นอนดิน ชมดาว ตามตะวัน สามพันโบก

ได้เวลาออกทริปอีกแล้ว ดีใจจัง ช่วงนี้ กระเหี้ยนกระหือรืออยากออกทริปครับ ประมาณว่ามีคนชมเรื่องรูปเยอะว่าถ่ายได้ดีขึ้น เลยอยากลองฝีมืออีก สมหวังครับ พี่สาวสุดสวย ทั้งสอง พี่หนิง เจ้ปุ๊ง ชวนไปนอนเต้นท์ ชมดาวกันที่ไม่ใกล้ไม่ไกล สามพันโบก อ.โพธิ์ไทร จังหวัด อุบลราชธานีเรานี้เอง เริ่มทริปนับหัวได้เกินโหล แต่เหอะ พอถึงเวลาเอาเข้าจริงเหลืออยู่ สี่คน โชคดีพี่สาว รพ.ข้างเคียง ติดตามไปด้วยรวมเป็นห้าคนพอดี สี่สาวหนึ่งหนุ่ม แบ่งรถออกเป็นสองคัน ผม เจ้ปุ้ง คุณน้องขา(พี่นิดหน่อย) ออกไปเที่ยวก่อน หลังจากนั้นอีกสองสาว หมอหนิง หมอแพร ตามไปเก็บตะวันที่สามพันโบกกัน
เริ่มเดินทาง ประมาณก่อนเที่ยงนิดหน่อย พร้อมข้าวของเสบียง เจ้เดินทางออกจาก อ.ม่วงสามสิบ เวลาประมาณเที่ยง มารับผมที่บ้านขามใหญ่ แวะรับ คุณน้อง(พี่)ขา ที่ถนน อุบลฯ-ตระการฯ จากนั้นเริ่มออกเดินทางไปทาง อ.ตระการพืชผล(จริงออกจากทางม่วง จะใกล้กว่า ไหมเนี่ยะ) เวลา 12.15 น. ล้อหมุน
ใช้เวลาเดินทางประมาณ สี่สิบนาที เดินทางถึง อ.ตระการพืชผล แหล่งข้าวหอมมะลิที่ดีที่สุดในจังหวัดอุบลราชธานี ก็ ตระการพืชผล นี่ครับ ฟังชื่อก็นะ น่าจะรู้ น้ำดีดินอุดม แหล่งท่องเที่ยวสำคัญของ อ.ตระการคือ หอไตรกลางน้ำ หนองขุหลุ ไม่ได้แวะครับ แวะไปหาข้าวกินกันก่อน ตามประสาคนหิว ก็เที่ยงนี่น่า เป็นบ้านเพื่อนผมเองครับ เพื่อนกันตั้งแต่สมัย มัธยม จนมา มหาวิทยาลัย เป็นคู่ลีลาศของผมเอง เรียกกันมานาน “ว่าที่รัก” เธอชื่อน้ำผึ้งครับ ปกติ เรียกกัน “ฮันนี่” ตอนนี้เธอมีลูกสาวหนึ่งแล้วครับ “น้องเอ็มมี่” (ดูรูปที่บล๊อคเจ้ แล้วกันนะครับ )
ที่รัก เลี้ยงดูปูเสื่อ เจ้ คุณน้อง(พี่)ขา และเพื่อนเป็นอย่างดี ด้วยอาหารสำรับตำหรับชาววัง อันประกอบด้วย ส้มตำ ไก่ย่าง แกงหน่อไม้ ต้มเนื้อ แต่ขอโทษนะครับซัดกันไม่มีเหลือเนื่องจากหิวมาก เสร็จแล้ว พากันไปเที่ยวอ่างเก็บน้ำถ้ำแข้ แถวบ้านแหละครับไม่ไกล





