คนติดแบนด์ "ลมแล้งกรายผ่านมาเยือนอีกครั้ง ชัยพฤกษ์สะบัดใบ อีกไม่นานสีเหลืองระย้าจะหวามหวานสะพรั่งให้ใครหลายคนคว้ากล้องเก็บภาพ บรรยากาศการสอบปลายปีวิ่งมาชนปลายขน แวะไปหลายห้องกล่าวถึงการสอบ ใครจะเชื่อว่าแม้ตัวฉันเองก็ไม่อาจอยู่เหนือกฎเกณฑ์ วันนี้ฉันเตรียมตัวสอบ!! ในชีวิตการเรียน ยาหม้อใหญ่ของฉันคือการทำข้อสอบ ฉันอ่านหนังสือเป็นกับใครที่ไหนกันเล่า ไม่เคยลืมภาพตัวเองที่วิ่งวนกลุ่มเพื่อนที่นั่งขมักเขม้นติวข้อสอบ..ส่งสะเบียง.. เบื่อก็หนีไปเอาผ้าเช็ดหน้าผืนใหญ่ตระครุบผึ้งที่คลุกตัวบนเกสรดอกบานเช้า เมื่อมีการถกเถียงกันอย่างไม่แน่ใจคำตอบต่างหากที่จะลากฉันมานั่งลง ฟังข้อยุติและบทสรุปที่แน่นอนพร้อมกับฟังเสียงผึ้งในห่อผ้าเช็ดหน้า การสอบของฉันผ่านไปทุกครั้ง ฉันเรียนแบบเศรษกิจพอเพียง แค่ทำความเข้าใจในชั้นเรียน ตั้งใจฟังอย่างเด็กมีสมาธิ ก็ฉันไม่ใช่คนเรียนเก่ง (เพื่อนสนิทที่สุดบอกว่าฉันเลือกคบแต่คนเรียนเก่ง!) เอ่อ..หากฉันเรียนเก่งอีกอย่างคงถูกทาบทามเป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว เมื่อใช้ชีวิตคนทำงาน ฉันพอใจกับการพัฒนาตัวเอง ผลผลิตของฉันมีผลเลิศเป็นที่ประจักษ์อย่างต่อเนื่อง แต่ในความรู้สึกลึกลึกแล้ว ฉันกังวลกับสมองตัวเองเสมอมา สมองของฉันคงมีเนื้อที่จำกัดจำเขี่ย ยิ่งนานวันถูกนั่นนี่บีบเบียด กลไกความจำบางส่วนของฉันชำรุด หลายครั้งที่ฉันเกือบทำงานใหญ่ล่ม เพราะทุกอย่างหายไปจากสมองเหมือนฟิวส์จอภาพถูกตัด โชคดีที่มีทีมงานแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเป็นเลิศ ในทุกวันของความปวดร้าว ฉันไม่กล้ารับงานที่ต้องใช้ความละเอียด ในทุกวันกับความขมขื่นในความไม่เชื่อมั่น ในทุกวันกับการรักษาความลับสุดยอดของฉัน ในบางวันที่งานพลาดให้บอสต้องออกมารับหน้า (ขอบพระคุณ) ฉันทำได้ดีที่สุดแค่เลือกงานที่เหมาะกับขีดจำกัดของตัวเอง คราวนี้คงต้องอาศัยศักยภาพติดเทอร์โบอีกครั้งกับเส้นตายเกียรติยศ แล้วฉันจะทำได้ไหมหนอ .. ดวงตาสวรรค์คงกำลังจับจ้องฉันอยู่ (เอางัยกับหล่อนดี) รู้ดี ทำได้เท่าที่สมรรถนะจะเอื้ออำนวย แต่ก็ขอสู้ก่อนสักหนึ่งใจ" นั่นเป็นบันทึกที่ฉันเขียนไว้ตั้งแต่ครั้งสอบประเมินเลื่อนวิทยฐานะ ฉันเลือกสอบวิชาที่ฉันส่งประเมิน ภาษาอังกฤษ! ในขณะที่กลุ่มครูประถมด้วยกันหนีไปสอบวิชาการประถมศึกษากันหมด