เปิดศักราชใหม่ด้วยงานแต่งของเจ้าสาวคนสวย เธอเป็นอดีตนางสาวไทย เป็นจิตแพทย์ และเธอเป็นทั้งผู้ประกาศข่าวช่อง 11 หมอเบิร์ท-พญ อภิสมัย ศรีรังสรรค์ และแอนดริว ชาร์ล เมลก้า
หนุ่มผู้โชคดีเป็นผู้จัดการด้านบริหารระบบการแพทย์ บริษัทของสหรัฐอเมริกา แต่มาประจำการที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ สุขุมวิท
รักกลางอากาศบทเริ่มต้นของความรักของเธอและเขา โรแมนติกชวนฝันไม่แพ้หนังรักหวานของเกาหลีเลยล่ะ เรื่องมีอยู่ว่า... เมื่อ 6 ปีที่แล้วหมอเบิร์ทบินไปประชุมทางการแพทย์กับโรงพยาบาลที่ปักกิ่ง ประเทศจีน โดยเลือกบินในชั้นประหยัด แต่แอร์โฮสเตสใจดี ให้เธออัพเกรดไปนั่งที่ชั้นธุรกิจ เป็นที่นั่งถัดจากหนุ่มฝรั่งคนหนึ่ง ท่าทางใจดี ทั้งคู่ยิ้มทักทายกันเล็กน้อย
ช่วงที่บินนั้นเป็นช่วงแข่งขันฟุตบอลยูโร ดีหลายคนชมการถ่ายทอดสด และมีเสียงเฮเป็นระยะๆ แต่ผู้ชายคนนี้นั่งเงียบอ่านหนังสือไม่สนใจใดๆ กับการแข่งฟุตบอล จนเธออดสงสัยไม่ได้ว่าเขาเป็นใครกันเนี่ย จึงไม่สนใจการแข่งบอลเช่นผู้ชายทั่วไป (ก็เขาเป็นอเมริกันไม่ชอบฟุตบอล แต่ชอบอเมริกันฟุตบอลมากกว่าอ่ะ)
เวลาผ่านไป การประชุมสัมมนาเสร็จลงอย่างเรียบร้อย บังเอิ๊นบังเอิญ หรือจะเป็นพรหมลิขิต ไฟลต์ขากลับเมืองไทย หมอเบิร์ทบังเอิญได้ที่นั่งติดกับชายหนุ่มคนเดิม
ตอนนั้นเองที่เธอและเขาได้เริ่มทักทายกันอย่างจริงจัง จึงได้รู้ว่า หนุ่มแอนดริว เป็นรองผู้อำนวยการโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในกรุงปักกิ่ง ที่กำลังจะย้ายมาทำงานที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ สุขุมวิท ขณะที่ชายหนุ่มก็ได้เรียนรู้ว่า เธอเป็นจิตแพทย์ที่ไปประชุมงานที่ปักกิ่ง พระเอกนางเอกได้แลกนามบัตรกันและกันไว้
หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็มาทำงานที่ประเทศไทย และก็ติดต่อมาหาเธอตลอด เพราะไม่มีเพื่อนที่เมืองไทยเลย เหมือนกามเทพจะเริ่มทำหน้าที่เข้มข้นขึ้น ยิ่งรู้จักกันไปยิ่งรู้ว่า ทั้งคู่มีวิถีชีวิตที่คล้ายๆ กัน ทั้งชอบดำน้ำ ชอบเดินทาง ชอบอ่านหนังสือ ชอบทำอาหาร ปลูกต้นไม้ และไม่ค่อยชอบออกงานสังคม หรือใช้ชีวิตปาร์ตี้รื่นเริงเท่าไหร่
เมื่อแอนดริวรู้ว่าเธอมีก๊วนเพื่อนดำน้ำ แน่นอนเขาไม่รีรอที่จะเข้ากลุ่มเป็นสมาชิกใหม่ ตะลอนติดสอยไปดำน้ำด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นทริปในประเทศไทยหรือต่างประเทศ ซึ่งเพื่อนๆ ในกลุ่มของเธอล้วนเป็นบุคลากรในวงการแพทย์ด้วยกันทั้งสิ้น ทำให้เขาต่อติดได้ง่ายกับเธอและเพื่อนๆ ของเธอ
