bloggang.com mainmenu search


เผลอแผล็บเดียว หนูน้อยฌอน โรเบิร์ต ไซมอน ลูกชายหัวแก้วหัวแหวน วัยใกล้ 2 ขวบ ของคุณแม่จักรวาล ปุ๋ย-ภรณ์ทิพย์ นาคหิรัญกนก ไซมอน ก็โตเป็นหนุ่ม ส่งภาษาได้ เจื้อยแจ้วแล้ว แถมยังทำท่า ว่าจะเสน่ห์แรง ไม่หยอกซะด้วย เพราะ ถอดนิสัยความช่างพูดช่างคุย และ อารมณ์ดีมาจากคุณแม่เปี๊ยบ!! แม่ลูกคู่นี้รักและผูกพันกันขนาดไหน ต้องแอบย่องไป สังเกตการณ์ดูที่ คฤหาสน์หรู ในซานตาบาร์บาร่า ประเทศสหรัฐอเมริกาโน่น!!

ไม่กี่เดือนก่อนถึงวันเกิดของ “น้องฌอน” ในวันที่ 12 ต.ค.นี้ ซินเดอเรลล่าปุ๋ย ได้เปิดคฤหาสน์หลังใหญ่เบิ้ม ที่เป็นรังรักของเธอกับสามีสุดเลิฟ “เฮิร์บ ไซมอน” ให้ทีมงานนิตยสารลิปส์ นำโดย “ศักดิ์ชัย กาย” ได้เข้าไปบันทึกภาพ พร้อมกับเจาะใจ สัมภาษณ์ เรื่องราวความรักความผูกพัน ระหว่างแม่ลูกมาฝากคนไทย ให้หายคิดถึง วัดจากรอยยิ้มและเสียงหัวเราะเอิ๊กอ๊ากของ “น้องฌอน” แล้ว พนันได้เลยว่า คุณๆจะต้องหลงรักหนูน้อยอารมณ์ดีคนนี้แน่ๆ!!



“ตอนนี้ น้องฌอน เริ่มโตขึ้นมากแล้ว เริ่มช่วยตัวเองได้ แต่ทุกๆ 6 เดือน จะเป็น next level ของเขาตลอด อย่างในช่วง 6 เดือนแรกนี่ ให้กินนมแล้วก็นอน เปลี่ยนผ้าอ้อมแล้วก็นอน ก็แค่นั้น ไม่มีอะไร แต่พอหลังจาก 6 เดือนผ่านมาแล้วสิ เราต้องเริ่มสอนเขา อุ้มเขา สอนเขาทำทุกอย่าง ทุกเดือนเราต้องสอนเขาเพิ่มตลอด แต่โชคดีที่ลูกปุ๋ยเขาว่าง่ายมาก ไม่ดื้อ

...ปุ๋ยคิดว่า อาจจะเป็นเพราะเราให้เวลา ให้ความรักกับเขาตลอด เพราะ ฉะนั้น ถ้าแม่ดุ ก็แปลว่า ต้องมีอะไร ไม่ใช่ว่าเรา จะดุทุกวัน เพราะทุกวันเราก็เล่นกับเขา แฮปปี้กันตลอด แต่เมื่อไหร่ที่ “No” ก็คือ “No” ถ้าปุ๋ยดุ เขาจะกลัว ลูกปุ๋ยนี่แค่ขึ้น เสียงหรือทำหน้าดุ เขาก็จะหยุดทันทีเลย ยิ่ง น้องฌอน เห็นแม่ไม่แฮปปี้ไม่ได้เลยนะ ถ้าปุ๋ยแกล้งร้องไห้ เขาจะตกใจมาก”

