Chapter 61

ตอนที่ 61

"รอนานมั๊ยพี่รอง?" ไจ่ไจ๋วิ่งลงจากรถมารับพี่ชายถึงที่ แวนเนสยิ้มให้น้องก่อนจะส่ายหน้า

"มาเร็วกว่าที่คิดอีก ไป....รีบไปกันเถอะ....." ว่าแล้วแวนเนสก็ดุนหลังน้องชายให้เดินนำไปก่อน

"พี่รองไปนั่งข้างหน้ากับพี่ใหญ่นะ ผมอยากนั่งเหยียดขายาวๆ" ไจ่ไจ๋ว่าพร้อมกับเปิดประตูรถก้าวขึ้นไปนั่งตอนหลัง แวนเนสมองตามน้องชายก่อนจะถอนใจเบาๆแล้วขยับตัวขึ้นรถ

"พี่ใหญ่" เอ่ยทักทายพี่ชายแล้วดึงสายเข็มขัดนิรภัยมาคาด

"อืม....เป็นงัยบ้างวันนี้?" เจอร์รี่ตอบรับคำน้องพร้อมกับย้อนถามกลับไป

"ก็ดี" ตอบพี่ชายสั้นๆแล้วเบือนหน้าไปทางหน้าต่าง

"เหนื่อยหรอพี่รอง?" ไจ่ไจ๋ยื่นหน้ามาถามเพราะแวนเนสดูท่าทางเนือยๆ

"ก็นิดหน่อย ของีบดีกว่า" แวนเนสตอบแล้วหลับตาลง

"ปรับเบาะลงสิ จะได้นอนสบายหน่อย" พี่ใหญ่ว่าเพราะกลัวน้องจะเมื่อย แวนเนสลืมตาขึ้นมาแล้วปรับเบาะตามคำพี่ชายจากนั้นก็หลับตาลงอีก

"ไจ่ไจ๋โทรเข้าบ้านที ถามว่ามีกับข้าวตอนเย็นหรือยัง ถ้าไม่มีเดี๋ยวเราจะได้แวะซื้อเข้าไป

"ครับ" น้องเล็กรับคำแล้วรีบกดโทรศัพท์ไปหาแม่ทันที

"แม่....มีอาหารเย็นหรือยังครับ?" ไจ่ไจ๋ถามเมื่อคู่สนทนารับสาย

"มีแล้วจ๊ะ กลับมาถึงลูกก็กินกันได้เลย" เสียงแม่ตอบกลับมา

"โอโห! เตรียมพร้อมเสร็จแล้วหรอ? พี่ใหญ่นึกว่ายังไม่มีจะได้แวะซื้อเข้าไป แต่นี่ผมมีขนมไปฝากนะ" ไจ่ไจ๋บอก

"จ๊ะ....วันนี้พ่อครัวใหญ่สองคนออกไปซื้อมาตั้งแต่บ่าย เพิ่งทำเสร็จไม่นานตอนนี้พ่อครัวของเราไปอาบน้ำกันอยู่" แม่เล่าให้ลูกชายฟัง

"ดีเลย นี่ผมกับพี่ใหญ่แวะมารับพี่รองแล้ว เดี๋ยวเจอกันนะครับ" ไจ่ไจ๋ว่าแล้วก็พูดตัดบท

"จ๊ะ บอกพี่ใหญ่ขับรถกลับมาดีๆนะ" แม่กล่าวทิ้งท้ายแล้ววางสายไป

"อาหารเย็นเสร็จแล้วหละ แม่บอกให้พี่ใหญ่ขับรถกลับบ้านดีๆ" ไจ่ไจ๋รายงานให้พี่ชายฟัง

"อืม....งั้นเราก็รีบกลับบ้านกันเถอะ" พี่ใหญ่ว่าแล้วก็เร่งเครื่องขึ้นอีกหน่อย ผ่านไปพักหนึ่งสามพี่น้องก็กลับมาถึงบ้าน

"นายเอาขนมที่ซื้อมาลงไปด้วยเดี๋ยวพี่ปลุกพี่รองเอง" เจอร์รี่เอี้ยวตัวมาบอกน้องเล็ก ซึ่งคนรับคำสั่งก็พยักหน้าก่อนจะหิ้วถุงขนมเดินนำเข้าบ้านไปก่อน

"แวนเนส....ถึงบ้านแล้ว" พี่ใหญ่หันมาเขย่าแขนน้องชายที่นั่งอยู่ข้างๆพร้อมกับเอ่ยปากเรียก แวนเนสลืมตาขึ้นมาก่อนจะพยักหน้ารับ

"ไม่สบายหรือเปล่า? ทำไมดูเหนื่อยๆ?" ถามน้องด้วยสีหน้าจริงจังเพราะน้องดูสีหน้าท่าทางผิดปกติไป

"เปล่า แค่เพลียนิดหน่อยน่ะ" แวนเนสตอบแล้วปลดสายเข็มขัดนิรภัยออก

"ลงไปล้างหน้าล้างตาแล้วกินข้าว กินเสร็จก็รีบพักผ่อน" แวนเนสผงกหัวรับคำพูดของพี่ชายแล้วลงจากรถไป เจอร์รี่มองดูน้องชายเดินเข้าบ้านก่อนจะถอนใจออกมาเบาๆแล้วปลดเข็มขัดนิรภัยของตัวเองบ้างและสายตาก็เหลือบไปเห็นสมุดบัญชีของน้องชายหล่นอยู่ที่เบาะ

"อ้าว! สมุดบัญชีนี่นา" พึมพำกับตัวเองแล้วเอื้อมมือไปหยิบขึ้นมาแต่พอดีนึกไปถึงเหตุการณ์เมื่อเช้าที่เห็นน้องนั่งดูสมุดบัญชีอยู่เขาจึงเปิดดู เจอร์รี่ดูไปทีละหน้าจนถึงรายการสุดท้ายเขาก็ขมวดคิ้ว

"ทำไมถอนเงินออกไปเยอะจัง" พูดกับตัวเองอย่างสงสัยแล้วมองวันเวลาที่ถอนเงินออกไป

"ถอนวันนี้ช่วงเช้าด้วยนี่นา" เจอร์รี่มีสีหน้าครุ่นคิดแต่เมื่อเห็นน้องเล็กเดินย้อนกลับออกมาอีกเขาก็รีบเก็บสมุดบัญชีนั้นใส่กระเป๋า

"ทำอะไรอยู่ครับพี่ใหญ่? ทำไมยังไม่เข้าบ้านอีก?" ถามพี่ชายอย่างสงสัย

"เปล่าหรอก พอดีพี่ทำปากกาตกเพิ่งควานหาเจอน่ะ" เจอร์รี่ตอบเลี่ยงๆแล้วลงจากรถ

"เข้าบ้านกันเถอะ" พูดจบก็กอดคอน้องชายแล้วพาเดินเข้าบ้าน

"ไปล้างหน้าล้างตาแล้วมากินข้าวกันเจอร์รี่" แม่บอกกล่าวกับลูกชายคนโต เจอร์รี่ยิ้มเล็กน้อยก่อนจะหมุนตัวเดินเข้าห้องน้ำ

