Chapter 42

ตอนที่ 42

"ทำไมกลับดึกจัง?" ทันทีที่เจอร์รี่ก้าวขาเข้าบ้านเสียงแวนเนสก็บ่นขึ้นมาในทันใด

"ก็อยู่เคลียร์งานที่บริษัทน่ะสิ" ตอบน้องชายพร้อมกับเอามือบีบที่ต้นคอตัวเองเพื่อไล่ความเมื่อยล้า


"ช่วงนี้งานยุ่งมากหรอ?" ถามพี่ชายกลับไปอีก

"ก็ยุ่งเกือบตลอดแหละ แต่ตอนนี้เจ้าไจ๋ไม่อยู่บ้านชั้นก็เลยอยู่เคลียร์งานที่บริษัทให้เสร็จไปเลยทีเดียวจะได้ไม่ต้องขนกลับมาทำที่บ้าน" เจอร์รี่ตอบพร้อมกับขยายความให้น้องฟัง แวนเนสลอบถอนหายใจ

"เป็นอะไร? ถอนหายใจทำไม?" เมื่อเห็นท่าทางของน้องแล้วเจอร์รี่ก็ถามอย่างสงสัย

"เปล่า ไม่ได้เป็นไร" แวนเนสปฏิเสธพร้อมกับปั้นยิ้มให้พี่ชายทั้งที่จริงๆแล้วเขาเองก็รู้สึกเหงาๆเพราะตอนนี้เป็นช่วงที่เขาได้หยุดพักแต่กลับไม่มีใครอยู่บ้านเลย

"แล้วนี่ทำไมยังไม่ขึ้นนอนอีก?" ถามน้องต่อเพราะเห็นว่าตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว

"กำลังจะไป" ตอบเสร็จก็ลุกขึ้นบิดขี้เกียจซ้ายทีขวาที

"วันนี้ได้โทรหาน้องบ้างมั๊ย?" หันไปถามพี่ชายต่ออีก

"ไจ่ไจ๋มันเพิ่งโทรมาเมื่อตอนหัวค่ำบอกว่าวันนี้เสี้ยวเทียนชวนมันไปว่ายน้ำเล่น เห็นบอกว่าเหนื่อยเลยเข้านอนเร็วหน่อยน่ะ" เล่าให้น้องฟังแล้วพยักหน้าไปทางบันได

"ไป.....ขึ้นไปนอนได้แล้ว......" บอกให้น้องรีบไปนอนแต่แวนเนสกลับเดินมากอดเอวพี่ชาย

"ไม่ต้องอ้อนเลย วันนี้ชั้นเหนื่อยไม่มีอารมณ์จะเล่นด้วยแล้ว" ว่าอย่างพอจะรู้ว่าน้องจะมาอ้อนเขา

"นอนด้วยคนนะ" ขอพี่ชายด้วยน้ำเสียงอ่อยๆ พี่ใหญ่มองหน้าละห้อยของเจ้าน้องชายตัวดีก่อนที่จะบีบจมูกน้องเบาๆ

"ถ้าเข้าไปแล้วนอนเลยน่ะได้ แต่ถ้าหากจะชวนคุยชั้นเตะส่งกลับห้องเลยนะ" กัดฟันพูดกับเจ้าน้องชายขี้อ้อน

"รับรองว่าไม่ชวนคุย" แวนเนสรับปากแข็งขัน

"งั้นก็ไปช่วยปิดบ้านก่อน" พูดจบก็เดินเข้าไปสำรวจฟืนไฟในครัวส่วนแวนเนสก็เดินไปล็อกประตูบ้าน จากนั้นก็เดินตามพี่ชายขึ้นมาบนห้องแต่ยังไม่ยอมนอนนั่งรอจนพี่ชายอาบน้ำเสร็จ

"น้องไม่อยู่กันบ้านก็เงียบลงไปเยอะเลยเนอะ" เอ่ยกับพี่ชายพร้อมกับเหยียดแขนบิดขี้เกียจก่อนที่จะล้มตัวลงนอน เจอร์รี่ยิ้มบางๆก่อนที่จะหยิบผ้าห่มมาห่มให้น้องชายแล้วค่อยเอนตัวนอนลงข้างน้องบ้าง

"ปกติก่อนนอนจะต้องมีเจ้าไจ๋มาอ้อนมาคุยจ้อให้ฟัง พอมันไม่อยู่แล้วนายรู้สึกเหมือนขาดอะไรบ้างหรือเปล่า?" ถามพี่ชายต่ออีก

"อืม.....เหมือนกับว่ายังทำกิจวัตรประจำวันไม่ครบ" ตอบน้องชายยิ้มๆ

"ชั้นว่าแล้วนายต้องคิดถึงน้องแหงๆ" พี่ใหญ่หันหน้ามาทางคนพูด

"แล้วเราไม่คิดถึงน้องหรืองัย?" ย้อนถามกลับไปบ้าง

"ก็คิดถึงแหละ แต่มันไม่มาเจ๊าะแจ๊ะกับชั้นมากเท่านายก็เลยไม่เท่าไหร่" แวนเนสตอบแล้วพลิกตัวหันมาทางพี่ชายแล้วเปลี่ยนเรื่องคุย

"งั้นช่วงนี้นายก็เลยจะอยู่ทำงานที่บริษัทให้เสร็จทุกวันเลยใช่มั๊ย?" เจอร์รี่ยักคิ้วให้น้องแทนคำตอบ แวนเนสลอบถอนใจออกมาเบาๆเพราะใจจริงแล้วอยากให้พี่ชายกลับบ้านเร็วๆเพื่อที่จะได้มาอยู่เป็นเพื่อนเขาเพราะช่วงนี้เป็นช่วงที่เขาได้หยุดงานพอดี

"ถอนหายใจแบบนี้หมายความว่างัย?" เอานิ้วจิ้มที่แก้มน้องชายเบาๆพร้อมกับย้อนถามไปด้วย

"ชั้นถอนหายใจตอนไหน?" แวนเนสรีบปฏิเสธเพราะรู้ว่าพูดไปก็จะทำให้พี่ชายต้องคอยห่วงเขาจนต้องหอบงานกลับมาทำที่บ้านอีก

"ก็เมื่อกี้ชั้นเห็นนี่" พี่ชายพูดยืนยัน

"นายน่ะท่าจะประสาทคนถอนหายใจก็ต้องมีความหมายด้วยหรืองัย?" เถียงพี่ชายข้างๆคูๆ เจอร์รี่ยิ้มเล็กน้อยเพราะพอจะรู้สาเหตุที่น้องอยากจะอ้อนเขา

