ยังคงติดเกมและเล่นเฟสมากกว่า อาจไม่ค่อยมาตอบคอมเม้นท์นะคะ

ยาคูลท์
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 30 คน [?]




ข้าพเจ้าเป็นสุข และเชื่อว่าใครก็ตามซึ่งมีรสนิยมในการอ่านหนังสือดี ย่อมสามารถทนต่อความเงียบเหงาในทุกแห่งได้ -- วาทะของท่านมหาตมะ คานธี


Book Archive by Group



หมายเหตุ: โซน Romance และ การ์ตูน ยังไม่ทำเพราะมีน้อย


Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2549
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728 
 
27 กุมภาพันธ์ 2549
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ยาคูลท์'s blog to your web]
Links
 

 

เรื่องเล็กในเมืองใหญ่

ผู้แต่ง: วริษฐ์ ลิ้มทองกุล
สำนักพิมพ์: บ้านพระอาทิตย์
พิมพ์ สิงหาคม 2548
ราคา 180 บาท

บันทึกการเดินทางจากประสบการณ์ของผู้เขียน “วริษฐ์ ลิ้มทองกุล” จากเซี่ยงไฮ้ ถึงหางโจว ผ่านหนานจิง ขึ้นหวงซาน และซานซี

ในเล่มคุณจะสัมผัสได้ถึงวัฒนธรรมประเพณี วิถีชีวิตความเป็นอยู่ ตลอดจนความงดงามของธรรมชาติและสถานที่ท่องเที่ยวที่ชวนหลงใหล ถ่ายทอดผ่านตัวอักษรและภาพถ่ายที่งดงาม ชวนติดตามตลอดทั้งเล่ม

สารบัญ

เซี่ยงไฮ้ กับ เรื่องเล็กในเมืองใหญ่
เซี่ยงไฮ้ กับ The Bund
เซี่ยงไฮ้ กับ พิพิธภัณฑ์ในดวงใจ
เซี่ยงไฮ้ กับ ร่องรอยทางประวัติศาสตร์
“เก็บตก” จากเซี่ยงไฮ้

รถช้าสู่ “ซานซี”เหิงซาน ที่ 2,017 เมตร
สู่ซานซี: ร่องรอยแห่งพุทธ
ภูห้าหอ กับ เมืองในหุบ

ความทรงจำแห่งฤดูร้อน : หนานจิง
”หมิง” จุดหักเหของจีน
สุสานหมิง แห่ง หนานจิง
บุรุษผู้มีคำว่า “ปฏิวัติ” อยู่ในสายเลือด
โศกนาฏกรรมแห่งหนานจิง

ความทรงจำแห่งฤดูร้อน : หวงซาน
บันทึกจากตีนเขา
บันทึกจาก ‘ทะเลตะวันตก’

ความทรงจำจากฤดูร้อน : หางโจว
รอยต่อแห่งผืนฟ้าและแผ่นดิน
พบรักที่ ‘ซีหู’
ปั่นจักรยาน-กินลม-ชม ‘ซีหู’
เลี้ยวเข้าพิพิธภัณฑ์
ตามรอย ‘พระบ้า’
จีบ ‘หลงจิ่ง’ ริมซีหู

* * * * * * * *


ปกติไม่ใช่คนชอบอ่านแนวเดินทางค่ะ เพราะไม่ใช่คนชอบเดินทาง และมักเดินทางแบบไม่มีข้อมูลในหัว ประเภทตามเขาไปเที่ยว มากกว่าจะไปเที่ยวเพราะอยากไปเอง

สะดุดตาเล่มนี้ตอนยืนอ่านหนังสือฟรีในร้าน ช่วงแรกพูดถึงหนัง ‘เจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้’ (ยืนชื่นชมความเด้งของใบหน้าโจวหยุนฟะ) ต่อด้วยประวัติของ The Bund และสวนสาธารณะที่ปิดป้าย No Dogs or Chinese Allowed

เนื้อหาส่วนแรกยังค่อนข้างเบา แต่พอขึ้นส่วนต่อมา เนื้อหาเริ่มคล้ายความเรียงประวัติศาสตร์ มีเรื่องของจูหยวนจาง เจิ้งเหอ ราชวงศ์หมิง ดร. ซุนยัดเซ็น ไปจนถึงการสังหารหมู่ที่หนานจิง (นึกถึงหนังสือ ‘หลั่งเลือดที่นานกิง’ ขึ้นมาเลย) ตำนานนางพญางูขาว ฯลฯ

ลีลาการเขียนก็อย่างที่บอกในหน้าคำนำ คือเป็นคล้าย ๆ การค้นคว้าข้อมูลมาเรียบเรียงเป็นบทความท่องเที่ยวเชิงสารคดี ที่มีทั้งด้านสังคมและประวัติศาสตร์ ไม่ใช่ไดอารี่บันทึกการเดินทาง—ซึ่งจขบ. เกลียดมาก เพราะมีน้ำมากกว่าเนื้อ