แล้วกับ “คุณพ่อเฮิร์บ” ละคะ ชักสงสัยแล้ว สิว่าจะตามอกตามใจ ลูกชายสุดรัก ขนาดไหน

นางงามจักรวาลขวัญใจชาวไทยเล่าให้ฟังอย่างอารมณ์ดีว่า “พ่อเขาจะสปอยลูก ไม่ว่าลูกจะอยากได้อะไร เขาจะให้หมด เขาบอกว่า เขาห้ามไม่เป็น อย่างบ้านเราจะมีลูกแก้วเยอะ บางที น้องฌอน เขาจะเล่นถือลูกแก้ว พ่อเขาก็ไม่กล้าดุลูก แต่ปุ๋ยไม่ได้ เพราะถ้าเกิดเขา หกล้มขึ้นมาล่ะ เดี๋ยวบาดหน้าบาดมือไม่ได้ เราก็ต้องขอคืน แต่คุณเฮิร์บเขาจะไม่กล้า บอกไม่ได้เดี๋ยว ฌอน โกรธเขา ไม่กล้าขัดใจลูก ปุ๋ยก็เลยต้องเป็นฝ่ายไปขอลูกแก้วคืนจากเขา ซึ่งก็ไม่ได้ยากอะไรเลยนะ บอกขอแม่หน่อย เขาก็ให้ เพราะเขาพูดรู้เรื่อง ถ้าปุ๋ยพูดอะไรเขาจะเชื่อ อาจจะเป็นเพราะเราใกล้ชิดกับเขา ไม่ว่าเราบอกอะไรเขาก็จะเชื่อ ปุ๋ยจะให้ความสำคัญกับลูกมาก พยายามให้เวลาเขาเต็มที่



...ถ้าปุ๋ยรู้ว่าวันนี้ปุ๋ยมีงานตอนกลางคืน ตอนเช้าปุ๋ยจะพยายามอยู่กับเขา หรือถ้ากลางวัน ปุ๋ยออกไปธุระ กลางคืนก็จะต้องอยู่กับลูก ก็ต้องแบ่งเวลา อย่างน้อยใน 1 วัน ต้องมีช่วงที่อยู่กับลูกจนเต็มอิ่ม เพราะเรามีงานต้องทำ มีอะไรทำหลายอย่าง ถ้าจะต้องออกจากบ้านก็จะพยายามสลับเวลาให้ลูก ไม่ว่าจะเป็นเช้า เย็น กลางคืน อย่างน้อยต้องมีช่วงหนึ่ง”

ด้วยความรักความเอาใจ ใส่อย่างใกล้ชิดนี่เอง ทำให้ “หนูน้อยฌอน” เป็นเด็กช่างจดช่างจำ และพูดคล่องมาตั้งแต่เล็กๆ โดยคุณแม่ปุ๋ยเล่าอย่างปลื้มอกปลื้มใจว่า “ฌอน เขาพูดได้ตั้งแต่อายุ 10 เดือน พูดได้ 4 ภาษา ทั้งไทย อังกฤษ ฝรั่งเศส และสเปน คำแรกคือคำว่า “ปลา” พอดีตอนนั้นเฮิร์บเขาไปญี่ปุ่น 2 อาทิตย์ ปุ๋ยพยายามฝึกให้ ฌอน เรียก “ป่าป๊า” ให้ได้ สอนเขาทุกเช้า เขาก็เลยพูดคำว่า “ป่าป๊า” ได้ พ่อเขาดีใจใหญ่



ตอนปุ๋ยพาเขากลับเมืองไทย ก็สอนเขาพูดไทย เขาก็พูดได้ เพราะปกติคุณยายช่วยสอน ให้อยู่แล้ว กลับมาเขาก็พูดได้นะ เห็นเรือ เห็นดอกไม้ เขาจะชอบดอกบัว ส่วนใหญ่ปุ๋ยจะ ใกล้ชิดเขา สอนเขาให้พูด สอนเขาให้ไหว้ตั้งแต่ขวบนึง พูด “สวัสดีครับ” แต่ก็ยังพูดไม่ชัด

