1
2 3 4 5 6 7 8
9 10 11 12 13 14 15
16 17 18 19 20 21 22
23 24 25 26 27 28 29
30 31
เตรียมตัวไว้...ก่อนวัยเกษียณ
เตรียมตัวไว้...ก่อนวัยเกษียณ วันนี้มาในรูปแบบแปลกกว่าเคย เพราะปกติแม่บุญจะพาทุกๆ ท่าน เที่ยวไปในที่ต่างๆ มากกว่า ความจริงอยากจะเขียนเรื่องนี้มานานแล้ว เพราะอายุอานามของตัวเองก็ไม่น้อยนัก หากทำงานก็เรียกว่าอีกไม่กี่ปีก็จะต้องเกษียณตัวเองเช่นกัน แต่เหตุที่ว่าตนเองไม่ได้ทำงานประจำ ทำแบบฟรีแลนด์มีก็ทำ ไม่มีก็เกาะสามีกินไปตามเรื่อง จะเรียกว่าสุขสบายก็คงจะพอพูดได้ แต่ก็นั่นแหละ...มนุษย์ ไม่มีอะไรที่พอ สักอย่าง มีอย่างนี้อยากได้อย่างนั้น มีนั่นจะเอานี่ ได้คืบจะเอากิโลเมตร...กิเลส...ไง กิเลส....มีกันทุกคนนะ ไม่มีกิเลสนี่คงหมายถึง หาชีวิตไม่แล้ว ไม่มีความรู้สึกแล้ว กิเลส...ไม่ได้หมายความแค่เรื่องลามกจกเปรตอย่างที่กำลังแอบคิดกัน ชีวิตประจำวันของพวกเราล้วนมีกิเลสเป็นตัวนำทั้งนั้น เช่น อยากกินอาหารอร่อย อยากสวยหุ่นดี อยากรวย อยากขับรถราคาเป็นล้าน อยากได้บ้านใหม่ อยากได้สามี ภรรยาใหม่ ฯลฯ เห็นไหมว่ามันมาจากกิเลสทั้งนั้น แล้วแต่ว่าแต่ละบุคคลจะมีกลวิธีในการควบคุมกิเลสของตนอย่างไร วันนี้ไม่พูดเรื่องนี้เพราะเดี๋ยวจะไม่มีคนอ่าน ก๊ากกก เอาเป็นว่ามาเข้าเรื่องที่ขึ้นหัวข้อไว้กันดีกว่า เมื่อแม่บุญหันไปมองรอบๆ ตัว ผู้คนรอบข้างที่เริ่มอายุเลยกลางคนรวมถึงตัวเองนั้นมีมากขึ้นๆ รวมถึงเพื่อนๆ ที่ทำงานรับราชการเอย ทำงานบริษัทเอย ยกเว้นคนที่ทำงานส่วนตัวอันนั้นยกประโยชน์ให้จำเลยไป ก่อนใกล้เกษียณ..มีแต่คนบอกว่า ดีจังฉันจะได้อยู่บ้านเฉยๆ ไปเที่ยวตามที่คิดอยากจะไปมานานนม จะได้ดูแลหลาน ดูแลหมู หมา กา ไก่ ในบ้าน จะใช้ชีวิตแบบสบายๆ ไม่ต้องตื่นแต่เช้าไปทำงาน รบกับเจ้านาย ลูกน้อง ปัญหาร้อยแปด ไหนรถจะติด อากาศร้อนต้องยืนเป็นชั่วโมงๆ บนรถเมล์ที่แออัด ร้อนอบอ้าว ฝนตก แดดออก สารพัดปัญหา ที่เราได้ยินกันส่วนมากจะพูดอย่างนี้ แต่เมื่อถึงเวลาจริงๆ แรกๆ ดูเหมือนจะมีความสุขอย่างที่บอก เพราะไม่ต้องตื่นเช้าไปรบราฆ่าฟันกับเจ้านาย ลูกน้อง ฯลฯ นอนหมุนไปหมุนมาบนเตียง ตื่นแปดโมงมานั่งจิบกาแฟ อ่านไลน์ ดูเฟสบุคว่ามีคนเข้ามากดไลท์มากน้อยแค่ไหน ดูนกชมไม้นี่คงไม่มีแล้วแหละเนาะ เพราะอยู่แต่ในตึก วันนี้จะใส่ชุดไหน