Chapter 26

ตอนที่ 26
"ไจ่ไจ๋ พี่เดินเร็วหน่อยได้มั๊ยคะ?" เสียงใสๆของหญิงสาวดังขึ้นเป็นเชิงบ่นพร้อมกับเดินมาจับดึงมือคู่สนทนา
"เร็วแล้วครับหลิงหลิง" ไจ่ไจ๋ตอบรับแล้วเดินไปตามแรงจูงของหญิงสาวที่ดูไม่มีท่าทีเหน็ดเหนื่อยจากการเดินเล่นอยู่ภายในสวนสัตว์แห่งนี้เลย
"ชั้นอยากดูลิงอีกค่ะ เราไปดูลิงกันนะ" เอ่ยชวนไจ่ไจ๋แล้วกึ่งลากกึ่งจูงให้เดินเร็วๆ ไจ่ไจ๋เองได้แต่อมยิ้มและส่ายหน้าไปมาอย่างเอ็นดูรุ่นน้องซึ่งเป็นน้องรหัสของตัวเอง
"เราดูลิงกันไปตั้งสามรอบแล้วนะครับหลิงหลิง ไม่เบื่อหรืองัย?" ไจ่ไจ๋ก้าวขามาเดินเคียงข้างพร้อมกับถามยิ้มๆ
"ไม่เบื่อค่ะ ก็มันมีลูกด้วยนี่ ลูกมันน่ารักออก หรือว่าพี่เบื่อแล้วคะ?" ตอบคำถามนั้นอย่างซื่อๆแต่ก็มีการถามไจ่ไจ๋กลับอย่างใส่ใจด้วย
"ไม่เบื่อหรอกครับ พี่ก็ชอบเหมือนกันพอเห็นลิงแล้วนึกถึงพี่ชาย" ไจ่ไจ๋ตอบคำถามหญิงสาวยิ้มๆ
"เอ....ทำไมเห็นลิงแล้วถึงคิดถึงพี่ชายหละคะ?" หลิงเอ๋อเอียงคอพร้อมกับย้อนถามไจ่ไจ๋อย่างสงสัย ไจ่ไจ๋หัวเราะเบาๆก่อนตอบ
"พอดีพี่ชายคนรองของพี่น่ะเขาเป็นคนร่าเริงมาก วันๆก็ไม่ค่อยอยู่สุขเดี๋ยวร้องเพลงเดี๋ยวเดินเดี๋ยววิ่งเดี๋ยวเต้นทำเอาพี่ชายคนโตของพี่ปวดหัวไปหมด พี่ชายคนโตของพี่ก็เลยตั้งฉายาให้พี่ชายคนรองว่าเจ้าลูกลิง เพราะฉะนั้นเวลาพูดถึงลูกลิงคนในครอบครัวพี่ก็จะคิดถึงพี่ชายคนรองเป็นคนแรกเลย" ไจ่ไจ๋เล่าวีรกรรมของพี่ชายให้หลิงเอ๋อฟังด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
"แหม.....ฟังดูแล้วครอบครับพี่น่าจะครึกครื้นมากเลยนะคะ ดีจังเลยค่ะ" หลิงเอ๋อได้ฟังก็เอ่ยชม
"ครับ ครอบครัวพี่น่ะอยู่ด้วยแล้วไม่มีความหงอยเหงาเลย" ไจ่ไจ๋ตอบรับคำนั้นอย่างยินดี
"ไปค่ะ....เราไปดูลูกลิงกันอีกดีกว่า" พูดจบหลิงเอ๋อก็ชวนไจ่ไจ๋ไปดูลิงอีก หลังจากเดินดูสัตว์กันจนเหนื่อยสองหนุ่มสาวก็พากันมานั่งในร้านอาหาร
"ร้อนจังเลยนะคะ เมื่อยขาด้วย" ประโยคหลังหลิงเอ๋อทำหน้าเบ้ ไจ่ไจ๋หัวเราะพร้อมกับมองหญิงสาวด้วยแววตาอ่อนโยน
"ก็เราเล่นเดินไม่มีพักเลยหนิ ยังจะมาบ่นอีก" ว่าพลางเอานิ้วจิ้มไปที่หน้าผากของหญิงสาวเบาๆ
"แหม....มาสวนสัตว์ไม่เดินดูสัตว์แล้วเราจะมาทำไมกันหละคะ? ขืนคอยแต่มองคนที่มาด้วยก็เบื่อแย่สิ" หลิงเอ๋อพูดแหย่ไจ่ไจ๋
"ทำยังงัยได้ก็คนที่มากับพี่น่ะน่ารักกว่าอะไรทั้งหมดเลยนี่นา" คำพูดของไจ่ไจ๋ทำเอาหญิงสาวเริ่มเขิน
"ชั้นหิวแล้วค่ะ สั่งอะไรมากินกันดีกว่า" เฉไฉเปลี่ยนเรื่องเพื่อกลบความเขินอาย ไจ่ไจ๋หัวเราะในลำคอแล้วยื่นเมนูให้ ในระหว่างที่นั่งรออาหารโทรทัศน์ก็มีข่าวบันเทิงแล้วเนื้อหาของข่าวก็มีเรื่องราวเกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่องใหม่ของแวนเนสด้วย
"อุ๊ย! นั่นแวนเนสนี่นา" หลิงเอ๋ออุทานแล้วจ้องโทรทัศน์ตาไม่กระพริบ ไจ่ไจ๋ได้ยินก็หันไปมองด้วยเช่นกัน
"แวนเนสเขาน่ารักจังเลยนะคะ เป็นผู้ชายที่สดใส ใครอยู่ใกล้แล้วต้องมีความสุขแน่ๆ" เมื่อดูข่าวจบแล้วหลิงเอ๋อก็หันกลับมาพูดกับไจ่ไจ๋
