Chapter 57

ตอนที่ 57

"ทำเสร็จหรือยัง!? น้องหิว!" เจอร์รี่เดินเข้ามาพร้อมกับตวัดเสียงพูดกับเคน

"ยัง.....กำลังผสมแป้งเพิ่ม....." เคนตอบพร้อมกับขยายความให้ฟัง

"ชักช้าอยู่ได้! ทำให้มันเร็วๆหน่อย!" พูดเร่งน้องชายด้วยน้ำเสียงค่อนข้างห้วนเหมือนเดิม เคนได้ยินดังนั้นก็เริ่มรู้สึกเคืองขึ้นมาเหมือนกัน

"อยากเร็วก็ทำเอง! มีแค่สองมือทำอะไรหลายๆอย่างพร้อมกันไม่ได้!" เคนตวัดเสียงใส่พี่ชายกลับ

"ลองพูดใหม่อีกครั้งซิ!" เจอร์รี่พูดด้วยน้ำเสียงเอาเรื่อง เคนลอบถอนหายใจเบาๆแต่ไม่ได้พูดอะไร

"ปากกล้านักนะ" คราวนี้พี่ชายไม่พูดเปล่าเอื้อมมือจะหยิกต้นแขนน้องชายด้วย

"อย่านะ! โอ้ย!" เคนร้องห้ามแต่ก็ต้องร้องออกมาเพราะพี่ชายไม่ฟังเสียงห้ามของเขาเลย

"อย่าร้องให้ได้ยินนะ! ไม่งั้นชั้นจะบิดให้เนื้อหลุดเลย!" เจอร์รี่พูดขู่เพราะกลัวว่าถ้าเคนร้องแล้วไจ่ไจ๋จะได้ยินและเข้ามาเอาเรื่องเขา

"ปล่อยเถอะ....ชั้นเจ็บ....." เคนร้องครางออกมาเบาๆ แต่แทนที่พี่ชายจะปล่อยมือกลับหยิกลงไปแรงกว่าเดิมทำเอาเคนหน้าเหยยิ่งกว่าเดิม

"อย่ามาทำปากดีกับชั้น! ไม่งั้นจะเจ็บยิ่งกว่านี้!" พูดขู่น้องชายจบก็ปล่อยมือออก เคนน้ำตาซึมทั้งเจ็บทั้งแสบตรงบริเวณต้นแขนแต่ไม่กล้าร้องเพราะกลัวจะโดนหนักกว่านี้

"แล้วถ้ากล้าพูดจาแบบนี้กับชั้นอีก! ชั้นไม่เอานายไว้แน่!" พี่ใหญ่ชี้หน้าเจ้าน้องชายตัวดีอย่างเอาเรื่อง เคนก้มหน้านิ่งไม่พูดอะไรต่ออีกเพราะรู้ว่าพี่ชายไม่ได้แค่พูดขู่ให้กลัวเท่านั้น

"ระวังตัวไว้ให้ดีเถอะ! อย่าคิดว่าน้องออกหน้าแทนแล้วชั้นจะไม่กล้าทำอะไรนะ!" พูดต่อด้วยน้ำเสียงดุๆ

"ชั้นไม่กล้าแล้ว.....ขอโทษที่พูดจาไม่ดี....." เคนก้มหัวขอโทษพี่ชายเพื่อยุติเรื่องทั้งหมด

"ชั้นจะรีบทำแพนเค้กให้น้อง ขอเวลาอีกห้านาที" เคนพูดจบก็รีบก้มหน้าก้มตาคนแป้งในชามอย่างรวดเร็วเพราะกลัวว่าหากยังทำชักช้าพี่ชายจะลงมือกับเขาอีก เห็นท่าทีรีบเร่งของน้องแล้วเจอร์รี่อึ้งไปเล็กน้อยเริ่มรู้ตัวว่าเขาใช้อารมณ์กับน้องอีกแล้ว

"มีอะไรให้ช่วยมั๊ยหละ?" ย้อนถามน้องกลับไปแต่น้ำเสียงยังฟังดูแข็งๆอย่างไว้ฟอร์ม เคนส่ายหน้าแทนคำตอบแต่ไม่ได้หันไปมองหน้าพี่ชายเลย

"เอ่อ...." พี่ใหญ่เกาหัวแก้เก้อก่อนจะขยับเข้ามายืนข้างๆน้องแล้วชะเง้อมองแพนเค้กในกะทะ

"อันนี้ใกล้จะสุกแล้วสิ" เปลี่ยนเรื่องคุยกับน้องหน้าตาเฉย เคนปรายตาไปทางพี่ชายอย่างไม่ค่อยเข้าใจอารมณ์ของพี่ชายนักก่อนที่จะพยักหน้า

"ครับ" ตอบรับคำพี่ชายสั้นๆ

"งั้นชั้นเอาจานมาตักให้นะ" พูดจบก็ไปหยิบจานมา

"ขอบคุณครับ" เคนกล่าวขอบคุณพี่ชายสั้นๆเช่นเดิม เจอร์รี่ลอบมองหน้าน้องชายก่อนจะตักแพนเค้กอันที่สุกแล้วขึ้นมาใส่จานแล้ววางจานลงที่เคาเตอร์แต่ก่อนที่จะพูดอะไรไจ่ไจ่กับแวนเนสก็พากันเดินเข้ามาเสียก่อน

"หอมไปทั้งบ้านเลยครับพี่กลาง เสร็จแล้วใช่มั๊ยเนี่ย?" เมื่อเห็นหน้าน้องชายเคนก็ยิ้มให้อย่างอบอุ่น

"ในจานนั่นกินได้แล้ว นายอยากราดแยมก็ทำเอาเองนะ" เคนว่าพร้อมกับผงกหัวไปทางขวดแยมสตอเบอรี่

"แล้วของชั้นอ่ะ" แวนเนสเดินมาถามน้องบ้าง

"ของเก่ามันเย็นแล้วเดี๋ยวชั้นทำให้ใหม่แล้วกัน" เคนตอบพี่ชายโดยไม่ได้หันมามอง แวนเนสรู้สึกน้องชายดูท่าทางซึมๆไปก็หันไปทางพี่ชาย

"นายทำอะไรมันหรือเปล่า?" ขยับเข้าไปกระซิบถามพี่ชายเสียงห้วนๆ

"เปล่า.....ซักหน่อย....." เจอร์รี่ปฏิเสธแบบอึกๆอักๆ แต่แวนเนสกลับทำหน้างอใส่พี่ชาย

"อะไรเล่า! ก็ไม่ได้ทำอะไรเลย! ไม่เชื่อถามมันดูเองสิ!" แกล้งทำเป็นรำคาญแล้วเดินตามมานั่งกับน้องเล็ก

