bloggang.com mainmenu search
557000007968301

              ข่าวการเสียชีวิตของ “น้องแก้ม ด.ญ.กชกร พิทักษ์จำนง” วัย 13 ปี ที่ถูกพนักงานทำความสะอาดบนรถไฟ เรียกว่าทั้งเสพยาบ้าทั้งดื่มเบียร์ก่อนเข้าไปข่มขืนระหว่างอยู่ในตู้นอนของรถไฟสายสุราฎร์ธานี-กรุงเทพฯ ก่อนคนร้ายจะโยนร่างออกจากรถไฟเพื่อปกปิดคดี กลายเป็นข่าวที่สะเทือนใจอยู่ไม่น้อย ไม่เว้นแม้แต่คนบันเทิงที่ได้โพสต์ข้อความลงอินสตาแกรมร่วมไว้อาลัยน้องแก้ม และเรียกร้องให้แก้กฎหมายใหม่ ข่มขืนเท่ากับประหารสถานเดียว และหนึ่งในแกนนำที่เห็นชัดเจนคือ “บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี” ที่ทนไม่ไหวกับเหตุการณ์ดังกล่าว ถึงขั้นลุกขึ้นมาอาสาล่ารายชื่อประชนชนให้ครบ 1 แสนเพื่อนำไปยื่นแก้กฎหมายคดีข่มขืนให้หนักกว่าเดิมด้วยวิธีประหารชีวิต ท่ามกลางคนบันเทิงที่ร่วมด้วยช่วยแชร์ข้อความดังกล่าวของบุ๋มผ่านไอจีเป็นจำนวนมาก

              ล่าสุดวันนี้(8 กรกฎาคม 2557) บุ๋มก็ได้ออกมาเปิดใจให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ ไนน์เอ็นเตอร์เทน ณ บมจ. อสมท. โดยชี้แจงว่าตนไม่อยากให้คนทำผิดได้สิทธิ์ลดหย่อนโทษจนออกมาลอยนวลทำผิดซ้ำซาก และไม่หวั่นคำครหาเกาะกระแสข่าวดัง ปลื้มได้รับการตอบรับล้นหลามจากศิลปินนักแสดง ไม่เว้นแม้แต่ “อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ” ที่เห็นด้วยในเรื่องนี้

              “จริงๆ เรื่องกระแสของการข่มขืนบุ๋มว่าฮือฮาก่อนที่บุ๋มจะโพสต์อีกนะคะ เพียงแต่ว่าบุ๋มขอเวลาในการจัดการเรื่องตู้ปณ.ให้เรียบร้อย ก็ขอบคุณทางไปรษณีย์ด้วยที่ลัดระบบให้นิดหนึ่งทำให้เช่าตู้ไปรษณีย์ได้ จริงๆ บุ๋มดำเนินการเรื่องนี้มาสักพักใหญ่แล้ว ถ้าหลายๆ คนตามอินสตาแกรมของบุ๋มก็จะเห็นว่ามีการศึกษาเรื่องกฎหมายพวกนี้มาเยอะพอสมควร เพื่อให้ความชัดเจน เป็นความถูกต้องและยื่นเสนอขอแก้ไขกฎหมาย การเสนอยื่นรายชื่อไม่ผิดพลาด เลยต้องขอเวลาในการศึกษาอย่างแท้จริง ตอนนี้ตามพรบ.การเข้าชื่อเสนอกฎหมายปี 2556 บางคนบอกว่าใช้แค่หนึ่งหมื่นรายชื่อถ้าเป็นจดหมายปกติ แต่ถ้าเกิดมีแก้ไขเนื้อหาของรัฐธรรมนูญอันนั้นต้องเป็นห้าหมื่นรายชื่อขึ้นไป ซึ่งจริงๆ แล้วบุ๋มว่าเราไม่รู้ว่าใครบ้างที่มีสิทธิ์ในการเข้ามาบอกว่ารายชื่อต้องเป็นคนที่มีสิทธิ์ในการเลือกตั้ง เลยไม่รู้ว่าใครบ้างจะมีสิทธิ์ไม่มีสิทธิ์ บางคนอาจไม่ได้ไปเลือกตั้งบางครั้งมันก็อาจจะเกิดขึ้นได้ แต่ใครที่อยากช่วยตรงนี้บุ๋มเข้าใจ บุ๋มเลยขอเป็นหนึ่งเพื่อให้รู้ถึงกระแสสังคมว่าเราไม่ต้องการให้เกิดกรณีอย่างนี้เกิดขึ้นอีก”

