคนอื่นแย่เลย" เจอร์รี่ตอกกลับน้องชายอีก
"น้องไม่เห็นว่าอะไรซักคำ" เคนย้อนก่อนจะมองหน้าไจ่ไจ๋
"เอ่อ.....คุณเพิ่งจะตื่นไปอาบน้ำอาบท่าก่อนเถอะครับ เดี๋ยวพอผมซื้อกับข้าวกลับมาเราจะได้กินข้าวกันงัย" ไจ่ไจ๋พยายามปฏิเสธอย่างนุ่มนวล เคนเลยทำหน้าเศร้าลงเพราะรู้ว่าน้องไม่อยากให้เขาไปด้วย
"ไปเถอะไจ่ไจ๋" เจอร์รี่พูดตัดบทแล้วพยักหน้าให้น้องชายคนเล็ก ไจ่ไจ๋มองไปทางเคนแว๊บหนึ่งก่อนจะเดินออกจากบ้านไป
"น้องไม่ยอมรับชั้น" หลังจากน้องเดินออกไปแล้วเคนก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ
"คิดอะไรแบบนั้น" พี่ใหญ่พูดเป็นเชิงปลอบ
"นายก็เห็นว่าถ้าหากน้องต้องอยู่กับชั้นตามลำพังน้องจะหลีกเลี่ยงทุกที แต่กับนายกับแวนเนสน้องไม่เห็นเป็นแบบนั้นเลย" สายตาของเคนดูเจ็บปวด
"นายคิดมากอีกแล้ว น้องไม่ได้เป็นแบบที่นายคิดหรอก น้องก็บอกแล้วงัยว่าอยากให้นายอาบน้ำอาบท่าให้สบายตัวแล้วจะได้มากินข้าวพร้อมๆกัน" ว่าพลางตบไหล่น้องเบาๆ
"นายไม่ต้องมาปลอบใจชั้นหรอก ชั้นเห็นสีหน้าท่าทางของน้องชั้นก็รู้แล้ว" เคนน้ำตาซึม
"แต่ก็สมควรแล้วที่น้องจะเกลียดชั้นเพราะถ้าไม่ใช่เพราะชั้นน้องก็ไม่อยู่ในสภาพแบบนี้หรอก" พี่ใหญ่ถอนหายใจที่น้องเอาแต่โทษตัวเองอีกแล้ว
"เสี้ยวเทียน.....เอาอีกแล้วนะ" พูดเตือนน้องด้วยน้ำเสียงอ่อนใจ
"ช่วงนี้ชั้นควรออกไปอยู่ที่อื่นซักพัก" เคนว่าแล้วเงยหน้ามองพี่ชาย
"ชั้นมัวแต่อยากเจอหน้าน้องอยากคุยอยากถามอะไรหลายๆอย่างแต่น้องกลับเอาแต่หลบหน้าชั้นเอาแต่พวกนายเป็นกำบัง ในเมื่อชั้นเป็นคนทำให้น้องอึดอัดชั้นก็น่าจะไป....." พูดกับพี่ชายด้วยน้ำเสียงจริงจัง ในขณะที่สองคนพี่น้องคุยกันนั้นก็ไม่รู้เลยว่าไจ่ไจ๋ที่ออกจากบ้านไปนั้นยังไม่ได้ไปไหนเพียงแต่ยืนฟังพวกเขาสองคนอยู่
"ถ้านายอยากทำอย่างนั้น ก็รออีกซักสองสามวัน" เจอร์รี่เองก็ไม่ห้ามน้อง
"พ่อแม่คงจะกลับมาถึงในวันพรุ่งนี้แล้วพี่จะให้แม่พานายกลับไปด้วยเลย" เคนอึ้งไปเพราะไม่นึกว่าจะเร็วขนาดนี้แต่ก็ต้องยอมจำนนเพราะเขาไม่มีทางเลือกแล้ว ไจ่ไจ๋ที่ยืนมองอยู่นั้นนิ่งงันเมื่อได้เห็นว่าเคนนั้นรักเขามากแค่ไหน
"เอาแบบนั้นก็ได้" แล้วเคนก็ตอบรับอย่างยากลำบาก
"เสี้ยวเทียน ไม่ใช่ว่าพี่อยากจะผลักไสไม่ให้นายได้อยู่ใกล้ชิดกับน้องหรอกนะ แต่มันน่าจะดีกว่าการที่ต้องมาเจอหน้ากันแล้วมีแต่ความอึดอัด" เจอร์รี่ว่าพร้อมกับดึงตัวน้องเข้ามากอดเอาไว้