"มีเรื่องอะไรกันอีกครับพี่ใหญ่?" น้องเล็กเอ่ยถามพี่ชายขึ้นมาบ้าง

"ไม่มีหนิ กินเร็วเข้าไจ่ไจ๋ เดี๋ยวก็เย็นชืดหมดไม่อร่อยกันพอดี" เจอร์รี่รีบปฏิเสธแล้วเปลี่ยนเรื่องให้น้องรีบกินแต่ไจ่ไจ๋ยังไม่ยอมกินแต่กลับลุกขึ้นแล้วไปกอดเอวพี่ชายคนกลาง

"พี่กลาง.....ไหนบอกผมซิว่าพี่ใหญ่ทำอะไรพี่หรือเปล่า?" ไจ่ไจ๋เองพอจะรู้สึกได้ว่าเคนดูเงียบผิดปกติ

"อ้าวไจ่ไจ๋! ไหงถามอะไรหาเรื่องพี่แบบนี้หละ? พี่ไม่ได้ทำอะไรมันซักหน่อย" เจอร์รี่ได้ยินก็โวยวายขึ้นมา

"ไม่ทำหน่อยแต่ทำมากหละสิน้องมันถึงเซื่องซึมได้ขนาดนี้! นี่ถามจริงเถอะว่าทำให้น้องมันกลัวได้แล้วมันมีความสุขมากนักหรอ?" แวนเนสต่อว่าพี่ชายอย่างเดือดร้อนแทนน้อง
"โธ่โว้ย! ก็บอกไม่ได้ทำอะไรงัยเล่า! เชื่อกันบ้างสิวะ!" หันไปโวยวายใส่น้องชายคนรองด้วยอีกคน

"จะให้เชื่อหรอ? เห็นๆอยู่ว่าเสี้ยวเทียนมันดูหงอยๆจ๋อยๆแบบนี้เป็นปกติของมันหรืองัย?" แวนเนสเถียงกลับ

"พอเถอะๆๆๆ แวนเนส.....พี่ใหญ่ไม่ได้ทำอะไรชั้นเลย แล้วชั้นก็ไม่ได้เป็นอะไรด้วย แต่ถ้าหากพวกนายยังเซ้าซี้หาเรื่องกันแบบนี้อีกชั้นอาจจะเป็นไมเกรนได้ในไม่ช้านี่แหละ" แล้วเคนก็เป็นคนเอ่ยปากยุติศึกที่กำลังจะเกิดขึ้น ไจ่ไจ๋กับแวนเนสหันไปสบตากันอย่างไม่ค่อยเชื่อคำพูดที่เคนบอกว่าพี่ใหญ่ไม่ได้ทำอะไรเคน

"ไม่ได้ทำอะไรจริงอะ? ไหนยื่นแขนมาดูซิ" แวนเนสว่าพร้อมกับเอื้อมมือไปดึงแขนน้องชาย แต่เคนกลับปัดมือพี่ชายออกแล้วเอ็ดใส่

"อย่ายุ่งน่า! ไปนั่งเฉยๆเลยไป!" พูดจบก็หันกลับไปทำแพนเค้กต่อ

"นี่! ชั้นอุตส่าห์เป็นห่วงนะยังจะมาว่าอีก!" แวนเนสตัดพ้อน้องชายขึ้นมาแต่ก็เดินหน้ามุ่ยมานั่งลงที่โต๊ะกินข้าว

"ขอบคุณที่เป็นห่วง!" เคนหันกลับมาเอ่ยขอบคุณพี่ชายก่อนจะฉีกยิ้มให้อย่างเสียมิได้

"เออดี! วันหลังมีอะไรอย่ามาร้องให้ช่วยแล้วกัน" แวนเนสบ่นอุบหน้ามุ่ย

"ร้องให้ตายนายก็ไม่เคยช่วยได้ซักที" เคนตอกกลับพี่ชายก่อนจะตักแพนเค้กอีกชิ้นใส่จานแล้วเอามาวางให้พี่ชาย

"ถึงช่วยไม่ได้แต่อย่างน้อยก็ไม่ได้เป็นคนลงมือทำให้นายเจ็บนะ" พูดจบก็ปรายตาไปที่พี่ใหญ่

"กินได้แล้วอย่าพูดมาก!" เคนรีบตัดบททันทีที่ได้ยินแวนเนสพูดจากระแนะกระแหนพี่ชายคนโตอีก

"พี่ใหญ่เห็นมั๊ยว่าพี่กลางน่ะปกป้องพี่ขนาดไหน?" ไจ่ไจ๋หันไปกระซิบต่อว่าพี่ชายคนโตด้วยอีกคน เจอร์รี่จึงได้แต่ยิ้มเจื่อนๆ ในตอนนั้นเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นเคนจึงสบโอกาสเดินออกจากห้องครัวไปรับสาย

"สวัสดีครับ" เคนเอ่ยสวัสดีเมื่อยกหูโทรศัพท์ขึ้นมา

"เสี้ยวเทียนหรอลูก?" น้ำเสียงอ่อนโยนที่เขาคุ้นเคยดังมาตามสายเคนยิ้มออกมาทันที

"พ่อ....ผมเองครับ...." เคนตอบรับด้วยความดีใจ

"พ่อทำอะไรอยู่ครับ? แล้วว่างหรอถึงได้โทรมาหรือว่าพ่อจะกลับมาครับ?" เคนถามบิดาชุดใหญ่แล้วก็ได้ยินเสียงหัวเราะกลับมา

"อืม....ตอบคำถามไหนก่อนดีหละ? เอาเป็นว่าตอนนี้พ่อกับแม่อยู่สนามบินกำลังจะขึ้นเครื่อง" ได้ยินคำตอบดังนั้นเคนก็มีท่าทีดีใจอย่างเห็นได้ชัด

"จริงหรอ!? ผมดีใจจังที่พ่อกับแม่จะกลับมา ผมจะรอนะครับ มาถึงที่นี่เมื่อไหร่โทรมานะครับผมจะไปรับ อย่าลืมนะครับ" น้ำเสียงของลูกชายทำให้พ่อเป็นปลื้มอย่างมาก

"ได้ลูก ถึงแล้วพ่อจะโทรหา ว่าแต่โทรศัพท์มือถือของลูกติดต่อไม่ได้นะ" พ่อว่าแล้วก็พูดต่ออย่างนึกขึ้นได้

"อ้อ! โทรศัพท์ของผมโดนพี่ใหญ่ยึดไป" เคนรีบฟ้องทันที

"อ้าว! ทำไมหละลูก?" พ่อย้อนถามกลับมา แต่เคนกลับถอนใจดังเฮือก

"ไว้พ่อมาถึงแล้วผมค่อยเล่าให้ฟังนะครับ เรื่องมันยาวววว....." เคนตอบพร้อมกับลากเสียงเพื่อให้พ่อเชื่อว่ายาวจริง

