เนื้อหลวงศรี ฯ อร่อยล้ำเหลือใจ
คัดลอกสูตร-คำแนะนำ จากหนังสือ Health & Cusine ฉบับปีที่ 1 ฉบับที่ 3 เมษายน 2544 เป็นตำรับของคุณสุคนธ์ จันทรางศุ มารดาของรองศาสตราจารย์ธงทอง จันทรางศุ
คุณสุคนธ์เล่าว่าอาหารตำรับนี้ท่านได้รับการถ่ายทอดมาหลายชั่วอายุคน คิดว่าน่าจะเป็นสูตรของคุณหลวงศรีฯท่านหนึ่งแน่ๆ คนกินแล้วติดใจก็เลยถ่ายทอดกันต่อมาเรื่อยๆ เวลาสะกดชื่อต้องมี ฯ เพราะเราไม่ทราบชื่อเต็มของคุณหลวงท่านว่าอะไร
ส่วนผสม
เนื้อวัว (เนื้อสันนอกหรือเอ็นน่อง) 1 กิโลกรัม น้ำมันพืช 3 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทรายแดงและน้ำปลาดีสำหรับปรุงรส เกลือป่นสำหรับเคี่ยวเนื้อเล็กน้อย
เครื่องแกง
พริกขี้หนูสด (เด็ดขั้วออก) 1 ช้อนโต๊ะ พริกชี้ฟ้าสีเขียวและสีแดง 10 เม็ด ลูกผักชี 2 ช้อนโต๊ะ ยี่หร่า 1 ช้อนชา หอมแดง 15 หัว กระเทียม(จีน) 15 กลีบ ตะไคร้ต้นใหญ่ 2 ต้น ข่าหั่น 1 ช้อนชา ผิวมะกรูดหั่น 1 ช้อนชา กะปิ (ปาดเรียบ) 1 ช้อนชา
วิธีทำ
1. หั่นเนื้อเป็นชิ้นพอคำ ใส่หม้อ เติมน้ำพอท่วมเนื้อ เคี่ยวนานประมาณ 2-2 1 / 2 ชั่วโมง จนกระทั่งเนื้อเปื่อยดี เติมเกลือป่นเล็กน้อย
2. โขลกเครื่องน้ำพริกแกงรวมกันจนละเอียด เติมกะปิ แล้วโขลกต่อจนเข้ากัน
3. ตั้งกระทะให้ร้อน ใส่น้ำมันพืช นำน้ำพริกแกงลงผัดจนหอมสักพัก (สังเกตว่าหากเครื่องแกงถูกต้องตามสัดส่วน กลิ่นจะหอมและฉุนมากจนบางครั้งทำให้จามได้) น้ำเนื้อที่เคี่ยวไว้ลงผัด หากเนื้อแห้งเกินไป เติมน้ำที่ได้จากการเคี่ยวเนื้อได้อีกเล็กน้อย ปรุงรสด้วยน้ำตาลทรายแดง น้ำปลาดีเล็กน้อย ชิมรสตามชอบ
วิธีรับประทาน
รับประทานเนื้อหลวงศรีฯกับข้าวสวยร้อนๆและไข่เจียว นำมาผัดกับข้าวเป็นข้าวผัดเนื้อ หรือรับประทานกับข้าวตัง ทำเป็นไส้ขนมปังแซนด์วิชก็ได้
H&C Tips
ไม่ต้องคั่วลูกผักชีและยี่หร่าก่อนโขลกเครื่องแกง น้ำพริกแกงสูตรนี้เมื่อโขลกเสร็จแล้วหากใช้ไม่หมด สามารถเก็บไว้ในช่องแช่แข็งได้ประมาณหนึ่งสัปดาห์
ข้อแนะนำ
สำหรับผู้ไม่รับประทานเนื้อวัว ครัว H&C ได้ทดลองใช้เนื้อปลาและหมูแทนก็ใช้ได้ แต่ไม่อร่อยเท่าเนื้อวัว และเมื่อนำเนื้อหลวงศรีฯ มาห่อด้วย ขนมปังปิต้า (หาซื้อได้ที่วิลล่า ฟูจ ซุปเปอร์มาเก็ต เซ็นทรัล ชิดลม เป็นต้น) รับประทานแทนข้าวตัง จะได้รสชาติคล้ายๆแกงเนื้อโรตีแบบแห้ง อร่อยไปอีกแบบ ส่วนเนื้อปลาเหมาะที่จะรับประทานกับข้าวกล้องร้อนๆ
จากการที่ผู้เขียนบล๊อกได้ทดลองทำพบว่าเนื้อวัวอร่อยเข้ากับเครื่องพริกแกงที่สุดเหมือนกันค่ะ กลิ่นพริกแกงกลบกลิ่นคาวเนื้อได้หมดจดจริงๆค่ะ หลังจากพบความอร่อยก็เลยคิดว่าเอามาแบ่งปันเพื่อนๆด้วยดีกว่า แต่เนื่องจากผู้เขียนบล๊อกทานรสจัด ดังนั้นจึงใส่พริกขี้หนูและพริกชี้ฟ้ามากกว่าในตำรับข้างบนมากหน่อย ดังนั้นรสชาติจึงออกมาได้รสอย่างที่ชอบจริงๆ
ใครสนใจลองทำรับประทานดูนะคะ
Create Date : 07 พฤษภาคม 2549 |
|
9 comments |
Last Update : 7 พฤษภาคม 2549 1:38:44 น. |
Counter : 1492 Pageviews. |
|
|
|