"ชั้นรู้" เสียงเคนตอบรับสั่นเครือ ในตอนนั้นเองไจ่ไจ๋ก็มีความรู้สึกบางอย่างที่คุ้นเคยภาพตรงหน้านั้นเหมือนกับว่าเขาเคยเห็นและเคยเกิดขึ้นมาแล้ว
"ขอแค่น้องมีความสุขชั้นก็ยอมทั้งนั้น" คำพูดของเคนนั้นทำให้ไจ่ไจ๋หันหลังกลับแล้วเดินออกจากบ้านไปเงียบๆ ในขณะที่เดินไปตามทางนั้นไจ่ไจ๋พยายามนึกเรื่องราวของตัวเองตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เขาคิดถึงภาพของชายหนุ่มทั้งสามคนที่อาศัยอยู่ใต้ชายคาเดียวกัน
"พี่ชาย.....เรามีพี่ชายจริงๆน่ะหรอ....." พึมพำกับตัวเองเบาๆเพราะไม่ว่าจะนึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก
"เอาอะไรดีไจ่ไจ๋ วันนี้มาคนเดียวหรอ?" แล้วไจ่ไจ๋ก็หลุดออกจากห้วงความคิดของตัวเองเมื่อมีเสียงร้องทัก
"เอ่อ....สวัสดีครับ" ไจ่ไจ๋เอ่ยทักทายพ่อค้าเจ้าประจำที่เขามักมาซื้ออาหารเช้ากิน
"พี่ชายไม่มาด้วยหรอวันนี้?" ถามไจ่ไจ๋อย่างสนิทสนม
"อ้อ วันนี้ผมมาคนเดียว" ไจ่ไจ๋ตอบแล้วมองกับข้าวหลากหลายตรงหน้า
"วันนี้ที่บ้านมีข้าวต้ม ผมเลยอาสาเดินออกมาซื้อกับข้าวซักสามสี่อย่าง" ว่าแล้วไจ่ไจ๋ก็เลือกกับข้าวที่กินกับข้าวต้มยื่นให้พ่อค้าก่อนจะทำท่าลังเล
"เอาอะไรเพิ่มอีกมั๊ย?" เมื่อเห็นสีหน้าของไจ่ไจ๋แล้วพ่อค้าคนเดิมก็เอ่ยถาม
"เอ่อ....ไม่ครับ แต่ว่าปกติแล้วคุณเสี้ยวเทียน เอ้ย! พี่ชายผมจะเป็นคนออกมาซื้อกับข้าวหรอครับ?" พ่อค้ารับถุงกับข้าวที่ไจ่ไจ๋หยิบมาใส่ถุงให้พร้อมกับขมวดคิ้วกับคำถามนั้น
"เธอก็มากับพี่ชายบ่อยไปไม่ใช่หรอ? ทำไมวันนี้ถามอะไรแปลกๆ" ไจ่ไจ๋เริ่มรู้สึกตัวจึงแกล้งหัวเราะกลบเกลื่อน
"เปล่าหรอกครับ ช่างเถอะ! ทั้งหมดเท่าไหร่ครับ?" พูดจบก็ควักเงินจ่ายให้แล้วหมุนตัวเดินกลับบ้านทันที จนเมื่อกลับมาถึงก็พบเจอร์รี่นั่งอยู่คนเดียว
"คุณเสี้ยวเทียนหละครับ?" ไจ่ไจ๋ถามเจอร์รี่เมื่อกลับมาก็ไม่เห็นเคนแล้ว
"ขึ้นไปอาบน้ำข้างบนน่ะ สั่งไว้ว่าถ้านายกลับมาก็กินกันก่อนเลยไม่ต้องรอ" คำตอบนั้นทำให้ไจ่ไจ๋รู้สึกไม่ค่อยดีเพราะรู้ว่าเคนกำลังเสียใจที่เขาชอบทำตัวห่างเหิน
"ไม่เป็นไร ผมรอได้" ไจ่ไจ๋ว่าพร้อมกับมาช่วยเจอร์รี่แกะกับข้าวใส่ถุง
"ไม่ต้องรอหรอก กินกันก่อนเถอะ" เจอร์รี่แย้งพร้อมกับชวนให้น้องกินข้าว
"งั้นผมขึ้นไปตามคุณเสี้ยวเทียนก่อน" พูดจบไจ่ไจ๋ก็เดินขึ้นบันไดไปปล่อยให้เจอร์รี่ได้แต่มองตามอย่างงงๆ
"คุณเสี้ยวเทียนครับ" ไจ่ไจ๋เคาะประตูห้องเคนพร้อมกับร้องเรียก
"คุณอาบน้ำเสร็จหรือยัง? ผมจะรอกินข้าวนะ!" ไจ่ไจ๋ร้องบอกในขณะที่เคาะประตูไปด้วย ผ่านไปครู่หนึ่งบานประตูก็ถูกเปิดออกเคนยังอยู่ในชุดเดิม