...สำหรับ น้องฌอน ปุ๋ยกะว่าจะให้เข้าโรงเรียนตอนเขาอายุ 3 ขวบ ให้อยู่โรงเรียนเดียวกับ “แจ๊กกาลีน” (หลานสาววัย 5 ขวบ ลูกน้องสาวที่ปุ๋ยเลี้ยงมาตั้งแต่เกิด) ที่มาลิบู ตอนไปส่งพี่เขา น้องต้องไปด้วย แล้วไม่ยอมกลับ จะเล่นที่โรงเรียน ชอบนั่งรถไปส่งพี่ที่โรงเรียน ชอบโรงเรียน

...เพราะฉะนั้น ช่วงนี้ปุ๋ยจะเป็นคนสอน อะไรเขาด้วยตัวเอง นอกจากนี้ ปุ๋ยจะทำอาหารให้เขาเอง แล้วก็เลือกเสื้อผ้าให้เขาเองด้วย แต่จริงๆแล้ว ฌอน เขาก็ชอบทำทุกอย่างเอง ยกเว้นเรื่องเดียวคือเรื่องผม จะเป็นห่วงมาก ตอนเช้าเขาตื่นมาก็จะ “แม่ ผมๆ” เขาจะห่วงผมมาก จะพูดคำว่า “my hair” ตลอด ถ้าผมยุ่งไม่ยอม อยากจะหล่อ”

นอกจากจะให้ความรักลูกชาย คนเดียวอย่างเต็มที่แล้ว ปุ๋ยยังแบ่งปันความรักให้แก่หลานๆ ซึ่งเป็นทายาทของน้องสาวคนเดียว “บุ๋ม-เทียนทิพย์ นาคหิรัญกนก” ที่เพิ่งเสียชีวิตไปด้วยโรคหัวใจ ระหว่างที่เธอเดินทางกลับมาเมืองไทย เพื่อร่วมเป็นกรรมการตัดสินการประกวดนางงามจักรวาล 2005



“ที่ปุ๋ยเอาลูกน้องสาวมาเลี้ยงเพราะเขาไม่สบาย เขากลัวว่าไม่สามารถที่จะดูแลตัวเองได้ แล้วนี่ยังต้องดูแลลูกอีก ปุ๋ยกับแม่ก็เลยตัดสินใจเอาลูกเขามาเลี้ยง ปุ๋ยเลี้ยง “น้องโทน” กับ “แจ๊กกาลีน” มาตั้งแต่เกิด ตั้งแต่อยู่ในโรงพยาบาลเลย ปุ๋ยกับแม่ก็ช่วยไปเลี้ยงเขา จริงๆบุ๋มเขาก็อยากเลี้ยงลูกเอง เพียงแต่ปุ๋ยกับแม่อยากจะช่วยเขามากกว่า

...ก่อนจะเสีย บุ๋มเขาก็มีลูกคนเล็กอีกคน เป็นลูกชายชื่อแอนดี้ คุณแม่ก็ช่วยดูแลให้ “แอนดี้” เพิ่งจะ 9 เดือนเองตอนที่บุ๋มเสีย ต่อจากนี้ก็เป็นหน้าที่ของ ปุ๋ยกับคุณแม่ที่ต้องช่วยดูแลลูกๆ ของเขาต่อไป เพราะปุ๋ยสัญญากับน้องไว้ ปุ๋ยก็บอกกับน้องว่าไม่ต้องห่วงอะไร อย่างไรปุ๋ยกับแม่จะเลี้ยงลูกให้ ตอนนี้ก็ได้แต่คิดว่าเขาหมดทุกข์ไปแล้ว ปุ๋ยกับแม่ก็ต้องทำใจ สิ่งที่เราจะทำได้ก็คือ เลี้ยงลูกเขาให้ดีที่สุด ให้เหมือนกับเป็นลูกของเราเอง”