จะไป ช้อบที่ไหน จะทำกับข้าวอะไร กินอะไร ต้องเอาลงในเฟสให้เพื่อนๆ อิจฉาตาร้อนกัน บางคนก็จองตั๋วทัวร์ยุโรป อเมริกา ญี่ปุ่น เอาให้หนำใจไปเลย .. ผ่านไปสามเดือน เริ่มนั่งมองนาฬิกา เช้านี้จะทำอะไร? จะไปไหน ? ลูกจะกลับกี่โมง? เริ่มเดินวนไปวนมาเหมือนปลาว่ายในอ่าง เริ่มคิดถึงสถานที่ทำงาน เพื่อนๆ ถึงแม้จะมีปัญหามั่งแต่ก็ยังได้พบคนนั้นคนนี้ นี่ตั้งแต่หยุดทำงานมาต้องอยู่บ้าน เฝ้าบ้านคนเดียว แรกๆ ก็คึกดีหรอก ออกไปเที่ยวนั่นเที่ยวนี่ทั้งวันราวกับไม่เคยทำมาก่อน ทั้งๆ ที่หากคิดทบทวนดีๆ ก็ทำมาแล้วทั้งนั้นแหละ แต่ความยุ่งเหยิงในชีวิตทำลืมไปบ้าง นานวันเข้า ที่อยากทำก็ทำหมดแล้ว ความเบื่อเริ่มย่างกรายมาเยือน วันๆ อยู่แต่บ้าน เพราะไม่มีเงินมั่ง ก็แหม่...ทำงานบริษัท ออกมาแล้วก็ไม่มีเงินช่วยเหลืออะไร หรือ รับราชการเงินเดือนแค่นี้ เกษียณมาก็รับบำเหน็จ บำนาญ เอาไปใช้หนี้ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ผ่อนบัตรเครดิต ที่ไปรูดตอนไปเมกา ไปยุโรปกับเพื่อนๆ ตอนนี้เงินเดือนที่ได้น้อยนิด ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่ากินอยู่ ค่าใช้จ่ายของลูก ฯลฯ มีแต่รายจ่ายทั้งนั้น ??? หากโชคดีมีเงินเหลือใช้อันนั้นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งจ้า...แอบอิจฉาเลยทีเดียวเราเคยคิดกันก่อนไหมว่า ก่อนเกษียณสัก ๕ ปี ฉันจะเริ่มทำอะไร ที่หากเกษียณแล้วฉันจะสามารถทำต่อได้เลย โดยที่จะไม่ต้องมานั่งเหงาคนเดียวในบ้าน กิจกรรมที่ทำสร้างรายได้ให้ตนเองและครอบครัว เป็นกิจกรรมที่ตนเองชอบและอยากทำมานาน เป็นการทำงานด้วยความรัก ไม่ใช่เพื่อเงิน แต่เพื่อสร้างคุณค่าในตนเอง แม้แต่การอาสาช่วยงานสังคมโดยไม่หวังผลตอบแทน แต่ทำเพราะจิตอาสา อยากตอบแทนสังคม บ้านเมือง เรื่องดีๆ ที่สามารถทำได้ ไม่ทำให้ใครเดือดร้อนทั้งต่อตนเองและผู้อื่น เพื่อนของแม่บุญหลายคน มองหาที่ทางเอาไว้ แล้วลงมือทำสวนปลูกผัก ผลไม้ ว่างๆ จากงาน เสาร์ อาทิตย์ก็ไปดูแลกัน รดน้ำใส่ปุ๋ย ไปกินข้าวกันในสวนกับครอบครัว ทั้งน่าสนุกและสร้างความอบอุ่นในครอบครัว ซึ่งนับว่าเป็นความคิดที่ไม่เลวเลย อีกอย่างที่เราสามารถทำได้คือ การเรียนวิชาชีพอื่นๆ ที่ตนเองสนใจ เช่น การตัดเสื้อผ้า อันนี้อาจจะไม่เป็นที่นิยมในเมืองไทย แต่ที่เบลเยียม