"พรุ่งนี้หลังชั้นเลิกงานเราไปหาอะไรกินข้างนอกดีมั๊ย?" แวนเนสได้ยินก็มีสีหน้าดีใจ

"พูดจริงๆนะ" ย้ำคำพี่ชายอย่างกระตือรือร้น

"ชั้นจะหลอกนายทำไมหละ?" รับคำน้องยิ้มๆก่อนที่จะเอื้อมมือไปบีบจมูกน้องชาย

"ก่อนขึ้นมานอนชั้นบอกว่ายังงัย? ห้ามชวนคุยใช่มั๊ย?" ต่อว่าเจ้าน้องชายตัวดีแบบไม่จริงจัง

"ชั้นเริ่มชวนคุยก่อนหรอ?" ถามกลับพี่ชายด้วยสีหน้าซื่อๆ

"กวนประสาท!" เอ็ดน้องเสียงดุเล็กน้อยก่อนที่จะหันไปปิดโคมไฟข้างเตียง

"พรุ่งนี้ชั้นจะไปช่วยกลอเรียที่ร้านแล้วบ่ายแก่ๆจะเข้าไปหาที่บริษัทนะ นายจะได้ไม่ต้องมารับชั้นอีก" บอกกล่าวกับพี่ชายเอาไว้

"ตามใจ" พี่ใหญ่ว่าพร้อมกับอ้าปากหาวเพราะง่วงเต็มที

"แล้วพรุ่งนี้เรากินอะไรที่ไหนกันดีหละ?" แวนเนสยังคุยไม่เลิก

"ค่อยว่ากันพรุ่งนี้เถอะ ชั้นง่วงจนตาจะปิดอยู่แล้ว" พูดจบก็อ้าปากหาวอีกครั้ง

"แหม.....ก็ต้องคิดไว้ก่อนสิ จะได้ไม่เสียเวลา" แวนเนสพูดแย้งแล้วเอาศอกกระทุ้งแขนพี่ชายเบาๆ

"ไม่ต้องคิดอะไรทั้งนั้นแหละ หลับตานอนได้แล้ว" ว่าเจ้าน้องชายจอมยุ่งแล้วพลิกตัวนอนหันหลังให้

"กินราเมนกันดีมั๊ย?" แวนเนสยังตามรังควานพี่ชายอยู่อีก

"แวนเนส! ถ้าพูดขึ้นมาอีกครั้งหละก็กลับไปนอนที่ห้องเลยนะ!" ทำเสียงดุเจ้าน้องชายตัวดี

"โธ่! ก็ชั้นยังไม่ง่วงหนิ คุยเป็นเพื่อนกันก่อนสิ" ว่าพลางขยับเขย่าตัวพี่ชายไปด้วย

"ชั้นเหนื่อยแล้วก็ง่วงจะตายอยู่แล้วนายยังจะคุยบ้าอะไรอีก!" คราวนี้พลิกตัวกลับมาพร้อมกับสีหน้ายุ่งๆ

"บอกดีๆก็ได้ไม่เห็นต้องดุเลย" บ่นอุบเบาๆด้วยสีหน้าจ๋อยๆ

"บอกดีๆตั้งกี่เที่ยวแล้วเราฟังหรือเปล่า?" ไม่พูดเปล่าแต่เอื้อมมือไปดึงหูเจ้าคนช่างกวนด้วย

"โอ้ยๆๆๆๆๆ......ไม่พูดแล้วๆๆๆๆ......" แวนเนสร้องครวญครางพลางเอามือลูบหูตัวเองไปด้วย

"แค่นี้ต้องลงมือกันด้วย ดุเป็นบ้าเลย" บ่นอุบอิบกับตัวเองเบาๆ

"ยังไม่เลิกบ่นอีกหรอ?" เลื่อนมือลงมาหยิกที่พุงน้องชายอีก แวนเนสทำหน้าเบ้พร้อมกับจับมือพี่ชายออก

"หลับตานอนเดี๋ยวนี้เลย!" สั่งด้วยน้ำเสียงดุๆเพราะตอนนี้เขาง่วงเต็มทีแล้ว แวนเนสรีบหลับตาลงทันทีเพราะรู้ว่าพี่ชายเริ่มหงุดหงิดแล้ว พี่ใหญ่ลอบถอนหายใจออกมาเบาๆก่อนที่จะกระชับผ้าห่มให้น้อง

"กู๊ดไนท์....." แวนเนสพูดพึมพำเสียงแผ่วทั้งๆที่ยังหลับตาอยู่ พี่ใหญ่เห็นแล้วก็ได้แต่ส่ายหน้าไปมา

"กู๊ดไนท์....ไอ้ตัวยุ่ง....." พูดตอบกลับน้องชายก่อนที่จะขยับเข้าไปกอดน้องเอาไว้แล้วหลับตาลงด้วยเช่นกัน



- วันต่อมาที่บริษัท -

"เฮ้ยแวนเนส!" เสียงทักทายนั้นทำให้แวนเนสต้องหันหลังกลับไปทางต้นเสียงจนเมื่อเห็นบรรดาเพื่อนที่เคยร่วมงานร้องเรียกเขาก็ยิ้มอย่างร่าเริง

"งัยวะ! คิดถึงพวกนายจัง!" แวนเนสเดินรี่เข้าไปจับไม้จับมือเพื่อนฝูงอย่างดีใจ

"พวกชั้นก็ทำงานอยู่นี่ตลอดถ้านายคิดถึงจริงทำไมไม่แวะมาหาหละ?" เพื่อนพูดเป็นเชิงแขวะแต่ไม่ได้จริงจังนัก

"ก็ชั้นมีงานต้องทำเหมือนกันหนิ เนี่ย....เพิ่งได้หยุดช่วงนี้เอง" แวนเนสแก้ตัวก่อนที่จะถามสารทุกข์สุขดิบของเพื่อนๆ เขาคุยกับเพื่อนอยู่พักหนึ่งก็ถามหาพี่ชาย

"เห็นเจอร์รี่มั๊ยอ่ะ? ชั้นไปดูที่ห้องทำงานไม่เห็นอยู่เลย" ถามไถ่เอาจากเพื่อนๆ

"ผู้จัดการออกไปตั้งแต่บ่ายแล้ว เห็นว่าลูกค้ารายใหญ่มีปัญหาเรื่องสินค้าผู้จัดการเลยออกไปดูเอง" ได้ยินแวนเนสก็หน้ามุ่ยลงเล็กน้อย