"อ้าว! คุณยังอาบน้ำไม่เสร็จหรอกหรอ?" ไจ่ไจ๋ถามอย่างสงสัย
"ยังเลย พอดี.....พี่คุยโทรศัพท์อยู่น่ะ" เคนตอบด้วยสีหน้าเศร้าๆ
"นายกินข้าวกับพี่ใหญ่ก่อนนะ ไว้พี่ค่อยลงไปกินทีหลัง" พูดจบเคนก็ปิดประตูโดยไม่รอคำตอบรับใดๆอีก ไจ่ไจ๋มองบานประตูก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆแล้วเดินลงไปข้างล่าง
"คุณเจอร์รี่ครับ คุณเสี้ยวเทียนไม่สบายหรือเปล่า?" ไจ่ไจ๋เอ่ยถามเจอร์รี่ไปตามตรง
"ทำไมหรอ?" เจอร์รี่ย้อนถามกลับไป
"ผมว่าท่าทางเขาดูไม่ค่อยสบาย" ไจ่ไจ๋ตอบ
"เป็นเพราะผมใช่มั๊ย?" พี่ใหญ่ได้ยินก็หยุดมือที่กำลังตักข้าวแล้วเหลียวกลับมามองน้องชาย
"ผมรู้ว่าเขาเครียดเรื่องที่ผมจำพวกคุณไม่ได้" ไจ่ไจ๋พูดต่อโดยไม่มองหน้าคู่สนทนา
"ผมก็พยายามอยู่ ผมพยายามนึกเรื่องราวทุกอย่างที่เคยเกิดขึ้นกับผมแต่ว่า....." ก่อนที่ไจ่ไจ๋จะพูดจบเจอร์รี่ก็ดึงตัวน้องชายเข้ามากอด
"ช่างมันเถอะไจ่ไจ๋ ถ้านึกไม่ออกก็อย่าพยายามเลย" ไจ่ไจ๋ค่อนข้างตกใจที่จู่ๆเจอร์รี่ก็กอดเขา ตอนแรกไจ่ไจ๋ตั้งใจจะผลักเจอร์รี่ออกแต่เขากลับรู้สึกว่าอ้อมกอดนั้นเป็นอ้อมกอดที่เขาคุ้นเคย
"นายอย่าคิดมากเลยนะ พี่ไม่อยากให้นายต้องพลอยเครียดไปอีกคน" พูดจบเจอร์รี่ก็ผละตัวออกแล้วสบตากับน้องตรงๆ
"พรุ่งนี้พ่อแม่คงมาถึงไว้ตอนนั้นเราค่อยคุยกันอีกที แต่ตอนนี้นายทำใจให้สบายไม่ต้องกังวลกับอะไรทั้งนั้น" บอกกับน้องชายด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล ไจ่ไจ๋มองคนตรงหน้าน้ำตาคลอพูดอะไรไม่ออก
"กินข้าวกันนะ" พูดจบเจอร์รี่ก็หันไปตักข้าวแล้วมาวางที่โต๊ะ
"ขอบคุณครับ" ไจ่ไจ๋พึมพำเบาๆ แล้วบรรยากาศบนโต๊ะก็มีแต่ความเงียบ
- ตอนเย็น -
"พี่ใหญ่" แวนเนสเอ่ยทักทายพี่ชายเบาๆ เจอร์รี่ละสายตาจากจอโทรทัศน์มาทางน้องแล้วพยักหน้าให้
"น้องชายของนายสองคนไปไหนซะหละ?" ถามหาเคนกับไจ่ไจ๋ เจอร์รี่ลอบถอนหายใจเบาๆก่อนตอบ
"ขลุกตัวอยู่แต่ในห้องกันทั้งคู่" เว้นวรรคไปครู่หนึ่งแล้วพูดต่อ
"เสี้ยวเทียนไม่ยอมลงมากินข้าวกินปลาตั้งแต่เช้าแล้ว ส่วนไจ่ไจ๋พอกินมื้อเช้าเสร็จก็ขึ้นไปหมกตัวอยู่แต่ในห้องเหมือนกัน" แวนเนสได้ยินก็เริ่มมีสีหน้าคร่งขรึม
"เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือเปล่า?" นั่งลงข้างพี่ชายพร้อมกับสอบถามอีก
"ไม่มีอะไรหรอก" เจอร์รี่ตอบแล้วก็ถอนหายใจอีก
