Chapter 76

  ตอนที่ 76

"เฮ่อ!"  ไจ่ไจ๋ถอนหายใจยาวพร้อมกับพลิกตัวกลับไปกลับมาเป็นรอบที่ร้อยได้แล้ว หลังจากที่เขานั่งดูรูปอยู่กับพี่ชายทั้งสามคนอยู่นั้นจู่ๆก็มีภาพเบลอๆแว๊บขึ้นมาในสมองเป็นระยะๆ นั่นทำให้เขารู้สึกปวดหัว แต่พอมานอนแล้วกลับหลับไม่ลง

"ตีสองกว่าแล้วหรอเนี่ย"  ว่าพลางเหลือบมองนาฬิกาที่ตั้งอยู่ข้างเตียง

"ทำไมรูปที่เห็นเราถึงรู้สึกคุ้นมากแต่ก็ยังจำพวกเขาไม่ได้ซักทีนะ"  ไจ่ไจ๋รำพันกับตัวเอง  

"งั้นต้องลองอีกครั้ง"  เงียบไปครู่หนึ่งก็พูดกับตัวเองอย่างตัดสินใจแล้วลุกจากเตียงไปเปิดประตูอย่างเบามือ เขามองซ้ายขวาก่อนจะเดินย่องออกมาอย่างเงียบเชียบที่สุดเพราะไม่อยากให้ใครตื่นขึ้นมาตอนนี้

"ท่าจะเข้านอนกันหมดแล้ว"  พึมพำเบาๆเพราะข้างล่างปิดไฟมืด ไจ่ไจ๋สูดลมหายใจเข้าลึกๆก่อนจะเดินลงไปข้างล่างแล้วตรงไปที่ชั้นเก็บอัลบั้มรูป

"ไม่เปิดไฟดีกว่า"  ไจ่ไจ๋คุยกับตัวเองก่อนจะยกโคมไฟเล็กๆบนโต๊ะมาตั้งตรงหน้าแล้วเปิดเพื่ออาศัยความสว่างดูรูปพวกนั้น

"อ๊ะ! มีแมวด้วย"  อุทานออกมาเบาๆเมื่อเห็นเจ้าพีพีและถางถางนอนอยู่บนโซฟาอย่างสบาย

"นอนสบายเชียวนะพวกแก"  ไจ่ไจ๋พูดกับแมวทั้งสองตัวยิ้มๆแล้วเดินไปลูบตัวพวกมันอย่างเอ็นดู เจ้าแมวทั้งสองตัวก็ต่างลุกขึ้นมาอ้อนไจ่ไจ๋กันใหญ่

"ไม่เล่นด้วยนะ พวกแกอย่าเสียดังเดี๋ยวคนข้างบนจะตื่นกันหมด"  ไจ่ไจ๋จุ๊ปากเตือนแมวทั้งสองตัวเบาๆ

"เอ....ว่าแต่.....พวกแกเป็นแมวของใครเนี่ย?"  แล้วไจ่ไจ๋ก็ทำหน้าสงสัยเพราะจำเจ้าสัตว์เลี้ยงแสนรักสองตัวนี้ไม่ได้

"หรือจะเป็นแมวที่เราเลี้ยงเองหว่า?"  ขมวดคิ้วอย่างครุ่นคิดเพราะถ้าหากเขาไม่ได้รู้จักมักคุ้นกับมันเจ้าสองตัวนี้คงไม่ยอมเข้าใกล้แน่เพราะนิสัยแมวนั้นจะไม่ยอมเข้าหาใครง่ายๆ

"นอกจากพวกเขาสามคน เราก็จำเจ้าสองตัวนี้ไม่ได้ด้วยหรอ? ทำไมเป็นแบบนี้หละ?"  แล้วก็ตั้งคำถามกับตัวเองอย่างสงสัย

"เอาเถอะๆๆๆ พวกแกไปนอนไป ชั้นจะดูรูปอย่ามากวนหละ"  ว่าแล้วก็จับเจ้าแมวทั้งสองตัวไปนอนที่โซฟาตามเดิม ซึ่งทั้งสองตัวก็พอจะรู้ว่าเจ้านายไม่อยากให้ยุ่งเลยนอนอยุ่ตรงนั้นไม่มาป้วนเปี้ยนกวนใจอีก ไจ่ไจ๋มองพวกมันอีกครั้งก่อนจะทรุดตัวนั่งที่พื้นแล้วเริ่มเปิดอัลบั้มรูปพวกนั้นดู

"รูปเราตอนเด็กๆ"  ไจ่ไจ๋ยิ้มเล็กน้อยในขณะดูรูปเหล่านั้น แล้วเปิดดูไปเรื่อยๆอัลบั้มแล้วอัลบั้มเล่าจนเจอรูปที่ครั้งเขาและพี่ชายไปตั้งแคมป์กัน พอเจอภาพเหล่านั้นแล้วไจ่ไจ๋ก็ชะงักไปเพราะมีในหัวเขาเริ่มเห็นภาพในตอนที่เขาไปเที่ยวที่นั่นกับพี่ชายทั้งสามคน ภาพที่พวกเขาสี่คนนอนอยู่ในเต๊นท์เดียวกัน ภาพที่เขาโวยวายที่โดนเคนแกล้งจนต้องวิ่งไปฟ้องพี่ใหญ่ และภาพที่ทั้งเขาและเคนต่างคนต่างงอนกันจนมาคืนดีกันที่สวนดอกไม้แห่งหนึ่ง ขอบตาของไจ่ไจ๋เริ่มร้อนผ่าวเพราะภาพต่างๆของพี่ชายเริ่มแล่นผ่านเข้ามาเหตุการณ์แล้วเหตุการณ์เล่ามาจนถึงเหตุการณ์ก่อนหน้าที่เขาจะตกบันได
'นายมันถูกตามใจจนเคยตัว! ทำอะไรไม่เคยคิดถึงความรู้สึกของคนอื่น! เอาตัวเองเป็นใหญ่! เอาแต่ความพอใจของตัวเองเป็นหลัก!'  เสียงของเคนดังขึ้นในห้วงความคิด แล้วภาพที่พี่ชายผลักไสเข้าออกมาจากห้องก็ปรากฏแจ่มชัดขึ้นเรื่อยๆ ไจ่ไจ๋จำได้ว่าตัวเองไม่มีเรี่ยวแรงเหลืออยู่เลยจึงเดินอย่างไร้จุดหมายและคิดอยากจะให้ตัวเองลืมเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นหรืออยากให้ภาพก่อนหน้านั้นเป็นแค่ความฝัน 