"หลิงหลิงชอบแวนเนสหรอครับ?" ไจ่ไจ๋แกล้งย้อนถาม รู้สึกดีใจเช่นกันที่มีคนชื่นชมพี่ชายของเขา
"ชอบมากเลยค่ะ ชอบตั้งแต่ที่เขาเล่นละครเรื่องแรกเลยนะคะ เป็นแฟนคลับตัวยงเลยก็ว่าได้" หลิงเอ๋อตอบไจ่ไจ๋ด้วยสีหน้ามีความสุขเมื่อพูดถึงดาราที่ชื่นชอบ
"เคยอ่านบทสัมภาษณ์ที่เขาพูดถึงครอบครัว ดูท่าเขาเป็นคนที่รักครอบครัวมากๆเลยนะคะ เห็นบอกมีพี่น้องตั้งสี่คนแหนะ" หลิงเอ๋อคุยต่ออย่างสนุก
"พี่ก็เป็นแฟนคลับของเขาเหมือนกัน" ไจ่ไจ๋บอกกับหญิงสาว
"จริงหรอคะ? พี่ก็เป็นแฟนคลับของเขาเหมือนกันหรอ? ไม่เห็นเคยรู้เลย" หลิงเอ๋อทำตาโตอย่างคาดไม่ถึงเพราะผู้ชายส่วนน้อยจะเป็นแฟนคลับของดาราผู้ชาย
"จริงสิครับ เขาน่ะเป็นฮีโร่ในดวงใจของพี่เชียวแหละ" ไจ่ไจ๋พยักหน้าพร้อมกับพูดเสริม
"ชั้นนึกว่าผู้ชายจะไม่ชอบดารานะเนี่ย" หญิงสาวว่าไปตามความคิดโดยไม่เอะใจเลยว่าแวนเนสจะมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับไจ่ไจ๋
"สำหรับคนอื่นพี่ก็ชอบที่ผลงาน แต่สำหรับคนนี้พี่ชอบทุกอย่างที่เป็นตัวเขาเลยแหละ" คำพูดของไจ่ไจ๋ทำเอาหลิงเอ๋อทำหน้าแหยๆ
"เอ่อ....พี่ไม่ได้ชอบไม้ป่าเดียวกันใช่มั๊ยคะไจ่ไจ๋?" ไจ่ไจ๋ได้ยินก็สะดุ้งโหยง
"ไม่นะครับหลิงหลิง พี่ชอบผู้หญิงแล้วพี่ก็เป็นผู้ชายร้อยเปอร์เซ็นต์ด้วย" รีบแก้ตัวเป็นพัลวัน หลิงเอ๋อได้ยินก็หัวเราะ
"พูดเล่นค่ะ ไม่เห็นต้องร้อนตัวขนาดนี้เลย" เธอว่าแล้วยกแก้มน้ำขึ้นดื่ม
"กล้าแหย่พี่หรอ? เดี๋ยวเถอะ เวลาทำกิจกรรมของคณะพี่จะแกล้งให้หนักเชียว" ไจ่ไจ๋แกล้งทำหน้าดุใส่
"กลัวแล้วค่ะ พี่อย่าแกล้งชั้นนะคะ" หลิงเอ๋อทำเสียงออดอ้อน ไจ่ไจ๋ลอบยิ้มแต่ยังเก๊กหน้าดุ
"อันนี้ต้องดูก่อนว่าเราทำตัวเชื่อฟังพี่หรือเปล่า?" หลิงเอ๋อได้ยินก็ค้อนใส่
"อย่ามาขู่ซะให้ยากเลย ถ้าพี่แกล้งชั้นนะ ชั้นจะไปขอเป็นน้องบุญธรรมของรุ่นพี่คนอื่น พี่รหัสดุๆแบบนี้ไม่เอา ไม่อยากได้" หญิงสาวย้อนไจ่ไจ๋อย่างแสนงอน
"โอ๋ๆๆๆ พี่คนนี้หรอจะกล้าแกล้งน้องที่แสนจะน่ารักคนนี้ได้ ไม่งอนนะครับ พี่ไม่แกล้งเราหรอก" ไจ่ไจ๋รีบง้อทันที
"ไม่อยากคุยด้วยแล้ว กินข้าวดีกว่า" หลิงเอ๋อทำเป็นไม่สนใจ
"ว้า....น้องเรางอนแล้วทำยังงัยดีน้า?" ไจ่ไจ๋แกล้งเปรยกับตัวเองเบาๆ หญิงสาวเหลือบมองแต่ก็ยังทำเป็นไม่สนใจเหมือนเดิม
"หลิงหลิง เรารู้มั๊ยว่าแวนเนสน่ะเขาร่วมหุ้นกับเพื่อนเปิดร้านหนังสือด้วยนะ บางทีถ้าเราไปที่ร้านหนังสือนั้นเราอาจจะเจอเขาก็ได้" ไจ่ไจ๋ยกเอาพี่ชายขึ้นมาช่วย
"ชั้นรู้แล้วค่ะ เคยแวะไปแล้วด้วยแต่ไม่เห็นจะเจอ" หลิงเอ๋อตอบแบบไม่ใส่ใจ
"แต่ถ้าไปกับพี่แล้วรับรองว่าต้องได้เจอแน่ๆ สนใจมั๊ย?" ไจ่ไจ๋ถามพร้อมกับยักคิ้วอย่างติดทะเล้น
"เชื่อได้? พี่รู้จักกับเขาหรืองัยคะ?" เธอย้อนถามพลางเบ้ปาก
"พนันกันมั๊ยหละ?" ไจ่ไจ๋ไม่ตอบแต่อมยิ้มกรุ้มกริ่ม
"พนันอะไรคะ?" หลิงเอ๋อถามอย่างท้าทาย
"ข้าวหนึ่งมื้อพาเที่ยวหนึ่งวัน" ไจ่ไจ๋ตอบแล้วยักคิ้วหลิ่วตาใส่หลิงเอ๋ออย่างล้อๆ
"ได้ค่ะ ไม่มีปัญหา รับรองว่าชั้นต้องได้กินข้าวแล้วก็ได้เที่ยวฟรีแน่ๆ" เธอรับคำท้าอย่างมั่นใจว่าไจ่ไจ๋จะไม่รู้จักแวนเนสอย่างแน่นอน
