bloggang.com mainmenu search


นอกจากจะเป็นสาวสวยสุดมั่นจนได้รับรางวัลจากเวทีไทยแลนด์ ยูนิเวิร์ส พร้อมตำแหน่งมิสไทยแลนด์ ยูนิเวิร์ส ปี 2552 แล้ว ''ไข่มุก'' ชุติมา ดุรงค์เดช ก็ยังกลายเป็นอีกหนึ่งสาวงามที่ใจบุญอีกคนหนึ่งเลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะในช่วงนี้ดาราสาวก็เดินสายช่วยเหลือสังคมส่วนรวมอยู่อย่างต่อเนื่อง

และเมื่อเร็วๆ นี้ คุณแม่เพชรา ดุรงค์เดช คุณแม่ของสาวไข่มุกนั้นก็ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นผู้บำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติ จากสภาสังคมสงเคราะห์ โดยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ โปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ จะเสด็จแทนพระองค์ในการประทานรางวัลโล่ประกาศเกียรติคุณพระราชทานให้กับคุณแม่ที่จะได้รางวัลแม่ดีเด่นแห่งชาติ ปี 2554 ทั้งสิ้น 12 คน โดยที่คุณแม่เพชรานั้นก็คือคุณแม่ดีเด่น 1 ใน 12 ท่านนี้ ทั้ง 2 แม่ลูกจะปลาบปลื้มและยินดีขนาดไหนนั้น คงต้องไปถามจากปากเจ้าตัวทั้งคู่ซะแล้ว

ในวันแม่ปีนี้เห็นว่า ''คุณแม่เพชรา'' เป็น 1 ใน 12 คุณแม่ที่จะได้รางวัลแม่ดีเด่นแห่งชาติ ปี 2554 ในฐานะผู้ทำประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติ รู้สึกปลาบปลื้มใจมากแค่ไหนกับรางวัลที่ได้รับในครั้งนี้

คุณแม่เพชรา : คุณแม่ก็รู้สึกดีใจนะคะ ที่ผู้ใหญ่เห็นเรา ว่าเราคือใครและทำอะไรอยู่ก็รู้สึกปลื้มใจเป็นอย่างมากเพราะว่าเราก็ดูแลลูกๆ ด้วยกาย ด้วยใจ ด้วยความรักมาตลอด ลูกๆ ก็จบปริญญาโท เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง ก็เป็นอะไรที่ดีมากเพราะลูกๆ ก็จะนำความรู้ที่ได้มาช่วยเหลือกิจการของครอบครัว รวมถึงยังจะนำประสบการณ์และความรู้ที่ได้รับไปเผยแพร่และส่งต่อให้กับคนอื่นๆ ก็ยิ่งทำให้เรารู้สึกปลื้มใจเป็นอย่างมาก

ไข่มุก : ก็ดีใจมากๆ ค่ะ เพราะคุณแม่เป็นแรงผลักดันให้กับ ''ไข่มุก'' มาตลอด สิ่งที่ทำให้มีวันนี้ได้ก็คือคำสอนของคุณแม่ ไม่มีอะไรที่ ''ไข่มุก'' เกิดมาแล้วเก่งเองได้ ก็อยากให้น้องทุกคนเชื่อฟังคำสอนของคุณพ่อ คุณแม่ ด้วยความเป็นเด็กก็เข้าใจว่าอาจจะมีอารมณ์หงุดหงิดหรือรำคาญบ้าง แต่พอผ่านช่วงนั้นมาก็ทำให้เรารู้ว่าเราโชคดีมากที่เชื่อฟังท่านซึ่งทำให้ ''ไข่มุก'' ได้ดีจนทุกวันนี้ และต้องขอบคุณกับรางวัลนี้มากค่ะ เพราะเป็นกำลังใจให้กับ ''ไข่มุก'' และ ''คุณแม่'' ในการทำความดีต่อไป




