|
คนรู้ไม่คิด คนคิดไม่รู้
ชื่อบล็อควันนี้ มาจากสโลแกนใต้รูปทางขวาของผมเองครับ
ตอนใส่ประโยคสั้นๆสองอันนี้ ไม่มีเจตนาจะทำให้ใครงงหรอกครับ เพียงแต่ผมอยากเขียนไว้เตือนตัวเอง ไม่ให้หลงทางในการปฏิบัติ
แต่เมื่อใน 2 บล็อคก่อนหน้านี้ คุณ printcess of the moon ออกปากว่าไม่เข้าใจ ผมเลยสัญญาไว้ว่าจะขึ้นบล็อคใหม่ตอบให้คลายสงสัย
ว่าแต่... จะเริ่มอธิบายยังไงดีล่ะนี่
เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน.. ถ้ามันวิชาการไปนิดโปรดคิดอภัย อย่าไปโทษแก๊สโซฮอลล์เลยน๊า
พระพุทธเจ้าท่านแบ่งระดับของปัญญา หรือความรู้ ไว้เป็น 3 ระดับครับ เรียงตามระดับรู้น้อยไปหารู้มาก เป็นภาษาแขกว่า
1. สุตตมยปัญญา (อ่านว่า สุด-ตะ-มะยะปัญญา) 2. จินตมยปัญญา (อ่านว่า จิน-ตะ-มะยะปัญญา) และระดับสูงสุดคือ 3. ภาวนามยปัญญา (อ่านว่า พาว-วะ-นา-มะยะปัญญา)
แปลเป็นภาษาไทยสมัยรัตนโกสินทร์ศกปัจจุบัน ว่า 1. ความรู้ที่ได้จากการฟัง (หรืออ่าน) พูดง่ายๆคือ จำเขามา 2. ความรู้ที่ได้จากการคิด นึก วิเคราะห์ พิจารณา และ 3. ความรู้ที่ได้จากการภาวนา
ที่พระพุทธเจ้าทรงสรรเสริญความรู้ที่ได้จากการภาวนา ก็เพราะท่านค้นพบว่า มันเป็นความรู้ หรือปัญญาชนิดเดียว ที่จะนำพาสิ่งมีชีวิตไปสู่การหลุดพ้นได้ ที่ท่านเอ่ยว่า บุคคลเข้าถึงความบริสุทธิ์ได้ ด้วยปัญญา ท่านหมายถึงปัญญาตัวนี้แหละครับ
(ท่านไม่เคยบอกว่า บุคคลเข้าถึงความบริสุทธิ์ได้ด้วยสมาธินะครับ ใครที่ชอบนั่งสมาธิอย่างเดียว แล้วคิดว่าจะบรรลุธรรม แนะนำว่าน่าจะปรับความเข้าใจใหม่)
ที่น่าสังเกตคือ ท่านแยกไว้ชัดเจนว่า ความรู้จากการ "คิด" ยังเป็นแค่ปัญญาขั้นที่สอง อันนี้ไม่ต้องพูดถึงปัญญาพื้นๆขั้นแรก อย่างสุตตะ
สมัยนึงผมเป็นคนชอบอ่านหนังสือธรรมะมาก อ่านมากก็คิดว่าตัวเองรู้มาก แต่ตอนนั้น มานะอัตตาเยอะแยะยุ่บยั่บ ไม่ยักกะมองเห็น เป็นข้อยืนยันได้ว่า มันเป็นปัญญาระดับสิวๆ ช่วยอะไรเราไม่ได้มากมาย อย่าว่าแต่จะไปถึงนิพพานเลย แต่ชีวิตเจอทุกข์ธรรมดาก็ขาดสติลืมหมดแล้ว
วิธีการจะนำมาซึ่งปัญญาในขั้นที่สาม ชื่อก็บอกอยู่แล้ว ว่าต้อง "ภาวนา" ภาวนา หมายถึง การทำให้เจริญขึ้น
ถามว่า ทำให้อะไรเจริญเจ้าขา คุณแอสตั้น? ตอบโดยอ้างอิงพระสูตร ว่าด้วย สติปัฏฐานสูตรว่า "สติ" ไงครับ
"สติ" กับ "ปัญญา" จึงเป็นคำที่ถูกเอ่ยถึงคู่กันบ่อยๆว่า "สติปัญญา" เพราะก่อนจะมีปัญญา ต้องทำให้สติที่อยู่นำหน้า เขาเจริญเสียก่อน
ถามว่า คุณแอสตั้น อิฉันจะทำให้สติเจริญได้ยังไง ? ตอบว่า ครูบาอาจารย์ท่านแนะแนวผมมาเรียบร้อย ว่า สติ แปลว่า การระลึกได้ ดังนั้น "การจำสภาวะได้" จึงเป็นเหตุใกล้ให้เกิดสติครับ
ผมเดาว่า ท่าทางจะมีคนสงสัยต่อว่า จะทำยังไงให้จิตมันจำสภาวะได้ ตอบว่า.. ให้หมั่นตามรู้ตามดูตัวเองบ่อยๆ ที่บางท่านบอกว่า ให้หมั่นรู้สึกตัวนั่นแหละ
กายเคลื่อนไหว จิตก็ตามรู้ตามดู จิตเองเคลื่อนไหว ก็อาศัยจิตนั่นแหละคอยตามรู้ตามดู
ครูบาอาจารย์ ท่านแนะให้ทำเท่านี้ แค่รู้สึก ไม่ทำอะไรมากกว่านี้ รู้ ด้วยความเป็นกลาง รู้สบายๆ ไม่เครียด ไม่เพ่ง ไม่จ้อง
รู้ แบบเป็นธรรมชาติ ไม่ดัดจริต ไม่เสแสร้ง ไม่แทรกแซง จิตดี ก็รู้ว่าดี จิตมันไม่ดี ก็รู้ว่าไม่ดี ไม่ต้องพยายามแก้ไข ดัดแปลง ประเด็นไม่ได้อยู่ที่ ดี หรือ ไม่ดี มันสำคัญที่ "รู้" หรือ "ไม่รู้"
เพราะถ้าอยากได้ธรรมะ ต้องเข้าใจก่อนว่า ธรรมะ คือธรรมชาตินะครับ อะไรที่ผิดธรรมชาติ เราไม่เรียกว่าธรรมะ ไม่เรียก "อธรรม" ก็บุญแล้ว
คนที่ภาวนาเป็นแล้ว จะรู้สึกเลยว่า มันง่าย ง้ายยยง่าย ง่ายขำๆ ง่ายจนไม่ต้องทำอะไร ส่วนคนที่ภาวนายังไม่เป็นไม่ถูกวิธี ยังไม่เข้าใจ จะรู้สึกว่ามันยาก ยากจังเลยโว้ย
แต่ก็..นะ กว่าจะง่าย กว่าจะเป็น มันก็ต้องใช้เวลาศึกษานิดนึง พูดง่ายๆ มันก็ต้องยาก ต้องลำบากมาก่อนแหละครับ โดยเฉพาะพวกคาราบาวเรียกพี่แบบอีตาแอสตั้นเนี่ย
อาจารย์ผมท่านเคยเตือนลูกศิษย์ว่า การศึกษาธรรมะปฏิบัติ มันเหมือนการเรียนทางโลกนะ กว่าเราจะเรียนจบปริญญาตรี เรียกกันมากี่ปีล่ะ 16 ปี โทอีกสองปี เอกอีกล่ะ
บางคนเป็นเซียนทางโลกมาเรียนธรรมะ กะว่า 7 เดือน จะเอาปริญญาตรีเลย พวกนี้มึนตึ้บ ม้วนเสื่อกันไปหลายรายแล้ว
เพราะความรู้ทางโลก มันเรียนด้วยความจำ ด้วยการคิด พวกคิดยิ่งเก่ง ยิ่งฉลาด ยิ่งเรียนง่ายเรียนไว แต่ทางธรรม โดยเฉพาะสายวิปัสสนา ยิ่งคิด ยิ่งโง่ ยิ่งไม่รู้ ยิ่งยาก ยิ่งเนิ่นช้า
อีกอย่าง.. จิตคนเรานี่ มันรู้อารมณ์ทีละหนึ่ง ถ้ามันหลงไปคิดอยู่ มันจะรู้สึกตัวไม่ได้ครับ ลองสังเกตุดูตัวเองก็ได้ ว่าถ้าคุณตั้งใจคิด ยิ่งคิดเมามันมากเท่าไหร่ ความรู้เนื้อรู้ตัว มันก็ลดลงเป็นเงาตามตัวเท่านั้น ดูพวกชอบเหม่อก็ได้ครับ
ผมถึงใช้คำว่า "คนรู้ ไม่คิด คนคิด ไม่รู้"
จะว่ายากก็ยาก จะว่าลำบากก็ใช่นะ แต่เหมือนถ้าคิดว่าไม่อยากลำบาก จบ ป.4 ก็พอ จะไปต่อมัธยม อุดมศึกษาให้เหนื่อยทำแป๊ะอะไร
เพราะเรารู้ว่าการเรียนสูงๆ มันมีประโยชน์ มันเป็นการลงทุนลงแรง เรียนธรรมะ เรียนวิปัสสนา หัดเจริญสติ ก็เหมือนกันครับ
ครูบาอาจารย์ท่านจะเตือนเสมอว่า เรื่องบรรลุธรรม ไม่มีฟลุ๊ก ถามว่า สมัยพุทธกาล พวกที่ฟังพระพุทธเจ้า 5 นาที บรรลุเลยมีไม่ใช่เหรอคุณแอสตั้น
มีครับ ..