"โอเค ไว้ค่อยคุยกันนะลูก เดี๋ยวถึงแล้วพ่อโทรหา" พ่อบอกลูกชายมาตามสาย

"ครับพ่อ แล้วเจอกันนะครับ" พูดจบเคนก็วางสายไปก่อนจะเดินกลับเข้าไปในครัวอีกครั้งด้วยสีหน้าร่าเริงกว่าเดิม

"พี่มีอะไรจะบอก" เคนนั่งลงข้างน้องชายพร้อมกับกระซิบเบาๆ

"อะไรหรอพี่กลาง?" ไจ่ไจ๋ถามพี่ชายกลับเบาๆเช่นกัน ในตอนนั้นพี่ชายทั้งสองคนก็มองเจ้าน้องชายที่ซุบซิบกันอย่างสงสัย

"ตั้งแต่พรุ่งนี้ไปเราสองคนก็จะหลุดพ้นจากการลงโทษของพี่ใหญ่แล้ว ดีใจมั๊ย?" เคนกระซิบเบาเข้าไปอีกเมื่อเห็นพี่ชายมองอยู่

"จริงหรอพี่กลาง? ทำไมเป็นแบบนั้นหละ?" ไจ่ไจ๋ถามด้วยสีหน้าดีใจ

"เพราะว่า....." เคนเหลือบมองพี่ชายทั้งสองคนแล้วเอามือป้องปากกระซิบกับน้องอีกครั้ง

"พ่อแม่จะกลับมาแล้ว เมื่อกี้พ่อโทรมาบอกพี่" ไจ่ไจ๋ได้ยินก็ยิ้มกว้างแล้วกอดคอพี่ชาย

"ไชโย! ดีใจจังเลย!" ท่าทางของน้องชายทั้งสองคนก็ทำเอาแวนเนสอดไม่ได้ที่จะถาม

"เฮ้ย!! มีความลับอะไรกันวะ? ทำไมต้องซุบซิบกันด้วย?" เคนกับไจ่ไจ๋มองหน้ากันยิ้มๆก่อนจะส่ายหน้าไปมา

"ไม่มีอะไร เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับนาย อย่ารู้เลย" เคนตอบแล้วเดินไปชงกาแฟกินอย่างสบายอารมณ์ เจอร์รี่มองตามเจ้าน้องชายตัวแสบก่อนจะขยับเข้าไปนั่งลงข้างน้องเล็ก

"ไจ่ไจ๋ เมื่อกี้คุยอะไรกันหรอ?" พี่ใหญ่เลยมาถามเอากับน้องเล็ก ตอนนั้นเคนเอี้ยวตัวมาสบตากับน้องเล็กแล้วส่งสัญญาณไม่ให้น้องบอกพี่ชาย

"เปล่าหนิพี่ใหญ่ เหมือนที่พี่กลางบอกว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับผมแล้วก็พี่กลางโดยเฉพาะ" น้องเล็กตอบพี่ชายแล้วยิ้มให้เคน

"ไม่บอกให้พี่รู้หน่อยหรอ?" ถามน้องต่ออีกเพราะอยากรู้ว่าน้องๆพูดอะไรกัน

"รับรองว่าผมกับพี่กลางไม่ได้ไปก่อเรื่องอะไรมาหรอก" คำพูดของน้องทำเอาเคนหัวเราะออกมาได้

"ตลกมากนักหรืองัย?" พี่ใหญ่หันไปทำเสียงห้วนใส่น้อง เคนทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้แล้วเอาช้อนคนกาแฟในถ้วย

"ถ้าให้ชั้นจับได้ว่านายชักนำน้องให้ไปทำอะไรแผลงๆอีก รู้ใช่มั๊ยว่าจะโดนอะไร?" พูดขู่น้องชายคนกลาง

"โดนฆ่าตายงัย เรื่องนี้ชั้นท่องจำขึ้นใจแล้ว" เคนตอบพี่ชายเป็นเชิงประชด

"เดี๋ยวเหอะ!" ทำหน้าดุใส่เมื่อน้องทำประชด แต่เคนไม่สนใจกลับมานั่งลงข้างน้องเล็กแล้วยิ้มให้

"บอกมั่งสิ" แวนเนสเดินมาดึงแขนเสื้อเคนพร้อมกับทำเสียงอ้อนๆ ทำให้เคนกับไจ่ไจ๋หัวเราะขึ้นมาพร้อมกัน

"น้าาาา.....บอกพี่รองหน่อยน้า....." อ้อนน้องชายเต็มที่เพราะถ้าเขาไม่ได้รู้ว่าน้องมีความลับอะไรกันคงได้อกแตกตายแน่

"อืม....ไว้ตอนเย็น" เคนว่าพร้อมกับยักคิ้วให้พี่ชาย

"แน่นะ?" ถามย้อนน้องชายอีกครั้ง

"แน่สิ ไม่โกหก" เคนตอบรับ ได้ยินเช่นนั้นแวนเนสก็ยิ้มร่าแล้วแอบทำหน้าเยาะเย้ยพี่ชายให้ด้วย เจอร์รี่เห็นก็ทำเมินเหมือนไม่ได้ใส่ใจแต่จริงๆแล้วก็อยากรู้เช่นเดียวกัน

"ปิ๊นๆๆๆ!!!" เสียงแตรรถดังขึ้นแวนเนสก็รีบลุกทันที

"สงสัยเสี่ยวจือมารับแล้วพี่ไปก่อนนะเดี๋ยวเย็นนี้จะมาเอาคำตอบ ห้ามเบี้ยวนะ!" พูดจบแวนเนสก็ทำท่าจะวิ่งออกไปแต่พอได้ยินเสียงกระแอมของพี่ใหญ่เขาก็ชะงักก่อนจะเอ่ยปากลาพี่ชายอย่างเสียไม่ได้

"ไปนะครับพี่ใหญ่" พูดจบก็รีบเดินออกไปทันที เจอร์รี่จึงได้แต่มองตามแล้วส่ายหน้าไปมากับเจ้าน้องชายคนนี้

"พี่ใหญ่....แล้วพี่ไม่ไปทำงานหรอ?" ไจ่ไจ๋เห็นพี่ชายไม่มีทีท่าว่าจะขยับตัวไปไหนก็เอ่ยถามขึ้นมา

"ไม่ไป! จะเฝ้าเด็กดื้อ!" ตอบน้องเล็กแต่สายตากลับมองไปที่น้องชายคนกลาง

"โอโห! ลงทุนหยุดงานด้วยสิ" ไจ่ไจ๋พูดแซวพี่ชายอีก

"เงียบเลยไป! แล้วนี่แขนน่ะหายเจ็บแล้วหรืองัย? ยกขึ้นปัดไปปัดมาอยู่ได้!" เอ็ดใส่น้องชายซะอย่างนั้น