              “เราไม่อยากให้เกิดเหยื่อในสังคมไทยขึ้นอีกค่ะ ดังนั้นบุ๋มเลยจัดการเรื่องตู้ปณ. 43 ปณฝ. ห้วยขวาง กรุงเทพ 10327 รหัสอาจแปลกนิดหนึ่งเพราะเป็นไปรษณีย์ที่เช่าไปรษณีย์เขาเพื่อดำเนินการได้ตามสะดวก ขอเป็นสำเนาบัตรประชาชนของคุณขีดคร่อมเลยค่ะว่าเพื่อเปลี่ยนแปลงกฎหมายข่มขืนเท่านั้น เพื่อระวังว่าบุ๋มไม่เอาไปทำอย่างอื่นแน่นอน แล้วก็ลงชื่อ ลงวันที่แล้วส่งมาที่ตู้ไปรษณีย์ที่บุ๋มได้บอกไป หลายคนก็เป็นกระแสกลับมาอีกว่า ถ้าถึงโทษประหาร ส่วนใหญ่จะกลัวว่าฆาตกรจะฆาตกรรมและหลบซ่อนศพเพื่อไม่ให้ตัวเองจับได้แต่จริงๆ แล้วตามหลัก เมื่อเราได้รายชื่อแล้ว ตามหลักเดิมเราต้องเอาไปให้ผู้ตรวจการแผ่นดิน ผู้ตรวจการแผ่นดินก็เสนอเข้าครม. เพื่อพิจารณากฎหมายต่อไป”

              “แต่ในกรณีนี้จะยื่นไปทางประธานคสช.เลยค่ะ แล้วก็เพื่อดูแลพิจารณากฎหมายต่อไป ไหนๆ เห็นบอกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงกฎหมายอยู่แล้ว หลายคนก็อยากให้เปลี่ยนแปลงกฎหมายของการข่มขืน เรื่องของเรื่องว่าจะมีการรับโทษหนักขนาดไหน ก็เป็นเรื่องของผู้ใหญ่ที่จะพิจารณากันอีกที แต่อย่างน้อยพวกเราควรเริ่มหัวขบวนไหมคะ ถ้าเกิดเอาแต่พูด อย่างน้องๆ ในเว็บไซด์ อย่างเช้นส์โออาร์จีก็ทำในเว็บพันทิพ ก็ทำลงชื่อกันเยอะแยะมากมาย บุ๋มดีใจค่ะที่เห็นสิ่งดีๆ แบบนี้ในสังคมไทย แต่ถ้าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงทางกฎหมายต้องใช้เอกสารทางราชการของจริงค่ะ บุ๋มถึงต้องทำตรงนี้เกิดขึ้นเพราะบุ๋มเห็นกระแสแบบนี้ต่อไปไม่ไหวแล้ว เราพูดกันมานานมากแล้ว เราควรทำอะไรควรลงมือจริงๆ จังๆ ซักที บุ๋มได้เป็นแค่หัวขบวนค่ะ บุ๋มคงไม่สามารถเปลี่ยนแปลงกฎหมายอะไรได้”

เผยไม่อยากให้คนทำผิดเดินลอยนวลในสังคมแล้วทำผิดซ้ำ
              “สำหรับคนที่มีลูกสาวอย่างบุ๋ม บุ๋มคงไม่อยากให้จิ้งจอกสังคมรับโทษแล้วเดินออกมาลอยนวล ทำผิดแล้วผิดอีก บางคน 6 คดีนะคะ เราจะอยู่ในสังคมนี้ยังไง ลองเป็นเหยื่อเอง ลองเป็นคนที่มีลูกหลานเอง มันอยู่ยากค่ะ ต่อให้ประหารเดี๋ยวถ้าสารภาพเขาก็มีกระบวนบวนการในการลดหย่อน คุณไม่ต้องไปกลัว ถ้ากลัวแสดงว่าคิดทำผิดสิ ถูกไหมคะ ดังนั้นอย่ากลัวสิ่งที่เราไม่คิดจะทำค่ะ แต่เราต้องกลัวคนที่คิดจะทำผิดค่ะ”