"ไม่เห็นบอกกันซักคำ" บ่นพึมพำอยู่คนเดียวก่อนจะยิ้มให้รับเมื่อเพื่อนๆบอกว่าใกล้เวลาจะเลิกงานแล้ว

"โอเค.....งั้นไว้ว่างๆเรานัดไปกินข้าวกันนะ" แวนเนสพูดทิ้งท้ายไว้ก่อนจะร่ำลาเพื่อนฝูงแล้วเดินกลับไปนั่งรอเจอร์รี่ในห้องทำงาน จนเมื่อรอได้พักใหญ่ๆก็ไม่มีทีท่าว่าพี่ชายจะกลับมาดังนั้นเขาจึงโทรไปหา

"อะไรวะ! ปิดเครื่องซะอย่างงั้น!" มองโทรศัพท์ในมือสีหน้ามุ่ยสนิทก่อนที่จะถอนหายใจดังเฮือกแล้วเปลี่ยนไปโทรหาน้องชายบ้าง

"ครับพี่รอง" เสียงไจ่ไจ๋ตอบรับเจื้อยแจ้วอย่าแจ่มใส

"ทำอะไรอยู่?" แวนเนสถามน้องชายกลับไป

"อยู่ในฟิตเนท กำลังออกกำลังกายอยู่ เดี๋ยวกลับไปผมจะมีซิกส์แพ็คเหมือนพี่รองแล้ว" แวนเนสหัวเราะเมื่อได้ยินคำคุยของน้องชาย

"นึกยังงัยไปออกกำลังกาย? เวลาพี่ชวนไม่เห็นนายอยากจะไปเลย" แวนเนสย้อนถามน้องต่อ

"ไม่ออกไม่ไหวอ่ะพี่รอง ไม่งั้นกลับไปผมอ้วนแข่งกับพี่กลางแน่ๆ เพราะพี่กลางเขาซื้อบัตรอาหารแบบบุฟเฟ่ต์ให้ผมเกือบทุกมื้อ แล้วผมน่ะก็รู้จักคุณค่าของเงินใช่มั๊ย? เลยกินแบบซะคุ้มเงินของพี่กลางทุกสตางค์เลยแหละ" น้องเล็กเล่าให้เขาฟังอย่างติดตลก

"ไอ้บ้า! เล่นยัดเอาๆเดี๋ยวก็ท้องแตกตายหรอก เพลาๆมั่งไอ้น้อง" แวนเนสเองก็เตือนน้องชายไปด้วย

"โธ่พี่รอง! ก็พี่กลางบอกเองว่าอยากให้ผมมาหาประสบการณ์ผมก็เลยต้องกินให้ครบทุกอย่างน่ะสิ แล้วพี่ต้องมาเห็นว่าอาหารแต่ละอย่างเนี่ยน่ากินขนาดไหน? พูดแล้วก็อยากจะให้ถึงมื้อเย็นเร็วๆจัง" แวนเนสยิ้มได้ทุกทีที่ได้คุยกับเจ้าน้องชายคนนี้

"พี่กลางเขาให้นายไปหาประสบการณ์ชีวิตไม่ใช่ให้ไปกินแหลกแบบนั้น นายเองก็อย่ายัดเข้าไปจนจุกหละไม่งั้นนอนปวดท้องแล้วไม่ต้องโทรมาร้องแงๆให้ฟังเลยนะ" อดไม่ได้ที่จะเตือนน้องอีก

"ถึงจะจุกก็ยอมครับงานนี้ เพราะอาหารอร่อยทุกอย่างเลยจริงๆแถมมีให้เลือกเยอะแยะอีกด้วย ทั้งอาหารไทย จีน ญี่ปุ่น ฝรั่ง อ้อ! พี่กลางให้ผมดื่มไวน์ด้วย รสชาดดีเหมือนกันนะเนี่ย" ได้ยินน้องสาธยายถึงของกินแวนเนสก็เริ่มหิวขึ้นมาตะหงิดๆ

"นี่ๆๆๆ ให้มันน้อยๆหน่อยนะ ไอ้พี่กลางของนายน่ะตัวดีนักเชียวนำทางนายตลอด" ต่อว่าน้องชายเข้าให้

"ถ้าพี่ใหญ่รู้หละก็กลับมาพี่กลางมันโดนตีหัวแตกแน่ นายเองก็จะโดนเทศน์หลายตลบเหมือนกัน" ยกเอาพี่ชายคนโตขึ้นมาขู่

"แหม.....พี่รองก็อย่าฟ้องสิ ผมน่ะไว้ใจพี่ที่สุดเลยนะถึงยอมเล่าให้ฟังทุกอย่าง" น้ำเสียงน้องชายฟังดูออดอ้อนเต็มที่

"พี่ไม่ฟ้องหรอกแต่ที่พี่พูดก็เพราะเป็นห่วง" แวนเนสตอบโต้น้องชาย

"ครับ ผมเข้าใจว่าพี่เป็นห่วง และผมรับรองเลยนะว่าจะไม่ก่อปัญหาอะไรขึ้นมาเด็ดขาด" เสียงน้องเล็กยืนกรานหนักแน่น

"ได้ยินนายพูดแบบนี้พี่ค่อยวางใจหน่อย" แวนเนสเริ่มยิ้มออกอีกครั้ง

"แล้วนี่พี่รองทำอะไรอยู่? พี่ใหญ่กลับบ้านหรือยัง?" ไจ่ไจ๋ถามพี่ชายกลับมาบ้าง คำถามนั้นทำเอาแวนเนสหน้ามุ่ยลงอีก

"พี่อยู่บริษัทน่ะสิ แต่พี่ใหญ่ไปหาลูกค้า" ตอบด้วยน้ำเสียงเซ็งๆ

"โดนพี่ใหญ่บังคับให้มาช่วยงานหรอ?" ถามกลับมาด้วยน้ำเสียงปนหัวเราะ

"เปล่า....แต่มันนัดพี่กินข้าวเย็นพอดีวันนี้พี่เข้าไปช่วยพี่กลอเรียที่ร้านเสร็จแล้วเลยแวะเข้ามา ถ้ารู้ว่ามันจะไปพบลูกค้าแบบนี้พี่ไม่มาหรอกไปกินข้าวกับแฟนดีกว่า" พูดด้วยน้ำเสียงติดงอนเล็กน้อย

