|
การเมืองกับกาลามะสูตร
เหมือนกับอีกหลายๆท่านครับ คำถามยอดฮิตที่ผมเจอทุกวันตอนนี้คือ ..
"พี่อยู่ข้างไหน?"
เวลาเจอคำถามแบบนี้ .. ได้ FWD Mail ก็ดี ฟังข่าวก็ดี ผมจิตตกไปเหมือนกัน ต้องมานั่งตามดูจิตกันอุตลุต
พยายามจะไม่อ่านหนังสือพิมพ์ ไม่ดูข่าวทีวี เพราะมีแต่ โทสะ โมหะ กันเต็มจอ ไม่เว้นแม้แต่คนที่โฆษณาว่าตัวเองถือศีล 8 กินมังสวิรัติมื้อเดียว
พยายามจะไม่พูดเรื่องการเมือง ไม่สนใจการเมือง ก็เหมือนจะยิ่งมีคนอยากให้พูด นิ..
สงสัยเป็นกรรมของผมอย่างนึง .. 5555
วันที่ไปงานเปิดตัวหนังสือของคุณดังตฤณ พี่ตุลย์ก็ไม่พ้นต้องตอบคำถามแบบนี้อยู่ สี่ห้าข้อ ตอนแรกๆ พี่เขาก็พยายามจะเลี่ยง แต่คำถามก็ถูกยิงมาๆ จนพี่ตุลย์ ก็ต้องตอบ
อยากบอกว่า.. เสียดายสำหรับท่านที่ ไม่ได้ไป ไม่ใช่..เสียดาย คนตายไม่ได้อ่านนะครับ แต่..เสียดาย คนเป็นๆ บางคนที่ไม่ได้ไปฟัง
เพราะนั่นเป็นการแสดงจุดยืน และความเห็นว่าด้วยการเมืองที่ดีที่สุด ที่ผมเคยได้ยินมา ตั้งแต่เกิดวิกฤตเที่ยวนี้
หลายท่านที่รอว่าผมจะเล่าอะไรต่อ.. ผมไม่กล้าอ้างคำพูดพี่ตุลย์ครับ แหะๆ.. ขออภัย เพราะไม่มีเทปเสียงที่บันทึกไว้ กลัวจะคลาดเคลื่อน
แต่ผมกับพี่เขาคิดตรงกันอย่างนึงคือ .. ผมมีความเห็นของผมอย่างนึง.. แต่อย่าให้ผมพูดเลย เพราะพูดไปแล้วถ้าไปตรงใจฝ่ายนึง ก็จะไม่ตรงใจอีกฝ่าย
ท่านที่เห็นด้วย ก็ยินดีไป ท่านที่ไม่เห็นด้วย จะขุ่นใจ เท่ากับเราจะมีเวร มีกรรมต่อกัน โดยไม่จำเป็นเลยสักนิด
ผมฝากพระสูตร ที่เห็นว่าเหมาะกับสภาวะบ้านเมืองตอนนี้อย่างยิ่ง ไว้ให้อ่านเล่นๆ คลายร้อน
แอบตั้งจิตไว้ ให้ท่านอ่านแล้วเข้าใจ มีปัญญาหยั่งรู้ปัญหาได้ และอย่าได้ทุกข์กับสิ่งที่เป็นไปมากนัก
พระสูตรนี้ ส่วนมากเราเคยเรียนกันมาแล้วในหนังสือเรียน แต่เชื่อว่าหลายท่านลืมไปแล้วครับ.. : )
ผมไปอ้างอิงมาจากเว็บนี้นะครับ ขออนุโมทนากับผู้จัดทำไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ
//www.dharma-gateway.com/monk/preach/somdej/sd-202.htm
กาลามะสูตร
พระพุทธเจ้าได้ตรัสสอนว่า เพราะเหตุนั้น คือเพราะเหตุที่สมณะพราหมณ์พวกต่างๆ ที่เข้ามา ต่างแสดงวาทะสอนต่างๆ กัน ฉะนั้น จึง
อย่าเชื่อถือเอาโดยฟังต่อกันมา
อย่าเชื่อถือเอาโดยนำสืบๆ กันมา
อย่าเชื่อถือโดยตื่นข่าว
อย่าเชื่อถือโดยอ้างตำรา
อย่าเชื่อถือโดยนึกเดาเอา
อย่าเชื่อถือโดยคาดคะเน
อย่าเชื่อถือโดยตรึกเอาตามอาการ
อย่าเชื่อถือโดยพอใจว่าต้องกันกับทิฏฐิคือความเห็น
อย่าเชื่อถือโดยพอใจว่าควรเชื่อได้
อย่าเชื่อถือโดยนับถือว่าสมณะนี้เป็นครูของเรา
แต่ว่าให้ชาวกาลามะทั้งหลายได้ใช้ปัญญาพิจารณาดูตามเหตุผลว่าธรรมเหล่านี้ หรือสิ่งเหล่านี้เป็นอกุศล หรือเป็นกุศล มีโทษหรือไม่มีโทษ อันวิญญูคือผู้รู้ ติเตียนหรือสรรเสริญ