แหล่งนัดพบของคู่หวานย้อนไปตอนนั้นหมอเบิร์ทยังอ่านข่าวอยู่ช่อง 7 จึงเป็นที่รู้จักอยู่พอสมควร เธอจึงระวังตัวไม่อยากให้เรื่องส่วนตัวเป็นที่รับรู้ในวงกว้างเกินไป ทุกครั้งที่นัดพบกันจึงมักเป็นที่ร้านวีรสุ ที่เป็นศูนย์รวมเครื่องครัว เครื่องใช้ไฟฟ้า ย่านถนนวิทยุ ต่างพากันชี้ชวนเลือกเครื่องครัวไปทำอาหารบ้าง ทำขนมบ้าง ตลอด 5 ปีกว่าที่คบกันไม่เคยไปไหนเกินกว่า ไปกินข้าวที่ช่อง 7 กับตึกวีรสุ แล้วก็ทริปดำน้ำ ไม่มีที่จะไปกินข้าว ดูหนัง แบบที่หนุ่มสาวทั่วไปเขาทำกัน เพราะตอนนั้นแม่ไม่ปลื้มหนุ่มต่างชาติ จึงต้องเป็นความลับสุดขีด แม้ว่าที่บ้านเธอจะไม่เปิดไฟเขียวเขาก็อดทน เฝ้ารออย่างใจเย็น ไม่กดดัน ไม่เร่งรัด ไม่รีบร้อน พยายามที่จะเข้าใจวัฒนธรรมไทยอย่างสุดซึ้ง
เมื่อวีรสุเป็นแหล่งนัดพบที่สำคัญ สิ่งที่แอนดริวมักจะให้เบิร์ทบ่อยๆ ก็คือ อุปกรณ์ทำขนมพวกเบเกอรี ถาดอบขนมชุดใหญ่ เครื่องชา กาแฟ และเครื่องครัวต่างๆ รวมถึงต้นไม้ที่เขาให้เธอเสมอๆ เพราะหมอเบิร์ทชอบปลูกต้นไม้ ขณะที่แอนดริวชอบสะสมของเก่า เธอก็มักจะให้ของขวัญเขาเป็น หมวกเก่า รถโมเดลโบราณ ที่เธอสั่งซื้อจากอีเบย์
เป็นการเรียนรู้กันและกันอย่างใจเย็นและอบอุ่น ตอนที่หมอเบิร์ทได้ทุนไปเรียนต่อที่แคนาดา 3 ปี เวลามีปัญหาเรื่องเรียน เรื่องภาษาเขาจะเป็นเบื้องหลังที่ดีในการสนับสนุนช่วยเธอทำรายงานทำงานวิจัย และสไกป์คุยกันทุกวันไม่ห่างเหิน
รักต้องการเวลา 6 ปีไม่เคยทะเลาะกันหมอเบิร์ท บอกว่าคบกันมา 6 ปีกว่า ไม่เคยทะเลาะหรืองอนกันเลย เป็นมิตรภาพที่ราบรื่นและมีความสุขแบบที่ผู้ใหญ่คบกัน ไม่หวานจัดแต่ก็อบอุ่นจริงใจ เวลาที่เธอเริ่มไม่แฮปปี้ เขาจะบอกว่าอย่างอน อย่าโกรธกันเลย คนเราอยู่ไม่ถึง 100 ปีจะโกรธกันทำไม และถ้าจะทำโทษด้วยการไม่พูดกับเขา เพื่อให้เขาเสียใจละก็แน่นอนเขาเสียใจและรู้สึกผิดอยู่แล้ว
คือเขาจะใจเย็น ใจดี และนิสัยดีเป็นผู้ใหญ่ ไม่เคยเห็นเขาโมโหเลย ถ้าไม่พอใจเขาจะเงียบไม่ก้าวร้าวหรือพูดมาก เมื่อเรารู้สึกไม่ดี เขาจะพูดให้สติอย่างใจเย็น ไม่เคยชวนทะเลาะเลย เบิร์ทเลยไม่เคยงอนหรือทะเลาะกับเขาสักครั้งตั้งแต่คบกันมา