"อ้าว! เป็นงั้นไป" เสียงน้องชายหัวเราะมาตามสาย

"พี่รองครับ ผมมีสายซ้อนเข้ามาน่ะ พี่ถือสายรอเดี๋ยวนะ" เมื่อได้ยินน้องพูดเช่นนั้นแวนเนสจึงตัดบทสนทนา

"ไม่ต้องหรอก พี่แค่โทรมาถามดูเฉยๆ ไม่มีอะไรแล้ว งั้นแค่นี้แล้วกัน" เขารอฟังน้องพูดตอบกลับมาก่อนที่จะวางสายไป

"จะหกโมงอยู่แล้วทำไมยังไม่กลับมาอีก แล้ววันนี้ชั้นจะได้กินข้าวเย็นมั๊ยเนี่ย?" แวนเนสมองไปที่นาฬิกาพลางบ่นอุบก่อนที่จะไถลตัวลงนอนที่โซฟานั้นแล้วผล็อยหลับไป มาตื่นอีกทีก็ตอนได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น

"สวัสดีครับ" แวนเนสตอบรับโดยไม่ได้ดูเบอร์ที่เรียกเข้าเพราะกำลังงัวเงียอยู่

"แวนเนส วันนี้ชั้นไปกินข้าวกับนายไม่ได้แล้ว ขอโทษด้วยนะ" เสียงพี่ชายพูดมาตามสาย

"งั้นหรอ?" แวนเนสมีสีหน้าผิดหวังก่อนที่จะยันตัวลุกขึ้นมานั่ง

"หาข้าวหาปลากินซะ แล้วไปเจอกันที่บ้าน โอเคนะ" พูดจบก็ตัดสายทิ้งโดยที่แวนเนสยังไม่ทันได้พูดอะไร

"โอเคกับนายคนเดียวน่ะสิ เฮ่อ!" บ่นอุบอิบก่อนจะเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋า

"รู้งี้ไม่อยู่รอหรอก ดูสิ.....มาตั้งแต่ห้าโมงกว่า นี่มันเกือบจะสองทุ่มแล้วค่อยโทรมาบอก ไม่ให้รอไปจนถึงพรุ่งนี้เช้าเลยหละ!" บ่นต่ออย่างงอนๆแล้วหันไปเก็บของก่อนที่จะเดินไปเรียกแท็กซี่กลับบ้าน เมื่อกลับมาถึงบ้านแล้วเจ้าพีพีกับถางถางก็เดินมาล้อมหน้าล้อมหลังเขา แวนเนสจึงจัดหาอาหารให้พวกมันกิน

"ที่พวกแกต้องทนหิวนานไม่ใช่เพราะชั้นนะ พวกแกต้องโทษเจอร์รี่เพราะเขาหลอกให้ชั้นไปนั่งรอแกล่วอยู่ที่บริษัทไม่งั้นชั้นก็กลับบ้านเร็วแล้วพวกแกก็จะไม่ต้องทนหิวนานขนาดนี้" แวนเนสต่อว่าพี่ชายให้สัตว์เลี้ยงทั้งสองฟังก่อนที่จะลูบหัวพวกมันอย่างเอ็นดูแล้วเดินเข้าไปล้างหน้าในห้องน้ำ

"ติ๊ดๆๆๆๆ" เสียงโทรศัพท์ของแวนเนสดังขึ้นมาเขาจึงรีบเดินมารับ

"สวัสดีครับ" เอ่ยทักทายออกไปเพราะเบอร์ที่เรียกเข้ามานั้นไม่คุ้นเท่าไรนัก

"ชั้นเองนะแวนเนส จำได้หรือเปล่า?" คำย้อนถามนั้นทำเอาแวนเนสหยุดคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะนึกออกว่าเป็นหนึ่งในกลุ่มเพื่อนที่เคยมาหาเขาที่บ้าน

"อ้อ! จำได้สิ.....ว่างัยหละ?" เอ่ยถามกลับ

"ไม่ได้เจอกันตั้งนาน พรุ่งนี้มาเจอกันหน่อยมั๊ย?" คำชักชวนนั้นทำให้แวนเนสลังเลยังไม่กล้ารับปาก

"พรุ่งนี้ตอนกลางคืนหรอ?" ย้อนถามเพื่อนกลับไป

"ใช่! นายจะมาหรือเปล่า? หรือว่านายต้องขออนุญาตพี่ชายก่อน?" ประโยคหลังคล้ายจะล้อเลียน พอได้ยินเช่นนี้แวนเนสจึงตกปากรับคำไปทันที

"ไปสิ! จะให้เจอกันกี่โมง? แล้วเจอกันที่ไหน?" หลังจากรู้ชื่อร้านและเวลานัดแล้วเขาก็คุยกับเพื่อนอีกพักหนึ่งก่อนจะวางสายไป แต่ถึงอย่างนั้นเขาเองก็ไม่ค่อยสบายใจนักเพราะถ้าพี่ชายรู้ว่าเขาจะไปกับเพื่อนกลุ่มนี้อีกคงโดนอบรมยกใหญ่แถมอาจจะไม่ได้ไปอีกต่างหาก

"ทำงัยได้? ก็นายอยากไม่มีเวลาว่างไปกับชั้นเองนี่นา......" คิดหาเหตุผลเข้าข้างตัวเองก่อนที่จะเดินเข้าไปในครัวแล้วทำบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมานั่งกิน ในระหว่างที่เขากำลังนั่งกินอยู่นั้นพี่ชายก็กลับเข้ามา

"ทำไมกินของพวกนี้หละ?" เมื่อเห็นแวนเนสนั่งกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอยู่เจอร์รี่เดินมาผลักหัวน้องพร้อมกับต่อว่าไปด้วย

"แล้วจะให้ชั้นกินอะไรหละ?" เงยหน้าขึ้นเถียงพี่ชายด้วยน้ำเสียงงอนๆ

"ก็ซื้อตามร้านข้างนอกมากินสิ" ตอบเสร็จก็มาทรุดตัวนั่งลงข้างน้องชาย

"ชั้นนั่งแท็กซี่จากร้านไปหานายที่บริษัทเพื่อที่จะได้ออกไปกินข้าวด้วยกัน แต่แล้วนายกลับหายไปโดยไม่บอกชั้นล่วงหน้าปล่อยให้รอแหงกอยู่ตั้งสามสี่ชั่วโมงแล้วโทรมาบอกแค่ว่าไปด้วยไม่ได้แล้ว ชั้นเลยต้องเรียกแท็กซี่จากบริษัทเพื่อที่จะนั่งกลับบ้าน" ได้ยินน้องพูดแบบนี้เจอร์รี่ก็อ้าปากจะแย้งแต่แวนเนสยกมือขึ้นห้ามไว้ก่อนที่จะสาธยายต่อ

