เมื่อตาแก่คนหนึ่งโพสต์รูปหน้าไร้เมคอัพผมทรงกะลาครอบพร้อม(โอด)ครวญว่า "มินจุนนี่ 28 แล้วครับผม" ด้วยหวังลึกๆว่าจะเกิดผลสะท้อนคอนทราสต์อย่างสูง ..แล้วก็ได้ผลจริงๆ ชนิดเกินคาดด้วย พี่ชายสุดแสบผู้ 'แก่' กว่าปีหนึ่งอย่างอิมซึลองด้วยความร้อนตัวจึง...ขู่ฟ่อ "เอาไว้ตอน 30 แล้วนายมาบอกว่าแค่ 29 ฉันเอานายตายแน่" ทำเอาหนูคิมมินจุนทำเป็นเสียงอ่อยซ่อนความกวนติฟนักเลงองกลับไปนิ่มๆ "งั้นผมตอนเป็นตาแก่ 30 ไม่ได้รับอนุญาตให้กลับมาเป็นเด็กหนุ่ม 20 รึลูกเพ่" ทำเอานักเลงองลุแก่อำนาจความเป็นลูกพี่ใหญ่ใจกว้าง ยอมอนุญาตเบาๆ "ฉันก็ไม่ได้ว่าอะไร ตราบใดที่นายเลยฉันว่า 'ลุง' จำไว้เด็กน้อย" เจอลูกขู่เคลือบน้ำตาลแบบนี้ทำเอาปู่แก่ๆหมอบราบคาบแก้วแต่โดยดี ร้องครวญครางขอความเห็นใจ "หงิงงงงงงงงงงง...ผมเรียกลูกเพ่ว่าลุงตอนนี้เลยละกันฮัฟ" แล้วไอ้หลานขี้ขอตัวแสบชักได้ใจคิดได้คืบจะเอาศอก "ลุงครับลุง ลุงช่วยซื้อของกินอาหย่อยๆ เสื้อผ้าเมพขิงๆ และอีกเยอะแยะตาแป๊ะไก๋ให้ผมทีนะลุงนะ" ทำเอาลุงองกัดฟันกรอด กำหมัดหวดลมดัง 'ผั๊วะ!' สอนเชิงมวยขู่กลับไป "ซื้อให้ก็ด้ายยยยยยย เอาเป็นพลังหมัดมันฝรั่งอร่อยเต็มปากเต็มคำดีนะว่าไหมไอ้หลานชาย" เจอหมัดขู่มันฝรั่งลูกนี้เข้าไป หลานชายตัวแสบจุกจนล้มตัวลงไปนอนดิ้นกับพื้น น้ำตานองหน้า "ว่าแร้นเชียว...ลุงน่ะเป็นลุงใจร้ายเจงๆด้วยยยยยยยย" แถมร้อง(ฟ้อง)โวยวาย "ลุงใจร้ายใจอำมหิตคิดจะต่อยเด็ก!!!!!" ก่อนกลั้นสะอื้นฮึก ส่งสายตาอาฆาต "รอผม 30 ก่อนเถอะ ผมจะเอาชนะลุงให้ดู๊~~~~~~~~" เห็นแค่ตัวหนังสือ แต่เราก็นึกหน้าสองคนนี้ออกเป็นฉากๆ ตาแก่สองคนกวนโอ๊ยกัน 55555555555 งานFan's Day คุณคิมไปทำหน้าที่ดีเจที่รัก เอาใจแฟนๆด้วยการตอบคำถามเยอะแยะตาแป๊ะไก๋(อีกแล้ว) หลังจากคุณคิมถึงกับยอมเดินลงไปยื่นไมค์ให้แฟนถึงข้างล่างกว่าจะเดินกลับมาถึงแสตนด์ก็หอบแฮ่กใช้เวลานานโขตามประสาคนแก่ไขข้อไม่ดีไม่งาม หลังจากยืนซับเหงื่อที่แตกพลั่กเพราะออกกำลังเกินตัว จนทำให้แฟนจากด้านล่างอดใจไว้ไม่ไหวแซวขึ้นมาสักอย่างที่ทำเอาคิมถึงกับสะดุ้งสุดตัว ทำหน้าเหรอหรา ตะกุกตะกักทวนอย่างไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง "สั้นอะไร...