Nice To Meet You
Fiction : Home Sweet Home
Fiction : Home Sweet Home II
My Home Sweet Home
Chapter 106
Chapter 105
Chapter 104
Chapter 103
Chapter 102
Chapter 101
Chapter 100
Chapter 99
Chapter 98
Chapter 97
Chapter 96
Chapter 95
Chapter 94
Chapter 93
Chapter 92
Chapter 91
Chapter 90
Chapter 89
Chapter 88
Chapter 87
Chapter 86
Chapter 85
Chapter 84
Chapter 83
Chapter 82
Chapter 81
Chapter 80
Chapter 79
Chapter 78
Chapter 77
Chapter 76
Chapter 75
Chapter 74
Chapter 73
Chapter 72
Chapter 71
Chapter 70
Chapter 69
Chapter 68
Chapter 67
Chapter 66
Chapter 65
Chapter 64
Chapter 63
Chapter 62
Chapter 61
Chapter 60
Chapter 59
Chapter 58
Chapter 57
Chapter 56
Chapter 55
Chapter 54
Chapter 53
Chapter 52
Chapter 51
Chapter 50
Chapter 49
Chapter 48
Chapter 47
Chapter 46
Chapter 45
Chapter 44
Chapter 43
Chapter 42
Chapter 41
Chapter 40
Chapter 39
Chapter 38
Chapter 37
Chapter 36
Chapter 35
Chapter 34
Chapter 33
Chapter 32
Chapter 31
Chapter 30
Chapter 29
Chapter 28
Chapter 27
Chapter 26
Chapter 25
Chapter 24
Chapter 23
Chapter 22
Chapter 21
Chapter 20
Chapter 19
Chapter 18
Chapter 17
Chapter 16
Chapter 15
Chapter 14
Chapter 13
Chapter 12
Chapter 11
Chapter 10
Chapter 9
Chapter 8
Chapter 7
Chapter 6
Chapter 5
Chapter 4
Chapter 3
Chapter 2
Chapter 1
Chapter 30
ตอนที่ 30
"เอ้าๆๆ!!! เลิกเล่นกันได้แล้ว!" พี่ใหญ่ร้องบอกเจ้าน้องชายจอมทะโมนทั้งสองคนที่กำลังกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันอยู่บนเตียง
"ทำเสร็จเร็วจังพี่ใหญ่" เมื่อดิ้นหลุดออกมาจากการเกาะกุมของพี่ชายคนรองแล้วไจ่ไจ๋ทำลุกไปหาพี่ใหญ่แทน
"พวกนายนี่อะไรกัน ไม่สบายแทนที่จะนอนพักกันเฉยๆยังจะเล่นกันเป็นเด็กๆอีก!" ต่อว่าเจ้าน้องชายตัวดีทั้งคู่แล้วดุนหลังไจ่ไจ๋ให้มานั่งลงที่เตียงส่วนตัวเองก็หันไปจัดการเอาช้อนใส่ลงในชามโจ๊กทั้งสองชาม
"ก็ไจ่ไจ๋มันเข้ามากวนชั้นหนิ" แวนเนสเถียงออกมา
"ผมกวนที่ไหน? พี่รองแหละหาเรื่องก่อน" ไจ่ไจ๋เถียงกลับ
"ยังจะเถียงกันอีกหรอ!?" พี่ใหญ่เอ็ดเข้าให้อีก แวนเนสกับไจ่ไจ๋จึงหันไปยิ้มให้กันแล้วสงบปากสงบคำแต่โดยดี
"เอ้า! กินกันซะแล้วจะได้กินยา" ยกชามโจ๊กออกมาส่งให้น้องชายทั้งคู่ แวนเนสกับไจ่ไจ๋เหลือบตามองกันไปมา
"ตักกินสิ! นั่งเฉยอยู่ได้!" พี่ใหญ่เร่งแล้วหันไปรินน้ำใส่แก้วเตรียมไว้ให้น้อง
"ก็คนมันป่วยอะนะ เรี่ยวแรงก็ไม่ค่อยจะมี" ไจ่ไจ๋เปรยขึ้นลอยๆ เจอร์รี่ได้ยินก็ชะงักหันมาทางน้องชายตัวแสบทั้งสอง
"เมื่อกี้พี่เห็นนายฟัดกันอยู่บนเตียงยังจะมาบอกไม่มีแรงอีกหรอ? อย่าอ้อนกันนักเลย" เจอร์รี่ตอกกลับ
"ก็หมดแรงตั้งแต่เมื่อกี้แล้วงัย" แวนเนสเสริมขึ้น
"นั่นสิ งั้น....ไม่ต้องกินก็แล้วกันเนอะพี่รอง" พูดจบไจ่ไจ๋ก็วางชามโจ๊กลงที่โต๊ะข้างเตียงแล้วไถลตัวลงนอน แวนเนสพยักหน้าเห็นด้วยแล้วทำแบบเดียวกันกับน้องชาย
"ไอ้พวกนี้หนิ! จะปล่อยให้พี่ว่างซักหน่อยไม่ได้เลยหรืองัย?" ต่อว่าน้องชายทั้งคู่แต่ก็ยกชามโจ๊กใส่ถาด
"ป้อนไจ่ไจ๋ไปก่อน ชั้นขอหลับซักงีบ" แวนเนสเกี่ยงเพราะเริ่มรู้สึกเพลียๆขึ้นมาแล้ว
"ไม่ต้อง ป้อนพร้อมกันนั่นแหละ เสร็จแล้วจะได้กินยาแล้วนอนซะทีเดียว" พี่ใหญ่ว่าพร้อมกับยกถาดมาวางไว้บนตักตัวเอง
"ชักคิดถึงเสี้ยวเทียนขึ้นมาแล้วสิ" ประโยคนี้เจอร์รี่บ่นพึมพำกับตัวเองเพราะถ้าตอนนี้เคนอยู่ด้วยคงจะดีไม่น้อย