"ทำไมชั้นถึงซื้ออะไรกินไม่ได้ หนึ่งเพราะนั่งแท็กซี่จะให้เขาแวะโน้นแวะนี่ก็เกรงใจเขาต้องมาจอดรถรอ สองเพราะอาชีพชั้นเลยไม่สะดวกที่จะนั่งรถเมล์และไม่สามารถจะแวะที่ไหนได้ตามใจชอบ เคลียร์มั๊ยครับ?" อธิบายจบก็ถามประชดพี่ชายไปด้วย พี่ใหญ่ได้ยินก็ถอนหายใจ

"โอเค.....ชั้นผิดเอง....." ยอมรับผิดอย่างไม่อยากจะเถียงกับน้อง

"พรุ่งนี้ชั้นสัญญาว่าจะไปกินข้าวด้วย ถ้าเคลียร์งานเสร็จเร็วชั้นอาจจะลาครึ่งวันแล้วกลับมาอยู่บ้านเป็นเพื่อนนายด้วย" ยื่นข้อเสนอให้น้องอย่างต้องการง้อเต็มที่

"ไม่ต้อง! พรุ่งนี้ชั้นมีนัดกับเพื่อนแล้ว" พูดจบแวนเนสก็ตักบะหมี่กินต่อ

"เพื่อนที่ไหน?" ถามซักไซร้น้องต่อทันที แวนเนสอ้ำอึ้งเล็กน้อย

"เพื่อนที่ไหนสำคัญด้วยหรอ?" ไม่ตอบคำถามนั้นแต่กลับกวนประสาทพี่ชายแทน

"งั้นก็ไม่ต้องไป แล้วถ้าพรุ่งนี้ชั้นกลับมาไม่เจอนายที่บ้านหละก็โดนหนักแน่!" เจอร์รี่ไม่ต่อล้อต่อเถียงด้วยแต่ยื่นคำขาดให้น้องทันที

"โหย.....นายอย่าเป็นอย่างนี้สิ....." แวนเนสเสียงอ่อยลงทันที

"แล้วชั้นถามดีๆจะกวนประสาททำไม!?" ทำเสียงเข้มขึ้นเล็กน้อย

"ใครควรจะโกรธใครมากกว่าเนี่ย?" แวนเนสบ่นอุบก่อนจะถอนหายใจดังเฮือก

"งั้นก็บอกมาสิว่าจะไปกับเพื่อนที่ไหน?" ตวัดเสียงใส่น้องชาย แวนเนสเริ่มลังเลว่าจะพูดความจริงกับพี่ชายดีหรือไม่

"แวนเนส!" เรียกชื่อน้องเพื่อคาดคั้นเอาคำตอบ

"เพื่อนสมัยเรียนมหาลัย" แวนเนสตัดสินใจโกหกพี่ชายเพราะถ้าบอกว่าไปกับเพื่อนกลุ่มนั้นพี่ชายคงไม่ปล่อยให้เขาไปอย่างแน่นอน

"ไปกันกี่คน?" ถามน้องต่ออีก

"ก็ไปกันทั้งกลุ่มนั่นแหละ ทำไมนายต้องถามเซ้าซี้ด้วย?" ตอบเสร็จก็ต่อว่าพี่ชายด้วย

"แล้วทำไมนายถึงต้องตอบแบบขยักขย่อนด้วยหละ? ตอบออกมาทีเดียวไม่ได้หรืองัย?" พี่ใหญ่ตอกกลับเข้าให้บ้าง แวนเนสเอามือเกาหัวก่อนที่จะเฉไฉไปยกชามบะหมี่ขึ้นมากินต่อ

"แล้วจะไปทำอะไรกัน? ไปกี่โมงกลับกี่โมง?" ว่าแล้วก็ทวงคำตอบจากน้องอีก แวนเนสเริ่มหายใจไม่ทั่วท้องเพราะพี่ชายเล่นถามไม่เลิกซึ่งถ้ายังถูกถามซักแบบนี้ต่อไปเขาคงเผยพิรุธให้พี่ชายจับได้แน่นอน

"แวนเนส!" เรียกชื่อน้องอีกครั้ง

"ให้ชั้นกินเสร็จก่อนไม่ได้หรืองัย? ชั้นยังกินไม่อิ่มเลยนะ!" ต่อว่าพี่ชายเข้าให้ เจอร์รี่มองเจ้าน้องชายตัวดีก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆแล้วลุกขึ้นยืน

"ชั้นจะขึ้นไปอาบน้ำแล้วจะลงมาเอาคำตอบ" พูดจบก็เดินขึ้นห้องไปอาบน้ำ

"เฮ่อ! หรือจะบอกความจริงไปดีวะ?" แวนเนสพึมพำปรึกษาตัวเองอย่างไม่สบายใจนัก

"แต่ถ้าบอกก็ไม่ได้ไปแหงๆ" พูดแย้งกับความคิดที่ลังเลของตัวเอง ก่อนจะถอนหายใจออกมาอีก

"เอาวะ! ไหนๆก็พูดไปแล้วขืนพูดกลับไปกลับมาโดนมันเทศน์ยาวแน่ๆ เอ.....แต่ถ้าโดนจับได้เราไม่ตายเลยหรอ?" คิดได้เช่นนี้ก็เริ่มกลัวการถูกลงโทษอยู่เหมือนกัน

"แต่ถ้าไม่บอกมันก็ไม่รู้หรอก แล้วอีกอย่างแค่ไปกินข้าวกับเพื่อนมันไม่เห็นเสียหายตรงไหนเลยนี่" คิดได้เช่นนี้แล้วแวนเนสก็ตัดสินใจเด็ดขาดแล้วว่าจะไม่บอกความจริงกับพี่ชายว่าเขาจะไปกับใคร เมื่อได้คำตอบแล้วเขาก็กินบะหมี่ในชามจนหมดแล้วเป็นฝ่ายขึ้นไปหาพี่ชายเอง