"ไม่เจ็บแล้ว ไม่เห็นเป็นไรเลย" ไจ่ไจ๋ตอบเสียงใสแต่ตรงข้ามกับความเป็นจริงแต่ที่พูดเช่นนั้นเพราะกลัวเคนจะคิดมากอีก

"งั้นก็ดี! ไปล้างจานซะสิ!" พูดกับน้องเสียงห้วนเล็กน้อย

"เดี๋ยวพี่ล้างให้ไจ่ไจ๋" เคนรีบออกตัวทำแทนน้องชายทันที

"งานตัวเองไม่มีทำใช่มั๊ย? บ้านน่ะไม่ต้องกวาดถูอย่างงั้นหรอ?" พี่ใหญ่ถามแทรกขึ้นมาเสียงเข้มเล็กน้อย

"เดี๋ยวชั้นทำทั้งหมดนั่นแหละ น้องมันเจ็บแขนอยู่....." เคนบอกกับพี่ชายอย่างอ่อนใจ

"ไม่เป็นไรหรอกพี่กลาง แค่กวาดถูบ้านทั้งข้างบนข้างล่างพี่ก็เหนื่อยจะแย่แล้ว ล้างจานแค่นี้ให้ผมทำเองดีกว่า ไม่ได้ลำบากอะไรเลย" ไจ่ไจ๋ปฏิเสธขึ้นมาด้วยอีกคน

"แต่ว่า....." เคนตั้งท่าจะแย้งเพราะไม่อยากให้น้องขยับแขนมากด้วยรู้ดีว่าน้องยังเจ็บอยู่แต่ไม่ยอมพูด

"ไม่ต้องแต่หรอก เดี๋ยวผมทำเอง" พูดจบไจ่ไจ๋ก็รวบรวมจานบนโต๊ะไปที่ซิ้งค์ล้างจานอย่างคล่องแคล่ว

"นายก็ไปทำหน้าที่ตัวเองได้แล้ว" เจอร์รี่หันไปบอกกับเคนด้วยสีหน้าดุๆเช่นเดิม เคนมองน้องชายอย่างเป็นห่วงแต่ก็ต้องลุกออกไปเพื่อทำความสะอาดข้างบน เมื่อเคนออกไปแล้วเจอร์รี่ก็ลุกไปจับมือน้องเล็กที่กำลังจะลงมือล้างจานไว้

"ไปนั่งไป พี่ทำเอง" น้องเล็กได้ยินก็ทำหน้างงเล็กน้อย

"พี่บอกให้ไปนั่ง" พูดย้ำอีกครั้งหนึ่งเพราะไม่อยากให้น้องทำ

"ไม่เป็นไรหรอกพี่ใหญ่" ไจ่ไจ๋พูดอย่างเกรงใจพี่ชาย เขารู้ดีว่าสุดท้ายแล้วพี่ชายก็ไม่สามารถใจร้ายกับเขาได้ลงคอ

"ยังอีก! จะดื้อไปถึงไหน" ทำเสียงดุใส่น้องเล็กเข้าบ้าง

"ให้ผมช่วยแล้วกัน" ไจ่ไจ๋ดึงดันจะช่วยพี่ชายอีก

"ถ้าอยากจะช่วยก็ไปนั่งเฉยๆ ไม่งั้นก็ขึ้นห้องไปเลยไป!" ทำหน้าเข้มใส่น้องอีก ไจ่ไจ๋จึงทำหน้ามุ่ยใส่

"ไปก็ได้! ใจร้ายชะมัด! ขังน้องชายที่น่ารักขนาดนี้ได้ลงคอ!" ต่อว่าพี่ชายจบก็เดินออกไปทันที

"เฮ่อ! ลงโทษไปนอกจากจะไม่เข็ดหลาบแล้วยังต้องมากังวลว่ามันจะโกรธจะงอนจะน้อยใจอีกหรือเปล่า จะจัดการกับเจ้าเด็กดื้อคนนี้ยังงัยดีนะ" เจอร์รี่พึมพำกับตัวเองก่อนจะลงมือล้างจานที่อยู่ตรงหน้า



- วันต่อมา -

"ไจ่ไจ๋!!" เคนเคาะประตูเรียกน้องชาย

"พี่กลางหรอ? แป๊บนึงนะ" ไจ่ไจ๋วิ่งมาเปิดประตูให้พี่ชายโดยเร็ว

"เดี๋ยวพี่จะออกไปรับพ่อกับแม่....." เคนว่าแต่ยังไม่ทันได้พูดต่อน้องเล็กก็แทรกขึ้นมาทันที

"พ่อแม่ถึงแล้วหรอ?" ไจ่ไจ๋ถามกลับด้วยความดีใจ

"อืม....พ่อโทรมาบอกว่าลงเครื่องแล้ว รอให้พี่ไปรับอยู่" เคนตอบพร้อมกับขยี้หัวน้องชาย

"ไม่ไปด้วยกันจริงๆหรอ?" ถามย้ำน้องชายอีกครั้ง

"ไม่เอาอ่ะ ผมไม่ชอบที่ที่คนเยอะๆ" ไจ่ไจ๋ปฏิเสธเพราะเขาอยากให้โอกาสพ่อแม่กับเคนอยู่ด้วยกันตามลำพังบ้างเพื่อที่จะได้พูดคุยกัน

"งั้นพี่จะรีบไปรีบกลับ" ไจ่ไจ๋ยิ้มแล้วพยักหน้าให้พี่ชาย

"ไปเถอะครับ" ไจ่ไจ๋ว่าแล้วก็หอมแก้มพี่ชายทั้งสองข้างฟอดใหญ่

"อันนี้ฝากไปหอมแก้มพ่อกับแม่ด้วยนะ แล้วพ่อแม่มาถึงเมื่อไหร่ผมจะถามว่าพี่ได้หอมแก้มพ่อกับแม่ให้ผมหรือเปล่า?" น้องเล็กพูดดักคอพี่ชาย

"ไอ้บ้าเอ้ย!" เคนต่อว่าน้องแล้วตัดบท

"พี่ไปหละเดี๋ยวพ่อแม่จะรอนาน" พูดจบก็หันหลังกลับไป

"ห้ามลืมหอมแก้มพ่อกับแม่ให้ผมนะ!" ไจ่ไจ๋ตะโกนไล่หลังแล้วอมยิ้มในขณะที่มองดูพี่ชายเดินลงบันไดไป หลังจากพี่ชายไปแล้วไจ่ไจ๋ก็เดินมาล้มตัวนอนที่เตียงแล้วงีบหลับไปได้ซักครู่ก็ต้องลืมตาตื่นขึ้นมาเมื่อรู้สึกถึงอุ้งมืออุ่นแตะลงที่แก้มเขา