"บ่นอะไรครับ?" ไจ่ไจ๋ได้ยินไม่ถนัดรู้แต่ว่าพี่ชายบ่นจึงถามออกมา
"เปล่า! อะ....อ้าปาก!" ปฏิเสธเสร็จก็ป้อนโจ๊กให้น้องเล็ก เสร็จแล้วก็หันไปตักอีกชามมาป้อนแวนเนส
"กินทีละชามก็ได้นะพี่ใหญ่" ไจ่ไจ๋ว่า
"ไม่ได้! พี่รองมันไข้สูงกว่านาย ไม่รู้มีเชื้ออะไรอย่างอื่นอีกหรือเปล่า? เดี๋ยวนายจะพลอยติดมันกลับมาอีก" เจอร์รี่บอกเหตุผลน้อง
"พูดอย่างกับว่าชั้นเป็นตัวเชื้อโรค" แวนเนสว่าด้วยน้ำเสียงกระเง้ากระงอด พี่ใหญ่เลยยิ้มออกมาในที่สุด
"บอกให้ไปหาหมอก็ไม่ไป เดี๋ยวเป็นหนักกว่านี้ชั้นก็ซวยอีก!" ว่าพลางตักโจ๊กป้อนใส่ปากน้อง
"ไม่อยากทำก็ปล่อยชั้นไว้นี่แหละ! แฟนชั้นก็มียังงัยซะเขาก็ไม่ทิ้งชั้นหรอก!" แวนเนสจีบปากจีบคอพูด
"ฮึ! คิดหรอว่าแฟนนายเขาจะทนความทะเล้นทะโมนของนายได้เท่ากับชั้นน่ะหืม? ป่วยแล้วยังไม่เจียม!" ว่าประชดน้องชายเข้าให้
"โอ้ยพี่ใหญ่! คนเขาเป็นแฟนกันก็ต้องทนกันได้ทั้งนั้นแหละ จริงมั๊ยพี่รอง?" ไจ่ไจ๋รีบแก้ตัวแทนแวนเนส
"ถูกต้อง! เนี่ยแหละคนเขามีแฟนเหมือนกัน ไม่เหมือนบางคน......" แวนเนสยังพูดไม่ทันจบประโยคก็โดนพี่ชายตักโจ๊กยัดใส่ปากเสียก่อน
"กินเข้าไปเลย! พูดมากดีนัก! นี่ก็อีกคน!" ว่าพลางตักโจ๊กอีกชามยัดใส่ปากเจ้าน้องเล็กด้วย
"เฮ้ย! ห้ามคายออกมานะ!" พี่ใหญ่แหวใส่แวนเนสที่เอามือปิดปาก
"คายออกมาชั้นฟาดจริงๆด้วย! กลืนลงไป!" เจอร์รี่เงื้อนมือขึ้นขู่ แวนเนสทำหน้าพะอืดพะอมก่อนจะกลืนโจ๊กคำนั้นลงคออย่างลำบากยากเย็น เสร็จแล้วก็รีบหันไปคว้าแก้วน้ำมาดื่มตามลงไปจนหมดแก้ว
"เป็นอะไรหรอพี่รอง?" ไจ่ไจ๋ถามพี่ชาย
"มันมีเปลือกไข่อ่ะ" แวนเนสตอบ ไจ่ไจ๋ได้ยินก็หัวเราะพลอยทำเอาเจอร์รี่หัวเราะตามไปด้วย
"อ้าว! แล้วไม่บอก" แวนเนสค้อนใส่พี่ชายเสียหลายตลบ
"ก็ยัดเข้ามาเต็มปากจะบอกยังงัยหละ? เห็นๆอยู่ยังจะบังคับให้กลืนลงไปอีก!" ตวัดเสียงต่อว่าพี่ชาย
"โอ๋ๆๆๆ ขอโทษๆๆๆ ก็ชั้นรีบทำน่ะเลยไม่ทันดู ไม่นึกว่าเปลือกมันจะลงไปด้วย" พี่ใหญ่แก้ตัวกลายๆ
"ไม่กินแล้ว!" แวนเนสพูดอย่างงอนๆแล้วนอนลงทันที
"ไม่กินก็ไม่กิน" พี่ใหญ่ตามใจเพราะน้องก็กินเข้าไปได้ปริมาณมากพอสมควรแล้ว
"ผมก็ไม่เอาแล้วนะพี่ใหญ่" ไจ่ไจ๋ได้ทีผสมโรงด้วยเพราะไม่รู้สึกอยากอาหารเลย เจอร์รี่มองโจ๊กในชามของน้องเล็กแล้วพยักหน้ายอมด้วยเช่นกัน
"งั้นก็กินยากันซะ จะได้นอนพักกันซักที" พูดจบพี่ใหญ่ก็ยกถาดไปวางไว้บนโต๊ะข้างเตียงแล้วหยิบยามาส่งให้น้องๆ
"ชั้นว่านายก็น่าจะกินยาดักไว้ด้วยนะ เดี๋ยวจะติดไข้ไปอีกคน" แวนเนสรับยามาแล้วพูดกับพี่ชายอย่างเป็นการเป็นงาน เจอร์รี่ยิ้มรับความห่วงใยของน้อง
"ได้....นายก็นอนได้แล้ว....." เมื่อแวนเนสล้มตัวนอนเจอร์รี่ก็ดึงผ้าห่มมาห่มให้
"ราตรีสวัสดิ์ครับพี่รอง" ไจ่ไจ๋บอกพี่ชายเบาๆ
"อืม....ฝันดีนะไจ่ไจ๋......" แวนเนสตอบรับก่อนที่จะหลับตาลง
"ไป! นายก็ต้องกลับไปนอนเหมือนกัน ไอ้ตัวยุ่ง!" เมื่อตรวจดูความเรียบร้อยของแวนเนสเสร็จแล้วพี่ใหญ่ก็หันมาบอกเจ้าน้องเล็ก
"ไปที่ห้องก่อนเดี๋ยวพี่เอานี่ลงไปเก็บแล้วจะเข้าไปหา" ว่าพลางลูบหัวน้องแล้วพยักหน้าให้ ไจ่ไจ๋จึงกลับห้องไปแต่โดยดี ส่วนเจอร์รี่เมื่อเก็บของเสร็จแล้วก็ขึ้นมาหาน้องเล็กที่ห้อง
"คุยโทรศัพท์ทั้งปี" เจอร์รี่บ่นอุบอิบกับตัวเองเบาๆหลังจากที่เดินกลับมาเข้าหาน้องแล้วเห็นน้องกำลังคุยโทรศัพท์อยู่
"พี่ใหญ่มาแล้ว พี่กลางจะคุยด้วยมั๊ย?" เมื่อเห็นพี่ชายเดินเข้ามาไจ่ไจ๋ก็ถามคู่สนทนาทางโทรศัพท์
"พี่ใหญ่ครับ พี่กลางโทรมาแหนะ" ได้ยินดังนั้นเจอร์รี่จึงค่อยยิ้มออกเพราะตอนแรกนึกว่าน้องคุยโทรศัพท์กับแฟน