อะไรสั้น...ขาใครสั้นนะ???" [คิมนึกในใจ...คิมฟังผิดใช่ไหม] เลยต้องอ้อนเสียงออดให้แฟนช่วยรักษาใจที่คาดว่าถูกแซะเป็นรูโบ๋ "นี่ผม...ผม...ผมขาสั้นเหรอครับ?????" [คิมบอก...ถ้าตอบว่าคิมสั้นคิมร้องไห้จริงๆด้วยนะ] แฟนๆรอบตัวไม่อยากเห็นน้ำตาคิมแพนด้าก็เลยต้องพากันเอาใจด้วยการตะโกน(โกหก)บอกว่าม่ายยยยยย คิมไม่สั้น ทำเอาคิมได้ใจร้องกำหมัดร้อง "อัชช๊า~~~~~~~~ช์ " ออกมาด้วยอาการน่ารักทะลุไปอีกยังยานแม่(ของด้ง) คิมขายาวววววววว ยาว ย๊าววววววว ยาว ยาวจนดึงกางเกงไม่เคยสุดหยุดแหมะอยู่ตรงครึ่งตู๊ด 55555555555555555555 หนุ่มผู้ใช้ชีวิตอย่างมีสไตล์ ผู้เคยออกปากอย่างอหังการ์ผ่านสื่อสิ่งพิมพ์ลงโฆษณาเครื่องกรองน้ำไว้(เตือน)ว่า "ผมเป็นผู้ชายราคาแพง" ย้ำความมีสไตล์ของตัวเองด้วยการโพสต์รูปห้องที่เพิ่งแต่งไว้ ประกาศก้องด้วยความอหังการ์อีกรอบ "เยี่ยมใช่ไหมล่ะ...ก็ผมน่ะเป็นผู้ชายใส่ใจรายละเอียดนี่ครับผม" ....เยอะ เยอะ เยอะหาใครเปรียบ ถ้ายังมีสไตล์ไม่เพียงพอ มาตอบการตอบคำถามที่แสบสุดสไตล์จุนเคกันเถอะครับ หลังจากถูกนักข่าวดักคอว่าช่วยตอบคำถามที่ฟังดูครีเอทกว่าที่ชินฮวาตอบไว้ได้ไหมครับ คำตอบที่วงชินฮวาตอบไว้คือ "อีกสามสิบปีข้างหน้าก็หวังว่ายังจะไม่ตายอ่ะครับ" จุนเคผู้มากไปด้วยสไตล์ไม่มีทางยอมจนมุม หัวหมุนติ๊วจนได้คำตอบออกมาหน้าซื๊อซื่อว่า "ก็หวังแค่ว่าอีกสามสิบปีข้างหน้า พวกเราจะยังได้เจอหน้ารุ่นพี่ชินฮวา...นะครับ" พูดจบพี่ก็หัวเราะจนตัวงอ [ต่อไปอีกสามสิบปีข้างหน้า พวกเรามาสู้กับพิภพมัจจุราชด้วยกันเถอะครับผม แล้วมาจัดงานคืนสู่เหย้าเหล่าไอด้อลชราเคป๊อบกันนะครับรุ่นพี่ครับ] ไม่ว่าเมื่อไรเราก็มักคิดว่าคนแบบจุนเคเนี่ยถ้าปล่อยให้อยู่คนเดียวคงเฉาตายแน่นอนด้วยความเป็นคนที่ขี้เหงาอย่างร้ายกาจ เพราะงั้นผู้ชายคนนี้ถึงได้ชอบตามตอแยคนอื่นเพื่อที่จะได้รับความสนใจ ไม่ใช่อยากเป็นจุดสนใจนะแต่อยากให้มีคนใส่ใจต่างหาก แล้วคนที่จุนเคดูจะเอ็นดูที่สุดในบ่ายสองในสายตาเราก็คืออูยอง ด้งเคยตอบคนที่ถามว่าเขาสนิทกับจุนเคตั้งแต่เมื่อไร