"พี่ใหญ่กลับมาแล้วหรอ?" ไจ่ไจ๋ทักพี่ชายทันที

"อืม....หลับเพลินเลยนะ" เจอร์รี่ตอบแล้วขยับตัวไปนั่งข้างน้องชาย ไจ่ไจ๋เอามือเกาหัวอย่างงงๆเพราะเพิ่งตื่นแต่พอนึกขึ้นได้ว่าเคนยังไม่กลับมาก็ทำหน้าเจื่อนๆ

"ทำไมวันนี้พี่ใหญ่กลับเร็วจัง" ถามพี่ชายต่ออีก

"พอดีวันนี้พี่แวะไปหาลูกค้าพอคุยธุระเสร็จก็เลยกลับบ้านเลยขี้เกียจแวะบริษัทอีก" เจอร์รี่ตอบน้องชาย

"สงสัยเจ้าพี่กลางของนายก็คงหลับปุ๋ยอยู่เหมือนกันน่ะสิ" เจอร์รี่แกล้งถามน้องอีกทั้งที่พอจะรู้ว่าเคนออกไปข้างนอกเพราะเขาไม่เห็นรถจอดอยู่ ได้ยินเช่นนั้นไจ่ไจ๋ก็ยิ้มแหยๆ

"อ้อ! ไม่รู้สิ ผมเพิ่งตื่นนี่นา" ไจ่ไจ๋ว่าแล้วก็รีบคิดหาทางชวนพี่ชายคุยเพื่อไม่ให้พี่ชายไปดูเคนที่ห้อง เพราะตอนแรกพวกเขาคำนวณเวลากันไว้แล้วว่ายังงัยซะเคนก็ต้องไปรับพ่อแม่กลับมาถึงบ้านก่อนพี่ใหญ่แน่นอน เมื่อทุกสิ่งที่คาดการณ์ไว้ไม่เป็นไปตามนั้นไจ่ไจ๋จึงต้องแก้ไขสถานการณ์ก่อน

"วันนี้พี่ใหญ่ทำงานเหนื่อยมั๊ยครับ? แล้วกินข้าวกินปลามาบ้างหรือยัง?" ถามไถ่พี่ชายต่อ

"ก็เหนื่อยหละนะ แต่วันนี้อยากกินหมี่หวานว่าจะวานให้เจ้าพี่กลางทำให้ซักหน่อย" ได้ยินเช่นนั้นไจ่ไจ๋ก็ทำหน้าบอกไม่ถูก

"เป็นอะไรไป?" เมื่อเห็นน้องทำหน้าเช่นนั้นก็ถามออกไปอย่างจับผิด

"อ้อ! เปล่าหรอกครับ แต่ผมว่าตอนนี้พี่กลางอาจจะยังไม่ตื่นก็ได้ เนี่ยพี่ใหญ่.....ผมเหง๊าเหงา....เพราะอยู่แต่ในห้องคนเดียวทำอะไรไม่ได้นอกจากนั่งๆนอนๆ" น้องเล็กแกล้งบ่นให้พี่ชายฟัง

"แล้วหนังสือที่พี่ให้อ่านหละ?" เจอร์รี่ย้อนถามน้องด้วยสีหน้าเข้มขึ้นเล็กน้อย

"ก็.....ก็อ่าน.....บ้าง....." ตอบพี่ชายเสียงอ่อยๆ ทำให้พี่ชายถอนหายใจเฮือก

"เรานี่นะจริงๆเลย ทำไมถึงดื้อนัก" พี่ใหญ่เอาหน้าชนกับหน้าผากน้องชายพร้อมกับต่อว่าไปด้วย

"ก็พี่ใหญ่เอาอะไรมาให้อ่านก็ไม่รู้ ผมอ่านแล้วไม่เข้าใจ" น้องเล็กทำเสียงอ่อนอ่อยแต่เป็นเชิงอ้อนพี่ชาย เขารู้ดีว่าที่พี่ชายต่อว่าเขานั้นไม่ได้โกรธอะไรเพียงแต่บ่นเท่านั้น

"พี่ไม่อยากคุยกับเด็กดื้อ ไปบอกให้พี่กลางมันทำหมี่หวานให้กินดีกว่า" พูดจบก็ขยับตัวลุกขึ้น แต่ไจ่ไจ๋รีบดึงมือพี่ชายทันที

"พี่ใหญ่ครับ.....พักนี้ผมคิดถึงพี่มากๆเลย เราไม่ได้นอนคุยกันนานแล้ว พี่นอนคุยเล่นกับผมก่อนนะ.....นะๆๆๆๆ....." ทำเสียงออดอ้อนพี่ชายเต็มที่

"ให้พี่ใหญ่กินก่อนได้มั๊ยพี่ยังไม่ได้กินข้าวเลย" เจอร์รี่ต่อรอง

"หูยยย.....เห็นของกินสำคัญกว่าน้อง....." แกล้งโอดครวญต่อว่าพี่ชายต่ออีก

"แหม....ก็พี่หิวหนิ งั้นเอางี้เดี๋ยวพี่ไปใช้เจ้าพี่กลางก่อนแล้วจะเข้ามานอนคุยกับนายระหว่างรอหมี่หวาน" พูดจบก็ลุกขึ้นอีกครั้งแต่ไจ่ไจ๋ก็รีบดึงมือพี่ชายไว้อีก

"ไม่ต้องๆๆๆๆ ผมทำให้พี่กินดีกว่า" เจอร์รี่ได้ยินเช่นนั้นก็ขมวดคิ้ว

"นายทำเป็นหรอ?" น้องเล็กได้ยินเช่นนั้นก็อึ้งๆไปเพราะเขาก็ทำไม่เป็นจริงๆ

"เป็น.....เป็นสิ! ก็แค่เอาเส้นบะหมี่ลวกแล้วเอาลงไปต้มกับน้ำเชื่อมแล้วก็เอาไข่ต้มใส่....." ไจ่ไจ๋พูดพล่ามไปเรื่อย

"พอๆๆๆ แค่ฟังวิธีการทำของนายก็ไม่เข้าเคล้าแล้วหละ" ว่าแล้วก็หมุนตัวเดินออกไปทันที ไจ่ไจ๋เห็นดังนั้นก็รีบวิ่งตามพี่ชายไปทันที

"พี่ใหญ่ครับพี่ใหญ่!" เจอร์รี่ถอนหายใจก่อนจะหันมาทางน้องเล็กอีกครั้ง

"มีอะไรอีกเจ้าตัวยุ่ง! หรือว่ามีอะไรจะสารภาพ?" ถามรุกน้องชายเพื่อรอดูว่าน้องจะบอกเขาหรือไม่ว่าเคนออกไปไหน ไจ่ไจ๋ยิ้มแหยๆก่อนจะคิดหาข้อแก้ตัว

