|
เรื่องเล่าเมื่อวานนี้
ออกจากบ้าน นึกว่าอยู่แถวทุ่งทานตะวัน มองทางไหนก็เหลืองกันไปหมด
เมื่อวานใครไม่ใส่เหลืองออกจากบ้านนี่ อาจรู้สึกเหมือนเป็นชนกลุ่มน้อยไปเลยนะครับ
เช้าผมมีประชุมที่ออฟฟิศ บริษัทต่างชาติแห่งนึง พบว่าเขาแทบจะไม่ทำงานการกัน เปิดห้องประชุม นั่งดูถ่ายทอดพิธี
แถวบ้านผมว่าเยอะแล้ว เห็นในจอทีวี ขนลุกซู่เลย คนไทยเรานี่รักพระองค์ท่านมากนะครับ
ขนาดไปแล้วต้องอยู่ห่างจากที่จะได้เห็นพระองค์ท่านมากมาย ก็ยังไปเบียดเสียดกัน เพื่อจะได้เป็นส่วนร่วมของพิธี บางสำนักเขาว่าถึงล้านคนเลยนะครับ
ผมประชุมเสร็จเดินผ่านห้องประชุมที่เขามุงดูถ่ายทอดอีกที เป็นตอนที่พระองค์ท่านยืนโบกมือให้พสกนิกรพอดี แล้วก็มีเสียงตะโกน ทรงพระเจริญๆๆๆๆๆ อื้ออึง
โอ้โห..ขนาดผมเป็นมนุษย์ร้องไห้ยาก ยังน้ำตาคลอเบ้า ไม่รู้คนที่ผมไปประชุมด้วย ที่เดินออกมาส่ง เขาจะเข้าใจผมผิดหรือเปล่า อาจจะนึกว่าผมน้ำตาคลอปีติเพราะผลการประชุม 5555
ถ้าใครจะบอกผมว่า เมื่อวานคุณน้ำตาไหลที่เห็นภาพนั้นเหมือนผม ผมก็จะไม่แปลกใจเลย
แอบดีใจที่รู้สึกเอาว่า พระองค์ท่านคงปลื้มพระทัยที่เห็นภาพนั้น แล้วก็แอบใจหายลึกๆ ว่าพระองค์ท่านก็พระชนมายุมากขึ้นทุกวันๆ
ท่านจะได้เห็นบ้านเมืองเราเจริญไปในทางที่ถูกที่ควร เห็นคนจนหมดไปจากแผ่นดินในรัชสมัยของท่านไหมหนอ
ตอนบ่ายผมออกไปทานมื้อเที่ยงกับเพื่อนคนนึง ข้อเสียของเพื่อนคนนี้ คือเธองามไปนิด สวยเกินไปหน่อย เดินไปไหนด้วย นั่งกินข้าว แล้วคนจะมอง เหมือนดารามากับคนขับรถ
555
นานๆไปกันที เจอกันปีละสองหนก็พอนะ แม่คุณ.. อย่าไปกันบ่อยเลย ผมไม่ชอบไปไหนแล้วมีคนมอง .. อุตส่าห์ไม่ยอมเล่นหนังเรื่อง ข้าวเหนียวหมูปิ้งแล้ว เพราะกลัวคนจำได้ว่าผมเล่นเป็นหมูปิ้งนี่แหละ
ตั้งใจไปทานข้าวเฉยๆ.. ปรากฏว่าต้องเปิดคอร์สให้คำปรึกษาเป็นของแถม..
