ยิงสลุต
ยิงสลุต
ในสมัยโบราณ ชาวเรือกำหนดกันไว้ว่า หากเรือแตก เรือเกยหินโสโครก หรือมีอันตรายใดๆ ชาวเรือจะยิงปืนใหญ่ 4 นัดหรือยิงเป็นเลขคู่ เพื่อบอกให้ชาวเรืออื่นๆและชาวเกาะทราบว่า เสียงจากปืนใหญ่ที่ได้ยิน มาจากเรือที่กำลังพบเหตุอันตรายและต้องการขอความช่วยเหลือ
แต่ถ้าต้องการจะบอกให้ทราบว่า เรือมาถึงเกาะหรืออ่าวโดยปลอดภัยแล้ว ชาวเรือก็จะยิงปืนใหญ่ 3 นัดหรือยิงเป็นเลขคี่แทน
ประเทศที่มีเรือรบและเรือสินค้า ปืนใหญ่ต้องบรรจุลูกปืนใหญ่ทางปากกระบอกปืนซึ่งเสียเวลามาก เรือรบและเรือสินค้าทุกลำที่แล่นอยู่ในทะเลจึงต้องเตรียมบรรจุดินระเบิดและใส่ลูกไว้ให้พร้อม เมื่อต้องการยิงก็จะยิงได้ทันที
ในสมัยนั้นถือเป็นธรรมเนียมว่า เรือรบและเรือสินค้าที่จะเข้าไปจอดในท่าเรือของประเทศฝ่ายเดียวกัน จะต้องเก็บอาวุธของตนเสีย ฉะนั้นเรือรบและเรือสินค้าทุกลำที่บรรจุกระสุนไว้ จึงต้องจัดการเอาดินปืนและกระสุนออกให้หมด และการเอาออกก็ไม่มีวิธีใดดีกว่าการยิงทิ้ง การทำเช่นนี้จึงถือเป็นการยิงเพื่อเคารพเจ้าของถิ่น
และฝ่ายเจ้าของถิ่น ก็จะยิงปืนใหญ่บนป้อมตอบผู้ที่เดินทางมาถึงเป็นการตอบแทนเช่นเดียวกัน และมีจำนวนมากนัดกว่าด้วย
เช่นเมื่อทางเรือรบและเรือสินค้ายิงมา 1 นัด ทางป้อมบนบกก็จะยิงตอบ 3 นัด เป็นต้น
สมัยต่อมาที่ประเทศอังกฤษล่าอาณานิคมไปทั่วโลก ประเทศอังกฤษได้วางกฎไว้ให้ชาติที่อ่อนแอกว่าปฏิบัติตาม กล่าวคือ
เมื่อชาติที่เป็นเจ้าของอ่าวยิงสลุต 7 นัด ถือเคล็ดว่าเลข 7 เป็นเลขดี ด้วยว่าตามคัมภีร์ฝรั่งถือว่าพระเจ้าสร้างโลกใน 7 วัน ชาติที่เป็นเจ้าของป้อมบนบกจะต้องยิงสลุตตอบเป็นจำนวน 3 เท่าคือ 21 นัดทันที เพื่อเป็นการให้เกียรติต่อราชทูตหรือผู้แทนแห่งกษัตริย์อังกฤษ
และในกาลต่อมา การยิงสลุตโต้ตอบก็เปลี่ยนเป็นยิงจำนวนฝ่ายละเท่ากันคือ 21 นัด และตกลงกันว่าเป็นการยิงเพื่อเป็นการให้เกียรติแก่ พระมหากษัตริย์ด้วย
ปัจจุบันการยิงสลุตในประเทศต่างๆรวมทั้งประเทศไทย ยิงจำนวน 21 นัดเท่ากัน ถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติสากล
แต่บางเอกสารกล่าวว่า ที่ยิงสลุต 21 นัดนั้นเพราะถือตามดาวฤกษ์ในระบบสุริยจักรวาลว่ามี 21 ดวง จึงเป็นการบูชาดาวฤกษ์
การยิงสลุต(Salute)เป็นการยิงปืนใหญ่ด้วยลูกสลุตหรือกระสุนซ้อมรบ เพื่อทำความเคารพต่อประมุขของรัฐ หรือเพื่อเป็นการแสดงว่ามีบุคคลสำคัญมาเยี่ยม และมีเกณฑ์จำนวนนัดตามควรแก่เกียรติยศของบุคคล
ราชนาวีไทยเรียกการยิงสลุต 21 นัดว่า สลุตหลวง แต่ยังมีสลุตหลวงพิเศษที่ใช้ในพิธีการใหญ่ ซึ่งจะยิงได้ต่อเมื่อมีคำสั่งพิเศษเฉพาะคราวเท่านั้น ครั้งหนึ่งช่วงปีพ.ศ. 2431-2433 ในวันเฉลิมพระชนมพรรษา ยิงสลุต 101 นัด ต้องใช้เรือรบยิง 2 ลำ แบ่งยิงเป็นเวลาเช้า เที่ยง และบ่าย ต่อมาการยิงสลุต 101 นัด ถูกยกเลิกไป
ประเพณีการยิงสลุตในไทย มีปรากฏในพงศาวดารว่ามีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาในแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เพราะช่วงดังกล่าวไทยเราคบค้ากับฝรั่งหลายชาติ จึงรู้ขนบธรรมเนียมของต่างชาติ
