:::ความหวังเจ้าโล้เลื่อน:::



"ในความอ้อยอิ่งของการรอคอย
ช่วงรอลุ้นผล ฉันจะได้คืนถิ่นไหม?
เหมือนอัดตัวเองไว้ในสุญญากาศ
เหมือนลอยตัวนิ่งๆกลางหมอกหนา
ความคิดถูกแช่แข็ง เย็นชา

ใช่....มันนานมาก...นานกว่าทุกครั้งที่หาที่ยืนใหม่
ท่ามกลางอากาศหนาวเย็น อุปาทานว่าเย็นลง เย็นลง
มันเย็นเข้าไปถึงกระดูก วาบวาบในใจส่วนลึก
ย้อนคิดถึงวันที่พี่รองยื่นเสนอให้เพื่อนฝูงย้ายฉันกลับบ้าน
หลายปีก่อน..วันที่ยังพอใจกับการใช้ชีวิตติดปีก..
เพื่อนคนนั้นบิ๊กพอที่จะทำตามข้อเสนอทันที
แค่เค้าย้อนถาม”น้องเค้าอยากกลับจริงเหรอ”
พี่รองมองตาฉันนิ่งๆ ไม่มีใครรู้จักฉันดีนอกจากพี่รอง

วันนี้ที่ใจร่ำร้องคืนถิ่น "บิ๊ก"จากไปก่อนเวลาอันควร
ก่อนที่พี่รองจะหายไปในเวิ้งฟ้า วันนี้เหลือแค่มือของความยุติธรรม..
ฉันคนราศรีกันย์ที่ทุกตำราแจงผลเหมือนกันหมด อ่อนไหว ช่างเลือก
ฉันอ่อนไหวจริง ส่วนช่างเลือกหรือเปล่าไม่รู้ รู้แต่ทุกอย่างในชีวิตฉันเลือกเอง
เว้นไว้ก็แต่ในบางสิ่งที่ไม่อาจเลือกได้..
ก็แค่อุบัติเหตุบนเส้นทางชีวิต..

วันนี้ฉันรอคอยอยู่ในความอึมครึม อีกครั้ง อีกบทพิสูจน์ ฉันรอดู
"ค่าของคนอยู่ที่ผลของงาน" หรือ "ค่าของคนอยู่ที่คนของใคร"
เกณฑ์การพิจารณาย้ายมีกรอบอยู่ ฉันรู้..
ลำพังคะแนนจากผลงานของฉันไม่ด้อยกว่าใคร..

ฉันมีผลงานตัวเอง ผลงานเด็ก ผลงานสถานศึกษาและชุมชน
แต่เรื่องการวิ่งหาผู้ใหญ่ เข้าเจ้า เข้านาย ฉันไม่เคยทำ
อย่างนี้มั้ยที่ใครคนหนึ่งปรามาสว่าฉันเป็น "ลูกแหง่"
ฉันเหรอ ลูกแหง่ ฉันเหรอคนขี้อ้อน ในชีวิตฉันออเซาะใครเป็น

ฉันในลมปากของเธอ เป็นลูกแหง่ไปแล้ว
เธอคนที่ฉันกระตือรือร้นส่งข่าวสารวันขับเคี่ยวทำผลงานเลื่อนวิทยฐานะ
ในขณะที่เธอยังไม่ได้เริ่มตั้งไข่ วันที่เธอบอก"ยังไม่รูเรื่องเลย"
เป็นฉันที่เองคอยประสานงานจนเธอได้หลักใหม่
วันที่เธอบอก"ยังไม่มีที่พัก"
ฉันตาลีตาเหลือกวิ่งหาที่พักให้แล้วนั่งรอจนได้คำตอบว่าเธอได้"กลุ่ม"แล้ว

ฉันไม่เคยหวั่นไหวกับการเปลี่ยนแปลงทุกรูปแบบ ฉันรับได้
ก็เผชิญมาหลากเล่ห์ หลายเหลี่ยม พอคุ้นกับเสือ สิงห์ ลิง แมว
ใครกันแน่ที่อ่อนแอ เป็นฉันไหม
หากจะมีใครที่เป็นฝ่ายหวั่นใจว่าใครจะมาแทนที่ตัวเอง
จะเป็นฉันไหม?

หรือเพราะฉันไม่ใช่คนสีเขียวเหมือนใครๆที่มีอยู่แล้วในกลุ่ม
อย่างน้อยฉันก็เลือดเขียวเหลือง
แต่ช่างเถอะนะ ยังยินดีเป็นคนไม่มีสี ไม่มีเส้น
หากตรงนั้นเจาะจงไว้เฉพาะกลุ่ม
จับจองไว้สำหรับคนสีเดียวกันฉันไม่ยืนตรงนั้นก็ได้
ไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องป่าวประกาศ
คนในตระกูลของฉันหลายคนติดยศนายพลเสนาธิการฯ

หากที่ตรงนั้นเตรียมไว้สำหรับบางใครที่มีเหตุผลสมควรกว่า
ฉันไม่ยืนตรงนั้นก็ได้ ฉันจะยืนที่ที่ฉันเคยยืน
ฉันจะยืนตรงนี้ ตรงที่มีกำลังใจให้ตัวเองเสมอ
ฉันจะยืนตรงนี้ ตรงที่ยังมีลมหายใจเป็นของตัวเอง


ฉันจะยืนที่เดิมดูผลงานที่หวังว่าสักวันจะมีคนเห็นคุณค่า
ฉันจะยังเชื่อมั่นเสมอ ค่าของคนอยู่ที่ผลของงาน
ใครอย่ามาหวังเปลี่ยนแปลงฉันให้เหมือนใครใครไปอีกคน
อย่าให้ฉันเป็นใครอีกคน เพราะฉันไม่ใช่คนของใคร
ใช้เวลาที่เหลือลบเลือนความหวังที่จะได้คืนถิ่น
ลืมไปได้เลย มือของความยุติธรรมที่เหลียวหา..มันไม่มีอยู่จริง..


