ในที่สุดมงกุฎ ''มิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส'' ใบที่ 11 ที่ทางสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 เค้าประกาศ ตามหาเจ้าของอยู่นับแรมเดือน ก็ไปตกอยู่ที่ ผู้เข้าประกวดหมายเลข 33 นามว่า ''น้องปุ๊กลุ๊ค'' ฝนทิพย์ วัชรตระกูล ซึ่งคนไทยทั้งประเทศก็คงจะได้มีโอกาสยลโฉมความงดงามของเธอ ผ่านการถ่ายทอดสดทางช่อง 7 สี เมื่อค่ำคืนวันที่ 20 มี.ค. ที่ผ่านมากันไปแล้ว



ซึ่งหลังจากที่ลงจากเวที นางงามคนใหม่ก็ได้เริ่มภารกิจทันที โดยในช่วงเช้าของวันที่ 21 มี.ค. ที่ผ่านมา น้องปุ๊กลุ๊ค พร้อมด้วยรองอันดับ 1 อย่าง ''น้องเอี๊ยม'' วรรษพร วัฒนากุล ก็ได้เดินทางไปวัดเสมียนนารี เพื่อร่วมทำบุญตักบาตร แด่พระสงฆ์ 3 รูป เพื่อความเป็นสิริมงคลกับชีวิตหลังพิชิตมงกุฎมาได้หมาดๆ ต่อจากนั้นจึงได้เข้าสักการะพระบรมสารีริกธาตุจำลอง ซึ่งอัญเชิญมาจากประเทศศรีลังกาเมื่อปี 2549 โดยนำมาประดิษฐานที่องค์พระเจดีย์ของวัดแห่งนี้เป็นการถาวร ก่อนที่จะเดินทางไปบันทึกเทปรายการต่างๆ ทั้งจันทร์พันดาว และรายการสดอย่าง 07 โชว์ ในช่วงเย็น

ซึ่งทั้งหมดก็เป็นการปฏิบัติภารกิจวันแรก ในฐานะมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส ของ ''น้องปุ๊กลุ๊ค'' ฝนทิพย์ วัชรตระกูล เท่านั้น ซึ่งหลังจากวันนี้เป็นต้นไป ยังมีภารกิจใหม่ๆ ซึ่งล้วนแล้วแต่ท้าทายความสามารถของเธอรออยู่อีกมากมาย โดยเฉพาะการเป็นตัวแทนสาวไทย เข้าร่วมการประกวดนางงามจักรวาล ในช่วงกลางปีนี้ แต่ก่อนจะถึงวันนั้น วันนี้สยามดาราเราถือโอกาสนำพาแฟนๆ ไปทำความรู้จักกับเจ้าของตำแหน่ง มิสไทยแลนด์ ยูนิเวิร์ส ประจำปี 2553 กันก่อน ซึ่งสาวขาอ่อนคนนี้ เป็นใครมาจากไหน เราไปรู้จักกับเธอกันเลย




ทำความรู้จักมิสไทยแลนด์ ยูนิเวิร์ส คนที่ 11

นางสาวฝนทิพย์ วัชรตระกูล หรือ น้องปุ๊กลุ๊ค เป็นชาว อ.บางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ เกิดเมื่อวันที่ 19 ก.ค. 2533 ปัจจุบันอายุ 19 ปี สูง 170 ซม. น้ำหนัก 52 กก. ส่วนสัด 33-25-36 เป็นบุตรสาวคนเล็กในจำนวนพี่-น้องสองคน ของ นายวัชรพล วัชรตระกูล ซึ่งประกอบอาชีพทนายความ ส่วนมารดาชื่อ นางดาวทิพย์ วัชรตระกูล เป็นแม่บ้าน มีพี่สาว 1 คนชื่อ ปางดาว วัชรตระกูล ด้านการศึกษา น้องปุ๊กลุ๊คจบชั้นประถมศึกษาที่ ร.ร.สุขเจริญผล ส่วนระดับมัธยม สำเร็จการศึกษาที่ ร.ร.ราชวินิตบางแก้ว ซึ่งตอนเรียนอยู่ชั้น ม.3 นางงามอย่างน้องปุ๊กลุ๊คเคยทำสถิติสูงสุดด้วยเกรดเฉลี่ย 4.00 มาแล้วด้วย ส่วนปัจจุบันเธอกำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 1 คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เพราะฉะนั้นขอยืนยันว่า นางงามใหม่ของชาวไทยไม่ใช่ประเภทสวยใส ไร้สมองแน่นอน




