วิถี (ไม่) ตัน ฉบับตัน ภาสกรนที : ตัน ภาสกรนที เรื่อง, ดุลยปวีณ กรณฑ์แสง เรียบเรียง

ชื่อหนังสือ : วิถี (ไม่) ตัน ฉบับตัน ภาสกรนที
เรื่องโดย : ตัน ภาสกรนที
เรียบเรียงโดย : ดุลยปวีณ กรณฑ์แสง
พิมพ์ครั้งที่ ๘ : กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕
สำนักพิมพ์ : กรุงเทพธุรกิจ
จำนวน ๑๙๒ หน้า ราคา ๑๐๐ บาท

กระซิบก่อนอ่าน

   แล้วผู้ชายคนนี้ก็ได้พิสูจน์ให้เราคนไทยเห็นอีกครั้งว่า วิถีชีวิตของเขาไม่เคยตัน
ร่วมให้กำลังใจจากหนังสือที่ให้แง่คิดทุกเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการทำธุรกิจ มุมมองความคิด ตลอด 30 ปี ของ ตัน ภาสกรนที

โดยรายได้ค่าลิขสิทธิ์ทั้งหมดมอบให้ มูลนิธิตันปัน เพื่อสนับสนุนการศึกษา และสิ่งแวดล้อม

วิถี(ไม่)ตัน
   ถ่ายทอดประสบการณ์ของ ตัน ภาสกรนที ที่เชื่อว่าชีวิตคือการเริ่มต้นใหม่ได้เสมอและได้ทุกวัน เมื่อถามถึงการชีวิตของเขาเองหลังจากนี้ คือการ"ออกแบบชีวิตที่เหลือให้มีแต่รอยยิ้ม"

จากใจคุณตัน

   ตลอด 30 ปี ของการทำธุรกิจ
ผมผ่านประสบการณ์ล้มแล้วลุก...
ลุกแล้วล้ม...
แล้วก็กลับมาลุกขึ้นใหม่ ครั้งแล้วครั้งเล่า
ก้าวได้ถึงวันนี้เพราะผมยังสู้ต่อ...ไม่เคยถอดใจ
เราทุกคนล้วนต้องเจออุปสรรค
ไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่งทั้งนั้น
บางคนเจอครั้งเดียว ก็เลิกแล้ว
ในขณะที่บางคนยังกัดฟันสู้ต่อ
เจอครั้งที่สอง ครั้งที่สาม ไม่ยอมแพ้
แต่พอมาถึงครั้งที่ห้าสิบกลับถอดใจไปตรงนั้น
กฎของการประสบความสำเร็จในธุรกิจ
ไม่ได้อยู่ที่คุณคิดได้ก่อนใคร
คุณเริ่มทำก่อน หรือใครทำมากกว่า
แต่ทั้งหมดคือการมุ่งมั่นทำอย่างสม่ำเสมอ
ไม่ยอมแพ้

ตัน ภาสกรนที

*รายได้ค่าลิขสิทธิ์ทั้งหมดมอบให้ มูลนิธิตันปันเพื่อสนับสนุนการศึกษาและสิ่งแวดล้อม


ขอบคุณรายละเอียดและภาพปกจาก... BOOK Smile ... นะคะ

แวะเคาะประตูร้านหนังสือ

บันทึกหลังอ่าน

   วิถี (ไม่) ตัน ฉบับตัน ภาสกรนที เป็นหนังสือที่บอกเล่าเรื่องราวชีวิตและการดำเนินธุรกิจของ คุณตัน ภาสกรนที หลังอยู่ช่วยดูแลแบรนด์โออิชิครบตามสัญญาที่ให้ไว้กับคู่ค้าทางธุรกิจ และคิดจะพักเพื่อใช้เวลากับครอบครัวให้เต็มที่ ทว่าด้วยเลือดของคนรักการทำงานที่เข้มข้น ทำให้หันมาจับธุรกิจอีกครั้งก่อตั้ง บริษัทไม่ตัน สร้างแบรนด์ใหม่ชื่อ อิชิตัน ไม่เพียงเรื่องการงานเท่านั้นที่ คุณตัน ถ่ายทอดผ่านตัวอักษร แต่รวมถึงเรื่องของการใช้ชีวิต แนวความคิด และวิถีทางในการสร้างตนอีกด้วย