"เป็นอะไรของนายวะแวนเนส? นั่งยุกยิกอยู่ได้" เคนถามเมื่อเห็นแวนเนสคลำๆที่กระเป๋ากางเกงตัวเองเหมือนกำลังหาอะไรบางอย่าง

"ชั้น.....ชั้น.....ชั้นคิดว่าคงทำของหล่นในรถน่ะ" แวนเนสตอบพร้อมกับลุกขึ้น

"ของอะไรลูก? เดี๋ยวค่อยไปหยิบก็ได้ กินข้าวก่อน" พ่อแย้งขึ้นทำให้แวนเนสชะงักไป

"ผมขอไปดูให้แน่ใจดีกว่า จะได้มั่นใจว่ามันไม่ได้หายไปไหน" พูดจบก็หมุนตัวจะออกไปแต่เจอกับพี่ใหญ่ที่กำลังจะเดินเข้ามาพอดี

"จะไปไหน?" ถามน้องชายทันที

"เอ่อ....ชั้น....." แวนเนสอ้ำๆอึ้งๆไม่กล้าตอบพี่ชาย

"พี่รองเขาทำของหล่นไว้ในรถน่ะครับพี่ใหญ่ เลยจะออกไปหาดู" ไจ่ไจ๋จึงเป็นคนตอบแทนแวนเนส

"ชั้นเก็บไว้ให้แล้ว เดี๋ยวกินข้าวเสร็จค่อยตามชั้นขึ้นไปข้างบน จะเอาคืนให้" แวนเนสได้ยินก็ทำหน้าบอกไม่ถูกแต่ก็เดินกลับมานั่งที่โต๊ะอาหาร

"ของสำคัญหรอลูก?" พ่อถามเมื่อเห็นแวนเนสมีสีหน้ากังวล

"ไม่หรอกครับพ่อ หิวจัง.....ลงมือกันเถอะนะ...." เจอร์รี่ตอบคำถามนั้นแทนแล้วพูดตัดบททันที

"พ่อ....เสต็กเนี่ยกินกับไวน์อร่อยนะ" เคนกระซิบบอกพ่อเบาๆ

"จริงด้วย" พ่อพยักหน้าแต่พอเห็นเคนขยิบตาให้ก็หัวเราะแบบขำๆเพราะรู้ว่าเคนต้องการให้พ่อเป็นคนเดินไปหยิบไวน์มารินให้เอง

"จะเอาอะไรหรอพ่อ?" แม่ถามขึ้นเมื่อเห็นพ่อลุกขึ้นจากโต๊ะ

"เอาไวน์ซักขวดน่ะแม่ เห็นเสต็กแล้วก็นึกอยากกินไวน์ขึ้นมาด้วย" พ่อตอบพร้อมกับหยิบขวดไวน์และแก้วออกมา

"ใครเอาบ้างลูก?" ถามบรรดาลูกชายทั้งสี่คน

"พ่อดื่มเถอะครับ" เจอร์รี่ตอบแทนน้องๆทุกคน

"พ่อดื่มคนเดียวจะไปอร่อยได้งัย เดี๋ยวผมดื่มเป็นเพื่อนเอง" เคนพูดแทรกขึ้นมา

"เดี๋ยวเถอะ! เมื่อวานยังแฮงค์ไม่พอหรืองัย?" พี่ใหญ่ดุน้องขึ้นมาทันที

"แหม....แค่ไวน์เองไม่เป็นไรหรอก...." พูดด้วยน้ำเสียงอ่อยๆ

"เอาเถอะลูก น้องก็อยู่บ้านไม่ได้เสียหายอะไร ดื่มนิดหน่อยคงไม่เป็นไร" พ่อออกตัวแทนลูกชายคนกลางอีกตามเคย

"ลูกก็ดื่มซักหน่อยสิ อาจจะช่วยให้ผ่อนคลายขึ้น" ว่าแล้วพ่อก็รินไวน์ใส่แก้วให้สมาชิกทุกคน

"นานๆจะได้กลับมาดื่มกับลูกๆซักที" เจอร์รี่จนใจที่จะเถียงเลยปล่อยเลยตามเลย เพราะไม่อยากขัดใจพ่อ

"ไจ่ไจ๋!! เบาๆหน่อย! ไวน์นะไม่ใช่น้ำผลไม้เล่นทีเดียวหมดแก้วเลย" พี่ใหญ่ร้องเตือนไจ่ไจ๋ที่ยกไวน์มาดื่มรวดเดียวหมด

"อร่อยดีครับ" ไจ่ไจ๋ตอบพี่ชายหน้าตาเฉยเรียกเสียงหัวเราะจากคนอื่นได้เป็นอย่างดี

"อร่อยมะเหงกนี่! เดี๋ยวได้น็อคคาโต๊ะ" ต่อว่าน้องชายหน้าบึ้ง

"นายนี่ไม่รู้เรื่องเลยเวลาดื่มไวน์เขาต้องค่อยๆจิบทีละนิด ไม่ใช่กระดกเหมือนดื่มเหล้าโรง ไม่รู้เรื่องเลย....." เคนต่อว่าน้องด้วย ไจ่ไจ๋จึงเบ้ปากใส่พี่ชาย

"อืม! เรื่องแบบนี้น่ะเก่งจริง! เสี้ยมสอนกันเข้าไปสิ! ทีไอ้เรื่องที่ควรรู้กลับทำเซ่อ!" เคนทำหน้าเมื่อยพร้อมกับยกมือเกาหัวเมื่อโดนพี่ชายเอ็ดใส่

"บ่นอยู่ได้" พึมพำกับตัวเองเบาๆ

"เถียงชั้นหรอ?" ถลึงตาใส่น้องอย่างเอาเรื่อง

"ไม่ได้เถียง....." ปฏิเสธพี่ชายอย่างอ่อนใจ

"หูหาเรื่องชะมัด" เคนบ่นอุบเบาๆแต่พอเห็นพี่ชายจ้องอยู่ด้วยแววตาดุดันก็รีบก้มหน้ากินอาหารในส่วนของตัวเองทันที เช่นเดียวกับแวนเนสและไจ่ไจ๋ที่ต่างก็พากันกินอาหารเย็นเงียบๆ

"ดูสิ.....ดุจนน้องกลัวกันหมดแล้ว" แม่บ่นลูกชายคนโตเข้าบ้าง

"ก็ถ้าพ่อแม่ยิ่งตามใจยิ่งเข้าข้างพวกมันมากแค่ไหนผมก็จะดุพวกมันมากขึ้นเท่านั้นแหละ" เจอร์รี่ว่าพร้อมกับค้อนใส่น้องชายทั้งสามคน

"นี่แหนะ! เราน่ะน่าตีที่สุดเลย!" แม่ไม่พูดเปล่าแต่ตีมือลูกชายคนโตด้วย

"แม่ตีผมทำไม?" เจอร์รี่เริ่มโวยวาย

"ไม่ตีได้ยังงัย? เมื่อกี้กินข้าวกันสนุกๆพอเราดุทีน้องก็เงียบกันหมด ดูซิ.....แต่ละคนแทบไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมาเลย" แม่ทำเสียงดุลูกชายคนโต ในตอนนั้นเคนกับไจ่ไจ๋ลอบสบตากันแล้วแอบยิ้มด้วยสมน้ำหน้าพี่ชายคนโต มีเพียงแวนเนสเท่านั้นที่ไม่ได้สนใจอะไรและยังคงกินอาหารในจานต่อ