''ฝนทิพย์'' ชื่อนี้มีที่มาที่ไป

เรื่องนี้ สยามดาราของเราได้รับการบอกเล่าจาก นางดาวทิพย์ วัชรตระกูล แม่บังเกิดเกล้าของน้องปุ๊กลุ๊ค มิสไทยแลนด์ ยูนิเวิร์ส คนที่ 11 หลังจากที่คุณแม่คลอดน้องปุ๊กลุ๊คออกมาได้ไม่กี่นาที มีพยาบาลท่านหนึ่งเข้ามาถามจะตั้งชื่อลูกสาวคนนี้ว่าอะไร?? จวบเหมาะกันที่คุณแม่เหลือบออกไปที่หน้าต่าง เห็นว่าพายุที่กำลังพัดกระหน่ำ และฝนที่กำลังตกหนักอยู่ ทำให้ไอเดียบรรเจิด เกิดความคิดที่จะใช้ชื่อ ''ฝนทิพย์'' ขึ้นมาทันที ซึ่งชื่อนี้ก็เป็นการรวมเอา ฝนที่กำลังตกอยู่ในขณะนั้น มาบวกกับชื่อ ดาวทิพย์ ของคุณแม่ ก็เลยกลายเป็น ฝนทิพย์ ส่วนที่มาของชื่อเล่น ''ปุ๊กลุ๊ค'' ก็เนื่องมาจากว่า ตอนเป็นเด็กเธอเป็นคนอ้วน แก้มป่อง ก็เลยทำให้คุณแม่ต้องชื่อน้องว่าอ้วนปุ๊กลุ๊ค นั่นเอง




เส้นทางสู่การเป็น มิสไทยแลนด์ ยูนิเวิร์ส 2553

แม้ว่าการได้เป็น ''มิสไทยแลนด์ ยูนิเวิร์ส'' จะเป็นความใฝ่ฝันของหญิงไทยทุกคน แต่สำหรับน้องปุ๊กลุ๊คแล้ว เธอบอกว่า ความใฝ่ฝันสูงสุดของเธอนั้น คือการได้เป็น นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของเมืองไทย ส่วนเรื่องการเป็นนางงาม ไม่เคยอยู่ในความคิดของเธอเลย แต่สาเหตุที่เธอต้องตัดสินใจเข้าร่วมการประกวดเวทีนี้ ซึ่งเป็นเวทีที่ 2 ในชีวิตของเธอ หลังจากที่เคยคว้าตำแหน่ง มิสโฟโต้ฮัท แฟร์ 2009 มาแล้ว ก็เพราะว่าญาติของเธอซึ่งทำงานเป็นออร์แกไนซ์อยู่ที่ห้างเซ็นทรัล ลาดพร้าว สถานที่ประกวด เป็นคนชักชวนแนะนำให้มาสมัคร ซึ่งน้องปุ๊กลุ๊คเห็นว่าเวทีใหญ่แห่งนี้ น่าจะสามารถผลักดัน สานฝันการเป็นนายกรัฐมนตรีของเธอได้ เพราะหากเธอได้ตำแหน่ง ก็จะเป็นโอกาสที่ดี ที่จะทำให้เธอได้ทำงานเพื่อสังคม โดยเฉพาะเรื่องของสิทธิสตรีไทย ที่เธอมองว่าปัจจุบันยังมีการเหลื่อมล้ำกับเพศชายอยู่มากนั่นเอง




ความรู้สึกแรก หลังรู้ว่าตัวเองได้มงกุฎ

น้องปุ๊กลุ๊ค เจ้าของตำแหน่ง มิสไทยแลนด์ ยูนิเวิร์ส ประจำปี 2553 ได้เผยความรู้สึกหลังทราบว่าตัวเองได้มงกฎมิสไทยแลนด์ ยูนิเวิร์ส ว่า ตนรู้สึกงงมาก ทำตัวไม่ถูก ยังนึกว่า ''พี่ดู๋'' สัญญา คุณากร ซึ่งทำหน้าที่พิธีกรในวันนั้น ประกาศชื่อผิดด้วยซ้ำไป แต่พอตั้งสติได้ ก็รู้สึกขนลุกขึ้นมาทันที ไม่นึกว่าตัวเองจะก้าวมาถึงจุดนี้ได้ เพราะก่อนประกวดตนหวังเพียงตำแหน่งเล็กๆ เพื่อที่อยากจะมีรางวัลติดไม้ติดมือกลับไปฝากที่บ้านเท่านั้น เนื่องจากไม่กล้าฝันไปไกล เพราะเพื่อนๆ สาวงามทุกคนต่างก็มีจุดเด่น และมีความสามารถด้วยกันทั้งสิ้น ส่วนสาเหตุที่ทำให้ตนชนะใจคณะกรรมการได้ คงเป็นเพราะรอยยิ้ม ความเป็นคนอัธยาศัยดี และที่สำคัญคงเป็นความมุ่งมั่นและตั้งใจจริงของตัวเอง ซึ่งทำทุกกิจกรรมที่ได้รับมอบหมายอย่างตั้งใจ