"งัยเสี้ยวเทียน?" เขาเอ่ยทักทายน้องชายคนกลาง
"เห็นไจ่ไจ๋บอกว่ามันเป็นไข้แล้วตอนนี้แวนเนสก็ติดไข้มันมาด้วยอีกคนหรอ?" ย้อนถามพี่ชายกลับมา
"อืม.....ชั้นเพิ่งให้แวนเนสกินยาแล้วนอนพักไปเมื่อกี้นี้เอง ดันมาป่วยพร้อมกันอีก" ประโยคหลังบ่นอุบเบาๆ
"นายเองก็ต้องกินยาดักไว้ด้วยนะ ขลุกอยู่กับพวกมันแบบนี้เดี๋ยวจะติดมาด้วยอีกคน" เคนเตือนพี่ชายด้วยความห่วงใย
"รู้แล้วน่า! ชั้นกินยาดักไปแล้ว ว่าแต่เราน่ะจะกลับบ้านเมื่อไหร่นะ?" หันมาถามน้องชายบ้าง
"วันมะรืนครับ" เคนตอบแล้วพูดหยอกพี่ชายต่อ
"คิดถึงชั้นหละสิ" พี่ใหญ่ยิ้มกับคำหยอกเย้านั้น
"อืม.....คิดถึงที่สุดเลย" เขาตอบแล้วก็ได้ยินเสียงน้องหัวเราะกลับมา
"เดี๋ยวชั้นต้องวางแล้วหละ พอดีนัดเพื่อนมาสังสรรที่ห้อง" เคนว่าพร้อมกับพูดตัดบท
"สังสรรทั้งปี! อย่าดื่มให้มันมากนักนะ" พูดกำชับน้องชายอย่างเคยชิน
"ทราบแล้วครับ" เคนตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงปนหัวเราะ
"ชั้นขอราตรีสวัสดิ์กับน้องหน่อยสิ" ได้ยินดังนั้นเจอร์รี่ก็ส่งโทรศัพท์กลับคืนมาให้น้องเล็ก
"พี่กลางเขาจะราตรีสวัสดิ์ด้วยน่ะ" เจอร์รี่บอก
"พี่กลางจะนอนแล้วหรอ?" ไจ่ไจ๋รับมาก่อนที่จะถามพี่ชายกลับไป
"พี่ยังไม่นอนแต่นายน่ะต้องนอนได้แล้ว ราตรีสวัสดิ์นะไอ้ตัวยุ่ง" เคนพูดกับไจ่ไจ๋
"ราตรีสวัสดิ์ครับ พรุ่งนี้โทรมาคุยอีกนะ" ไจ่ไจ๋ตอบรับคำพี่ชายพร้อมกับสั่งกำชับอีกครั้ง
"ได้สิ ไป....วางสายแล้วไปนอนได้แล้ว" เคนรับคำแล้วไล่น้องชายอีกครั้ง ไจ่ไจ๋จึงวางสายแล้ววางโทรศัพท์ไว้ข้างตัว
"ปิดเครื่องแล้วนอนพักได้แล้ว" เจอร์รี่ว่าพร้อมกับทำท่าจะหยิบโทรศัพท์น้องมาแต่ไจ่ไจ๋กลับคว้าไว้ก่อน
"ปิดทำไมหละพี่ใหญ่ เผื่อใครโทรมา" ไจ่ไจ๋แย้งแล้วเอาโทรศัพท์หลบพี่ชาย
"ใครโทรมาก็ช่าง! เราน่ะไม่สบายควรนอนพักผ่อนให้มากๆไม่ใช่เอาแต่โทรศัพท์!" พี่ใหญ่เลยเอ็ดเข้าให้และได้โอกาสสั่งสอนน้องชายต่อ
"นายจะมีฟงมีแฟนอะไรพี่ไม่ว่านะ แต่ทุกอย่างควรจะให้อยู่ในขอบเขตที่พอดี อย่างเรื่องคุยโทรศัพท์น่ะก็ไม่ใช่ตะบี้ตะบันโทรหากันทั้งวันทั้งคืนแบบนี้" น้องเล็กได้ยินก็เบ้ปากแต่ไม่ได้เถียงอะไรออกมา
"รู้หรือเปล่าว่าค่าโทรศัพท์เดือนที่แล้วของนายน่ะเกือบพันเชียวนะ เพิ่มขึ้นมาหลายเท่าตัวเลย" พี่ใหญ่พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
"ทุกวันก็เจอหน้ากันที่มหาลัยอยู่แล้ว กลับบ้านมายังจะมีเรื่องคุยอะไรอีกนักหนา? ถ้าขืนนายยังไม่ปรับพฤติกรรมนี้อีกแล้วหละก็เห็นทีพี่จะต้องมีมาตรการลงโทษบ้างหละนะ" น้องเล็กได้ยินก็ทำหน้างอเพราะคิดว่าพี่ชายไม่ชอบใจที่เขามีแฟน
"ผมก็ไม่ได้คุยอะไรไร้สาระซักหน่อย บางทีเราก็ติวหนังสือกัน บางทีหลิงหลิงก็โทรมาให้ผมช่วยสอนการบ้าน แบบนี้มันไม่มีประโยชน์หรืองัย?" ไจ่ไจ๋เถียงพี่ชาย
"ถ้านายคุยเพราะเรื่องเรียนจริงพี่ไม่เคยว่าเลยนะ แต่บางครั้งที่พี่เข้ามาเห็นนายน่ะหลับคาโทรศัพท์ทั้งๆที่ยังไม่วางสายอีกต่างหาก แบบนี้มันติวหนังสือกันยังงัย?" ไจ่ไจ๋ได้ยินก็เงียบกริบเถียงอะไรไม่ออก
"ฟังให้ดีนะ ต่อจากนี้ไปนายต้องจำกัดค่าโทรศัพท์ของตัวเองไม่ให้มากเกินกว่าเดือนที่แล้ว หากว่าเกินส่วนที่เหลือนายต้องรับผิดชอบเอง" พี่ใหญ่พูดกับน้องด้วยน้ำเสียงจริงจัง
"ต่อไปนี้ผมรับผิดชอบค่าโทรศัพท์ของผมทั้งหมดเองก็ได้" ไจ่ไจ๋พูดกับพี่ชายหน้าตึง
