bloggang.com mainmenu search


จากนักศึกษาสาวๆ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ หรือ เอแบค ที่ไม่มีคนรู้จักในวงกว้าง หลังจากได้ครองมงกุฎมิสไทยแลนด์ ยูนิเวิร์ส ประจำปี 2553 ชื่อของ ''ปุ๊กลุก'' ฝนทิพย์ วัชรตระกูล เป็นที่รู้จักของคนเกือบทั้งประเทศแล้ว ทั้งในฐานะตัวแทนสาวงามจากประเทศไทยไปประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2010 ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา และนางเอกละครดาวรุ่งมาแรงของช่อง 7 สี

ไม่ว่าเวลานี้ ''ปุ๊กลุก'' จะเป็นที่รู้จักของคนในสังคมในฐานะอะไรมากกว่ากันก็ตาม สิ่งที่สำคัญที่สุดคือชีวิตของ ''ปุ๊กลุก'' เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังได้ครองมงกุฎมิสไทยแลนด์ ยูนิเวิร์ส ซึ่งในเรื่องนี้เจ้าตัวก็เห็นพ้องต้องกัน หลังจากค่ำวันที่ 26 มี.ค. 54 ซึ่งเป็นการประกวดมิสไทยแลนด์ ยูนิเวิร์ส ประจำปี 2554 รอบตัดสินผ่านพ้นไป ''ปุ๊กลุก'' ปฏิบัติหน้าที่ทำกิจกรรมสาธารณประโยชน์เพื่อสังคมมาตลอด 1 ปี ได้ส่งมอบหน้าที่ให้กับสาวงามที่ครองมงกุฎต่อจากเธอสานต่อเรียบร้อยแล้ว

''1 ปีกับมิสไทยแลนด์ ยูนิเวิร์ส ความจริงได้ประสบการณ์เยอะมาก แต่สิ่งที่ได้มากที่สุดคือประสบการณ์ดีๆ มิตรภาพดีๆ ที่เราได้เก็บเกี่ยวตั้งแต่เพื่อน 44 คน ไปจนถึงทีมงาน พี่เลี้ยง ช่อง 7 ไปจนถึงเวทีต่างประเทศก็ได้มิตรภาพดีๆ และก็ยังสอนให้เราโตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น เราแก้ปัญหาเฉพาะหน้า แล้วก็ด้วยความที่เราต้องเป็นตัวแทนผู้หญิงไทยในการทำกิจกรรมต่างๆ การกระทำหลายอย่างก็ต้องเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น โตขึ้นเพื่อที่เราจะได้เป็นผู้นำ การใช้ชีวิตที่โตขึ้นกับความรับผิดชอบที่ต้องมากขึ้น ย้อนกลับไปวันแรกถ้าถามถึงนิสัยก็เหมือนเดิม เหมือนเราวางตัวในสังคมมันก็เปลี่ยนไป รู้ว่าเวลานี้เราควรทำตัวแบบนี้ เวลานี้เป็นตัวเองได้ เวลาอยู่กับผู้ใหญ่ก็สุขุมเรียบร้อย คือด้วยระยะเวลาสอนให้เราเป็นแบบนี้เอง เราไม่ได้ฝืนจนวันหนึ่งเราเป็นโดยธรรมชาติ เหมือนคนอื่นที่เขาไม่ได้เจอเรานานๆ เขามาทักเรา เฮ้ย เปลี่ยนไป บุคลิกดีขึ้นนะ''

สิ่งที่ ''ปุ๊กลุก'' ประทับใจระหว่างกาารปฏิบัติหน้าที่ มิสไทยแลนด์ ยูนิเวิร์ส คือ ได้ทำงานเพื่อสังคม เป็นกระบอกเสียงของผู้หญิง และเป็นส่วนหนึ่งในการรณรงค์ป้องกันโรคเอดส์ ซึ่งเป็นหน้าที่หลักของ ''มิสไทยแลนด์ ยูนิเวิร์ส''

''ดีใจค่ะที่ได้ทำงานเพื่อสังคมหลายอย่าง อย่างเช่นรณรงค์เรื่องโรคเอดส์ เป็นกระบอกเสียงสำคัญของผู้หญิง หลายๆ คนอาจจะไม่กล้าออกมาพูดเรื่องรณรงค์เรื่องโรคเอดส์ ก็คือเราก็เป็นตัวแทนของหญิงไทยในการพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ ก็รวมไปถึงงานการกุศลต่างๆ เราทำเป็นหน้าที่หลัก เช่นการรับโทรศัพท์เพื่อบริจาคเลือด การไปปล่อยเต่าทะเลสู่ธรรมชาติ ก็เป็นงานเกี่ยวกับงานสังคมต่างๆ คือทางไหนขอทางช่องมาเราก็จะไปทุกที่ ถ้าไม่ติดอะไรเราก็จะไปทุกที่''

การได้เป็นมิสไทยแลนด์ ยูนิเวิร์ส ''ปุ๊กลุก'' ยอมรับว่าคือส่วนสำคัญที่ผลักดันให้ตนได้เข้ามาโลดแล่นอยู่ในวงการบันเทิง และมีผลงานแสดงละครทางช่อง 7 สี ไปพอสมควรแล้ว