ไม่ใช่เพราะฉันเชื่อมั่นในความรู้ท่วมหัวของตัวเอง แต่เพราะฉันไม่มีปัญญาไปอ่านหนังสือเพิ่มอีกตั้งแปดสาระต่างหาก แล้วฉันก็ผ่านการสอบคราวนั้นมาได้ฉิวเฉียด เหมือนเมื่อต้องสอบ comprehensive ที่หลายคนห่วงฉันมาก แต่ฉันก็ผ่านมาได้ในรอบแรก หรือเวลาตกฟากของฉันถ้าจะเป็นดวงฟลุ้คจริงๆละมัง เคยบอกตัวเองว่าในชีวิตบั้นปลายฉันจะออกเดินทางไปทุกหนทุกแห่ง ในโลกกว้าง ฉันตั้งใจจะดูแลสุขภาพตัวเองให้ดี เก็บทุนไว้ใช้ชีวิตท่องโลก แม้ว่าปัจจุบันเราจะสามารถไปไหนไหนได้แค่ลัดมือเดียวทางโลกดิจิตอล ฉันใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับโลกดิจิตอล วางตำรับตำราแม้แต่นิยายที่เคยชอบอ่าน ไม่รู้ตัวเลยว่าสมาธิตัวเองสั้นลงทุกที เมื่อมารับหน้าที่ครูผู้สอนภาษาอังกฤษอย่างเต็มตัวหลังจากไปวิ่งเล่นอยู่ในป่าเขาหลายปี ฉันถึงได้รู้สึกตัวว่า ความรู้ของฉันเข้าหม้อไปหมดแล้ว การพัฒนาตัวเองในเวลานั้นมีทางเดียวที่ไม่เบียดเบียนเวลาราชการ ฉันเข้าเรียนต่อระดับปริญญาโทในหลักสูตรที่คนอีกขั้วเรียกว่าเป็นธุรกิจการศึกษา ที่เลือกภาษาอังกฤษก็เพราะเป็นวิชาเดียวที่ไม่ต้องสอบวิชาอังกฤษพื้นฐาน อย่าขำเลยนะฉันพูดจริง ฉันจบมาแบบทุลักทุเล เป็นที่มาของสำนวน เรื่องยากๆก็เคยทำมาได้แล้ว ที่น้องน้อยว่าฉันบ่อยๆ ฉันรับปริญญาบัตรใบที่สอง เพียงเพื่อรับรู้ว่าหลักสูตรที่ไปร่ำเรียนเอามาใช้ได้จริงไม่เต็มที่ (เมื่อถึงวันนี้มันก็เสื่อมไปตามกาลเวลา) เมื่อเดือนก่อน มีสาส์นจาก PM แจ้งส่งฉันไปสอบคัดเลือกเพื่อศึกษาดูงานต่างประเทศ ฉันรู้ผลตั้งแต่วางหูแล้วไม่ได้หรอกถ้าต้องมีการสอบ ก็ ขนาดฉันอ่าน Text แทบหัวจะแตกฉันยังสอบ TKT ได้แค่แบนด์ 2 แต่ก็ตกลงรับปากเป็นตัวแทนเขตไปสอบ ไปดูข้อสอบ ทั้งที่คิดอยู่เสมออย่างคนขวางโลกว่า ทำไมต้องเอาเงินก้อนใหญ่ส่วนตัวไปจ่ายค่าศึกษาดูงาน ทำไมเราลงทุนกันมากมายเพียงเพื่อกลับมาคุยว่าได้ไปต่างประเทศ แถมบางคนยังหอบเอาประสบการณ์ด้านลบมาอีกด้วย ทำไมรัฐไม่ออกทุนให้ทั้งหมดเหมือนหน่วยงานอื่นๆ แต่ถ้าเป็นงบประมาณหลวงจริงฉันคงใช้คำว่าขี่ช้างจับตั๊กแตนไปแล้ว ฉันตั้งแง่คิดแบบองุ่นเปรี้ยวมะนาวหวาน เพราะบางคนที่กลับมาก็ไม่ปรากฏว่าทำอะไรให้ประเทศชาติได้สักเท่าไหร่ ผลงานนักเรียนของฉัน ผลผลิตของฉันยังนับว่ามีมากกว่า ได้เห็นแล้วว่า สภษ.