ไม่เป็นไร.. เพื่อนกันๆ .. คนสวย รวยเก่ง ฉลาด เพอร์เฟกต์ ก็มีทุกข์เพราะรักได้นะครับ นี่
ตกพลบค่ำ.. ผมมุ่งหน้าไปศูนย์สิริกิตติ์ ปรากฏว่ารถที่ตั้งใจจะไปที่เดียวกับผม มันเยอะกว่าถนน
ย้ำว่า เยอะกว่าถนน ไม่ใช่เยอะกว่าที่จอดรถนะครับ
ผมเลยอ้อมกลับบ้าน เอารถทิ้งไว้บ้าน เดินมาลงรถไฟฟ้าใต้ดิน
เจออีกว่า คนเยอะขนาดเบียดเสียด แล้วก็ยังต้องมีเจ้าหน้าที่มากั้นให้ทะยอยลงไปทีละกลุ่ม ไม่งั้นจะไปเบียดเสียดกันข้างล่าง
ได้เจอน้องชายท่านนึง ที่ไม่เจอกันนานแล้ว เจอกันครั้งหลังสุดที่สวนโพธิ์ฯ เลยได้ร่วมทางกันโดยมิได้นัดหมาย
ผมพบว่าปัญหาคือการซื้อบัตร ซื้อเหรียญมันใช้เวลานานมาก อันนี้คือส่วนที่รถใต้ดินไม่เคยสู้ BTS ได้เลย ผมเลยตัดใจซื้อบัตรเติมเงินเลย เพื่อจะได้ประหยัดเวลาในขากลับ
ซึ่งผมพบว่าผมตัดสินใจถูกมาก
พอไปถึงสถานีศูนย์สิริกิตติ์ โผล่ออกจากสถานี.. โอ้โห.. คุณนึกถึงภาพหนังแบบ The Day After Tomorrow แบบนั้นนะ คือบนถนนมีแต่รถจอดเพราะไปไหนไม่ได้
ย้ำว่า จอดนะ.. ไม่ใช่รถติด.. คือดับเครื่องจอดกันตรงนั้นเลย บนสะพานลอยที่มาจากทาง 5 แยก ณ ระนอง ก็จอดกัน คนออกมานั่งบ้าง ยืนบ้าง เต็มไปหมด
แล้วกองทัพเสื้อเหลือง ก็เดินเท้ากันผ่านรถไปหาชัยภูมิของตัวเอง ตามถนัด
พลุเมื่อคืน ค่อนข้างน่าผิดหวังสำหรับผม เหตุเพราะคนต้องการไปชมนี่ หลายหมื่นนะครับ อาจจะถึงแสนๆคน แต่เขาออกแบบมาให้คนชมจากรอบๆสระน้ำตรงนั้นเท่านั้น เพราะเป็นพลุประกอบดนตรี หลายๆชุดมันค่อนข้างเตี้ย คนดูจากรอบนอก ไม่มีทางมองเห็นครับ เรื่องเสียงยิ่งไม่ต้องหวัง
น่าเสียดายๆ ผมเห็นคนรอบนอกที่ผมยืน บ่นกันพึม
อุตส่าห์ลำบากกว่าจะได้มาถึง กลับไม่ค่อยได้เห็น และไม่สวยมากเท่าที่หวังไว้ เป็นทุกข์เพราะความคาดหวังอย่างนึงครับ ฮาๆๆ
แต่ส่วนดีก็มีนะครับ .. เกิดมาผมไม่เคยเห็นกรุงเทพฯมีคนมารวมกันเยอะๆ ขนาดนี้มาก่อน น่าตื่นเต้นดีเหมือนกัน
อ่อ.. มีเรื่องน่าหวาดเสียว เพราะมีคนปีนขึ้นนั่งไปบนหลังคาอุโมงค์ทางลงรถไฟใต้ดินน่ะครับ แล้วขึ้นไปเต็มเลย อารมณ์อยากดูพลุ ขนาดหนัก
อันนี้น่าหวาดเสียวจริงๆ
ที่จริงวันนี้นัดน้องที่ทำงานเก่าคนนึงไว้ว่าจะไปเจอที่บ้าน เพราะบ้านเธออยู่ตรงบ้านหม้อ ใกล้สนามหลวง จะได้อาศัยจอดรถแล้วเดินไปดูพลุ
แต่พอเจอแบบเมื่อวานแล้ว บอกตามตรงว่าชักกลัวแฮะ..
ถ้าไม่คิดว่าอยากได้บรรยากาศอะไรมาก เห็นทีอยู่บ้านเฉยๆ ดูจากทีวี จะเท่กว่า
แวะมาเล่าสู่กันฟัง แก้เหงาเล่นๆครับ สุขสันต์วันเสาร์นะครับ
Create Date : 10 มิถุนายน 2549 |
Last Update : 10 มิถุนายน 2549 12:59:53 น. |
|
6 comments
|
Counter : 1014 Pageviews. |
|
|
|
โดย: Mr.Vop วันที่: 10 มิถุนายน 2549 เวลา:13:03:26 น. |
|
|
|
โดย: แพ็ท IP: 58.147.75.165 วันที่: 10 มิถุนายน 2549 เวลา:16:18:00 น. |
|
|
|
โดย: ซออู้ วันที่: 10 มิถุนายน 2549 เวลา:19:54:20 น. |
|
|
|
| |
|
|
มาเยี่ยมจ้ะ