เคล็ดลับการเลี้ยงดูลูกๆ 5 คนออกมาได้ดี

คุณแม่เพชรา : สำหรับ ''น้องไข่มุก'' เป็นเด็กที่เลี้ยงไม่ยากเลยค่ะ อีกทั้งยังเป็นเด็กดีเป็นเด็กที่เชื่อฟังแล้วก็ไม่ดื้อ เป็นอย่างนี้มาตั้งแต่ตอนเด็กๆ แล้ว เขาเป็นเด็กเรียบร้อย น่ารักมาก ซึ่งสิ่งที่จะทำให้ลูกของเราเป็นคนดีนั้น สิ่งแรกคือต้องให้ความรัก ความอบอุ่นเขาแล้วก็ความเข้าใจเขา ถ้าเขาได้รับความรัก ความอบอุ่น เขาก็จะเป็นเด็กดี เขาก็จะไม่ไปไหน จะทำอะไรเขาก็จะนึกถึง พ่อ-แม่ตลอด แต่ถ้าคุณพ่อคุณแม่บางท่านอาจไม่มีเวลาเพราะต้องทำงานด้วย ก็อยากให้กลับบ้าน ก็อยากให้นึกถึงลูกทุกขณะจิตและให้ความใกล้ชิดกับเขาให้มากๆ พยามให้ความรักความอบอุ่น การกอดการจูบเนี่ยเป็นสิ่งสำคัญนะคะ เหมือนว่าเราได้อยู่ใกล้เขา มันก็จะกลายเป็นความประทับใจ ปัจจุบัน ''น้องไข่มุก'' กับคุณแม่ก็ยังมีการกอดการจูบกันอยู่อย่างสม่ำเสมอถึงแม้ว่าจะโตแล้ว ต้องไม่อายที่จะแสดงความรักต่อกัน แล้วก็จะบอกว่ารักเขาอยู่ตลอดเวลา ซึ่ง ''น้องไข่มุก'' เองก็จะบอกรักคุณพ่อ-คุณแม่ตลอดเวลาเช่นกัน ซึ่งเขาก็จะมีประโยคเด็ดมาบอกกับคุณแม่เสมอว่า

''ขอบคุณ คุณแม่ที่เป็นแม่ที่ดีที่สุดในโลกขอบคุณสำหรับวันนี้และทุกๆ วัน'' แล้วทุกวันเขาจะคอยมาถามสารทุกข์สุขดิบอยู่เสมอว่า เราสนุกไหมอะไรอย่างนี้


คุณแม่มีส่วนช่วยในความสำเร็จของเราอย่างไรบ้าง

ไข่มุก : ปกติครอบครัวของ ''ไข่มุก'' เองจะสนับสนุนในทุกๆ เรื่องที่ลูกเลือกแล้ว และ ''ไข่มุก'' เองก็พูดมาตั้งแต่เด็กๆ แล้วว่าอยากจะเป็นนางงาม ตอนแรกคุณพ่อก็ไม่อยากจะให้ไปประกวดเพราะว่าทางบ้านทำธุรกิจ ก็ไม่ค่อยรู้เรื่องวงการบันเทิงไม่รู้ว่าจะต้องเตรียมตัวยังไง แต่ก่อนหน้านี้คุณแม่ก็ยังยืนยันว่าจะไม่ให้ประกวดแต่พอเราบอกว่าถ้าไม่ประกวดในปีนั้นก็จะประกวดไม่ได้อีกแล้วเพราะจะอายุเกิน คุณแม่ก็เลยเปิดโอกาสให้ ซึ่งพอเราเลือกมาทางนี้คุณแม่ก็สนับสนุนเต็มที่พาไปเสริมสวย เรื่องหน้าเรื่องผมจะคอยบอกคอยแนะนำวิกอันไหนดี อันไหนไม่ดี ไม่เหมาะกับเรา ช่วงนั้นก็เลยไปไหนมาไหนกับคุณแม่ตลอด และที่เห็นได้แน่ชัดเลยก็จะเป็นเวลาที่พี่ๆ นักข่าวแซวก็คือเวลาที่ไปเดินแฟชั่นเขาก็จะคอยบันทึกภาพเราอยู่เสมอ ก็เลยยิ่งทำให้เรารู้สึกว่าคุณแม่รักเรามากๆ




เหตุการณ์ความประทับใจในตัวคุณแม่ที่สุดในชีวิต

ไข่มุก : ประทับใจตลอดเวลาเพราะจะเห็นความรักที่แม่มีให้ตลอดเวลาและก็คิดว่าชีวิตนี้คงไม่มีใครรักเราเท่าพ่อกับแม่เราแล้วค่ะ ทุกๆ วันคุณแม่จะเป็นอย่างที่เห็นค่ะ เขาจะคิดถึงคนอื่นก่อนเสมอ จะมาคอยซักถามทุกครั้งไม่ว่าจะเช้า กลางวัน เย็น บ่าย หรือแม้กระทั่งก่อนนอนว่าลูกๆ แต่ละคนนั้นจะกินอะไร โดยเฉพาะเวลาที่เราไปเรียนต่อที่ต่างประเทศเราต้องอยู่ด้วยตัวเอง ทำให้เราจะรู้สึกได้เลยว่าคิดถึงบ้านที่มีคุณแม่และครอบครัวอยู่