"คือว่า.....คือว่าผม....." เมื่อเห็นน้องอึกอักเจอร์รี่ก็ส่ายหน้าก่อนจะเคาะประตูห้องเคน

"ผมว่าเราไปกินอะไรข้างนอกกันดีกว่า! ผมก็หิวเหมือนกัน!" ไจ่ไจ๋รีบพูดออกมาด้วยน้ำเสียงค่อนข้างดังจนเจอร์รี่มั่นใจว่าน้องเล็กต้องรู้เห็นกับเคนแน่นอน

"ไจ่ไจ๋ วันนี้นายเป็นอะไรไป ทำท่าทางมีพิรุธนะ" พูดกับน้องชายตรงๆ

"มีอะไร? ไม่มีหนิ ผมแค่อยากออกไปกินอะไรข้างนอกก็เท่านั้นเอง" ไจ่ไจ๋รีบแก้ตัว เจอร์รี่มองหน้าน้องชายครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้า

"เอางั้นก็ได้" คำตอบของพี่ชายทำเอาน้องเล็กโล่งอกแต่ประโยคถัดมาก็ทำเอาไจ่ไจ๋ถึงกับพูดอะไรไม่ออก

"เคาะเรียกพี่กลางมันไปด้วยก็แล้วกัน" พูดจบพี่ใหญ่ก็เคาะประตูห้องเคนต่อ

"เสี้ยวเทียน!!! เสี้ยวเทียน!!" เมื่อไม่ได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวใดๆเจอร์รี่จึงหันมาทางไจ่ไจ๋

"พี่กลางมันทำอะไรอยู่?" ถามน้องเพราะค่อนข้างมั่นใจว่าไจ่ไจ๋ต้องรู้

"สงสัย.....สงสัยเข้าห้องน้ำอยู่" ไจ่ไจ๋ไม่รู้จะแก้ตัวยังงัยแล้วจึงพูดออกไปแบบนั้น

"งั้นหรอ?" ว่าแล้วเจอร์รี่ก็บิดประตูเปิดเข้าไปในห้องที่ว่างเปล่านั้น

"เสี้ยวเทียน!!" เรียกน้องชายย้ำอีกครั้งทั้งที่รู้ดีว่าน้องไม่อยู่ในห้องแน่นอน เขาเดินเข้าไปดูในห้องน้ำด้วยและแน่นอนว่าไม่พบน้องชายคนกลางเลย

"ไจ่ไจ๋!!!" คราวนี้เสียงพี่ใหญ่เข้มขึ้นตามลำดับจนคนฟังถึงกับสะดุ้ง

"ครับพี่ใหญ่" ตอบรับคำพี่ชายด้วยน้ำเสียงอ่อยๆ

"ตอบพี่มาซิว่าพี่กลางมันไปไหน?" น้ำเสียงของพี่ใหญ่เข้มขึ้นตามลำดับ

"ไปรับพ่อกับแม่ที่สนามบิน" คำตอบนั้นทำให้พี่ใหญ่นิ่งไป

"ทำไมไม่บอกพี่?" ถามน้องกลับไปอีก

"ก็.....ก็.....อยากให้พี่ใหญ่เซอร์ไพรส์งัย" ไจ่ไจ๋ตอบด้วน้ำเสียงอ้อมแอ้มโดยไม่กล้าสบตาพี่ชายเลย

"อย่างนั้นน่ะหรอ? กล้ามากนะที่ออกไปโดยไม่บอกกล่าวพี่ซักคำ" พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่ทำเอาคนฟังหนาวสะท้าน

"คือว่าผม.....ผมเป็นคนคิดที่อยากจะให้พี่รู้สึกแปลกใจตอนกลับมาบ้านแล้วเห็นพ่อกับแม่รออยู่ แต่ไม่นึกว่าวันนี้พี่ใหญ่จะกลับเร็ว" ไจ่ไจ๋รับผิดเสียเอง

"รู้ว่าพ่อแม่จะกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่?" ถามน้องด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ

"เมื่อวานครับ" ไจ่ไจ๋ไม่กล้าเงยหน้ามองพี่ชายเลย

"แต่ตั้งใจไม่บอกให้พี่รู้" เจอร์รี่ต่อให้น้องเสียเอง ไจ่ไจ๋ไม่ตอบเพียงแต่นิ่งเงียบเท่านั้น

"คงคิดกันหละสิว่าพวกนายสามารถเอาพ่อกับแม่มาเป็นข้อต่อรองกับพี่ได้?" น้องเล็กก้มหน้างุดไม่กล้าพูดอะไรเลย

"พี่ไม่เคยสอนให้นายพูดปดกับผู้ใหญ่แล้วก็ไม่เคยสอนให้นายคอยให้ท้ายคนทำผิดด้วย แต่ตอนนี้นายทำทุกสิ่งที่ตรงกันข้ามหมด!" เจอร์รี่ทำเสียงดุน้องจริงจัง ไจ่ไจ๋ก็ได้แต่ก้มหน้า

"ลงไปข้างล่าง เดี๋ยวเราต้องคุยกันยาว!" พูดจบก็เดินนำน้องชายลงไปที่ห้องนั่งเล่น ไจ่ไจ๋ถอนหายใจก่อนรีบเดินตามพี่ชายลงไปแต่เมื่อลงมาแล้วยังไม่ทันที่ใครจะได้พูดอะไรแวนเนสก็กลับมาพอดี เมื่อเห็นพี่ชายนั่งหน้าเครียดเขาก็ทำหน้าเจื่อนๆแล้วมองไปทางน้องชายที่ทำหน้าจ๋อยๆ

"กลับมาแล้วครับ" เอ่ยปากทักทายพี่ชายขึ้นมา พี่ใหญ่พยักหน้ารับเล็กน้อย

"เป็นอะไรหรอ?" แวนเนสมานั่งลงข้างพี่ชายพร้อมกับถามต่อ

"นายรู้หรือเปล่าว่าวันนี้พ่อแม่กลับมาแล้ว?" เจอร์รี่ไม่ตอบแต่ย้อนถามน้องเสียเอง แวนเนสได้ยินเช่นนั้นก็อึ้งๆไปเหลือบตาไปทางน้องชายคนเล็กเพราะไม่นึกว่าพี่ชายจะซีเรียสเรื่องนี้

"เอ่อ....ก็.....รู้....." แวนเนสตอบเสียงแผ่ว

"สรุปว่ามีชั้นคนเดียวที่ไม่รู้เพราะไม่มีใครคิดจะบอก" แวนเนสเงียบเพราะรู้ว่าตอนนี้พี่ชายอารมณ์ไม่ดี ไจ่ไจ๋เองก็พูดอะไรไม่ออกเช่นกัน