"งัย? ไอ้ตัวดี!" เจอร์รี่กำลังยืนเช็ดหัวอยู่หน้ากระจกเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นน้องชายเดินเข้ามาในห้องเขา

"อาบน้ำเสร็จแล้วหรอ?" แวนเนสเดินเข้าไปกอดพี่ชาย

"ตัวเหนียว! อย่ามากอด" พี่ใหญ่ต่อว่าน้องแบบไม่จริงจังนักแต่ก็ใช้ผ้าขนหนูเช็ดหัวต่อ

"อื้ม!" แวนเนสหอมแก้มพี่ชายฟอดหนึ่งเป็นการเปลี่ยนเรื่องเผื่อว่าพี่ชายจะลืมไปแล้วว่าถามอะไรเขาไว้

"ไม่ต้องมาทำเป็นอ้อนเลย ชั้นยังรอคำตอบนายอยู่นะ" พี่ใหญ่เอาศอกกระทุ้งหน้าอกน้องเบาๆพร้อมกับทวงถาม

"โหย! นายเนี่ยทำอย่างกับชั้นเป็นเด็กๆเลยนะ จะไปไหนมาไหนทีถามโน้นถามนี่ยิ่งกว่าตำรวจสอบสวนผู้ต้องหาซะอีก" เจอร์รี่หันไปบีบจมูกน้องชายหลังจากได้ยินน้องพูดแขวะ

"แล้วเราน่ะไม่ใช่เด็กหรืองัย? เห็นอ้อนพี่งอนพี่ได้ทุกวันแบบนี้?" แวนเนสทำจมูกย่นใส่แล้วเดินไปนั่งบนเตียงพี่ชาย

"ตกลงว่าชั้นนัดกินข้าวกับเพื่อนสมัยเรียนมหาลัย นัดเจอที่ร้านเวลาสามทุ่ม แล้วเพื่อนๆไปกันครบทั้งกลุ่ม" แวนเนสเอ่ยคำพูดที่เตรียมมาไว้แล้ว

"ทำไมนัดกันดึกจัง? แล้วจะกลับกี่โมง?" ไม่วายตั้งคำถามกับน้องอีก

"โธ่! ก็เพื่อนมันทำงานกันทุกคนนี่กว่าจะเลิกงานกว่าจะเดินทางมาถึงกว่าจะคุยกว่าจะกินกว่าจะถามสารทุกข์สุขดิบกันเสร็จก็ปาเข้าไปตั้ง......" แวนเนสยังพูดไม่ทันจบประโยคพี่ชายก็แทรกขึ้นมาก่อน

"สามชั่วโมง ชั้นให้เวลานายสังสรรกับเพื่อนถึงเที่ยงคืน เสร็จแล้วรีบกลับบ้าน" แวนเนสอ้าปากค้างเมื่อได้ยิน

"หูยยย.....นานๆจะได้เจอกันทั้งที ปล่อยๆไปหน่อยไม่ได้หรอ?" โอดครวญต่อทันที

"เวลาตั้งสามชั่วโมงยังไม่พออีกหรืองัย? ชั้นว่ามันมากเกินไปด้วยซ้ำ" เจอร์รี่เถียงกลับ แวนเนสถอนหายใจเบาๆก่อนที่จะขยับเข้าไปกอดพี่ชายที่เดินมานั่งลงที่เตียง

"ขอสี่ชั่วโมงละกัน พอตีหนึ่งปุ๊บชั้นจะกลับทันทีเลย" ออดอ้อนขอต่อรองกับพี่ชายแต่เจอร์รี่ก็ส่ายหน้าปฏิเสธ

"โธ่! พี่ใหญ่ครับ....." แวนเนสยังตื๊อพี่ชายต่ออีก

"ชั้นไม่สนใจว่านายจะออกมาเมื่อไหร่แต่ถ้าตีหนึ่งแล้วนายยังไม่ถึงบ้าน......เกินมากี่นาทีชั้นฟาดตามจำนวนนั้นเลย!" แวนเนสได้ยินก็ทำหน้าเจื่อนๆ

"โหดเกินไปหรือเปล่า? ชั้นไม่ได้ขับรถไปเองนะจะเร็วจะช้าก็ต้องอยู่ที่คนขับสิ ถ้าเกิดมีเหตุติดขัดอะไรที่ไม่ได้เกิดจากตัวชั้นหละ?" แย้งพี่ชายขึ้นมาบ้าง

"ถ้านายกลับบ้านตอนเที่ยงคืนโดยอาศัยรถแท็กซี่ เวลาในตอนนั้นชั้นมั่นใจว่ารถไม่ติดอย่างแน่นอน แล้วเวลาหนึ่งชั่วโมงสำหรับเดินทางนั้นต่อให้รถเสียจนนายต้องเปลี่ยนรถคันใหม่ชั้นว่ามันมากมายเหลือเฟือเลยด้วยซ้ำ ฉะนั้นชั้นจะไม่สนใจเหตุผลอะไรทั้งนั้น ถ้านายกลับบ้านไม่ตรงตามเวลาที่ชั้นกำหนด ชั้นจะลงโทษทันทีโดยไม่ถามหาเหตุผลใดๆทั้งสิ้น" พูดกับน้องด้วยน้ำเสียงจริงจัง แวนเนสฟังแล้วก็จนใจเพราะพี่ชายพูดแบบนี้แล้วคงแย้งอะไรอีกไม่ได้ต้องก้มหน้ายอมรับอย่างเดียว

"แบบนี้ทุกที" บ่นอุบพร้อมกับลุกขึ้นยืน

"จะไปไหน?" เจอร์รี่ถามเมื่อเห็นน้องลุกขึ้นยืนด้วยสีหน้ามุ่ยๆ

"ไปจะนอนแล้ว!" ตอบพี่ชายเสียงห้วน

"อาบน้ำให้สบายตัวก่อนแล้วค่อยนอน" สั่งกำชับเหมือนทุกครั้ง

"ชั้นจะกลับไปนอนที่ห้องของชั้น สกปรกโสโครกยังงัยก็เตียงชั้น ไม่เลอะเตียงนายซักหน่อย" พูดตอกกลับด้วยน้ำเสียงกระเง้ากระงอดแล้วทำท่าจะเดินออกไปแต่พี่ใหญ่กลับดึงมือไว้
"ก็เพราะเป็นแบบนี้งัยพี่ใหญ่ถึงต้องเข้มงวดกับเรา อื้ม! ไป.....จะกลับไปนอนที่ห้องก็ไปเลย......" เจอร์รี่ต่อว่าน้องเป็นเชิงบ่นแต่ก็จูบเบาๆที่หน้าผากน้องชายก่อนจะปล่อยตัวน้องให้กลับห้องของตัวเอง