พระองค์ก็ได้ตรัสถามชาวกาลามะเป็นข้อๆ ไป และชาวกาลามะก็ได้ตอบเป็นข้อๆ ไป
สรุปความเข้าว่า ตรัสถามว่าโลภะ คือความโลภอยากได้ โทสะ คือความโกรธแค้นขัดเคือง โมหะ คือความหลง มีคุณหรือมีโทษ เป็นกุศลหรือเป็นอกุศล ผู้รู้ใคร่ครวญแล้วสรรเสริญหรือติเตียน ชาวกาลามะก็กราบทูลว่าเป็นอกุศล มีโทษ
ผู้รู้ใคร่ครวญแล้วติเตียน พระองค์ก็ตรัสถามว่าบุคคลที่โลภแล้ว โกรธแล้ว หลงแล้ว จึงฆ่าเขาบ้าง ลักของเขาบ้าง ประพฤติผิดในกามทั้งหลายบ้าง พูดเท็จหลอกลวงเขาบ้าง ดื่มน้ำเมาคือสุราเมรัยอันเป็นฐานที่ตั้งของความประมาทบ้าง เป็นกุศลหรืออกุศล มีคุณหรือมีโทษ ผู้รู้ใคร่ครวญแล้วสรรเสริญหรือติเตียน ชาวกาลามะก็กราบทูลว่าเป็นอกุศล มีโทษ ผู้รู้ใคร่ครวญแล้วติเตียน
พระพุทธเจ้าจึงได้ตรัสถามในด้านตรงกันข้ามว่า ความไม่โลภ ความไม่โกรธ ความไม่หลง และบุคคลที่ไม่โลภ ไม่โกรธ ไม่หลง จึงเว้นจากการฆ่าเขาบ้าง เว้นจากการลักของๆ เขาบ้าง เว้นจากความประพฤติผิดในกามทั้งหลายบ้าง เว้นจากพูดเท็จหลอกลวงเขาบ้าง เว้นจากน้ำเมาคือสุราเมรัยอันเป็นฐานที่ตั้งแห่งความประมาทบ้าง เป็นกุศลหรืออกุศล มีคุณหรือมีโทษ ผู้รู้ใคร่ครวญแล้วสรรเสริญหรือติเตียน ( เริ่ม ๑๓๕/๑ ) ชาวกาลามะก็กราบทูลว่าเป็นกุศล มีคุณ ผู้รู้ใคร่ครวญแล้วสรรเสริญ ดั่งนี้ พระพุทธเจ้าจึงได้ตรัสย้ำว่าเพราะเหตุนี้เอง พระองค์จึงได้ตรัสสอนว่า อย่าได้เชื่อถือโดยฟังตามกันมา โดยนำสืบๆ กันมา โดยตื่นข่าวลือเป็นต้น
สาธุครับ
Create Date : 26 มีนาคม 2549 |
Last Update : 2 พฤษภาคม 2549 9:14:11 น. |
|
9 comments
|
Counter : 1237 Pageviews. |
|
|
|
โดย: ซออู้ วันที่: 26 มีนาคม 2549 เวลา:13:56:45 น. |
|
|
|
โดย: ซออู้ วันที่: 26 มีนาคม 2549 เวลา:14:02:49 น. |
|
|
|
โดย: ป่ามืด วันที่: 26 มีนาคม 2549 เวลา:15:25:44 น. |
|
|
|
โดย: หญิงไทยใจดี IP: 202.139.215.196 วันที่: 26 มีนาคม 2549 เวลา:18:21:02 น. |
|
|
|
โดย: kittykitten วันที่: 26 มีนาคม 2549 เวลา:18:38:32 น. |
|
|
|
โดย: พี่หน้าเดียว IP: 58.11.72.126 วันที่: 27 มีนาคม 2549 เวลา:12:48:32 น. |
|
|
|
โดย: aston27 วันที่: 27 มีนาคม 2549 เวลา:23:39:27 น. |
|
|
|
โดย: พี่หน้าเดียว IP: 58.11.72.234 วันที่: 29 มีนาคม 2549 เวลา:10:47:08 น. |
|
|
|
| |
|
|
อย่าเชื่อโดยฟัง ๆ ตาม ๆ กันมา แต่ให้เชื่อโดยใช้ปัญญาพิจารณาเหตุและผล
คุณพูดถึงคุณดังตฤณ พอดีไม่ได้อ่านบล้อกของคุณแต่ต้นเลยไม่ทราบว่าคุณเป็นใคร รู้แต่ว่าคุณมีแนวคิดน่าสนใจ น่าติดตาม พี่สาวชอบงานเขียนของคุณดังตฤณมาก ซื้อทุกเล่ม อ่านทุกเรื่อง แล้วเล่าได้เป็เนฉาก ๆ
ยังให้ตัวเองซื้อหนังสือคนตายไม่ได้อ่านเลย ซื้อจากงานสัปดาห์หนังสือเมื่อ ต.ค. ปีที่แล้ว หนังสือดีจริง ๆ ค่ะ
ขอบคุณค่ะสำหรับข้อคิดดี ๆ ที่นำมาให้