"เอาหละๆๆ แม่ก็อย่าว่าลูกเลย เจอร์รี่ก็เหมือนกันเลิกดุน้องเถอะ กินข้าวกันต่อดีกว่า มา....ชนแก้วกันหน่อยทุกคน....." พ่อพูดไกล่เกลี่ยก่อนจะยกแก้วไวน์ขึ้นมา บรรยากาศครื้นเครงจึงค่อยกลับมาอีกครั้ง

"ชนแก้วเนื่องในโอกาสอะไรครับพ่อ?" ไจ่ไจ๋ถามขึ้นมา

"อืม.....ก็เนื่องในโอกาสที่เราได้มานั่งล้อมวงแล้วกินอาหารอร่อยมื้อนี้อย่างพร้อมหน้าพร้อมตากันงัย" พ่อตอบยิ้มๆ จบคำพูดนั้นทุกคนก็ชนแก้วแล้วดื่มกันด้วยสีหน้าสดใสขึ้น จากนั้นมื้ออาหารก็มีเสียงพูดคุยและหัวเราะดังขึ้นเป็นระยะๆ



- ห้องนอนแวนเนส -

"อาบน้ำเสร็จแล้วหรอ?" เจอร์รี่เปิดประตูเข้ามาก่อนจะเอ่ยทักน้องชาย แวนเนสผงกหัวรับน้อยๆก่อนจะหันไปหวีผมหน้ากระจก

"งั้นมาคุยกันหน่อย" แวนเนสถอนหายใจเฮือกเพราะรู้ดีว่าพี่ชายจะพูดเรื่องอะไร

"ก่อนอื่น....ชั้นคืนนี่ให้นาย....." ว่าแล้วก็วางสมุดบัญชีลงตรงหน้าแวนเนส

"ชั้นรู้ว่านายจะถามอะไร?" แวนเนสพูดแทรกขึ้นมาก่อน เจอร์รี่จึงพยักหน้า

"งั้นก็ดี ไหนตอบมาซิเอาเงินไปทำอะไรตั้งเยอะแยะ?" ถามน้องด้วยน้ำเสียงจริงจัง แวนเนสเม้มปากเล็กน้อยก่อนจะหันมาทางพี่ชาย

"ชั้นยังไม่โตพอที่จะจัดการทรัพย์สินของตัวเองหรอ?" แวนเนสไม่ตอบคำถามนั้นแต่กลับย้อนถามพี่ชายเรื่องอื่นแทน

"ถ้านายยังไม่โตพอชั้นคงไม่ให้นายเก็บข้าวของมีค่าไว้กับตัวหรอก" พี่ใหญ่ตอบคำถามน้อง

"งั้นนายจะถามไปทำไม?" แวนเนสถามพี่ชายต่อ

"ในฐานะพี่ชายไม่มีสิทธิ์ที่จะถามงั้นหรอ?" พี่ใหญ่เริ่มหน้าตึงเมื่อเห็นน้องทำท่าบ่ายเบี่ยงไม่ยอมบอก

"ไม่ใช่....แต่...." แวนเนสปฏิเสธแล้วจะพูดต่อแต่ก็ไม่ได้พูด

"แต่อะไร?" พี่ใหญ่ถามย้ำ แวนเนสเงียบไปเพราะไม่รู้จะพูดยังงัยดี

"ที่ชั้นถามไม่ใช่เพราะต้องการจับผิดแต่ถ้านายจำเป็นต้องใช้เงินมากขนาดนี้อย่างน้อยน่าจะปรึกษากันบ้าง เพราะบางทีค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ชั้นอาจจะช่วยออกให้นายก็ได้" อธิบายให้น้องเข้าในเจตนารมณ์ที่เขาต้องถามเซ้าซี้

"ชั้น....ชั้นเอาไปให้เพื่อนยืม....." แวนเนสตัดสินใจบอกพี่ชายออกไปตรงๆ

"ที่ถอนมาทั้งหมดเลยหรอ?" เจอร์รี่ถามซักน้องชายต่อ แวนเนสพยักหน้ารับ

"เพื่อนคนไหน? แล้วเขาเอาไปทำอะไร?" ถามน้องต่ออีก

"จำเป็นต้องรู้ด้วยหรอ?" แวนเนสย้อนถามพี่ชายด้วยสีหน้าเครียดๆ

"นายคิดว่ายังงัยหละ? เงินจำนวนห้าหลักขึ้นไปมันใช้ทำอะไรได้บ้าง? ชั้นไม่ได้อยากมองในแง่ร้ายหรอกนะแต่ถ้าเขาเอาไปทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้องหละ?" เจอร์รี่พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

"มันไม่เอาไปทำอะไรแบบที่นายคิดหรอก" แวนเนสแก้ตัวแทนเพื่อนทันที พี่ใหญ่ได้ยินก็นิ่งไปเพราะดูท่าทางน้องจะปกป้องเพื่อนเหลือเกิน

"โอเค....ชั้นบอกก็ได้ มันเอาไปจ่ายค่าห้อง ถ้ามันไม่จ่ายในวันนี้ก็โดนไล่ออก" แวนเนสเล่าให้พี่ชายฟังอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

"เรื่องนี้ก็ใช่ว่าชั้นจะไม่ได้ปรึกษาใคร เมื่อวานชั้นคุยกับแม่แล้ว" ขยายความให้พี่ชายฟังต่อ

"ค่าเช่าห้องตั้งหกหมื่นเชียวหรอ?" พี่ใหญ่ถามน้องต่ออีกซึ่งแวนเนสก็ลอบถอนหายใจก่อนจะพยักหน้ารับ

"ห้องอะไรเดือนละตั้งหกหมื่น?" ถามรุกน้องชายต่ออีก

"มันพักเป็นคอนโดและค่าเช่าไม่ใช่แค่เดือนเดียวแต่มันค้างเขามาห้าเดือนแล้วรวมเดือนนี้ด้วยก็เป็นหกหมื่น" แวนเนสอธิบายให้ฟัง

"ค่าเช่าห้องเดือนละหมื่น? แวนเนส.....เพื่อนนายคนนี้เขาทำงานอะไร?" แวนเนสนิ่งเงียบเมื่อได้ยินคำถามพี่ชาย

"ถ้าเขาแบกรับค่าเช่าขนาดนี้ไม่ไหวทำไมถึงไม่ไปมองหาห้องพักที่มันราคาต่ำกว่านี้หละ?" เจอร์รี่มองหน้าน้องชายอย่างไม่เข้าใจ

"ชั้นจะไปรู้ได้ยังงัยหละ? แล้วทำไมนายถึงมองคนอื่นในแง่ร้ายนัก?" แวนเนสเริ่มหงุดหงิดที่พี่ชายถามมากความ

