ยังคงติดเกมและเล่นเฟสมากกว่า อาจไม่ค่อยมาตอบคอมเม้นท์นะคะ

ยาคูลท์
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 30 คน [?]




ข้าพเจ้าเป็นสุข และเชื่อว่าใครก็ตามซึ่งมีรสนิยมในการอ่านหนังสือดี ย่อมสามารถทนต่อความเงียบเหงาในทุกแห่งได้ -- วาทะของท่านมหาตมะ คานธี


Book Archive by Group



หมายเหตุ: โซน Romance และ การ์ตูน ยังไม่ทำเพราะมีน้อย


Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2549
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
23 พฤษภาคม 2549
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ยาคูลท์'s blog to your web]
Links
 

 
จดหมายจางวางหร่ำ


ผู้แต่ง: น.ม.ส.
สำนักพิมพ์: คลังวิทยา
ปกแข็ง ราคา 20 บาท

จดหมายเหล่านี้เป็นของจางวางหร่ำ เศรษฐีเมืองฉะเชิงเทรา มีถึงบุตรชาย
ซึ่งในตอนต้น ๆ กำลังออกไปเรียนวิชาอยู่ในเมืองอังกฤษ

จางวางหร่ำผู้นี้ แต่เดิมก็เป็นผู้ขัดสน แต่เป็นคนมีความเพียรแลความสามารถ ทำมาหากินตั้งแต่เป็นคนจนไปจนเป็นคนมั่งมี มีโรงสีไฟอยู่ที่แม่น้ำบางปะกง อย่างน้อย ๒ โรงเลื่อยจักรอยู่ที่ไหนบ้างจนจำไม่ได้ เรือใบบรรทุกสินค้าก็มีหลายลำ ตลอดถึงมีเรือไฟเขื่องขนาดเรือไรซิงซันเดินทะเลได้ด้วย

เทือกเถาเหล่ากอจางวางหร่ำ แต่เดิมจะเป็นมาอย่างไรไม่สู้ปรากฏ นอกจากที่จะสันนิษฐานได้จากถ้อยคำที่กล่าวในจดหมายเหล่านี้ เมื่อเด็กและหนุ่ม จางวางหร่ำเป็นผู้ที่ไม่ได้ทิ้งเวลาเสียเปล่า เมื่อบวชก็ได้เรียนหนังสือ เป็นผู้มีโวหารจนออกจะได้ชื่อว่าหนังสือดี ส่วนภาษาฝรั่งเมื่อครั้งเป็นเสมียนก็ได้พากเพียรอยู่นาน จนเป็นเสมียนฝรั่งได้อย่างเมื่อครั้งกระโน้น มาภายหลังรู้ดีขึ้นด้วยทำมา
ค้าขายติดต่อกับฝรั่งอยู่เสมอๆ และแกเป็นคน
เอาใจใส่อยู่ด้วย

ในข้อซึ่งจางวางหร่ำเป็นผู้ที่มีนิสัยใจคออย่างไรนั้น คงจะปรากฏจากจดหมายหลายฉบับซึ่งจะได้รวบรวมนำมาลงพิมพ์ต่อไปนี้

หมายเหตุ:
น.ม.ส. เป็นนามปากกาของพระองค์เจ้ารัชนีแจ่ม
จำรัส (กรมหมื่นพิทยาลงกรณ) ได้เขียนลงหนังสือทวีปัญญา และผู้เขียนนึกหรือหาชื่อที่จะใช้ ไม่ต้องการชื่อขุนนางแต่ไม่ต้องการชื่อสามัญเกินไป คิดหาชื่อคนที่อ่านหนเดียวจำได้ แลคงจะไม่เอาไปปนกับชื่ออื่น คิดดังนี้จึงใช้ชื่อว่าจางวางหร่ำ


Source + ทดลองอ่าน: คลิกที่นี่

* * * * *


ผลพวงจากการเดินสัปดาห์หนังสือครั้งล่าสุด เหลือบเห็นเล่มนี้เป็นปกแข็ง สภาพเรียกได้ว่าใหม่เอี่ยม ราคาลดเหลือ 15 บาท เลยซื้อมาอ่านเล่นวันละนิดวันละหน่อย

ตัวสะกดแลภาษาอาจโบราณไปบ้าง แต่สำนวน แง่คิดและคติสอนใจในเล่มคมกริบไม่ต่างกับมีดโกน (ดุอีกต่างหาก) ใครคิดจะไปเรียนต่อเมืองนอก...ไม่ว่าจะไปเองหรือส่งลูกหลานไป..ควรได้อ่านสักรอบไว้สอนใจตัวเอง

นอกจากแง่คิดที่สอนให้รู้จักประมาณตนเมื่อไปเรียนต่างประเทศแล้ว ยังมีคติในการทำงานอยู่ในช่วงท้ายเล่ม

นาน ๆ อ่านงานรุ่นเก่าบ้างก็ดีค่ะ อ่านแล้วก็มานั่งคิดว่าหลักการสมัยนั้น ถ้ามาถึงสมัยนี้ จะยังทันสมัยอีกไหม?



Create Date : 23 พฤษภาคม 2549
Last Update : 23 พฤษภาคม 2549 20:33:56 น. 10 comments
Counter : 2711 Pageviews.

 
จำได้ว่ามีหนังสือเล่มนี้ปกอ่อน ไปอยู่ไหนแล้วหว่า
เห็นด้วยว่า ควรอ่านงานรุ่นเก่าบ้าง
แรก ๆ อาจไม่คุ้นสำนวน
แต่อ่านไปๆ ก็"เก็ท" สารที่เขาต้องการสื่อเหมือนกัน


โดย: grappa วันที่: 23 พฤษภาคม 2549 เวลา:22:01:25 น.  