"ดีมาก งั้นเรามาเกี่ยวก้อยสัญญากัน" ไจ่ไจ๋ว่าพร้อมกับชูนิ้วก้อยขึ้นมา
"โอเค!" หลิงเอ๋อก็เอานิ้วก้อยมาเกี่ยวกับนิ้วก้อยของไจ่ไจ๋อย่างไม่ลังเล
"ถ้าแพ้พนันห้ามงอแงห้ามโอดครวญ แล้วที่สำคัญ.....ห้ามเบี้ยวนะ!" ไจ่ไจ๋ย้ำคำ
"เป็นคนตั้งกฎแล้วจำให้ได้ด้วยนะคะ ไม่ใช่ว่าพอตัวเองแพ้แล้วมาทำหน้าเซ่อบอกว่าลืมหละ ชั้นจะตั้นหน้าพี่ให้ดู" หญิงสาวพูดขู่ ไจ่ไจ๋ได้ยินก็ทำตาโต
"กล้าตั้นหน้าพี่เชียวหรอ? แบบนี้กัดให้มือขาดก่อนดีกว่า" ว่าแล้วไจ่ไจ๋ก็จับมือหลิงเอ๋อขึ้นมาแล้วทำท่าจะกัด ยังผลให้หลิงเอ๋อร้องเสียงหลง
"โอ้ย! ไม่เอานะคะ!" เสียงอุทานของเธอทำให้โต๊ะรอบข้างหันมามอง
"หึๆๆๆ ไม่เอาก็ได้" ไจ่ไจ๋หัวเราะแล้วคลายมือออกแต่ไม่วายแอบจุ๊บเร็วๆที่หลังมือของหลิงเอ๋อด้วย
"พี่เนี่ย!!" หลิงเอ๋อตีมือไจ่ไจ๋ด้วยความเขินอายแล้วนั่งก้มหน้างุดไม่กล้ามองไปรอบๆ ไจ่ไจ๋เองก็ได้แต่กระหยิ่มยิ้มย่องที่สามารถแกล้งน้องรหัสตัวเองได้
"ชั้นจะไปห้องน้ำค่ะ" เธอบอกไจ่ไจ๋เสียงอ้อมแอ้มแล้วรีบลุกออกไปทันที
"พี่รออยู่นี่นะครับ" ไจ่ไจ๋พูดไล่หลังด้วยน้ำเสียงติดทะเล้นนิดๆ แต่เมื่อเห็นคนรอบข้างมองอยู่ก็เริ่มรู้สึกเขินเช่นกันจึงหยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วโทรไปหาแวนเนส
"พี่รอง อยู่ไหนเนี่ย?" ไจ่ไจ๋ถามทันทีที่พี่ชายรับสาย
"อยู่ร้าน มาหาแฟน...." เสียงแวนเนสตอบกลับมาอย่างอารมณ์ดี
"ดีเลย! พี่ห้ามไปไหนนะเดี๋ยวผมจะไปที่ร้าน ห้ามออกไปไหนจนกว่าผมจะไปถึง เข้าใจมั๊ย?" ไจ่ไจ๋ได้ทีสั่งพี่ชายพร้อมกับกำชับกำชาอีกหลายรอบ
"อะไรของนายวะ? วันนี้เป็นอะไรขึ้นมาถึงได้รักพี่คนนี้ผิดปกติ" แวนเนสถามกลับมาด้วยความสงสัย
"ไม่ได้รักผิดปกติหรอก แต่จะพาแฟนไปหา....." ไจ่ไจ๋พูดยิ้มๆ
"หา!!??? อะไรนะ?? นายพูดว่างัยนะ?" เสียงแวนเนสอุทานดังมาด้วยความตกใจ
"พูดได้ครั้งเดียว ถ้าอยากเห็นก็ต้องรอจนกว่าผมจะไปถึง" พูดจบก็ตัดสายพี่ชายทิ้งทันทีแถมยังปิดเครื่องอีกต่างหาก จากนั้นก็เรียกเก็บเงินแล้วไปยืนรอหลิงเอ๋อที่หน้าห้องน้ำ
"อุ๊ย! พี่ไจ่ไจ๋! มายืนทำอะไรแถวนี้คะ?" หลิงเอ๋ออุทานพร้อมกับบ่นเบาๆเพราะเกือบจะเดินชนไจ่ไจ๋
"พี่มารอเรานั่นแหละ ไปกันเถอะ" ว่าแล้วไจ่ไจ๋ก็ฉวยมือของหญิงสาวมาจูง
"เดี๋ยวค่ะ! จะไปไหนคะ?" เธอขืนตัวไว้พร้อมกับตั้งคำถาม
"ไปร้านหนังสือ ไปหาดาราในดวงใจของเราสองคนงัย" ไจ่ไจ๋ตอบ หลิงเอ๋อถอนหายใจเบาๆ
"เลิกเล่นได้แล้วค่ะ อย่ามาอำชั้นซะให้ยากเลย" ว่าพลางดึงมือไจ่ไจ๋ออก
"งั้นตามมาดูว่าพี่อำเราหรือเปล่า?" พูดจบไจ่ไจ๋ก็ดึงมือหญิงสาวไปที่รถแล้วขับไปที่ร้านหนังสือของพี่ชายอย่างรวดเร็ว
"สวัสดีค่ะ!" เสียงกลอเรียเอ่ยทักทายเมื่อประตูร้านถูกผลักออกแต่เมื่อเห็นเป็นไจ่ไจ๋กลอเรียก็อ้าปากจะทักต่อแต่ไจ่ไจ๋ส่งสัญญาณโดยการเอามือทาบปากไว้ กลอเรียจึงไม่พูดอะไรต่อ
"ไหนคะไจ่ไจ๋? แวนเนสที่พี่บอกว่าต้องมาเจอที่ร้านแน่นอน?" หลิงเอ๋อหันไปถามไจ่ไจ๋อย่างเอาเรื่อง
"เดี๋ยวสิครับ ต้องรอแป๊บนึง" ว่าแล้วก็พยักหน้าให้เดินตามมาที่เค้าเตอร์
