หลายคนแอบสงสัยว่าสาวสวยที่คว้าตำแหน่งนางงามระดับเอเชียมาแล้ว อย่าง ''จ๊ะโอ๋'' ทวินันท์ คงคราญ จะยัง โสด และที่น่าแปลกใจยิ่งกว่านั้นคือ เธอนั่งหน้าแป้นในหน้าที่ประชาสัมพันธ์ ที่ ททบ.5 มานานกว่า 17 ปีแล้ว และ เธอก็ยังยืนยันอย่างมั่นใจว่า เธอรักในอาชีพ แม้จะต้องตื่นตี 5 ขับรถจากบ้านที่พักกับแม่ที่ จ.สมุทรปราการ เพื่อจะเข้า มาทำงานที่ช่อง 5 สนามเป้าเกือบทุกวัน ซึ่งปฏิบัติเช่นนั้นมาหลายสิบปี ทุกวันนี้ ''จ๊ะโอ๋'' ยังทำอยู่เช่นเคย

สยามดารามีโอกาสนั่งเปิดใจแบบคำต่อคำ ชีวิตของ ''จ๊ะโอ๋-ทวินันท์'' ซึ่งเคยผ่านมาแล้วทั้งการเป็นนางเอก หนัง, นักร้องในยุครวมดาว เพลงที่ จ๊ะโอ๋ ร้องได้รับความนิยมโด่งดังไม่ว่าเพลง จูบเย้ยจันทร์, บทเรียนก่อนวิวาห์, สักขีแม่ปิง, รักคุณเข้าแล้ว ฯลฯ แม้เวลาจะผ่านไป 27 ปีแล้วแต่บทเพลงเหล่านั้นก็ยังครองใจผู้ฟังอยู่ คราวนี้ จ๊ะโอ๋ อยู่ ในบทบาทพิธีกรรายการ ฮอตไลน์ไทยแลนด์ ในช่วงเวลา 9.15 - 9.25 น., หัวหน้าประชาสัมพันธ์ช่อง 5 และกำลังจะ หวนขึ้นเวทีคอนเสิร์ตอีกครั้ง ในคอนเสิร์ตพลังเพลง วันที่ 12 มี.ค. นี้ที่โรงละครแห่งชาติ

จุดเปลี่ยนตรงไหนที่ทำให้พี่จ๊ะโอ๋มาทำงานเหมือนข้าราชการ
''หลังจากที่ออกอัลบั้มเพลงลูกกรุงกับค่ายเมโทรแล้ว ตอนนั้นจบโท ที่จุฬาฯ พอดีก็มีโอกาสได้มาทำงานที่ช่อง 5'' - ทำไมตัวพี่จ๊ะโอ๋เอง ก็ผ่านเวทีนางงามได้ตำแหน่งมา เป็นทั้งดารานักร้องทำงานเอกชนเงินเดือนสูงก็ได้แต่ทำไมถึง อยากทำงานกับส่วนราชการทีเงินเดือนน้อยนะ แต่ทำมาได้ถึง 17 ปี
''มันเป็นความลงตัวของงานกับความสามารถที่มี และความกรุณาของช่อง 5 ที่ให้โอกาสค่ะ''

ส่วนตัวพี่จ๊ะโอ๋ เป็นคนยังไง
''เป็นคนลุยๆ นะ ห้าวๆ ด้วยซ้ำ ดูหน้าหวานแต่ตัวจริงจะห้าวนะ ชนิดที่สมัยเรียนมัธยม เคยมีเรื่องชกต่อยกับเพื่อน ผู้ชายมาแล้ว โอ๋ไม่กลัวนะ คือคุณพ่อคุณแม่อาจเลี้ยงแบบทะนุถนอมหน่อย แบบมีคนไปรับไปส่งที่โรงเรียน แต่เราก็ มีความรู้สึกหนึ่งที่อยากทำอะไรเองบ้าง อยากขึ้นรถเมล์ได้ คืออยากให้ปล่อยให้เราทำอะไรเองบ้าง''