"ชั้นมองในแง่ร้ายหรือนายมองในแง่ดีเกินไปกันแน่? ถ้าเป็นแบบนี้เดือนต่อไปเขาไม่มีจ่ายก็มายืมนายอีกงั้นหรอ? แบบนี้นายจะถมให้เขาเต็มได้เมื่อไหร่?" เจอร์รี่พยายามอธิบายเหตุผลให้น้องฟัง

"สมมติว่าเพื่อนนายป่วยเข้าโรงบาลแล้วต้องการใช้เงินก้อนหนึ่งอาจจะเป็นแสนหรือหลายแสนเพื่อรักษาโรคให้หายได้ ถ้าเขาไม่มีแล้วมาขอความช่วยเหลือจากนายชั้นจะไม่ว่าอะไรเลย จะยินดีใช้เงินของชั้นเองไปช่วยด้วยซ้ำ แต่นี่อะไร? จ่ายค่าเช่าห้อง? มันสมเหตุสมผลกันมั๊ยกับจำนวนเงินตั้งมากมายขนาดนี้?" แวนเนสก้มหน้านิ่งเมื่อเจอกับเหตุผลข้อนี้เข้าไป

"จริงอยู่ว่าเงินที่นายให้เขายืมมันมาจากน้ำพักน้ำแรงของนาย แต่ก่อนใช้จ่ายอะไรก็คิดถึงความลำบากของตัวเองก่อนที่จะได้มาด้วยสิ ชั้นก็ไม่อยากพูดหรอกนะ แต่เท่าที่ฟังมาชั้นไม่เห็นด้วยทุกประการที่นายช่วยเหลือเพื่อนด้วยวิธีนี้" พูดจบพี่ใหญ่ก็ถอนหายใจยาว

"แล้วนายจะให้ชั้นปฏิเสธยังงัย? เขาเอ่ยปากขอความช่วยเหลือมาขนาดนั้น" แวนเนสพูดเสียงแผ่ว

"ก็เพราะนายเป็นคนแบบนี้งัยใครๆถึงเข้ามาหาประโยชน์จากนายได้ง่ายๆ" ต่อว่าน้องชายออกไปอย่างเหลืออด

"นายไม่ต้องบอกชั้นก็พอจะรู้ว่าเพื่อนคนนี้อยู่ในกลุ่มไหน? ทุกครั้งที่ไปเที่ยวด้วยกันมีครั้งไหนที่นายไม่ต้องควักกระเป๋าจ่ายให้หรือเปล่า?" แม้จะไม่พอใจน้องชายแต่พี่ใหญ่ก็ไม่ได้ใส่อารมณ์พูดกับน้องเพราะรู้ว่าน้องก็ค่อนข้างเครียดเช่นกัน

"เวลานายลำบากหรือเดือดร้อนเขาเคยเสนอตัวเข้าช่วยหรือเปล่า? หรืออย่างน้อยเขารับฟังปัญหาของนายได้มั๊ย?" แวนเนสมีสีหน้าสลดลงเรื่อยๆจนเจอร์รี่ก็นึกสงสารน้องเช่นกัน

"คนเป็นเพื่อนกันอย่างน้อยเขาควรอยู่เวลาที่นายต้องการสิ แล้วเพื่อนนายคนนี้เขาอยู่ไหนเวลาที่นายต้องการเพื่อนซักคนน่ะ?" ถามทิ้งท้ายไว้ให้น้องชายคิดตาม

"เอาหละ.....ไหนๆนายก็ให้เขายืมไปแล้วชั้นต่อว่านายไปก็เท่านั้นและสำหรับเรื่องนี้ชั้นจะไม่ยกเอามาพูดให้ต้องหงุดหงิดกันอีก ชั้นจะพูดแค่นี้หละ" ว่าพร้อมกับตบไหล่น้องเบาๆแล้วหมุนตัวจะออกไป

"นายโกรธชั้นมั๊ย?" แวนเนสถามขึ้นมาก่อนเจอร์รี่จึงชะงักไป

"ไม่รู้สิ จะว่าโกรธก็ไม่ใช่แต่ไม่โกรธเลยก็ไม่ใช่อีก" เจอร์รี่ตอบไปตามตรง

"ชั้นขอโทษที่ทำอะไรไม่ปรึกษานายก่อน" พูดด้วยสีหน้าจ๋อยๆ พี่ใหญ่จึงเดินกลับมาหาน้องอีกครั้ง

"นายก็ปรึกษาแม่ไปแล้วนี่" พูดเป็นเชิงปลอบใจน้อง

"แต่แม่ไม่ได้รู้รายละเอียดขนาดนี้" แวนเนสแย้งก่อนจะถอนหายใจ

"ไม่ต้องคิดมาก ไปนอนได้แล้ว" พูดพร้อมกับจูงมือน้องไปที่เตียง เมื่อเห็นน้องยังดูท่าทางซีเรียสเขาเลยเอ่ยปากทำลายบรรยากาศขึ้น

"จะเครียดทำไม? เดี๋ยวเขาคงหามาคืนนายได้แหละ" แวนเนสยิ้มที่มุมปากเล็กน้อยแล้วส่ายหน้า

"ชั้นไม่หวังได้คืนหรอก แค่ไม่มายืมอีกก็บุญแล้ว" เจอร์รี่ยิ้มก่อนจะนั่งลงที่เตียงน้องชาย

"รู้แบบนี้แล้วทำไมยังให้เขาไปอีก" แวนเนสยังไม่ตอบแต่ขยับเอาหัวไปพิงกับไหล่พี่ชาย

"ชั้นกลัวมันโดนไล่ออกจากคอนโดแล้วจะมาขออยู่ที่บ้านเราน่ะสิ" พูดแบบติดตลกซึ่งทำให้พี่ใหญ่หัวเราะออกมาได้

"นอนได้แล้ว" พูดตัดบทแล้วตบที่หมอนเบาๆ แวนเนสจึงเอนตัวนอนลงที่เตียงอย่างว่าง่าย

"พี่ใหญ่" แวนเนสเรียกพี่ชายพร้อมกับยกมือทั้งสองข้างขึ้นมา เจอร์รี่ส่ายหน้าไปมาน้อยๆก่อนจะโน้มตัวลงไปกอดน้อง

"เมื่อไหร่จะโตซักที? ต่อไปแต่งงานมีเมียมีลูกแล้วจะมาอ้าแขนหาพี่ใหญ่แบบนี้ไม่ได้แล้วนะ" พูดต่อว่าน้องชายแบบไม่จริงจังนัก

"ไว้ถึงตอนนั้นค่อยว่ากันอีกที" แวนเนสว่าแล้วก็คลายมือออก

"ราตรีสวัสดิ์ครับ" พูดจบก็หอมแก้มพี่ชายเบาๆ

"อื้ม! หลับตานอนได้แล้ว" พี่ใหญ่จูบแรงๆที่หน้าผากคืนให้แล้วดึงผ้าห่มมาห่มให้น้องชาย เขามองดูน้องครู่หนึ่งก็ปิดไฟแล้วเดินออกไป



