แอพ 'Uber' รถรับจ้างหรูทางเลือกใหม่ หรือตัวปัญหาของแท็กซี่ป้ายเหลือง

เมื่อกลุ่มคนขับแท็กซี่ได้ออกมาปิดถนนประท้วงในหลายเมืองของยุโรป เพื่อประท้วงแอพพลิเคชั่น 'Uber' ที่ทำให้ยอดผู้โดยสารน้อยลง คอลัมน์นิสต์สื่อนอกระบุ นี่คือเทคโนโลยีในศตวรรษที่ 21ที่ส่งผลกระทบ และเปลี่ยนประสบการณ์นั่งแท็กซี่...

หลังจากที่บรรดาคนขับรถแท็กซี่ทั่วยุโรปผละงานประท้วง โดยกลุ่มคนขับแท็กซี่ได้ออกมาปิดถนนประท้วงในเมืองหลวงของหลายประเทศของทวีปยุโรป เช่น กรุงลอนดอน กรุงปารีส และในเมืองอื่นๆ เพื่อประท้วงแอพพลิเคชั่นเรียกแท็กซี่บนโทรศัพท์มือถือ 'อูเบอร์' (Uber) แอพพลิเคชั่นสัญชาติอเมริกัน ที่ทำให้ยอดผู้โดยสารที่เรียกแท็กซี่จากท้องถนนปกติลดลง ส่งผลให้การจราจรช่วงเช้าในหลายเมืองกลายเป็นอัมพาต

นายคริส เทย์เลอร์ นักเขียนจากเว็บไซต์ Mashable ให้ความเห็นถึงเรื่องนี้ในบทความ "Sorry, Taxis: You're History" ของเขา โดยมีใจความตอนหนึ่งว่า จากประสบการณ์ที่นั่งแท็กซี่ มีหลายสิ่งที่มันไม่น่าจะใช่ประสบการณ์ที่ดีในการนั่งแท็กซี่ เพราะแทนที่ผู้โดยสารจะได้เพลิดเพลินกับทัศนียภาพของข้างทางของถนน กลับกลายเป็นว่า ผู้โดยสารในที่นั่งหลังต้องนั่งตัวโก่ง โดยที่สายตาจับจ้องเหมือนเหยี่ยวมองหาเหยื่อ เพื่อดูตัวเลขที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อย่างรวดเร็วบนมิเตอร์

แต่ในโลกของคนที่ใช้สมาร์ทโฟน ไม่มีเหตุผลที่จะอยู่ที่นั่งด้านหลังไม่ได้ เพราะการที่ใช้ Uber X ทำให้สามารถเพลิดเพลินไปกับความสวยงามของ 2 ข้างทาง และยังได้พูดคุยกับคนขับรถที่ดูเป็นมิตรอีกด้วย ใช่ นั่นต้องเป็นการที่จ่ายมากขึ้นเพื่อบริการพรีเมี่ยม เงินอีกหลายดอลลาร์แลกกับความสบายใจ ในช่วงเวลาแห่งความสุขที่ไม่ต้องไปคิดเรื่องทิปคนขับ หรือการออกใบเสร็จรับเงินให้เปลืองกระดาษ เพราะตัดค่าบริการจากบัตรเครดิตไปก่อนแล้ว

หากให้สรุปว่า อูเบอร์ และ Lyft แอพพลิเคชั่นที่หาคนขับรถรับจ้างไปส่ง และเจ้าของรถสามารถขับรถหารายได้บนแนวคิด แนว ride-sharing ไร้ข้อที่ต้องติหรือไม่ คงไม่ใช่เพราะบริการเหล่านี้มาพร้อมค่าบริการที่สูงมาก เหมาะสำหรับคนฐานะการเงินดีมากกว่าคนทั่วไป แน่นอนว่าบริการเหล่านี้ไม่มีการควบคุม และไม่มีการจ่ายภาษีแก่ท้องถิ่นนั้นๆ แต่แม้จะมีปัญหาเหล่านี้ แต่บริการแนว ride-sharing ก็ยังคงวนเวียนอยู่รอบๆ ตัวเรา และได้รับความนิยมเป็นที่รู้จักกันแบบปากต่อปาก จากประสบการณ์ที่แสนเจ็บปวด คนขับพูดจาโผงผาง บีบแตรตลอดทาง ย่อมเป็นสิ่งที่ผู้โดยสารไม่ต้องการ คุณจึงไม่สามารถหยุดกระบวนการที่เกิดขึ้นนี้ได้

สิ่งเดียวที่คนขับแท็กซี่ทั่วไปจะสามารถทำได้ในเวลานี้ คือ ตอบสนองความต้องการของผู้โดยสารด้วยแอพพลิเคชั่น ตั้งกลุ่มของตัวเองขึ้นมาแล้วสร้างแอพฯ เป็นของตัวเอง คุณมีข้อได้เปรียบในเรื่องจำนวนขึ้นมานั่งอยู่บนเทคโนโลยีของศตวรรษที่ 21 แล้วคุณจะชนะ

Uber อูเบอร์ เป็นบริษัทสตาร์ทอัพ จากสหรัฐอเมริกา ที่ก่อตั้งมาไม่นาน ด้วยทุนจดทะเบียนมูลค่า 1.7 หมื่นล้านเหรียญฯ มีการดำเนินธุรกิจใน 100 หัวเมืองของ 36 ประเทศ แต่ต้องเผชิญกับอุปสรรคการขยายธุรกิจในทวีปยุโรป หลังเมืองบรัสเซลส์ ห้ามทำธุรกิจที่นั่น ขณะที่ สหภาพแท็กซี่ในกรุงปารีสก็ชนะการฟ้องร้องที่ดำเนินมาตั้งแต่ต้นปี 2014 ในการถูกบังคับให้แอพลิเคชั่น Uber และแอพพลิเคชั่นแท็กซี่อื่นๆ ต้องรอ 15 นาที เพื่อรับผู้โดยสารหลังจากที่ได้รับการเรียกใช้งาน แต่ต่อมาการพิจารณาคดีถูกล้มภายหลัง แต่การประท้วงในกรุงปารีสได้รับอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายเดือน บางครั้งการเปลี่ยนความรุนแรง ทั้งนี้ Uber ถูกกีดกันออกไปจากกรุงเบอร์ลินด้วย แต่หลังจากนั้นก็มีการตัดสินใจยื่นอุทธรณ์ และขณะเดียวกัน ตัวแอพพลิเคชั่นก็ยังใช้ที่นั่นได้ต่อไป.

ที่มา : mashable