|
เรื่องเล่าคืนวันอาทิตย์
ผมเป็นแฟนรายการเฮียสรยุทธ มานานแล้ว
นานตั้งแต่แกยังจัดคู่กับคุณกนกในเก็บตกจากเนชั่น สมัยเนชั่น แชนแนล ยังอยู่ในยูบีซีโน่นแน่ะ
ถึงวันนี้ ก็ยังต้องดูเรื่องเล่าเช้านี้อยู่ เพราะเป็นช่วงเพิ่งตื่น กำลังเตรียมตัวจะไปทำงาน
เฮียสอ.. เป็นคนที่ใช้คู่หูเปลืองมากที่สุดคนนึง ตั้งแต่กนก มาจนถึงคนล่าสุดคือคุณกุ๊ก
ใครจะไปรู้.. วันนึงผมอาจจะได้ไปจัดรายการคู่กะเฮียสอมั่งก็ได้ ฮ่าๆ เพราะผมก็เป็นรุ่นน้องคณะเฮียกนกสองปีเอง
****************** เมื่อวานเขียน คคห. ในบล็อคตัวเอง ตอบท่านนึงที่มาชวนคุย ลงท้ายไว้บอกว่า.. ศาสนาพุทธสอนให้เราต้องมีปัญญา คู่กับศรัทธา
อยากขยายความอีกสักหน่อย .. คือพระพุทธเจ้าไม่สรรเสริญศรัทธาที่ไม่มีปัญญาเคียงคู่ ท่านจึงไม่ทรงสนับสนุนให้ชาวพุทธสนใจไสยศาสตร์
แม้แต่การที่พระดูดวง ผมก็เข้าใจว่าผิดพระวินัยนะครับ แต่อันนี้ไม่ยืนยัน จำได้แต่ว่าพระพุทธองค์ ไม่ทรงสรรเสริญ แต่จำไม่ได้ว่ามีห้ามไว้ในพระวินัยหรือเปล่า
เพราะการดูดวง เป็นการพูดถึงสิ่งที่ยังมองไม่เห็น ในอนาคต ไม่ได้บอกว่าคนดูดวงแม่น หยั่งรู้อดีต ไม่มีนะครับ แต่อนาคตนี่ ผมไม่ค่อยเชื่อ ยิ่งดูแบบฟันธงเนี่ย ยิ่งลำบาก
เพราะไม่อย่างนั้น ป่านนี้ผมคงรวยไปแล้ว เห็นหมอดูกี่คนๆ ดูตั้งแต่ผมยังเด็ก ก็บอกว่าผมอายุเลย 33 ไปแล้ว จะรวย
ฮ่าๆๆๆ
********************* คนเชื่อหมอดูมากๆ ก็เหมือนคนที่เชื่อ เมล์ส่งต่อ หรือ Forward Mail น่ะครับ
หลายท่านคงเคยเจอบางอันที่เนื้อหาเขียนเสียดิบดี แต่ลงท้ายบอกว่า อ่านแล้วต้องส่งต่อให้คนกี่คนแล้วจะโชคดี จะสมหวัง ถ้าไม่ทำตาม จะโชคร้าย
ผมเคยส่งต่อแล้ว.. ก็ไม่เห็นมีอะไรเลย เคยไม่ส่งต่อแล้ว แถมลบทิ้งด้วย ก็ไม่เห็นมีอะไรอีก ผมว่าผมโชคดีตรงที่ไม่ค่อยเชื่อมัน และโชคร้ายตรงที่เสียเวลาไปอ่านเข้านั่นแหละ
อันแรกๆที่ผมจำได้คืออันที่ลงชื่อว่าพระครูวิจิตรธรรมโชติ อะไรสักอย่าง ใครจำได้มั่ง
สมัยที่อีเมล์ ยังไม่เฟื่องฟู ก็เคยมีจดหมายลูกโซ่แบบนี้แหละ ประมาณว่าเปิดอ่านแล้ว ต้องเขียนแล้วส่งต่อกี่ฉบับ ไม่งั้นจะ#!!%$@@&**#!! อะไรทำนองนั้น
ถ้าสมัยนี้ยังมีอยู่ ผมคงนึกว่า ไอ้คนเริ่มนี่ ท่าทางจะบ้าหนัง The Ring มากจนขึ้นสมอง หรือไม่ก็เป็นแผนการตลาดใต้ดินของกรมไปรษณีย์ หวังเพิ่มยอดขายแสตมป์
คิดกันไปได้ขนาดนั้นเชียวแหละ..คุณเอ๊ย..