- วันต่อมา -

"ว่างัยไจ่ไจ๋?" พี่ใหญ่รับโทรศัพท์ขึ้นมาได้ก็ถามคนที่โทรเข้ามาทันที

"คิดถึงพี่ใหญ่จัง" ได้ยินเช่นนี้แล้วเจอร์รี่ก็อดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้

"คิดถึงจริงหรอ? ไม่ใช่เที่ยวเพลินจนลืมพี่คนนี้ไปแล้วหรอ?" ย้อนคำน้องกลับไป

"ใครจะลืมพี่ชายที่แสนดีของผมได้หละครับ ตอนนี้ผมเพิ่งกินมื้อเย็นเสร็จ อิ่มจนพุงกางเลย เมื่อกี้เลยโดนพี่กลางบ่นไปชุดนึง พี่เขาหาว่าผมกินมากเกินพิกัด" เจอร์รี่หัวเราะกับเรื่องเล่าของน้อง

"นี่! แล้วทำไมเราถึงกินมากมายซะขนาดนั้นฮึ? ตะกละซะไม่มี...." แกล้งว่าน้องชายซ้ำเติมเข้าให้

"ก็ของมันน่ากินนี่ ถ้าพี่มาด้วยพี่ก็ต้องกินเหมือนผมนั่นแหละ" เสียงน้องเล็กโต้ตอบกลับมา

"พี่ไม่ตะกละเหมือนนาย กินแค่อิ่มพี่ก็พอแล้ว" เถียงน้องกลับไปอีก

"แหม....ผมน่ะทำตามคำสอนของพี่ยังจะมาว่าผมอีก" ได้ยินเช่นนี้เจอร์รี่ก็เลิกคิ้ว

"คำสอนของพี่?" ทวนคำอย่างไม่ค่อยเข้าใจ

"ใช่ครับ ก็พี่ใหญ่เคยสอนว่าเวลากินน่ะต้องกินทุกอย่างให้หมดไม่ใช่หรอ? นี่ผมก็ทำตามแล้วงัย กินทุกอย่างเลย" ไจ่ไจ๋พูดเสียงเจื้อยแจ้ว

"พี่สอนแบบนั้นหรอไอ้ตัวดี? พี่เคยบอกแต่ว่าข้าวในจานมีแค่ไหนก็ต้องกินให้หมด แล้วถ้าจะตักอะไรกินก็ให้ตักแค่พอกินเท่านั้น ไม่เคยสอนให้ฟาดเรียบซะทุกอย่างแบบที่นายพูดซักหน่อย" เจอร์รี่รีบแก้ให้น้องทันที แล้วก็ได้ยินเสียงเจ้าน้องชายตัวดีหัวเราะมาตามสาย

"อ้าวหรอ? ผมจำผิดหรอเนี่ย?" พูดเสียงปนหัวเราะทำให้เจอร์รี่พลอยหัวเราะไปด้วย

"ทะเล้นนักนะเรา! แล้วนี่เจ้าพี่กลางทำงานอยู่หรอ?" ถามถึงน้องชายอีกคนบ้าง

"เลิกแล้วครับ แต่พี่เขาขอตัวไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเดี๋ยวเราจะไปนวดในสปากัน" ไจ่ไจ๋รายงานเสียงสดใส

"อิจฉาคนได้เที่ยวจริงๆเล้ยยยย......" เจอร์รี่แกล้งบ่นเปรยๆ

"ชวนให้มาก็ไม่มาแล้วจะมาบ่นทำไมหละ?" น้องเล็กต่อว่าพี่ชายเข้าให้

"จะให้ไปได้ยังงัยกันหละ? ขืนปล่อยเจ้าพี่รองอยู่บ้านคนเดียวมันวีนตายแน่เลย แล้วอีกอย่างพี่ไม่ได้ว่างงานเหมือนนายซักหน่อย" เจอร์รี่ย้อนเข้าให้แล้วก็ได้ยินเสียงน้องชายหัวเราะ

"แล้วนี่พี่รองเขาไปทำงานหรือเปล่า? เอ๊ะ....แต่เห็นพี่เขาบอกช่วงนี้ได้หยุดนี่นา" ไจ่ไจ๋ว่าก่อนที่จะพูดอย่างนึกขึ้นได้

"มันไปร่อนกับเพื่อนแล้วสิ เมื่อวานพี่นัดมันไปกินข้าวแต่พอดีสินค้าที่ส่งให้ลูกค้ามีปัญหาพี่เลยต้องไปหาลูกค้าด้วยตัวเอง ไอ้พี่รองของนายมันก็งอนใหญ่พี่เลยจะชดเชยด้วยการจะพามันไปกินข้าววันนี้แต่มันดันนัดเพื่อนออกไปซะแล้ว" เจอร์รี่เล่าให้น้องฟัง

"แหม.....อยู่กันสองคนยังจะงอนกันอีกนะ ยังงัยพี่ใหญ่ก็ต้องเอาใจพี่รองเขาหน่อยละกัน ไม่มีผมอยู่ด้วยก็งี้แหละเหงากันหมดหละสิ" ไจ่ไจ๋ไม่วายพูดเอาความดีเข้าตัวทำให้พี่ใหญ่ได้แต่ส่ายหัวยิ้มๆ

"เออพี่ใหญ่.....งั้นไว้แค่นี้ก่อนนะใกล้ได้เวลานัดกับพี่กลางแล้ว" แล้วไจ่ไจ๋ก็เป็นฝ่ายพูดตัดบท

"อืม ไว้ค่อยคุยกันอีก พี่เองก็จะกลับบ้านแล้วเหมือนกัน" เจอร์รี่ตอบรับแล้วก็วางสายไป เขาหันไปมองนาฬิกาที่บอกเวลาเกือบสองทุ่มก่อนที่จะหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาอีกครั้งแล้วต่อสายไปหาแวนเนส

"ทำไมถึงติดต่อไม่ได้หละเนี่ย?" เจอร์รี่พึมพำแล้วต่อสายไปอีกครั้งแต่ก็ติดต่อไม่ได้ดังเดิม