"ชั้นว่าจับมันสองคนให้ห่างกันบ้างน่าจะเป็นหนทางที่ดีที่สุด เพราะอยู่ด้วยกันแบบนี้แล้วต่างคนก็ต่างคิดว่าเป็นความผิดของตัวเอง" แล้วก็เริ่มต้นสนทนากับน้อง
"เสี้ยวเทียนมันก็เอาแต่โทษตัวเองว่าเป็นเพราะมันน้องถึงความจำเสื่อม ไจ่ไจ๋เองก็คิดว่าเพราะตัวเองจำไม่ได้ถึงได้ทำร้ายความรู้สึกเสี้ยวเทียน เฮ่อ!" แวนเนสมองพี่ชายก่อนจะพลอยถอนหายใจออกมาด้วย
"ถ้าพ่อแม่กลับมาน่าจะช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้นนะ" แวนเนสให้ความเห็น
"อืม ชั้นถึงตัดสินใจบอกพ่อแม่งัย" เจอร์รี่เองก็เห็นด้วย
"ชั้นเองก็รู้สึกแย่เหมือนกันที่ดูแลน้องไม่ดี เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นชั้นก็คงต้องพิจารณาตัวเองแล้วหละ" พูดจบก็ยิ้มแบบเศร้าๆ
"ไอ้บ้า.....นายก็ไปบ้าตามพวกมันสองคนด้วยหรอ? จะโทษตัวเองไปทำไมในเมื่อนายก็จัดการทุกอย่างอย่างดีที่สุดแล้ว" แวนเนสพูดเป็นเชิงต่อว่าพี่ชายแต่ก็มีการให้กำลังใจด้วย
"แต่เห็นน้องไม่มีความสุขชั้นก็รู้สึกแย่จัง" เจอร์รี่แย้งขึ้นพร้อมกับส่ายหน้าไปมาเล็กน้อย
"ชั้นรู้ว่าลึกๆแล้วนายก็เสียใจไม่น้อย" เงยหน้ามองน้องชายแล้วพูดออกมาตรงๆ
"แต่ชั้นก็ต้องขอบใจนายหละนะที่อย่างน้อยก็ยังพอจะควบคุมตัวเองได้ ถือว่าช่วยชั้นได้เยอะเลย" แวนเนสยิ้มบางๆก่อนจะส่ายหน้า
"เมื่อคืนชั้นก็ทำให้นายปวดหัวเหมือนกันสิ แต่พอได้ระบายออกมาบ้างมันก็ดีขึ้นนะ" พี่ใหญ่ยิ้มให้น้องแล้วพยักหน้า ในตอนนั้นเคนก็หอบพวกอัลบั้มรูปเดินลงมา
"แวนเนส กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่?" เคนเอ่ยถามพี่ชายด้วยสีหน้าอิดโรย
"ซักพักแล้ว ทำอะไรน่ะ?" แวนเนสตอบก่อนจะย้อนถามน้องชาย
"ชั้นนั่งจัดอัลบั้มรูปทั้งหมดเนี่ย อะ.....ช่วยเก็บเข้าที่หน่อย" ว่าแล้วเคนก็ขอให้พี่ชายช่วย
"หมกตัวอยู่ในห้องทั้งวันก็เพราะนั่งจัดรูปเนี่ยนะ?" เจอร์รี่ย้อนถามน้องชายแต่ก็ขยับตัวมาช่วย
"ก็นายไม่ยอมช่วยหนิ" เคนพูดด้วยสีหน้ามุ่ยๆ
"ใครจะไปรู้หละ? ไม่เห็นลงมาบอกนี่นา" เถียงจบก็ทรุดตัวนั่งลงที่พื้นแล้วจัดเรียงอัลบั้มตามที่น้องชายเรียงมาไว้หมดแล้ว
"นายคิดว่าจะได้ผลหรอ?" แวนเนสถามขึ้นมาลอยๆหลังจากที่ทั้งหมดพากันเงียบไปครู่หนึ่ง
"ก็ยังดีกว่าไม่ได้ลองทำอะไรเลย" แม้จะตอบแบบนั้นแต่สีหน้าเคนฉายแววท้อแท้ให้เห็น
"พวกนายว่าการที่น้องกลับมาอยู่บ้านมันจะช่วยให้ดีขึ้นหรือว่าแย่ลง?" แล้วเคนก็ถามพี่ชายทั้งคู่ขึ้นมาบ้าง
"มันก็ต้องดีขึ้นสิ" เจอร์รี่ตอบแบบเข้าข้างตัวเอง