แต่อย่าหัวเราะไปนา.. ท่านผู้อ่าน .. ไอ้ฟอร์เหวิดเเมวเนี่ย มีคนเชื่อเยอะแยะไป เยอะขนาดที่ทำให้รัฐบาลต้องยุบสภา นายกต้องขอเว้นวรรค เพราะอำนาจของจดหมายส่งต่อลูกโซ่นี่แหละ
ถ้าจะบอกว่า รัฐบาลแพ้สงครามข่าวลือ ก็ต้องบอกว่า ฝ่ายข่าวลือ มี forward mail เป็นอาวุธ เป็นสงครามกองโจรแห่งยุคไซเบอร์
วันๆไม่ต้องไปดักซุ่มโจมตีที่ไหน ไม่ต้องเข้าป่า มาล้อมเมือง จ้างใครสักทีมนึง นั่งคิดพล็อต โยงแพะ มาชนแกะ แล้วส่งฟอร์เหวิดไป ตั้งชื่อหัวข้อให้ลงท้ายว่า "ช่วยส่งต่อเยอะๆนะ"
มีช่วงนึง ผมอ่านจนเบื่อ จนต้องเมล์กลับไปหาทุกคนที่เมล์มา บอกว่า.. ช่วยผมที .. ..ช่วยถอดผมออกจากรายชื่อ เวลาคุณส่งฟอร์เหวิดเมล์ พวกนี้ด้วย
น้ำหยดลงหิน ทุกวันหินมันยังกร่อน แล้ววิจารณญานในหัวใจอ่อนๆ จะไปทนได้ยังไง.. นิ..
มีช่วงนึงที่ผมอึดอัดมาก.. รู้สึกเหมือนเป็นชนกลุ่มน้อย ในสังคมกรุงเทพฯ เพราะผมไม่เชื่อฟอร์เหวิดเมล์ ด้วยเหตุผลหลายข้อ
เช่น.. เรื่องที่ว่าการขายหุ้นชิน ที่ทำธุรกิจมือถือเป็นการขายสมบัติชาติ แต่ทำไม.. ตอน DTAC ขายหุ้นให้เอเลนอร์ ของนอร์เวย์ หรือสมัยที่อังกฤษมีหุ้นใน Orange ไม่เห็นมีใครคิดแบบนี้เลย ..เป็นต้น
ผมอ่านข่าวฉบับไหนๆ ก็มีแต่สื่อบ่นว่าถูกคุกคาม แต่ผมไม่รู้สึกว่าสื่อถูกคุกคาม เพราะผมรับสื่อไหนก็มีแต่คนรายงานข่าวเข้าข้างพันธมิตร
เดี๋ยวจะหาว่าผมกล่าวหาสื่อ.. ยกตัวอย่างง่ายๆเลยนะ คาราวานคนจนไปล้อมตึกเนชั่น สื่อบอกว่าคุกคามสื่อ เป็นเรื่องรับไม่ได้ ต้องออกแถลงการณ์
แต่พันธมิตรก่อม๊อบใหญ่กว่าแบบเทียบกันไม่ได้ ล้อมตึกที่กกต.ทำงาน ละเมิดสิทธิส่วนบุคคลตรวจค้นรถที่ออกจากตึกทุกคัน ผมไม่เห็นมีสื่อไหน ประนาม พันธมิตรเลย..