"ขอโทษนะครับ ไม่ทราบว่าตอนนี้คุณแวนเนสอยู่ที่ร้านหรือเปล่าครับ?" ไจ่ไจ๋แกล้งถามกลอเรีย แม้จะงงๆแต่กลอเรียก็รับมุขไจ่ไจ๋
"ไม่ทราบว่ามีธุระอะไรกับเขาหรือคะ?" คำตอบของกลอเรียทำเอาหลิงเอ๋อเริ่มแปลกใจ
"คือว่าผมพาแฟนคลับตัวยงของเขามาด้วยน่ะครับ เธอคงจะดีใจถ้าได้เจอกับเขา" กลอเรียได้ยินก็อมยิ้ม
"งั้นเดี๋ยวชั้นขอไปถามเขาดูก่อนนะคะว่าจะยอมรับแขกวีไอพีหรือเปล่า?" พูดจบกลอเรียก็เดินเข้าไปหลังร้านเพื่อบอกแวนเนสว่าไจ่ไจ๋มาแล้ว
"พี่คะ นี่พี่ไม่ได้ล้อชั้นเล่นใช่มั๊ย? พี่รู้จักแวนเนสจริงๆหรอ?" หลิงเอ๋อดึงเสื้อไจ่ไจ๋พร้อมกับถามอย่างตื่นเต้น
"คำพูดของพี่นี่มันไม่น่าเชื่อถือเลยใช่มั๊ยครับ?" แกล้งย้อนถามด้วยสีหน้าขรึมๆ
"ไม่ใช่นะคะ แต่ชั้นแค่ไม่แน่ใจว่าพี่จะรู้จักกับเขาเป็นการส่วนตัวแบบนี้นี่นา ขอโทษนะคะ" เธอขอโทษไจ่ไจ๋เสียงอ่อย
"ให้อภัยครับ เห็นว่าน่ารักนะเนี่ยถึงยอมอภัย" ไจ่ไจ๋รับคำขอโทษหน้าตาย เล่นเอาหญิงสาวเขินอีกรอบ แล้วในขณะนั้นแวนเนสก็ผลักประตูออกมาจากหลังร้านทันที
"ไจ่....." อ้าปากจะเรียกน้องชายแต่ไจ่ไจ๋ส่ายหน้าห้ามไว้ก่อนแวนเนสจึงชะงักไป
"แฟนผม....." ไจ่ไจ๋พูดโมเมโดยไม่ออกเสียงพร้อมกับชี้ๆไปที่หลิงเอ๋อที่ยืนอึ้งๆเพราะได้เจอกับดาราที่ชอบแบบใกล้ชิดแบบนี้
"สวัสดีครับ วันนี้มาหาหนังสืออะไรอ่านดี?" แวนเนสแกล้งพูดทักทายกับน้องชาย
"อ้าว! พาเพื่อนมาด้วยหรอ? เชิญหาหนังสืออ่านตามสบายเลยนะครับ" หันมาพูดกับหลิงเอ๋อด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
"เอ่อ....ค่ะ....." เธอตอบตะกุกตะกักด้วยความประหม่าปนเขินอาย
"เพื่อนผมเป็นแฟนคลับของคุณแวนเนสเลยนะครับ แฟนตัวยงเลยหละ" ไจ่ไจ๋พูดกับพี่ชายยิ้มๆ
"พี่ไจ่ไจ๋คะ เราไปดูหนังสือกันดีกว่า" หลิงเอ๋อพูดเบาๆพร้อมกับดึงเสื้อไจ่ไจ๋ไปด้วย
"อ้าว....เลยอายจนไม่กล้ามองหน้าเขาเลย" ไจ่ไจ๋หัวเราะร่วนแล้วจับมือหญิงสาวเอาไว้
"เห็นมั๊ย? แวนเนสก็แวนเนสเถอะ พี่สามารถเนรมิตมาให้เราเห็นได้ในชั่วพริบตา" พูดอวดตัวเองเป็นการใหญ่ หลิงเอ๋อเลยยิ่งหน้าแดงกว่าเดิม
"พอได้แล้วไจ่ไจ๋ แซวจนน้องเขินไปหมดแล้วนั่น มา....เข้ามานั่งข้างในกันดีกว่า" แล้วแวนเนสก็เป็นคนตัดบทพร้อมกับชวนน้องชายและหลิงเอ๋อให้มานั่งคุยกันหลังร้าน
"พี่คะ....กลับกันดีกว่า ชั้น.....ชั้นไม่กล้าคุย....." หลิงเอ๋อกระซิบบอกกับไจ่ไจ๋เสียงแผ่ว ไจ่ไจ๋หัวเราะเบาๆ
"ทำไมไม่กล้าหละ พี่ก็อยู่กับเราด้วยงัย รับรองนะครับว่าพี่ชายของพี่น่ะไม่ดุหรอก" ได้ยินเช่นนี้หลิงเอ๋อก็เงยหน้าขึ้นมองไจ่ไจ๋
"ไปสิครับ พี่ชายของพี่ก็รอที่จะเห็นเราอยู่นานเหมือนกัน" พูดจบก็รีบพาหลิงเอ๋อเข้ามาหลังร้าน
"ทำตัวตามสบาย ไม่ต้องเกรงใจนะ" แวนเนสพูดกับหลิงเอ๋อด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล
"ค่ะ" เธอรับคำเสียงอ้อมแอ้มไม่ค่อยกล้าสบตาแวนเนสเท่าไหร่
"หนูชื่ออะไรนะ? หลิงเอ๋อใช่หรือเปล่า? พี่ได้ยินไจ่ไจ๋เขาพูดถึงหนูบ่อยๆ" แวนเนสถามด้วยน้ำเสียงเป็นกันเอง
"ใช่ค่ะ หนูเป็นน้องรหัสของพี่ไจ่ไจ๋" หลิงเอ๋อตอบคำถามเสียงแผ่ว ในขณะที่ไจ่ไจ๋ได้แต่นั่งหัวเราะ