"หรอ? แต่ชั้นว่าไม่เห็นดีเลย ตอนแรกชั้นคิดง่ายๆว่าแค่น้องได้เข้ามาเหยียบตัวบ้านความทรงจำทุกอย่างก็จะกลับมา แต่ทีไหนได้มันไม่ได้ผลอะไรเลย น้องไม่มีท่าทีว่าจะจำได้เลยแม้แต่นิดเดียว" เคนพูดออกไปตามความคิดของตัวเอง
"เรื่องแบบนี้มันต้องใช้เวลา นายจะให้ปุ๊บปั๊บก็จำได้ทันทีเลยหรืองัย? นี่มันชีวิตจริงนะไม่ใช่ละคร" แวนเนสแย้งพร้อมกับเปลี่ยนเรื่องเพื่อเป็นการตัดบท
"แล้วนายน่ะข้าวปลาไม่ยอมกินอีกแล้วนะ! รีบไปหาอะไรใส่ท้องเดี๋ยวนี้เลย!" ปรับสีหน้าให้ดูจริงจังขึ้น
"ก็ชั้นไม่หิว" เคนตอบเสียงแผ่วเพราะไม่รู้สึกอยากอาหารเลย
"ไม่หิวก็ต้องกิน! วันทั้งวันไม่กินอะไรเลยได้ที่ไหน!" เอ็ดใส่น้องชายอีกก่อนจะหันมาต่อว่าพี่ใหญ่ด้วย
"นายก็ตามใจมันไม่เข้าเรื่อง น้องไม่กินข้าวกินปลาก็ไม่ทักท้วงไม่ว่าอะไรเลย" เจอร์รี่อ้าปากค้างที่โดนแวนเนสต่อว่า
"ไม่ต้องเถียงเลย! นายแหละตัวดี!" แวนเนสต่อว่าพี่ชายอีกก่อนที่พี่ชายจะทันได้เถียงหรือแก้ตัว
"ชั้นจะนับหนึ่งถึงสามถ้ายังไม่ยอมขยับหละก็นายโดนแน่" หันกลับมาพูดกับน้องชายที่ยังคงนั่งนิ่งด้วยน้ำเสียงเอาจริง
"หนึ่ง!.....สอง!....." เมื่อแวนเนสเริ่มนับเจอร์รี่ก็เป็นฝ่ายลุกขึ้นแล้วไปดึงน้องชายคนกลางให้ลุกขึ้นด้วย
"ไปกับพี่ใหญ่นะ" บอกน้องด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลแล้วพาน้องเดินเข้าไปในห้องครัว โดยมีแวนเนสที่มองตามอย่างเหนื่อยใจ หลังจากแวนเนสนั่งเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่พักนึงไจ่ไจ๋ก็เดินลงมา
"กลับมานานแล้วหรอครับ?" ไจ่ไจ๋เอ่ยทักแวนเนสออกมาก่อน ในบรรดาชายหนุ่มสามคนแวนเนสดูจะเป็นคนเดียวที่ไจ่ไจ๋กล้าเข้าหามากที่สุด
"พักใหญ่ๆแล้วหละ วันนี้นอนตีพุงสบายเลยสิ" แล้วก็ย้อนถามน้องกลับไป
"ก็นอนทั้งวันเลยครับ" ไจ่ไจ๋ตอบพร้อมกับยิ้มเจื่อนๆ
"เอ่อ.....คุณแวนเนสครับ....." แล้วก็เรียกแวนเนสเบาๆ
"ไจ่ไจ๋ ไหนๆเราก็มาอยู่บ้านเดียวกันแล้ว นายอย่าเรียกพี่แบบเป็นทางการขนาดนี้เลย" แวนเนสพูดกับน้องชายตรงๆ
"ถ้าไม่คุ้นปากพี่อนุญาตให้เรียกแต่ชื่ออย่างเดียวได้" ไจ่ไจ๋ได้ยินก็ทำหน้าบอกไม่ถูก
"เรียกแต่ชื่อคงไม่เหมาะมั้งครับ คุณแก่กว่าผมตั้งหลายปี" ไจ่ไจ๋แย้งด้วยสีหน้าแหยๆ
"เอ่อ....ตามใจนายแล้วกัน" แวนเนสนึกขึ้นได้ว่าไม่ควรเรียกร้องอะไรที่จะมำให้น้องลำบากใจจึงบอกปัด
"ผมเรียกคุณว่าพี่ชายแล้วกันนะครับ" ไจ่ไจ๋ว่าพร้อมกับมองหน้าคู่สนทนาอย่างรอคำตอบ
"ได้เลยไอ้น้องชาย!" แวนเนสค่อยยิ้มออกเขาตบไหล่น้องชายเบาๆ