ของขวัญแสนประทับใจที่ได้รับจากลูกคนนี้

คุณแม่เพชรา : ก็ไม่ได้มีอะไรนะคะมีแต่ความรักที่เขาให้เรา ความน่าเอ็นดูของเขา แล้วทุกซัมเมอร์ที่เขากลับมาเมืองไทยหลังจากไปเรียนที่อังกฤษเขาก็จะมากราบเท้าคุณพ่อ-คุณแม่ทุกครั้ง แล้วตอนที่เราไปที่อินเดียพอถึงสถานที่ประสูติของพระพุทธเจ้าเขาก็จะกราบเท้าและเขาก็จะบอกว่า ''ขอบคุณที่ให้ชีวิตลูกมาชาตินี้ชดใช้กันไม่หมด'' ซึ่งก็ทำให้เราสองคนแม่ลูกก็ยืนร้องไห้กอดกลมอยู่ตรงนั้น จนคนมองกันเป็นตาเดียวเลยว่าเราสองคนทำอะไรกัน

ไข่มุก : จริงๆ แล้วคุณพ่อคุณแม่ไม่ค่อยนิยมเรื่องวัตถุค่ะ เวลาที่ซื้อของขวัญวันเกิดซื้อของขวัญปีใหม่ก็ไม่อยากให้ซื้อแพงๆ คุณพ่อคุณแม่อยากให้ลูกเชื่อฟังแล้วก็ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดและก็เป็นลูกที่ดีอันนี้คือของขวัญที่ดีที่สุดสำหรับเขาทั้งสองคนแล้ว ก็เลยไม่ค่อยมีของขวัญที่พิเศษๆ ที่เป็นวัตถุ แต่เราก็พยามทำหน้าที่ของเราให้ดี เพราะครอบครัวของ ''ไข่มุก'' ไม่ว่าจะเป็นคุณพ่อคุณแม่ก็จะเน้นการคิดดีทำดีและพูดดี นอกจากนี้ก็ยังบอกอีกว่า ''ไข่มุก''ได้ตำแหน่งตรงนี้มาถ้ามีอะไรคืนสู่สังคมได้ก็ควรจะทำ มีงานการกุศลอะไรก็ไปช่วย ซึ่งตอนหลัง ''ไข่มุก'' ก็จะเข้างานการกุศลมากกว่า



แล้วคุณแม่มีส่วนช่วยเสริม ''ไข่มุก'' ด้านจริยธรรมอย่างไรบ้าง

คุณแม่เพชรา : จริงๆ แล้วตัวเขาเองก็ชอบด้วยนะคะเพราะตั้งแต่อายุ 15 ปีเขาก็เริ่มไปนั่งวิปัสสนาแล้ว จริงๆ แม่อยากให้เด็กและเยาวชนคนไทยหันมาสนใจทางด้านพุทธศาสนาเพราะว่าตรงนี้เป็นสิ่งที่ดีเป็นสิ่งที่จะนำมากล่อมเกลาจิตใจเด็กให้ดี ให้อ่อนโยนคุณแม่ว่าสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ดีที่สุด




คำสอนจากคุณแม่ที่จำได้ขึ้นใจอย่างไม่มีวันลืม

ไข่มุก : ''ไข่มุก'' ก็มีความประทับใจกับคำสอนของคุณแม่ในการ์ดใบหนึ่งมีคำกลอนบอกเอาไว้ว่า

เก็บดวงดาวมาแต่งผม
เก็บหมอกลมลงกระหม่อม
เก็บแผ่นฟ้าทำผ้าอ้อม
เก็บไม้หอมล้อมเปลดี
เก็บความรักจากคนทั้งหล้า
เก็บเมตตาไว้ที่นี่
เก็บไมตรีที่โลกมี
เก็บสิ่งดีไว้ในใจ
เก็บทุกสิ่งไว้ให้ลูก
แม่สอนปลูกเอาไว้ให้
แม่เก็บฝันถึงวันไกล
ยอดดวงใจเป็นคนดี