ผมว่ารัฐบาลแหละน่าสงสาร เพราะโดนสื่อคุกคามทุกวัน 555
ผมอีกคนสิ.. ถูกสื่อคุกคาม จนไปไหนๆก็ต้องทำตัวหงิมๆ ไม่พูด ไม่คุยเรื่องการเมือง จะบอกใครว่า.. ผมไม่เชื่อจำลอง ผมไม่ชอบสนธิ ไม่เชื่ออาจานเจิม หรือใครๆที่อ้างว่ารู้ทันลุงแม้ว ก็ดูจะเป็นคนโง่ เหมือนพวกตาสีตาสา แถวบ้านโนนหมากมุ่น กลายเป็นคนไม่รักชาติ ไม่ฉลาด ไม่ทันคนไปโน่นเลย
เผลอๆจะกลายเป็นพวกจัดตั้งของ พรรคลุงแม้ว หรือสนับสนุนเผด็จการไปเสียอีก
ถามว่า .. ผมรักลุงแม้ว เหมือนนางสาวไทยรักเด็กขนาดนั้นเลยไหม.. เปล่าเลย.. พับผ่า.. ผมเองก็ยังสงสัยแกอยู่เรื่องนึง ซึ่งไม่ได้ถูกเอ่ยถึง ขณะที่บรรดาข้อกล่าวหาที่เขาไปโพทนาบนเวทีพันธมิตร ผมดันตอบแทนลุงแม้วแกได้เกือบทุกข้อ
ผมมั่นใจว่าผมมีศรัทธาเสมอปัญญานะ ในเรื่องนี้
จะบอกว่าประชาชนมีสิทธิแสดงความเห็น .. ก็แสดงไปเถอะครับ แต่อย่าทำให้บ้านเมืองปั่นป่วน เดือดร้อน และอย่าริดรอนสิทธิของคนที่เขายังอยากให้ลุงแม้วเป็นนายกต่อ
จะชอบสีเหลือง ก็ชอบไปเถอะ.. แต่ผมขอชอบสีโอลด์โรสของผมได้ไหม อย่าว่ากันเลย
จะเชื่อใครศรัทธาใคร ก็ตามใจเถอะครับ.. เรามีเสรีภาพส่วนบุคคลอยู่ แต่ผมก็หวังว่า.. เราจะมีปัญญาพอจะรู้ได้ คิดได้ว่า ควรเชื่ออะไร เชื่อใคร แค่ไหน
หลายท่าน ภูมิใจมาก ที่รู้ทันทักษิณ แต่ผมไม่แน่ใจว่า ท่านรู้ทันฝ่ายค้าน หรือพันธมิตรด้วยไหม
หลายเรื่องผมคงเขียนไม่ได้นะครับ มันจะเข้าข่ายหมิ่นประมาท และผมไม่สามารถลงชื่อพยานบุคคลได้
แต่ถ้าท่านติดตามการบ้านการเมืองมานาน โดยไม่ยึดถืออคติมากนัก ท่านคงพอจะมองออกว่า.. เขาเรียกร้องอะไร เพื่อใคร
ที่สำคัญ.. อย่าลืมว่า เสรีภาพ ต้องเป็นไปโดยการไม่เบียดเบียนผู้อื่น
******************** สมัยผมเรียนวิชาการวิจารณ์ภาพยนตร์
อาจารย์ที่สอน เอาหนังเรื่อง Missing แสดงโดย นิค โนลเต มาเปิดให้ดู
หนังพูดถึงนักข่าวอเมริกัน ที่ไปทำข่าวสงครามกลางเมืองในนิคารากัวครับ พูดถึงสิ่งที่นักข่าวอ้างกันมาตลอดว่า.. พวกเขายึดมั่นในความเป็นกลาง
แต่หนังจะบอกว่า.. โลกนี้ไม่มีที่ยืนสำหรับคนที่เป็นกลาง เพราะความเป็นกลาง มันหายาก หรืออาจจะถึงขั้นพูดได้ว่า มันไม่เคยมีอยู่