"ไม่เบื่อหรอ? วันๆนั่งๆนอนๆอยู่กับบ้านแบบนี้?" แล้วก็ชวนน้องชายคุย
"ก็ไม่รู้จะทำอะไรเหมือนกัน" ไจ่ไจ๋ไม่ตอบรับแต่ก็ไม่ปฏิเสธ
"แฟนก็ดันไม่อยู่เที่ยวด้วยหละสิ" แวนเนสแกล้งพูดล้อน้องชาย ทำให้ไจ่ไจ๋ยิ้มออกมาได้
"ก็มีโทรคุยกันแหละครับ" แวนเนสยิ้มกับคำตอบนั้น
"ถ้างั้นไว้ไปกับพี่มั๊ยหละ? ที่กองถ่ายมีอะไรให้เล่นเยอะนะ" เอ่ยชวนน้องชาย
"ผมไปได้หรอ? ผมไปได้จริงๆอ่ะ?" ย้อนถามกลับไปอย่างดีใจเพราะถ้าเป็นแวนเนสแล้วเขาไม่ตะขิดตะขวงใจแต่อย่างใดเลยหากว่าจะต้องไปไหนมาไหนด้วยกัน
"ได้สิ นายเองก็ชอบขอไปกับพี่อยู่บ่อยๆ" แวนเนสตอบพร้อมกับส่ายหน้ายิ้มๆ
"เออนี่....พี่ถามอะไรหน่อยได้มั๊ย?" แล้วก็เกริ่นนำขึ้นมา
"ได้สิครับ ถามมาได้เลย" ไจ่ไจ๋ตอบแบบไม่ต้องคิด
"ตั้งแต่นายกลับเข้าบ้านมายังไม่รู้สึกว่าพอจะจำพวกพี่สามคนได้เลยหรอ?" ไจ่ไจ๋มองหน้าแวนเนสครู่หนึ่ง
"ไม่รู้สิ แต่บางครั้งเห็นพวกคุณพูดคุยกันมันเหมือนกับว่าผมเคยเห็นภาพแบบนั้นมาแล้ว" คำตอบนั้นทำให้แวนเนสดีใจมากอย่างไม่ต้องสงสัย
"จริงหรอ! นายรู้สึกแบบนั้นจริงๆนะ? ไม่ใช่ว่าแกล้งพูดปลอบใจพี่หละ?" ถามย้ำน้องชายอีกครั้ง
"ครับ ผมเองก็ไม่แน่ใจแต่บางคำพูดที่พวกคุณคุยกันผมรู้สึกเหมือนกับว่ามันเป็นประโยคที่คุ้นเคยแล้วน่าจะเป็นเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นแล้ว" แวนเนสยิ้มกว้างอย่างยินดี
"นี่ก็ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีแล้วหละ" แวนเนสว่าซึ่งไจ่ไจ๋เองก็พยักหน้าเห็นด้วย
"ผมก็อยากจำพวกคุณ....เอ่อ.....พวกพี่.....ได้เร็วๆเหมือนกันเพราะผมสงสารคุณเสี้ยวเทียนเขา" ไจ่ไจ๋พูดกับแวนเนสตรงๆ
"ไอ้เจ้านั่นมันก็บ้าๆบอๆแบบนี้แหละ นายอย่าเก็บเอาคำพูดมันมาใส่ใจเลย ปล่อยไปซักพักเดี๋ยวก็หาย" แวนเนสไม่อยากให้น้องคิดมาก
"คุณ เอ้ย! พี่ครับ ผมขอถามหน่อยว่า.....ก่อนหน้าที่ผมจะตกบันไดจนจำพวกพี่ไม่ได้ ผมกับคุณเสี้ยวเทียนทะเลาะกันรุนแรงมากหรอ?" คำถามนั้นทำให้แวนเนสทำหน้าเจื่อนๆ
"พี่เองก็ไม่รู้แน่เพราะตอนที่พวกนายสองคนเถียงกันพี่ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ แต่วิ่งมาตอนนายกลิ้งตกบันไดลงมาจนสลบไปแล้ว" แวนเนสว่าก่อนจะถอนหายใจ
"แต่ก็คงร้ายแรงพอดูเพราะดูจากสภาพของเจ้าพี่กลางมันก็แย่เอาการ" ไจ่ไจ๋เองก็ถอนหายใจเบาๆเช่นกัน
"ไม่น่าหละคุณเสี้ยวเทียนเขาถึงได้ดูเศร้านัก" พูดอย่างเห็นใจเคน
