|
ปฏิบัติธรรม ทำอะไร :ตอนที่ 1 + blog tag
(ภาพจาก FWD mail นะครับ ไม่ปรากฏชื่อผู้ถ่าย)
ต่อเนื่องมาจากบล็อคที่แล้วครับ (ใครยังไม่ได้อ่านบล็อคอันก่อนหน้านี้ แนะนำว่าควรย้อนไปอ่านก่อน)
เริ่มมาจากเรื่องที่มีผู้ถามถึงความเชื่อเรื่องการเวียนว่ายตายเกิด เลยโยงไปพูดเรื่องกรรม แล้วก็มาเรื่องว่า ที่พระพุทธเจ้าสอนเรื่องวิปัสสนา ก็ดี เรื่องการภาวนา การเจริญสติก็ดี รวมความโดยย่อแล้ว มันคือการมีชีวิตอย่างมีสติ นั่นแหละครับ
ประชาชนคนทั่วไป มักจะเข้าใจ (เหมือนที่ผมเคยเข้าใจมาก่อน) ว่า... ปกติผม/ดิฉันชอบไปวัด ฟังธรรม ไหว้พระสวดมนต์ ทำสังฆทาน ปล่อยนก ปล่อยปลา เป็นคนดี ไม่เบียดเบียนใคร แค่นี้ยังไม่พอเหรอ
ก็ต้องถามว่า.. สมมติพระพุทธเจ้าเป็นพ่อเรา ท่านปรุงอาหารที่อร่อยที่สุด มีคุณค่าที่สุดในโลกให้เรา เราจะนั่งทานแต่ข้าวเปล่ากับน้ำปลาอยู่ทำไมล่ะครับ
ถ้าเราเกิดมาในศาสนาอื่น ประเทศอื่นก็ไปอย่างนา..
บางคนบอกว่า.. คำว่าปฏิบัติธรรม มันเป็นเรื่องของคนอยู่วัด เรื่องของคนแก่ คนจิตตก อกหัก รักหด ตดเหม็น เป็นอีสุกอีใส ไตพิการ อาหารไม่ย่อย
อันนั้นใครที่อ่านบล็อคผมมาระยะนึงคงเข้าใจแล้วล่ะว่า มันไม่เกี่ยว
จากประสบการณ์ตรง การปฏิบัติธรรม เป็นประโยชน์กับทุกคนที่ยังมีชีวิต กับทุกคนที่เห็นว่า สุขทุกข์กับชีวิต เป็นของคู่กัน เลี่ยงกันไม่ได้ กับทุกคนที่เห็นว่า เวลาความทุกข์มาเยือน เราต้องใช้สติ ใช้ปัญญาประเภทที่ต่างจากเวลาปกติ
เพราะคนส่วนมาก ที่คิดว่าตัวเองเป็นคนสติดี เวลาเจอปัญหา เจอทุกข์รุมเร้า สติที่เคยมี ปัญญาที่เคยมา มันก็หายไปหมดได้เหมือนกัน
ดังนั้น ในระดับเริ่มต้น .. การปฏิบัติธรรม มันจะช่วยให้เรามีชีวิตด้วยความเข้าใจ ด้วยสติ ด้วยปัญญา เวลาสุข ก็ไม่สุขจนเกินเลย เกินพอดี เวลาทุกข์ ก็ไม่ทุกข์จนหาแสงสว่างไม่เจอ โดนแฟนทิ้ง ไปง้อแล้วเขาไม่คืนดี ก็ไม่ต้องไปปีนเสาไฟฟ้า 70 ม. แล้วโดดลงมาให้เป็นภาระปอเต็กตึ๊ง เหมือนข่าวเมื่อเช้า
เคยมีคนเปรียบว่า ทุกคนเป็นเหมือนนักมวยน่ะ ไม่ช้าก็เร็วต้องถึงคิวขึ้นชก เราจะเตรียมตัวให้พร้อมก่อนขึ้นชก หรือจะไปวัดดวงเอาตอนอยู่บนสังเวียนล่ะ
ในระดับก้าวหน้า.. การปฏิบัติธรรม จะช่วยให้เรามีปัญญาที่นำเราเข้าถึงที่สุดของชีวิต คือความดับแห่งทุกข์