"ไจ่ไจ๋!! เราก็ชอบแกล้งน้อง เดี๋ยวเถอะ!" แวนเนสหันไปดุน้องชายแต่ไม่จริงจังนัก
"แหม....มันก็ต้องมีซักนิดสิครับ หลิงหลิง พี่ขอแนะนำอย่างเป็นทางการเลยนะครับว่าแวนเนสคนนี้น่ะ เป็นพี่ชายคนรองของพี่เอง" ไจ่ไจ๋หันไปบอกกับหญิงสาวด้วยใบหน้ายิ้มแฉ่ง
"ค่ะ" หลิงเอ๋อเงยหน้าขึ้นมาตอบรับคำไจ่ไจ๋แต่ไม่วายค้อนใส่ด้วย
"หึๆๆๆ พี่ไม่ได้โกหกนะครับ" แก้ตัวออกมาก่อนที่จะโดนต่อว่า
"แต่บอกความจริงไม่หมดใช่มั๊ย?" แวนเนสต่อคำน้องชายทันที
"ถูกต้อง!" ไจ่ไจ๋ผงกหัวรับคำพี่ชายอย่างลื่นไหล
"หลิงหลิง ถ้าโดนพี่ไจ่ไจ๋แกล้งอะไร หนูมาบอกพี่ได้เลย เดี๋ยวพี่จัดการให้" แวนเนสหันไปพูดคุยกับหญิงสาวรุ่นน้อง
"ขอบคุณค่ะ พี่ไจ่ไจ๋น่ะแกล้งหนูประจำเลย นี่ก็หลอกหนูไม่ยอมบอกว่าเขาเป็นพี่น้องกับพี่แวนเนส" ด้วยความเป็นกันเองของแวนเนสทำให้หลิงเอ๋อเริ่มหายประหม่า
"แถมเมื่อกี้พี่ไจ่ไจ๋ยังบอกว่าเวลาเห็นลิงแล้วคิดถึงพี่แวนเนสด้วยค่ะ" เอ่ยปากฟ้องตามมา
"นี่! เอาใหญ่เลยนะไจ่ไจ๋ กล้านินทาพี่ลับหลังหรอ?" หันไปขยี้หัวน้องชายด้วยความหมั่นไส้แกมเอ็นดู
"ไม่ได้นินทานะครับ ผมไม่ได้ระบุชื่อซักหน่อยว่าเป็นพี่" ไจ่ไจ๋รีบแก้ตัว
"หลิงหลิงใส่ร้ายพี่ รู้ได้ยังงัยว่าพี่ว่าพี่แวนเนสเขา?" หันไปทำหน้ามุ่ยใส่หลิงเอ๋อ
"ก็พี่บอกเองนี่คะว่าเห็นลูกลิงแล้วคิดถึงพี่ชายคนรอง แล้วพี่แวนเนสก็เป็นพี่ชายคนรองของพี่ไม่ใช่หรอ?" เธอต่อปากต่อคำกับไจ่ไจ๋
"หึๆๆ" แวนเนสหัวเราะอย่างอารมณ์ดี
"อย่าไปเถียงกับพี่ไจ่ไจ๋เขาเลย พี่ไจ่ไจ๋น่ะเขาเหมือนปลาไหลพอโดนว่าอะไรหน่อยก็จะหาข้อแก้ตัวไปได้เรื่อยๆ เอาชนะเขายากน่ะ" แวนเนสเองก็ได้ทีนินทาน้องชายเช่นกัน
"จริงค่ะ แล้วยังชอบใช้ความเป็นพี่รหัสรังแกหนูด้วยนะคะ อะไรไม่ได้ดั่งใจก็ขู่ว่าจะแกล้งเวลาทำกิจกรรมของคณะ" หลิงเอ๋อเองก็ผสมโรงกับแวนเนสอย่างแนบเนียน ส่วนคนถูกนินทาซึ่งหน้าก็ได้แต่มองพี่ชายทีมองน้องรหัสทีอย่างเคืองๆ
"ไม่น่าพามาเจอแต่แรกเลย รู้งี้ไปเที่ยวที่อื่นต่อดีกว่า" พึมพำดังๆเพราะต้องการจะให้คนอื่นได้ยินด้วย แต่ก่อนที่จะได้คุยอะไรกันต่อประตูก็ถูกเลื่อนเปิดพร้อมกับกลอเรียที่เอาน้ำขนมกับขนมเข้ามาให้
"กินขนมกันก่อนค่ะ" บอกกล่าวกับสองหนุ่มกับอีกหนึ่งสาว
"มี่เฟิงเพิ่งซื้อขนมมาใหม่ๆเลย" ได้ยินดังนั้นไจ่ไจ๋ก็กุลีกุจอรับจานขนมและแก้วน้ำมาวางให้พี่ชายและหลิงเอ๋อ
"แล้วมี่เฟิงหละครับ? ไม่ให้เข้ามากินด้วยกันหละ?" แวนเนสถามถึงหญิงสาวอีกคน
"น้องเขากำลังดูแลลูกค้าอยู่ค่ะ เดี๋ยวคงเข้ามาหรอก บางทีสิ้นเดือนนี้เราน่าจะเพิ่มเงินเดือนให้น้องเขานะคะ ขยันทำงานกว่าเจ้าของร้านบางคนอีก" ประโยคหลังกลอเรียพูดเหน็บแนมแวนเนส
"แหม....ขืนผมออกไปก็ร้านพังสิครับ อุตส่าห์มาอยู่เป็นเพื่อนยังไม่เห็นคุณค่าอีก" แวนเนสทำเสียงกระเง้ากระงอด เรียกเสียงหัวเราะจากทุกคนได้เป็นอย่างดี
"หลิงหลิงครับ คนนี้พี่กลอเรียเป็นหุ้นส่วนของพี่แวนเนส แล้วก็เป็น......" ไจ่ไจ๋ยังพูดไม่ทันจบกลอเรียก็พูดแทรกขึ้นก่อน