"อย่าคิดมากเลย เรื่องนั้นปล่อยมันทิ้งไปเถอะ ตอนนี้เอาแค่นายสบายใจก็พอแล้ว เมื่อสมองปลอดโปร่งเผื่อความทรงจำจะได้มีที่ว่างแทรกกลับมาได้" พูดแบบติดตลกเพื่อสร้างบรรยากาศไม่ให้ตึงเครียด แล้วก็ได้ผลเพราะไจ่ไจ๋หัวเราะออกมาได้
"คุณ เอ้ย! พี่ตลกจัง" พอเห็นน้องยิ้มได้แวนเนสก็ค่อยหัวเราะได้บ้าง
"ดูท่านายจะไม่คุ้นเอาซะเลยนะที่ต้องเรียกพี่แบบนี้" ไจ่ไจ๋เอามือเกาหัวพร้อมกับยิ้มแหยๆ
"ไม่ค่อยคุ้นครับ แต่ผมบอกแล้วงัยว่าจะพยายาม" ไจ่ไจ๋แก้ตัวพร้อมกับรับปาก
"ขอบใจมาก" แวนเนสว่าพร้อมกับตบไหล่น้องชายเบาๆ ในตอนนั้นพี่น้องอีกสองคนก็พากันเดินออกมาจากในครัว
"อิ่มแปล้กันแล้วสิ" แวนเนสเอ่ยขึ้นพร้อมกับมองไปทางพี่น้องทั้งคู่
"กินแล้วก็ต้องอิ่มน่ะสิ" เจอร์รี่ตอบแบบกวนๆเพราะรู้ว่าเคนคงเงียบตามเคย
"คุยอะไรกันอยู่?" ถามต่อแล้วพาเคนเดินเข้ามาสมทบ
"เรื่องทั่วๆไป ไม่มีอะไรมากหรอก" แวนเนสตอบยิ้มๆ
"แต่เมื่อกี้น้องบอกว่าเวลาที่เห็นพวกเราคุยกันแล้วบางทีก็รู้สึกว่ามันเป็นภาพที่คุ้นเคย" คำขยายความของแวนเนสทำให้เคนที่ดูหงอยๆเปลี่ยนสีหน้าทันที
"จริงหรอ? นายรู้สึกแบบนั้นจริงหรอไจ่ไจ๋?" ถามน้องชายอย่างมีความหวัง
"ครับ ผมรู้สึกเป็นบางเหตุการณ์นะ ไม่รู้พวกคุณจะเข้าใจมั๊ย? แต่ผมรู้สึกเหมือนกับว่าภาพนี้ผมเคยเห็นมาแล้ว" คำยืนยันของไจ่ไจ๋ทำให้ทั้งเคนดีใจเป็นอย่างมาก เจอร์รี่เองก็ยินดีกับสิ่งที่ได้ยินไม่น้อย
"ดีจัง!" เคนอุทานออกมาด้วยความดีใจ
"งั้น.....เอายังงัยดีหละ? พี่ว่าเรามาเริ่มกันที่.....อืม...." เคนทำท่าครุ่นคิดเพื่อจะหาเรื่องมาคุยกับน้องชาย
"นี่ๆๆๆ เปลี่ยนท่าทีเร็วจังเลยนะ เมื่อกี้ยังทำหน้าอย่างกับคนเบื่อโลก" แวนเนสอดที่จะพูดแขวะน้องไม่ได้
"ยุ่ง!" เคนต่อว่าพี่ชายพร้อมกับถลึงตาใส่ ทำให้บรรยากาศเริ่มกลับมามีสีสันอีกครั้ง
"รู้แล้วๆๆๆ นายจำตอนที่ไปตั้งแคมป์ได้หรือเปล่า?" เคนถามน้องชายอย่างนึกขึ้นได้
"ตั้งแคมป์? ผมจำได้ว่าเคยไปตั้งแคมป์เมื่อไม่นานมานี่เอง" คำตอบนั้นทำให้พี่ชายทั้งสามคนถามต่อพร้อมกัน
"นายไปกับใคร?" เสียงประสานราวกับนัดหมายกันนั้นทำให้ไจ่ไจ๋ได้แต่ทำตาปริบๆ
"ผมจำไม่ได้" ไจ่ไจ๋พูดพร้อมกับทำหน้าแหยๆ เล่นเอาพี่ชายทั้งสามคนคอตก
"ไม่เป็นไร งั้น.....ตอนที่ไปเที่ยวสวนสนุก" เคนถามน้องขึ้นมาอีก
"จำได้ครับ ตอนนั้นเข้าบ้านผีสิงผมเจออะไรแปลกๆด้วย" ทันทีที่ได้ยินเช่นนี้เจอร์รี่กับแวนเนสก็หันไปมองหน้ากันทันที เพราะเจอร์รี่เป็นคนเดียวที่รู้ว่าแวนเนสเป็นคนแกล้งจับขาน้องเล็กในบ้านผีสิงนั้น