"คงไม่มีอะไรเกิดขึ้นนะ" พูดกับตัวเองต่อแต่ก็เริ่มห่วงน้องขึ้นมาตะหงิดๆเพราะปกติแล้วแวนเนสจะเปิดมือถือไว้ตลอดเวลาเนื่องจากต้องติดต่อเรื่องงาน

"สงสัยคงไม่อยากให้ใครโทรไปกวน" หาเหตุผลให้น้องก่อนที่จะเก็บของทั้งหมดแล้วกลับบ้าน เมื่อกลับมาถึงบ้านเจอร์รี่ก็จัดการให้อาหารเจ้าพีพีกับถางถางเสร็จแล้วก็เดินเข้าครัวแล้วเทอาหารที่ซื้อมาสำหรับตัวเองกินบ้าง

"เฮ่อ! ไอ้พวกตัวแสบไม่อยู่ บ้านก็เงียบเหงาลงไปจริงๆ....." หลังกินข้าวเสร็จแล้วเจอร์รี่ก็บ่นกับตัวเองเบาๆ จากนั้นก็ตัดสินใจเอางานมานั่งทำ จนกระทั่งเที่ยงคืนกว่าเขาก็ทำงานทุกอย่างจนเสร็จ

"ลองโทรไปหามันอีกครั้งดีกว่า" พูดกับตัวเองแล้วหยิบโทรศัพท์มือถือมาต่อสายหาแวนเนสอีกครั้งแต่ก็ติดต่อไม่ได้อยู่ได้

"จะปิดเครื่องทำไมเนี่ย!?" บ่นต่อออกมาอย่างหงุดหงิดเพราะอยากรู้ความเป็นไปของน้องในตอนนี้ เจอร์รี่นั่งนิ่งอยู่ครู่หนึ่งก็เปลี่ยนไปโทรหาไจ่ไจ๋แทน

"ครับ" แต่เป็นเสียงของเคนที่รับสาย

"น้องหละ?" ถามหาน้องเล็กจากเคน

"อาบน้ำอยู่ มีอะไรหรือเปล่า?" เสียงเคนตอบก่อนที่จะถามพี่ชายกลับมา

"เปล่าหรอก ชั้นแค่อยากจะถามว่าวันนี้แวนเนสได้โทรหาพวกนายบ้างมั๊ย?" เจอร์รี่ปฏิเสธก่อนที่จะตั้งคำถามกับน้อง

"วันนี้หรอ? ไม่มีนะไม่เห็นเจ้าไจ๋เล่าให้ฟังแล้วกับชั้นก็ไม่มีโทรมา ทำไม? ทะเลาะกันหรอ?" เคนตอบก่อนจะถามพี่ชายต่ออีก

"เปล่า แต่พอดีวันนี้มันออกไปสังสรรกับเพื่อนแล้วชั้นก็โทรหามันตั้งแต่หัวค่ำจนถึงตอนนี้ยังติดต่อไม่ได้เลยเป็นห่วงมันน่ะถึงได้จะถามพวกนายว่ามันมีโทรมาหาบ้างหรือเปล่า?" พี่ใหญ่เล่าให้น้องฟัง

"มันคงรู้ว่านายต้องโทรจิกมันหละมั้งเลยชิงปิดเครื่องซะก่อน" เคนพูดปลอบพี่ชายแบบติดตลกเพราะไม่อยากให้พี่ชายคิดมาก

"นี่! ชั้นซีเรียสนะ! เล่นอะไรดูเวล่ำเวลาบ้าง!" พูดด้วยน้ำเสียงดุๆเพราะเป็นห่วงแวนเนสจริงๆ

"แค่นี้ต้องดุด้วย.....เอาน่าๆๆๆ ชั้นว่ามันไม่เป็นไรหรอก บางทีอาจจะแบตหมดหรือไม่มีคลื่นก็ได้ นายก็อย่าคิดมากเลย" เคนพูดปลอบพี่ชาย

"อืม....ชั้นอาจจะคิดมากเกินไปจริงๆนั่นแหละ ว่าแต่นายยังไม่นอนอีกหรอ?" หันมาถามคู่สนทนาบ้าง

"จะนอนยังงัยหละ? ต้องกล่อมไอ้ตัวดีให้มันหลับก่อนชั้นถึงจะกลับห้องพักได้" เมื่อได้ยินน้องบ่นเจอร์รี่ก็ค่อยยิ้มออก

"น้องไม่ดื้อกับนายใช่มั๊ย? แล้วทุกอย่างราบรื่นดีใช่หรือเปล่า?" สอบถามน้องชายต่ออีก

"ไม่ดื้อหรอกแต่ก็มีงอแงบ้าง พอดีเมื่อวานเพื่อนป่วยชั้นเลยต้องเข้างานแทนเพื่อนน้องเลยเกิดอาการงอนนิดหน่อยแต่ไม่ได้งอนอะไรมากมาย" เคนเล่าให้พี่ชายฟัง

"งั้นก็ดีแล้ว เอาหละ......ไม่มีอะไรแล้วแค่นี้ก่อนนะ ราตรีสวัสดิ์" ว่าแล้วก็พูดตัดบทเพราะเห็นว่าดึกมากแล้ว

"ราตรีสวัสดิ์ครับ" เคนรับคำพี่ชายแล้ววางสายไป เจอร์รี่รอให้น้องวางสายไปก่อนจึงค่อยต่อสายไปหาแวนเนสอีกครั้งแต่ก็ยังติดต่อไม่ได้อยู่ดี เขาถอนหายใจแล้วเหลือบตาไปมองนาฬิกา

"นี่มันจะตีหนึ่งอยู่แล้วนายอยู่ที่ไหนกันแน่เนี่ยไอ้ลูกลิง?" บ่นพึมพำกับตัวเองเบาๆ

"ชอบทำให้เป็นห่วงอยู่เรื่อย" ว่าแล้วก็ได้แต่นั่งถอนถอนใจอยู่อย่างนั้น



Create Date : 30 ธันวาคม 2550
Last Update : 30 ธันวาคม 2550 21:26:43 น. 1 comments
Counter : 1267 Pageviews.

 
โธ่พี่ใหญ่ใจร้ายจัง ตีหนึ่งถึงบ้าน😅😅🤣🤣


โดย: มีมี่ IP: 139.99.104.95 วันที่: 2 ตุลาคม 2562 เวลา:5:25:37 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 
 

loving_zai
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]




[Add loving_zai's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com