เงินรางวัล 1 ล้าน 2 แสนบาท จะนำไปทำอะไร

ซึ่งนอกจากเงินรางวัล 1 ล้านบาทจากตำแหน่งมิสไทยแลนด์ ยูนิเวิร์ส แล้ว เจ้าตัวยังควบตำแหน่งขวัญใจช่างภาพสื่อมวลชน พร้อมกับเงินรางวัลอีก 2 แสนบาทด้วย ซึ่งเงินทั้งหมดนี้ น้องปุ๊กลุ๊คบอกว่า ตนคงจะต้องปรึกษาครอบครัวอีกที แต่ส่วนตัวแล้ว คิดว่าจะแบ่งไว้ทั้งหมด 4 ส่วน โดยส่วนแรกจะเก็บไว้เป็นทุนการศึกษา ส่วนที่สองจะนำไปบริจาคให้กับมูลนิธิสุนัขจรจัด เพราะตนเป็นคนรักสุนัขมาก อย่างที่บ้านตอนนี้ก็เลี้ยงไว้ทั้งหมด 6 ตัว ซึ่ง 4 ตัวซื้อมา ส่วนอีก 2 เป็นสุนัขจรจัดที่เก็บมาจากข้างถนน ส่วนที่ 3 จะนำไปสร้างศาลพระภูมิที่บ้าน เนื่องจากก่อนที่จะเดินทางมาสมัครเวทีแห่งนี้ ก่อนออกจากบ้านตนก็ยกมือไหว้พระ พร้อมกับนึกในใจว่า หากได้ตำแหน่งขึ้นมา ตนจะนำเงินมาสร้างศาลพระภูมิ และส่วนที่ 4 ตนก็จะนำไปให้พ่อกับแม่ ผู้ให้กำเนิดนั่นเอง




นิสัยส่วนตั๊ว...ส่วนตัว

เรื่องนี้คุณพ่อของปุ๊กลุ๊ค ได้พูดถึงอุปนิสัยของลูกสาวคนสวยของตัวเองให้ฟังว่า น้องปุ๊กลุ๊คจะเป็นคนที่มีความรับผิดชอบสูง ค่อนข้างจริงจังกับชีวิต หากคิดจะลงมือทำอะไรแล้วก็ต้องทำให้ได้ และที่สำคัญเป็นคนตรงต่อเวลามาก หากได้นัดหมายกับใครไว้ เธอจะต้องไปให้ตรงเวลานัด หรือก่อนเวลานัดเสมอ ส่วนการเลือกที่จะเรียนด้านกฎหมาย คุณพ่อซึ่งมีอาชีพเป็นทนายความ ไม่ได้บังคับลูกสาวคนนี้แต่อย่างใด แต่เป็นความต้องการของน้องปุ๊กลุ๊คเอง ที่อยู่อยากจะเห็นความยุติธรรมเกิดขึ้นกับสังคมไทย เพราะเธอไม่ชอบให้ใครมาเอาเปรียบ และก็ไม่ชอบเอาเปรียบใครด้วย




วางอนาคตในวงการบันเทิงไว้ยังไง

ถามถึงเรื่องอนาคตในวงการบันเทิง น้องปุ๊กลุ๊ค ถึงกับหัวเราะร่า พร้อมบอกกับเรามาว่า แม้ว่าจะเป็นงานที่เธอไม่ถนัดนัก แต่เธอก็พร้อมที่จะทำ หากผู้ใหญ่ให้โอกาส และเห็นว่าสมควร ซึ่งงานในวงการบันเทิงที่เธอเห็นว่าตนเองน่าจะทำได้ดีที่สุด นั่นคือเรื่องของการร้องเพลง และการเต้น ส่วนถ้าหากได้เล่นละครจริงๆ ก็คงต้องเรียนเรื่องของแอ็กติ้งก่อน ส่วนแฟนๆ ทางช่อง 7 สี จะได้เห็นน้องปุ๊กลุ๊คอยู่ในจอทีวี ในฐานะนางเอกละครหรือเปล่านั้น คงต้องถาม ''คุณแดง'' สุรางค์ เปรมปรีดิ์ บอสใหญ่วิก 7 สี เท่านั้นเจ้าค้า...าาา!!




