|
รักนวลสงวนตัว.. รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา รักกระเป๋าหามรถเมล์
ตั้งชื่อให้มันคล้องกันไปงั้นแหละ เผื่อคุณกาละแมร์จะอยากแวะมาอ่านมั่ง
ที่จริงเนื้อหามันตรงกับแค่วลีแรกของชื่อบล็อคอันนี้เท่านั้นเอง อันที่สองสาม ก็พอถูไถสีข้างแดงนิดๆ ว่าเกี่ยวกันบ้าง แต่อันสุดท้ายนี่ ไม่ใช่เป็นอันขาด
ที่จะพูดเรื่องรักนวลสงวนตัว ก็สืบเนื่องมาจากกระทู้อันนึงในสวนลุมฯ ที่เขาตั้งมาและผมไปตอบไว้ดังนี้ครับ
ฉันเป็นคนไม่รักนวลสงวนตัวใช่ไหม
ตั้งใจไว้ว่าถ้ามีแฟนจะไม่ยอมมีอะไรกับเค้าก่อนแต่งงาน
พอมีแฟน อยู่กันตามลำพังก็ไม่ยอมให้เค้าทำแบบนั้น แต่ยอมให้เค้าจูบ ทั้งที่รู้ว่ามันไม่เหมาะสมตั้งแต่ไปอยู่กับเค้าตามลำพังแล้ว อย่างนี้แปลว่าฉันไม่รักนวลสงวนตัวใช่ไหม
หรือมันเป็นเรื่องปกติของคนที่เป็นแฟนกันที่จะต้องทำแบบนี้
จากคุณ : dimpled girl - [ 16 พ.ค. 49 23:10:17 ]
************************** ความคิดเห็นที่ 4
พูดเรื่องนี้ทีไรยาวทุกที.. เพราะถ้าพูดสั้นแล้วคนมักจะเข้าใจผิด
ต้องเข้าใจว่า.. ความเชื่อนี้มีมาตั้งแต่ สมัยโบราณ สมัยที่ผู้หญิงออกเรือนกันตั้งแต่อายุไม่เกิน ยี่สิบ ตั้งแต่สมัยที่ผู้หญิงมีค่าแค่เป็นแม่พันธุ์ แม่ครัว และแรงงานของครอบครัว
แปลว่า ถ้าคุณเป็นผู้หญิงสมัยก่อน คุณอดกลั้นเรื่องเซกส์ไว้สักยี่สิบปี ก็เก่งแล้ว
ผมเคยได้ยินทฤษฎีว่า ความเชื่อนี้ มีจุดกำเนิดส่วนหนึ่ง จากความต้องการของผู้ชาย ที่ถือว่าการมีภรรยาที่เป็นของชายอื่นมาแล้ว เป็นเรื่องเสียเกียรติ
พ่อแม่ สมัยก่อน กลัวลูกจะอื้อฉาวว่าด่างพร้อยแล้วจะไม่มีใครมาขอ เลยปลูกฝังค่านิยมเรื่องนี้ใส่หัวผู้หญิงมารุ่นต่อรุ่น เพื่อให้แน่ใจว่าจะขายออก
อันนี้คือเรื่องของสมัยก่อน จริงไม่จริง ผมก็ฟังเขามาและวิเคราะห์ต่อยอดเอาหน่อยๆ
ที่พูดมา ไม่ได้จะบอกว่า.. มันคร่ำครึ ล้าสมัย โบราณ แต่จะบอกว่า.. มันทันสมัยมาก เพียงแต่ ต้องประยุกต์เข้ากับยุคสมัยบ้าง
จริงอยู่.. เราพูดเรื่องพรหมจารีย์น้อยลง ในคนหลายๆส่วน แต่ค่านิยมเรื่องรักนวลสงวนตัว ก็น่าจะยังมีติดกระเป๋าไว้บ้าง โดยเฉพาะกับน้องๆที่ยังเรียนไม่จบ ยังต้องแบมือขอเงินพ่อแม่ ยังเลี้ยงตัวเองไม่ได้ ยังไม่รู้ว่า คนที่เราอยากแต่งงานด้วย และเหมาะจะฝากฝีฝากไข้ได้ มันควรจะเลือกยังไง