ตามจดหมายเหตุของฝรั่งเศสกล่าวว่า เมื่อวันที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2223 เรือรบฝรั่งเศสชื่อ เลอโวตูร์ ได้เข้ามาในบางกอก และมองซิเออร์ คอนูแอล นายเรือได้สอบถามไปทางกรุงศรีอยุธยาว่า จะยิงสลุตให้ชาติไทยเมื่อเรือผ่านป้อมที่บางกอก คือป้อมวิชาเยนทร์ที่ปากน้ำ บางกอกใหญ่(ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็นป้อมวิชัยประสิทธิ์สมัยพระเจ้ากรุงธนบุรี) จะขัดข้องหรือไม่
สมเด็จพระนารายณ์มหาราชก็รับสั่งให้ ออกพระศักดิ์สงคราม ชาวเตอรกีผู้รักษาป้อม ยอมให้ฝรั่งเศสยิงสลุตได้
และมีเรื่องเล่าว่าธงชาติไทยเริ่มมีขึ้นเป็นครั้งแรกที่นี่ เพราะตามธรรมเนียมต้องชักธงชาติขึ้นก่อน ฝรั่งเศสจึงจะยิงสลุตได้
และทูตไทยที่ได้รับการยิงสลุตเป็นคนแรกเมื่อเดินทางไปฝรั่งเศสเป็นจำนวน 5 นัดคือ ขุนพิชัยวาทิต และขุนพิทักษ์ไมตรี
หลังแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ไทยเราไม่นิยมฝรั่งเศส ประเพณีการยิงสลุตจึงหายไป
จนกระทั่งถึงสมัยรัชกาลที่ 4 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ จึงได้มีการเริ่มประเพณีนี้ขึ้นอีก เมื่อเซอร์ จอห์นเบาริง เป็นราชทูต เข้ามาในประเทศไทยเมื่อปีพ.ศ. 2398 ก็มีการขออนุญาตยิงสลุต 21 นัด และพระองค์ท่านก็ทรงพระราชทานพระบรมราชานุญาต พร้อมทั้งให้มีการยิงตอบด้วยจำนวนเท่ากัน โดยได้มีการออกประกาศให้ประชาชนได้ทราบเพื่อมิให้ตื่นตกใจด้วย เพราะสมัยนั้นเรายังไม่ถือการยิงสลุตเป็นประเพณีที่ต้องปฏิบัติ
จนมาถึงปลายรัชสมัยรัชกาลที่ 5 เราจึงมีหลักเกณฑ์การยิงสลุต ที่เรียกว่า ข้อบังคับว่าด้วยการยิงสลุต ร.ศ. 124 ขึ้น โดยมีผู้มีหน้าที่ยิงคือ เรือรบหลวง ยิงในทะเล และป้อมยิงสลุต ยิงบนบก ซึ่งข้อบังคับดังกล่าวได้ใช้มาตลอดรัชกาลที่ 5
ในรัชกาลที่ 6 ได้ทรงเปลี่ยนแปลงแก้ไข โดยทรงตราเป็นพระราชกำหนดเรียกว่า พระราชกำหนดการยิงสลุต ร.ศ. 131 (พ.ศ.2455) การยิงสลุตแบ่งเป็นของหลวง แบบธรรมดา ใช้ยิง 21 นัด แบบพิเศษใช้ยิง 101 นัดในพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา ซึ่งพระราชกำหนดนี้ใช้มาตลอดรัชกาลที่ 6 แต่ครั้นรัชกาลที่ 7 มิให้ใช้เพื่อความประหยัด
ปีพ.ศ.2483 จนถึงปัจจุบัน ไทยนำประเพณีการยิงสลุตมาใช้อีก เช่นเดียวกับที่ประเทศอื่นๆในโลกเขาใช้กัน โดยมีข้อบังคับที่เรียกว่า ข้อบังคับทหารว่าด้วยการยิงสลุต ซึ่งต่อมารัฐบาลมีกำหนดไว้ในราชกิจจานุเบกษา
ถ้าเป็นงานพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา งานพระราชพิธีฉัตรมงคล หรือวันพระราชสมภพสมเด็จพระบรมราชินีหรือสมเด็จพระยุพราช รวมถึงงานต้อนรับพระมหากษัตริย์ หรือประมุขแห่งรัฐ ยิงสลุตจำนวน 21 นัด
ถ้าเป็นระดับนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม(ที่เป็นทหาร) ผู้บัญชาการทหารเรือ จอมพลเรือ และเอกอัครราชทูต ยิงสลุต 19 นัด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม(ที่เป็นพลเรือน) พลเรือเอก และเอกอัครราชทูตพิเศษ ยิงสลุต 17 นัด
พลเรือโท และอัครราชทูต ยิงสลุต 15 นัด
