Chapter 80
ตอนที่ 80 "แน่ใจหรอครับว่าจะไปเที่ยวกันแค่สามสี่วัน แพ็คกระเป๋ากันอย่างกับจะไปซักปีนึง" ไจ่ไจ๋บ่นอุบหลังจากช่วยพ่อแม่และเคนยกกระเป๋ามาใส่หลังรถ "ต้องเตรียมพร้อมเสมอสิลูก เพื่อเกิดอะไรฉุกเฉินขึ้นมา ข้าวของที่เอาไปเกินมันดีกว่าขาดเป็นไหนๆ" พ่ออธิบายให้ลูกชายคนเล็กฟัง "ครับ รอบคอบกันแบบนี้ก็ดีแล้ว" ไจ่ไจ๋ว่าแล้วหันไปทางพี่ชายคนกลาง "ถ้าจะไปด้วยก็ยังทันนะไจ่ไจ๋" เคนพูดกับน้องอีกครั้ง "นั่นแหนะ! ยังไม่ทันจะพ้นเขตบ้านพี่กลางก็คิดถึงผมแล้วใช่หรือเปล่า?" ไจ่ไจ๋แกล้งแหย่พี่ชาย "ไอ้บ้า! ยังมีหน้ามาพูดเล่นอีก ไม่ไปก็ดีจะได้ไม่เปลือง" เคนว่าแล้วก็ค้อนใส่เจ้าน้องชายตัวดี ไจ่ไจ๋หัวเราะแล้วกอดเอวพี่ชาย "พี่กลางเที่ยวให้สนุกนะครับ มีอะไรก็พูดคุยกับพ่อแม่แบบเปิดอกไปเลย อุตส่าห์เปิดโอกาสให้แล้วนะเนี่ย" เคนได้ยินก็ยิ้มแล้วขยี้หัวน้องชายเบาๆ "ไจ่ไจ๋.....มีเรื่องนึงที่พี่ต้องไหว้วานนายหน่อย" แล้วเคนก็ทำเสียงเป็นการเป็นงานขึ้นมา "ไม่ต้องห่วงครับพี่กลาง เจ้าพีพีกับถางถางจะได้รับการดูแลอย่างดี ผมไม่กล้าทิ้งขว้างหรือเอามันไปฝากใครเลี้ยงอีกแล้ว" ไจ่ไจ๋พูดแทรกขึ้นมาก่อน "ไม่ใช่เรื่องแมว!" เคนแย้งน้องชายก่อนจะมองไปรอบๆเมื่อไม่เห็นว่ามีใครอยู่ก็ก้มหน้าพูดกับน้องเบาๆ "พี่หมายถึงเรื่องอาเหลียน" เคนเฉลยแล้วกวาดตามองอย่างระวัง "ความจริงพี่เองก็อยากสืบเรื่องนี้ด้วยตัวเอง แต่ถ้าพี่ทำแบบนั้นพี่ใหญ่ต้องสงสัยแน่แล้วดีไม่ดีอาเหลียนอาจไหวตัวทันเพราะดูเหมือนระยะหลังเขาก็ค่อนข้างจะระวังพี่มากเหมือนกัน" เคนอธิบายให้น้องฟังอย่างเป็นการเป็นงาน "พี่กลางไม่ต้องห่วง ผมจะไปบริษัทกับพี่ใหญ่ทุกวันแล้วถ้ามีเอกสารอะไรที่อาเหลียนส่งมาให้พี่ใหญ่เซ็นผมจะแอบจดรายละเอียดเก็บไว้แล้วจะบอกให้พี่กลางรู้ทันทีเลย" ไจ่ไจ๋รับคำอย่างหนักแน่น "อืม.....ดีแล้ว.....นายต้องช่วยเป็นหูเป็นตาให้พี่ด้วย....." เคนเอ่ยชมน้องชาย "ยังงัยพี่จะโทรมาหาทุกวัน" แล้วก็พูดตัดบทเมื่อเห็นพ่อแม่และพี่ชายอีกสองคนเดินมาที่รถพอดี "เสี้ยวเทียน ยาพ่นยากินเอาไปหมดแล้วนะ" เจอร์รี่ถามน้องชาย "เอาไปแล้ว" เคนตอบคำถามนั้น "แล้วอย่าเกเรกับพ่อแม่ให้มากนักนะ ห้ามเอาแต่ใจด้วย พ่อแม่พูดอะไรก็ต้องเชื่อฟัง เข้าใจมั๊ย?" สั่งกำชับน้องชายต่ออีก "คร้าบบบ.....เข้าใจแจ่มแจ้งทุกอย่างเลยยยยย....." เคนรับคำพี่ชายอย่างติดกวนเล็กน้อย "เข้าใจแล้วทำตามที่สั่งด้วยนะ ไม่ใช่ว่าพอพ้นสายตาพี่ใหญ่แล้วเราก็ออกฤทธิ์เต็มที่" พี่ใหญ่ว่าพร้อมกับหยิกแก้มน้องอย่างหมั่นไส้ "หึๆๆๆ" เคนหัวเราะแล้วสวมกอดพี่ชาย "ช่วงที่ชั้นไม่อยู่เอาไจ่ไจ๋ไปทำงานที่บริษัทแทนชั้นนะ" เคนเงยหน้าแล้วบอกกับพี่ชาย "เอาไปให้มันป่วนชั้นแทนนายหรอ?" ย้อนถามน้องชายกลับยิ้มๆ "ไม่หรอก มันช่วยงานนายได้แน่นอน ชั้นเทรนมันเรียบร้อยแล้ว" เจอร์รี่ได้ยินก็หัวเราะ "ไอ้ขี้คุย! กว่าพี่จะฝึกเราจนเป็นงานได้ใช้เวลาเป็นปี แล้วเราเก่งกาจขนาดไหนถึงได้ใช้เวลาแค่สองสามนาทีฝึกน้องจนเป็นงานได้น่ะ?" ถามพร้อมกับบีบจมูกน้องอย่างเอ็นดู "นั่นแหละ เอามันไปด้วย ชั้นกลัวว่ามันอยู่บ้านคนเดียวจะเหงา" เคนย้ำคำพี่ชาย "ก็ได้ๆๆ ชั้นไม่ทิ้งมันอยู่บ้านคนเดียวหรอก" เจอร์รี่รับปากแล้วจูบเบาๆที่หน้าผากน้องชาย "เที่ยวให้สนุกนะ" ร่ำราเสร็จก็ปล่อยตัวน้อง จากนั้นสมาชิกทุกคนต่างก็ร่ำรากันแล้วเคนก็ขับรถพาพ่อกับแม่ออกไป "หวังว่ากลับมาบรรยากาศระหว่างเจ้าเสี้ยวเทียนกับพ่อแม่คงดีขึ้นมากนะ" เมื่อรถยนต์หายลับตาไปแล้วแวนเนสก็เปรยขึ้นมา "ชั้นกลัวว่าจะดีขึ้นจนพ่อกับแม่ไม่กล้าว่าอะไรมันเลยน่ะสิ" เจอร์รี่พูดเป็นเชิงบ่น "เอาน่าๆๆ!!! พวกพี่สองคนนี่ชอบนินทาพี่กลางลับหลังอยู่เรื่อย ผมว่าพี่กลางเขาก็รู้ขอบเขตหรอกว่าจะทำตัวกับพ่อแม่ยังงัย" ไจ่ไจ๋ต่อว่าพี่ชายทั้งคู่เมื่อได้ยินพี่ชายทั้งสองคนนินทาพี่ชายสุดที่รักของเขา "แตะไม่ได้เลยนะไอ้พี่ชายสุดรักสุดดวงใจของนายคนนี้น่ะ!" แวนเนสต่อว่าน้องอย่างหมั่นไส้ "แหม.....ก็รักเหมือนกันทุกคนแหละครับ ปะ.....เราเข้าบ้านกันดีกว่า" ว่าแล้วไจ่ไจ๋ก็ชวนพี่ชายทั้งคู่เข้าไปในบ้าน "พรุ่งนี้ชั้นกลับดึกหน่อยนะ" เมื่อเข้ามานั่งร่วมวงกันแวนเนสก็เอ่ยปากบอกพี่ชายเอาไว้ก่อน "จะไปไหน?" เจอร์รี่ย้อนถามต่อทันที "ไม่ได้ไปไหนแต่งานคงดึกน่ะ เพราะตอนนี้ก็จะเร่งให้อัลบั้มอัดเสร็จเร็วๆ" แวนเนสตอบ "เห็นบอกว่าอัดเสร็จเกือบหมดแล้วไม่ใช่หรอพี่รอง?" ไจ่ไจ๋ถามพี่ชายขึ้นมาบ้าง "ก็ใช่ แต่มันก็ต้องไปเก็บงานที่ยังมีจุดบกพร่องบางอย่างอีกนิดหน่อย แต่ไม่น่าเกินสิ้นเดือนนี้หรอก" แวนเนสตอบแล้วอธิบายให้น้องชายฟัง "งั้นผมก็จะได้ฟังเพลงของพี่รองแล้วสิ" ไจ่ไจ๋พูดอย่างดีใจ "ก็ประมาณนั้นแหละ.....แต่บอกไว้ก่อนนะว่าพวกนายต้องอุดหนุนพี่ด้วยไม่ใช่มานั่งรอแต่ของฟรี" แวนเนสพูดดักคอเอาไว้ "ไอ้ขี้งก! กับพี่กับน้องให้ฟรีแค่นี้ไม่ได้" ไจ่ไจ๋ต่อว่าพี่ชายกลับไปแต่แล้วก็ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ "ผมซื้ออัลบั้มของพี่ก็ได้แต่ว่าพี่ต้องให้ค่านายหน้าผมด้วยนะเพราะเดี๋ยวผมจะไปโฆษณากึ่งบังคับให้เพื่อนๆทุกคนซื้อ" คำพูดของน้องเล็กทำให้เจอร์รี่หัวเราะออกมาได้ "โหย! นายนั่นแหละงก! ช่วยพี่ชายแค่นี้ต้องมีค่าตอบแทน" แวนเนสบ่นอุบ "ก็นายอยากงกกับมันก่อนนี่" เจอร์รี่เสริมพร้อมกับหัวเราะ "เข้าข้างมันทันทีเชียว เฮ้อ! สุดท้ายชั้นก็เป็นหมาหัวเน่าอยู่ดี!" แล้วแวนเนสก็แกล้งทำสีหน้าน้อยใจ "ไอ้ลูกลิงเอ้ย!" เจอร์รี่หมั่นไส้เลยผลักหัวน้องเข้าให้ "แต่ผมว่ามีอยู่ที่นึงที่พี่รองไม่มีวันกลายเป็นหมาหัวเน่าแน่ๆ" ไจ่ไจ๋เอ่ยขึ้นมาพร้อมกับอมยิ้ม "แน่นอน! พี่น่ะมีคนที่พี่รักและก็รักพี่อยู่เคียงข้างเสมอ" แวนเนสหน้าระรื่นขึ้นมาทันทีเมื่อน้องชายเอ่ยถึงคนรักของเขา "ขืนทำตัวงอแงมากๆซักวันกลอเรียเขาคงเบื่อนายเหมือนกันแหละ" พี่ใหญ่แขวะเข้าให้บ้าง "ไม่มีทาง! เพราะกลอเรียน่ะใจดีกว่าพวกนายเยอะ" แวนเนสตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่น "กลอเรียไม่เคยซ้ำเติมชั้นเวลาชั้นทำอะไรพลาด แต่นายอ่ะนอกจากด่าแล้วบางครั้งยังตีชั้นอีก ใจร้าย!" แวนเนสต่อว่าพี่ชายฉอดๆ "น้อยๆหน่อยไอ้ตัวดี! ถ้าสิ่งที่นายทำผิดทำพลาดมันไม่ใช่เรื่องใหญ่โตชั้นเคยด่าเคยตีนายเมื่อไหร่กัน?" พี่ใหญ่เองก็เถียงน้องกลับ "โอ้ย! อย่าให้พูดเลย!" แวนเนสทำเสียงสูง "ไม่อยากคุยกับพวกนายแล้ว ชั้นไปหากลอเรียดีกว่า" ว่าแล้วแวนเนสก็ขยับตัวลุกขึ้น "แล้วอย่าชวนกลอเรียเขาเที่ยวจนดึกดื่นหละ เราเองก็เหมือนกันพรุ่งนี้ต้องทำงานนะ" พี่ใหญ่ไม่วายสั่งกับชับน้องชาย "รู้แล้วน่า! ไปนะ!" แวนเนสตอบรับคำพี่ชายก่อนจะโบกมือลาพี่น้องทั้งคู่ "ฝากบอกพี่กลอเรียด้วยนะว่าผมคิดถึง" ไจ่ไจ๋ส่งเสียงไล่หลังพี่ชายไป "เออ! เดี๋ยวบอกให้!" แวนเนสรับคำแล้วหายแว๊บออกไปทันที "ไวอย่างกับลิง!" เจอร์รี่ว่าพร้อมกับส่ายหน้าที่น้องชายทำอะไรปุ๊บปั๊บ "พี่ใหญ่ครับ" ไจ่ไจ๋เรียกพี่ชายแล้วเข้าตัวมานอนหนุนตักพี่ชาย "ว่ายังงัย?" เจอร์รี่ย้อนถามพร้อมกับลูกหัวน้องชายอย่างเอ็นดู "พี่กลางไม่อยู่แล้วพี่ใหญ่ไม่ต้องมาบ่นผมแทนหละ" เอ่ยแซวพี่ชายยิ้มๆ "เดี๋ยวเถอะไอ้ตัวดี! ว่าพี่ขี้บ่นหรอ?" พี่ใหญ่กัดฟันต่อว่าน้องพร้อมกับบีบจมูกน้องชายไปด้วย "หึๆๆๆๆ" ไจ่ไจ๋หัวเราะเบาๆแล้วเงียบไป "ง่วงนอนหรอ?" เมื่อเห็นน้องเงียบไปพี่ใหญ่ก็ถามขึ้นมา "เปล่า" ไจ่ไจ๋ส่ายหน้าเล็กน้อย "งั้นก็คิดถึงพี่กลางหละสิ" ถามอย่างพอจะเดาความรู้สึกของน้องชายได้ "แล้วพี่ใหญ่หละ?" ไจ่ไจ๋ไม่ตอบแต่ย้อนถามพี่ชายกลับไป "พี่ก็คิดถึงมันตลอดแหละ ไม่ใช่เฉพาะเจ้าพี่กลางหรอกตอนนี้พี่เองก็คิดถึงพี่รองของนายด้วย" เจอร์รี่ตอบน้องไปตามตรง "ถ้าพี่ใหญ่อยู่คนเดียวคงเหงาแย่" ไจ่ไจ๋พูดยิ้มๆ "งั้นสิ เพราะฉะนั้นนายห้ามหนีพี่ไปเที่ยวไหนอีกคนหละ" จบคำพูดของพี่ใหญ่สองพี่น้องก็หัวเราะกันเบาๆ
- วันต่อมาที่บริษัท - "เดี๋ยวพี่ใหญ่มีประชุม เอกสารในแฟ้มบนโต๊ะเราช่วยพิมพ์ให้พี่หน่อยแล้วกัน ถ้าทำเสร็จแล้วพี่ยังไม่ออกมาจะไปเดินเล่นข้างล่างก็ได้" เจอร์รี่หันมาพูดกับน้องชายขณะที่สวมเสื้อสูทไปด้วย "ได้ครับพี่ใหญ่ พี่ไม่ต้องห่วงผมหรอก แล้วเดี๋ยวงานตรงนี้ผมจัดการให้" ไจ่ไจ๋ว่าพร้อมกับยิ้มให้พี่ชาย "ขอบใจมาก พี่ไปก่อนนะ มีอะไรส่งข้อความมาได้" สั่งกำชับน้องชายเสร็จก็โบกมือลา หลังจากพี่ชายออกไปแล้วไจ่ไจ๋ก็เดินมานั่งลงที่โต๊ะทำงานของพี่ชาย "โต๊ะรกชะมัด!" บ่นอุบเมื่อเห็นมีแต่เอกสารกองเต็มไปหมด "ทำงานให้พี่ใหญ่ก่อนดีกว่า" ว่าแล้วก็หยิบแฟ้มที่พี่ชายพูดถึงมาเปิดออกดูเพื่อพิมพ์งานให้พี่ชาย "โอโห! ตัวเลขเต็มไปหมด แบบนี้งงตายเลย" ไจ่ไจ๋บ่นงึมงำแต่ก็เปิดคอมพิวเตอร์ขึ้นมา แล้วลงมือช่วยพี่ชายทำงาน ในระหว่างนั้นเองเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น "อ้าว! เจอร์รี่ไม่อยู่หรอ?" เสียงที่เอ่ยขึ้นมานั้นทำให้ไจ่ไจ๋ลุกขึ้นยืนแล้วก้มหัวให้ผู้มาเยือน "สวัสดีครับอาเหลียน พี่ใหญ่ไม่อยู่ไปประชุมครับ" ไจ่ไจ๋ตอบแล้วย้อนถาม "อาเหลียนมีธุระอะไรกับพี่ใหญ่มั๊ยครับ? ผมจะส่งข้อความไปบอกให้" คำเสนอนั้นทำให้อาเหลียนยิ้มเล็กน้อย "ไม่เป็นไรหรอกหลายชาย อาแค่เอาเอกสารมาให้พี่ชายเธอเซ็นน่ะ พอดีว่ามีเคสด่วนนิดหน่อย" อาเหลียนตอบ "เดี๋ยวอามาใหม่แล้วกัน" ว่าแล้วก็ทำท่าจะหมุนตัวออกไป "เอ่อ.....อาเหลียนครับ.....ทิ้งเอกสารไว้ที่นี่ก็ได้ ถ้าพี่ใหญ่กลับมาแล้วเดี๋ยวผมจะบอกให้พี่ใหญ่เซ็นให้แล้วผมจะเอาไปให้อาเอง อาจะได้ไม่ต้องเดินไปเดินมาหลายรอบ" ไจ่ไจ๋ร้องบอกขึ้นมาก่อน "อืม....ไม่เป็นไรดีกว่า.....เดี๋ยวอามาใหม่ ขอบใจมากนะ" อาเหลียนทำท่าครุ่นคิดก่อนตอบ "ถ้างั้นถ้าพี่ใหญ่กลับมาผมจะบอกพี่ใหญ่ให้นะครับว่าอามีเคสด่วน" ไจ่ไจ๋เองก็ไม่ได้เหนี่ยวรั้งไว้ อาเหลียนพยักหน้าแล้วหมุนตัวออกไป "เอกสารสำคัญอะไรนักหนา? ทำไมเราถึงดูไม่ได้? ต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลอย่างที่พี่กลางบอกแหงๆ" หลังจากอาเหลียนออกไปแล้วไจ่ไจ๋ก็ตั้งข้อสังเกต "โทรบอกพี่กลางดีกว่า" แล้วก็นึกถึงพี่ชายคนกลางขึ้นมาจึงหยิบโทรศัพท์กดหาเคน "ว่างัยน้องรัก? คิดถึงพี่หละสิ" เสียงเคนเอ่ยทักน้องชายอย่างร่าเริง "แหม.....