คนสมัยนี้ เลือกแฟนเองเสียมาก มีแฟนตั้งแต่ยังใส่คอซอง นุ่งขาสั้นไปเรียนก็มี ต่างจากสมัยก่อนที่มีผู้ใหญ่คอยคัดเลือกให้
บางทีรีบเสียเนื้อเสียตัวไปตั้งแต่อายุยังน้อย ตั้งท้องเสียก็มี เป็นภาระอุปสรรคแก่การเรียน
หรือบางที เพราะมีค่านิยมผิดๆในหมู่ผู้ชายหลายคน ที่เห็นเซกส์เป็นเรื่องสนุกเหมือนกีฬาอย่างหนึ่ง ไม่ได้เห็นมันเป็นปัจจัยที่เติมชีวิตคู่ให้สมบูรณ์ อย่างที่มันควรจะเป็น
การรักนวลสงวนตัวของคนสมัยนี้ จึงจำเป็นด้วยประการฉะนี้
แต่ถ้าโดยความเห็นส่วนตัว จำเป็นไหม ที่จะต้องมีเซกส์ หลังแต่งงานในทุกคน ทุกคู่ ทุกกรณี
ผมว่าไม่.. การแต่งงานมันเป็นเรื่องของพิธีการ ยิ่งบางคนอายุสามสิบกว่า แถมกะว่าจะเรียนด็อกเตอร์ก่อนค่อยแต่งงาน หรือรอมีบ้านก่อน มีรถก่อน มีเงินเท่านี้ค่อยแต่ง
กว่าจะได้แต่ง ก็สี่สิบหน่อยๆ ใกล้วัยทองเข้าไปทุกที อันนั้นถ้าอยากมี ผมว่า ถ้าว่ากันตามวุฒิภาวะที่ควรจะมี ถ้าเจอคนที่คุณคิดว่าควรคู่จะสละสิ่งที่คุณสงวนไว้มานาน ก็น่าจะมีได้นะครับ
เพราะถ้าอยากมี ก็คงใคร่ครวญดีแล้ว ไม่ใช่มีเพราะเมา เพราะอารมณ์ชั่ววูบพาไป
หรือถ้าไม่อยากมี ก็ไม่ผิดอีกนั่นแหละนะ ชีวิตใคร ชีวิตมัน ไม่ว่ากันอยู่แล้ว
ถ้าถามว่าจะบอกได้ยังไงว่าคนไหนมีได้ คนไหนไม่ควรมี อันนี้มันตอบลำบาก เอาเป็นว่า ..
อย่างน้อย.. คุณควรจะเรียนจบ ทำงานแล้วพร้อมจะมีครอบครัว วัยเกิน ยี่สิบห้าน่าจะดี เพื่อจะมีวุฒิภาวะ นำพาชีวิตรอดได้
แต่ถ้าทะเลาะกับเพื่อน ก็ต้องมาตั้งกระทู้ หาพวก ทะเลาะกับแฟน ก็ต้องมาตั้งกระทู้ หาคนปลอบ เลิกกับแฟน ก็ต้องมาตั้งกระทู้ หาคนร่วมอุดมการณ์
อันนี้ถึงจะสามสิบห้าแล้ว ผมก็ยังว่าคุณอ่อนไหวเกินไป.. อย่ามีเลย
หรือถ้ามีแล้วเกิดพลาดจริงๆ ท้องขึ้นมา ก็ไม่มีปัญญาเลี้ยงเด็กไว้ ต้องไปทำแท้ง ให้บาปหนาขึ้นมา เพราะยังไม่พร้อมจะรับผิดชอบ หรือเพราะอะไรก็แล้วแต่ ก็ไม่ควรมีอีก
การรักนวลสงวนตัวเป็นเรื่องดี เรื่องควรสรรเสริญ แต่ควรทำให้มันเป็นธรรมชาติ อย่าแบกขนาดต้องรอพิธีแต่งงานก่อนถึงแตะเนื้อต้องตัวได้
ก็ไม่ต้องขนาดนั้นกระมัง
อันนี้พูดในฐานว่า.. จขกท. ไม่ได้บอกอายุนะ ผมเลยอนุมาน เดาๆ ว่าคุณอายุไม่มาก ไม่น้อย
ปกติถ้าผมพูดกับเด็ก จะบอกอย่างนึง พูดกับผู้ใหญ่ ก็จะบอกอีกอย่างนึง
ให้ความรักนวลสงวนตัว.. มันช่วยสงวนรักษาเรา ให้ถึงวัย ถึงวัน เวลา บุคคล ที่เหมาะที่ควร ก็พอแล้วครับ แต่อย่าไปแบกมัน..