ในฐานะที่เป็นแม่รุ่นใหม่ ปุ๋ยไม่ลืมที่จะสอดแทรก ความอ่อนโยนเข้าไปในจิตใจเด็กๆ โดยเธอมักจะให้สัตว์เลี้ยงเป็น ของขวัญวันเกิดเสมอๆ

“ทั้ง ฌอน และ “แจ๊กกาลีน” รักสัตว์ทั้งคู่เลย วันเกิด “แจ๊กกาลีน” เมื่อปีที่แล้ว ปุ๋ยก็ซื้อกระต่ายให้เขา เพราะเขาอยากได้มาก “แจ๊กกาลีน” ตั้งชื่อเองว่า สโนไวท์ เขาคงเห็นว่าเป็นสีขาวไปทั้งตัว เขาดูแลเอง ให้น้ำให้อาหารทุกคืน ส่วน “น้องโทน” ได้หนูแฮมสเตอร์ ฌอน ก็อยากได้ลูกหมา แต่รอให้โตกว่านี้อีกหน่อย ปุ๋ยค่อยให้เขาเลี้ยง เพราะที่บ้านก็มีหมาอยู่แล้ว แต่ตัวนั้นแก่มากแล้ว อายุ 15-16 ปี สองคนพี่น้องนี้เห็นหมาไม่ได้ ชอบมาก”



แม้จะมีพี่เลี้ยงตามประกบแบบตัวต่อตัว แต่คุณแม่ปุ๋ยก็ขอคุมเข้มเรื่องมารยาทและการอบรมเลี้ยงดูลูกชายด้วยตนเอง

“เราต้องสร้างความมั่นใจให้ลูก ให้เขารู้จักช่วยตัวเอง รู้จักวางตัว ถ้าปุ๋ยไปไหนแล้วพาเขา ไปได้ก็จะพาเขาไป ให้เขามีความรู้ ปุ๋ยคิดว่า ถ้าเรามีความรู้ก็จะทำ ให้เรามีความมั่นใจในตัวเอง แต่ที่ปุ๋ยเน้นมากๆคือ มารยาท สำคัญนะ ต้องรู้จักทำความเคารพพ่อแม่ ผู้ใหญ่ รู้จักพูด รู้จักขอบคุณ และให้เกียรติคน

...ตรงนี้ปุ๋ยถือมาก ให้อะไรแล้วไม่ขอบคุณ ปุ๋ยจะไม่ให้เลย ถ้าเป็นเด็กไม่น่ารัก นี่ปุ๋ยไม่เอาเลย ซึ่งปุ๋ยจะสอนแบบนี้ ทั้งสองคน ทั้ง ฌอน และ “แจ๊กกาลีน” เช่น ทะเลาะเรื่องอะไรที่ไม่น่าทะเลาะกัน อย่างอาหาร หรือดูทีวี ถ้าเขา compromise กันไม่ได้ ยอมกันไม่ได้ ตกลงกันไม่ได้ ก็ปิดเลย ไม่ต้องดู พี่น้องกันไม่ควรจะทะเลาะกัน ให้รู้จักคุยกัน ไม่ใช่โกรธแล้วตีกัน แบบนี้ไม่ได้ บางที “แจ๊กกาลีน” ไม่ยอมน้อง หรือน้องไปแกล้งพี่ อันนี้เป็นเรื่องปกติ ปุ๋ยก็จะทำตัวไม่รู้เรื่อง ให้เขาตกลงกันเอง หลังจากนั้นเราจะเข้ามาสอน มาอธิบายให้เขาฟัง พี่น้องต้องรักกัน”

บทบาทใหม่ของคุณแม่ปุ๋ย ถือเป็นความเหนื่อยที่มีแต่จะนำมาซึ่งความชื่นอกชื่นใจ เพราะในโลกนี้คงไม่มีอะไรที่จะสุขใจไปกว่าการได้ให้ โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน!!.
Create Date :06 กันยายน 2548 Last Update :6 กันยายน 2548 11:21:31 น. Counter : Pageviews. Comments :8