ผมไม่ได้ถ่ายรูปเลยเนื่องจากมัวแต่เล่นกับหลานตัวน้อย ตอนแรกก็ไม่ยอมเล่นด้วยมัวเก๊ก หลังไม่สนใจครับ จังเหวี่ยงโยน เหอ ทีนี้ติดแจ จะเอาอีก จะเอาอีก โอ้ยตาย ชักหอบ แฮะ เล่นเพลินไปหน่อย บ่ายสองกว่าแล้ว ยังต้องเดินทางอีกไกล ไปส่งหลานสาว ที่บ้านก่อนครับ อะไรนี่ ดอกอะไร ที่บ้านเพื่อนสาว ตะกี้สงสัยหิวจัดไม่ทันมอง
สวยครับ ตอนแรกคิดว่าเป็นว่านสี่ทิศ สีคล้าย แต่ไม่ใชดอกอะไรหว่า เดี๋ยวค่อยถามอากู๋( google ) เอาแล้วกันนะถ่ายไปก่อนเหอะ กว่าจะละเลียดเก็บดอกไม้งามรอบๆบ้านที่รักได้ก็ปาไป บ่ายสามโมงพอดิบพอดี เหอๆๆ ช้าได้จริงๆๆ





ออกเดินทางไปตามถนนอุบลฯ-ตระการฯ-เขมราฐ ลัดเลาะไปจนถึงอำเภอเขมราฐ แวะหาพี่สาวแสนสวยที่ ตัวอำเภอเขมราฐก่อน เตรียมตัวต้อนรับคณะทัวร์อย่างดีแถมชวน พี่ชายหมู กะ พี่เล็ก พยาบาลสาวแสนสวย พานักท่องเที่ยวต่างถิ่น(ต่างถิ่นมากเลยเนอะ อุบลฯ กับ เขมราฐ) แวะที่แรก เป็นหาดทรายสูง อ.เขมราฐ ผ่านทางเข้าที่เป็นหมู่บ้านโฮมสเตย์ น่าสนใจเชียวครับ ผมไม่ได้ถ่ายรูปข้างทางมากนักเนื่องจากเป็นคนขับรถ ได้แต่อาศัยจดจำ



จนไปถึงหาดทรายสูง เป็นหาดทรายริมฝั่งแม่น้ำโขงขนาดใหญ่เชียวครับ สวยมาก ประหนึ่งว่าหาดทรายชายทะเลได้เลยเชียว ระหว่างทางพบพันธ์ไม้แปลกประหลาด มากมาย เหอๆๆ รู้จักบ้างไม่รู้จักบ้างตามประสา



เวลา 17.00 น. อำลาหาดทรายสูง เดินทางตามเก็บตะวันก่อนจะสิ้นแสงไปที่สามพันโบกเป้าหมายหลัก ว้าจะทันไหมนี่ ขับรถอย่างรวดเร็วปานจรวดเหาะ ไม่ได้สนใจข้างทาง แต่สายตาอันรวดเร็ว เหลือไปเห็นต้นอะไรว้า..... ดอกสีชมพูแว๊บบบ เอาน่าตัดใจก่อน ไปตามตะวันเสียก่อนพรุ่งนี้ค่อยว่ากันนะ หมายตาเอาไว้



เอาหล่ะเดินทางอย่างเร่งด่วน แวะผ่าน วัดปากแซง อย่างรีบเร่งลงไปถ่ายรูปไม่ทัน เนื่องจากกลัวสิ้นแสงตะวันก่อน ขับรถเรียกได้ว่าตะบึงตะบอน เนื่องจากโอ้เอ้ หลายสถานที่มากเกินไป จะไปทันไหมนี่ ตามตะวันของฉัน ในวันนี้สงสัยจะชวด ซะแล้ว เห้อ ป้าย ทางเข้าสามพันโบก ก่อนเข้าสามพันโบก เราก็เจอสี่พันหลุมเข้าซะก่อน ทางที่เข้าสามพันโบกค่อนข้างเป็นหลุมเป็นบ่อมากๆ เนื่องจากสถานที่แห่งนี้เพิ่งเป็นสถานที่ท่องที่เพิ่งได้รับความนิยม หลังจากที่ พี่เบิร์ดมาถ่ายโฆษณาประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวที่ สามพันโบกแห่งนี้ จนทำให้เป็นสถานทีท่องเที่ยวแห่งใหม่ในพริบตา