"เป็นแบบนี้นี่เอง"  ไจ่ไจ๋พูดกับตัวเองพร้อมกับน้ำตาที่ไหลลงอาบแก้มเขารู้แล้วว่าทำไมตัวเองถึงจำพี่ชายทั้งสามคนไม่ได้เลย เพราะตอนที่เกิดเรื่องเขาคิดอย่างเดียวก็คืออยากลืมเท่านั้น แล้วก็ต้องร้องไห้หนักขึ้นเมื่อคิดถึงภาพพี่ชายคนกลางเมื่อหลายวันที่ผ่านมา พี่ชายที่ดูเซื่องซึมสีหน้าเหมือนจะมีแต่ความทุกข์ แต่ต่อหน้าเขากลับต้องปั้นหน้ายิ้มแย้มก็เพียงเพราะไม่อยากให้เขาคิดมาก ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นพี่ชายคนนี้ก็ไม่เคยหันหลังให้เขา ไม่เคยเลยแม้แต่ครั้งเดียว

"ผมขอโทษครับพี่ ผมขอโทษ"  ไจ่ไจ๋พึมพำออกมาเบาๆก่อนจะฟุบหน้าลงร้องไห้อย่างสุดกลั้น


- ที่ห้องนอนเจอร์รี่ -

"เฮ่อ!"  เคนนอนพลิกตัวกลับไปกลับมาอยู่นานมากแล้ว ตั้งแต่ตอนหัวค่ำหลังจากที่น้องเล็กขอตัวกลับห้องและก็เก็บตัวเงียบอยู่ในห้องไม่ลงมาอีก เขาก็โดนพี่ชายบังคับให้ขึ้นมานอนแต่ว่าเขากลับข่มตาหลับไม่ลงเพราะในใจรู้สึกไม่สงบและพะว้าพะวงอยู่ตลอด

"คอแห้งจัง"  เคนบ่นกับตัวเองแล้วขยับตัวลุกขึ้นอย่างระมัดระวังเพราะพี่ชายคนโตกำลังหลับสนิท 

"น้ำหมด"  เมื่อยกเหยือกน้ำบนโต๊ะข้างเตียงนอนขึ้นมาเคนก็ทำหน้าเซ็งๆเพราะดึกดื่นขนาดนี้แล้วเขาก็ขี้เกียจจะเดินลงไปในครัวอีก แต่ตอนนี้เขาคอแห้งมากและต้องการดื่มน้ำ

"ไปก็ไป"  พูดกับตัวเองแล้วลุกขึ้นจากเตียง

"เสี้ยวเทียน"  น้ำเสียงงัวเงียของพี่ชายดังขึ้นทำให้เคนต้องหันกลับไปมอง

"ชั้นจะลงไปดื่มน้ำข้างล่าง"  เคนบอกพี่ชายเบาๆ

"ในเหยือก...."  เจอร์รี่ขยี้ตาพร้อมกับชี้ไปที่เหยือกน้ำ

"หมดแล้ว"  เคนบอกพี่ชายพร้อมกับยกเหยือกน้ำให้ดู

"ให้ชั้นลงไปเอาให้มั๊ย?"  เจอร์รี่ถามน้องต่อ

"ไม่ต้องหรอก ขอบคุณ"  เคนส่ายหน้าแล้วเดินกลับมาที่เตียง

"นายนอนไปเถอะ"  ว่าแล้วก็ห่มผ้าให้พี่ชาย พี่ใหญ่ยิ้มให้น้องบางๆก่อนจะหลับตาลงแต่โดยดีเพราะหลายวันมานี้เขาเองก็พักผ่อนไม่เพียงพอเช่นกัน เมื่อห่มผ้าให้พี่ชายเสร็จแล้วเคนก็เปิดประตูออกไปอย่างเงียบเชียบ 

"ทำไมวันนี้อากาศมันเย็นๆเนี่ย"  พูดกับตัวเองเบาๆเพราะรู้สึกถึงความเย็นที่ปะทะเข้ามา แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมากเพราะหิวน้ำเต็มทีแล้ว เคนเดินลงจากบันไดก็เดินเลยเข้าห้องครัวเพื่อไปดื่มน้ำโดยไม่ได้สังเกตอะไร จนเมื่อดื่มน้ำเสร็จก็ค่อยมานั่งลงที่โต๊ะกินข้าว

"เสียงอะไรวะ?"  เคนขมวดคิ้วเพราะเหมือนตัวเองจะได้ยินเสียงอะไรดังแว่วๆมา

"ตีสองกว่า"  แล้วก็เหลือบมองนาฬิกาบนฝาผนังก่อนจะขนลุกขึ้นมาเฉยๆ

"บ้านเราไม่เคยมีอะไรแบบนี้นี่หว่า"  เคนพาลนึกไปถึงสิ่งลี้ลับ แต่ก็เงี่ยหูฟังให้ชัดๆ

"เสียงร้องไห้หรอ?"  พูดกับตัวเองแล้วขยับตัวลุกขึ้นอย่างเงียบเชียบที่สุด 

"ผีหรือโขมยวะ?"  เริ่มนึกขึ้นมาได้ก็หันไปหยิบมีดปลายแหลมขึ้นมาถือไว้ในมือเพื่อป้องกันตัว 

"แต่โขมยที่ไหนจะมานั่งร้องไห้"  พูดกับตัวเองอย่างหวั่นๆ ตอนนี้ในใจของเขาเอนเอียงไปทางสิ่งลี้ลับประมาณ 80% แล้ว