''คือจากเวทีนี้ก็มีโอกาสที่ความจริงทุกคนเข้ามาก็มีโอกาสอยู่แล้ว ก็มีโอกาสแคสติ้งรอบ 44 คน ทุกคนก็ผ่านการแคสติ้ง และก็เป็นโอกาสที่ดีที่เราเคยมีพื้นฐานอยู่บ้าง ทำกิจกรรมอยู่บ้างแล้วก็เลยมีโอกาสต่อยอดตัวเองให้ก้าวเข้าสู่วงการบันเทิง ในรูปแบบการเป็นนักแสดง ที่ผ่านมาก็มีละครไปแล้ว อย่างคุณพ่อหวานแหวว ที่ถ่ายทำตอนนี้มี ทวิภพ เพลงรักบ้านนา เรือนหลอมรัก 3 เรื่องเยอะนะ แต่อยากจะได้อีก''

ปฏิบัติหน้าที่มิสไทยแลนด์ ยูนิเวิร์ส มา 1 ปี เต็มๆ พอต้องส่งมอบหน้าที่ให้กับสาวงามที่ได้ครองมงกุฎมิสไทยแลนด์ ยูนิเวิร์ส ประจำปี 2554 ''ปุ๊กลุก'' ยอมรับว่ารู้สึกใจหายเหมือนกัน และขอขอบคุณเวทีประกวดนี้ที่ทำให้ชีวิตของตนเปลี่ยนแปลงในทางที่ดี มีความเข้มแข็ง และเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น

''รู้สึกโตขึ้น พอมีน้องขึ้นมารับหน้าที่แทน เราต้องเป็นที่พึ่งให้เขาเหมือนเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจให้น้องๆ ได้ เหมือนเป็นเครื่องเตือนใจว่า เฮ้ย.. เราเป็นพี่เขาแล้ว ด้วยภาระหน้าที่ทำให้เหมือนเรารู้สึกว่าเข้มแข็ง คือเราต้องแข็งแกร่งขึ้นให้ได้กว่าวันที่ผ่านๆ มา''

ในช่วงท้าย ''ปุ๊กลุก'' ได้ฝากถึงมิสไทยแลนด์ ยูนิเวิร์ส ประจำปี 2554 ให้ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ โดยเฉพาะการเป็นตัวแทนสาวไทยไปประกวดมิสยูนิเวิร์ส เพราะการทำหน้านี้ถือเป็นตัวแทนในการประชาสัมพันธ์ประเทศไทยให้ชาวโลกรับรู้ โดยอัตโนมัติ

''11 ปี ของเวทีมิสไทยแลนด์ ยูนิเวิร์ส มันมีพัฒนาการมาเรื่อยๆ ตั้งแต่ปีแรกไล่มาถึงพี่ไข่มุก (ชุติมา ดุรงค์เดช) ถึงหนู พัฒนามาต่อเนื่อง สายสะพานไทยแลนด์เป็นที่รู้จักของต่างชาติ เหมือนเป็นการประชาสัมพันธ์ประเทศไปโดยอัตโนมัติ ถ้าคนไทยเก่งคนไทยมีความสามารถรอบด้าน คนไทยเดินสวยก็เหมือนเป็นการประชาสัมพันธ์ไปโดยอัตโนมัติ คือรุ่นพี่เขาพยายามพัฒนามาเรื่อยๆ เป็นการสอนน้องแบบรุ่นต่อรุ่น เหมือนใครที่เข้ามาอยู่ในครอบครัวของเรา รุ่นพี่รุ่นหลังๆ ที่ยังวนเวียนอยู่ก็คือจะอยู่เคียงข้างน้องๆ แบบนี้ตลอดไป เคียงข้างน้องคนที่จะเป็นดาวดวงที่ 12 จนกว่าน้องจะแข็งแรง ยืนอยู่ได้ด้วยตัวเองก็จะปล่อยให้น้องตัดสินใจเอง แต่ช่วงแรกๆ คือจะอยู่ดูแลน้อง ให้คำแนะนำ คือมันไม่ใช่ 1 ใน 100 ที่จะมาเป็นมิสไทยแลนด์ ยูนิเวิร์ส แต่หลายสิบล้านคน เพราะฉะนั้นพอเราได้มาจึงภูมิใจเพราะเขาเลือกเราเพราะว่าเราดี เราก็เหมาะสมแล้วและทำหน้าที่ 1 ปีให้มันดีที่สุด เพราะมีแค่ปีเดียวเท่านั้นที่จะมีโอกาสทำอะไรดีๆ เพื่อสังคมแบบนี้''

นี่คือประสบการณ์ และความรู้สึกของ ''ปุ๊กลุก'' ฝนทิพย์ วัชรตระกูล อดีตมิสไทยแลนด์ ยูนิเวิร์ส ประจำปี 2553

ที่มา
สยามดารา
Create Date :27 มีนาคม 2554 Last Update :27 มีนาคม 2554 19:20:23 น. Counter : Pageviews. Comments :1