ดูท่าทางคุณพ่อคุณแม่เป็นห่วงน่าดู
''ใช่ค่ะ แม่นี่จะตามประกบตลอด ไปไหนมาไหนก็ตาม อย่างตอนที่ร้องรวมดาว มีงานที่ไหนทั้งกรุงเทพฯ ต่างจังหวัดแม่ก็จะไปประกบข้างตลอด พอไปด้วยแม่ก็จะคอยสอนเวลาที่เราเห็นชีวิตวัยรุ่น เวลาเราไปพบเจอ เพื่อให้เราได้คิด แยกแยะว่าอะไรดีไม่ดียังไง''



ขอย้อนถามกลับไปหน่อยว่ามาเข้าเป็นนักร้องในกลุ่มรวมดาว ได้ยังไง เพราะปกตินักร้องที่อยู่ในรวมดาวจะเป็นนัก ร้องที่อยู่ในสังกัดค่ายเพลงที่ออกอัลบั้มมากกว่า
''ก็ไปงานกับแม่ ตอนนั้นอายุ 17-18 เองก็มีเพื่อนแม่มาเห็นที่เป็นเจ้าของค่าย แนะนำให้ไปลองเทสต์เสียงดู ว่าเขากำลังมีโครงการออกอัลบั้มเพลงคู่ของนักร้องหนุ่มสาววัยรุ่น แต่เอาเพลงลูกกรุงสุนทราภรณ์มาร้องใหม่ โอ๋ว่างๆ ก็ เลยไปลองดูก็ได้ ไม่ได้เสียหายอะไรเพราะแม่ก็ชอบ สนับสนุนทางด้านนี้อยู่แล้ว ซึ่งตอนนั้นจ๊ะโอ๋ ก็พอมีงานถ่าย โฆษณา ถ่ายแบบมาบ้างอยู่แล้ว พอไปเทสต์เขาก็ให้ร้องจำได้แม่นเลย เพลงสักขีแม่ปิง, จูบเย้ยจันทร์, รักคุณเข้าแล้ว ปรากฏว่าว่าเสียงเราได้ ผ่าน ร้อง 4 เพลง ได้ค่าร้อง 3 พันบาทสมัยนั้น จนอัลบั้มได้รับความนิยมมากก็มีงานเข้ามา ตลอด เราก็ต้องไปร้องเพลงโชว์กับกลุ่มเพื่อนๆ รวมดาว ซึ่งก็อายุไล่เลี่ยกันนี่แหละ เป็นประสบการณ์ที่เราประทับใจ อย่างหนึ่ง''

แล้วประสบการณ์ที่ได้ประกวดนางงามล่ะชอบไหม
''ก็แปลกดี แต่การประกวดทำให้เรารู้จักดูแลตัวเองเป็น คือตอนไปประกวดตอนนั้นได้ตำแหน่ง มิสเอเชีย กับมิสยูนิ เวอร์ ซิตี้ ออฟเอเซีย และเวลาประกวดเขาก็จะสอนการแต่งหน้าทำผม เพื่อให้เราจัดการทำเป็นเองได้หมด ก็เลยทำให้ ทุกวันนี้เราได้อานิสงส์จากเวทีการประกวดนั่นแหละ บริษัทสปอนเซอร์อย่าง คัพเวอร์มาร์ค และเกศสยาม ทำให้โอ๋ แต่งหน้า ทำผมออกงานเองได้''

พี่โอ๋ได้ทำงานตรงกับสาขาที่เรียนมา ทราบว่าจบปริญญาโท จากจุฬาลงกรณ์
''ค่ะ จบโททางด้านการสื่อสารมวลชนและการประชาสัมพันธ์มา ก็ตรงกับงานที่ทำประชาสัมพันธ์ ที่ช่อง 5 มาตลอด บางทีก็จะมีงานเป็นวิทยากรบ้างที่เราต้องออกไปพูดสัมมนา ไปประชุมกับหน่วยงานต่างๆ อะไรที่เสริมภาพลักษณ์ ขององค์กรช่อง 5 ซึ่งเป็นหน่วยงานทหาร เราก็ทำหมดเป็นหน้าที่ ซึ่งโชคดีที่โอ๋เป็นโอ๋ที่ห้าวๆ ตรงๆ เหมาะกับการทำงานในแบบทหารเลยไปได้''