มีความสุขจังเลยนะครับ" ไจ่ไจ๋ได้ยินเสียงพี่ชายแล้วก็พลอยยิ้มออก เขาชอบเวลาที่พี่ชายคนนี้อารมณ์ดีอย่างเป็นที่สุด "แน่นอน ตกลงมีอะไรหรือเปล่า?" แล้วเคนก็ถามน้องชายกลับมา "อืม....ผมอยู่ที่บริษัทกับพี่ใหญ่" ไจ่ไจ๋เกริ่นนำ เคนเงียบเสียงไปพักหนึ่งก่อนจะถามกลับมา "มีอะไรผิดปกติมั๊ย?" น้ำเสียงเป็นการเป็นงานขึ้นมา "พ่อแม่อยู่ด้วยหรือเปล่าครับ?" ไจ่ไจ๋ยังไม่ตอบแต่ย้อนถามพี่ชายกลับไป "เปล่า พี่อยู่ในห้องพักโรงแรม พ่อแม่อยู่อีกห้องนึง" เมื่อพี่ชายตอบกลับมาเช่นนั้นไจ่ไจ๋จึงเล่าเหตุการณ์เมื่อซักครู่ให้พี่ชายฟังอย่างละเอียด "น่าสงสัยจริงๆแหละ เพราะถ้าปกติแล้วเป็นเอกสารอนุมัติเงินตามที่เสนออาเหลียนไม่จำเป็นต้องมาให้พี่ใหญ่เซ็นด้วยตัวเองก็ได้ ถึงต่อให้เป็นเคสด่วนจริงให้ลูกน้องคนไหนถือมาก็ได้" เคนเริ่มวิเคราะห์หลังจากฟังที่น้องชายเล่าจบแล้ว "นั่นสิ แล้วท่าทางของอาเหลียนเหมือนไม่อยากให้ผมรู้ด้วยว่าในเอกสารนั้นมีอะไร" ไจ่ไจ๋พูดเสริม "ความจริงถ้าอาเหลียนให้เอกสารนั้นกับนายไว้ก็ไม่น่าจะมีปัญหาเพราะต่อให้เอกสารนั้นมีส่วนที่ผิดแปลกไปยังงัยนายเองก็คงดูไม่ออก แต่นี่เขากลับมีท่าทีระแวงนายไปด้วย พี่ว่า.....อาเหลียนเขาคงพอจะรู้เหมือนกันว่าเราสองคนก็จับตามองเขาอยู่" เคนให้ความเห็น "งั้นผมจะทำยังงัยดีหละครับ?" ไจ่ไจ๋ถามพี่ชายกลับไป "พี่ว่าตอนนี้นายคงยังทำอะไรไม่ได้หรอก เพราะถ้าอาเหลียนให้เอกสารนั้นกับพี่ใหญ่โดยตรงการที่นายจะไปขอดูจากพี่ใหญ่มันก็จะยังงัยอยู่" เคนตอบน้องชายแล้วพูดต่อ "พี่ว่าที่นายทำได้ตอนนี้ก็คือลองหาเอกสารบนโต๊ะของพี่ใหญ่ที่ส่งมาจากแผนกจัดซื้อหลายๆใบมาเทียบกันดูว่าราคาของสินค้าอย่างเดียวกันว่ามันตรงกันหรือคาดเคลื่อนกันมากแค่ไหน พี่ใหญ่เขามีเก็บใบก๊อปปี้อยู่ น่าจะอยู่ในลิ้นชักนะ" เคนแนะนำน้องชาย "แล้วก็ระวังๆหน่อย ถ้าพี่ใหญ่เข้ามาเห็นก็หาข้อแก้ตัวดีๆหละ" ไจ่ไจ๋รับคำพี่ชายอย่างหนักแน่น "ได้ครับ เดี๋ยวผมจะลองหาดู พี่ใหญ่ไปประชุมคงไม่กลับมาเร็วนักหรอก" ว่าแล้วไจ่ไจ๋ก็ตัดบทพี่ชาย "งั้นแค่นี้ก่อนนะพี่กลาง มีอะไรจะโทรไปใหม่" พูดจบก็วางสาย แล้วหันมาเริ่มต้นค้นแฟ้มเอกสารของพี่ชายต่อ "โอโห! มีแต่เอกสารเป็นฟ่อนเลยแล้วแบบนี้จะหาเจอมั๊ยเนี่ย?" ไจ่ไจ๋บ่นเมื่อมองหาแล้วก็เจอแต่แฟ้มเรียงกันเป็นแถวยาว "ในลิ้นชักหรอ?" แล้วก็นึกถึงคำพูดของเคนจึงเปิดลิ้นชักของพี่ชายออกมาดู แต่เมื่อเปิดๆค้นๆแล้วก็ไม่เจอ "หรือว่าพี่ใหญ่ไม่ได้เก็บไว้แถวนี้นะ" ไจ่ไจ๋พึมพำอยู่คนเดียว แล้วใช้เวลาอยู่ครู่ใหญ่กว่าจะหาสิ่งที่ต้องการเจอ "อยู่นี่เอง....เอกสารฝ่ายจัดซื้อ" ไจ่ไจ๋ยิ้มออกเมื่อเจอแฟ้มดังกล่าวแล้ว เขายืนเปิดดูไปทีละแผ่น "โห! ตั้งเก็บไว้ตั้งแต่ปีมะโว้เชียว.....ถ้าไปชั่งกิโลขายน่าจะได้หลายตังค์นะเนี่ย" ไจ่ไจ๋พูดกับตัวเองแล้วหยิบโทรศัพท์กดหาไปเคนอีกครั้ง "ว่างัย?" เสียงเคนตอบกลับมา "อยู่กับพ่อแม่หรือเปล่าครับ?" ไจ่ไจ๋ถามเกริ่นออกไป เคนเงียบเสียงไปพักหนึ่งแต่ไจ่ไจ๋ก็ได้ยินเสียงเคนพูดแว่วๆ "พ่อแม่ครับ เดี๋ยวผมไปเข้าห้องน้ำเดี๋ยวนะ" จบคำนั้นเสียงเคนก็กลับมาชัดเจนอีกครั้ง "หาเจอมั๊ย?" เคนถามน้องชายต่อทันที "เจอแล้ว แต่มันตั้งแต่ปีมะโว้โน้น ผมดูแล้วมันก็ไม่ได้ต่างกันเท่าไหร่นะ" ไจ่ไจ๋รายงานให้พี่ชายรู้ "พี่ว่าเราต้องหาปีที่ใหม่กว่านี้หน่อย เอาซักห้าปีย้อนหลังก็น่าจะพอ" เคนแนะนำน้องชาย "งั้นเดี๋ยวผมจะลองหาดูแล้วกัน ห้องทำงานพี่ใหญ่เนี่ยเอกสารหนักเป็นตันเลย" คำบ่นของน้องชายทำให้เคนหัวเราะออกมาได้ "ก็แบบนี้แหละ แต่นายน่ะรื้อออกมาแล้วเก็บเข้าที่ด้วยนะ พี่ใหญ่ของนายน่ะเนี๊ยบเรื่องการจัดเรียงเอกสารมาก ใครไปแตะของเขาหน่อยเดียวก็รู้แล้ว" ไม่วายสั่งกำชับน้องชายต่อ "หวาย.....