เขาสำรวจออกมาว่า ตอนนี้แม่บ้านมากมายไปเรียนตัดเสื้อผ้ากัน สองครั้งต่ออาทิตย์เรียนตอนเย็นหลังเลิกงาน แล้วก็สามารถตัดเสื้อผ้าสวยๆ มาใส่ โชว์กันในเฟสบุค อินสตาร์แกรม เป็นที่นิยมกันมากเพราะไม่เหมือนเสื้อผ้าที่ขายเหมือนๆ กันกับคนอื่นๆ หรือจะไปเรียนทำเบเกอรี่ ทำขนมปัง เค้ก สถานฝึกวิชาชีพมากมายทั้งของ กทม.ของห้างร้าน บริษัทขายเครื่องมือ อุปกรณ์การทำอาหาร ฯลฯ ที่เขาจัดกิจกรรมเสริมในวันหยุดตามห้าง หรือจะเป็นสถาบันที่สอนโดยตรงแต่ราคาค่อนข้างแพง อันนี้แล้วแต่กำลังของผู้เรียน หากคิดว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าก็น่าจะทำ ไม่น่าจะเสียหลาย หากเป็นที่ต่างประเทศ เช่น ที่เบลเยียม ทางหน่วยราชการ อำเภอใหญ่ๆ เขาจะมีกิจกรรมการสอนภาษาต่างประเทศหลายภาษา การทำอาหาร เบเกอรี่ สอนการทำบัญชี และวิชาอื่นๆ มากมายหลายสิบสาขา ทั้งนี้แล้วแต่ว่าจะมีความขยัน อดทน กันแค่ไหน เพราะเปิดสอนในตอนเย็น ใช้เวลาเรียนอย่างน้อยก็หนึ่งปี อย่างมากสาม สี่ปี แล้วได้รับใบประกาศนียบัตรที่สามารถนำไปประกอบอาชีพเสริมได้ ราคาค่าเล่าเรียนแตกต่างกันออกไปตามแต่สาขาวิชานั้นๆ กลับมาที่เมืองไทย จำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้นทั้งคนไทยเอง และคนต่างชาติที่เข้ามาอาศัยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้การทำมาหากินลำบากมากขึ้น แต่ไม่ได้หมายความว่า จะไม่สามารถทำอะไรได้ แม่บุญว่ามันขึ้นอยู่กับความขยัน อดทน การทดลองแบบลองผิดลองถูก ที่สำคัญใจต้องรักในงานที่ตนเองจะทำ เพราะหากไม่มีใจที่รักแล้ว ทำได้ไม่นานก็จะเบื่อ ที่สำคัญอีกเช่นกันคือ ต้องหาตนเองให้พบ ??? หาว่า จริงๆ แล้วตนเองชอบอะไร ? อย่า...ทำตามกระแส..เพราะมันจะทำได้ไม่นาน เหมือนพายุที่พัดมาแรงๆ แล้วก็หายไปในพริบตา เหมือนแฟชั่นเสื้อผ้า ใส่กันไม่นานก็เปลี่ยนแบบใหม่ หาสิ่งที่ทำแล้วคงทน ไม่ว่ากี่ปีๆ ก็ไม่มีทางหมดสมัย ในที่นี้ ให้พิจารณาถึงเรื่องของปัจจัยสี่ อันเป็นพื้นฐานการดำรงชีวิตของมนุษย์เป็นสำคัญ คือ อาหาร ยารักษาโรค ที่อยู่อาศัย เครื่องนุ่งห่ม เมื่อไม่นานมานี้ได้อ่านบทความเรื่องของหญิงสาวชาวออฟฟิต ที่ตัดสินใจลาออกจากงานเพราะความเบื่อหน่าย แล้วมาหัดทำขนมฝรั่งออกขาย อาจจะเป็นโชคของเธอที่มีโจทย์มาให้คือ ทำอาหารพวกนี้สำหรับคนป่วยบ้างจะดีไหม? เพราะผู้ป่วยมากมายที่ไม่สามารถกินเหมือนคนปกติได้ โจทย์นี้ทำให้เธอคิดถึงการทำขนมปังในรูปแบบของขนมปังไร้สาร ทำจากผักออแกนิค จนเกิดขนมปังหลากสีจากผักต่างๆ ที่เธอนำมาเป็นส่วนผสม จากร้านเล็กๆ ของเธอที่ทำขายไม่พอต่อความต้องการ จนต้องขายสถานที่ผลิตให้ใหญ่ขึ้นและขายดิบขายดีมาก จากสิ่งที่เกิดขึ้น เรามาดูกันว่าเธอทำอะไร ? เธอทำในสิ่งที่เธอชอบ เธอถนัด เธอรักที่จะคิดค้นคว้าหาสิ่งใหม่ๆ มาตอบสนองความต้องการของตลาดอีกตลาดหนึ่ง ตลาดของผู้ป่วย คงเป็นโชคของเธอด้วยที่ทำให้เธอทำมาค้าขายดีจนขยายร้านให้ใหญ่ขึ้น ทั้งนี้ต้องมองให้ลึกไปอีกคือ เธอ...มีความขยัน ตั้งใจ และ...อดทน หลายๆ คนที่ทำงานใหม่ เริ่มต้นสิ่งใหม่ ทำได้ไม่นานก็เลิก เพราะขาดสิ่งเหล่านี้ การริเริ่มคิดทำอะไรใหม่ๆ ต้องอาศัยความกล้าๆ ที่จะทดลอง กล้าที่จะทวนกระแส มนุษย์ทุกคนมีความสามารถเท่าเทียมกัน แต่เรายังไม่ได้นำศักยภาพของเราออกมาใช้ให้หมดเท่านั้นเอง เพราะเราเคยชินกับการเรียนรู้แบบเก่าๆ เก็บทับสิ่งดีๆ ในตัวเราไว้ เรื่องนี้แม่บุญได้เรียนรู้จากพี่ชายนายทหารที่ส่งบทความดีๆ มาให้อ่านเรื่องศักยภาพของมนุษย์ และเห็นด้วยกับที่เขาพูดเป็นอย่างยิ่ง หันมาพูดถึงตัวเองบ้าง เดี๋ยวจะหาว่า ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง แม่บุญเองก็ได้เตรียมตัวไว้เช่นกัน เตรียมตัวไว้ที่ว่าไม่ใช่เพราะจะเกษียณงานเพราะไม่ได้ทำงานประจำ แต่เตรียมตัวไว้เพราะคิดถึงความไม่แน่นอนของชีวิต วันนี้เป็นแบบนี้ พรุ่งนี้ยังมาไม่ถึง ไม่มีใครรู้อนาคต แต่เราสามารถกำหนดอนาคตเราได้ด้วยตัวเราเอง การใช้ชีวิตคู่กับชาวต่างชาติ ไม่ได้หมายความว่า จะดีกว่าอยู่กับคนไทย แต่ธรรมชาติของมนุษย์อีกเช่นกัน ที่ทำให้เราต้องต่อสู้ ปกป้องตนเอง แม่บุญเตรียมปกป้องตนเองจากความไม่แน่นอนคือ หากวันนี้แม่บุญกับสามียังคงรักใคร่กันปานจะตายแทนกันได้นั้นก็จะดีไม่น้อย แต่...