"ไจ่ไจ๋ พี่ไม่ได้รู้สึกเสียดายเงินที่ต้องจ่ายค่าโทรศัพท์ให้นายเลยนะ ต่อให้ค่าโทรศัพท์ของนายจะเดือนละเป็นหมื่นเป็นแสนพี่ก็จ่ายให้ได้ถ้าหากว่านายใช้มันในทางที่เป็นประโยชน์ แต่ที่พี่ต้องจำกัดค่าโทรศัพท์ของนายก็เพราะพี่ต้องการฝึกให้นายรู้จักความพอดีรู้จักจัดวินัยในตัวเอง แต่ถ้านายแปลความหมายความหวังดีของพี่ไปในทางอื่นแล้วหละก็ พี่เองก็คงไม่มีอะไรจะพูดอีก" พูดจบพี่ใหญ่ก็ลุกขึ้นยืน
"นอนได้แล้ว พี่เองก็จะไปนอนเหมือนกัน" พูดทิ้งท้ายไว้แล้วเดินออกไปเสียเฉยๆโดยไม่ได้ห่มผ้าให้หรือพูดราตรีสวัสดิ์กับน้องแต่อย่างใด ปล่อยให้ไจ่ไจ๋ได้แต่สะอึกกับคำพูดและท่าทางของพี่ชาย
- ตอนเช้า -
"ไปไหนของมันนะ" เจอร์รี่พึมพำกับตัวเองเมื่อเดินเข้ามาดูน้องเล็กที่ห้องแต่ก็ไม่พบตัวน้อง เขาเดินหาน้องทั่วบ้านแล้วแต่ก็ไม่เจอ ดังนั้นจึงหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาน้อง
"ไจ่ไจ๋ นายอยู่ไหน?" เมื่อน้องรับสายเจอร์รี่ก็ถามออกไปทันที
"อยู่มหาลัย" น้องชายตอบกลับมาเสียงเนือยๆ
"นายไปมหาลัยทำไม? นายยังไม่หายดีเลยนะ" เจอร์รี่เอ็ดเข้าให้
"ไม่เป็นไรหรอก ผมหายแล้ว ผมจะเข้าเรียนแล้วแค่นี้นะครับ" พูดจบสายโทรศัพท์ก็ถูกตัดไป เจอร์รี่ถอนหายใจดังเฮือกรู้ดีว่าน้องคงไม่พอใจเรื่องที่เขาพูดเมื่อคืนนี้
"เหนื่อยใจจริงๆ" บ่นกับตัวเองแล้วเดินเลยไปที่ห้องนอนของแวนเนส เจอร์รี่เดินไปที่เตียงโดยที่แวนเนสยังนอนหลับไม่รู้เรื่อง เขาจึงเอื้อมมือไปแตะที่หน้าผากน้องอย่างแผ่วเบา
"ไข้ยังไม่ลดเลย" พูดกับตัวเองอย่างกังวล
"แวนเนส.....แวนเนสครับ.....ตื่นมากินข้าวกินยาก่อนเร็ว......" ตบแก้มน้องเบาๆพร้อมกับร้องเรียก แวนเนสปรือตาขึ้นมามองพี่ชายแล้วครางเบาๆในลำคอ
"กี่โมงแล้วเจอร์รี่?" เอ่ยถามพี่ชายเสียงแหบแห้ง
"จะแปดโมงแล้ว" เจอร์รี่ตอบแล้วช่วยพยุงน้องให้ลุกขึ้นนั่ง
"ชั้นต้องไปถ่ายแบบตอนเก้าโมง เดี๋ยวเสี่ยวจือคงมาแล้ว" บอกพี่ชายด้วยสีหน้ายังงัวเงียไม่หาย
"จะไปได้ยังงัยกัน? นายยังเป็นไข้อยู่เลยนะ" พี่ใหญ่ท้วงติง
"ไม่เป็นไรหรอก ได้นอนพักทั้งคืนก็รู้สึกดีขึ้นแล้ว" แวนเนสตอบเพื่อให้พี่ชายสบายใจทั้งๆที่เขาเองก็ยังรู้สึกมึนๆอยู่และที่สำคัญเขาเองก็ไม่อยากเสียงานด้วย
"ไม่ได้ ชั้นไม่ให้ไป" พี่ใหญ่ปฏิเสธแล้วพูดต่อ
"ชั้นจะโทรหาเสี่ยวจือแล้วพูดกับเขาเอง" แวนเนสดึงแขนพี่ชายไว้ก่อน
"ให้ชั้นไปเถอะนะ ชั้นไม่เป็นไรหรอก นายบอกเองไม่ใช่หรอว่าชั้นเข้ามาอยู่ในวงการนี้แล้วก็ต้องมีความเป็นมืออาชีพ แล้วนี่นายจะให้ชั้นขาดงานทั้งๆที่ยังสามารถทำได้เชียวหรอ?" แวนเนสเอาคำพูดของพี่ชายมาอ้าง
"ยังจะมาย้อนชั้นอีกหรอ? สภาพแบบนี้นายจะไปถ่ายแบบได้ยังงัย? ยืนขึ้นมาทีก็แทบจะไม่มีแรงอยู่แล้ว" เจอร์รี่ดุน้องเพราะไม่อยากให้น้องไปทำงานด้วยเป็นห่วงน้องชาย
"แต่ว่าชั้นจำเป็นต้องไปนะ งานทุกอย่างก็รับปากเขาไว้หมดแล้ว นายวางใจได้ถ้าหากชั้นไม่ไหวแล้วชั้นจะบอกเสี่ยวจือทันทีเลย" แวนเนสว่าพลางขยับตัวลุกขึ้นจากเตียงแล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำ เจอร์รี่ถอนหายใจกับความดื้อรั้นของน้องชายแต่ละคน ผ่านไปซักพักแวนเนสก็เดินกลับออกมา
"จะดื้อไปให้ได้เลยใช่มั๊ย?" พี่ใหญ่ลุกขึ้นแล้วสาวเท้าเข้าไปหาน้องชายที่กำลังหวีผมอยู่หน้ากระจก
"ยังงัยก็ต้องไป" แวนเนสตอบแล้วหวีผมต่อ
"เฮ่อ!" เจอร์รี่ถอนหายใจ แวนเนสมองสีหน้าของพี่ชายจากในกระจกก็รู้ว่าพี่ชายเป็นห่วงเขาจึงวางหวีลงแล้วหันไปกอดเอวพี่ชายอย่างรู้งาน
"ไม่ต้องมาอ้อนเลย พี่ไม่อยากพูดกับเด็กดื้อ" พี่ใหญ่แกะมือน้องชายออก
"ชั้นเปล่าดื้อนะ แต่มันจำเป็นจริงๆนี่นา ถ้าไม่ติดงานชั้นก็ไม่ไปไหนหรอก" แวนเนสทำเสียงอ่อยๆ