หลายคนแปลกใจไม่ได้ข่าวพี่โอ๋แต่งงานสักที ไม่คิดมีครอบครัวหรือคะ
''ไม่นะ คือเรารู้สึกเรามีความสุขกับชีวิตตอนนี้ ครอบครัวน่ะมีอยู่แล้ว ก็มีแม่ พี่น้อง และหลานชายไงล่ะ ไม่ได้อยู่คน เดียว เราต้องดูแลแม่ มีพี่น้อง มีหลาน มีคนเข้าใจที่เป็นยิ่งกว่าแฟน เป็นเพื่อนที่ให้คำปรึกษาที่ดี แค่นี้ก็พอใจแล้ว แต่ ถ้าเราแต่งงานไปไม่รู้ชีวิตความเป็นตัวเราจะถูกแชร์ไปยังไงบ้าง แล้วเราจะรับชีวิตของการมีคนอื่นเข้ามามีบทบาทกับ ชีวิตของเราได้มากแค่ไหน คือมีครอบครัวก็จะมีห่วงอีกอย่าง แต่ชีวิตจ๊ะโอ๋ รู้สึกว่าอยู่แบบนี้ก็มีความสุขดีแล้วนะ แค่ ทำหน้าที่ของตนเองให้ดี ไม่ผิดกฎหมาย และไม่ผิดศีลธรรม ไม่เดือดร้อน การแต่งงานไม่ใช่คำตอบสุดท้ายของชีวิต แต่งไปแล้วเราก็ไม่รู้มันจะมีความสุขอย่างนี้หรือเปล่า ที่สำคัญเวลานี้มีความสุขแบบพอเพียงก็แล้วกัน''

ไม่รู้สึกว่าเราอาภัพรักเหรอ ไม่ได้มีชีวิตครบครัวแต่งงานมีลูกเองนี่
''มองว่าการอาภัพรักในสังคมนี่เป็นเรื่องการต้องแต่งงานหรือเปล่า อันนี้ไม่รู้นะ แต่สำหรับจ๊ะโอ๋ อยู่ที่ความสุขของ เรามากกว่าที่เราพอใจกับชีวิตตรงไหน มีคนมาจีบไหมก็มีนะ แต่มันไม่ได้คลิกขนาดที่เราต้องแต่งงาน แต่คนรักเราก็ จะเป็นรอบข้าง พี่น้อง แม่ เพื่อนร่วมงาน น้องๆ ที่ทำงาน ชีวิตการทำงานเราโอเคไหม ถ้าทุกอย่างนี้มีความสุขก็พอ เพียงแล้ว โอ๋ไม่ต้องการร่ำรวยกว่านี้ ไม่ต้องมีอะไรใหญ่โต ขอให้เรามีความสุขในกรอบของความดีความถูกต้อง อยู่ ในศีลธรรมไม่ไปแย่งตบตีใครแค่นี้ก็พอแล้ว''

ดูแลตัวเองยังไงให้รูปร่างหน้าตาไม่ร่วงโรยไปตามวัย
''ปกติไม่ได้เข้าเสริมสวยความงาม จะดูแลตัวเองด้วยการออกกำลังกาย จะซิตอัพทุกวัน วันละ 200-300 ครั้ง คือรู้สึก ว่าการออกกำลังกายและเลือกอาหารที่มีคุณภาพนี่ดีที่สุด คือทุกอย่างต้องเริ่มจากสุขภาพภายในร่างกายเราก่อน ดัง นั้นอาหารเสริมหรือศัลยกรรมจ๊ะโอ๋ไม่ได้ทำเลย (เสียดายสตางค์) รูปร่างหน้าตาเราเป็นยังไงก็เป็นอย่างงั้น ขอให้แก่ อย่างมีคุณภาพ''

เคยคิดไปทำงานในอาชีพอื่นนอกจากอยู่ในระบบราชการบ้างไหม
''ไม่นะ รู้สึกว่าอาชีพนี่เหมาะกับตัวเราที่สุดแล้ว คือทำงานกับทหาร แล้วก็ทำให้เรารักเกียรติ รักในอาชีพนี้ ถ้าเราต้อง ไปอยู่ในที่ต้องลำบากกันดารยังไงเราลุยได้ จะมีเหตุการณ์อะไรยังไงที่ไหนก็ไม่กลัว มันซึมซับความรักชาติใน แบบทหารไปแล้ว และอยู่ที่ช่อง 5 ก็มีความสุขดีมาก ให้โอกาสในการทำงานทุกอย่างเลยค่ะ''

ที่มา
สยามดารา