"เอาวะ! แหกปากหน่อยเจอร์รี่มันคงตื่น"  เคนตัดสินใจอย่างเด็ดขาดแล้วก็ก้าวยาวๆออกจากห้องครัว กลัวก็กลัวอยากรู้ก็อยากรู้

"อ๊ะ!"  เมื่อเขามองไปที่ห้องนั่งเล่นก็เห็นแผ่นหลังที่คุ้นเคยนั่งอยู่ที่พื้นโดยที่เอาแขนเท้าโต๊ะและฟุบหน้าอยู่

"ไจ่ไจ๋นี่นา"  ความกลัวทั้งหมดมลายหายไปหมดมีแต่ความเป็นห่วงเท่านั้น เคนไม่รอช้ารีบเดินเข้าไปเปิดไฟ

"ไจ่ไจ๋ เป็นอะไรหรือเปล่า?"  ร้องถามทำลายความเงียบขึ้นมา ไจ่ไจ๋เงยหน้ามาน้ำตายังไหลอาบแก้มทั้งสองข้าง

"เป็นอะไรไป? ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่าบอกพี่ได้นะ....."  เคนแทบจะร้องไห้ตามเมื่อเห็นสภาพน้องเป็นแบบนี้และก่อนที่เขาจะได้พูดอะไรอีกไจ่ไจ๋ก็โผเข้ากอดเขาแน่น

"พี่กลาง!!"  เคนนิ่งงันแทบไม่เชื่อในสิ่งที่เพิ่งได้ยินไป เขายังมึนงงอยู่ว่าตัวเองหูฝาดหรือเปล่า

"พี่กลาง! พี่กลางครับ!"  ประโยคต่อมาที่เรียกเขาซ้ำๆนั้นทำให้เคนถึงกับน้ำตาไหลด้วยความดีใจ เขาพูดอะไรไม่ออกได้แต่กอดน้องชายแน่น เขารู้ได้ทันทีว่าเขาได้น้องชายกลับคืนมาแล้ว   

"พี่กลาง....ผม....ผม....."  ไจ่ไจ๋เองอยากจะพูดอะไรหลายๆอย่างกับพี่ชายแต่ตอนนี้กลับพูดอะไรไม่ออกเช่นกัน สองพี่น้องกอดกันอยู่อย่างนั้นและเคนก็เป็นฝ่ายผละตัวออก

"เด็กโง่....ร้องไห้อีกแล้ว....."  ยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาให้น้องอย่างแผ่วเบา 

"พี่กลางก็ด้วย"  ไจ่ไจ๋ย้อนพร้อมกับเอามือเช็ดน้ำตาให้พี่ชายเช่นกัน

"นายรู้มั๊ยว่าพี่รอฟังนายเรียกพี่กลางมานานขนาดไหน?"  สายตาของเคนนั้นอ่อนโยน

"แล้วพี่รู้มั๊ยว่าผมคิดถึงอ้อมกอดของพี่มากแค่ไหน?"  ไจ่ไจ๋เองก็ย้อนถามพี่ชาย เคนจึงหัวเราะออกมาได้แล้วรั้งตัวน้องชายเข้ามากอดอีก

"ไจ่ไจ๋....น้องพี่กลับมาแล้วจริงๆ....."  เคนว่าพร้อมกับกอดรัดน้องชายอย่างรักใคร่ แล้วก็พาน้องมานั่งที่โซฟาก่อนจะเริ่มซักถาม

"นายจำได้ตั้งแต่เมื่อไหร่?"  เคนตั้งคำถามกับน้อง 

"ก็ก่อนหน้าพี่จะเข้ามาไม่นานนักหรอก"  ไจ่ไจ๋ว่าแล้วซบหน้าลงที่อกพี่ชาย เคนลูบหัวน้องอย่างเอ็นดู

"ยังงัย?"  ถามน้องชายต่อไปอีก

"ผมนั่งดูรูป.....แล้วภาพทุกอย่างก็วิ่งเข้ามาในหัวผม.....ทุกอย่าง....."  ไจ่ไจ๋เน้นประโยคหลัง

"นายจำได้ทุกอย่างแล้ว?"  เคนถามย้ำน้องชายอีกรอบ ซึ่งไจ่ไจ๋ก็เงยหน้าขึ้นมาสบตากับพี่ชายก่อนจะพยักหน้ารับด้วยท่าทางเศร้าๆ

"เป็นอะไรไปอีก?"  เมื่อเห็นน้องมีท่าทีสลดลงก็ถามอย่างเป็นห่วง

"ผมขอโทษครับพี่กลาง"  คำพูดของน้องนั้นเคนรู้ดีว่าน้องกำลังพูดถึงเรื่องอะไร

"ไม่เป็นไรหรอก แค่เสื้อเปียกน้ำตาของนายแค่นี้ไม่ถึงกับขี้เกลือขึ้นหรอกมั้ง?"  เคนเลยแกล้งพูดเป็นเรื่องตลกไป

"พี่กลาง! ผมไม่ได้พูดถึงเรื่องนั้น"  ไจ่ไจ๋ทำหน้าดุใส่พี่ชาย 

"งั้นหรอ? พี่เข้าใจผิดซะแล้ว"  เคนยิ้มพร้อมกับเอานิ้วจิ้มที่แก้มน้องชายเบาๆ

"ไจ่ไจ๋....ช่างมันเถอะ เรื่องทุกอย่างมันผ่านไปแล้ว"  เงียบไปครู่หนึ่งก็พูดกับน้องด้วยท่าทางจริงจัง

"ถ้าพี่รู้แต่แรกว่าเรื่องมันจะเป็นแบบนี้พี่จะไม่โวยวายใส่นายเลยแม้แต่คำเดียว"  ไจ่ไจ๋ซบหน้าลงที่อกพี่ชายอีกครั้ง

"พี่ไม่ผิดที่ทำแบบนั้น เพราะถ้าเป็นใครก็ต้องโกรธ"  ไจ่ไจ๋พูดด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ

"ผิดสิ กับอีแค่แมวสองตัวพี่ดันอาละวาดใส่นายซะเละเลย"  เคนว่าพร้อมกับลูบไล้เส้นผมของน้องชายเล่น

"พี่กลางรู้มั๊ยว่าผมจำเจ้าพีพีกับถางถางไม่ได้ด้วยเหมือนกัน"  ไจ่ไจ๋เงยหน้าขึ้นมาบอกกล่าวกับพี่ชาย เคนเลิกคิ้วเมื่อได้ยิน

"หลังจากที่ผมนั่งดูรูปกับพวกพี่แล้วผมก็รู้สึกแปลกๆ เลยขอตัวขึ้นไปข้างบนใช่มั๊ย? แต่ผมไม่ได้นอนหลับหรอกเพราะมันกระสับกระส่ายนอนไม่หลับเลยตัดสินใจจะลงมานั่งดูรูปพวกนี้ให้มันรู้แล้วรู้รอดกันไปเลย"  ไจ่ไจ๋เล่าเรื่องทั้งหมดให้พี่ชายฟัง

"แต่พอลงมาผมเห็นเจ้าสองตัวนั่นนอนอยู่บนโซฟาผมกลับจำพวกมันไม่ได้"  เคนก้มหน้าลงมองน้องชายเมื่อได้ยิน

"สรุปว่านายลืมทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับเรื่องก่อนที่นายจะตกบันไดใช่มั๊ย?"  ย้อนถามน้องชายกลับไป

"ก็ใช่...."  ไจ่ไจ๋ตอบแล้วเงียบไปครู่หนึ่ง

"ไม่รู้ว่าจะเกี่ยวกันมั๊ย? แต่ก่อนที่ผมจะตกบันไดผมเอาแต่นึกว่าเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านั้นมันน่าจะเป็นแค่ความฝันหรือไม่งั้นก็ให้ผมลืมเรื่องทั้งหมดนั้นไปซะ"  คราวนี้เคนเป็นฝ่ายเงียบไปบ้าง

"แย่จัง ผมเพียงแต่อยากลืมเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้อยากลืมพวกพี่เลยแม้แต่นิดเดียว"  แล้วไจ่ไจ๋ก็พูดด้วยน้ำเสียงอ่อยๆ

"จะไปสนใจอะไรอีกเล่า? ตอนนี้นายก็กลับมาจำพวกพี่ได้แล้วหนิ"  เคนพูดด้วยน้ำเสียงร่าเริงเพราะไม่อยากให้น้องคิดมาก

"ตอนนี้จำได้แล้ว ห้ามลืมอีกเด็ดขาดเลย"  แกล้งทำหน้าเข้มในขณะที่พูด

"ไม่มีทาง ต่อไปนี้ผมจะจดบันทึกไว้ทุกวัน ต่อไปหากเกิดเหตุการณ์แบบนี้อีกผมจะไม่พยายามหนีหน้าหายไปไหน"  ไจ่ไจ๋พูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

"ยังคิดจะมีครั้งต่อไปอีกหรอ? แค่นี้พี่ก็กลุ้มจะแย่แล้ว"  เคนว่าพร้อมกับบีบจมูกน้องไปด้วย ตอนนี้เขารู้สึกโล่งอกอย่างบอกไม่ถูก

"นั่นงัย! ผมมีเรื่องต้องคิดบัญชีกับพี่กลาง"  ว่าแล้วไจ่ไจ๋ก็ทำเสียงดุๆ

"อะไร? คิดบัญชีอะไร?"  เคนย้อนถามเสียงสูง

"ยังจะมาถามอีก! ทำไมหลายวันมานี่พี่กลางถึงไม่ยอมกินไม่ยอมนอน? ดูซิ....ผอมจนจำแทบไม่ได้แล้ว"  เคนได้ยินก็หัวเราะอย่างขำๆ

"ไอ้บ้า! พูดซะเว่อร์เลย พี่ก็กินทุกวันแหละ"  เคนต่อว่าน้องชายเบาๆ

"ถ้าพี่ใหญ่กับพี่รองไม่บังคับพี่จะยอมกินมั๊ยฮึ?"  ย้อนถามพี่ชายอย่างเอาเรื่อง

"ไม่เกี่ยวซักหน่อย ถ้าหิวก็กินเองนั่นแหละ"  เคนแก้ตัวแล้วทำท่าไม่รู้ไม่ชี้

"ยังจะมาเถียงอีก"  ว่าพลางทำหน้ามุ่ยใส่พี่ชาย

"ไจ่ไจ๋ คนที่คอยบ่นพี่น่ะมีตั้งสองคนแล้วนายไม่ต้องมาร่วมวงด้วยก็ได้"  พูดต่อว่าน้องแบบอ้อมๆ เพราะกลัวน้องจะบ่นตัวเองอีก

"คนเขาเป็นห่วงยังจะทำเป็นรำคาญอีก"  ไจ่ไจ๋แหวใส่พี่ชายแล้วขยับตัวหนี

"ไม่ได้รำคาญซักหน่อย พี่ยังไม่ทันพูดเลยซักคำ"  เคนเถียงน้องยิ้มๆ

"ไม่คุยด้วยแล้ว"  ไจ่ไจ๋พูดจบก็ทำท่าจะลุกขึ้นแต่เคนก็รีบดึงตัวน้องไว้ก่อน

"จะไปไหน?"  น้องเล็กหันมาทำตาขวางใส่

"ไปนอนน่ะสิ ปวดหัว"  พูดด้วยน้ำเสียงแข็งๆเล็กน้อย

"ปวดหัวหรอ? ไปทำอะไรมาถึงได้ปวดหัว? เดี๋ยวพี่หายาให้กินนะ"  เคนว่าแล้วก็กระวีกระวาดไปหายาให้น้องชาย ไจ่ไจ๋มองตามพี่ชายด้วยความรู้สึกซาบซึ้ง