บอกเตรียมการนานแล้ว ตั้งแต่ตอนไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งเมื่อต้นปีแล้วโดนด่ายับ
              “นานแล้วค่ะ ตั้งแต่คราวที่บุ๋มมีเรื่อง (หัวเราะ) บุ๋มไปเลือกตั้งตั้งแต่คราวที่แล้ว ว่าคนมีสิทธิ์ยื่นเสนอกฎหมายได้ต้องเป็นผู้ที่มีสิทธิ์เลือกตั้ง คราวที่แล้วบุ๋มโดนกระแสในเน็ตเยอะมากแต่คราวนี้คือไม่รอแล้วดีกว่า จะครม.ไหน จะคสช.ไหนได้หมดค่ะ ขอให้มีการเปลี่ยนแปลงดีๆ เกิดขึ้น อนาคตเราไม่รู้หรอกว่าเราจะได้กฎหมายนี้โทษหนักขนาดไหน นั่นเป็นเรื่องที่ผู้ใหญ่พิจารณาอีกทีค่ะ แต่ตอนนี้เราต้องเริ่มกันแล้วค่ะ ถ้าด้วยความตั้งใจอยากให้สำเร็จร้อยเปอร์เซ็นต์ค่ะ ก่อนที่ตัวเองจะเป็นอะไรไปในชีวิตนี้ อยากให้กฎหมายนี้เปลี่ยนแปลงค่ะ”

ข้องใจทำไมเก็บเห็ดผิดกฎหมายต้องโทษจำคุก 30 ปี ส่วนคดีข่มขืนร้ายแรงกว่าจำคุกแค่ 4-20 ปี
              “ถ้าข่มขืนต้องดูนะคะในกรณีข่มขืนต้องลองไปสัมภาษณ์เหยื่อดูว่าข่มขืนแล้วเขาอยู่อย่างไร หลายคนบอกว่ากลัวเรื่องแพะรับบาป อันนั้นมันอีกเรื่องไหม อีกกระบวนการไหม ร้อยคนที่เป็นนักโทษข่มขืนกี่คนที่เป็นแพะ บุ๋มถามอย่างนี้ ถ้าเรามัวแต่แคร์คนกลุ่มน้อยที่จะเป็นแพะ มันไม่ใช่คดีข่มขืนคดีเดียวนะคะ คดียักยอกทรัพย์ คดีลักเล็กขโมยน้อย คดีเรื่องการทำร้ายร่างกาย เรื่องการหมิ่นประมาท มันมีแพะกันทั้งนั้นแหละ นั่นคือกระบวนการตัดสินพิจารณาโทษที่จะทำในกระบวนการกฎหมายต่อไป แต่ ณ วันนี้เราควรดูแลกฎหมายอย่างไร ไม่ใช่เก็บเห็ด ติดคุก 30 ปี แต่ข่มขืน 4-20 ปี สารภาพลดโทษกึ่งหนึ่ง ทำดีลดโทษอีก ซักพักออกมาข่มขืนอีกแล้ว เราอยู่กลางสังคมนี้ยังไงคะ อย่างน้อยขอจุดเริ่มต้น บุ๋มได้แค่เป็นตัวเริ่มต้นเท่านั้นค่ะ บุ๋มคงเปลี่ยนแปลงกฎหมายอะไรไม่ได้ แต่พลังของพวกคุณที่จะเป็นตัวเปลี่ยนแปลงได้ บุ๋มทำได้แค่เป็นสะพานให้เท่านั้น เป็นคนไปยื่นเสนอให้เองค่ะ”

ลั่นต้องร่วมมือกันจริงจังกระตุ้นการเปลี่ยนแปลง เพราะทุกคนมีสิทธิ์ช่วยเหลือสังคมเท่าเทียมกัน
              “ที่ผ่านมาเรามัวแต่พูดกันไง มัวแต่ด่าฆาตกรด่าคนทำความผิด เลว ควรประหาร ควรจะอย่างนั้น ตัดไอ้นั่นประจาน เราเอาแต่พูด แต่ไม่เคยได้ลงมือทำเลย นี่คือครั้งแรกที่เราจะร่วมมือทำกันจริงจัง โดยไม่มีอะไรเข้ามาเกี่ยวข้อง ไม่พวกใคร ใครอยู่กลุ่มไหน ใครเป็นสื่อ ใครดารา ใครไม่ใช่ดารา บุ๋มว่าทุกคนมีสิทธิ์เท่ากันหมดในการช่วยเหลือสังคม บุ๋มเป็นแค่หัวขบวนในการเริ่มต้นให้เท่านั้น และมีทีมน้องๆ หลายคนทั้งผู้หญิงและผู้ชาย จะมาช่วยคัดแยกเอกสารตรงนี้ก็ขอบคุณมากๆ แต่ตอนนี้ต้องขอแรงทุกคนในการประชาสัมพันธ์ตรงจุดนี้ จะได้ไม่ได้ขนาดไหนแต่อย่างน้อยสังคมในวันนี้เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นว่าเราไม่ต้องการฆาตกรอีกต่อไป เราไม่ต้องการคดีข่มขืน เห็นเหยื่ออีกต่อไป นี่คือจุดเริ่มต้นที่ควรจะเกิดขึ้นค่ะ”