   หวานเย็นเชื่อนะคะว่า... มีหลายคนที่สรรหาหนังสือ How to ที่แนะนำสูตรสำเร็จของการประสบความสำเร็จในชีวิตมาอ่าน หรือบางคนก็ขยันอ่านชีวิตนักธุรกิจ หรือมหาเาศรษฐีดัง ๆ ว่าเขาทำอย่างไรจึงประสบความสำเร็จและร่ำรวย ทว่าเราหลงลืมไปค่ะว่าชีวิตของแต่ละคนมีแนวทางไม่เหมือนกัน ไม่เชื่อลองฟังความในใจที่ คุณตัน ถ่ายทอดให้ฟัง (อ่าน) ดูสิคะ

   เพราะความสำเร็จไม่ได้มีสูตรที่ตายตัว แต่มีเวลา มีขั้นมีตอนของมันที่ต้องหาทางเดินของตัวเองให้เจอ
ชีวิตคนเราไม่จะเป็นต้องมีวิธีที่เหมือนกันในการดำเนินชีวิต ไม่จำเป็นต้องใช้วิธีเดียวกันเพื่อทำธุรกิจ ไม่จำเป็นต้องเดินตามรอยเท้าใครทุกก้าวเพื่อไปให้ถึงความสำเร็จ
เราอาจจะมีต้นแบบในใจ มีบุคคลที่ชื่นชอบหรือนับถือเป็นแบบอย่าง และอยากจะประสบความสำเร็จให้ได้อย่างไอดอลเหล่านั้น
แต่อย่าลืมว่าเราแต่ละคนล้วนมีจุดเด่นในแบบฉบับเราเอง

...
...


   พูดจริง ๆ ว่า ผมไม่รู้หรอกและจำไม่ได้ด้วยซ้ำครับว่าจะต้องไปพลิกเปิดตำราสามก๊กหน้าไหนถึงจะเป็น "ฮาวทู" เพื่อใช้แก้ปัญหา
แต่ผมเชื่อว่าในยามสถานการณ์คับขัน "คลังสมอง" ของเราจะเปิดลิ้นชักหยิบวิธีแก้ปัญหาจากทุนความรู้รอบตัวที่เราสั่งสมไว้... มันเป็นไปโดยอัตโนมัติครับ
...
...
ความเป็น "นักเรียนรู้ตลอดชีวิต" ของผมไม่เคยมีวันจบการศึกษา
อย่าไปคิดว่าความรู้ต้องหาได้เฉพาะในตำรา หรือห้องเรียน
ความรู้บางอย่างอาจจะได้จากการทำงานจริง ๆ การดูละคร ดูหนัง ฟังคนอื่นเล่ามา สังเกตสิ่งต่าง ๆ รอบตัว
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยต่าง ๆ ที่ผ่านเข้ามาเหล่านี้ ถ้ารู้จักเก็บไปคิด ตกผลึกสะสมออมเอาไว้มากเท่าไร ก็เหมือนกับเรายิ่งขุดคลองใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ
...
...
ในชีวิตคนเราก็เหมือนกัน การอ่านหนังสือ การดูหนัง การเปิดตาดู หูฟังอะไรก็แล้วแต่ที่อยู่รอบตัวเรา ก็เหมือนการขุดคลองรับน้ำของเราให้กว้างขึ้น
บางคนดูแล้วไม่ได้เก็บ ไม่ได้สะสมเอาไว้
แต่บางคนถ้าดูแล้วสะสมเอาไว้ คลองที่ขุดไว้จะยิ่งใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ
วันหนึ่งเมื่อถึงคราวคับขันจำเป็นขึ้นมา คลองใหญ่ ๆ นี้จะเป็นประโยชน์ที่สุด
ความรู้ทีเราได้สะสมไว้จะกลายเป็น "ตัวช่วย" ให้เรามีปัญญาผ่าทางตัน แก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้ทันท่วงที
ถ้าไม่หยุดขวนขวายใฝ่ที่จะเรียนรู้ ขยันขุดคลองเก็บความรู้ เก็บประสบการณ์รอบตัวไว้เรื่อย ๆ
ไม่วันใดก็วันหนึ่ง คุณจะได้ใช้ประโยชน์จากคลองใหญ่คลองนี้...