"พี่กลางครับ"  ร้องเรียกพี่ชายที่กำลังวุ่นอยู่กับการหายาแก้ปวด

"เดี๋ยวๆๆๆ เจอแล้วนี่ เดี๋ยวพี่ไปเอาน้ำให้"  เคนว่าแล้วก็รีบเข้าไปในครัวรินน้ำใส่แก้วมาให้น้องชาย

"พี่กลาง ผมไม่ได้ปวดหัวจริงๆซักหน่อย"  ไจ่ไจ๋บอกพี่ชายไปตามตรง

"อ้าว! ก็เมื่อกี้นายพูดเองหนิ"  เคนทำหน้าแปลกใจ

"ผมก็พูดไปงั้นๆเอง"  ไจ่ไจ๋อธิบาย

"เหมือนกันคำพูดติดปากน่ะเข้าใจมั๊ย?"  เคนได้ยินดังนั้นก็ผลักหัวน้องชายเข้าให้

"ไอ้เด็กบ้า! ทำให้พี่ตกใจอีกแล้ว!"  ต่อว่าน้องชายจบก็ยื่นน้ำให้น้องดื่ม

"กินเข้าไปให้หมดเลย"  พูดจบแล้วก็เดินเอายาไปเก็บ ไจ่ไจ๋ยิ้มแล้วยกแก้วน้ำขึ้นดื่มก่อนจะเดินไปกอดเอวพี่ชาย

"ขอบคุณมากนะครับพี่กลาง ขอบคุณที่เป็นพี่ชายที่แสนดีของผมเสมอ"  เคนไม่ว่าอะไรเพียงแต่ยิ้มอย่างดีใจกับสิ่งที่ได้ยิน

"เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ผมรู้ว่าพี่ไม่เคยทอดทิ้งผมเลย ไม่ว่าผมจะเป็นยังงัย"  พูดจบไจ่ไจ๋ก็กอดพี่ชายแน่นขึ้น

"เฮ่อ! ทำงัยได้? ก็พี่ดันมีน้องชายอยู่คนเดียวนี่นา"  เคนแกล้งพูดเล่นบ้าง

"ถ้าลองมีน้องสาวอีกซักคน นายอาจจะตกกระป๋องก็ได้"  ไจ่ไจ๋ได้ยินดังนั้นตีแขนพี่ชาย

"ไม่ได้! ต่อให้มีน้องสาวหรือน้องชายอีกพี่กลางก็ต้องรักผมที่สุด ไม่งั้นได้เห็นดีกันแน่!"  พูดด้วยน้ำเสียงกระแทกกระทั้น

"อื้ม!! พี่ก็ต้องรักนายที่สุดอยู่แล้ว ไอ้ตัวแสบ....."  เคนจูบเบาๆที่หน้าผากน้องชาย

"ไป.....ขึ้นไปนอนกันดีกว่า"  แล้วก็จูงมือน้องชายไว้

"ไม่นอน! แล้วพี่กลางก็ห้ามนอนด้วย"  ไจ่ไจ๋ทำเสียงแข็ง

"เอ้า! เมื่อกี้นายบอกว่าง่วง"  เคนขมวดคิ้วเพราะเริ่มเอาใจน้องไม่ถูก

"นี่กี่โมงแล้ว?"  ไจ่ไจ๋ถามพี่ชาย

"จะตีสี่"  เคนเหลือบมองนาฬิกาก่อนจะตอบคำถามน้องชาย

"ตอนนี้น่ะมันเป็นเวลาที่ดึกเกินกว่าจะเข้านอน"  ไจ่ไจ๋พูดต่อทันทีที่พี่ชายพูดจบ

"แล้วมันก็เช้าเกินไปที่จะตื่น"  เคนพูดต่อคำน้องอย่างรู้ทัน

"ใช่!"  ไจ่ไจ๋ผงกหัวแรงๆ

"งั้น....."  เคนทำเสียงเป็นเชิงถาม

"งั้นก็ขึ้นไปข้างบนแต่ไม่ต้องนอน"  น้องเล็กตอบ

"แล้วเราจะทำอะไร?"  เคนถามอีกแต่ไจ่ไจ๋ก็ตอบอย่างรวดเร็ว

"ก็ต้องคุยกัน เพราะผมมีเรื่องอยากคุยกับพี่เยอะแยะเลย"  เคนหัวเราะเบาๆแล้วเอามือขยี้หัวน้องชาย 

"ไป....งั้นเราไปคุยกัน....."  พูดจบสองพี่น้องก็จูงมือกันเดินขึ้นบันได บรรยากาศในบ้านเริ่มกลับมาอบอุ่นอีกครั้ง


- ตอนเช้า -

"อรุณสวัสดิ์ครับพี่ใหญ่! อรุณสวัสดิ์ครับพี่รอง!"  เสียงทักทายนั้นทำให้เจอร์รี่และแวนเนสที่เพิ่งเดินงัวเงียตามกันลงมาถึงกับตาสว่าง

"นาย....นายเรียกพี่สองคนว่ายังงัยนะ?"  แวนเนสถามน้องอย่างไม่ค่อยอยากจะเชื่อหูตัวเอง

"พี่ใหญ่กับพี่รองงัยครับ"  ไจ่ไจ๋ตอบพร้อมกับยิ้มหวานจ๋อย เคนมองไปทางพี่ชายทั้งคู่ยิ้มๆแต่ไม่พูดอะไรเพียงแต่นั่งจิบกาแฟต่อ

"หมายความว่า.....นาย.....นายจำ....."  เจอร์รี่ตื่นเต้นจนพูดแทบไม่ถูกแต่คำตอบของน้องก็ทำให้เขาต้องเก้อ

"ยังจำไม่ได้หรอกครับ แต่คุณเสี้ยวเทียนบอกว่าหากผมเรียกคุณสองคนแบบนี้แล้วพวกคุณคงดีใจมาก"  คำพูดนั้นทำเอาเคนแทบสำลักกาแฟ