ส่วนเขาบอกว่าชอบเธอเพราะเธอเป็นผู้ใหญ่ ใจเย็น ติดดิน ไม่เรื่องมาก และสวย ตอนที่รู้จักกันเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอเป็นนางสาวไทย เขารู้แค่ว่าเธอเป็นจิตแพทย์ จนผ่านไประยะหนึ่งเพื่อนที่ทำงานเขาถามว่า นึกยังไงไปจีบนางสาวไทย เขาถึงเพิ่งรู้ ว้าว... เรามีแฟนเป็นนางสาวไทย แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น เขาชอบเธอเพราะเธอดูเป็นคนดีและรักครอบครัวเหมือนเขา
ฝรั่งหัวใจไทยแอนดริว เกิดและเติบโตที่วิสคอนซิน สหรัฐอเมริกา ตอนเรียนมหาวิทยาลัยเขาเคยมาเที่ยวประเทศไทยเมื่อ 20 ปีที่แล้ว และมาอีกครั้ง เพื่อมาเยี่ยมพี่สาวที่ทำงานอยู่สถานทูตสหรัฐประจำประเทศไทย เพราะพี่สาวเขาอยู่ที่นี่ถึง 4 ปี ประเทศไทยจึงเป็นความคุ้นเคยกับเขาอย่างยิ่ง เขามีความประทับใจหลายอย่างในประเทศไทย และผู้หญิงไทยที่ส่วนใหญ่ก็ดูอ่อนหวาน เรียบร้อย รักครอบครัว ซึ่งต่างกับผู้หญิงชาติอื่น
ตอนนี้เขาเริ่มสนใจพุทธศาสนา ชอบไปทำบุญที่วัด และได้อ่านหนังสือธรรมะเป็นภาษาอังกฤษอยู่หลายเล่มที่เธอจัดหามาให้ แรกๆ เขาสงสัยว่าทำไมเธอจึงไปปฏิบัติธรรมบ่อยๆ และดีอย่างไร เมื่อเธอเล่าเขาเริ่มสนใจมากขึ้นๆ และตามเธอไปทำบุญที่วัดอยู่หลายครั้ง เขาชอบหลายอย่างแบบไทยๆ พิธีแต่งงานเช้าที่บ้าน ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ซอยสวนพลู นั้น จัดแบบไทยแท้ๆ เจ้าบ่าวและแขกฝ่ายเจ้าบ่าวทุกคนแต่งชุดไทย นุ่งโจงกระเบนและเสื้อราชปะแตน ซึ่งเป็นความประสงค์ของเจ้าบ่าวเอง
งานนี้ไม่มีของชำร่วย...แต่ได้ทำบุญด้วยกันแอนดริว บอกว่าของชำร่วยแต่งงานส่วนใหญ่ก็มักจะไม่ค่อยได้ใช้ประโยชน์อะไร บางคนได้ไปก็ทิ้งเป็นของรกบ้านเปล่าๆ เขาจึงเสนอว่า เอาเงินที่จะไปสั่งทำของชำร่วย 3-4 หมื่นบาทนั้นไปทำบุญดีกว่า แล้วทำเป็นการ์ดเล็กๆ ขอบคุณแทน แขกที่มาร่วมงานและคู่บ่าวสาวทำบุญร่วมกัน ได้เริ่มต้นสิ่งดีๆ พร้อมกัน และเธอก็เห็นด้วยอย่างยิ่ง ในที่สุดเธอกับเขานำเงินเกือบ 4 หมื่นบาทที่ต้องไปจ่ายค่าของชำร่วย ไปมอบให้กับศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็กที่โรงพยาบาลศิริราช เด็กหลายคนจะได้ประโยชน์จากเงินตรงนี้
สำหรับบางคน ความรักเป็นเรื่องยากกว่าที่จะลงเอยกันได้ ผ่านอุปสรรคมามากมาย แต่เธอโชคดีความรักเกิดขึ้นอย่างเรียบง่าย ค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไป อย่างเข้าใจ อบอุ่น และลงตัวเช่นนี้
ที่มาโพสต์ทูเดย์
โดย: 1 IP: 118.173.85.159 21 มกราคม 2555 11:41:35 น.
โดย: x IP: 182.52.114.89 23 มกราคม 2555 12:15:18 น.
โดย: teawpretty 29 กุมภาพันธ์ 2567 15:41:52 น.