ทันครับ มาถึงสามพันโบกก่อนตะวันสิ้นแสงแรงลง รีบเร่งเดินลงโบกในทันที สามพันโบกยามเย็น แสงสีส้มของตะวันสาดส่องกระทบแนวหินสวยงามทีเดียว แต่ว่าผมมาค่อนข้างช้าแดดอ่อน แรงอีกซ้ำพระอาทิตย์ก็ตกลับทิวไม้ไปแล้ว เนื่องจากบริเวณสามพันโบก เป็นแอ่งต่ำลงไป แสงท้องฟ้าสีแดงยามเย็นที่โรยรา ผมเดินตามเก็บ โบกชื่อดังของสามพันโบก เช่นโบก มิกกี้เมาส์ โบกรูปหัวใจ สระมรกต หินหัวหมา ตามฟังๆจาก ไกด์ท้องถิ่นที่นำเที่ยว ภาพที่เก็บมาได้ยามเย็นไม่มากนัก เนื่องจากแสงน้อย หากแต่ก็ได้เดินชมบริเวณที่เคยถ่ายทำโฆษณาท่องเที่ยวไทย อย่างเต็มอิ่ม ไม่เป็นไรเอาใหม่วันพรุ่งนี้แล้วกัน




18.36 น. เราเดินออกจากสามพันโบกเป็นคณะสุดท้าย เพื่อจัดแจงหาที่พัก ที่ ครัวสามพันโบก ซึ่งเป็นของเอกชน ได้ที่พักค่อนข้างโอเคทีเดียว สนราคาไม่แพง (ก็แค่ที่กางเตนท์เนอะ) กางเตนท์สองหลัง หลังแรกของสองสาวกางสบายครับ แต่เตนนท์ที่ผมเอาไป กางยากครับเนื่องจากเป็นเตนท์แบบสองห้องนอน หนึ่งห้องรับแขก ดีนะเนี่ยะไม่มีห้องน้ำติดมาด้วย ใช้เวลากางค่อนข้างมาก กว่าจะกางกันเสร็จ ได้พี่เจ้าของร้านมาช่วยกางด้วย นึกว่าจะไม่มีที่นอนซะแล้ว หลังจากนั้นมากินข้าวที่ร้านอาหาร อร่อยมากๆๆครับ กินอาหารพร้อมลมพัดเย็นๆจากริมน้ำโขงทำให้รู้สึกสดชื่นอย่างบอกไม่ถูก ส่งทีมงานจากเขมราฐกลับบ้านเสร็จแล้ว ยังครับ ยังไม่นอน เรายังมีนัดกับดวงดาวก่อน ตกลงกันว่าเราจะเดินลงโบกก่อนที่จะกลับขึ้นมาอาบน้ำ



