ทุกการพบเจอก็เหมือนการคืนสู่เหย้า ใกล้หกโมงเย็นของวันที่ 11 ตุลาคม 2557 ตอนกำลังก้าวเท้าขึ้นบันไดอิมแพคก็ปะทะเข้ากับลมที่กระโชกโฮกฮากแสดงความไม่สบอารมณ์ ชวนให้แหงนขึ้นไปสบตาเข้ากับท้องฟ้าที่ไม่ค่อยจะฟ้าสักเท่าไร ก็พลันขนลุกเกรียว เกิดความคิดหนึ่งปะทุขึ้นมาตีแสกหน้า 'ใครบางคนกำลังทำตัวสนิทชิดเชื้อกับพรุ่งนี้ฝนจะไม่ตกอย่างรักดียิ่ง!' ความคิดนี้ดูจะไม่ผิดและ...ยิ่งกว่า OTL ที่นั่งปีนี้ไม่เลวมีเหตุผลทีเดียว ลิสต์เพลงคอนครั้งนี้ยิ่งกว่าไม่เลวมีเหตุผลทีเดียว ถึงขั้นไม่เลวมีเหตุผลหกหกสามสิบหกทีก็เป็นได้ ไม่เน้นความเซ็กซี่โชว์เนื้อหนอโชว์หนังหนอเพราะงั้นจึงมีแค่ im your man แต่ไร้ back 2 u แต่กลับเติมเพลงอย่าง again&again i hate u และ tired of waiting มาเป็นคอมโบเซ็ทให้ฮอตเทสแ่ก่ๆเก่าๆหวนย้อนนึกอดีตอันรุ่งโรจน์เพริศแพร้ว มีเพลงฟังพอสบายให้พักหายใจเป็นแป็บๆไม่ชวนให้นั่งสมาธิดูคอนนิ่งๆ รวมคำเดียวหมดจดคืิอ "มันส์" เหมือนเราจะจำไม่ได้ว่าเคยดูบ่ายเปิดคอน(ที่ไทย)ด้วยเพลง Heartbeat มาก่อน อาจเคยแต่ก็จำไม่ได้แล้วล่ะ แต่ถึงเคยเปิดก็รับรองได้ว่าไม่เคยเปิดด้วย "สภาพ" แบบนี้มาก่อนแน่นอน เพลงใช่ ท่าเต้นใช่ แต่ความรู้สึกมันส์ขนาดนี้ไม่ใช่...และยิ่งไม่ใช่กับคอสตูมแบบนี้ เจ้าบ่ายคนอื่นๆยังพออนุโลมปิดตาไม่เห็นข้างหนึ่งพอไหว แต่กับปู่แก่ๆขาเดี้ยงคนหนึ่งกับชุดคลุมอาบน้ำ เอ่อ...ชุดคลุมนักมวยกับเพลง Heartbeat อืมมมมม และกับเด็กประถมถุงเท้ายาวสีขาวกางเกงขาสั้นสีแดงแจ๊ดแจ๋แบกเป้สะพายหลังพร้อมทรงผมมหาดไทยนั่นกับเพลง Heartbeat อืมมมมมมม [ พรวดพราดมาชี้หน้ากันแบบนี้ คิดจะฆาตกรรมกันเรอะ! ] ซีนที่ด้งโดนกระชากหัวใจโดยมีเป้สั่นสะท้านเพยิบพยาบประกอบฉาก ฮาร์ทมันคงบีทไปไม่ได้มากกว่านี้แล้วครับ Without You เพลงดาร์คดาร์คกับ... เสื้อคลุมขนหนูสีขาวปลิวไสว กางเกงขาสั้นสีแดงแทยงตา กางเกงขาสั้นสีแดงแทยงตา เสื้อคลุมขนหนูสีขาวปลิวไสว "..." ...นี่ล่ะสองหนุ่มที่ชวนกันเล่นเป็นซูเปอร์แมนของสาวๆ OTL HOTสุดHOT เต็มสปรีดตั้งแต่ต้นจนจบเพลง หนึ่งในเพลงโปรดตลอดกาล บีทกระหึ่มจนขนแขนตั้งตรงชนิดคงไม่อาจตรงไปได้มากกว่านี้อีกแล้วก็พลันล้มฟุบลงเหมือนเป็ดโดนสายฟ้าฟาดในฉับพลันที่คุณเดินมายูเทิร์นตรงหน้า คนหรือเทวดา