พูดถึงตรงนี้ ก็จะมีคนสงสัยเสมอว่า.. เอ๊ะ ปกติผมก็ชอบอ่านหนังสือธรรมะนะ ผมเข้าใจแจ่มแจ้งแทงทะลุ แบบนี้เรียกว่าผมมีปัญญาอยู่แล้ว ผมไม่ต้องปฏิบัติได้ไหม
ถามแบบนั้น ก็ต้องตอบแบบนี้ว่า.. ถ้ามีปัญญาจริงๆ จะไม่ถามแบบนี้หรอก เพราะถ้ามีปัญญาจริงๆ ควรรู้ว่า.. พระพุทธเจ้าท่านจำแนกปัญญา หรือความรู้เอาไว้เป็น 3 ระดับ
1. ปัญญาที่ได้จากการจำ คืออ่านมา ฟังมา แล้วจำได้ (สุตตมยปัญญา) 2. ปัญญาที่ได้จากการคิด ไตร่ตรอง (จินตมยปัญญา) 3. ปัญญาที่ได้จากการเจริญสติ ภาวนา (ภาวนามยปัญญา)
สองข้อแรกนั่นเป็นปัญญาทางโลก เอาไว้หาข้าวกินได้ ทำงานทำการได้ แต่ข้อหลังนี่ อ่านเอา ฟังเอา ก็ไม่พอ คิดเอายิ่งไม่ได้ ใหญ่ เพราะเรากำลังพูดเรื่องความรู้ที่จะนำพาชีวิต ไปสู่การอยู่เหนืออำนาจของกิเลส เหนือดี เหนือชั่ว เหนือสุข เหนือทุกข์
จึงเป็นความรู้ที่ต้องลงมือสร้าง ต้องอดทน ต้องพยายาม พอควร มันไม่ใช่ของที่ยากขนาดคนธรรมดาไปไม่ถึง ก็จริงอยู่ แต่ก็ไม่ง่ายเหมือนฉีกซองมาม่าแล้วเทน้ำร้อนปิดฝาหรอกนะ
เหมือนเราไปเรียนต่อยมวย ฟังแต่ทฤษฎีแล้วก็นึกภาพตาม ว่าต้องทำยังไง โค้ชบอกว่า ต้องฟุตเวิร์กยังไง ออกหมัดยังไง ต่อยหนึ่งสอง ก้มหัว โยก สลับขา เบี่ยงตัว ฮุคซ้าย อัพเปอร์คัทขวา
ให้คุณฟังแล้วคิดอย่างเดียว สิบปี แล้วไม่เคยลงนวมเลย คุณว่าชาตินี้จะมีทางได้แชมป์ไหม
ก็การปฏิบัติธรรม ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า คือการทำความเข้าใจที่ถูกต้องเรื่อง "ธรรมะ" ด้วยการปฏิบัติง่ะ
อาจจะมีคนถามว่า.. แล้ว "ธรรมะ" คืออะไรล่ะ คุณแอสตัน ตอบว่า.. คือความจริงในธรรมชาติของกายและจิต นี่แหละ
ที่พระท่านให้ไปศึกษาธรรม ก็คือการเรียนรู้ความจริงของ กายนี้ ว่า.. กายนี้มันไม่เที่ยง มันคงที่ไม่ได้ เพราะมันเป็นทุกข์ และเราบังคับไม่ให้มันเป็นสุขตลอดเวลาไม่ได้
และเรียนรู้ว่า ใจนี้ .. มันไม่เที่ยง มันเปลี่ยนไปเรื่อยๆ และเราบังคับให้มันสุขก็ไม่ได้ บังคับให้มันทุกข์ ก็ไม่ได้
เห็นความจริงอย่างนั้นบ่อยๆ เพื่อจะได้ให้จิตมันยอมรับความจริงในที่สุด ถ้าจิตมันเข้าถึงตรงนั้น มันจะค่อยๆวาง คลายความยึดมั่นถือมั่นในตัวตน สุขก็ไม่ยึด ทุกข์ก็ไม่แบก เพราะเห็นว่า มันไม่ใช่ตัวเรา ไม่ใช่ของเรา
หลักการกว้างๆ มันก็มีเท่านี้เอง..