   นอกจากนี้ หากใครที่เคยสงสัยว่าสิ่งที่ คุณตัน มุ่งมั่นทำให้กับสังคมและส่วนรวมนั้นเป็นการสร้างภาพหรือเปล่า ? ในเล่มนี้มีคำตอบที่หวานเย็นอ่านแล้วรู้สึกว่าใช่เลย นี่แหละเหตุผล นี่แหละความจริงที่เป็นจริง...

   ผมไม่เคยบอกว่าผมเป็นคนดี แต่เป็นแค่คนหนึ่งที่พยายยามจะทำความดี บางอย่างผมอาจจะทำผิดพลาดได้
ในวันที่คุณทำดี สังคมจะสรรเสริญคุณด้วยดอกไม้ แต่ถ้าวันไหนคุณทำไม่ดีหรือจอมปลอม รับรองว่าดอกไม้เหล่านั้นจะย้อนกลับเป็นก้อนอิฐเขวี้ยงมาหาคุณสิบเท่าร้อยเท่า
ใครทำอย่างไรย่อมได้อย่างนั้นครับ
คำว่าสร้างภาพในมุมมองของผม คือ ไปยืนโพสท่าถ้ารูปแต่ไม่ได้ลงมือทำ คนละอย่างกับคนพูดจริงทำจริง
ตอนไหนควรทำอะไร ตอนไหนไม่ควรทำอะไร คุณต้องตัดสินใจเอง เพื่อเป็นการแสดงออกถึง "น้ำใจ" อย่างหนึ่งครับ
อย่างน้อยก็ดีกว่าการเอาแต่วิจารณ์โดยไม่เคยลุกมาทำอะไรเพื่อสังคมเลย ใครจะทำความดีแบบปิดทองหลังพระ ทำดีเพื่อชื่อเสียงภาพลักษณ์ ทำดีเพื่ออินเทรนด์
มองกันที่ผลลัพธ์บรรทัดสุดท้ายต่อสังคมดีกว่าครับ ขอให้ช่วยออกมาทำดีกันเยอะ ๆ
ถ้าการแข่งขันทำความดีกลายเป็นเทรนด์ โลกของเราคงน่าอยู่ขึ้นอีกเยอะ

   สำหรับใครที่เคยอ่าน ชีวิตนี้ไม่มีทางตัน "ตัน โออิชิ" เล่มนี้เป็นเรื่องเล่าต่อเนื่องที่น่าอ่านไม่แพ้กัน แม้ว่าความลื่นไหลของภาษาในการเรียบเรียงจะไม่ไหลลื่นเท่า ทว่าความน่ารื่นรมย์ของประสบการณ์ชีวิตที่มีทั้งความสำเร็จและอุปสรรคคละเคล้ากันไปก็ยังเป็นเรื่องราวที่น่าสนใจอยู่เช่นเดิม ทั้ง รายได้ค่าลิขสิทธิ์ทั้งหมดมอบให้ มูลนิธิตันปันเพื่อสนับสนุนการศึกษาและสิ่งแวดล้อม อีกด้วยนะคะ

Create Date : 25 มกราคม 2556		2 comments
Last Update : 25 มกราคม 2556 14:41:15 น.
Counter : 3629 Pageviews.
Share Tweet