คำตอบก็คือพี่จุนซู(ตอนนั้น)เป็นคนแรกที่พาเขาไปเลี้ยงข้าว เด็กที่เพิ่งเข้ามาร่วมทีมช้ากว่าเพื่อนคนอื่นมากอย่างด้ง แถมเป็นคนที่ดูหยิ่งๆจากภายนอกแบบนั้นอีก คงเข้าหาคนอื่นได้ไม่ง่ายนัก ดูแล้วก็เหมาะกับคนที่มองเห็นความเหงาในตัวคนอื่นได้เก่งแบบจุนเค ซึ่งการเดินเข้าหาด้งก่อนแบบนั้นคงทำให้ด้งประทับใจพี่ชายคนนี้ไม่น้อยเลยล่ะเราว่า ส่วนจุนเคเองก็บอกไว้ว่าที่ชอบน้องชายคนนี้มากก็เพราะอูยองเป็นเด็กที่มีสัมมาคารวะ พี่ชายที่มักทำตัวงอแงเป็นเด็กๆจนบางทีก็อาจโดนมองข้ามความเป็นผู้สูงอายุก็มีมุมที่ยึดถือเรื่องรุ่นพี่รุ่นน้องอยู่ไม่น้อยล่ะ(เหมือนอย่างที่JBโดนจุนเคดุจนต้องรีบวิ่งหัวซุนไปตักข้าวให้พี่มีร์เอ็มแบล็คในรายการโรแมนติกไอด้อลนั่นล่ะ) เราน่ะรอเฝ้าดูเลยล่ะกับเวลาที่อิปู่ตามกวนใจเด็กด้งจนด้งเกิดสุดจะทน เวลาความอดทนด้งลดลงจะแสดงอาการให้เห็นตามลำดับดังนี้เลย ขั้นแรกคือเริ่มเม้มปากจนมุมปากสองข้างหยักเป็นก้อนขึ้นมา ถ้าปู่ยังสนุกไม่เลิก เด็กน้อยก็เริ่ม... ขั้นสองปากบางๆเริ่มเหยียดเป็นเส้นตรงแหน่ว แล้วก็ไม่เคยทำให้ปู่สุดซ่าส์รู้ตัวได้เลย เด็กน้อยชักจนปัญญา ขั้นสามหันหน้าหนีไปอีกทาง ถอนหายใจเบาๆ ไม่ก็ทำเป็นโวยวายอังอังกลับให้ปู่หยุดสักที(สิเว้ย) แต่ถ้าอิปู่ยังหาได้ใส่ใจไม่ เส้นความอดทนเด็กด้งขาดผึง ต้องร้องปรามเบาๆขึ้นมาว่า..... "รู้แล้วน่าพี่" ...ซึ่งนี่คือแรงสุดแล้วนะที่ด้งทำกับปู่น่ะ และด้งคงรู้แล้วล่ะว่ามันไม่เคยได้ผล ด้งจ๊ะด้งรู้ไหม ด้งต้องทำตามพี่คุณเขาโน่น คนนั้นล่ะแค่ถลึงตาทีเดียวอิปู่ก็เหยียบเบรคดังเอ๊ยดดดดดดดดดดด เราชอบความสัมพันธ์ของคนคู่นี้นะ เราชอบความเอ็นดูที่จุนเคมีต่อด้ง มันเห็นได้ชัดจนไม่รู้จะชัดยังไง คอยดูแล คอยห่วง คอยให้กำลังใจและให้ความรู้ในเรื่องที่ตัวเองถนัดที่สุด เราว่าเป็นเพราะเรื่องหนึ่งเลยก็คือความเคารพที่ด้งมีให้ต่อฮยองคนนี้ ไม่ว่าจะจุนเคจะเล่นเกินเลยไปแค่ไหน แต่เราไม่เคยเห็นด้งจะลามปามจนไม่ให้เกียรติในความเป็นพี่ อย่างมากก็เหวี่ยงนิดๆ พอเหวี่ยงเสร็จก็ทำเป็นอังอังใส่จนอิปู่ไม่ต้องหงอยไปเพราะรู้สึกเศร้า เพราะแบบนี้ล่ะจุนเคถึงได้ให้ใจกับน้องชายคนนี้มาก...