เบื่อไหมครับนี่ .. ถ้าเบื่อจะได้เลิก.. ถ้ายังพอทนอ่านได้ จะเล่าเรื่องการปฏิบัติให้ฟังต่อ
บล็อคนี้ ประชาธิปไตยครับ ขอได้ 555 *********************************
ก่อนจบ มี น้องมะลิ หรือที่รู้จักในวงการว่า จจ. //mali.diaryis.com/ เธอชวนให้เล่น blog tag คือผมต้องเขียนสิ่งที่คนอื่นไม่รู้เกี่ยวกับตัวผม 5 อย่าง
แล้วแตะตัวคนอื่น ให้เล่นต่ออีก 5 คน ฉะนั้นใครจะโดนแตะมั่ง ก็เตรียมตัวนะ
อ่ะ 5 ข้อของผม
1. ผลไม้ที่ผมชอบที่สุด ไม่ใช่ทุเรียน มังคุด ละมุด ลำไย มะเฟือง มะไฟ แอบเปิล กีวี สตรอว์เบอรี่
แต่มันคือ กล้วยน้ำว้าครับ
2. ผมเคยโดนครูขึ้นบัญชีดำ ผมเป็นเด็กเรียนดีก็จริง แต่สมัยเรียนประถมสอง สาม สี่ ครูประจำชั้น จะหมายหัวผมไว้ต่อๆกันมา ในฐานะนักเรียนที่ไม่ส่งการบ้านบ่อยที่สุดในประวัติศาสตร์ของโรงเรียน
ผมผ่านการโดนลงโทษมาทุกรูปแบบ ทั้งวิ่งรอบสนาม คาบไม้บรรทัดยืนขาเดียวกางแขน ยกถังน้ำ ทำเวรเพิ่ม ตีมือ หยิก ตีก้น ตีน่อง
ถ้ากระทรวงศึกษาอนุญาตให้ครู ตอกเล็บ บีบขมับ โบยด้วยหวาย ตัดหัว เสียบประจานได้ ผมคงโดนไปแล้วล่ะ
ผมเรียนรู้อย่างนึงจากกรณีนี้ว่า เด็กจะไม่รู้สึกผิดที่โดนลงโทษด้วยวิธีรุนแรง เพราะเขาจะมองว่า เขาได้ชดใช้สิ่งที่เขาทำไปแล้ว ด้วยการถูกครูลงโทษไง (ผู้ปกครองควรให้คำแนะนำบุตรหลานนะครับ แฮ่..)
3. ผมกลัวความสูงครับ อันนี้ไม่มีคำอธิบาย ไม่ทราบสาเหตุ รู้แต่ว่า ถ้าไปอยู่บนที่สูง แล้วมองลองมาในแนวดิ่ง ขาจะอ่อนปวกเปียก แม้แต่ดำน้ำ ก็ไม่ชอบดำในที่ลึกๆ ที่มองไม่เห็นพื้น บรื๋อสสส์
4. นักร้องคนโปรดสมัยเด็กๆคนแรก คือ แหม อยากจะตอบให้มันเท่ๆ ประเภท บีทเทิลส์ เอลวิส เลด เซฟพลิน เอลตัน จอห์น เดวิด โบวี่ เอริค แคลปตัน จังเลย
แต่ในความจริง คำตอบคือ เพลิน พรมแดน ครับ น้าแกเป็นเจ้าตำรับเพลงขำๆ ประเภทร้องไป ก็ส่งมุกตลกคั่นเพลงไปด้วย เพลงดังๆของน้าเพลิน คือ คนเก่งภาษา แล้วก็เพลงอาตี๋สักมังกร เป็นต้น
5. ผมเป็นคนชอบดอกไม้ อันนี้จะดูหญิงไปหรือเปล่าไม่ทราบ แต่ผมรู้สึกว่า ถ้าบ้านช่อง หรือที่ทำงาน มีดอกไม้ มันจะดูมีชีวิตชีวาขึ้นยังไงบอกไม่ถูก
ผมเคยส่งดอกไม้ให้ผู้หญิงหลายหน แต่มีน้อยครั้งที่มีผู้หญิงให้ดอกไม้ผม ซึ่งผมอาจจะไม่ได้แสดงออกมากนัก ถึงความดีใจ แต่จริงๆน่ะดีใจมากเลยนะ
ผมชอบดอกไม้ทุกสี แต่ชอบสีขาว มากกว่าสีอื่น เคยตั้งใจว่า ถ้ามีบ้าน อยากได้ที่ดินปลูกต้นไม้เยอะหน่อย จะมีแต่พวกดอกสีขาว อย่างลั่นทม ดอกแก้ว ดอกปีบ ต้นโมกข์
พอแล้วนะ 5 ข้อ อิอิ เดี๋ยวรู้หมด
อีก 5 คน จะแตะใครดี กลัวเค้าไม่ยอมเล่นด้วยอ่า ..