"พี่พูดหรอ?"  ร้องถามน้องเล็กขึ้นมาพร้อมกับทำหน้าเป็นเชิงถาม

"อ้าว! ก็คุณบอกผมเองนี่ว่าไม่อยากให้ผมเรียกพวกคุณแบบห่างเหิน"  เคนอึ้งไปเล็กน้อยเมื่อรู้ว่าน้องเล็กกำลังแกล้งพี่ชายทั้งสองคน

"แล้วคุณก็ยังบอกอีกว่าถ้าทุกเช้าผมพูดอรุณสวัสดิ์แล้วทำแบบนี้....."  ไจ่ไจ๋พูดยังไม่ทันจบประโยคก็เดินเข้าหอมแก้มพี่ชายคนโตฟอดใหญ่ เจอร์รี่ได้มองน้องชายคนเล็กตาปริบๆกับท่าทางที่เปลี่ยนไปราวกับคนละคน

"ไจ่ไจ๋"  แวนเนสเรียกน้องชายด้วยต้องการจะถามแต่ไจ่ไจ๋กลับเดินเข้าไปหอมแก้มเขาด้วย

"อื้ม! คุณก็ไม่ต้องน้อยใจไปนะ ผมจะปฏิบัติกับพวกคุณเหมือนกันทุกคน"  ไจ่ไจ๋พูดด้วยสีหน้าระรื่น ในขณะที่เคนได้แต่นิ่วหน้า

"เมื่อคืนผมมาคิดดูแล้วว่าในเมื่อผมรู้ทั้งรู้ว่าพวกคุณเป็นพี่ชายผม งั้นทำไมผมถึงต้องทำตัวห่างเหินกับพวกคุณอีก งั้นต่อไปนี้ผมจะยอมเรียกพวกคุณเหมือนเดิมแล้วผมจะพยายามเป็นน้องชายคนเล็กของพวกคุณให้เหมือนกับที่แล้วๆมา"  เจอร์รี่กับแวนเนสได้แต่หันไปมองตากันปริบๆ

"งั้นหรอ? ถ้านายทำแบบนี้ได้ทุกวันก็ดี พวกพี่สามคนคงดีใจมาก"  เจอร์รี่พูดกับน้องเล็กด้วยสีหน้าบอกไม่ถูก

"ผมรับรองเลยว่าต่อไปนี้จะไม่มีคำพูดที่ห่างเหินอีกแล้วครับพี่ใหญ่"  คำรับรองนั้นทำให้เจอร์รี่ได้แต่พยักหน้ายิ้มๆ เขานึกอยากจะกอดน้องแต่กลับไม่กล้าเพราะวันนี้น้องดูแปลกๆ แต่ไจ่ไจ๋รู้ทันจึงตรงเข้ากอดพี่ชายซะเอง

"หลายวันมานี้ผมทำให้พี่ใหญ่ต้องวุ่นวายไม่น้อย ขอโทษจริงๆครับ"  พี่ใหญ่ก้มมองน้องชายอย่างไม่อยากจะเชื่อว่านี่เป็นความจริง

"ไม่หรอก อย่าคิดมากเลย"  เอามือตบหลังน้องชายเบาๆแล้วยิ้มให้ ไจ่ไจ๋ยิ้มตอบแล้วเข้าไปกอดแวนเนสบ้าง

"ผมก็ต้องขอโทษพี่รองแล้วก็ต้องขอบคุณพี่มากด้วย"  แวนเนสกอดน้องชายแน่นด้วยความคิดถึงเพราะหลายวันมานี้แม้น้องจะอยู่ตรงหน้าแต่เขากลับเข้าถึงน้องไม่ได้เลย

"ไม่ต้องหรอก เพราะการที่นายทำแบบนี้มันก็เท่ากับเป็นสิ่งตอบแทนที่คุ้มค่ามากแล้ว"  แวนเนสว่ากอดน้องแน่นขึ้น เคนได้แต่มองเจ้าน้องชายตัวแสบเล่นละครตาปริบๆ

"วันนี้ผมกับพี่กลางไปตลาดกันแต่เช้าเลย ตอนนี้อาหารเช้าเสร็จแล้วด้วยงั้นผมเข้าไปจัดโต๊ะให้นะครับ"  หลังจากผละตัวออกจากแวนเนสแล้วไจ่ไจ๋ก็พูดอย่างร่าเริงก่อนจะเดินเข้าไปในครัวอย่างอารมณ์ดี 

"เสี้ยวเทียน"  เจอร์รี่ก็หันไปเรียกน้องชายอีกคนหลังจากที่น้องเล็กเดินหายไปแล้ว

"เฮ้ย! ชั้นไม่รู้เรื่องอะไรนะ น้องตัดสินใจแบบนี้เอง"  เคนรีบปฏิเสธเพราะกลัวว่าหากพี่ชายทั้งสองคนจับได้ขึ้นมาว่าความจำของน้องเล็กกลับมาแล้วแต่เขายังรวมหัวกับเจ้าน้องชายตัวแสบปกปิดพี่ชายต่อคงได้โดนเทศน์ยาวแน่

"ชั้นยังไม่ได้ว่าอะไรเลย แค่จะถามว่าเมื่อคืนทำไมไม่กลับเข้ามานอน?"  หรี่ตามองน้องชายอย่างต้องการคำตอบเพราะท่าทางของน้องเล็กวันนี้มีอะไรหลายๆอย่างที่ทำให้เขาคลางแคลงใจเป็นอย่างมาก เพราะคนเราไม่น่าจะเปลี่ยนแปลงไปได้เพียงชั่วข้ามคืน

"ชั้น.....ชั้น.....ชั้นแค่ไม่อยากรบกวนนายก็เลยกลับไปฟังเพลงที่ห้อง พอดีลุกแล้วก็ตาสว่างหลับต่อไม่ลง"  เคนหาข้อแก้ตัวในทันที ไม่รู้ว่าทำไมถึงไม่กล้าบอกพี่ชายว่าน้องเล็กความจำกลับคืนมาแล้ว

"งั้นหรอ? แต่ทำไมชั้นเข้าไปดูในห้องนายแล้วไม่เห็นหละ? แถมไฟข้างล่างก็เปิดสว่างด้วย"  พี่ใหญ่แกล้งถามน้องไปอย่างนั้นแต่ทำเอาเคนถึงกับสะดุ้ง

