กฎกติกามีอยู่เพียงเท่านี้ ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีครับ เพราะทำให้ทุกคนมีส่วนในการเข้าร่วมประกวดได้มากขึ้น แต่จุดประสงค์ในการจัดการประกวด ทราบมาว่า มิต้องการเน้นเรื่องของการแข่งขันสักเท่าใดนัก แต่อยากจะเน้นการแสดงศักยภาพของกลุ่มคนที่ต้องใช้รถเข็น Wheel Chair ให้สังคมได้เห็น และให้โอกาส ให้ความทัดเทียม

Miss Wheel Chair Thailand 2012 : ชมพู่ ภัทราวรรณ พานิชชา อายุ 21 ปี กำลังศึกษาระดับปริญญาตรี ม.ธรรมศาสตร์ คณะสังคมสงเคราะห์

รองอันดับ 1 แพรวพิชญา เอกบวรวงศ์ (กวาง) อายุ 28 ปี

รองอันดับ 2 จิณจุฑา จุ่นวาที (จ๊ะจ๋า) อายุ 18 ปี

จากการได้พูดคุยกับผู้ที่ได้ตำแหน่ง Miss Wheel Chair และรองทั้ง 2 ท่าน พวกเธอทั้งหมดเป็นคนที่มีความคิดที่แหลมคมมาก มีความเป็นตัวของตัวเอง และฉะฉานในคำตอบ จึงไม่ต้องสงสัยครับว่าทำไมพวกเธอถึงได้ตำแหน่ง เพราะคำตอบของเธอรวมๆ แล้วทั้ง 3 คน สรุปได้ว่า เธอบอกว่า มงกุฎและสายสะพาย เป็นเพียงภาระและหน้าที่ ที่จะบอกกับสังคมว่าไม่ต้องสงสารพวกเธอ และไม่ต้องทำให้พวกเธอดูแตกต่างจากคนอื่น เพียงแค่พวกเธออยากจะรณรงค์ให้คนปกติธรรมดาเห็นพวกเธอทุกๆ คน รวมถึงผู้พิการทั่วไป เหมือนเฉกเช่นคนปกติเท่านั้นก็เพียงพอ โดยพวกเธอเน้นคำตอบอีกครั้งว่า มิต้องสงสารพวกเธอ ให้มองพวกเธอเป็นคนปกติ นั่นย่อมแสดงให้เห็นว่า ในจิตใจของพวกเธอทั้งหมด เข้มแข็ง และอยากใช้ชีวิตได้เหมือนคนปกติในสังคม เพราะเธออธิบายเพิ่มเติมว่า ตราบใดที่คนในสังคมไม่ให้โอกาสพวกเธอ ไม่ให้สิทธิ์เธอ แต่ให้เฉพาะความสงสาร พวกเธอจะยิ่งรู้สึกแย่ลงไป อาจจะกลายเป็นคนป่วยตลอดชีวิตก็ได้ เพราะการที่ได้รับแต่ความสงสารจะทำให้ผู้ได้รับเป็นคนอ่อนแอ ผมคิดว่า คำตอบนี้ สุดยอดครับ

ณวัฒน์ อิสรไกรศีล