king of pain อรุ คุณตู่ น้องนุ่น และ คุณ Q Nuh ผมเลือก 5 ท่านนี้ละกัน
แต่จะเล่น ไม่เล่น ก็ไม่ว่ากันนะครับ
Create Date : 07 มกราคม 2550 |
Last Update : 12 มกราคม 2550 19:01:53 น. |
|
29 comments
|
Counter : 1340 Pageviews. |
|
|
|
โดย: bVis IP: 124.121.108.34 วันที่: 9 มกราคม 2550 เวลา:0:40:20 น. |
|
|
|
โดย: มะลิ IP: 58.8.87.183 วันที่: 9 มกราคม 2550 เวลา:0:56:15 น. |
|
|
|
โดย: อรุ IP: 58.9.26.74 วันที่: 9 มกราคม 2550 เวลา:2:15:43 น. |
|
|
|
โดย: อรุอีกทีค่ะ IP: 58.9.26.74 วันที่: 9 มกราคม 2550 เวลา:2:19:39 น. |
|
|
|
โดย: หนี่หนีหนี้ (แพรวขวัญ ) วันที่: 9 มกราคม 2550 เวลา:9:02:20 น. |
|
|
|
โดย: นักรักโลกมายา IP: 210.1.40.242 วันที่: 9 มกราคม 2550 เวลา:13:05:55 น. |
|
|
|
โดย: Tony KooN (tk_station ) วันที่: 9 มกราคม 2550 เวลา:13:38:15 น. |
|
|
|
โดย: aston27 วันที่: 9 มกราคม 2550 เวลา:13:53:42 น. |
|
|
|
โดย: ป้าหู้เองค่ะ (fifty-four ) วันที่: 9 มกราคม 2550 เวลา:20:36:06 น. |
|
|
|
โดย: Q.NUH IP: 125.25.60.10 วันที่: 9 มกราคม 2550 เวลา:20:54:01 น. |
|
|
|
โดย: kittykitten IP: 58.8.135.107 วันที่: 9 มกราคม 2550 เวลา:21:28:56 น. |
|
|
|
โดย: kittykitten IP: 58.8.135.107 วันที่: 9 มกราคม 2550 เวลา:21:47:08 น. |
|
|
|
โดย: ดำรงเฮฮา วันที่: 9 มกราคม 2550 เวลา:22:53:57 น. |
|
|
|
โดย: พลทหารไรอัน วันที่: 10 มกราคม 2550 เวลา:6:44:33 น. |
|
|
|
โดย: the Vicky วันที่: 10 มกราคม 2550 เวลา:7:12:47 น. |
|
|
|
โดย: กุมภีน วันที่: 10 มกราคม 2550 เวลา:12:23:23 น. |
|
|
|
โดย: law of nature IP: 129.11.76.230 วันที่: 10 มกราคม 2550 เวลา:19:58:47 น. |
|
|
|
โดย: aston27 วันที่: 10 มกราคม 2550 เวลา:23:02:22 น. |
|
|
|
โดย: aston27 วันที่: 11 มกราคม 2550 เวลา:23:09:01 น. |
|
|
|
โดย: N o o n IP: 125.25.145.193 วันที่: 12 มกราคม 2550 เวลา:14:08:33 น. |
|
|
|
โดย: ดำรงเฮฮา วันที่: 12 มกราคม 2550 เวลา:16:42:02 น. |
|
|
|
โดย: aston27 วันที่: 13 มกราคม 2550 เวลา:9:30:09 น. |
|
|
|
โดย: STAR ALONE (STAR ALONE ) วันที่: 31 มกราคม 2550 เวลา:1:17:01 น. |
|
|
|
| |
|
|
ตัวสงสัยนี่มันทำให้คิดและกลับมาสงสัยอยู่นั่นแหละ
แบบนี้ต้องฝึกๆๆๆ