"เสร็จงานแล้วจะรีบกลับทันทีเลย จะไม่เถลไถลจะไม่แวะที่ไหนเลยด้วย" พูดต่อแล้วเดินไปกอดพี่ชายอีก
"เฮ่อ! เอางั้นก็ได้ แต่ถ้าอยากจะให้ชั้นวางใจนายต้องให้ชั้นไปกับนายด้วยนะ" พี่ใหญ่ยอมน้องในที่สุดแต่ไม่วายมีข้อต่อรองด้วย
"จะไปด้วยหรอ? แล้วนายไม่ทำงานหรืองัย?" เงยหน้าขึ้นถามพี่ชาย
"ไม่ไป วันนี้ไม่มีแก่ใจทำอะไรแล้ว เจอแต่น้องดื้อทั้งสองคนเลย" ได้ยินดังนั้นแวนเนสก็ผละตัวออกมาเล็กน้อย
"ไจ่ไจ๋ก็ไปเรียนหรอ?" ถามต่ออย่างพอจะรู้
"รายนั้นมันไปเรียนเพราะประชดชั้นน่ะสิ" เจอร์รี่ตอบพลางทำหน้าเบื่อๆ
"ทำไมหรอ? นายไปขัดใจอะไรมันหละสิ" แวนเนสพูดดักอย่างพอจะรู้แล้วเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าเพื่อแต่งตัว
"ก็ชั้นคุยกับน้องตามที่นายแนะนำนั่นแหละ" ได้ยินดังนั้นแวนเนสก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย
"คุยตามที่ชั้นแนะนำหรอ?" แวนเนสทวนคำพูดของพี่ชาย
"เรื่องค่าโทรศัพท์ของมันงัยหละ แต่แทนที่มันจะฟังดันไม่เข้าใจแล้วประชดว่าต่อไปมันจะรับผิดชอบค่าโทรศัพท์ของมันเองทั้งหมด จริงๆเลยเด็กคนนี้" พี่ใหญ่เล่าให้น้องฟังแล้วไม่วายบ่นอุบออกมาอีก
"เอาน่า! ไว้ชั้นจะช่วยพูดให้อีกแรงก็แล้วกัน จะไปด้วยกันนายก็ไปเปลี่ยนชุดสิ ไม่งั้นเดี๋ยวคนอื่นจะนึกว่านายเป็นเด็กรับใช้ของชั้นนะ" แวนเนสพูดแหย่แล้วมองพี่ชายตั้งแต่หัวจรดเท้า เจอร์รี่ได้ยินเอื้อมมือไปดึงหูน้องอย่างหมั่นไส้
"ชั้นน่ะเป็นยิ่งกว่าคนใช้ของนายอีก!" กัดฟันต่อว่าเจ้าน้องชายตัวดี
"เสร็จแล้วก็ลงไปรอข้างล่าง เดี๋ยวกินข้าวแล้วกินยาก่อนไปด้วย" สั่งกำชับก่อนที่จะเดินเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องตัวเอง แวนเนสอมยิ้มพลางมองตามพี่ชายแต่หลังจากพี่ชายออกไปแล้วเขาก็นิ่วหน้า
"โอ้ย.....ทำไมปวดหัวแบบนี้วะ....." บ่นกับตัวเองพร้อมกับเอามือนวดที่ขมับตัวเองเบาๆ แล้วก็ฝืนตัวเองจัดข้าวของเพื่อเตรียมตัวไปทำงาน เมื่อลงมาถึงเขาก็พบว่าพี่ชายนั่งรออยู่ก่อนแล้วโดยมีเสี่ยวจือที่เพิ่งมาถึงนั่งคุยด้วยอยู่
"แวนเนส เห็นเจอร์รี่บอกว่าเธอไม่สบาย ไหวหรือเปล่า?" เสี่ยวจือเห็นแวนเนสลงมาก็เอ่ยถามอย่างเป็นห่วง
"ไหวครับ ผมไม่เป็นไรเท่าไหร่" แวนเนสตอบพร้อมกับส่งยิ้มให้บางๆ
"เอาเถอะมีพี่ชายไปดูแลอย่างใกล้ชิดแบบนี้คงหายห่วงได้หน่อยหละนะ" เสี่ยวจือพูดยิ้มๆแต่ก็สังเกตเห็นว่าสีหน้าของแวนเนสดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่
"เสี่ยวจือครับ ไปกินข้าวกัน แวนเนส ไปกินข้าว" เจอร์รี่พูดตัดบทโดยการชวนผู้จัดการของน้องและสั่งให้น้องไปกินข้าว
"แวนเนส กินให้หมด" พี่ใหญ่เอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่าน้องกินไปแค่นิดเดียวก็รวบช้อนส้อมแล้ว
"ชั้นไม่ค่อยหิว กินไม่ลง" แวนเนสพูดเสียงอ่อยๆ แต่เมื่อเห็นสายบังคับของพี่ชายแล้วเขาก็จำใจตักข้าวกินต่อ
"ชั้นจะไปเอายามาให้" เจอร์รี่ว่าแล้วลุกขึ้นไปหยิบยา เมื่อพี่ชายออกไปแวนเนสก็รีบวิ่งไปที่ซิงค์ล้างจานแล้วอาเจียนออกมาทันที
"แวนเนส" เสี่ยวจือลุกตามไปดูอย่างตกใจ
"เสี่ยวจือคุณอย่าบอกเจอร์รี่นะ" แวนเนสเอาน้ำลูบหน้าพร้อมกับหันมาบอกผู้จัดการ
"ดูท่าเธอคงไม่ไหวแล้วหละมั้ง?" เสี่ยวจือเองก็ดูจะมีสีหน้ากังวล
"ไหวครับ เพียงแต่ผมกินไม่ค่อยลงเท่านั้นเอง" แวนเนสว่าแล้วเดินไปหยิบจานข้าวตัวเองมาเททิ้ง
"อย่าบอกด้วยนะว่าผมเทข้าวที่เหลือทิ้งน่ะ" ย้ำคำกับเสี่ยวจืออีกครั้ง ในขณะนั้นเจอร์รี่ก็เดินกลับเข้ามาพอดี
"กินข้าวหมดแล้วหรอ?" ถามพร้อมกับมองน้องชายอย่างจับผิด