ตัวอย่างคือ ทันทีที่ผมบอกใครๆว่า.. ผมไม่เห็นด้วยกับฝ่ายค้านและพันธมิตร
จะมีธงถูกฟันลงมาทันทีว่า.. "ชอบไปได้ยังไง ทักษิณน่ะ" ก็ยังไม่ทันพูดซักคำ ว่าผมเชียร์ลุงแม้ว
ไม่เชียร์พันธมิตร ก็ไม่ได้แปลว่าต้องเชียร์ลุงแม้วสักหน่อย
ผมบอกเพื่อนๆว่า.. นายกฯ จะชื่ออะไรก็ได้ครับ ทักษิณไม่ใช่คำตอบสุดท้ายคำตอบเดียว ขอให้มาจากการเลือกตั้ง.. ผมไม่เคยรังเกียจ
แต่อย่าไปบอกว่า.. จะเอานายกฯ ด้วยมาตรา 7 ทั้งๆที่รู้ว่ามันไม่ใช่เหตุ ไม่ใช่เจตนารมณ์ของกฏหมาย (ใครยังไม่ชัดเจนในประเด็นนี้ ลองไปศึกษาพระราชดำรัสฯ ได้นะครับ)
อย่าไปบอกว่า.. จะเอานายกฯ มายังไงไม่รู้ล่ะ.. แต่ต้องไม่เลือกตั้ง เพราะเดี๋ยวทรท. ก็ชนะอยู่ดี
อย่าไปคิดว่า.. ใครจะเป็นไง ไม่รู้ล่ะ.. หุ้นจะตก ของจะแพง ใครจะเจ๊ง นายกฯ ต้องลาออกก่อน ไม่งั้นไม่เลิก
ผมเคยนึกอยากเอาปี๊บคลุมหัว เมื่อนักวิชาการผู้เป็นใหญ่ในสถาบันการศึกษาที่ผมจบมา ท่านออกมาบอกว่า.. ท่านคิดว่า มาตรา 7 และนายกฯพระราชทานฯ คือทางออกเดียวของปัญหา
ไม่รู้ป่านนี้ ท่านจะนอนหลับบ้างหรือยัง หลังจากได้ยินพระราชดำรัสฯ
ผมอยากจะขำ แต่ก็ขำไม่ออก.. เมื่อคนตั้งคำถาม ถามพวกอาจารย์มหาวิทยาลัยที่ประกาศไล่ลุงแม้วว่า.. ถ้าไม่เอาทักษิณ ไม่เอา ทรท. แล้วจะเอาใคร
ครั้งนึง มีนักวิชาการกลุ่มนึงออกมาบอกว่า.. ก็ให้ป๋าเปรมเป็นสิ.. ท่านเป็นประธานองคมนตรีแน่ะ
โถ.. ท่านครับ.. ท่านไม่ตั้งสติหน่อยเหรอครับ ท่านจำไม่ได้เหรอครับ.. ว่าป๋าเปรมน่ะ ท่านลาออกไปเมื่อครั้งกระโน้น ก็เพราะพวกอาจารย์มหาวิทยาลัยก๊วนเดียวกับท่านน่ะ ลงมติไล่ป๋า เหมือนที่อาจารย์ไล่ลุงแม้วตอนนี้
ตอนนั้นบอกว่าป๋าเป็นเผด็จการ เพราะไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง ตอนนั้นบอกว่า.. ใครก็ได้.. ไม่เอาป๋าแล้ว ขอให้มาจากการเลือกตั้ง
แล้วป๋า.. ก็ได้รับแต่งตั้งเป็นประธานองคมนตรี ด้วยประการฉะนั้น
แล้วถึงวันนี้ .. อาจารย์ จะให้ผมเชื่ออีกเหรอครับ ว่าอาจารย์คิดถูก ที่จะนำประเทศ ย้อนกลับไปในยุคที่มีทหารกลุ่มนึงเชื่อว่า การเลือกตั้ง ไม่จำเป็น..