"แล้วรู้หรือเปล่าว่าเสี้ยวเทียนออกไปรับพ่อกับแม่?" ถามน้องชายต่ออีก แวนเนสผงกหัวเล็กน้อยแทนคำตอบ

"ดีมาก!" พี่ใหญ่ลงเสียงหนัก

"งั้นตอบชั้นมาอีกซักข้อซิ ว่าพวกนายเห็นชั้นเป็นอะไร?" คำพูดของพี่ชายทำเอาแวนเนสไม่อยากจะนั่งอยู่ตรงนี้อีกเลย

"ทำไมต้องซีเรียสขนาดนี้ด้วยหละ? พวกชั้นก็แค่อยากให้นาย....." แวนเนสตั้งท่าจะอธิบายแต่พูดยังไม่จบเจอร์รี่ก็พูดแทรกขึ้นมา

"อยากให้ชั้นเซอร์ไพรส์หรืออีกนัยนึงก็คืออยากแก้แค้นชั้นคืน" แวนเนสเงียบกริบเมื่อได้ยินเช่นนั้น

"สำหรับนายเองก็รู้อยู่เต็มอกว่าตอนนี้เสี้ยวเทียนกับไจ่ไจ๋อยู่ระหว่างการถูกลงโทษ แต่พอน้องจะทำอะไรนอกลู่นอกทางนายก็สนับสนุน ตอบชั้นมาซิว่าสิ่งที่นายทำมันถูกต้องหรือเปล่า?" ถามน้องด้วยน้ำเสียงค่อนข้างดุ ไจ่ไจ๋รีบก้มหัวเป็นเชิงขอโทษพี่ชายคนรองที่ทำให้ต้องเดือดร้อน

"ชั้นขอโทษ" แวนเนสไม่รู้จะทำยังงัยจึงเอ่ยปากขอโทษพี่ชายออกมาก่อนก่อนที่จะก้มหน้านิ่งงันเพราะพี่ชายจ้องหน้าเขาอยู่

"ชอบกันนักหรืองัยกับไอ้การที่ต้องถูกบ่นถูกด่าถูกลงโทษกันน่ะ!?" พูดด้วยน้ำเสียงเข้มขึ้นตามลำดับ แวนเนสส่ายหน้าแทนคำตอบ

"แล้วนายหละไจ่ไจ๋ ชอบหรือเปล่า!?" หันมาถามน้องเล็กบ้าง ไจ่ไจ๋ก็รีบส่ายหน้าเช่นกัน

"ไม่ชอบแต่พูดอะไรก็ไม่เคยเชื่อฟัง! ไหนตอบให้พี่หายข้องใจหน่อยซิว่าจะให้พี่ทำยังงัย!?" พี่ใหญ่พูดด้วยน้ำเสียงแข็งกระด้างจนน้องชายทั้งคู่นึกอยากจะเป็นคนหูหนวกตาบอดขึ้นมาชั่วคราว

"พี่ใหญ่.....ผมขอโทษจริงๆที่ทำอะไรโดยไม่บอกพี่ก่อน ผมคิดว่าเรื่องการที่พี่กลางเขาออกไปรับพ่อกับแม่พี่ใหญ่ไม่น่าจะว่าอะไร แล้วอีกอย่างเราสามคนอยากให้พี่ใหญ่รู้สึกเซอร์ไพรส์ที่กลับมาจากทำงานแล้วเห็นพ่อกับแม่นั่งรอรับอยู่ที่บ้าน" ไจ่ไจ๋รวบรวมความกล้าก่อนจะอธิบายเหตุผลให้พี่ชายฟัง

"นายน่ะหรอเป็นตัวต้นคิด?" พี่ใหญ่ย้อนถามอย่างไม่เชื่อว่าน้องเล็กจะคิดแผนการนี้

"เอ่อ....ชั้นก็ช่วยคิดด้วย...." แวนเนสพูดแทรกขึ้นมา

"แต่พี่ไม่คิดว่างั้นนะ" พูดด้วยน้ำเสียงนิ่งๆแล้วมองหน้าน้องชายทั้งสองคนสลับกันไปมา ยังผลให้น้องชายทั้งคู่ก้มหน้าลงทันที

"ไม่ต้องบอกพี่ก็พอจะรู้ว่าไอ้ความคิดแบบนี้มันมาจากใคร" แวนเนสกับไจ่ไจ๋ได้ยินเช่นนั้นก็ได้แต่มองหน้ากันไปมา ไม่รู้เหมือนกันว่าจะช่วยแก้ต่างให้เคนยังงัยดี

"กลับมาเมื่อไหร่ได้เห็นดีกันแน่!" พูดจบก็ทิ้งตัวนั่งที่โซฟาด้วยสีหน้าบึ้งตึง



- ที่สนามบิน -

"พ่อแม่ครับ!!" เคนร้องเรียกบุพการีทั้งสองคนอย่างดีใจก่อนจะรีบวิ่งเข้าไปหา

"มาแล้วหรอลูก?" แม่ทักกลับพร้อมกับอ้าแขนรอรับลูกชาย เคนสวมกอดแม่อย่างคิดถึง

"รอนานมั๊ยครับ?" เคนถามแม่ต่อ แม่ส่ายหน้าแล้วลูบแก้มลูกชายอย่างรักใคร่

"สบายดีมั๊ยครับแม่? เดินทางเหนื่อยหรือเปล่า? กินอะไรมาหรือยัง?" เคนถามต่ออีก

"หึๆๆๆ เห็นหน้าลูกแม่ก็หายเหนื่อยแล้ว" แม่ตอบยิ้มๆ

"อะฮึ่ม! ไม่เห็นทักพ่อบ้างเลยนะ" พ่อเอ่ยแทรกขึ้นมาบ้างเมื่อเห็นลูกชายเอาแต่คุยกับแม่คนเดียว

"ทักสิครับ พ่อเป็นยังงัยบ้าง? งานยุ่งมากมั๊ยครับ?" เคนผละตัวออกจากแม่แล้วเดินมาจับมือพ่อบีบเบาๆ พ่อยิ้มแล้วดึงตัวลูกชายเข้ามากอด

"พ่อทนความคิดถึงพวกลูกๆไม่ได้หรอก ต่อให้งานยุ่งแค่ไหนก็ต้องรีบมาหา" เคนหัวเราะเบาๆกับคำหวานของพ่อ

"ตอนนี้ผมก็คิดถึงพ่อกับแม่มากที่สุดเลย กลับมาได้เวลาพอดี" พ่อและแม่ได้ยินดังนั้นก็หันไปมองหน้ากัน

"อยากเล่าให้พ่อแม่ฟังมั๊ยจ๊ะว่ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นบ้างระหว่างที่พ่อแม่ไม่อยู่?" แม่ถามลูกชายคนกลาง