''คือคุณพ่อ คุณแม่ย้ำเสมอว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตามที่โน่น ลูกทำแม่ไม่รู้แต่ลูกรู้และพระเจ้ารู้และสิ่งที่ท่านหวังกับเราที่สุดไม่จำเป็นว่าจะต้องเรียนเก่ง ไม่จำเป็นว่าจะต้องสวยที่สุดหรือเลิศที่สุด แต่แค่เป็นคนดีของแม่ที่สุดก็พอแล้ว คือถ้าเราทำอะไรก็ให้ทำอยู่บนพื้นฐานของความดีแล้วก็ยึดมั่นถือมั่นในความดีไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตามในสังคมเดี๋ยวนี้ '' ''ไข่มุก'' เองก็เจอคนเยอะด้วย แน่นอนว่าจะต้องมีอะไรมากระทบกระทั่ง แต่เมื่อเรายึดมั่นถือมั่นในความดีแล้วเราก็จะรู้จักการให้อภัยตลอด ซึ่งเรื่องนี้ ''ไข่มุก'' ก็ได้ดูจากคุณแม่เป็นตัวอย่าง ''ไข่มุก'' เห็นคุณแม่ให้อภัยทุกคนและคุณแม่เองก็ช่วยทุกคน โดยที่ไม่หวังสิ่งตอบแทนช่วยด้วยกำลังทรัพย์กำลังใจกำลังแรง คุณแม่สอน ''ไข่มุก'' เสมอว่าถ้าเราช่วยใครให้เราลืมซะ แต่ถ้าใครช่วยเราให้จำให้มั่นใจเลย เงินทุกบาททุกสตางค์ แม้ว่าสตางค์แดงเดียวก็ต้องคืนให้ครบ แล้วก็เราเป็นคน เราก็ต้องมีความกตัญญูรู้คุณและก็ไม่ลืมบุญคุณคน ''ไข่มุก'' เองก็เห็นคุณพ่อ แม่เป็นตัวอย่าง

คุณแม่เพชรา : ถ้าลูกๆ ทุกคนมีความกตัญญูและมีศาสนาพุทธอยู่ในหัวใจเราก็เชื่อว่าไม่ว่าเขาจะทำอะไรก็จะนึกถึงคุณพ่อ แม่ตลอด




วิธีช่วยลูกรักฝ่ากระแสข่าวลือที่โหมกระหน่ำ

คุณแม่เพชรา : คือในช่วงที่เขายังอยู่ในตำแหน่งนางงามก็มีข่าวออกมาเยอะว่าเขาเป็นสาวแรง ตอนแรกๆ เราก็ใจแกว่งนะ เพราะเราก็ไม่เข้าใจว่าเขาแรงยังไงเพราะเราก็อยู่ด้วยตลอดเวลา เราก็ไม่เห็นลูกเราจะแรงตรงไหนเลย แต่หลังจากนั้นเราก็เริ่มเข้าใจตอนหลังๆ ก็รับได้ทุกข่าวแล้วค่ะ แต่คุณพ่อจะไม่ค่อยอยากให้อยู่ในวงการสักเท่าไหร่เพราะถามตลอดว่าเมื่อไหร่จะออกจากวงการสักที ลูกเราเลี้ยงมาดีๆ ทำไมต้องมาให้คนอื่นว่า เพราะญาติจะถามเยอะว่าทำไมเอาลูกไปอยู่อย่างนั้น

ไข่มุก : คือทุกอย่างที่เข้ามาคุณแม่จะสอนให้ ''ไข่มุก'' มองโลกในแง่ดีพยามแก้ปัญหา เริ่มจากคิดว่าปัญหามันเกิดขึ้นเพราะอะไร ให้เราดูตัวเองก่อนว่าเราไปทำอะไรผิดหรือเปล่า พยามมองทุกสิ่งในแง่ดี ไม่ให้คิดลบกับคนอื่น แต่พอมาอยู่ในวงการเราก็เริ่มเข้าใจมากขึ้นว่าการที่พาดหัวข่าวแรงๆ เพราะคนจะได้สนใจอยากติดตามอยากอ่าน