ผมลืมไปแล้วด้วยสิว่าหยิบออกมาจากไหน? ตายหละหว่า....." ไจ่ไจ๋ได้ยินดังนั้นก็มีสีหน้าเจื่อนลงอย่างเห็นได้ชัด "พี่กลางอ่ะ....ไม่บอกผมแต่แรก ไม่งั้นก็จะได้จำไว้" แล้วก็ต่อว่าพี่ชายเข้าให้ และก็ได้ยินเสียงเคนหัวเราะอีก "บ้า! ไม่ต้องถึงขนาดนั้นหรอก เพราะถ้าเป็นายเป็นคนไปรื้อ พี่ใหญ่เขาไม่ว่าหรอก นายก็อ้างไปว่าอยากดูโน้นดูนี่ สำหรับนายเขาเห็นดีเห็นงามหมดแหละ" เคนพูดมาตามสาย "อ้าว.....นี่ประชดอีกแล้วหรอเนี่ย?" แล้วไจ่ไจ๋ก็เปลี่ยนมาแซวพี่ชายแทนเพราะฟังดูคำพูดของเคนเหมือนจะประชดพี่ชาย "ประชดอะไรเล่า! ไม่คุยด้วยแล้ว พี่กำลังจะไปกินข้าวเที่ยงกับพ่อแม่ แล้วนายหละกินอะไรหรือยัง?" ถามน้องชายกลับมาอีก "จะเที่ยงแล้วหรอ?......หาเอกสารซะเพลินเลย ผมยังไม่ได้กินหรอก รอพี่ใหญ่ประชุมเสร็จโน้น" ไจ่ไจ๋ตอบ "ถ้าหิวก็ไปหาอะไรรองท้องก่อนนะ เดี๋ยวจะปวดท้อง" เคนไม่วายเป็นห่วงน้องชาย "ครับ พี่กลางไปกินข้าวเถอะ ไว้มีอะไรจะโทรหาอีก" แล้วไจ่ไจ๋ก็ตัดบทให้พี่ชายไปกินข้าว ส่วนตัวเองก็ค้นหาเอกสารต่อไปแล้วก็เจอในที่สุด "อยู่นี่เอง เมื่อห้าปีที่ผ่านมา" ไจ่ไจ๋พูดกับตัวเองอย่างดีใจแล้วพลิกแฟ้มเปิดขึ้นมาซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่เจอร์รี่เปิดประตูเข้ามาพอดี "นี่แหนะ! มาเล่นซนอะไรกับเอกสารของพี่ใหญ่?" เจอร์รี่ตีก้นน้องเบาๆพร้อมกับเอ่ยถาม "อุ๊ย!" ไจ่ไจ๋อุทานออกมาอย่างตกใจ แต่ก็หาแก้ตัวได้ทันที "ไม่ได้เล่นซักหน่อย พอดีเมื่อครู่ใหญ่ๆที่ผ่านมาอาเหลียนเข้ามาหาพี่ใหญ่บอกจะให้เซ็นอะไรซักอย่าง ผมจำชื่อเอกสารไม่ได้เลยจะมาหาว่ามันคือเอกสารอะไร" ไจ่ไจ๋แก้ตัว "แล้วรู้หรือยัง?" เจอร์รี่ถามน้องชายต่อยิ้มๆ "รู้แล้ว เป็นใบอนุมัติการสั่งซื้อสินค้า อาเหลียนบอกว่าเป็นเคสด่วนด้วย" ไจ่ไจ๋รายงานให้พี่ชายรู้ "เคสด่วนหรอ? งั้นเดี๋ยวพี่ไปหาอาเหลียนเอง เออ.....นายก็ไปด้วยกันเดี๋ยวลงไปกินข้าวกันเลย" ว่าแล้วเจอร์รี่ก็จัดการปิดแฟ้มในมือน้องชายแล้วจูงมือน้องออกจากห้องไป โดยที่ไจ่ไจ๋เหลียวมองแฟ้มที่เขาเพิ่งค้นเจออย่างเสียดาย "เห็นไจ่ไจ๋บอกว่าอาไปหาผมที่ห้อง ขอโทษด้วยนะครับพอดีติดประชุม" หลังจากเคาะประตูห้องแล้วเจอร์รี่ก็เอ่ยทักทายอาเหลียนอย่างสุภาพ "อาว่ากำลังจะแวะไปอีกรอบพอดี" อาเหลียนทักเจอร์รี่กลับมาพยักหน้าให้นั่ง "อะ....รบกวนเธอหน่อย พอดีเคสนี้ลูกค้าเร่งเรามาก" อาเหลียนว่าแล้วก็ยื่นเอกสารให้เจอร์รี่ ไจ่ไจ๋จึงพลอยชะโงกหน้ามองรายละเอียดในเอกสารด้วย "เป็นงานแล้วสิ" แล้วเสียงอาเหลียนก็ดังขึ้นมาอีกทำให้ไจ่ไจ๋ต้องเปลี่ยนสายตาไปทางต้นเสียง "ผมหรอครับ?" ไจ่ไจ๋ย้อนถามพร้อมกับชี้หน้าตัวเอง ในตอนนั้นเจอร์รี่ก็ยื่นเอกสารคืนให้อาเหลียน "ก็เธอนั่นแหละ" อาเหลียนยิ้มเล็กน้อย "ไม่หรอกครับ ผมแค่มาดูพี่ใหญ่ทำงาน" ไจ่ไจ๋ตอบพร้อมกับยิ้มแหยๆ "มาป่วนมากกว่าครับ เมื่อกี้ผมออกไปประชุมแป๊บเดียวกลับมารื้อเอกสารผมซะเละเลย" เจอร์รี่แกล้งเผาน้องชาย "ผมป่วนที่ไหนหละ? ผมกำลังช่วยพี่ใหญ่ต่างหาก" ไจ่ไจ๋แย้ง "ช่วยให้ยุ่งกว่าเดิมสิ" เจอร์รี่แหย่น้องชายต่อ "พี่ใหญ่อ่ะ!" ไจ่ไจ๋ทำหน้ามุ่ยใส่พี่ชาย