"เรื่องมันยาวครับ เดี๋ยวผมเล่าให้ฟังระหว่างทางกลับบ้าน รีบไปกันเถอะครับเพราะถ้าพี่ใหญ่ถึงบ้านก่อนมีหวังผมโดนเล่นงานตายแน่" เคนว่าแล้วก็รีบหิ้วกระเป๋าของพ่อแม่มาถือแล้วพาบุพการีทั้งสองคนไปยังที่จอดรถ

"อืม...ไหนบอกพ่อหน่อยว่าลูกออกมารับพ่อกับแม่ทำไมพี่ใหญ่ต้องว่าลูกด้วย?" พ่อถามอย่างสงสัยหลังจากรถเคลื่อนตัวออกมาแล้ว

"ก็....ก่อนออกมาผมไม่ได้บอกพี่ใหญ่นี่ครับ แล้วตอนนี้ผมอยู่ระหว่างการถูกพี่ใหญ่ลงโทษกักบริเวณอยู่ด้วย ถ้ากลับไปถึงบ้านแล้วพ่อแม่บอกพี่ใหญ่นะครับว่าพ่อแม่นั่งแท๊กซี่กลับมาเอง" เคนตอบพร้อมกับอธิบายให้ฟัง

"แล้วทำไมลูกไม่บอกพี่ใหญ่ก่อนหละว่าลูกจะมารับพ่อกับแม่?" พ่อถามต่ออีก

"โถ....ถ้าบอกพี่ใหญ่ก็ไม่ให้ผมมาหรอก พี่เขาก็ต้องมารับพ่อกับแม่เองอยู่แล้ว และอีกอย่างผมอยากออกมาข้างนอกบ้างอยู่แต่ในบ้านมาเป็นอาทิตย์แล้วอึดอัดจะตายไป" เคนให้เหตุผลก่อนจะหันกลับไปยิ้มหวานกับบุพการีทั้งสองคน

"แต่ถ้าพี่ใหญ่ถึงบ้านก่อนเรา พ่อแม่ต้องช่วยผมนะครับ" ได้ยินเช่นนั้นพ่อและแม่ก็หันไปมองหน้ากันยิ้มๆ

"แต่แม่ว่าลูกเองก็ทำไม่ถูกนะที่ไม่ยอมบอกพี่ใหญ่เขาก่อน" ได้ยินเช่นนั้นเคนก็ยิ้มค้าง

"แม่ครับ....ผมอุตส่าห์ออกมารับนะ.....แม่จะปล่อยให้ผมโดนพี่ใหญ่ฆ่าตายต่อหน้าต่อตาเลยหรอ?" เคนโอดครวญด้วยน้ำเสียงอ่อยๆ แม่หัวเราะออกมาอย่างขำๆกับลูกชายคนนี้

"พี่ใหญ่เขาโหดขนาดนั้นเชียวหรอลูก?" ว่าพร้อมกับเอื้อมมือมาลูบหัวลูกชายเบาๆ

"แหงสิครับ พี่ใหญ่อ่ะดุจะตายแถมมือหนักอีกต่างหาก โดนทำโทษแต่ละทีน่วมไปทั้งตัวเลย" เคนได้ทีรีบฟ้องเป็นการใหญ่

"ตายหละ เจ้าเจอร์รี่ตีน้องรุนแรงขนาดนี้เชียว ไม่ได้แล้วกลับไปต้องคุยกันหน่อย" แม่ได้ยินเช่นนั้นก็บ่นลูกชายคนโตออกมาทันที ส่วนเคนนั้นลอบยิ้มอย่างพอใจที่ยุแม่ได้

"ดีเลยครับ แม่ต้องคุยกับพี่ใหญ่จริงๆนะ" เคนรีบสนันสนุน

"คุยแน่นอนจ๊ะ" แม่รับปากลูกชายอย่างเอาใจ

"ไม่เอาน่า.....กลับมาทั้งทีเอาแต่ต่อว่าลูกเดี๋ยวลูกก็น้อยใจตายพอดี" พ่อพูดแทรกขึ้นมาเพราะรู้ว่าที่เคนพูดนั้นก็คงไม่จริงทั้งหมด เคนได้ยินเช่นนั้นก็หุบยิ้มทันทีเพราะฟังดูก็พอจะรู้ว่าพ่อเข้าข้างพี่ชาย

"พ่อครับ ผมก็ไม่ได้หมายความว่าจะให้แม่ต่อว่าอะไรพี่ใหญ่รุนแรงซักหน่อยแค่ให้พูดเตือนพี่เขาเฉยๆ" เคนพูดด้วยน้ำเสียงกระเง้ากระงอด พ่อได้ยินก็ได้แต่ยิ้มๆ

"ถ้าพ่อคิดว่าผมพูดโกหก กลับไปก็คอยดูเองแล้วกัน" เคนพูดต่อด้วยสีหน้ามุ่ยๆ

"ยังงัยหละพ่อ ทำลูกงอนเลย" แม่หันไปต่อว่าพ่อซึ่งมีสีหน้ายิ้มๆดังเดิม

"อืม....นั่นสิ....พ่อจะทำยังงัยดีหละ?" พ่อเองก็เปรยๆขึ้นมาเช่นกัน เคนไม่ตอบว่าอะไรเพียงแต่ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้

"งั้นไปช้อปปิ้งกันหน่อยดีมั๊ย? ไปหาซื้อเครื่องดื่มดีๆฉลองการกลับบ้านของเราสองคนงัยแม่" พ่อแกล้งหันมาถามความเห็นแม่

"เอ.....ไม่รู้สิ เพราะเสี้ยวเทียนบอกอยากจะรีบกลับบ้านนะพ่อ" แม่แกล้งพูดขึ้นมาบ้าง

"ไม่รีบก็ได้ครับ เพราะไหนๆพ่อแม่กลับมาทั้งทีมันก็ต้องมีอะไรพิเศษหน่อย" เคนรีบพูดแทรกขึ้นมาทันที

"หึๆๆๆ" พ่อกับแม่หันมาหัวเราะด้วยกัน

"งั้นตอนนี้พ่อตามใจคนขับ อยากพาพ่อแม่ไปไหนก็ได้ทั้งนั้น" พ่อพูดกับลูกชายจบก็ขยี้หัวเบาๆอย่างเอ็นดู เคนจึงค่อยยิ้มออกมาได้และหลังจากนั้นเขาก็เปลี่ยนจุดมุ่งหมายตามใจตัวเองทันที



Create Date : 30 มีนาคม 2552
Last Update : 30 มีนาคม 2552 22:30:18 น. 0 comments
Counter : 1042 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 
 

loving_zai
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]




[Add loving_zai's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com