 
I read this book long time ago. The one I have is published in 1969...wow an old one. It has many good idea and philosophy of working and study life aboard.
I like it.


โดย: kofee IP: 128.186.71.241 วันที่: 24 พฤษภาคม 2549 เวลา:4:45:05 น.  

 
น.ม.ส.เป็นนักเขียนคนโปรดเลยค่ะ อ่านงานของท่านทุกเล่มที่หาได้^^

ฉลาด ใจดี ตลก แหวกแนว ( สำหรับยุคนั้น )

และเสียดสีเจ็บมาก - -''

ที่เรคคอมเมนต์คือ "สามกรุง" ( มีคู่มือที่เจ๋งมาก เป็นวิทยานิพนธ์ของอาจารย์จาก ม.เกษตร ชื่อ "วรรณคดีการเมืองเรื่องสามกรุง" เป็นวิทยานิพนธ์ที่อ่านสนุกสุด ๆ )

ยังจำได้ว่าท่านแต่ง ( หรือแปล ไม่แน่ใจ ) เรื่องราชสำนักต้นวิคตอเรียเรื่องหนึ่ง พอถึงตอนที่พระเอกกับนางเอกพูดจาภาษารักกัน ท่านก็เขียนทำนองว่า "และเขาทั้งสองก็พูดจากันด้วยภาษาอันหาเนื้อหาแลแก่นสารใดมิได้ ทว่าสำหรับพวกเขาแล้วต่างเห็นกันเองว่าเป็นคำอันหวานที่สุดในโลก"


โดย: เคียว (ลวิตร์ ) วันที่: 24 พฤษภาคม 2549 เวลา:10:02:44 น.  

 
คุณ grappa
มีปกอ่อนด้วยเหรอคะ? ว้าว...

คุณ kofee
1969! ท่าทางรูปเล่มคงแลขลังมลังเมลืองน่าดู
ชอบคติพจน์ในเล่มเช่นกันค่ะ

คุณเคียว
สนใจอยากอ่าน สามกรุง กับ กนกนคร อยู่ค่ะ คิดว่าเห็นรูปเล่มดี ๆ เมื่อไหร่คงได้ซื้อแน่ ... แต่มันไม่ค่อยเห็นน่ะสิ
ชอบสำนวนเขียนเสียดสีแบบนี้ค่ะ สมัยก่อนคงถือว่าแรงน่าดู


โดย: ยาคูลท์ วันที่: 24 พฤษภาคม 2549 เวลา:22:28:04 น.  

 
จำได้ว่าถูกบังคับให้อ่าน เพราะเป็น หนังสืออ่านนอกเวลา สมัยยังเป็นนักเรียน (จำไม่ได้ว่าชั้นไหน) คิดถึงบรรดาหนังสืออ่านนอกเวลาทั้งหลายเนอะ สนุกและได้แง่คิดตั้งหลายเรื่องแน่ะ อย่างเช่น พลายมลิวัลย์ ปุลากง ผีเสื้อและดอกไม้ (แก่แล้วก็งี้แหละ รำลึกความหลัง)


โดย: Masaomi IP: 124.121.122.238 วันที่: 1 มิถุนายน 2549 เวลา:21:42:53 น.  

 
ง่า.. แต่ทำไมเราจำหนังสือนอกเวลาไม่ค่อยได้ล่ะ?

... อ๊ะ เรายังไม่แก่ไง 555


โดย: ยาคูลท์ วันที่: 3 มิถุนายน 2549 เวลา:0:53:03 น.  

 
ชอบหนังสือเล่มนี้มากเหมือนกันค่ะ รู้สึกว่าเป็นตลกร้ายและทันสมัยจนปัจจุบันนี้ค่ะ เล่มที่ซื้อเก่าจนเหลืองมากเลยค่ะ


โดย: รักบังใบ วันที่: 8 มิถุนายน 2549 เวลา:5:11:15 น.  

 
ได้ลองอ่านดูแล้วค่ะ ตอนนี้อ่านถึงฉบับที่ 6 แล้ว อ่านเพลินและสนุกมาก ได้บรรยากาศของการสั่งสอนระหว่างพ่อกับลูกโดยใช้ประสบการณ์ผ่านมาของเป็นการสอน ได้แง่คิดหลายอย่างเลยค่ะ ทั้งการทำงาน การใช้ชีวิต การวางตัวในสังคม การใช้จ่าย และสอดแทรกการใช้คำภาษาอังกฤษไว้มากมาย ล้วนเป็นคำที่ทันสมัยทั้งนั้น การเว้นวรรค และการใช้ภาษาดูแตกต่างกันอาจจะเข้าใจยากสักนิด แต่คิดว่าเป็นหนังสือที่ควรค่าแก่การมีไว้ในครอบครองอย่างยิ่ง


โดย: อมรา IP: 58.8.35.145 วันที่: 27 ธันวาคม 2550 เวลา:14:59:05 น.  

 
ขอยืมรูป หนังสือ จดหมายจางวางหร่ำไปใช้ นะครับ

หนังสือเล่มนี้ เหมาะสมสำหรับเป็นหนังสือเรียน ของนักศึกษาที่เรียน บริหารธุรกิจ หรือ เศรษฐศาสตร์ หรือ MBA
นะ

ขอขอบคุณครับ


โดย: Merchant Dream วันที่: 29 มิถุนายน 2551 เวลา:6:56:05 น.  

 
ได้ทามรายงานเรื่องนี้ก็เลยได้ความรู้จากเรื่องนี้มากมายเลยค่ะ ขอบคุณที่ให้ข้อมูลนะค่ะ


โดย: น่ารักค่ะ IP: 125.26.232.71 วันที่: 18 กรกฎาคม 2552 เวลา:15:23:46 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.