"หมดแล้วครับ" แวนเนสก้มหน้าตอบแบบไม่เต็มเสียงนัก
"หมดแล้วหละ" เสี่ยวจือหันไปพยักหน้าให้เจอร์รี่เพื่อช่วยยืนยันอีกแรง
"งั้นก็มากินยา" แวนเนสเดินไปหยิบยาจากมือพี่ชายขึ้นมากิน จากนั้นทั้งสามคนก็พากันไปที่รถ
"เธอไปนั่งกับแวนเนสเถอะ" เสี่ยวจือบอกให้เจอร์รี่ไปนั่งข้างหลังกับแวนเนสเพื่อจะได้ดูแลน้อง เจอร์รี่พยักหน้าแล้วก้าวตามไปนั่งกับน้องชาย
"มานี่มา....." เมื่อขึ้นมานั่งได้เจอร์รี่ก็รั้งตัวน้องมาใกล้ๆ แวนเนสรู้สึกเพลียๆจึงซบหัวลงที่ไหล่พี่ชายแล้วหลับตาลง
"นายตัวร้อนกว่าเมื่อเช้าอีกนะ" พี่ใหญ่ว่าพลางเอามือแตะลงที่แก้มน้องชาย
"ไหวหรือเปล่าเนี่ย? หืม?" ก้มหน้าลงถามน้องอย่างเป็นห่วง
"ไหวสิ ไม่เป็นอะไรหรอก ก็นายให้ชั้นกินยามันก็ง่วงน่ะสิ" แวนเนสปฏิเสธแล้วโยนความผิดให้พี่ชายหน้าตาเฉย
"เดี๋ยวเถอะ! ก็เราไม่สบายแบบนี้ไม่กินยาได้หรอ? พูดจาน่าตีจริงๆ" เอ็ดน้องชายเสียงดุๆ
"อื้ม! พูดเล่นเอง ขอชั้นงีบหน่อยนะ" แวนเนสหอมแก้มพี่ชายเบาๆแล้วซบหน้าลงที่ไหล่พี่ชายตามเดิม เจอร์รี่เหลือบมองอาการของน้องอย่างเป็นห่วงแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา
"เดี๋ยวชั้นจะแจ้งให้ทีมงานรู้ว่าแวนเนสไม่สบายอยู่ อาจจะขอให้เขาแบ่งถ่ายเป็นสองวัน จะได้รีบกลับมาพักผ่อน" เสี่ยวจือพูดกับเจอร์รี่แบบเป็นการเป็นงาน
"ถ้าได้แบบนั้นก็ดี ผมจะได้พาน้องไปหาหมอด้วย" เจอร์รี่เห็นด้วยกับความคิดของเสี่ยวจือ แล้วทั้งคู่ก็นั่งเงียบๆเพราะไม่ต้องการรบกวนแวนเนสที่งีบหลับอยู่
"แวนเนส ถึงแล้ว....." พี่ใหญ่เรียกพร้อมกับตบแก้มน้องเบาๆ แวนเนสลืมตาขึ้นมารู้สึกหนักอึ้งไปทั้งตัวหัวหมุนติ้วไปหมด
"ไป เข้าไปข้างในกันดีกว่า" เสี่ยวจือพยักหน้าให้สองพี่น้อง เมื่อเข้ามาแล้วแวนเนสก็แยกไปแต่งตัวแต่งหน้าส่วนเจอร์รี่ก็นั่งรออยู่ด้านนอกแต่ก็อดที่จะมองเข้าไปอยู่บ่อยๆไม่ได้เพราะเป็นห่วงน้อง
"ตามมาคุมน้องชายหรอคะ?" เสียงทักทายนั้นทำให้เจอร์รี่ละสายตาจากน้องชายเงยหน้าขึ้นมามอง
"ชั้นเป็นเจ้าของนิตยสารที่ติดต่อขอแวนเนสมาถ่ายแบบค่ะ" เธอแนะนำตัว
"อ้อ! ครับ สวัสดีครับ" เจอร์รี่รีบลุกขึ้นพร้อมกับก้มหัวให้อย่างสุภาพ
"เห็นคุณเสี่ยวจือบอกว่าคุณเป็นพี่ชายของแวนเนสเขาน่ะค่ะ" พูดกับเจอร์รี่พร้อมกับรอยยิ้มอย่างเป็นมิตร
"ครับ ผมเป็นพี่ชายเขา พอดีวันนี้เขาไม่ค่อยสบาย ผมเลยเป็นห่วงก็เลยมาด้วยเพื่อความแน่ใจครับ" เจอร์รี่บอกกับเธอพร้อมกับยิ้มให้เช่นกัน
"เสี่ยวจือบอกแล้วหละค่ะ ชั้นนับถือความเป็นมืออาชีพของแวนเนสมากเลยค่ะ ขนาดไม่สบายยังไม่ยกเลิกงาน ปกติถ้าเป็นดาราดังๆส่วนใหญ่ถ้าป่วยขึ้นมาแบบนี้ก็เบี้ยวเราซะเฉยๆ" เจอร์รี่ยิ้มรับกับคำพูดนั้น
"ความจริงผมเองก็ไม่อยากให้น้องมา แต่แวนเนสเขาไม่ยอมเขาบอกว่ารับปากไว้เป็นมั่นเป็นเหมาะแล้วยังงัยก็ต้องมา ผมเลยไม่อยากขัดใจเขาน่ะครับ" เจอร์รี่บอกกล่าวให้คู่สนทนาฟังเช่นกัน ก่อนที่จะทันได้พูดอะไรกันต่อแวนเนสก็แต่งตัวเสร็จพอดีเขาเดินออกมาหาพี่ชายพร้อมกับอวดชุดที่ใส่อยู่
"เป็นงัยบ้าง? ชั้นเท่ห์มั๊ย?" เอ่ยถามด้วยสีหน้ายิ้มแย้มทั้งที่ข้างในรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่นักแต่เพราะไม่อยากให้พี่ชายเป็นห่วงเขาเลยแกล้งทำตัวร่าเริงเพื่อให้พี่ชายวางใจ
"ไหนดูซิ.....อืม.....เท่ห์มากเลย!" เจอร์รี่หันกลับมาสนใจน้องชายทันที เขามองน้องชายตั้งแต่หัวจรดเท้าพร้อมกับรอยยิ้มอย่างพอใจ
"หล่อมากค่ะแวนเนส" แวนเนสหันไปทางต้นเสียงแล้วก้มหัวรับ
"ขอบคุณครับ" เขาเอ่ยขอบคุณ