เราคิดแบบนี้ ความเป็นคนใส่ใจรายละเอียดเป็นเรื่องทำให้เราประทับใจในตัวผู้ชายคนนี้มาก ขอย้อนกลับไปงานFan's Day ก่อนจบหน้าที่ดีเจ จุนเคพูดถึงงานJYPnationเมื่อคืนที่ผ่านมาที่ไม่อาจมีนิชคุณร่วมด้วยได้เพราะเรื่องอุบัติเหตุนั่น "เมื่อวานนี้พวกเรามีแค่ 5 คนใช่ไหมครับ" พูดถึงแค่นี้แฟนๆก็เริ่มรู้แล้วว่าจุนเคจะพยายามพูดอะไร ทุกคนร้องครางด้วยความเศร้าขึ้นมา พร้อมๆกับที่จุนเคบอกความรู้สึกต่อเหตุการณ์นั้นออกไปว่า "ผมคิดว่า...หัวใจของแฟนๆทุกคน กับหัวใจของผม....เราต่างก็เหมือนกันใช่ไหมครับ" ตอนที่เราได้รู้ว่าจุนเคพูดอะไรไว้ เราแทบจุกจนถึงคอหอย นั่งนิ่งอยู่นานกับความสัมพันธ์ที่เด็กผู้ชายหกคนมอบไว้ให้กันและกัน พร้อมทั้งความรู้สึกที่ว่าผู้ชายคนหนึ่งมองเห็นและห่วงใยในความรู้สึกของแฟนคลับในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และอยากพูดอะไรสักอย่างออกมาเพื่อปลอบประโลม...เท่านั้นเองที่เขาทำได้ในขณะนั้น ผู้ชายคนที่ถูกแอบถ่ายตอนพูดถึงแฟนคลับที่ตามเขาไปทุกที่ ไปให้กำลังใจในการแสดงละครเวทีสามทหารเสือถึงญี่ปุ่นไว้ว่าเป็น jjang jjang girl ด้วยน้ำเสียงที่ปลื้มอย่างสุดๆแบบนั้น ทำเอาเราอยากมีโอกาสเป็นหนึ่งในสาวจังจังของผู้ชายคนนี้ขึ้นมาทันที ...นี่ล่ะคือความใส่ใจในรายละเอียดของผู้ชายคนนี้ที่เราจะไม่มีวันลืมเลย "กับคำพูดที่ว่า 'ฟันฝ่าชีวิตอย่างโดดเดี่ยวเฉกเช่นเดียวกับนอของแรด' มันทำให้ผมเศร้ามากตอนที่ได้ยินเมื่อครั้งยังเป็นเด็กประถม แต่พอยิ่งโตผมก็ยิ่งเข้าใจความหมายของมัน และมันกลับทำให้ผมรู้สึกเจ็บปวดมากขึ้นไปอีก" ทวีตของจุนเคอันนี้ทำเราเศร้าอยู่นาน เก็บเอามาคิดทบทวนอีกหลายครั้ง สัตว์ป่าที่มีเขามักจะมีเขาเป็นคู่คอยต่อสู้ไปด้วยกัน แต่...แต่กับนอแรดนั้นอยู่เพียงลำพังฟันฝ่าบุกตลุยเส้นทางข้างหน้าไปด้วยตัวมันเองอย่างเดียวดาย ถือเป็นสัญลักษณ์ของความอดทนไว้ต่อสู้กับความอ่อนระโหยโรยแรงที่คนเราต้องพบเจอ เราอยากรู้จริงๆว่าผู้ชายคนที่มักทำเสียงดังเอะอะโวยวายกลบเกลื่อนความในใจ ผู้ชายที่มักยิ้มกว้างกระจายไปถึงดวงตาและพร้อมทำให้คนรอบข้างหัวเราะได้เสมอ ผู้ชายที่ยอมตามตอแยคนรอบข้างเพียงเพื่อกลบความเหงาในใจตัวเองแบบนั้น ภายในหัวใจเขาเก็กกักความโดดเดี่ยวไว้มากมายขนาดไหนกันนะ ภาพเด็กผู้ชายตัวเล็กๆที่ก้าวเดินทีละก้าวเพียงลำพังไปบนเส้นทางแสนยาวไกลตรงหน้าด้วยความรู้สึกไม่แน่ใจและหวาดกลัวเป็นภาพที่เรารู้สึกซ้อนทับไปกับทวีตนี้ของคิมมินจุน บนเส้นทางชีวิตของคนเราไม่มีใครที่ไม่เจอกับความโดดเดี่ยว แม้จะเศร้า...แต่มันก็คือความจริง เราอดแปลกใจตัวเองไม่ได้ที่จดจำเรืองราวของผู้ชายคนหนึ่งที่อยู่ห่างเราไกลหลายพันไมล์แบบนั้นได้มากมายขนาดนี้ ผู้ชายคนที่ทำให้เราคิดเสมอเวลาที่เห็นเขาดำดิ่งลงไปกับงานดนตรีว่า ถ้าพระเจ้าทรงมอบของอย่างหนึ่งให้กับมนุษย์ทุกคนติดตัวก่อนลงมายังโลกนี้ พระเจ้าคงประทานเสียงดนตรีลงมาในจิตวิญญาณของเขา เราถึงได้เห็นความรักในเสียงดนตรีจนแทบกลายเป็นความลุ่มหลงที่ผู้ชายคนนี้ และนั่นล่ะ...ที่ทำให้เราหลงรักในตัวคิมมินจุน "วัตถุแห่งความทรงจำนั้นต่างจากความทรงจำ" พจนา จันทรสันติเขียนไว้แบบนี้ เรื่องบางเรื่องเมื่อเราวางไว้ในที่ทางของมันแล้วกลับเอามาทบทวนดู เราจะพบกับความงดงามของความรู้สึกต่างจากวัตถุที่เราครอบครองไว้เพื่อเตือนให้ระลึกถึง แม้เราจะเก็บเรื่องราวมากมายของผู้ชายคนนี้ คิมมินจุนเอาไว้ แต่ความรู้สึกเด่นชัดกลับมาจากเรื่องราวมากมายที่เราทะยอยเก็บไว้ในใจ ในที่ทางของมัน และเมื่อมีเวลาย้อนกลับไปเปิดลิ้นชักแห่งความทรงจำดู มันก็อบอวลไปด้วยความรู้สึกอย่างที่ไม่มีภาพถ่ายหรือข้าวของอะไรมาเทียบเคียงได้ หากเราจดจำคนคนหนึ่งด้วยหัวใจ คนคนนั้นจะอยู่ในความทรงจำใหัหัวใจเราตลอดไป แต่ปีนี้เราอยากโลภมากอีกนิด เพราะอยากได้วัตถุแห่งความทรงจำของผู้ชายคนนี้เก็บไว้สักอย่างหนึ่ง ซึ่งเราคิดว่าเมนจุนเคอาจคิดไม่ต่างจากเราเท่าไรนัก ตัวเราไม่เรียกร้องอะไรมาก(อีกแล้ว) ไม่มี MV ก็ได้ ไม่มีการโปรโมทก็ได้ ยอมทุกอย่างแล้ว ขอแค่ให้จุนเคได้ทำโซโล่อัลบั้มออกมาอย่างที่เขาคิดหวังเอาไว้และเมนจุนเครอคอยอยากได้ครอบครองมาตลอดสักที ...มันคงจะเป็นของขวัญที่ผู้ชายคนนี้เฝ้ารออยู่นะเราว่า |