พลเรือตรี และราชทูต ยิงสลุต 13 นัด (สามเหล่าทัพยศเท่ากัน ยิงสลุตเท่ากัน)
อุปทูตยิงสลุต 11 นัด กงสุลใหญ่ ยิงสลุต 9 นัด เป็นต้น
Create Date : 06 ธันวาคม 2548 |
|
42 comments |
Last Update : 6 ธันวาคม 2548 14:08:37 น. |
Counter : 1947 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: err_or 6 ธันวาคม 2548 11:34:36 น. |
|
|
|
| |
โดย: เงือกลม 6 ธันวาคม 2548 11:48:06 น. |
|
|
|
| |
โดย: mda IP: 203.159.0.10 6 ธันวาคม 2548 12:07:28 น. |
|
|
|
| |
โดย: กุมภีน 6 ธันวาคม 2548 13:01:38 น. |
|
|
|
| |
โดย: btea 6 ธันวาคม 2548 13:09:53 น. |
|
|
|
| |
โดย: ซออู้ 6 ธันวาคม 2548 13:23:54 น. |
|
|
|
| |
โดย: yyswim 6 ธันวาคม 2548 14:19:05 น. |
|
|
|
| |
โดย: yyswim 6 ธันวาคม 2548 14:19:49 น. |
|
|
|
| |
โดย: yyswim 6 ธันวาคม 2548 14:20:49 น. |
|
|
|
| |
โดย: Due_n 6 ธันวาคม 2548 15:46:38 น. |
|
|
|
| |
โดย: merf1970 6 ธันวาคม 2548 16:01:08 น. |
|
|
|
| |
โดย: ซีบวก 6 ธันวาคม 2548 16:21:06 น. |
|
|
|
| |
โดย: U2 IP: 61.90.184.202 6 ธันวาคม 2548 16:31:10 น. |
|
|
|
| |
โดย: yyswim 6 ธันวาคม 2548 16:48:19 น. |
|
|
|
| |
โดย: yyswim 6 ธันวาคม 2548 16:49:33 น. |
|
|
|
| |
โดย: yyswim 6 ธันวาคม 2548 16:58:58 น. |
|
|
|
| |
โดย: noom_no1 6 ธันวาคม 2548 22:28:38 น. |
|
|
|
| |
โดย: ladybear (ladybear ) 6 ธันวาคม 2548 22:35:56 น. |
|
|
|
| |
โดย: mda IP: 203.159.0.14 7 ธันวาคม 2548 10:51:43 น. |
|
|
|
| |
โดย: yyswim 7 ธันวาคม 2548 12:41:10 น. |
|
|
|
| |
โดย: yyswim 7 ธันวาคม 2548 12:42:02 น. |
|
|
|
| |
โดย: yyswim 7 ธันวาคม 2548 12:42:59 น. |
|
|
|
| |
โดย: yyswim 7 ธันวาคม 2548 12:43:48 น. |
|
|
|
| |
โดย: yyswim 7 ธันวาคม 2548 12:44:12 น. |
|
|
|
| |
โดย: mda IP: 203.159.0.14 7 ธันวาคม 2548 14:04:12 น. |
|
|
|
| |
โดย: @opal@ 7 ธันวาคม 2548 14:17:57 น. |
|
|
|
| |
โดย: yyswim 7 ธันวาคม 2548 21:36:58 น. |
|
|
|
| |
โดย: yyswim 7 ธันวาคม 2548 21:38:14 น. |
|
|
|
| |
โดย: yyswim 7 ธันวาคม 2548 21:39:33 น. |
|
|
|
| |
โดย: pataree 10 ธันวาคม 2548 21:39:35 น. |
|
|
|
| |
โดย: ฅนไทย IP: 58.8.151.87 21 พฤษภาคม 2551 0:07:45 น. |
|
|
|
|
|
|
บล็อกสรรสาระนี้ จขบ.ไม่ได้เขียน-ไม่ได้ถ่ายภาพ-ไม่ได้อัพโหลดคลิปเอง หากแต่ทำหน้าที่เป็นบรรณาธิการบล็อก เสาะหาเรื่องดีๆ รูปสวยๆ คลิปแปลกๆ มาไว้ในบล็อก
ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยม ขอเชิญชมหรืออ่านตามสบาย ไม่ต้องคอมเมนต์ก็ได้ จขบ.ชอบการเข้ามาเยี่ยม แบบกันเอง ง่ายๆ สบายๆ
เริ่มเขียนBlog เมื่อวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ.2548
เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ.2550 เวลา 23.30 น.
เริ่มนับจำนวนผู้เข้าเยี่ยมชม
|
|
|
|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
มายิ้มเฉยๆๆ งดป่วน