"งั้นเราเริ่มงานกันเลยดีกว่า" เธอพูดตัดบทแล้วนำทางแวนเนสไปถ่ายภาพ ตลอดเวลาที่ทำงานนั้นแวนเนสก็ทำตัวร่าเริงและคุยเล่นกับทีมงานเป็นอย่างดี ทำให้บรรยากาศในการทำงานนั้นค่อนข้างสนุกสนาน จนเมื่อถึงเวลาพักแวนเนสก็เดินมาหาพี่ชายอีก
"งัย? ไหวหรือเปล่า?" พี่ใหญ่รีบจับให้น้องมานั่งลงเมื่อเห็นสีหน้าน้องชายดูซีดๆ
"ชั้นหิวน้ำจัง" แวนเนสพูดกับพี่ชาย
"ชั้นเอาให้นะ" พูดจบก็รีบไปหาน้ำมาให้น้องชายดื่ม
"แวนเนส ไหวหรือเปล่า? ชั้นว่าสีหน้านายดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่เลยนะ ตัวก็ร้อนมากด้วย" เจอร์รี่เอามือแตะตามเนื้อตามตัวน้องชายพร้อมกับพูดอย่างเป็นห่วง
"เหลืออีกไม่กี่เซ็ตก็เสร็จแล้วหละ ชั้นไหวน่า" แวนเนสยืนกรานคำเดิม พี่ใหญ่เลยได้แต่ถอนใจ ในเวลานั้นเสี่ยวจือก็เอาข้าวมาให้สองพี่น้องกินพอดี
"กินข้าวกันก่อน แวนเนส เธออยากกินอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า? อาหารพวกนี้มันย่อยยากไปมั๊ย?" เสี่ยวจือเองก็เป็นห่วงแวนเนสเช่นกัน
"ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมกินได้" แวนเนสว่าแล้วรับข้าวกล่องมาจากเสี่ยวจือ
"เธอก็กินกับน้องสิ" เสี่ยวจือยื่นข้าวอีกกล่องหนึ่งให้เจอร์รี่ แต่เจอร์รี่ตั้งท่าจะปฏิเสธ
"ถ้านายออกไปหาอะไรกินข้างนอกอีกชั้นก็จะไม่กินข้าวเลย" แวนเนสพูดขู่พี่ชายขึ้นมาเพราะรู้ว่าพี่ชายเกรงใจ
"ขอบคุณครับ" เจอร์รี่จึงต้องเปลี่ยนคำพูดใหม่ แล้วแกะข้าวกล่องกินกับน้องชาย
"อะ....กินเยอะๆจะได้มีแรง....." พี่ใหญ่ตักข้าวในส่วนของตัวเองแบ่งให้น้อง
"หูยยย....ไม่เอาอ่ะ นายเอาคืนไปเลย ชั้นกินไม่ค่อยลง" แวนเนสโอดครวญพร้อมกับจะตักคืนให้พี่ชายแต่เจอร์รี่ส่ายหน้าแล้วใช้สายตาบังคับให้น้องกิน แวนเนสถอนหายใจเบาๆก่อนที่จะตักข้าวใส่ปากอย่างจำใจ
"มัวแต่นั่งละเลียดอยู่นั่นแหละ วันนี้จะหมดมั๊ย?" หลังจากเจอร์รี่กินข้าวหมดไปนานแล้วเขาก็หันมาต่อว่าน้องชายที่นั่งเขี่ยข้าวเล่นอยู่
"ชั้นกินไม่ลง ขอร้องหละ.....อย่าบังคับชั้นเลย....." แวนเนสพูดเสียงอ่อยๆ
"ฝืนกินหน่อยสิ ไม่งั้นจะเอาแรงที่ไหนมาทำงานต่อ?" พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนลง รู้ดีว่าน้องกำลังป่วยเลยไม่ค่อยอยากอาหารเท่าไรนักแต่ครั้นจะตามใจน้องก็ไม่ได้อีก
"ชั้นกินไปบ้างแล้ว" แวนเนสเงยหน้าขึ้นมาแย้งพี่ชาย
"ยังไม่เห็นจะพร่องลงไปเลยซักนิด ในเมื่อไม่ยอมตักกินเองดีๆก็มานี่เลย" พี่ใหญ่ดึงกล่องข้าวออกมาจากมือน้องชาย
"อ้าปาก!" ตักข้าวขึ้นมาจ่อที่ปากน้องชายแล้วพูดด้วยน้ำเสียงบังคับ
"ไม่เอา ชั้นกินไม่ลง" แวนเนสเบือนหน้าหนีเพราะได้กลิ่นอาหารแล้วรู้สึกไม่ค่อยดี เจอร์รี่จับหน้าน้องให้หันกลับมา
"จะอ้าปากแล้วกินข้าวดีๆหรือจะต้องให้ชั้นบีบปากแล้วเอาข้าวยัดเข้าไป?" ขู่น้องด้วยน้ำเสียงดุดัน แวนเนสทำหน้าเหมือนจะร้องไห้แต่ก็ต้องยอมอ้าปากกินข้าวแต่โดยดีเพราะรู้ดีว่าหากต้องให้พี่ชายบังคับแล้วเขาจะต้องเจอกับอะไรบ้าง
"เคี้ยวให้ละเอียดแล้วกลืนลงไป!" พูดต่อด้วยน้ำเสียงดุๆ แวนเนสทำหน้าพะอืดพะอมแต่ก็ฝืนกลืนลงคอ
"ขอกินน้ำ" แวนเนสบอกพี่ชายแต่เจอร์รี่กลับส่ายหน้า
"กินข้าวให้หมดก่อนแล้วค่อยกินน้ำ มัวแต่กินข้าวคำน้ำคำได้ยังงัยกัน?" ว่าแล้วก็ตักข้าวป้อนน้องอีก แวนเนสฝืนใจกินด้วยความทรมานรู้สึกร่างกายปั่นป่วนไปหมด
"พอก่อนได้มั๊ย?" แวนเนสผลักมือพี่ชายที่จะป้อนข้าวออกเบาๆหลังจากกินไปได้เพียงสองสามคำ
"ไม่ได้! อ้าปากเดี๋ยวนี้!" พี่ใหญ่ทำเสียงดุ แวนเนสก้มหน้าหนีเพราะรู้สึกอยากจะอาเจียน
