|
จาก Babel ถึง The Lives Of Others: ชีวิตเขา ชีวิตเรา
นอกเหนือจาก Little Miss Sunshine แล้ว ยังมีหนังอีกสองเรื่อง ที่ค่อนข้างเด่นในเวทีออสการ์และผมอยากพูดถึง คือ Babel กับ The Lives Of Others
สองเรื่องนี้ สำหรับผม ผมเห็นว่าต่างก็พูดเรื่องเดียวกัน คือเรื่องที่ว่าด้วย "ชีวิตเรา ชีวิตเขา"
ผมออกจะมีความเห็นต่างจากชาวบ้านเขาในส่วนที่เกี่ยวกับ Babel แม้จะเห็นว่ามันเป็นหนังในหมวด "หนังดี" แต่บอกตามตรง ผมไม่รู้สึกว่า โลกนี้ต้องการหนังแบบ Babel เลย
อ่ะ..พูดใหม่.. โลกของผมคนเดียวก็ได้ เดี๋ยวแฟนๆของ อิงนาริตู จะเคืองผม
ผมสงสัยว่า ทำไมเราจะต้องดูหนังที่พูดเรื่องชีวิตเรา ชีวิตเขา ด้วยความบีบคั้น บีบเค้น เหมือนผมจะตีแผ่เรื่องของทะเล ทำไมผมต้องไปพิสูจน์ให้ใครๆรู้ว่า น้ำทะเลมันเค็มนะครับ เค็มมาก เค็มปี๋ รู้ไว้เสียด้วยนะคุณผู้ชม ในเมื่อใครๆก็รู้กันอยู่
และในเมื่อทะเลมันมีอะไรอีกตั้งเยอะล้านแปดให้คุณพูดถึง
ในขณะที่ผมดู Babel ด้วยอาการอยากอาเจียนตอน 17.45 ผมกลับดู Lives Of Others 20.45 ด้วยอาการบันเทิงยิ่ง แม้จะรู้สึกเพลียและง่วงบ้าง
การดูหนังสองเรื่องต่อกัน โดยมีเวลาพัก 25 นาทีนี่ใช้ได้เลย คือมันไม่หนักเกินไป และไม่ห่างกันจนเปรียบเทียบความรู้สึกไม่ได้
ผมอาจจะเป็นคนเผ่าสุขนิยมกระมัง ที่รู้สึกว่า ชีวิตจริงมันมีทุกข์เยอะแยะพอแล้ว ไม่ต้องเสียเงินร้อยนึงไปหาทุกข์เพิ่มถึงในโรงหนังหรอก
ขนาดผมจะพิจารณาทุกข์ เวลาวิปัสสนา ผมยังชอบวิธีสบายๆไม่ลำบากเลย
ในขณะที่ อิงนาร์ริทู ผู้กำกับ Babel ล้มเหลวในสายตาผม (คนเดียว) และทำให้ผมดีใจที่เขาไม่ได้ออสการ์ ชื่อของ Florian Henckel von Donnersmarck ผู้กำกับ The Lives Of Others กลับเป็นชื่อที่ผมต้องจดจำในฐานะคนเยอรมัน ที่พูดเรื่อง "ชีวิตเขา ชีวิตเรา" ได้อย่างสนุก น่าสนใจ น่าประทับใจกว่า
เคยมีคนเยอรมันถามผมว่า หนังที่ผมชอบที่สุดคือเรื่องอะไร ผมบอกว่า Forest Gump
ผมเห็นว่า การทำหนังสักเรื่อง มันเป็นเหมือนการเลือกแว่นให้คนดูเห็นโลกผ่านเลนส์ของผู้กำกับ
หนังแม้จะเป็นพาณิชย์ศิลป์ แต่มันก็คือศิลปะ ศิลปะมีไว้จรรโลงโลก ถ้าไปดูงานศิลป์แล้วหดหู่ ดูแคลนชีวิต อึดอัด อยากอ้วก
ผมก็ไม่นับว่างานชิ้นนั้นบรรลุวัตถุประสงค์
อันนี้ ไม่เห็นด้วยก็ไม่แปลกนะครับ เพราะมันเป็นมุมมองของแอสตัน27 คนเดียว
ใครคิดว่าอยากจะดู Babel ผมจะแนะนำว่า ดูได้แต่อย่าคิดว่ามันจะบันเทิง ไปดู The Lives Of Others ดีกว่า เจ๋งกว่าเยอะเลย
ฟันธงกันโต้งๆแบบนี้แหละ
เพลงวันนี้ตามคำขอของน้องแหนม แต่ในอัลบั้มชุดนี้ไม่มีเพลงชื่อ Se นะเธอ เลือกเพลงนี้ให้ชื่อ First Youth
เพลงสอง อันนี้ต้องคลิก play เอง เพลงธีมของหนัง cinema paradiso