ปลื้มศิลปินดาราลุกขึ้นมาเป็นแนวร่วมเพียบ ไม่เว้นแม้แต่ “อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ”
              “แนวร่วมที่เป็นดาราศิลปินเยอะมาก ก็มีหลายคนค่ะ อั้ม (พัชราภา ไชยเชื้อ) เจ (เจตริน วรรธนะสิน) อ๊อฟ (ปองศักดิ์ รัตนพงษ์) อ๊อฟ (ชนะพล สัตยา) และมีอีกหลายคนเข้ามาเยอะมาก ช่วยโพสต์กระจายส่งต่อกันไป บอกแฟนคลับต่อไป ขอบคุณมากๆ ที่ทำให้ความตั้งใจไม่ใช่แค่ความตั้งใจของคนเดียว มันเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ รวมไปถึงสื่อมวลชนหลายคน มานั่งทำรูปบุ๋มแล้วเอาข้อความมาใส่ใหม่เพื่อให้ประชาชนได้รับรู้เรื่องราว รวมถึงมหาวิทยาลัยหลายที่ในต่างจังหวัดรวบรวมกันแล้ว ส่งชื่อกันมาและแท็กในไอจีบุ๋ม โฟโต้ออฟยูที่เป็นรูปแท็ก บุ๋มไม่เห็นรูปตัวเองแล้ว บุ๋มเห็นข้อความเท่านั้นที่ประชาชนส่งต่อกัน บุ๋มขอบคุณมากๆ อย่างน้อยความตั้งใจที่จะศึกษากฎหมายทางด้านนี้เพื่อให้ได้ผลจริง และมีคนตอบรับ เพราะเราไม่ได้จบมาทางด้านนี้ วันนี้มันพูดไม่ออก ขอบคุณจริงๆ ค่ะ”

เผยยังไม่มีหน่วยงานไหนเข้ามาร่วมสนับสนุน ไม่หวั่นโดนคัดค้านเพราะต้องการให้เกิดสิ่งดีๆ ในสังคม
              “ยังค่ะ แต่จะเป็นสื่อมวลชนเรานี่แหละค่ะ คงทนไม่ไหวกันแล้วใช่ไหมคะ ไม่งั้นบุ๋มคงไม่เห็นกล้องมาเยอะขนาดนี้เช่นเดียวกัน สื่อมวลชนร่วมกันเยอะมาก กลุ่มดาราศิลปินก็เยอะมาก แฟนคลับศิลปินแต่ละคนก็ร่วมมือกัน แสนคนไม่ยากค่ะ ไม่กลัวโดนคัดค้านว่าใช้วิธีประหารโหดร้ายเกินไป ถ้ามีคนออกมาคัดค้านก็ไม่เป็นไรค่ะ เพราะทุกคนแสดงความคิดเห็นภายใต้ระบอบประชาธิปไตย คุณคัดค้านคุณก็บอกเหตุผลมา เราอยากให้เกิดขึ้นเราก็บอกเหตุผลไปเท่านั้นเอง แล้วค่อยๆ พิจารณาคัดค้านตอนพิจารณากฎหมาย นั่นเป็นอีกเรื่องหนึ่งค่ะ ทุกคนย่อมมีสิทธิ์แสดงความคิดเห็น เราเองก็อยากให้มีสิ่งดีๆ เกิดขึ้นในสังคม เราก็ต้องยื่นส่วนที่แรงที่สุดไปก่อนเพื่อให้เป็นกระแสในสังคม เพื่อให้เขาเข้าใจว่าเราไม่ต้องการให้เกิดโทษตรงนี้อีก คุณคัดค้านมาก็เป็นกระบวนการพิจารณากฎหมายครม.ต่อไป ชีวิตนี้ต้องทำให้เห็นให้ได้ จะใช้ระยะเวลานานแค่ไหนก็ต้องทำให้ได้ค่ะ ถ้าเป็นของระบบการปกครองปัจจุบันน่าจะเร็ว(หัวเราะ)”