"อยากโดนบีบปากใช่มั๊ย?" เสียงเข้มขึ้นตามลำดับแล้วเมื่อเห็นน้องยังเฉยเจอร์รี่ก็ใช้มือบีบปากน้องแล้วตักข้าวยัดเข้าปาก เล่นเอาแวนเนสถึงกับน้ำตาร่วง
"กินข้าวแค่นี้มันจะตายหรืองัย? หา!!!" เอ็ดน้องออกมาอีกเพราะไม่คิดว่าน้องจะมีอาการพะอืดพะอมร่วมด้วย แวนเนสกลืนข้าวคำนั้นลงคอทั้งน้ำตา เขารู้สึกทรมานเป็นอย่างมากเพราะตอนนี้ข้าวที่กลืนกินลงไปนั้นมันมาจุกอยู่ที่คอทำให้อยากจะอาเจียนออกมาเต็มที จนเมื่อกินไปได้อีกเพียงคำเดียวแวนเนสก็ลุกพรวดแล้ววิ่งเข้าห้องน้ำไปอย่างรวดเร็ว
"แวนเนส!" เจอร์รี่อุทานแล้วมองตามน้องอย่างงงๆ
"เป็นอะไรหรอ?" เสี่ยวจือที่เห็นแวนเนสวิ่งไปเดินเข้ามาถามเจอร์รี่
"ไม่รู้สิครับ กินข้าวอยู่ดีๆก็วิ่งไปห้องน้ำ" เสี่ยวจือได้ยินดังนั้นก็เริ่มกังวลใจเช่นกัน
"คงไปอาเจียนหละมั้ง? เมื่อเช้ากินข้าวเข้าไปก็อาเจียนออกมาหมด" เสี่ยวจือพูดออกมาอย่างลืมตัว จนเมื่อเห็นเจอร์รี่จ้องหน้าอยู่ก็ได้แต่ทำหน้าเจื่อนๆ
"ขอโทษทีที่ไม่ได้บอก แวนเนสเขาไม่อยากให้เธอเป็นห่วงน่ะ" เอ่ยขอโทษเจอร์รี่ที่ช่วยแวนเนสปิดบัง
"ผมกะแล้วเชียวเมื่อเช้าแวนเนสเขาดูท่าทางแปลกๆ เจ้านี่ไม่เคยโกหกผมได้เลยซักครั้ง" พูดจบเจอร์รี่ก็รีบเดินตามไปดูน้องชาย เมื่อแวนเนสออกมาจากห้องน้ำเห็นพี่ชายกับเสี่ยวจือยืนอยู่หน้าห้องน้ำก็มีสีหน้าตกใจเล็กน้อย
"เป็นอะไร?" เจอร์รี่เอ่ยถาม
"เปล่า ชั้นแค่มาฉี่เฉยๆ" แวนเนสปฏิเสแต่หลบตาพี่ชาย
"อย่ามาโกหกชั้น เสี่ยวจือบอกชั้นแล้วว่าเมื่อเช้านายกินข้าวแล้วก็อาเจียนออกมาหมด" แวนเนสได้ยินดังนั้นก็เปลี่ยนสายตาไปทางผู้จัดการส่วนตัว
"เจอร์รี่เป็นห่วงเธอมากนะ ชั้นเองก็เหมือนกัน ตอนนี้ดูท่าทางเธอไม่ดีเอามากๆเลยนะ" เสี่ยวจือพูดด้วยสีหน้าเป็นกังวล
"ผมไม่เป็นไร" แวนเนสยังคงยืนกรานคำเดิม
"ทำไมนายถึงดื้อแบบนี้! เห็นๆอยู่ว่านายน่ะไม่สบายมากยังจะบอกว่าไม่เป็นไรอีก! พอได้แล้ว! ชั้นไม่ยอมให้นายทำงานต่ออีกนายต้องไปหาหมอ!" พี่ใหญ่ยื่นคำขาดแล้วดึงแขนน้องเดินออกมาเพื่อที่จะบอกทีมงาน
"เจอร์รี่! นายอย่าทำแบบนี้ได้มั๊ย? ตัวชั้นเป็นยังงัยชั้นรู้ดีอยู่หรอก นายอย่ามาทำเป็นรู้ดีกว่าชั้นหน่อยเลย ปล่อย! ชั้นจะทำงานต่อ!" พูดจบแวนเนสก็สะบัดตัวจนหลุดจากพี่ชายแล้วเดินไปบอกทีมงานว่าเขาพร้อมจะทำงานต่อแล้ว ทำให้เจอร์รี่ได้แต่มองตามอย่างโมโห
"เธอใจเย็นๆก่อนนะ ชั้นจะบอกทีมงานให้เอง" เสี่ยวจือหันมาพูดปลอบเจอร์รี่
"ไม่ต้องบอกแล้วหละครับ ปล่อยมันเลย อยากทำงานก็ให้มันทำไป ผมจะไม่ห้ามมันอีกแล้ว บอกมันด้วยว่าผมกลับก่อน" พูดจบเจอร์รี่ก็เดินไปหยิบข้าวของของตัวเอง
"เจอร์รี่ ไม่เอาน่า....อย่าเพิ่งโมโหเลยนะ แวนเนสอาจจะไม่ได้เป็นอะไรมากจริงๆก็ได้ ไม่งั้นมันจะฝืนตัวเอง......" เสี่ยวจือยังพูดไม่ทันจบก็ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายขึ้นมาก่อนทั้งเสี่ยวจือและเจอร์รี่หันไปทางต้นเสียงพร้อมกัน
"ตายแล้ว! แวนเนส!!" สิ้นเสียงนั้นเจอร์รี่ก็รีบวิ่งเข้าไปหาน้องชายทันทีแล้วเขาก็เห็นน้องเป็นลมล้มพับอยู่บนฉากที่ใช้ถ่ายภาพ
"ใครก็ได้เรียกรถพยาบาลให้ผมที!!" ร้องตะโกนบอกพร้อมกับช้อนร่างน้องชายขึ้นมาไว้ในอ้อมแขน
Create Date : 25 พฤษภาคม 2550
Last Update : 25 พฤษภาคม 2550 13:24:23 น.
0 comments
Counter : 1226 Pageviews.
Share
Tweet
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
loving_zai
Location :
[Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [
?
]
Webmaster - BlogGang
[Add loving_zai's blog to your web]
Bloggang.com