ทำให้เจอร์รี่กับอาเหลียนหัวเราะออกมาพร้อมกัน "เจอร์รี่ ต่อไปต้องระวังหน่อยนะเพราะดูท่าแล้วน้องชายเธอจะต้องเก่งกาจมากแน่นอน" เจอร์รี่ยิ้มรับคำนั้น "เป็นอย่างอาว่าก็ดีครับ ผมจะได้ไม่ต้องเหนื่อยมาก" เจอร์รี่ว่าแล้วก็ถามตัดบท "อาเหลียนทานข้าวหรือยังครับ? ผมกำลังจะไปทานข้าวกันยังงัยอาก็ไปด้วยกันนะ" เอ่ยชวนผู้อาวุโสกว่า "ตามสบายเถอะ อาขอเคลียร์เคสนี้ก่อน ไว้วันหลังแล้วกัน" อาเหลียนปฏิเสธด้วยรอยยิ้ม "อาก็พักทานข้าวด้วยนะครับ ระวังจะเป็นโรคกระเพาะ" เจอร์รี่แสดงความห่วงใย "รู้แล้ว ขอบใจมาก" อาเหลียนว่าพร้อมกับพยักหน้า เจอร์รี่จึงเอ่ยลาแล้วพาน้องเล็กลุกออกมา "พี่ใหญ่...." เมื่อมานั่งที่ร้านอาหารแล้วไจ่ไจ๋ก็เป็นฝ่ายชวนคุย "ว่างัย?" พี่ใหญ่มองหน้าน้องชายพร้อมกับเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม "ทำไมเวลาพี่ใหญ่เซ็นเอกสารถึงไม่ยอมอ่านก่อนหละ?" คำถามของน้องชายทำให้เจอร์รี่ขมวดคิ้วหนักกว่าเก่า "ก็พี่ใหญ่สอนผมเองไม่ใช่หรอว่าก่อนจะเซ็นอะไรให้ใครต้องอ่านเอกสารให้ละเอียดถี่ถ้วนก่อน" ไจ่ไจ๋ตีหน้าซื่อพูดต่อไปอย่างแนบเนียบทำให้เจอร์รี่ยิ้มแบบขำๆ "ใช่.....พี่สอนนายแบบนั้น แต่ว่าวิธีปฏิบัติจริงมันจะทำแบบนั้นไม่ได้ทั้งหมดหรอก" เจอร์รี่ตอบแล้วเริ่มอธิบายให้น้องชายฟัง "อย่างเอกสารต่างๆในบริษัทที่พี่ใหญ่เซ็นนั่นน่ะมันก็มาจากฝ่ายต่างๆที่มีการตรวจสอบมาแล้ว ถ้าพี่ต้องมานั่งอ่านทุกตัวอักษรวันๆพี่คงไม่ต้องทำอะไรกันพอดีเพราะวันนึงพี่ต้องเซ็นเอกสารไม่รู้ตั้งกี่สิบฉบับ" ไจ่ไจ๋เอามือเท้าคางแล้วมองพี่ชาย "ตรวจสอบแล้วก็ใช่ว่าจะไม่ผิดพลาดนี่นา" แย้งพี่ชายออกมา "ผิดพลาดมันก็มี แต่โดยหลักๆแล้วพี่จะอ่านดูคร่าวๆแล้วก็จะมีสำเนาก๊อปปี้ไว้เสมอ ถ้าอันไหนมีปัญหาพี่ก็สามารถเอามาตรวจสอบได้" เจอร์รี่อธิบายให้น้องฟังต่อ "แต่ส่วนใหญ่ที่ผิดก็มักจะเป็นที่การพิมพ์ผิดหรือตกหล่นมากกว่า ถ้ามันไม่ใช่สาระสำคัญอะไรพี่ก็ปล่อยเลยตามเลยได้ เมื่อก่อนมีเจ้าพี่รองกับพี่กลางคอยช่วยแต่เดี๋ยวนี้พี่ทำคนเดียวถ้ามานั่งตรวจขนาดนั้นก็คงไม่ไหวเหมือนกัน" ไจ่ไจ๋พยักหน้าหงึกๆทั้งที่เขาอยากจะถามมากกว่านี้แต่ก็กลัวพี่ชายสงสัย "แล้ววันนี้ประชุมอะไรหรอ?" เปลี่ยนเรื่องถามพี่ชาย "อืม.....ก็ประชุมเป็นปกติทุกสิ้นเดือนน่ะ มาสรุปผลงานรายได้รายรับรายจ่ายของแต่ละแผนกกัน" เจอร์รี่ตอบ ในขณะนั้นพนักงานก็เอาอาหารมาเสริฟพอดี "แล้วอาเหลียนไม่ต้องเข้าประชุมหรอ?" ไจ่ไจ๋ถามต่ออีก "ไม่จำเป็นหรอก แค่ส่งตัวแทนมารายงานก็พอแล้ว" เจอร์รี่ตอบแล้วยิ้มเล็กน้อย "พี่ไม่รู้เลยนะว่านายเองก็สนใจเรื่องการงานของบริษัทเหมือนกัน" ไจ่ไจ๋ได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มแหยๆ "ก็.....รู้ไว้ก็ดี....." พูดอย่างเขินๆ "ดีแล้ว ยังงัยก็ถือว่าเป็นกิจการของครอบครัว" เจอร์รี่ยิ้มเมื่อได้ยินคำตอบของน้องชาย "มา.....กินข้าวกันได้แล้ว มาชวนพี่ใหญ่คุยเรื่องงานอยู่ได้ ไม่เครียดบ้างหรืองัย?" ว่าแล้วก็ตัดบทด้วยการชวนน้องกินข้าว