หากสักวัน ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดต้องจากไปก่อนหรือหากมีอันต้องแยกทางกัน การอยู่ต่างบ้านต่างเมืองตัวคนเดียวเป็นเรื่องลำบากมาก ภาษาพูด วัฒนธรรมประเพณีที่แตกต่าง แม้จะคุ้นเคยมากว่าสิบปีบอกตรงๆ ว่า มันไม่อบอุ่นเหมือนบ้านเราหรอก บ้านแม่บุญอยู่บ้านนอกห่างไกลชุมชนคนไทย ในเขตนี้มีคนไทยอยู่ไม่ถึง ๑๐ คน ๆ ที่ว่าก็ไม่ได้รักใคร่สามัคคีกันแต่อย่างใด ต่างคนต่างอยู่ แม่บุญย้ายมาอยู่ใหม่ๆ โทรไปสวัสดี นับแต่วันนั้นถึงวันนี้เกือบสองปีแล้ว ทีชาวไทยคนนั้นยังไม่เคยโทรมาคุยด้วยสักครั้งแล้วอย่างนี้จะไปฝากผีฝากไข้กับใครได้ ตนเองเป็นที่พึ่งแห่งตน...คือคติสอน เตือนใจไม่ให้ประมาทในชีวิต จึงได้ออกไปเรียนรู้เพิ่มเติมทั้งภาษาฝรั่งเศส และเรียนเกี่ยวกับการทำอาหารฝรั่งเศส การทำเบเกอรี่ๆ เรียนปีนี้เป็นครั้งที่สอง แต่ขอบอกก่อนว่า ไม่ได้เก่งกาจแต่ประการใด เพราะเราเรียนแล้วมันต้องฝึกฝนให้เกิดความชำนาญ จนแทบจะหลับตาทำได้นั่นแหละจึงจะนับว่าเก่งจริงๆ แม่บุญยังต้องฝึกฝนอีกนานทีเดียวกว่าจะถึงวันนั้น เรียนไว้ไม่เสียหลาย หากสักวันสามีทิ้ง สามีจากไป อย่างน้อยๆ ก็จะได้ใช้วิชาความรู้ที่ร่ำเรียนมา ทำมาหากินเพื่อช่วยเหลือตนเองได้ในระดับหนึ่ง ไม่ไปทำความลำบากให้ใครต้องเดือดร้อนกับเรา หรือหากจะกลับไปอยู่บ้านเกิดที่เมืองไทย เราก็พอจะนำความรู้ที่มีไปทำมาหากินได้ นี่แหละเหตุผลสำคัญที่ทำให้ต้องกลับไปเรียนซ้ำแล้วซ้ำอีก เพื่อให้เกิดความชำนาญในเรื่องนั้นๆ เรียนแบบให้ลึกซึ้งไปเลย ใครที่รู้จักแม่บุญก็คงพอจะรู้ว่าแม่บุญเป็นคนอย่างไร หากทำอะไรแล้วไม่ดีแม่บุญไม่ทำจะดีกว่า เมื่อทำแล้วต้องตั้งใจทำให้ดีว่างั้นเถอะ ตนเองชอบงานที่ทำออกมาแบบมีคุณภาพ ไม่เอาปริมาณเข้าว่าหรือทำแบบสุกเอาเผากินก็ไม่เอาเช่นกัน เข้ามาคุยเพื่อให้ใครหลายๆ คนที่แอบเหงา เศร้า หมดอาลัย หมดหวัง ได้กลับมามีกำลังใจที่จะลุกขึ้นมาทำอะไรใหม่ๆ อย่างน้อยก็ทำให้ตัวเองมีค่ามากขึ้น อย่าหวังที่จะพึ่งพาใครนอกจากตนเอง ไม่มีใครทำอะไรสำเร็จจากการได้แต่คิดแต่ไม่เคยลงมือทำ หลายปีก่อนมีเพื่อนสมัยเรียนมัธยมปลาย เธอเห็นแม่บุญทำอะไรมากมายหลายอย่าง เธอก็อยากทำบ้าง แต่..ไม่เคยลงมือทำอย่างจริงจังสักอย่าง แล้วมันจะสำเร็จได้อย่างไร? ความอยาก เป็นตัวกระตุ้น แต่มันต้องมีความกล้าความบ้า เป็นแรงถีบส่งให้ทำด้วย เหมือนปั่นจักรยาน ถ้าเอาเท้าไปเหยียบไว้เฉยๆ มันจะวิ่งไหม ? มันต้องออกแรงถีบ จักรยานถึงจะพาเราไปไกลๆ ได้ ตอนที่แม่บุญไปสมัครเรียนทำอาหารปีแรก พูดได้แต่ภาษาอังกฤษ อาศัยสังเกตว่าคนอื่นเขาทำกันยังไงแล้วทำตามเท่านั้นเอง ถ้าไม่มีแรงบ้าในตัว แม่บุญคงไม่มีวันนี้ วันที่เรียนจนจบได้ใบประกาศมาติดฝาบ้านอีกใบ และ อีกใบต่อๆ มาเรื่อยๆ จนถึงวันนี้ยังไม่เลิกเรียนเลยค่ะ อย่าทิ้งเวลาให้ผ่านไปวันๆ โดยที่ไม่ได้ทำอะไรให้เกิดประโยชน์ อย่างน้อยก็ต่อตนเอง เวลา...