"ชั้น....คงลืมปิดไฟมั้ง? แล้วที่นายไม่เห็นก็อาจจะเป็นเพราะชั้นอยู่ในห้องน้ำ"  เคนรีบหาข้ออ้าง

"ทำไมทำตัวลุกลี้ลุกลนชอบกล?"  แวนเนสเอ่ยแทรกขึ้นมาเมื่อเห็นน้องชายดูรีบร้อนผิดสังเกต

"อะไรเล่า! มาหาเรื่องกันแต่เช้าอีกแล้ว!"  เคนแกล้งแหวใส่พี่ชายเป็นการกลบเกลื่อนแล้วตัดบททันที

"ชั้นจะไปช่วยน้องจัดโต๊ะ"  พูดจบก็รีบหมุนตัวเข้าไปในห้องครัวทันที

"มันทำตัวมีพิรุธนะ"  แวนเนสหันมาพูดกับพี่ใหญ่

"อืม.....ชั้นก็ว่างั้นแหละ"  เจอร์รี่ตอบรับพร้อมกับทำหน้าครุ่นคิด

"แล้วเมื่อคืนนายไม่ได้ลงมาดูหรอกหรอว่าทำไมไฟข้างล่างถึงเปิดทิ้งไว้"  แวนเนสถามพี่ชายต่อ

"เปล่า ชั้นไม่ได้ออกจากห้องเลย ที่พูดเมื่อกี้ก็แค่จะดูท่าทางของมันเท่านั้นแหละ ทำตัวน่าสงสัยจริงๆ"  เจอร์รี่ตอบแล้วมองหน้าแวนเนส

"หรือว่าไจ่ไจ๋?"  แวนเนสรู้ทันความคิดพี่ชายจึงพูดออกมา เจอร์รี่ไม่ตอบว่าอะไรเพียงแต่ยักไหล่แล้วหยิบหนังสือพิมพ์ขึ้นมาอ่านปล่อยให้แวนเนสได้แต่หน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่คนเดียว


- ในครัว -

"อุ๊ย!"  ไจ่ไจ๋อุทานออกมาเมื่อโดนเคนผลักหัวซะจนหน้าทิ่ม

"พี่กลางผลักหัวผมทำไม?"  หันไปทำตาขวางใส่

"แล้วนายจะหลอกพวกมันสองคนทำไม? แถมเอาชื่อพี่ไปเป็นกันชนอีกนะ"  เคนว่าพร้อมกับถลึงตาใส่น้องชาย

"แหม.....บอกเลยก็ไม่เซอร์ไพรส์สิ"  ไจ่ไจ๋ว่าพร้อมกับยิ้มหวาน

"เซอร์ไพรส์บ้าบออะไรวะ? วันนี้พ่อกับแม่จะกลับมาถึงด้วย"  ประโยคหลังเหมือนจะบ่นๆ

"ไม่ต้องห่วง ผมส่งข้อความไปบอกพ่อกับแม่แล้วหละ เชื่อว่าถ้าเครื่องลงเมื่อไหร่พ่อแม่ต้องโทรหาผมคนแรกแน่นอน"  ไจ่ไจ๋ว่าอย่างไม่ร้อนใจ

"สนุกนักนะทำให้คนอื่นเขาหัวปั่นได้แบบนี้"  ไม่วายต่อว่าน้องชายอีก

"โธ่! พี่กลางไม่เห็นหรอ? เวลาที่ผมความจำเสื่อมนี่พี่ใหญ่กับพี่รองเกรงใจผมจะตาย จะทำอะไรก็เห็นดีไปหมด จะไปค้างบ้านเพื่อนก็ไม่ห้ามด้วย"  น้องเล็กจีบปากจีบคอพูดทำให้เคนเกิดอาการคันไม้คันมือขึ้นมา

"เกรงใจนายแต่มันไม่เกรงใจพี่น่ะสิ! เห็นหรือเปล่าว่าวันๆมันเอาแต่จู้จี้จุกจิกกับพี่ เดี๋ยวต้องกินข้าวเดี๋ยวต้องนอนเดี๋ยวต้องอาบน้ำเดี๋ยวต้องไปโน้นไปนี่ โอ้ย! อยากจะบ้า!"  เคนบ่นเป็นชุดทำให้ไจ่ไจ๋ได้แต่หัวเราะ

"ก็ถ้าผมยังจำพวกพี่ไม่ได้ก็เท่ากับว่าพี่กลางกลายเป็นน้องเล็กของพี่เขาสองคนเลยนะ แบบนี้ไม่ดีหรอ?"  ย้อนถามพี่ชายอย่างขำๆ

"ไม่ดี! ไม่ชอบ!"  เคนตวัดเสียงตอบหน้ามุ่ย

"งั้นต่อไปอย่ามาน้อยใจเวลาที่พี่ใหญ่กับพี่รองสนใจผมมากกว่าหละ"  ได้ทีพูดดักคอพี่ชาย

"ไม่มีทาง! เรื่องแบบนี้พี่ไม่เคยคิดหรอก!"  เคนว่าแล้วก็หันหลังให้น้องชาย

"แน่นะ?"  ไจ่ไจ๋กอดเอวพี่ชายพร้อมกับย้อนถาม

"แน่สิ!"  เคนตอบเสียงหนักแน่น

"ผมจะคอยดู"  พูดจบไจ่ไจ๋ก็เดินกลับไปจัดโต๊ะต่อ ในตอนนั้นเสียงโทรศัพท์ของไจ่ไจ๋ก็ดังขึ้น