"เป็นเพื่อนแวนเนสน่ะจ๊ะ" คำพูดของกลอเรียทำเอาแวนเนสหน้ามุ่ยตั้งท่าจะแย้งแต่กลอเรียกลับพูดตัดบท
"ตามสบายนะจ๊ะ พี่ขอไปดูหน้าร้านก่อน คนซาแล้วจะเข้ามาคุยด้วย" พูดจบก็ลุกเดินออกไปทันที
"เดี๋ยวพี่มานะครับ คุยกันไปก่อน" แวนเนสว่าแล้วรีบลุกตามคนรักออกไปทันที
"กลอเรีย หมายความว่างัยที่ว่าเราเป็นแค่เพื่อนกันน่ะ?" แวนเนสดึงมือกลอเรียไว้แล้วพาไปคุยกันที่มุมร้านที่ไม่มีคนอยู่
"แวนเนสคะ น้องคนนั้นเขาเป็นแฟนคลับของคุณนะคะ" กลองเรียแย้งคำของคนรัก
"แล้วยังงัยหละครับ?" แวนเนสย้อนถาม
"แล้วเขาก็คงมีสังคมกับคนที่ชอบคุณเหมือนๆกัน" กลอเรียให้เหตุผล
"ผมก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี" แวนเนสยังคงส่ายหน้า
"ก็ถ้าแฟนคลับของคุณรู้ว่าเราเป็นแฟนกัน ความนิยมของคุณอาจจะลดลงนะคะ แล้วอีกอย่างคุณก็เคยบอกว่ากฎของบริษัทห้ามคุณมีแฟนในระหว่างสัญญาห้าปี" กลอเรียขยายความให้คนรักฟัง
"บริษัทไม่ได้ห้ามผมมีแฟนแต่ห้ามแต่งงานต่างหาก แล้วอีกอย่างผมไม่สนหรอกว่าความนิยมของผมจะลดลงหรือเปล่า ผมไม่ขัดข้องเลยที่จะเปิดเผยให้คนอื่นรู้ว่าคุณเป็นคนรักของผม ไม่ว่าผลที่ตามมาจะออกมาในรูปแบบไหนก็ตาม" แวนเนสยืนกรานเสียงหนักแน่น
"แวนเนสคะ ตอนนี้คุณเป็นคนของสาธารณะชนแล้วนะคะ คุณจะยึดถือความคิดของตัวเองอย่างเดียวไม่ได้หรอกค่ะ" กลอเรียอธิบายให้แวนเนสฟังด้วยเหตุผล
"แล้วอีกอย่างชั้นอยากเห็นคุณมีอนาคตที่สดใสอยู่ในวงการนี้ต่อไปนานๆนะคะ และการที่คุณจะสามารถอยู่ต่อไปได้ก็ต้องมีแรงสนับสนุนจากแฟนคลับเป็นสำคัญอยู่แล้ว จริงอยู่ที่ว่าบางคนอาจจะชอบคุณเพราะคุณเป็นตัวของตัวเอง แต่ก็มีคนบางส่วนที่ชอบคุณเพราะรูปลักษณ์ภายนอกเช่นกัน" แวนเนสฟังเหตุผลของคนรักแล้วก็นิ่งไป
"คุณจะให้ผมโกหกว่าผมยังไม่มีแฟนไม่มีคนรักอย่างงั้นหรอ? ผมทำแบบนั้นไม่ได้หรอกเพราะมันเหมือนกับเป็นการไม่ให้เกียรติคุณ" แวนเนสแย้งด้วยน้ำเสียงจริงจัง
"ไม่หรอกค่ะแวนเนส แค่เราสองคนซื่อสัตย์ต่อกัน อย่างอื่นก็ไม่มีความหมายอะไรแล้ว เรื่องนี้เรารู้กันแค่สองคนก็พอแล้วค่ะ แล้วอีกอย่างชั้นไว้ใจคุณนะคะ" พูดจบเธอก็จับมือแวนเนสแล้วบีบเบาๆ ได้ยินเช่นนี้แวนเนสก็ยิ้มออกแล้วพยักหน้า
"ผมโชคดีที่สุดเลยที่ได้เจอผู้หญิงที่ดีแบบคุณ ผมรักคุณนะครับ" ว่าแล้วแวนเนสก็โน้มใบหน้าลงมาจูบเบาๆที่หน้าผากของคนรัก
"กลับเข้าไปคุยกับน้องเถอะค่ะ เดี๋ยวชั้นช่วยมี่เฟิงดูแลลูกค้าก่อน" เธอเอามือแตะลงที่แก้มแวนเนสแล้วพูดกับเขาเบาๆ แวนเนสพยักหน้าแล้วจึงเดินกลับไปหลังร้าน

- เวลาต่อมา -
"อ้าว.....หน้ามุ่ยออกมาเชียว ไปกินรังแตนที่ไหนมา?" มี่เฟิงเอ่ยทักไจ่ไจ๋ที่เดินหน้างอออกมาจากหนังร้าน
"อย่ากวนประสาทผมได้มั๊ย? คนยิ่งเซ็งๆอยู่" ไจ่ไจ๋ตวัดเสียงพูดกับหญิงสาว
"โดนแย่งแฟนหรืองัย?" พูดแหย่ไจ่ไจ๋อย่างยียวน
"คุณนี่! เจอหน้ากันทีไรต้องต่อปากต่อคำกับผมทุกทีเลย โรคจิตหรือเปล่า?" ไจ่ไจ๋ต่อว่าสาวรุ่นพี่เข้าให้อีก
"คงเป็นเธอต่างหากหละมั้งที่เป็นโรคจิต" เธอย้อนคำไจ่ไจ๋อีก ไจ่ไจ๋มองหน้าเธอแล้วอ้าปากจะต่อว่าแต่แล้วก็กลับขี้เกียจจะเถียงด้วยขึ้นมาเฉยๆ