การเตรียมตัวก่อนไปประกวดนางงามจักรวาล

น้องปุ๊กลุ๊คบอกว่า ก่อนที่เธอจะต้องทำหน้าที่ตัวแทนสาวไทยไประกวด มิสยูนิเวิร์ส 2010 ในช่วงกลางปีนี้ สิ่งที่เธอต้องไปทำเป็นอันดับแรก นั่นคือ การลดน้ำหนัก เพราะเธอรู้สึกว่าตอนนี้ตัวเองอ้วนมาก ส่วนเรื่องบุกลิกภาพ การเดิน การแต่งหน้า ทำผม เธอคงจะต้องเข้าคอร์สเรียนเพิ่มเติม ตามที่ช่อง 7 สี ต้นสัดกัดเห็นสมควร ส่วนสิ่งที่น้องปุ๊กลุ๊คคิดว่าจะนำไปสู้กับสาวงามจากชาติอื่นๆ บนเวทีขาอ่อนโลกนั้น คือความงดงาม ความอ่อนหวาน ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ตามแบบฉบับความเป็นไทย และเธอก็พร้อมที่จะนำวัฒนธรรม ทั้งการไหว้ ขนบธรรมเนียม ประเพณี ความเป็นไทยต่างๆ ไปเผยแพร่บนเวทีนางงามโลกด้วย




ว่าที่นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรก กับความเห็นเรื่องการเมืองปัจจุบัน

ในฐานะที่เรียนทางด้านกฎหมาย และยังมีความฝันอยากจะเป็นนายกฯ หญิงคนแรกของไทยด้วย สาวสวยอย่างน้องปุ๊กลุ๊ค ก็เลยขอพูดถึงเรื่องปัญหาการเมืองในปัจจุบันด้วยว่า ขนาดครอบครัวเล็กๆ ยังมีการทะเลาะเบาะแว้งกันให้เห็น เพราะฉะนั้นเป็นเรื่องธรรมดาที่ครอบครัวใหญ่ๆ อย่างประเทศไทย จะต้องมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันบ้าง แต่ตนก็เชื่อว่าสุดท้ายประชนชาวไทยทุกคนจะต้องกลับมาสามัครคีและรักกันเหมือนเดิม เพียงแต่คงต้องใช้เวลาหน่อย แต่การที่จะกลับมาสามัครคีกันได้ ทุกคนคงจะต้องเปิดใจให้กว้าง ยอมรับความคิดเห็นซึ่งกันและกัน อยากให้ทุกคนเริ่มต้นที่ตัวเองก่อน แค่เพียงคนคนเดียว และทุกๆ คนช่วยกันรัก และสามัคคีกัน ก็จะกลายเป็นร้อยเป็นพัน และในที่สุดก็จะกลับมาสามัคคีกันเหมือนเดิมแน่นอน




และทั้งหมดนี้ คงจะเพียงพอที่จะทำให้ชาวไทยทุกคน รู้จักกับตัวตนของ มิสไทยแลนด์ ยูนิเวิร์ส คนที่ 11 อย่าง "น้องปุ๊กลุ๊ค" ฝนทิพย์ วัชรตระกูล มากยิ่งขึ้น ซึ่งแม้ว่าเธอจะยังไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศไทยตามที่เธอใฝ่ฝันไว้ แต่เชื่อว่าการที่ผู้หญิงตัวเล็กๆ แต่คิดการใหญ่อย่างเธอ จะต้องมาทำหน้าที่ เป็นตัวแทนประเทศไทย ไปชิงชัยมงกุฎเวทีขาอ่อนโลก อย่าง มิสยูนิเวิร์ส 2010 พร้อมกับทำหน้าที่เพื่อสังคม ตลอดระยะเวลาในช่วงดำรงตำแหน่ง 1 ปีต่อจากนี้ไป คงจะเป็นบทพิสูจน์ความสามารถ และความมุ่งมั่นของผู้หญิงช่างฝันอย่างเธอได้แน่นอน ขอให้โชคดี ฝนทิพย์ วัชรตระกูล

ที่มา
สยามดารา
mtu.ch7.com