21.30 น. เราเดินลงสามพันโบกอีกครั้ง ลัดเลาะตามแนวหิน ไปเรื่อยอย่างไม่กลัวอันตราย บรรยากาศเงียบสงบ มีเสียงน้ำไหลไกลๆๆ แสงดาวตัดแนวหิน จุดมุ่งหมายบริเวณแอ่งน้ำบนสามพันโบก สระมรกต กลาง พลาญหิน (อ่านว่า พะ-ลาน) เราสามารถมองได้ทั่วบริเวณเป็นจุดชมดาวที่ดีมากๆ โชคดีในคืนที่เราไปนั้นเป็นคืนเดือนมืดท้องฟ้าเปิด มีเมฆน้อยมากจนเรียกว่าแทบไม่มีก็เป็นได้ มีแสงไฟจากรีสอร์ทที่พักส่องบดบังแสงดาวไม่มากนัก ฝั่งตรงข้ามเป็นสามพันโบกเป็นเขตประเทศลาว ทำให้ไม่มีแสงรบกวนการดูดาวมากนัก
พยายามถ่ายรูปดวงดาวที่กลาดเกลื่อนเต็มท้องแต่ไม่สามารถครับ ฝีมือยังไม่ถึงได้แต่ภาพมืดๆไม่มีแสงดาว แต่สิ่งที่ตาเห็นมันมากกว่านั้นมากมาย เรียกได้ว่าการดูดาววันนี้แทบเปิดคอร์ส ดาราศาสตร์ย่อยได้เนื่องจากดาวชัดมาก กลุ่มดาวกลุ่มแรกที่เห็นชัดเจน คือกลุ่มดาวนายพรานโอไรออน หรือที่คนไทยเราเรียก ว่า ดาวเต่าและดาวไถ นั่นเอง กลุ่มดาวเรียงตัวกันเป็นรูปนายพรานมีเข็มขัดเป็นดาวเรียงกันสามดวง เห็นชัดเจนบนท้องฟ้า ดาวไรเจลที่เป็นดาวที่สว่างที่สุดในกลุ่มดาวนี้ส่องสว่างสดใส เคียงด้วยกลุ่มดาวราศีพฤษภ หรือกลุ่มดาววัว ที่มีดาวสีแดงดวงใหญ่ที่ตาข้างหนึ่งของวัวเป็นสีแดงส่องประกายให้เห็นชัดราวกับเป็นตากระทิงดุนั่นทีเดียว ไม่ห่างไกลกันนักเป็นกลุ่มดาวราศีเมถุน หรือกลุ่มดาวคนคู่ที่มีดาวสองดวงที่สว่างสดใส ดาวคาสเตอร์กับพอลลักซ์ ซึ่งชื่อได้มาจากวีรบุรุษของกรีกที่เป็นเทพฝาแฝด ที่คนหนึ่งตายไปอีกคนเสียใจมากจนเทพเซอุส ต้องเปลี่ยนทั้งคู่ให้เป็นกลุ่มดาวที่ค้างอยู่บนท้องฟ้าอยู่เคียงข้างกันตลอดไป ถัดมาอีกฟากฟ้า เป็นกลุ่มดาวหมีใหญ่ หรือกลุ่มดาวกระบวยที่เราคุ้นเคยกันอย่างดีนั่นเอง คนไทยมักจะเรียกกลุ่มดาวนี้ว่าดาวจระเข้ เป็นกลุ่มดาวที่ปลายกระบวยจะชี้ไปยังดาวเหนือใช้เป็นจุดสังเกตทิศได้อย่างดี ถัดไปเป็นกลุ่มดาวสิงโต แม้ในวันนี้จะไม่สดในมากอย่างเคยแต่ดาวเรกูลัสก็สดใสเหมือนเคย โอ้ยยย ตายยย โม้มาซะยืดยาว บล็อกสามพันโบกนะ ไม่ใช่บล็อกตำนานดาว กลับมาที่สามพันโบกดีกว่า หลังจากที่ชี้ชวนชมดาว ไม่ว่าจะดาวซิริอุส จากกลุ่มดาวหมาใหญ่ หรือดาวสไปก้า จากกลุ่มดาวหญิงพรมจรรย์ หรือราศีกันย์ รวมถึง กลุ่มดาวปลาวาฬทะเลซีตุส เอ้ยยย กลับมามา สามพันโบก สามพันโบก สามพันโบกท่องเอาไว้ โอเค หลังจากที่นอนดูดาวเสร็จดึกดื่นค่อนคืนพอสมควร เราทั้งห้าคนก็เดินทางลัดเลาะกลุ่มโขดหินกลับมาจนถึงที่พัก เวลาเกือบสองยาม ไปชำระล้างร่างกายก่อนที่จะหลับนอน ต้องยอมรับว่าห้องน้ำดีมากๆครับ ดีมากกว่าที่คาดคิดไว้เยอะทีเดียว พออาบน้ำเสร็จแทบไม่มีแรงกันแล้ว พอหัวถึงหมอนผมก็แทบจะหลับในทันทีทันใด
ตื่นเช้ามาเป็นเวลา



5.20 น. ล้างหน้าแปรงฟัน แล้วเดินกันไปที่สามพันโบกอย่างรวดเร็ว พร้อมเก็บภาพถ่ายตามตะวันไปถึงที่สามพันโบกแสงสว่างยามเช้าทำให้เห็นอะไรได้ชัดเจนแต่ดวงวันกลับซ่อนตัวอยู่ในม่านหมอกสีขาวไม่ยอมเผยหน้าออกมาทักทายมีเพียงแสงสีส้มจางจับขอบฟ้า



ตัดกับหมู่หินเรียงรายตามยาวของริมน้ำโขง ทัศนีย์ภาพยามเช้าที่สมพันโบก โขดหินสีเข้มตัดกับสายหมอกสีขาวจากแผ่ปกคลุมไปทั่วราวกับเดินอยู่บนสวรรค์ทีเดียว


เราลัดเลาะมาที่โขดหินบุ่งพะลาน หรือ สระมรกต น้ำนิ่งใสสะท้องแสงสีแดงส้มจากขอบฟ้าดูงดงามอย่างบอกไม่ถูกจริงๆๆ