"เอาหละๆ ชั้นไม่แกล้งแล้ว เธอเป็นอะไรไปหละ? ไม่พอใจใครที่ไหนมา?" มี่เฟิงยอมเลิกราแล้วถามไจ่ไจ๋ดีๆ
"ก็พี่รองน่ะสิ คุยกับแฟนผมอย่างกับคนรู้จักกันมาซักสิบปีได้ คุยกันไม่เห็นหัวผมบ้างเลย" ไจ่ไจ๋บอกด้วยน้ำเสียงและสีหน้าเซ็งๆ
"หึงหละสิ" เธอพูดอย่างรู้ทัน ไจ่ไจ๋มองหน้าเธอแล้วเม้มปากเล็กน้อย
"นี่แหละความรักแบบวัยรุ่น แง่งอนกันแบบไม่มีเหตุผล ถ้าเธอรักแฟนเธอจริงเธอควรจะไว้ใจเขา" มี่เฟิงพูดเป็นเชิงสอน
"ผมไว้ใจหลิงหลิง แต่ไม่ไว้ใจพี่ชายผมต่างหาก พี่รองน่ะกะล่อนจะตาย" ไจ่ไจ๋แย้งแล้วถอนหายใจเฮือก
"แล้วใหญ่เลย พี่ชายเธอก็มีพี่กลอเรียอยู่ทั้งคน พูดแบบนี้ไม่เป็นการดูถูกเขาไปหน่อยหรอ?" เธอเตือนสติไจ่ไจ๋กลายๆ
"พี่กลอเรียก็แค่แฟนไม่ใช่ภรรยาซักหน่อย" ไจ่ไจ๋รวนต่ออย่างไม่มีเหตุผล
"หลิงหลิงก็แค่แฟนเธอไม่ใช่ภรรยาเหมือนกันนะ" เธอเอาคำของไจ่ไจ๋มาพูดย้อน
"คุณนี่! จะพูดให้ผมสบายใจขึ้นหรือทำให้แย่กว่าเดิมกันแน่?" เมื่อโดนต่อว่าปาวๆไจ่ไจ๋เลยต่อว่าเธอกลับบ้าง
"ก็เธอมันเป็นเด็กไม่รู้จักโตเองนี่ ชั้นพูดให้ข้อคิดเธอก็หาว่าชั้นต่อว่า จะไปไหนก็ไปเถอะชั้นขี้เกียจคุยกับเธอแล้ว" แล้วมี่เฟิงก็พูดตัดบทอย่างเบื่อๆกับความดื้อรั้นของไจ่ไจ๋
"เฮ่อ!" ไจ่ไจ๋ถอนหายใจแล้วมองเข้าไปหลังร้านก็เห็นพี่ชาย กลอเรีย และหลิงเอ๋อกำลังคุยกันอย่างสนุกสนาน
"คุณ.....ที่ชมรมเป็นยังงัยบ้าง?" ไจ่ไจ๋เอ่ยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนลง
"ก็เรื่อยๆน่ะ เธอถามทำไม ไม่เคยนึกจะเข้าไปอยู่แล้วนี่" มี่เฟิงตอบแล้วมองหน้าไจ่ไจ๋
"ตั้งแต่อาทิตย์หน้าผมจะค่อนข้างว่าง แล้วจะแวะเข้าไปนะ" พูดจบก็เอนหลังพิงพนักเก้าอี้
"เออ...นึกขึ้นได้ว่าตอนนี้ที่ชมรมมีโครงการประกวดวาดภาพ มีมติให้คนในชมรมส่งภาพวาดเข้าประกวดกันด้วย ถ้าใครชนะจะได้รับการคัดเลือกให้ไปประกวดวาดภาพระหว่างมหาลัยด้วย" หญิงสาวพูดขึ้นอย่างนึกขึ้นได้
"งั้นหรอ? แต่ผมคงไม่ส่งหรอก ใกล้สอบแล้วด้วย อีกอย่างคงไม่มีอารมณ์วาดเท่าไหร่" ไจ่ไจ๋ตอบรับแบบไม่ใส่ใจนัก
"ชั้นสงสัยจริงๆว่าเธอน่ะชอบวาดรูปจริงหรือเปล่า? เพราะเท่าที่เห็นเธอไม่กระตือรือร้นที่จะร่วมกิจกรรมอะไรของชมรมเลยซักครั้ง การประกวดวาดภาพเนี่ยสมาชิกในชมรมของเราต่างเฝ้ารอกันทั้งนั้นเพราะนี่เป็นการเปิดโอกาสให้ทุกคนได้แสดงฝีมือกันได้อย่างเต็มที่" ไจ่ไจ๋เบ้ปากใส่มี่เฟิงแต่แล้วก็นึกอะไรขึ้นมาได้
"จริงสิ เคยได้ยินมาว่าคุณเคยชนะการประกวดวาดภาพในต่างประเทศด้วยหรอ? ผมไม่เคยเห็นรูปวาดของคุณเลย" หญิงสาวยิ้มบางๆแล้วพยักหน้า
"รูปนั้นมีคนติดต่อขอซื้อไปแล้ว ชั้นขายได้สองแสนเชียวหละ" ไจ่ไจ๋ได้ยินก็ทำตาโต
"ตั้งสองแสนเชียวหรอ!? โอโห! เก่งจังเลย" ชมออกมาจากใจจริง
"ว่าแต่ทำไมคุณขายซะหละ? ไม่เสียดายหรอ?" มี่เฟิงส่ายหน้าไปมา
"ถ้าภาพนั้นอยู่กับชั้นมันก็ไม่มีความหมายอะไรเท่าไหร่นักหรอก เวลาชั้นวาดภาพชั้นก็จะมีอารมณ์ร่วมไปกับภาพนั้นในขณะที่วาด แต่เมื่อวาดเสร็จแล้วชั้นก็จะไม่มีความรู้สึกพิเศษอะไรกับมันอีก" ไจ่ไจ๋มองหญิงสาวอย่างทึ่งๆ