"แม่โทรมา"  ไจ่ไจ๋บอกเคนอย่างร่าเริงแล้วกดรับสายทันที

"แม่!"  ร้องทักทายมารดาอย่างดีใจ

"นี่มันเรื่องอะไรกันลูก?"  เสียงแม่นั้นค่อนข้างเครียด ทำให้ไจ่ไจ๋หน้าเจื่อนลง

"ก็อย่างที่ผมส่งข้อความไปบอกนั่นแหละ"  ไจ่ไจ๋ตอบแล้วรีบเปลี่ยนเรื่อง

"แม่มาถึงแล้วหรอ? เดี๋ยวผมออกไปรับนะ"  เสนอตัวอย่างยินดี

"ไม่ต้องหรอก พ่อไปเรียกแท๊กซี่แล้ว"  แม่ปฏิเสธ

"ตกลงลูกคงไม่ได้เล่นละครทั้งหมดเพื่อหาทางอ้อนให้พ่อกับแม่กลับบ้านใช่มั๊ย?"  คำพูดของแม่ทำเอาไจ่ไจ๋อ้าปากค้าง

"แม่อ่ะ! มองผมในแง่ร้ายอีกแล้ว ผมจะทำเรื่องแบบนั้นได้ยังงัย? ไม่เชื่อถามพี่กลางดูเองไม่อยากคุยกับแม่แล้ว"  ไจ่ไจ๋ทำเสียงงอนๆแล้วส่งโทรศัพท์ให้พี่ชาย

"ครับแม่?"  เคนเอ่ยทักแม่

"เจ้าน้องชายตัวแสบของลูกก่อเรื่องอีกแล้วใช่มั๊ยจ๊ะ?"  แม่ถามเคนกลับมา

"ไม่ใช่หรอกครับแม่ เรื่องทั้งหมดเป็นความจริง"  เคนตอบคำถามนั้นด้วยน้ำเสียงเป็นการเป็นงาน

"แล้วอันที่จริงมันก็เป็นความผิดของผมเอง"  พูดต่อด้วยสีหน้าเศร้าลง

"ไม่ใช่ซะหน่อย! พี่กลางพูดอะไรบ้าๆอีกแล้ว!"  ไจ่ไจ๋ได้ยินเช่นนั้นก็หันมาปฏิเสธเสียงแข็ง เมื่อเสียงของลูกชายคนเล็กดังแว่วมาแม่ก็หัวเราะออกมาได้

"เสี้ยวเทียนจ๊ะ เดี๋ยวแม่กลับไปถึงแล้วค่อยคุยกันถึงเรื่องนี้นะ"  แม่บอกกับเคนด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล

"แล้ววันนี้พี่ใหญ่กับพี่รองไปทำงานหรือเปล่า?"  ถามถึงลูกชายอีกสองคนด้วย

"ยังไม่เห็นไปเลย สงสัยคงรอพ่อกับแม่ก่อนมั้งครับ"  เคนตอบแล้วเอามือผลักหัวน้องชายที่เอนเข้ามาใกล้เพราะจะฟังว่าพี่ชายคุยอะไรกับแม่

"งั้นลูกบอกพี่เขาสองคนด้วยนะจ๊ะว่าพ่อแม่กำลังจะออกจากสนามบิน"  แม่สั่งเสียเคน

"ได้ครับ เออ....แม่....."  เคนรับปากแล้วก่อนจะเอามือผลักหัวน้องชายอีก

"ว่างัยจ๊ะ?"  แม่ย้อนถามกลับมา

"ไจ่ไจ๋มันยังไม่ยอมบอกพี่ใหญ่กับพี่รองว่าความจำมันกลับมาแล้ว แถมเอาชื่อผมมาอ้างกับพี่เขาสองคนอีก"  เคนได้ทีเอ่ยปากฟ้องทันที

"ขี้ฟ้อง!"  ไจ่ไจ๋ต่อว่าพี่ชายแบบไม่ออกเสียงในขณะที่เคนยิ้มยียวนให้น้องชาย

"แม่กลับมาจัดการมันให้ด้วยนะ ไม่อย่างนั้นพี่เขาสองคนจะเข้าใจผิดว่าผมร่วมกับมันปิดบังไม่ยอมบอก"  ไจ่ไจ๋เริ่มหน้ามุ่ยที่พี่ชายฟ้องแม่ฉอดๆ

"ได้จ๊ะ ฝากบอกน้องชายคนดีของลูกด้วยว่ากลับไปถึงแม่มีเรื่องคุยด้วย"  เคนยิ้มร่าเมื่อได้ยิน

"ได้ครับ งั้นไม่กวนแม่แล้ว กลับมาดีๆนะครับ แล้วเจอกัน"  พูดจบเคนก็กดวางสาย

"ขี้ฟ้องนักนะ!"  ไจ่ไจ๋ต่อว่าพี่ชายทันที

"ช่วยไม่ได้นายอยากหาเรื่องเอง พี่แค่ช่วยเอาเรื่องมาให้นายเท่านั้น"  เคนพูดอย่างอารมณ์ดี

"ฮึ!"  ไจ่ไจ๋ทำเสียงในลำคอแล้วทำท่าจะเดินออกไป

"จะไปไหน?"  เคนร้องถามขึ้นมาก่อน

"จะไปโดดลงมาจากบันได จะได้ความจำเสื่อมอีกรอบ"  ไจ่ไจ๋ตวัดเสียงตอบทำเอาเคนหัวเราะก๊าก

"ไอ้บ้า! แค่นี้ทำงอน....."  เคนว่าแล้วก็ละมือจากการจัดโต๊ะ

"ถ้านายอยากแกล้งพี่ใหญ่กับพี่รองต่อไปพี่จะช่วยนายเองเพราะตอนนี้พ่อแม่กลับมาความปลอดภัยของพี่มีแน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์"  เคนรั้งตัวน้องชายเข้ามากอดแล้วพูดด้วยเบาๆ

"จริงนะ"  น้องเล็กย้ำคำ เคนไม่ตอบว่าอะไรเพียงแต่ทำหน้าเจ้าเล่ห์แล้วยักคิ้วให้น้อง จากนั้นสองคนพี่น้องก็หัวเราะกันอย่างร่าเริง



Create Date : 17 มิถุนายน 2557
Last Update : 25 กันยายน 2557 22:01:43 น. 0 comments
Counter : 898 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
 
 

loving_zai
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]




[Add loving_zai's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com