เราทุกคนยิงภาพกันไม่หยุดหย่อน ไม่ว่าจะเป็นหินหัวหมา บุ่งน้ำใส และอื่นๆอีกมากมาย



หากแต่วิวที่สุดยอดจริงๆคงเป็นบริเวณที่ ต่ายอรทัย มาถ่ายทำมิวสิควีดีโอ รวมถึงบริเวณที่พี่เบิร์ดมาถ่ายทำโฆษณา ทำให้เรารู้สึกว่า เมืองไทยเราสวยจริงๆ ขณะที่ถ่ายภาพกันอย่างเมามันส์ ความหวังที่จะได้เห็นพระอาทิตย์แรกขึ้นยามเช้าที่สามพันโบกก็ดูเลือนรางเนื่องจากไอหมอกจากแม่น้ำโขงแผ่กระจายไปทั่วบริเวณ



หากแต่ความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่สวยงามนั้น ดวงอาทิตย์ดวงกลมสีส้มอ่อนก็โผล่ออกมาจากหมู่เมฆสีเทา ออกมาให้คนที่รอแสงแรกแห่งตะวันยามเช้าก่อนใครในสยามได้ชื่นใจ



แต่สิ่งที่เราทั้งหมดที่รอชมดวงตะวันแรกแห่งสยามนั้นรู้สึกประทับใจที่สุดก็คงเป็น เมื่อยามที่แสงตะวันสาดแสงสีทองสาดส่องมายังสามพันโบกกระทบผิวน้ำที่ใสปานกระจกสะท้อนราวกบว่ามีดวงอาทิตย์อีกดวงอยู่ในพื้นท้องน้ำอันใสนิ่ง













สะท้องแสงผ่านแนวโขดหินสีน้ำตาล งดงามอย่างกับว่าไม่ได้อยู่ที่เมืองไทยเลยทีเดียว แต่ยืนยันที่นี่เมืองไทยครับผมยืนยัน เรายืนชมแสงตะวันอันสุดสวยอย่างดื่มด่ำจนแสงเริ่มเข้มขึ้นเป็นลำดับ เป้าหมายต่อไปของเราการเดินทางทางเรือชมทัศนีย์ภาพแม่น้ำโขงยามเช้า



7.50 น. เริ่มลงเรือจากบริเวณสามพันโบกผ่านบริเวณที่เรียกว่าหินหัวหมา ลัดเลาะตามแม่น้ำโขง





ผ่านดอนหินหัก ซึ่งเป็นบริเวณที่แท่งหินหักถล่มลง และยังกองอยู่จนถึงปัจจุบัน แวะชมหินศิลาเลข ที่ฝรั่งเศสมาขีดเส้นบอกระดับน้ำโขงเอาไว้ มีตัวเลขกำกับชัดเจนในสมัยที่ฝรั่งเศสยังปกครองฝั่งขวาแม่น้ำโขงอยู่ ผ่านชาดหาดที่เรียกว่า หาดหงส์ ซึ่งไกด์นำทางท้องถิ่นเล่าให้ฟังว่าเป็นหาดที่เชื่อว่ามี นกหงส์มาเล่นน้ำในสมัยโบราณ เลยเรียกว่าหาดหงส์จนมาถึงปัจจุบัน จนถึงดอนหินสี เราขึ้นฝั่งเพื่อชมทัศนียภาพอันตระการ ของกลุ่มหินที่มีความแปลกประหลาดมหัศจรรย์ของธรรมชาติซึ่งเป็นหินภูเขาไฟเป็นก้อนๆ วางระเกะระกาดาษดื่นไปทั่วบริเวณเป็นสีน้ำตาลเข้มบ้างอ่อนบ้างลวดลายสีสรรแปลกตา



หากมีความงดงามตรงที่เหมือนมีเคลือบแก้วมาเคลือบอีกขั้น ทำให้หินแวววาวสวยสดงดงาม ชาวบ้านเชื่อว่าเป็น มรดกของพญานาค ที่อยู่ใต้แม่น้ำโขงทำให้หินเหล่านี้มีลักษณะเฉพาะ หากนำติดตัวกลับไปแม้พียงก้อนเล็กน้อย ก็ต้องนำกลับมาคืน เราออกจากหาดหินสีเวลาปะมาณ 8.15 น. เดินทางย้อนกลับทางเดิมไปทางต้นแม่น้ำโขงเดินทางสู่ หาดสลึงหมู่บ้านสองคอน เดินทางเรียบริมชายฝั่งทางประเทศลาวชม ทัศนีย์ภาพสองฝั่งโขง ผ่านหินห่อข้าวก้อนหินใหญ่ที่มีลักษณะเหมือนห่อข้าวขนาดใหญ่