ความหวังเจ้าโล้เลื่อน มาเยี่ยมเยือนให้หวั่นไหว
เห็นร่างเพียงเลาไร มิแม้นเยือนมาเหมือนฝัน"

ตุลาคม 2552




บันทึกย้อนไปหลายปีก่อน ที่วิ่งวุ่นหาทางกลับบ้านเหมือนแมวถูกฝน
ถึงวันนี้ฉันเป็นแมวมองเครื่องบินหรือแมวตะกายปลากระป๋องไปแล้ว
ก็นโยบายครูคืนถิ่นนั่นไงเล่า ใครสักคนตอกหน้าแงฉันเข้าแล้ว
"อย่าเขียน..อายเค้า.." ท่านหนึ่งที่ผ่านมาเจอบอกเสียงเรียบแต่เยียบเย็น
วันที่ฉันจะส่งเรื่องย้ายคืนถิ่น ตามประกาศให้ครูพลัดถิ่นเขียนกลับภูมิลำเนา
ใครสักคนที่กุมบังเหียรชีวิตฉันอยู่เล่นตลกกับฉันหรือไร?
ใครสักคนที่เป็นผู้จัดการฃีวิตฉันคนนั้นกำลังจิ้มหน้าผากฉันอยู่นี่!
..ฉันก็ครูนะ..ก็ให้ฉันเป็นครูของครูอายุราชการสองเดือน..อ้ากกกก..

แต่เปล่าหรอกนะ ฉันไม่รู้สึกทุกข์ร้อนเลยสักนิด ก็ฉันไม่ใช่คนพลัดถิ่น!
แค่หาคำตอบให้ตัวเองได้ว่า "ถิ่น" ของฉันคือที่ไหน อย่างไร ฉันก็สุขแล้ว..
ถึงวันนี้.. ทุกหนทุกแห่งบนเนื้อที่ไทย..คือภูมิลำเนาของฉัน..
แปลกตรงไหน? กับชีวิตหนึ่งที่สัญจรไปได้ทุกฐานถิ่น ฉันอยู่ที่นั่นที่นี่..
เช้าอยู่เหนือ กลางวันอยู่ใต้ บ่ายอยู่ตะวันตก เย็นอยู่ตะวันออก
รัฐบาลไทยเจียดเงินภาษีอากรก้อนใหญ่ให้เป็นที่พักพิงเลือกได้ตามใจ
มีเบี้ยเลี้ยงให้ลงพื้นที่สร้างงาน มีเพื่อนร่วมงานแปลนเดียวกัน
ได้หยิบจับงานตามศักยภาพ เมื่อตอบตัวเองได้ว่าสภาพแวดล้อมถูกจริต
แล้วฉันยังจะต้องการอะไรอีก?

ฉันกำลังปฏิบัติการคืนกำไรให้แผ่นดิน..
เธอมองเห็นความคิดของฉันไหม?
เธอเชื่อมั่นในสิ่งที่ฉันกำลังสร้างนี้หรือเปล่า?


ชีวิตลิขิตเอง



ก่อนเคยเชื่อในลิขิตฟ้าดิน
ปล่อยชีวิตไปตามโชคชะตา
แต่ฝันไม่เคยถึงฝั่ง
ผิดหวังในใจเรื่อยมา
เพราะฟ้าไม่มีหัวใจ
จะเลวหรือดี มันอยู่ที่คน
จะมีหรือจน มันอยู่ที่ใจ
ดินฟ้าไม่เคยลิขิต
ชีวิตจะเป็นเช่นไร
อย่าเลยอย่าถามฟ้า
ปีนไปให้สูงที่สุด
อย่างที่คิดฝันไว้กับใจ
จะยากเย็นเท่าไร
บอกใจว่าจะไม่กลัว
ไม่รอให้ฟ้าดินลิขิต
ไม่ปล่อยให้ชีวิตผ่านไป
ไม่ว่าจะสูงจะไกลเท่าไหร่
บอกใจว่าจะไม่กลัว
ไม่ยอมให้ฟ้าหรือใครลิขิต
อยากมีชีวิตที่ใฝ่ฝัน (ที่ใฝ่ฝัน)
ตั้งแต่วันนี้ นี่คือชีวิต
ลิขิตของเราเปรียบชีวิตเป็นดังบทละคร
จะยอมให้ใครเขียนบทของเรา
ชีวิตจะเป็นเช่นไร ก็ขอให้เป็นเพราะเรา
เรื่องราวที่เราต้องเขียน








Create Date : 03 มกราคม 2555
Last Update : 8 มกราคม 2555 7:40:01 น.
Counter : 758 Pageviews.

0 comments
:: ชีวิตคือการพบเจอและการเลือก :: กะว่าก๋า
(19 ก.ค. 2567 05:09:21 น.)
ขนอมยอมเธอ..หาดสงบ ห้องพักสวย อาหารอร่อยทริปที่แสนคุ้มค่าในเวลาสั้น ๆ sawkitty
(18 ก.ค. 2567 12:30:37 น.)
15 กค 67 Beautiful day 2 - กระทิง Alexandrian Laurel mcayenne94
(15 ก.ค. 2567 11:20:49 น.)
บันทึกทวาทศมาส ประจำปี 66 ตอนที่ 4 อาจารย์สุวิมล
(13 ก.ค. 2567 17:21:32 น.)

Peakroong.BlogGang.com

Peakroong
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 41 คน [?]

บทความทั้งหมด