- ชั้นล่างของบ้าน -

"คุยอะไรอยู่?" เจอร์รี่เอ่ยถามสมาชิกคนอื่นที่นั่งคุยกันอย่างสนุก

"ไจ่ไจ๋กำลังเล่าว่าวันนี้ลูกสอนอะไรให้น้องบ้างน่ะ" พ่อตอบแทนลูกชายคนเล็ก

"ไจ่ไจ๋นี่เก่งนะ เมื่อกี้แม่ถามอะไรตอบได้หมดเลย" แม่ชมลูกชายคนเล็กออกมายิ้มๆ

"แหงหละ คนมันเก่งนี่แม่" ไจ่ไจ๋ตอบรับหน้าตาเฉยทำให้คนอื่นๆพากันหัวเราะออกมา

"โม้ใหญ่เลยนะ" เจอร์รี่ว่าพร้อมกับขยี้หัวน้องอย่างหมั่นไส้

"ไม่ได้โม้ซักหน่อย ผมน่ะเก่งกว่าพี่กลางอีกนะตอนนี้เพราะเมื่อกี้พี่กลางยังไม่รู้เลยว่าบริษัทเรามีกี่แผนก" ไจ่ไจ๋ได้ทีฟุ้งใหญ่

"เฮ้ยๆๆๆ!!! น้อยๆหน่อยไจ่ไจ๋!" เคนรีบโวยวายใส่น้องขึ้นมาทันที

"อ้าว.....หรือไม่จริง เมื่อกี้พี่กลางบอกว่าบริษัทเรามีกี่แผนกนะพ่อ?" ไจ่ไจ๋แกล้งพี่ชายต่ออีก เคนกระตุกแขนน้องชายเป็นเชิงให้หยุดพูดเพราะถ้าขืนพี่ใหญ่รู้ว่าเขาตอบไม่ได้ว่าบริษัทมีกี่แผนกคงได้ลากตัวเขาไปติวเข้มแบบตัวต่อตัวอย่างแน่นอน

"แถมพี่กลางยังจำไม่ได้อีกด้วยว่าถ้าหากลูกค้าต้องการซื้อของเป็นแบบเป็นโปรเจค...." พูดมาถึงตรงนี้น้องเล็กก็โดนเคนล็อกคอแล้วล้มทับ

"โอ้ย!!! ไม่พูดแล้วๆๆๆ!! อื้อ!! ฮ่าๆๆๆ!!!" ไจ่ไจ๋ร้องลั่นก่อนจะหัวเราะออกมาดังๆเพราะโดนพี่ชายจี้เอวไปด้วย

"พอได้แล้ว! เดี๋ยวน้องมันก็ตายพอดีตัวก็ไม่ใช่เล็กๆทับมันลงไปได้!" พี่ใหญ่ปรามน้องชายคนกลางแล้วดึงตัวน้องขึ้นมา

"โอ้ย! กระดูหักหมดแล้วเนี่ย....." เมื่อพี่ใหญ่จับเคนแยกออกไปแล้วไจ่ไจ๋ก็โอดครวญขึ้นมาทันที

"ให้มันหักให้หมดเลย! อยากกวนดีนัก!" เคนแหวใส่น้องชายจึงโดนพี่ใหญ่เขกหัวเข้าให้

"ตัวเองแกล้งน้องยังจะไปว่าน้องอีก" ต่อว่าเคนแล้วขยับเข้าไปหาไจ่ไจ๋

"เป็นยังงัยบ้าง? เจ็บตรงไหนบอกพี่ซิ?" พี่ใหญ่รีบเข้าไปโอ๋น้องเล็กทันที เคนจึงหันไปพยักเพยิดให้พ่อกับแม่ดูว่าพี่ใหญ่โอ๋น้องเล็กขนาดไหน

"เจ็บแขน" ไจ่ไจ๋ได้ทีอ้อนพี่ชาย

"ไหน? ตรงนี้หรอ?" เจอร์รี่จับแขนน้องขึ้นมาแล้วนวดให้

"อืม....ตรงนั้นแหละดีจัง....." น้องเล็กพูดอย่างพอใจ

"ปวดขาด้วยเนี่ย" เสร็จแล้วก็ชี้ไปที่ขาตัวเอง เจอร์รี่พาซื่อจับขาน้องมานวดให้อีก

"ปวดคอด้วยมั๊ยไจ่ไจ๋? เดี๋ยวพี่ช่วยนวดให้" เคนพูดแทรกขึ้นมาอย่างหมั่นไส้

"ไม่ต้องครับ ถ้าขืนให้พี่กลางนวดคงบีบคอผมตายก่อนแน่" ไจ่ไจ๋พูดดักคออย่างรู้ทันพี่ชาย

"หึๆๆๆ" พ่อแม่หันไปหัวเราะด้วยกันกับความเจ้าเล่ห์ของลูกชายคนเล็ก

"ยังจะมาหาเรื่องน้องอีกนายน่ะทำน้องเจ็บซะขนาดนี้ยังไม่สำนึกอีก" เจอร์รี่ต่อว่าเคนเข้าให้ เล่นเอาเคนถึงกับหน้าเหวอ

"เฮ้ย!! ชั้นเนี่ยนะทำมันเจ็บ?" เคนอุทานออกมาก่อนจะตบไหล่พี่ชายแล้วพูดต่อ

"เจอร์รี่ นายรู้มั๊ยว่าถ้าไจ่ไจ๋มันเกิดเป็นผู้หญิงแล้วมาอ้อนออเซาะนายแบบนี้ซักวันนายโดนมันปอกลอกหมดตัวแน่ แค่นี้ยังดูไม่ออกหรืองัยว่ามันแกล้งทำสำออยน่ะ!" เคนเอ็ดใส่พี่ชายเข้าให้บ้าง

"ว่าชั้นโง่หรอ?" แหวใส่น้องชายกลับบ้าง

"ชั้นไม่ได้พูดนะ" เคนยักไหล่พร้อมกับทำหน้ากวนๆ

"ไอ้น้องคนนี้!" เจอร์รี่ชี้หน้าพร้อมกับเอื้อมมือไปล็อคคอน้องชาย

"โอ้ยๆๆๆ!!! ชั้นไม่ได้ว่านายเลยนะ!!" เคนร้องโวยวายลั่น

"ไม่ได้ว่าหรอ? นี่แหนะๆๆๆ!!" เจอร์รี่จี้เอวเคนเป็นการเอาคืนให้ไจ่ไจ๋

"ฮ่าๆๆๆ!! ไม่เอาแล้ว!!" เคนหัวเราะพร้อมกับร้องห้าม ไจ่ไจ๋หัวเราะเยาะเคนอย่างสะใจ

"เจอร์รี่! น้องเพิ่งกินข้าวอิ่มๆเดี๋ยวก็จุกพอดี!" แม่ห้ามปรามลูกชายคนโตเมื่อเห็นเคนสู้ไม่ได้