คุณแม่เพชรา : ปัจจุบันคุณพ่อก็ยังถามอยู่ว่าเมื่อไหร่จะออกจากวงการสักที พอมีข่าวขึ้นหน้า 1 เขาก็จะหามาให้เราดูว่ามีข่าวอีกแล้วนะ อะไรประมาณนี้ เราก็จะคอยบอกคุณพ่อว่าไม่มีอะไรหรอก ข่าวก็เป็นแบบนี้แหละ ปล่อยให้ลูกทำตามความฝันของเขาอีกสักพักนึง อย่างเพิ่งไปหยุดเขา เพราะลูกเขาชอบอีกอย่างคุณแม่เองก็จะไปกับ ''น้องไข่มุก''ตลอด ซึ่งก็ไม่ได้เสียหายอะไรมากมายนอกจากว่าจะไปเรียนต่อหรือว่าอะไร เพราะจริงๆ แม่ก็อยากให้น้องเรียนต่อ ดร. ด้วยเหมือนกัน แต่ก็ต้องแล้วแต่เขาว่าเขาจะเอายังไง



เห็นมีข่าวว่าคุณแม่เตรียมหาคู่ครองให้กับ ''ไข่มุก'' ด้วย

คุณแม่เพชรา : ก็ดูๆ อยู่เหมือนกันก็ดูคนที่เหมาะสมที่สุดเพราะอย่างเขานี่ก็ค่อนข้างหาคู่ยากเหมือนกัน ด้วยคุณสมบัติหลายอย่าง แต่ต้องเป็นคนดี เพราะฉะนั้นก็เลยค่อนข้างเลือกอยากเหมือนกัน เด็กๆ เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยจะมีธรรมะในหัวใจ เพราะถ้ามีธรรมะกับธรรมะด้วยกันก็น่าที่จะคุยกันรู้เรื่อง แต่ก็ไม่ได้บีบบังคับเขา ก็แค่ชักนำว่าคนนี้ดีอย่างไรไม่ดีอย่างไรเพราะผลสุดท้ายแล้วเขาก็ต้องอยู่ด้วยกันเพราะไม่เช่นนั้นก็คงไปด้วยกันไม่ได้ คุณแม่ก็คิดว่าอยากให้เขา 30 ปีแล้วค่อยมีแฟน เพราะคุณแม่ก็ไม่ได้รีบร้อนอะไร คือถ้าเป็นคู่ของเรายังไงก็ต้องเป็นคู่ของเรา แต่ถ้าไม่ใช่แล้วยังไงก็คือไม่ใช่



สุดท้ายนี้อยากให้ฝากอะไรถึงลูกๆ สำหรับวันแม่แห่งชาติในปีนี้

คุณแม่เพชรา : จริงๆ แล้วคุณพ่อ คุณแม่รักลูกด้วยหัวใจไม่เคยคิดริษยาลูกเพราะฉะนั้นลูกควรจะเชื่อฟังคุณพ่อคุณแม่เป็นอย่างยิ่งไม่ว่าลูกจะอยู่ในสถานะใด ลูกจะสวยจะงามจะขี้เหร่หรือจะพิการคุณแม่ก็รักลูกอยู่ดี เพราะฉะนั้นในเมื่อคุณพ่อ คุณแม่รักลูกได้ทำไมลูกๆ จะไม่รักคุณพ่อ คุณแม่ ทั้งชีวิตคุณพ่อ คุณแม่ทำมาให้ตลอด ลองไปพิจารณาดูดีๆ แล้วลูกต้องรักคุณพ่อ คุณแม่ให้มากกว่าที่รักลูกด้วยซ้ำไป เพราะทำทุกอย่างและทุ่มเทให้กับลูกตลอดเวลา ก็ฝากเด็กๆ และเยาวชนนะคะ หันมาใส่ใจคุณพ่อ คุณแม่ตอนที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ ตอนอยู่ทำดีกับท่านก็เท่ากับเราทำบุญไปแล้วค่ะ

ไข่มุก : อยากให้ทุกคนบอกรักคุณพ่อ คุณแม่นะคะ การบอกรักนั้นไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นวันพิเศษเท่านั้นก็บอกรักกันได้ทุกๆ วันเพราะ ''ไข่มุก'' คิดว่าการแสดงความรักกับคนที่รักเราก็ไม่น่าอาย บางคนจะบอกว่ารักพ่อรักแม่อายม้วน แต่บอกรักแฟนนี่สบายมาก ก็อยากให้มานั่งคิดดูนะคะ ว่าคนนึงรักเรามาไม่กี่ปีเองแต่อีกคนนึงรักเราเกือบเท่าชีวิตของเรา เราจะเลือกรักใครดี

ที่มา
สยามดารา
Create Date :11 สิงหาคม 2554 Last Update :11 สิงหาคม 2554 2:18:45 น. Counter : Pageviews. Comments :1