              “เชื่อว่าผู้ใหญ่คงรอดูกระแสว่าประชาชนจะตอบรับมากแค่ไหน ถ้ากระแสเราดี สื่อทุกคนเห็นด้วย ในการทำสิ่งดีๆ เกิดขึ้น อย่าเพิ่งตกใจคำว่าประหารนะคะ เรายื่นไปก่อน ส่วนจะได้ไม่ได้ เหมือนเราฟ้องร้องทางแพ่งก็ยื่นไปก่อน แต่ส่วนใหญ่ได้ไม่ถึงสามสิบเปอร์เซ็นต์ เป็นการพิจารณาโทษกันอีกทีในอนาคต แต่อย่างน้อยเราต้องเดินเรื่อง และต้องมีการเริ่มต้นกันก่อน ถ้ามีใครเข้ามาช่วยเหลือตรงนี้ก็ยินดีค่ะ กราบยินดีเลย ยินดีอย่างยิ่ง ถ้าทำแล้วไม่สำเร็จก็จะทำอีก เพราะที่ผ่านมาก็นั่งศึกษาเต็มที่แล้ว ไม่งั้นคงพูดมาตรากฎหมายไม่ได้ขนาดนี้”

บอกครบ 1 แสนรายชื่อเมื่อไหร่ พร้อมนำไปยื่นให้ประธานคสช. ทันที
              “ก็ยื่นทันทีค่ะกับท่านประธานค่ะ ก็ย้ำอีกครั้งนะคะ ขอเป็นพลังเริ่มต้นในตรงจุดนี้ให้เห็นว่าเรามีประชาชนอีกหลายคนที่ไม่เห็นด้วยและเห็นว่าจากต่างประเทศก็จะส่งมาให้ด้วย ขอบคุณมากๆ เลยค่ะ ครบรายชื่อหนึ่งแสนเมื่อไหร่ บุ๋มจะยื่นเป็นรายชื่อบัญชีหางว่าวขึ้นทันที สำหรับจุดนี้ก็เป็นสำเนาบัตรประชาชน คาดว่าเพื่อเปลี่ยนแปลงกฎหมายข่มขืนเท่านั้น เซ็นชื่อลงวันที่คุณเซ็น แล้วส่งมาที่ บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดีค่ะ ตู้ ปณ.43 ปณฝ.ห้วยขวาง กรุงเทพ 10327 ยังไงก็ขอบคุณทุกคนมากๆ ขอบคุณสื่อมวลชน พลังของพี่น้องในวงการบันเทิง และทุกคนที่อยากให้มีสิ่งดีๆ เกิดขึ้น กฎหมายจะแรงขนาดไหน นั่นเป็นเรื่องอนาคตค่ะ แต่อย่างน้อยวันนี้เราทุกคนทำสิ่งดีๆ ร่วมกันค่ะ ขอบคุณมากๆ ค่ะ แต่คงไม่รวมตัวทำกิจกรรม บุ๋มว่าคนไทยต้องระมัดระวังเรื่องการรวมตัว(หัวเราะ) บุ่มอาจดูหัวรุนแรงไปนิดหนึ่ง แค่นี้ก็รุนแรงพออยู่แล้วค่ะ”

ไม่หวั่นคำครหาเกาะกระแส “น้องแก้ม” ดัง
              “ถ้าจะมองเรื่องการทำความดีแล้วมองเราแง่ลบก็ช่างเขาเถอะค่ะ เขามองได้แค่นั้นก็ปล่อยเขาไป ส่วนคนที่ชื่นชมก็สาธุค่ะ ขอบคุณมาก เพราะข่าวร้ายๆ เยอะแล้ว บุ๋มโดนเอาชื่อไปแอบอ้างบ้างอะไรบ้าง ไปเที่ยวญี่ปุ่น อ่านข่าวแล้วเฮ้ย โดนอะไร เที่ยวก็ไม่สนุกนะคะ โดนข่าวแล้วเหนื่อยใจ แต่เอาน่าเรามีแรงหรืออะไรดีๆ ก็ทำต่อไปเนอะ”


557000007968308

557000007968307

DSC01723

DSC08773

IMG_0907

Create Date :10 กรกฎาคม 2557 Last Update :10 กรกฎาคม 2557 0:38:09 น. Counter : 15719 Pageviews. Comments :0