- ที่บ้าน - "จ๊ะเอ๋! ยังไม่นอนอีกหรอ?" แวนเนสที่เพิ่งกลับเข้ามาในบ้านย่องไปข้างหลังพี่ชายแล้วใช้มือทั้งสองข้างจี้เอวพี่ชายเบาๆ "ไอ้ลูกลิง! เล่นอะไรไม่เข้าเรื่อง!" เจอร์รี่สะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะละสายตาจากหน้าจอคอมพิวเตอร์มาดุน้องชาย "ว่าแล้วต้องโดนด่า" แวนเนสบ่นอุบอิบ "บ่นอะไร?" เจอร์รี่หรี่ตามองน้องชายพร้อมกับถาม "เปล่าซักหน่อย" แวนเนสลอยหน้าลอยตาตอบ "แล้วทำไมถึงกลับมาดึกดื่นขนาดนี้?" ถามน้องต่ออีก "อ้าว.....ก็บอกแล้วงัยว่าทำงาน" แวนเนสแย้ง เจอร์รี่หมุนเก้าอี้มาทางน้องชาย "แน่ใจนะว่าทำงานอย่างเดียว?" ย้อนถามน้องชายกลับไป "ก็ใช่น่ะสิ" แวนเนสตอบแล้วทำหน้ามุ่ยใส่พี่ชาย "ดึกป่านนี้แล้วยังมีแรงมาจับผิดชั้นอีกหรอ?" ถามพี่ชายกึ่งประชดแต่ก็ทรุดตัวคุกเข่าลงที่พื้นแล้วขยับเข้าไปกอดเอวพี่ชาย เจอร์รี่ยิ้มกับลูกอ้อนของน้องพร้อมกับเอามือลูบหัวแวนเนสอย่างเอ็นดู "แล้วนายยังมีแรงมากวนพี่ใหญ่อีกหรอ?" ถามน้องชายกลับไปบ้าง แวนเนสเงยหน้ามองพี่ชายแล้วเอาหน้าซบลงที่ตักของพี่ชายโดยไม่ตอบอะไร "จะมาอ้อนเอาอะไรฮึ?" ตั้งคำถามดักคอน้องไว้ก่อน "เปล่าซักหน่อย" แวนเนสปฏิเสธแล้วเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง "วันนี้ชั้นเหนื่อยจัง" บ่นกับพี่ชายด้วยน้ำเสียงอ่อยๆ "เหนื่อยแล้วงอแงกับเสี่ยวจือด้วยใช่มั๊ย?" ย้อนถามน้องชายอย่างรู้ทัน "ก็.....ไม่ขนาดนั้น......" แวนเนสปฏิเสธแบบไม่เต็มเสียง "งั้นทำไมเสี่ยวจือถึงไม่มาส่งนายหละ?" คำถามนั้นทำเอาแวนเนสอึ้งไป "นายรู้ได้ยังงัย?" ย้อนถามพี่ชายกลับไปอย่างงงๆ "เสียงรถของเสี่ยวจือชั้นจำได้แน่นอน แต่วันนี้ตอนนายกลับมาชั้นไม่ได้ยินเสียงรถเลย" แวนเนสมองพี่ชายก่อนจะมีสีหน้าสลดลงเล็กน้อย "ความจริงก็มีเรื่องเถียงกันนิดหน่อย" แล้วแวนเนสก็สารภาพกับพี่ชาย "อยากเล่าให้ชั้นฟังมั๊ย?" เจอร์รี่ถามน้องกลับไปแบบไม่บังคับ แวนเนสนิ่งไปสีหน้าครุ่นคิด "วันนี้เหนื่อยมากแล้ว ไปอาบน้ำอาบท่าแล้วเข้านอนซะ" เมื่อเห็นน้องลังเลเจอร์รี่ก็ไม่อยากเซ้าซี้ "วันนี้ก็มีการเก็บงานที่เหลือกัน แต่ชั้นฟังแล้วยังรู้สึกว่ามีบางท่อนที่ชั้นยังร้องได้ไม่ดี แต่คนอื่นๆเห็นว่ามันดีแล้ว เสี่ยวจือก็เห็นด้วยอย่างนั้น" แวนเนสตัดสินใจเล่าให้พี่ชายฟัง "ชั้นขอแก้ไขท่อนนั้นใหม่ แต่คนอื่นไม่เห็นด้วย เหนื่อยเรื่องงานชั้นทนได้แต่เหนื่อยเรื่องคนนี่มันจนใจจริงๆ" พูดจบถอนหายใจเบาๆ "แวนเนส ถ้าจะว่าไปนายเองก็ยังใหม่กับการทำงานเพลง ประสบการณ์ก็ยังไม่มี ความรู้ในด้านนี้ก็คงยังไม่ชำนาญเท่ากับมืออาชีพหรอกนะ" เจอร์รี่อธิบายให้น้องชายฟัง "แต่พี่ไม่ได้หมายความว่าความคิดเห็นของนายผิดหรอกนะ นายเป็นคนเบื้องหน้าผลงานที่ออกมานายก็ต้องเป็นคนรับคำติชมก่อนใคร เพราะฉะนั้นการที่นายแสดงความคิดเห็นแบบนั้นออกมามันเป็นสิทธิของนายที่สามารถทำได้" แวนเนสฟังในสิ่งที่พี่ชายพูด "แต่การทำงาน เราต้องเคารพความเห็นของคนส่วนใหญ่ แย้งได้แต่อย่างแข็งข้อกับเขาเพราะไม่อย่างนั้นแล้วการทำงานมันก็จะไม่มีความสุขทั้งสองฝ่าย" แวนเนสพยักหน้ารับกับคำสอนของพี่ชาย "นายออกไปทำงานตั้งแต่เช้าจนมืดมันเป็นธรรมดาแหละที่จะต้องล้ากันบ้าง พอมีเรื่องอะไรไม่ถูกใจก็พาลจะมีเรื่องกันได้ง่ายๆด้วย คนอื่นก็เหมือนกันนั่นแหละ นายต้องเอาใจเขามาใส่ใจเราด้วย" อธิบายกับน้องด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล "อืม.....