"หมั่นไส้! มีแต่คนคอยช่วยตลอดเลยนะ" กัดฟันพูดกับน้องชายคนกลางก่อนจะยอมรามือ

"มาให้กอดหน่อยซิ" อ้าแขนออกพร้อมกับพูดกับเคน

"ไปกอดน้องชายสุดที่รักของนายโน้นไป!" เคนว่าแล้วก็หันหลังหนีพี่ชาย

"เล่นตัวเก่งมั๊ยหละลูกชายคนดีของพ่อแม่น่ะ" เจอร์รี่หันไปพูดแขวะกับพ่อแม่

"ที่น้องไม่ยอมให้เรากอดเพราะเราชอบดุน้องเองนี่ ดูสิ.....พ่อกอดน้องยังไม่บ่นอะไรซักคำ" พ่อเอ่ยขึ้นพร้อมกับขยับเข้าไปกอดลูกชายคนกลาง

"ฮึ! จำไว้เลยนะ แล้วอย่ามาหาว่าพี่ใหญ่ลำเอียงอีกแล้วกัน" พูดจบก็หันไปกอดน้องเล็กแทน

"นายน่ะน่ารักที่สุดแล้ว" เอ่ยชมน้องเล็กซึ่งหน้า ไจ่ไจ๋ยิ้มเขินๆก่อนจะซบหน้าลงที่อกพี่ชาย

"เออนี่.....ถ้าวันนึงนายเกิดไม่ใช่น้องคนเล็กแล้วนายจะว่ายังงัย?" เจอร์รี่แกล้งถามแหย่น้อง

"หา? หมายความว่ายังงัยพี่ใหญ่?" ไจ่ไจ๋เงยหน้าถามพี่ชายอย่างงงๆ

"ก็หมายความว่าถ้าแม่เกิดมีน้องอีกคนนายจะว่ายังงัย?" ได้ยินคำอธิบายเช่นนั้นไจ่ไจ๋ก็นิ่งเงียบทันที

"ว่างัยหละ?" ถามย้ำอย่างต้องการคำตอบ ไจ่ไจ๋ซบหน้าลงที่อกพี่ชายตามเดิม

"ก็ดี" ตอบด้วยน้ำเสียงหงอยๆ

"ไปแกล้งน้อง!" แม่ต่อว่าลูกชายคนโตโดยไม่ออกเสียง แต่เจอร์รี่ส่งสัญญาณให้แม่อย่าเพิ่งเฉลย

"แม่กำลังมีน้องอีกคนหรอครับ?" เคนถามขึ้นมาบ้างเพราะไม่ทันสังเกตว่าพี่ชายส่งซิกส์กับแม่อยู่

"ใช่แล้ว...." เจอร์รี่ตอบคำถามนั้นแทน

"โอโห! พ่อนี่เก่งชะมัด!" เคนว่าแล้วก็หันไปชมพ่อทันที

"ไอ้นี่! ทะลึ่งใหญ่แล้ว!" เจอร์รี่ทำเสียงดุน้อง เคนยิ้มแหยๆก่อนจะขยับไปนั่งใกล้ๆแม่

"ท้องกี่เดือนแล้วครับแม่? แล้วรู้หรือยังว่าน้องเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย?" ถามแม่อย่างเป็นการเป็นงานจนพ่อแม่และพี่ชายเกือบจะหัวเราะออกมาพร้อมกัน

"ลูกคิดว่ายังงัยหละจ๊ะ?" แม่ย้อนถามลูกชายยิ้มๆ ทำให้เคนรู้ทันทีว่าทุกคนกำลังแกล้งน้องเล็กอยู่จึงผสมโรงด้วย

"ต้องเป็นผู้หญิงแน่นอน นายตกกระป๋องแล้วไจ่ไจ๋ พี่ใหญ่เขาฝันใฝ่มากว่าอยากได้น้องสาวงานนี้สมใจเขาหละ" เคนหันไปพูดกับน้องเล็กที่ยังซบหน้าอยู่กับอกพี่ใหญ่

"พี่ใหญ่อยากได้น้องสาวมากหรอ?" ไจ่ไจ๋เงยหน้าถามพี่ชายด้วยสีหน้าจริงจัง

"อืม....เด็กผู้หญิงน่ะน่ารักจะตาย" เจอร์รี่ตอบพร้อมกับขยายความอีกด้วย

"อ้อ! นั่นสินะ" ไจ่ไจ๋ว่าแล้วก็นิ่งไปอีก

"นี่....น้องยังไม่ทันเกิดนายก็อิจฉาน้องแล้วหรอ?" เคนแหย่น้องด้วยอีกคน

"เปล่าหนิ" ไจ่ไจ๋ส่ายหน้าปฏิเสธก่อนจะฝืนยิ้มแต่ก็แอบน้อยใจที่ตัวเองจะไม่ใช่คนเล็กของบ้านอีกแล้ว

"ท้องกี่เดือนแล้วครับแม่?" หันไปถามแม่บ้าง เห็นสีหน้าหงอยๆของลูกชายแม่ก็สงสารจึงอ้าปากจะเฉลยแต่พ่อพูดแทรกขึ้นมาก่อน

"สองเดือนแล้วลูก พ่อถึงพาแม่กลับมาที่นี่งัย กะจะให้แม่อยู่จนน้องคลอดเลย" แม่ได้ยินก็หันไปถลึงตาใส่พ่อที่รวมหัวกับลูกชายตัวแสบด้วย

"อ้อ...รู้แล้ว....." ไจ่ไจ๋รับคำหงอยๆ

"ดีจังแม่ ผมเองก็อยากมีน้องสาวเหมือนกัน" เคนพูดย้ำขึ้นมาอีก ทำให้ไจ่ไจ๋เริ่มรู้สึกน้อยใจมากขึ้น

"พี่กลางก็อยากได้น้องสาวมากหรอ?" หันไปถามพี่ชายบ้าง

"ใช่แล้ว" เคนยักคิ้วตอบ

"ก็ดีเหมือนกัน น้องคลอดแล้วคงไม่มีใครมายุ่งกับผมอีกผมคงมีอิสระเต็มที่ก็คราวนี้แหละ" พูดด้วยน้ำเสียงประชดแล้วทำท่าจะลุกขึ้น

"จะไปไหนลูก?" แม่รีบดึงแขนลูกชายไว้ก่อน

"จะไปนอนแล้วครับ" ไจ่ไจ๋ตอบแล้วดึงมือแม่ออก

"ราตรีสวัสดิ์ครับทุกคน" พูดจบก็ทำท่าจะเดินไปแต่พี่ใหญ่กลับเดินมาโอบไหล่น้องชาย

"เดี๋ยวสิไจ่ไจ๋....." แต่น้องเล็กจับมือพี่ชายออก

"พี่จะบอกว่าที่พูดไปเมื่อกี้นี้เราพูดเล่นกันเฉยๆ" เฉลยให้น้องชายฟัง น้องเล็กได้ยินก็ชะงักไป

"ใช่ลูก แม่ไม่ได้มีน้องหรอก พี่ชายกับพ่อของลูกแกล้งแหย่ลูกเฉยๆ" แม่ช่วยอธิบายให้ฟังด้วย