"ยังงัย?" แวนเนสถามต่ออย่างกระตือรือร้น
"ผมรู้สึกเหมือนมีใครมาจับขาผม พูดแล้วขนลุก" ไจ่ไจ๋ว่าพร้อมกับเอามือลูบแขนตัวเอง
"แล้วตอนนั้นนายไปกับใคร?" เจอร์รี่ถามน้องชายต่อ
"เอ่อ.....ผมไปกับ.....กับเพื่อนมั้ง?" ตอบแบบไม่ค่อยแน่ใจ จนเมื่อเห็นสายตาสามคู่จ้องมองเขาอยู่คนเดียวก็ได้แต่ยิ้มเฝื่อนๆ
"ผมไปกับพวกคุณหรอ?" ย้อนถามกลับไป ซึ่งคำตอบที่ได้รับก็คือการพยักหน้าโดยพร้อมเพรียง
"แย่จัง" ไจ่ไจ๋พึมพำพร้อมกับเอามือทุบหัวตัวเองเบาๆที่จำพี่ชายไม่ได้ซักที
"ไม่แย่หรอก ดีซะอีกที่อย่างน้อยนายก็จำรายละเอียดอย่างอื่นได้" แวนเนสยแย้งขึ้นอย่างร่าเริง
"นั่นสิ" เจอร์รี่สนับสนุนอีกแรง
"งั้นเอาอย่างนี้" เคนแทรกขึ้นมาแล้วลุกขึ้นไปหยิบอัลบั้มรูปที่เพิ่งจัดเรียงเสร็จมาสดๆร้อนๆ
"มาดูรูปกันดีกว่า" ว่าแล้วก็ส่งอัลบั้มภาพให้น้องชาย ไจ่ไจ๋รับมาด้วยความรู้สึกแปลกๆ
"อันนี้จำได้หรือเปล่า? นี่พี่ใหญ่ นี่พี่รอง อันนี้พี่ ส่วนนี่ก็นายงัย" เคนรีบเปิดอัลบั้มภาพแล้วอธิบายให้น้องฟังเป็นฉากๆ
"อันนี้ถ่ายกันที่บ้านเรานี่แหละ แต่ตอนนั้นหน้าบ้านยังไม่ได้ปูสนามหญ้าเลย" ไจ่ไจ๋มองดูรูปภาพพวกนั้นก่อนจะมีความบางอย่างแล่นเข้ามาในหัว เขาจำได้ว่าเขาเคยออกไปเล่นที่หน้าบ้านและหน้าตาในวัยเด็กของของพี่ชายทั้งสามคนนั้นก็คุ้นมาก
"รูปนี้....." ไจ่ไจ๋พูดเพียงเท่านั้นก็เงยหน้ามองพี่ชายทั้งสามคนที่มองเขาอยู่อย่างมีความหวัง
"ผมคุ้นมาก แต่ก็ยังนึกไม่ออก" คำตอบนั้นทำให้พี่ชายทั้งสามคนไม่รู้จะยิ้มหรือร้องไห้ดี
"ไม่เป็นไรหรอก ถือว่าดูเล่นๆแล้วกัน" เจอร์รี่พูดปลอบใจน้อง ไจ่ไจ๋ไม่ตอบว่าอะไรเพียงแต่ก้มหน้าเปิดดูรูปต่อๆไป
"เป็นอะไร?" แวนเนสสะกิดเคนพร้อมกับถามแบบไม่ออกเสียงเมื่อเห็นเคนมีสีหน้าเศร้าลงอีก
"เปล่า" เคนตอบเบาๆ ในใจรู้สึกท้อแท้เพราะเขานึกว่าหากน้องได้ดูรูปพวกนี้แล้วจะสามารถจำพวกเขาได้จริงๆ
"อันนี้รูปคุณหรอ?" แล้วไจ่ไจ๋ก็ยื่นอัลบั้มรูปนั้นมาให้เคนดูพร้อมกับเอ่ยถาม
"อืม พี่เองแหละ" เคนตอบพร้อมกับฝืนยิ้มให้น้องชาย
"น่ารักจัง" ไจ่ไจ๋เอ่ยชมแล้วดึงกลับไปนั่งดูต่อ แต่แล้วเขาก็เกิดความรู้สึกบางอย่างขึ้นมาอย่างฉับพลัน
"ไจ่ไจ๋" เจอร์รี่สังเกตเห็นน้องหน้าซีดๆก็ร้องเรียกอย่างเป็นห่วง
"เป็นอะไรหรอ?" ถามย้ำอีกครั้งแต่ไจ่ไจ๋กลับรีบปิดอัลบั้มภาพในมือลง
"ไม่มีอะไร ผมขอตัวนะครับ" พูดจบก็ลุกเดินขึ้นห้องไปอย่างรวดเร็วปล่อยให้พี่ชายทั้งสามได้แต่มองตามอย่างงงงวย