เนื้อหาที่นำมาเขียนก็ไม่ใช่อะไรใหม่หรือลุ่มลึก ถ้าเราสนใจจะค้นคว้าหาอ่านเองก็ยังได้ (แต่เราไม่ทำเอง ฮา) การได้อ่านสรุปย่อ ๆ แบบนี้ก็ดีไปอย่าง เพราะบางเรื่องก็ไม่เคยสนใจมาก่อนจริง ๆ เช่น ถ้าถามว่าหลักการปกครองที่พรรคของดร. ซุนยัดเซ็นยึดถือและเรียกว่า ‘ไตรราษฎร์’ คืออะไร? จขบ. คงงงเป็นไก่ตาแตก หรือถ้าถามว่าทำไมจีนถึงล้าหลังตะวันตก ทั้งที่สมัยของเจิ้งเหอนั้น จีนมีระดับความเจริญเท่ากับประเทศทางตะวันตก? จขบ. คงตอบไม่ถูกเหมือนกัน เพราะจำชื่อราชวงศ์ยังไม่ค่อยถูกเลย

สรุปคือเป็นเล่มที่เหมาะสำหรับคนสนใจเซี่ยงไฮ้และมณฑลซานซี หวงซาน หางโจว และอยากรู้ประวัติความเป็นมาโดยสังเขป

แต่สาเหตุหลักที่ซื้อเล่มนี้ (เมื่อเจอลดถูก ๆ) ก็เพราะสนใจช่วงที่พูดถึงเขาหวงซาน ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมและธรรมชาติโดย UNESCO
เขาลูกนี้เป็นเขาที่ 'พิชิต' จขบ. มาแล้ว แม้จนทุกวันนี้ก็ยังเสียดายว่าไม่ได้เห็นเขาหวงซาน...ทั้งที่ไปถึงบนนั้นแล้ว ได้เห็นแค่บรรยากาศหมู่บ้านยุคเก่าที่อนุรักษ์ไว้กับล็อบบี้โรงแรมเอง

ประสบการณ์นรกที่หวงซาน

เมื่อปีก่อน จขบ. เพิ่งไปเที่ยวจิ่วไจ้โกวแล้วรวมหวงซานไว้ในทริปด้วย แน่นอนว่าเป็นการเที่ยวแบบ “ตามเขาไป” ตามสไตล์ นั่นคือไม่รู้หรอกว่าไอ้ที่จะไปเนี่ย มันเป็นยังไงบ้าง ดังนั้น จขบ. จึงไม่รู้อะไรเรื่องผลกระทบจากการเปลี่ยนความสูงระดับน้ำทะเลเลย แถมทริปนั้นยังมีการเปลี่ยนโปรแกรมสลับวันด้วย (โหด ๆ ชนกัน แทนที่จะสลับโหด-ง่าย-โหด)

ผลคือเที่ยวโทรม (นอนดึกตื่นเช้า) จากที่อื่นมาก่อน วันเที่ยวหวงซาน ตื่นนอนตีสาม (เร็วกว่าปกติ) แถมเจอเครื่องบินดีเลย์ประมาณ 3-4 ชั่วโมง ลงเครื่องก็จับรถบัสขึ้นเขา แล้วไกด์ก็ไม่ได้เตือนเรื่องเปลี่ยนระดับความสูงกะทันหันเลยสักคำ (โทษไกด์สุด ๆ ค่ะงานนี้) ไม่มีใครแนะนำให้ซื้อออกซิเจนสูดด้วยซ้ำ พอรถจอด และทุกคนแวะทานอาหารที่โรงแรมก่อนขึ้นเขา ร่างกายก็แสดงอาการทันที ลืมตาไม่ค่อยขึ้น อาเจียน กินอะไรไม่ได้-แม้แต่น้ำ ยิ่งกินยิ่งอาเจียน แล้วก็อยากหามุมมืด ๆ นอนมากเลย สรุปคือไปนอนพะงาบ ๆ ที่ซอกล็อบบี้โรงแรม รอคนอื่นจนกว่าเขาจะลงเขามา

โชคดีมีทัวร์อีกกรุ๊ปไปวันเดียวกัน กลุ่มที่นั่งรอ (เพราะไม่สนใจขึ้นเขา) มีญาติที่เป็นหมออยู่ด้วย หมอเขาถามอาการดูแล้วยืนยันว่าไม่ใช่อาหารเป็นพิษอย่างที่จขบ. คิดไว้ แล้วก็มีใครบางคนแนะนำให้สูดออกซิเจนกระป๋อง ... ซึ่งเป็นคำแนะนำที่จขบ. ไม่เชื่อถืออย่างมาก แอบคิดว่า “มันเกี่ยวอะไรกัน?” (ตามประสาคนอยู่บนพื้นที่ระดับน้ำทะเลมาตลอด) แต่ก็รับมาสูดเพราะไม่มีอย่างอื่นให้ทำ ใครแนะอะไรก็ทำทั้งนั้นแหละ ตอนนั้น ปรากฏว่าต้นเหตุของอาการคือขาดออกซิเจนจริง ๆ

จขบ. เป็นคนแรกที่มีอาการ มีรุ่นพี่อีกคนที่ออกอาการหลังจากนั้น นอกนั้นยังมีอีกหลายคนที่เริ่มพะอืดพะอม กินไม่ลง อยากอาเจียนเมื่อลงเขาและกลับโรงแรมที่พักในคืนนั้น ซึ่งน่าเสียดายแทนมาก เพราะมื้อเย็นวันนั้นกินที่โรงแรมหรู (อย่างน้อยก็ต้อง 4 ดาว) อาหารอร่อยมาก จขบ. ที่ตอนนั้นสูดออกซิเจนกระป๋องจนหายเป็นปกติแล้วเอร็ดอร่อยมาก ... ก็ได้เสียดายๆๆๆ จนทุกวันนี้ค่ะ ค่าเดินทางไปไม่ใช่จิ๊บ ๆ แล้วจะได้ไปอีกรึเปล่าก็ไม่รู้ ชาตินี้ (ถ้าไปตอนแก่ ก็คงไม่มีปัญญาขึ้นเขาอยู่ดี )






ระยะเวลา: 10 วัน
สภาพ: ใหม่ ห่อปกพลาสติก ใส่ถุงพลาสติก




 

Create Date : 27 กุมภาพันธ์ 2549
5 comments
Last Update : 1 พฤษภาคม 2550 2:20:57 น.
Counter : 1126 Pageviews.

 

อยากไปสักครั้งเหมือนกันค่ะ


โอ..แต่ฟังแล้วอาการน่ากลัวจังง่ะ แหะๆ


จขบ.ไม่ชอบไดอารี่บันทึกการเดินทางเหรอคะ? เพิ่งรู้นะนี่

 

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ 27 กุมภาพันธ์ 2549 9:35:48 น.  

 

เป็นหนังสือน่าอ่านดีจัง มีประวัติ ดร.ซุนยัดเซ็น ด้วย

เพิ่งรู้นะเนี่ย ว่าถ้าไป หวงซาน ต้องซื้อออกซิเจนกระป๋องสูดด้วย เพราะความเปลี่ยนแปลงของระดับความสูง อ๋ายยย น่ากลัวอ่ะ หูอื้อด้วยหรือเปล่าคะ

 

โดย: Masaomi IP: 210.213.12.200 27 กุมภาพันธ์ 2549 9:54:07 น.  

 

ไดอารี่บันทึกการเดินทางนี่ ถ้าเสียเงิน ไม่สนค่ะ
ถ้าฟรี ก็ไม่แน่ ... แต่คงเลือกอ่านนิยายมากกว่านะ

คุณ Masaomi
กรณีของเรานี่เพราะเปลี่ยนเร็วเกินไปค่ะ ทางขึ้นเขามีสองแบบคือนั่งรถกับเครื่องบิน นั่งรถก็เกือบวัน ถ้าเครื่องบินประมาณ 1 ชม.
อาการมันไม่ใช่แค่หูอื้อน่ะสิคะ ตอนแรกก็แค่ง่วง ๆ ปวดหัว เสียงคุยคนอื่นตอนรอเครื่องดีเลย์นี่หนวกหูมาก พอลงเครื่องก็เริ่มอยาก shut up ไม่รับรู้อะไรรอบตัวแล้ว หลังจากนั้นยังนั่งรถบัสขึ้นต่อไปตามทางวกวน-ชันด้วย พอถึงร้านอาหารบนนั้นเลยน็อคเลย

หวงซานเลยกลายเป็นรอยด่างในใจ อ๊า อยากย้อนเวลาไปเตือนตัวเองจัง

 

โดย: ยาคูลท์ 27 กุมภาพันธ์ 2549 17:59:57 น.  

 

ถ้าเลือกได้เราก็อ่านนิยายมากกว่าอ่านพวกบันทึกการเดินทางเหมือนกันค่ะ คุณยาคูลท์

 

โดย: หวัน (หวันยิหวา ) 28 กุมภาพันธ์ 2549 12:02:30 น.  

 

อ่านจบแล้ว ขอบคุณมากนะคะ
ได้เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยและความรู้ใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นมาดีเหมือนกันค่ะ โดยเฉพาะเรื่องของดร. ซุนยัดเซ็น กับเรื่องของหนานจิง (อ่านแล้วหดหู่)

ตอนแรกที่ไปเซี่ยงไฮ้ไม่ชอบเลย ดูเจริญแบบลวก ๆ แต่อ่านเล่มนี้แล้วก็อยากไปพิสูจน์อีกครั้ง ว่าจะรู้สึกเหมือนเดิมหรือเปล่า

 

โดย: unwell 22 กันยายน 2549 10:26:01 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.