"ความจริงแม่ก็น่าจะมีน้องสาวอีกซักคนนะ" ไจ่ไจ๋พูดเสียงเรียบๆ

"อ้าว! ทำไมพูดแบบนี้หละ?" แม่ย้อนถามลูกชายอย่างไม่เข้าใจ

"ก็พี่ใหญ่กับพี่กลางเขาอยากได้น้องสาวนี่ มีอีกซักคนให้เขาสมหวังกันงัย" พูดประชดพี่ชายทั้งคู่ด้วยความน้อยใจ ทำให้พี่ชายทั้งคู่ได้แต่อมยิ้ม

"งอนหรอไอ้ตัวดี?" เคนว่าพร้อมกับเอื้อมมือไปขยี้หัวน้อง

"ไม่ต้องมายุ่ง!" ปัดมือพี่ชายออกแล้วเดินหนีขึ้นห้องไปทันที

"ไจ่ไจ๋!!" แม่ร้องเรียกลูกชายแต่ไจ่ไจ๋ไม่หยุดกลับเดินดุ่มๆขึ้นห้องไปทันที

"ได้เรื่องมั๊ยหละ?" แม่หันมาทำหน้างอใส่คนช่างแกล้งทั้งหลายก่อนจะตามลูกชายคนเล็กขึ้นไป

"เอ่อ...." สามคนพ่อลูกได้แต่ยิ้มแหยๆให้กัน

"เพราะนายอ่ะจะเริ่มทำไมไม่รู้" เคนได้ทีโทษพี่ชายเป็นการใหญ่

"นี่! แล้วเราไม่ได้มีส่วนด้วยหรืองัยกัน?" เจอร์รี่เถียงข้างๆคูๆ

"ก็ถ้านายไม่พูดชั้นจะพูดมั๊ยฮึ?" เคนเองก็ไม่ยอมแพ้

"ไม่เอาน่าลูก อย่าเถียงกันเลย รอลุ้นดีกว่าว่าแม่จะโอ๋เจ้าตัวดีของเราสำเร็จหรือเปล่า?" พ่อเอ่ยปากห้ามไม่ให้ลูกชายเถียงกันอีก

"นายว่างัย?" เคนถามพี่ชายยิ้มๆ

"ก็ว่าเหมือนที่นายคิดนั่นแหละ" ตอบน้องชายอย่างขำๆเช่นกัน

"ไม่รู้จักโตซักทีเรื่องแค่นี้ก็ทำงอนไปได้" เคนต่อว่าน้องชาย

"ว่าแต่น้อง เมื่อก่อนตัวเองทั้งแผลงฤทธิ์ทั้งอาละวาดจนบ้านแทบพังตอนที่รู้ว่าแม่มีไจ่ไจ๋น่ะ" เจอร์รี่ต่อว่าน้องชายเข้าให้ด้วย

"ชั้นเนี่ยนะ?" เคนชี้หน้าตัวเอง

"ใช่สิ! ไม่เชื่อก็ถามพ่อดู.....นายเล่นไม่เอาใครเลยมีแค่อาเจียงถึงจะเอานายอยู่" เจอร์รี่หลุดปากพูดออกมาแล้วก็อึ้งไปเพราะรู้ว่าคำพูดของเขาสะกิดความรู้สึกของพ่อและน้องชาย พ่อในตอนนี้มีสีหน้าสลดลง

"ไม่จริงใช่มั๊ยพ่อ? ตอนเด็กๆผมออกจะน่ารักเนอะ" เคนหันไปถามพ่อเหมือนไม่ได้เกิดอะไรขึ้น

"แน่นอน ลูกน่ารักสำหรับพ่อเสมอและไม่ว่าตอนไหนพ่อก็รักลูกหมดหัวใจเลย" พ่อตอบพร้อมกับยิ้มให้ลูกชายเช่นกัน เจอร์รี่ถอนหายใจโล่งอก

"พ่อพูดแบบนี้ระวังใครบางคนจะน้อยใจนะ" เคนว่าพร้อมกับเหล่ไปทางพี่ชาย

"พี่ชายลูกน่ะหรอพ่อจะบอกให้ว่าเขาน่ะอิจฉาน้องเก่งกว่าใครเลย ตอนที่พี่รองของลูกเกิดพี่ใหญ่เขาก็ยังไม่รู้เรื่องเท่าไหร่แต่ไม่รู้ทำไมถึงงอแงจนพ่อกับแม่ไม่ได้หลับไม่ได้นอนเลยแหละ หลังจากนั้นก็อ้อนซะจนแม่แทบให้นมพี่รองเขาไม่ได้แหนะ" พ่อเลยเอาเรื่องของเจอร์รี่มาเผาให้เคนฟัง

"ไม่จริงอ่ะ พ่อจำสับสนแล้ว" เจอร์รี่แย้งขึ้นทันที

"ไม่มีทาง พ่อน่ะเก็บทุกรายละเอียดของลูกทุกคนเลยไม่มีทางจำผิดแน่ๆ" พ่อยืนกรานหนักแน่น

"แล้วตอนที่ลูกเกิดนอกจากพ่อยังต้องมารบรากับความอิจฉาน้องของพี่รองแล้วยังต้องโอ๋พี่ใหญ่เขาด้วยนะเพราะตอนนั้นพี่ใหญ่งอนหนักเหมือนกัน" พ่อเล่าต่อ

"ลูกรู้มั๊ยพี่ใหญ่เขางอนเรื่องอะไร?" พ่อย้อนถามเคน

"ไม่รู้ครับ งอนที่พ่อกับแม่สนใจผมมากกว่าหละสิ" เคนตอบแบบเดาๆ

"ไม่ใช่ แต่งอนเพราะว่าเขาได้น้องชายอีกคนแทนที่จะเป็นน้องสาวน่ะ" ได้ยินเช่นนั้นเคนก็หัวเราะก๊าก

"ปัญญาอ่อนชะมัด! จะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายเลือกเองได้หรอ?" ได้ทีหลอกด่าพี่ชาย

"นี่! ด่าชั้นหรอ?" ทำหน้าเข้มใส่น้องทันที เคนจึงแกล้งทำไม่รู้ไม่ชี้

"รู้หรือเปล่าว่าพี่ใหญ่ของลูกน่ะเล่นเดินถามพยาบาลทุกคนเลยว่าน้องเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายเพราะนึกว่าพ่อแม่แกล้งหลอก แต่พอเขาตอบตรงกันหมดว่าเป็นผู้ชายทีนี้แหละอาละวาดโวยวายใหญ่" พ่อเล่าพลางหัวเราะพลางเมื่อนึกไปถึงสีหน้าท่าทางของลูกชายในตอนนั้น

"ไม่น่าหละ พี่ใหญ่เขาถึงเกลียดขี้หน้าผมนัก" เคนแอบว่ากระทบพี่ชาย แต่คำพูดนั้นกลับทำเอาพี่ชายถึงกับสะอึก