ผ่านถ้ำแม่นางตำหูก (ที่เคยได้ยินในเรื่องภูตแม่น้ำโขง แม่นางทอหูกนั่นเอง) จนถึงหาดสลึงชายหาดยาวตามฝุ่งแม่น้ำโขงบริเวณบ้านสองคอนซึ่งเป็นที่เหล่าพี่น้อง ไทย-ลาวมาร่วมเล่นสงกรานต์กันในช่วงเมษา



ผ่านมาถึงบริเวณที่เรียกว่า ปากบ้อง บริเวณที่แคบที่สุดของแม่น้ำโขงแสงอาทิตย์ก็ยังงดงามไม่เปลี่ยนแปลง เลยมาจน ปริเวณเกาะกลางแม่น้ำ ที่น้ำให้สายน้ำแม่น้ำโขงแบ่งออกเป็นสองทาง เป็นที่มาของชื่อที่เรียกว่าสองคอน จากนั้นเราก็กลับลำเรือเดินหน้ากลับมาที่สามพันโบกอีกครั้ง กลับไปกินอาหารเช้าที่ร้าน ครัวสามพันโบก



กับเมนูสุดประทับใจ ข้าวหน้าไข่เจียวที่เจ้ปุ๋งบรรจงหยอดซอสเป็นรูปหัวใจให้ดูน่ารับประทาน





แล้วก็มาถ่ายรูปหน้าเตนท์ที่กางกันเสียหน่อยเพื่อเป็นที่ระทึกก่อนที่จะเก็บเตนท์ เตรียมตัวเดินทางกลับบ้าน อ้อ และไม่ลืมที่จะหยุดแวะริมทางที่หมายตาเอาไว้ต้นไม้สีชมพูดอกบานสวยเป็นทิวแถวตามรายทาง



เอาไว้จะมาเฉลยกันแล้วกันครับว่มันคือต้นอะไรตอนนี้ให้มันเป็น ต้นปริศนาไปก่อนแล้วกันครับ โบกมืออำลาแม่น้ำโขง ตะวันยามเช้ากลับสู่อำเภอม่วงสามสิบ เป็นอันเสร็จสิ้น ทริปสั้นๆระยะเวลาสองวันหนึ่งคืนกับระยะทางไปกลับประมาณร้อยกิโลเมตร “นอนดิน ชมดาว ตามวัน สามพันโบก” โดยสมบูรณ์

เนื้อหาภายในบล๊อกนี้จะเป็นภาคคู่ขนานกันระหว่างผม กับ บล๊อกของเจ้ปุ๊งนะครับ อะไรที่ขาดตกบกพร่องสามารถหาชมได้ตามนี้นะครับ
นอนดิน ชมดาว ตามตะวัน สามพันโบก(1) //www.bloggang.com/viewdiary.php?id=paribut&month=03-2010&date=07&group=7&gblog=16
นอนดิน ชมดาว ตามตะวัน สามพันโบก(2) //www.bloggang.com/viewdiary.php?id=paribut&month=03-2010&date=08&group=7&gblog=17
นอนดิน ชมดาว ตามตะวัน สามพันโบก(3) //www.bloggang.com/viewdiary.php?id=paribut&month=03-2010&date=09&group=7&gblog=18
ขอบคุณที่เยี่ยมชมบล๊อกผมครับ

อ้อ สามารถชมรูปฝีมือผมของสามพันโบกรูปอื่นๆที่ไม่ได้นำมาลง ได้ที่
//msleepingprince.multiply.com/
หน้า
//msleepingprince.multiply.com/photos/album/14/14

ขอบคุณอีกครั้งครับที่ติดตามชมผลงาน ขอบคุณครับ

Create Date : 11 มีนาคม 2553		32 comments
Last Update : 27 มีนาคม 2554 15:18:23 น.
Counter : 5979 Pageviews.
Share Tweet