แต่ท่านเหล่านั้น ท่านสะสมการเจริญสติปัญญามาไม่รู้กี่ชาติ ท่านเดินปัญญามาจนสุดทางแล้ว ขาดแต่คนมาเปิดประตูให้ พอเจอพระพุทธเจ้า ท่านไขกุญแจให้ ก็ผลัวะหลุดออกมาได้เลย
โอว.. ว่าจะอธิบายแค่.. ทำไมคนที่ "รู้" ถึงไม่คิด ทำไมคนที่ "คิด" ถึงไม่รู้ แต่ยาวไปถึงไหนๆ
อันนี้ต้องขออภัย
อยากศึกษามากกว่านี้ เรียนเชิญช่วยเหลือตัวเองได้ ที่ลิงค์ "วิมุตติ" ทางฝั่งขวานี้นะครับ
จะคิดว่าเพื่อเตรียมตนให้พ้นทุกข์ หรือจะคิดว่าไม่จำเป็น อันนี้ก็ตามสะดวกครับ ไม่ว่ากัน ผมไม่คิดมาก
คิดมากไป เดี๋ยวไม่ "รู้" น่ะครับ
สุขสันต์วันปิยะครับ
ปล. ขออุทิศบุญกุศลจากบล็อคใดๆ ที่ผมเขียนมา และจากที่ผมเคยสร้างสมมา (หากจะมีอยู่บ้าง) ให้กับคุณซออู้ เพื่อนชาวบล็อคซึ่งเคยแวะมาเยี่ยมผมบ่อยๆ แต่ตอนนี้เธอสิ้นอายุขัยไปแล้ว
เชื่อว่าเธอจะได้ไปสุขคติภูมิครับ
Create Date : 23 ตุลาคม 2550 |
Last Update : 26 ตุลาคม 2550 1:34:24 น. |
|
24 comments
|
Counter : 2333 Pageviews. |
|
|
|
โดย: still IP: 58.8.183.103 วันที่: 23 ตุลาคม 2550 เวลา:22:05:07 น. |
|
|
|
โดย: azamiya วันที่: 24 ตุลาคม 2550 เวลา:1:30:21 น. |
|
|
|
โดย: woodchippath IP: 74.134.102.218 วันที่: 24 ตุลาคม 2550 เวลา:4:48:29 น. |
|
|
|
โดย: มิน (มินทิวา ) วันที่: 24 ตุลาคม 2550 เวลา:8:31:09 น. |
|
|
|
โดย: พี่แหม๋ว (ฟ้าคงสั่งมา ) วันที่: 24 ตุลาคม 2550 เวลา:10:13:14 น. |
|
|
|
โดย: Q.NUH IP: 125.25.203.183 วันที่: 24 ตุลาคม 2550 เวลา:14:02:12 น. |
|
|
|
โดย: joblovenuk วันที่: 25 ตุลาคม 2550 เวลา:1:30:03 น. |
|
|
|
โดย: มิน (มินทิวา ) วันที่: 25 ตุลาคม 2550 เวลา:18:57:56 น. |
|
|
|
โดย: mannequin วันที่: 26 ตุลาคม 2550 เวลา:0:04:23 น. |
|
|
|
โดย: aston27 วันที่: 26 ตุลาคม 2550 เวลา:1:42:33 น. |
|
|
|
โดย: azamiya วันที่: 26 ตุลาคม 2550 เวลา:15:38:55 น. |
|
|
|
โดย: printcess of the moon IP: 222.123.152.212 วันที่: 11 พฤศจิกายน 2550 เวลา:23:00:10 น. |
|
|
|
โดย: mr.popsong วันที่: 10 พฤศจิกายน 2551 เวลา:21:03:59 น. |
|
|
|
โดย: MeJayya วันที่: 20 มิถุนายน 2552 เวลา:21:46:20 น. |
|
|
|
โดย: MeJayya วันที่: 20 มิถุนายน 2552 เวลา:21:46:24 น. |
|
|
|
โดย: assawa3nx IP: 124.120.92.62 วันที่: 18 กรกฎาคม 2552 เวลา:13:38:49 น. |
|
|
|
โดย: nearmoons IP: 58.8.26.217 วันที่: 5 กันยายน 2552 เวลา:10:29:48 น. |
|
|
|
โดย: พันปักษา IP: 61.90.102.138 วันที่: 19 พฤศจิกายน 2553 เวลา:10:30:49 น. |
|
|
|
โดย: K_PK IP: 10.10.6.141, 58.147.84.253 วันที่: 21 มีนาคม 2554 เวลา:16:25:15 น. |
|
|
|
| |
|
|
นาดะโซวโซว...
เพลงนี้ฟังแล้วน้ำตาไหลค่ะ...