เหลือน้อยลงทุกที ใช้เวลาที่ยังมีเหลืออยู่ พิสูจน์คุณค่าของตัวท่านเอง ขอให้กำลังใจกับทุกๆ ท่านค่ะ ปล. ขออภัยที่รูปภาพประกอบอาจจะทำให้เกิดอาการน้ำลายสอ...ค่ะ
Create Date : 01 ตุลาคม 2559
31 comments
Last Update : 1 ตุลาคม 2559 1:45:01 น.
Counter : 3150 Pageviews.
โดย: moresaw 1 ตุลาคม 2559 18:48:24 น.
โดย: **mp5** 2 ตุลาคม 2559 14:31:18 น.
โดย: ภาวิดา (คนบ้านป่า ) 2 ตุลาคม 2559 20:58:41 น.
โดย: Goedmorgen52 IP: 188.165.201.164 3 ตุลาคม 2559 19:55:02 น.
โดย: moresaw 5 ตุลาคม 2559 7:29:17 น.
โดย: LaRosa 5 ตุลาคม 2559 10:25:04 น.
โดย: อุ้มสี 8 ตุลาคม 2559 17:19:43 น.
โดย: หอมกร 10 ตุลาคม 2559 13:41:32 น.
โดย: ไวน์กับสายน้ำ IP: 58.11.188.9 11 ตุลาคม 2559 7:51:49 น.
โดย: mambymam 11 ตุลาคม 2559 15:29:44 น.
โดย: moresaw 11 ตุลาคม 2559 16:27:15 น.
โดย: หอมกร 12 ตุลาคม 2559 9:17:26 น.
Location :
กรุงเทพฯ Belgium
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 87 คน [? ]
แม่บุญ..เป็นหญิงไทยอายุเลยวัยรุ่นไปไกล จับพลัดจับพลูได้สามีเป็นฝรั่งแล้วก็หอบผ้าตามกันไปอยู่เมืองนอกเมืองนา พอได้เวลาหยุดงานก็กระเตงกันไปเที่ยวตามประสาตายาย ไม่มีลูกกวนตัวกวนใจ แม่บุญนั้นชอบเขียน ชอบเล่า ชอบถ่ายรูป เป็นที่สุด จะเก็บไว้คนเดียวก็กระไรอยู่ เอามาแบ่งบันกันให้ลูก ๆ หลาน ๆ ได้อ่าน ได้ดูกันดีกว่า ส่วนฝีมือด้านอื่น ๆ นั้นก็พอจะมีอยู่บ้าง เช่น ทำอาหาร ก็เอามาแบ่งปันกันอีกนั่นแหละ ค่อย ๆ รู้จักกันไป รู้จักกันแล้วก็อย่าลืมเข้ามาคุยกันนะ ปล....รูปภาพต่าง ๆ หากต้องการนำไปใช้ช่วยบอกที่มาที่ไปด้วยนะคะ เป็นการให้ความเคารพซึ่งกันและกัน ซึ่งสังคมไทยเราค่อนข้างมองข้ามในเรื่องนี้ค่ะ
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
คนบ้านป่า Literature Blog ดู Blog
Maeboon Klaibann Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น
...............................
รีบๆครับไว้กลับมาอ่าน