"พูดอะไรแบบนี้หละลูก?" พ่อว่าเป็นเชิงเตือนกลายๆ เคนเริ่มรู้ตัวก็หันไปทางพี่ชาย

"เอ่อ.....ชั้นพูดเล่น...." รีบแก้ตัวขึ้นมาทันทีเมื่อเห็นพี่ชายเริ่มซีเรียส

"ชั้นรู้ว่าพี่ใหญ่รักชั้นมาก ไม่งั้นก็คงไม่ดุให้เมื่อยปากไม่ตีให้เมื่อยมือหรอกเนอะ" ทำปากหวานกับพี่ชายทันที

"อืม" พี่ใหญ่เพียงแต่พยักหน้ารับเท่านั้น เคนจึงหันไปทำหน้าเจื่อนๆกับพ่อ

"พ่อว่า....พ่อไปช่วยแม่กล่อมน้องชายลูกดีกว่า" พ่อว่าแล้วก็ลุกเดินออกไปโดยปล่อยให้ลูกชายคุยกันเอง

"โห....ทิ้งกันง่ายๆแบบนี้เลย....." เคนบ่นอุบแต่พอเห็นพี่ชายมองอยู่ก็ยิ้มแหยๆ

"พี่ใหญ่.....ขนมที่ซื้อมาให้กินวันนี้อร่อยดีพรุ่งนี้ซื้อให้กินอีกนะ" เคนไม่รู้จะพูดยังงัยจึงเอ่ยปากอ้อน เจอร์รี่เหลือบมองน้องชายนึกขำขึ้นมาเหมือนกันแต่ก็เพียงแต่พยักหน้ารับเท่านั้น

"งั้นชั้นไม่รบกวนแล้ว ไปนอนก่อนแล้วกัน" เคนไม่รู้จะพูดอะไรดีจึงขอตัวไปนอน

"เดี๋ยว" เจอร์รี่เรียกน้องไว้ก่อน เคนจึงหันมาอีกครั้ง

"มานี่ซิ" เจอร์รี่อ้าแขนทั้งสองข้างออกพร้อมกับร้องเรียกน้องชาย เคนทำหน้าลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเดินเข้าไปให้พี่ชายกอด

"เมื่อไหร่จะเลิกพูดประชดพี่แบบเจ็บๆอย่างนี้ซักที?" เอ่ยถามน้องเบาๆ

"ชั้นขอโทษ ชั้นก็ปากไวแบบนี้แหละ อย่าถือสาเลยนะ" ว่าพร้อมกับกอดพี่ชายตอบ

"ง่วงนอนแล้ว พาไปส่งหน่อยนะ" บอกกล่าวกับพี่ชายด้วยท่าทางเหมือนเด็กๆ จนพี่ใหญ่หลุดยิ้มออกมาจนได้

"จะบอกอะไรอย่างนึงเอามั๊ย?" ดันตัวน้องออกอย่างอ่อนโยนพร้อมกับตั้งคำถามขึ้น

"บอกอะไรหรอ?" ทำหน้างงๆในขณะที่ย้อนถามพี่ชาย

"ที่ชั้นดุนายมากกว่าคนอื่นก็เพราะแบบนี้แหละ" เคนยังทำหน้าไม่เข้าใจอยู่ดี

"เพราะนายจะได้เข้ามาอ้อนชั้นบ่อยๆงัย" เฉลยให้น้องฟังยิ้มๆ

"นิสัยไม่ดี!" เคนต่อว่าพร้อมกับตีแขนพี่ชายทีหนึ่งแล้วทำท่าจะเดินขึ้นห้อง

"อ้าว! จะไปไหนหละ? ไหนบอกจะให้พี่ใหญ่ไปส่งงัย?" เจอร์รี่วิ่งตามพร้อมกับเซ้าซี้น้องชาย

"ไม่ต้องแล้ว! ชั้นไปเองได้!" เคนปัดมือพี่ชายที่ยื้อยุดเขาออก

"ไปส่ง" ว่าพร้อมกับจูงมือน้องชาย แต่เคนก็ปัดมือพี่ชายออกให้วุ่น

"บอกว่าไม่ต้อง! ไปไกลๆเลย!" แหวใส่พร้อมกับทำตาขวาง

"ไม่ให้จูงงั้นพี่ใหญ่อุ้มขึ้นไปนะ!" พูดจบก็ทำท่าจะอุ้มน้องชาย เคนเลยโวยวายเสียงดังลั่น

"ไม่ต้องๆๆๆ!!! ไม่เอา!! อย่ามายุ่ง!!!" ร้องโวยวายพลางวิ่งหนีไปรอบบ้าน

"หึๆๆๆ" พี่ใหญ่ยืนหัวเราะน้องชายที่ค้อนใส่เขาเสียหลายตลบ

"ไม่เล่นแล้ว มาเร็ว....." พูดสงบศึกแล้วยื่นมือออกไป เคนมองพี่ชายอย่างไม่ค่อยไว้ใจแต่แล้วก็ยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์

"เมื่อกี้บอกจะอุ้มใช่มั๊ย?" ถามพี่ชายพร้อมกับยิ้มหวานจ๋อย เจอร์รี่ได้ยินก็ส่ายหน้าทันที

"ใครบอก? ไม่มีอ่ะ" เคนทำหน้ามุ่ยใส่พี่ชายแล้วเดินไปหา

"ไม่อุ้มขึ้นไปคืนนี้ก็ไม่นอน" พี่ใหญ่อ้าปากค้างเมื่อโดนน้องชายเล่นงานเข้าให้บ้าง

"จะบ้าหรอ! ตัวไม่ใช่เล็กๆจะให้อุ้ม!" แหวใส่น้องเข้าให้

"งั้นขี่คอก็ได้" เคนต่อรองเพราะอยากแกล้งพี่ชาย

"ให้นายขี่คอชั้นคงคอหักตายตรงแถวๆบันไดขั้นแรกแน่ๆ" ได้ยินเช่นนั้นเคนก็ค้อนใส่พี่ชาย

"แล้วมาบอกว่ารักให้ขี่คอแค่นี้ก็ไม่ได้" เคนแกล้งบ่นดังๆให้พี่ชายได้ยิน

"ไอ้....เฮ่อ!.....ก็ได้ๆๆๆ ให้ขี่คอก็ได้" พี่ใหญ่ไม่รู้จะทำยังงัยจึงต้องยอมตามใจน้อง

"จริงนะ! ห้ามทำตกนะ! ไม่งั้นชั้นพิการนายต้องเลี้ยงไปตลอดชาติเลย" ไม่วายพูดขู่พี่ชายไว้ก่อนจะรีบกระโดดขึ้นหลังพี่ชาย

"โอ้ย! ตัวหนักชะมัด!" เจอร์รี่บ่นอุบแล้วยืนขึ้นอย่างทุลักทุเล

"อย่าบ่นๆๆๆ! ไปได้แล้วเร็วๆ!" เคนกอดคอพี่ชายพร้อมกับเร่งยิกๆ

"วันนี้จะยอมให้ซักครั้งนะไอ้ตัวร้าย!" ต่อว่าน้องชายเบาๆแล้วพาน้องขึ้นไปส่งที่ห้องนอน





Create Date : 30 มีนาคม 2552
Last Update : 30 มีนาคม 2552 22:40:01 น. 0 comments
Counter : 1129 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 
 

loving_zai
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]




[Add loving_zai's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com