ชั้นเข้าใจแล้ว" แวนเนสค่อยยิ้มออกเมื่อได้ยินเหตุผลที่พี่ชายบอก "ดีมาก งั้นบอกพี่ใหญมาซิว่าอาละวาดอะไรกับเสี่ยวจือ?" ถามน้องชายต่ออีก แวนเนสทำหน้าเจื่อนๆ "เสี่ยวจือโทรมาฟ้องนายหรอ?" ย้อนถามพี่ชายเสียงอ่อยเพราะถ้าเป็นอย่างนั้นจริง เขาต้องโดนพี่ชายทำโทษแน่ "เปล่า แต่จากท่าทางของนายชั้นว่านายคงอาละวาดใส่เสี่ยวจือไม่น้อยเลย" เจอร์รี่ตอบแล้วมองหน้าน้องชายอย่างต้องการคำตอบ แวนเนสเงียบไปครู่หนึ่งก่อนตัดสินใจจะเล่าให้พี่ชายฟัง "ชั้นโมโหที่เสี่ยวจือคนที่ชั้นไว้ใจมากที่สุดยังไม่เห็นด้วยกับชั้น เลยต่อว่าเสี่ยวจือไปว่าเขาจะรู้อะไรว่าชั้นทำงานทุ่มเทแค่ไหนเพราะวันๆเขาก็แค่คอยช่วยนิดๆหน่อยๆ เหนื่อยก็พักได้ง่วงก็งีบซะ แล้วพอใครบอกอะไรก็เชื่อไปกับเขาหมดไม่ได้เห็นจริงว่าอะไรดีไม่ดียังงัย" เจอร์รี่ได้ยินดังนั้นก็ได้แต่ส่ายหน้า "ทำไมถึงได้โมโหร้ายอย่างนี้ เป็นคำพูดที่ชั้นไม่คิดว่าจะได้ยินจากนายเลยนะ" พี่ใหญ่ปรับสีหน้าให้ดูจริงจังขึ้น แวนเนสก้มหน้านิ่งเพระรู้ว่าตัวเองทำไม่ถูก "สัญญากับพี่ได้มั๊ยว่าจะไม่มีครั้งต่อไป" แล้วก็เอ่ยถามน้องอย่างเป็นการเป็นงาน "ไม่มีครั้งต่อไปอีกแล้ว ชั้นสัญญา" แวนเนสรับคำพี่ชายอย่างมั่นใจ "ถ้าผิดสัญญาข้อนี้พี่ใหญ่จะทำโทษนะ" พี่ใหญ่ย้ำคำ "ครับ" แวนเนสยอมรับแต่โดยดี "เอาหละ.....ไม่ต้องคิดมากแล้ว และพรุ่งนี้คงรู้นะว่าต้องทำยังงัย?" เมื่อเห็นน้องสลดลงพี่ใหญ่ก็ปรับน้ำเสียงให้นุ่มนวลขึ้น "อืม.....ขอบคุณมากนะ" แวนเนสว่าแล้วก็เอ่ยขอบคุณพี่ชาย "ไปพักผ่อนซะไป" แล้วก็เอ่ยไล่น้องชาย "แล้วนายหละ?" ถามพี่ชายกลับไปบ้าง "อีกซักพัก" เจอร์รี่ตอบแล้วหมุนเก้าอี้กลับไปทางหน้าจอคอมพิวเตอร์อีกครั้ง "กำไรมันเยอะจนตาลายเลยหรอ?" ถามสร้างบรรยากาศขึ้นมา "ถ้าเป็นแบบนั้นชั้นคงไม่อยู่จนดึกป่านนี้หรอก" เจอร์รี่ตอบแล้วถอนหายใจเบาๆ "ทำไม? ขาดทุนหรอ?" แวนเนสเลิกเล่นทันที "ไม่หรอก ไม่ถึงกับขาดทุนเพียงแต่ห้าหกเดือนที่ผ่านมากำไรมันน้อยลงอย่างต่อเนื่องแล้วดูท่าเดือนนี้ก็คงเหมือนกัน" พี่ใหญ่บอกกับน้องโดยไม่ปิดบัง "ทำไมเป็นแบบนั้นหละ? ยอดขายน้อยลงหรอ? หรือว่าลูกค้าสั่งของน้อยลง?" แวนเนสถามไถ่พี่ชายต่อ "ถ้าเหตุผลมันเพราะยอดขายน้อยหรือลูกค้าสั่งของน้อยเหมือนที่นายว่าชั้นก็จะไม่ปวดหัวขนาดนี้เลย แต่นี่เท่าที่ดูในรายงานยอดขายที่รายงานมาบางเดือนเท่าเดิมและบางเดือนมากขึ้นด้วยซ้ำ มันไม่น่าจะเป็นแบบนี้น่ะสิ" แวนเนสขยับตัวเข้ามาดูรายงานตรงหน้าจอคอมพิวเตอร์ "ถ้าเป็นอย่างที่นายบอกจริง งั้นมันเกิดจากอะไรหละ? หรือว่ามีใครยักยอกเงินบริษัท?" แวนเนสตั้งข้อสังเกต "นั่นเป็นสิ่งสุดท้ายที่ชั้นจะใช้มันเป็นเหตุผลในการตอบคำถามเรื่องนี้" เจอร์รี่ว่าเช่นนั้นแต่จริงๆแล้วก็คิดเหมือนกับน้องชาย "ตรวจสอบได้มั๊ย?" แวนเนสถามพี่ชายต่อ "ยังไม่ได้" ส่ายหน้าอย่างเหนื่อยๆ "ลองปรึกษาพ่อแม่ดูนะ ชั้นว่ามันชักจะมีอะไรไม่ชอบมาพากลซะแล้ว" แวนเนสแนะนำพี่ชาย "อืม.....รอให้พ่อแม่กลับมาก่อน ตอนนี้ไม่อยากเอาเรื่องปวดหัวไปให้อีก" เจอร์รี่รับคำแล้วยิ้มให้น้อง "พี่ใหญ่บอกให้เราไปนอนไม่ใช่หรอ? ยังไม่ไปอีกเดี๋ยวตีซะเลย" แล้วก็เปลี่ยนน้ำเสียงให้ร่าเริงขึ้นเพราะไม่อยากให้น้องเครียดไปด้วย "นายก็ต้องพักผ่อนเหมือนกันนะ อย่าไปเครียดกับมันมาก" แวนเนสพูดทิ้งท้ายแล้วเข้าไปหอมแก้มพี่ชายเบาๆ "กู๊ดไนท์ครับ" แวนเนสบอกลาไปนอน "ครับ" พี่ใหญ่รับคำน้องแล้วจูบเบาๆที่หน้าผากน้องชายจากนั้นก็มองจนน้องเดินหายขึ้นชั้นบนไปก่อนจะก็กลับมานั่งอยู่กับจอคอมพิวเตอร์ตามเดิม
Create Date : 17 มิถุนายน 2557 |
Last Update : 28 ธันวาคม 2557 20:44:41 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1141 Pageviews. |
|
|