"คุณก็แปลกคนนะ สำหรับผมน่ะถ้าวาดรูปเสร็จแล้วผมก็จะเก็บไว้ พอผ่านไปนานๆก็จะเอาออกมาดู พอได้ดูแล้วก็จะระลึกถึงความรู้สึกตอนที่วาดได้ด้วยแหละ" ไจ่ไจ๋พูดคุยกับหญิงสาวต่อเริ่มรู้สึกหายหงุดหงิดไปบ้างแล้ว
"ภาพที่คุณชนะการประกวดเป็นภาพวาดเกี่ยวกับอะไรหรอ?" ไจ่ไจ๋ถามต่อ
"ภาพคนน่ะ" เธอตอบสั้นๆ
"งั้นก็ต้องมีคนเป็นแบบให้ด้วยน่ะสิ" พูดพึมพำต่อเองเบาๆ
"ใช่ แล้วนายแแบบของชั้นก็คือน้องชายชั้นเอง" ไจ่ไจ่ได้ยินก็อึ้งๆไปเพราะรู้มาว่าน้องชายของมี่เฟิงเสียชีวิตไปแล้ว
"ขอโทษนะครับที่ถามซักไซร้มากไปหน่อย" ไจ่ไจ๋เอ่ยขึ้นอย่างรู้สึกผิด
"ไม่เป็นไรหรอก" เธอส่ายหน้าแล้วไม่ได้พูดอะไรต่อ ไจ่ไจ๋เองก็ไม่รู้อะไรจึงนั่งเงียบๆเช่นกัน
"มานั่งอยู่นี่กันเอง ได้เวลาปิดร้านแล้วจ๊ะ" เวลาผ่านไปนานแค่ไหนไม่รู้แต่ทั้งคู่มารู้สึกตัวกันอีกทีก็ตอนกลอเรียเดินออกมาพร้อมกับบอกกล่าวด้วยน้ำเสียงร่าเริง
"หนีออกมาคุยกับมี่เฟิงนี่เอง ทิ้งน้องเลยนะ" แวนเนสต่อว่าน้องชายขึ้นมาบ้าง
"เขาก็คงเต็มใจถูกทิ้งให้อยู่กับไอดอลในดวงใจหละมั้ง?" ไจ่ไจ๋พูดประชดหลิงเอ๋อ
"ฟังพูดเข้า! ไป....ไปช่วยพี่เขาปิดร้านจะได้กลับบ้านกัน" แวนเนสว่าแล้วดึงแขนให้น้องชายลุกขึ้น
"ใครจะกลับบ้านกับพี่? ผมจะไปส่งหลิงหลิง พี่น่ะมายังงัยก็กลับเองสิ" ไจ่ไจ๋ปฏิเสธแวนเนส
"อ้าว! ทำไมทำแบบนี้หละคะพี่? พี่แวนเนสน่ะอยู่บ้านเดียวกับพี่ก็ต้องกลับด้วยกันสิคะ ส่วนชั้นน่ะเดี๋ยวกลับเองก็ได้พี่ไม่ต้องไปส่งหรอก" หลิงเอ๋อพูดแย้งขึ้นมา
"เป็นห่วงกันจังนะ" ไจ่ไจ๋ไม่วายพูดแขวะน้องรหัสตัวเองอีก
"เกเรอีกแล้วไจ่ไจ๋! ไม่อยากให้กลับด้วยพี่นั่งแท็กซี่กลับเองก็ได้ นายไปส่งน้องเถอะ" แวนเนสพูดตัดปัญหาเสียเองเพราะพอจะรู้ว่าน้องไม่ค่อยจะพอใจ
"พี่คะ ถ้าพี่ไม่ให้พี่แวนเนสกลับด้วย พี่ก็ไม่ต้องไปส่งชั้นหรอกค่ะ ต่างคนต่างกลับกันให้หมดนั่นแหละ" หลิงเอ๋อว่าแล้วสะพายกระเป๋าขึ้นมา
"ก็ได้ๆๆ กลับด้วยกันหมดนี่แหละ พี่กลอเรียครับ เดี๋ยวผมไปส่ง มี่เฟิงคุณก็กลับด้วยกันนะ" ไจ่ไจ๋หันไปบอกกับรุ่นพี่ด้วย
"ไม่หละ ชั้นเอารถมาแล้วพี่กลอเรียก็กลับกับชั้นได้" เธอปฏิเสธแล้วหันไปทางกลอเรียเป็นเชิงปรึกษา
"พี่กลับกับมี่เฟิงได้จ๊ะ อยู่อพาร์ทเม้นต์เดียวกันอยู่แล้วเธอจะได้ไม่ต้องเทียวมาเทียวไป" กลอเรียพูดเสริมอีกแรง
"งั้นก็ตามใจครับ" ไจ่ไจ๋พยักหน้าก่อนที่จะร่ำลาสองสาวแล้วเดินออกไปเฉยๆ
"แล้วเจอกันนะครับกลอเรีย พี่ไปนะมี่เฟิง" แวนเนสเองก็ลาสองสาวด้วย หลิงเอ๋อเองก็ลาหญิงสาวรุ่นพี่ทั้งสองคนด้วยเช่นกัน จากนั้นแวนเนสก็ชวนหลิงเอ๋อไปที่รถที่มีน้องชายสตาร์ทรถรออยู่ด้วยสีหน้าง้ำงอ



Create Date : 20 มีนาคม 2550
Last Update : 20 มีนาคม 2550 22:39:45 น. 0 comments
Counter : 1041 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 
 

loving_zai
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]




[Add loving_zai's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com