สร้างแรงจูงใจให้ครูภาษาอังกฤษพัฒนาตัวเอง ในวัยขนาดฉันมันจะเอายาอะไรมาเยียวสมองได้อีกนอกจากยิ่งพลาดไปก็ยิ่งเจ็บ แต่หากให้ฉันไปสอบอีกฉันก็คงต้องไป ทำไงได้ เขาให้เป็นคนของสภษ. ถึงวันหนึ่งครูภาษาอังกฤษไปดูงานนอกประเทศกันหมดแล้ว สภษ. ก็คงต้องคิดโครงการต่างๆมาให้ครูภาษาอังกฤษพัฒนาตัวเอง แล้วก็คงต้องเป็นฉันอีกแหล่ะที่เป็นแนวหน้าไปดูข้อสอบ เพราะแนวโน้มคนเอกภาษาอังกฤษคงน้อยลง น้อยลง ในวันเดือนปีที่ครูภาษาอังกฤษถูกกระหน่ำด้วยสารพันปัญหา จนเป็นข่าวหน้าหนึ่งไม่เว้นแต่ละวัน ข่าวใช้รองเท้าส้นสูงเป็นอาวุธ...ครูภาษาอังกฤษ ถูกฆ่าตายโดยเพื่อนชายจากไซเบอร์...ครูภาษาอังกฤษ วันนี้ เจอข่าวครูสาวฉาวเซ็กซ์..ครูภาษาอังกฤษอีกแล้ว เวงกำ.. ตอนนี้กำลังยิ่งร้อนหนัก เจ้านายน้อยๆของฉันสามห้องเรียนต้องถูกประเมิน ไม่ใช่แค่ประเมินระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แต่รวมถึงการประเมินผลการปฏิบัติงานของผู้สอนด้วย ถึงฉันจะไม่ใช่ผู้สอนในกลุ่มที่ถูกสุ่มประเมิน แต่ก็ไม่อาจปล่อยวางเฉย เพราะแบนด์ที่ประทับตราไว้นี่ละซี แบนด์นี้ไม่มีระดับ แต่มันประทับตรา ERIC NETWORK ไว้ตัวเบ้อเร่อเลย เด็กเอ๋ย ..เขาว่าเด็กดีเป็นศรีแก่ครู 89 คน สมาธิสั้นเสีย 29 ที่เหลือก็อ่านภาษาไทยคล่องเขียนคล่อง 45% นอกนั้น..แม้แต่พัดลมยังส่ายหน้า แล้วสอบภาษาอังกฤษล้วนเล่า เด็กดีเอ๋ย..สอบภาษาอังกฤษคราวนี้ เหมือนครูเธอลงสนามสอบด้วย เธอจะทำคะแนนเฉลี่ยให้เป็นศักดิ์เป็นศรีให้แบนด์ของเราได้สักกี่เปอร์เซนต์เล่าเออ แล้ว..ครูติดแบนด์ของเธอจะสอบผ่านไหมหนอ.. เพลง "ศรัทธา" หิน เหล็ก ไฟ ศรัทธา หินเหล็กไฟ Never Say Die ไม่มี ก็คงต้องมีสักวัน ความฝันเป็นจริงต้องทนสู้ไป ไม่นาน เราคงจะได้สมใจ มุ่งมั่น ทุ่มเทเพียงใดกว่าจะได้มา เส้นชัย ไม่มาต้องไปหามัน รางวัล มีไว้ให้คนตั้งใจ ขวากหนาม ทิ่มแทงก่อนผ่านพ้นไป โลกนี้ไม่มีอะไรได้มาง่ายดาย (*) ใจสู้หรือเปล่า ไหวไหมบอกมา โอกาสของผู้กล้า ศรัทธาไม่มีท้อ(ดนตรี) ที่มา รู้ดีไม่รู้ที่ไป คนเรา มันเลือกเกิดเองไม่ได้ แต่เรา เลือกได้จะเป็นเช่นไร เลือกได้จะทำตามใจด้วยตัวของเรา หลายคน เชื่อในเรื่องโชคชะตา บางคน เชื่อมั่นในตัวเอง ชีวิต เรากำหนดของเราเอง จะแพ้ชนะไม่เกรงจะสักเท่าไร(ซ้ำ * ) เรื่องราวมากมายบีบคั้น กายและใจโอนอ่อนหวั่นไหว แต่ก็มีเหตุผลสำคัญ ให้บางคนยอมถอดใจ เย....... ![]() |
บทความทั้งหมด
|