เชื่อว่า.. นายกฯที่ชอบธรรม สามารถมาจากการใช้อำนาจ ล้มรัฐบาลปัจจุบัน แล้วตั้งขึ้นใหม่ตามใจได้
เช่นนั้น แล้ว.. พวกท่านก็ไม่ต่างจากทหารสมัยจอมพลฯ ทั้งหลายเลยสิครับ ท่านพยายามโค่นรัฐบาล ยึดอำนาจ โดยการสร้างความวุ่นวายโดยอ้างสิทธิตามระบอบประชาธิปไตย
ท่านภูมิใจกันเหลือเกิน กับสิบล้านเสียงที่ไม่ออกเสียง แต่ท่านไม่ไยดีกับสิบหกล้านเสียงที่ออกเสียงมั่งเหรอครับ
หรือในตำราที่ท่านเรียนเขียนอ่านมา ประชาธิปไตย มันไม่ได้มีหน้าตาแบบเดียวกับที่ผมเข้าใจกระมัง
******************** ดันมาเล่าเรื่องในวันแรงงาน.. เครียดเลย.. ขออภัยนะครับ
ปิดท้าย.. ทราบไหมครับว่า เขียนบล็อคกับแต่งงาน ต่างกันตรงไหน
ติ๊กต่อก.... ติ๊กต่อก... ติ๊กต่อก.... ติ๊กต่อก...
ปิ๊ง.... !! หมดเวลา..
เฉลย.. ต่างกันตรงที่ เขียนบล็อคเนี่ย พูดได้ว่า .. "ครั้งนี้ถ้ามีอะไรบกพร่อง ต้องขออภัย.. ไว้แก้ตัวใหม่คราวหน้านะคร้าบ"
ฮาหน่อยเร้ว ..
ปล. ขอจดไว้กันลืมว่าครั้งต่อไป ผมจะพูดเรื่องจากหนัง As Good As It Gets มีคำพูดของพระเอกตอนนึง เด็ดมาก อิอิ
สุขสันต์วันแรงงานครับ
Create Date : 01 พฤษภาคม 2549 |
Last Update : 1 พฤษภาคม 2549 1:13:23 น. |
|
7 comments
|
Counter : 1094 Pageviews. |
|
|
|
โดย: King Of Pain IP: 58.9.147.89 วันที่: 1 พฤษภาคม 2549 เวลา:2:19:01 น. |
|
|
|
โดย: ซออู้ วันที่: 1 พฤษภาคม 2549 เวลา:7:03:16 น. |
|
|
|
โดย: wanwitcha วันที่: 1 พฤษภาคม 2549 เวลา:13:11:56 น. |
|
|
|
โดย: run to me วันที่: 1 พฤษภาคม 2549 เวลา:13:57:54 น. |
|
|
|
โดย: aston27 วันที่: 2 พฤษภาคม 2549 เวลา:9:52:14 น. |
|
|
|
โดย: TVXQ IP: 58.8.4.187 วันที่: 8 มกราคม 2551 เวลา:14:51:46 น. |
|
|
|
| |
|
|
งั้นก็เป็นรุ่นพี่ผมน่ะสิ ... ผมรหัส 40 ... แต่คนละคณะกันครับ
เห็นหัวข้อวันนี้ คิดว่าจะเป็นเรื่องเล่าเบาๆ อ่านไปๆ อ้าวการเมืองหรอกเหรอ ...
ก่อนหน้านี้ติดตามข่าวสารบ้านเมืองตลอดครับ เรื่องเล่าเช้านี้ หรือว่าเก็บตกจากเนชั่น นี่ผมดูหมด แต่ช่วงนี้เกิดอาการเบื่อๆ ดูบ้าง ไม่ดูบ้าง ...
ตอนนี้ยังไม่รู้เลยครับว่าตัวเองเข้าข้างฝ่ายไหนกันแน่ เพราะเซ็งทั้งสองฝ่ายเลย