โชคดีนะครับ
จากคุณ : aston27
Create Date : 17 พฤษภาคม 2549 |
Last Update : 18 พฤษภาคม 2549 21:02:50 น. |
|
16 comments
|
Counter : 2242 Pageviews. |
|
|
|
โดย: ซออู้ วันที่: 17 พฤษภาคม 2549 เวลา:23:41:30 น. |
|
|
|
โดย: ดำรงเฮฮา วันที่: 17 พฤษภาคม 2549 เวลา:23:49:55 น. |
|
|
|
โดย: มิงค์ IP: 210.213.6.58 วันที่: 18 พฤษภาคม 2549 เวลา:8:45:08 น. |
|
|
|
โดย: มิงค์ IP: 210.213.6.58 วันที่: 18 พฤษภาคม 2549 เวลา:9:03:43 น. |
|
|
|
โดย: - -* IP: 124.120.72.59 วันที่: 7 มิถุนายน 2550 เวลา:17:56:26 น. |
|
|
|
โดย: บอกมาดิ IP: 124.120.72.59 วันที่: 7 มิถุนายน 2550 เวลา:17:59:47 น. |
|
|
|
โดย: ก้อย IP: 203.172.243.130 วันที่: 1 สิงหาคม 2550 เวลา:12:49:52 น. |
|
|
|
โดย: เป๋ IP: 203.113.66.73 วันที่: 16 กันยายน 2550 เวลา:18:21:27 น. |
|
|
|
โดย: ไรนาม IP: 202.91.19.204 วันที่: 12 ธันวาคม 2550 เวลา:19:43:25 น. |
|
|
|
โดย: คนดี IP: 202.91.18.205 วันที่: 19 กรกฎาคม 2551 เวลา:20:04:13 น. |
|
|
|
โดย: ฝ่านมา IP: 118.173.50.109 วันที่: 30 พฤษภาคม 2552 เวลา:10:28:24 น. |
|
|
|
โดย: Deksamsen IP: 125.24.125.0 วันที่: 27 สิงหาคม 2552 เวลา:18:38:45 น. |
|
|
|
โดย: ภีรนีย์ IP: 192.168.18.80, 112.142.91.247 วันที่: 16 ธันวาคม 2552 เวลา:17:24:02 น. |
|
|
|
โดย: ลูกน้ำ IP: 192.168.18.80, 112.142.91.247 วันที่: 16 ธันวาคม 2552 เวลา:17:26:07 น. |
|
|
|
โดย: กุ๊ก IP: 110.49.120.52 วันที่: 22 สิงหาคม 2553 เวลา:8:20:34 น. |
|
|
|
| |
|
|
การรักนวลสงวนตัวเป็นสิ่งดีที่ควรทำ แต่สังคมปัจจุบันทำให้ผู้หญิงเห็นเป็นเรื่องไร้ความหมาย โดยเฉพาะดาราซึ่งควรเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับคนในสังคม แต่กลับมีพฤติกรรมเลียนแบบฝรั่ง ซึ่งตรงข้ามกับวัฒนธรรมไทยอย่างสิ้นเชิง หากจะมีก็เมื่อพร้อมและไม่เป็นปัญหากับผู้ใด ก็ควรมีได้ ความคิดของคุณเหมาะสมกับยุคสมัยปัจจุบันดีค่ะ