เพลงสามเป็นเพลงจากหนังเรื่อง the mission หนังที่ดีมากในยุค 80's ฝีมือการแต่งของ เอนนิโอ มอร์ริคอร์นี เช่นกัน เพลงชื่อ "เสียงโอโบ ของเทพเกเบรียล"
สุขสันต์วันพฤหัสครับ
Create Date : 01 มีนาคม 2550 |
Last Update : 1 มีนาคม 2550 8:17:02 น. |
|
24 comments
|
Counter : 1366 Pageviews. |
|
|
|
โดย: นิดหน่อย IP: 210.1.21.117 วันที่: 1 มีนาคม 2550 เวลา:9:39:49 น. |
|
|
|
โดย: มะลิ IP: 58.8.89.10 วันที่: 1 มีนาคม 2550 เวลา:10:11:47 น. |
|
|
|
โดย: tpipe วันที่: 1 มีนาคม 2550 เวลา:11:17:26 น. |
|
|
|
โดย: run to me IP: 125.24.137.195 วันที่: 1 มีนาคม 2550 เวลา:11:55:09 น. |
|
|
|
โดย: micha IP: 202.12.118.36 วันที่: 1 มีนาคม 2550 เวลา:13:05:34 น. |
|
|
|
โดย: JewNid วันที่: 1 มีนาคม 2550 เวลา:14:54:05 น. |
|
|
|
โดย: กุมภีน วันที่: 1 มีนาคม 2550 เวลา:15:16:01 น. |
|
|
|
โดย: NNN IP: 71.167.76.162 วันที่: 1 มีนาคม 2550 เวลา:16:19:50 น. |
|
|
|
โดย: Hobbit วันที่: 1 มีนาคม 2550 เวลา:17:01:59 น. |
|
|
|
โดย: littletree IP: 125.24.16.75 วันที่: 12 มีนาคม 2550 เวลา:22:25:54 น. |
|
|
|
โดย: aston27 วันที่: 12 มีนาคม 2550 เวลา:23:04:51 น. |
|
|
|
โดย: kittykitten IP: 58.8.144.240 วันที่: 12 มีนาคม 2550 เวลา:23:11:36 น. |
|
|
|
โดย: Tony KooN (tk_station ) วันที่: 12 มีนาคม 2550 เวลา:23:27:51 น. |
|
|
|
โดย: Hobbit วันที่: 13 มีนาคม 2550 เวลา:1:17:43 น. |
|
|
|
โดย: ป้าหู้เองจ่ะ (fifty-four ) วันที่: 13 มีนาคม 2550 เวลา:2:00:23 น. |
|
|
|
โดย: Oakyman วันที่: 16 มีนาคม 2550 เวลา:13:19:58 น. |
|
|
|
โดย: ดำรงเฮฮา วันที่: 19 เมษายน 2550 เวลา:13:36:06 น. |
|
|
|
โดย: tikky IP: 125.24.58.67 วันที่: 23 มิถุนายน 2550 เวลา:19:41:31 น. |
|
|
|
โดย: ... IP: 124.120.41.178 วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:22:33:51 น. |
|
|
|
โดย: คนขับช้า IP: 110.49.204.37 วันที่: 22 พฤษภาคม 2553 เวลา:8:14:17 น. |
|
|
|
| |
|
|
เพื่อนเธอวี้ดวิ่วกับหนังเรื่องนี้มาก (เพื่อนอยู่ยุโรป) บอกเราว่าต้องดูให้ได้นะ
รวมถึงคนโน้น คนนี้ นักวิจารณ์โน้นนี้ก็ล้วนพูดถึงหนังเรื่องนี้กันอย่างบวกซะส่วนมาก
แต่เราเองก็ยังหาเวลาไปดูไม่ได้เล้ย
พอมาอ่านคุณฟันธง (ลง) อย่างงี้ หากจะดูคงต้องตั้งจิตดีๆ
ไม่ให้มีอคติตามคุณ ซึ่งมักชี้นำให้คล้อยตามได้เก่งมาก
(ชมนะเนี่ย)
อ่านมาเจอคุณพูดถึงเรื่อง The Mission ... โห..เป็นหนังในดวงใจของเราเรื่องนึงเลยค่ะ
ดูตั้งแต่สมัยเรียนที่เมืองนอก
ไม่ค่อยได้ยินใครพูดถึงหนังเรื่องนี้
เลยดีใจจัง ที่ทำให้เราได้รำลึกถึงหนังดีๆอย่างนี้อีกครั้ง
ว่างๆคุณแอสตัน เอามาพูดถึงหน่อยสิคะ
อารมณ์ nostalgic มันจะได้เติมเต็มหน่อย นิ..