ก่อนรีบตะเกียกตะกายลุกขึ้นมาตั้งชันเมื่อจ้องผู้ชายคนหนึ่งนั้นด้วยความตะลึงพรึงเพริด มีถ้อยคำกลิ้งไปมาในลำคอสองสามรอบแต่กลับความหาเสียงไม่เจอ ได้ยินเพียงเสียงศีรษะลั่นกระหึ่มก้อง (โฮกับคิมก็ปล่อยพลังไปเหอะ มีสองคนเตรียมสละเรือขึ้นยานแม่ละ...) ตอนนั่งมองภาพนี้ก็ฉุดความคิดเดิมที่เคยคิดเอาไว้คืนมา คือเรามักรู้สึกว่า่บอดี้ไลน์ตอนเต้นของด้งกับคุณน่ะคล้ายกันอยู่มาก องศาการเอียง จังหวะการปล่อยมือ การก้าวขา...เหมือนเป็นภาพทับซ้อน และ...แล้วถึงเวลา "R U READY TO GO CRAZY TONIGHT , BANGKOK!!!" เจ้าเหมียวตะโกนเสียงแหบพร่าสะเืทือนถึงตายอย่างแท้จริง แล้วมันก็ทำให้เรารู้ว่าจะไปตั้งแง่กับเสื้อคลุมอาบน้ำคุณคิมไปทำไม ส่ายที ไหล่เกลี้ยงๆไหล่กว้างๆของพี่ก็พอมีหน่วยก้านอยู่หลายส่วน ในเมื่อพี่ยอมทิ้งความหวงเนื้อหวงตัวไปพร้อมเสียงกระซิบเจวายพี ช่างเป็นการเทหมดหน้าตักที่ทายทักได้ดาษดื่นพื้นเพเพียงนี้โดยแท้ Go Crazy เพลงนี้ทำให้บรรยากาศคอนในวันนี้จากค่อยๆำไต่เพดานมาพุ่งพีคทยานติดเพดานอิมแพคในทันที ฉวยโอกาสไม่ทันสังเกตบิ้วท์อารมณ์ชนิดไม่จัดการออมชอมอ้อมค้อมแม้สักหน่อยในช่วงเวลายังไม่เฉียดครึ่งชั่วโมงด้วยซ้ำไป สมราคาการถูกตั้งขึ้นมาเพื่อเป็นวงเพอร์ฟอร์มมานซ์อย่างรักดีอย่างยิ่ง แล้วเราไม่คิดเลยว่าจะต่อด้วยเพลง 10/10 เพราะปกติแล้วเพลงเพลงนี้จะเป็นเพลงปิดคอนที่ทำให้เราอดเห็นฉากคุณพิงคิมด้วยตาตัวเองมาตลอด ในที่สุดก็มีวันนี้จนได้ จ้องเสียจนตะครั่นตะคร่อขนลุกเกรียวกับไอ้ฉากคุณถลาโผคิมอิแค่อึดใจ ในที่สุดก็ถึงซึ่งบรรลุแล้ว...สาธุู เพลงเต๊าะสาวที่ให้แต้มเอามันตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า เปิดมาด้วยภาพด้งเดินนำเป็นหัวหน้าแก็งค์ชวนเพื่อนตัวแสบยกพวกไปจีบเด็ก ท่าทางพี่น่ะอันธพาลตัวจริงแต่พอบวกด้วยเป้สะพายใบเก่งใบเดิมนั่น เปลี่ยนจากนักเลงโตกลายเป็นเด็กอนุบาลหมีน้อยชวนให้ทอดถอนอยู่หลายส่วน นึกถึงเจตนารมณ์ในการแต่งเพลงนี้ของลุงผักแล้วก็ได้แต่ยอกแสยงใจแทน เจ้าเด็กพวกนี้คงทำลุงคับแค้นใจไม่น้อยสินะ...สาธุ สาธุ แล้วก็มาที่ unit-song คู่แรก และคือช่วงท่องอรหันต์ขย่มใจเพราะเป็นดูเอ็ทเซ็กซี่ไลน์ แทค-ชาน นึกย้อนทบทวนอยู่หลายรอบยังนึกชื่อเพลงไม่ออก นึกงิ้วฉากหนึ่งออกคือฉากกระชากเสื้อสิ้นวิญญาณหลงที่พาเลือดทั่วร่างแล่นขึ้นใบหน้าแก่ๆ ใบหน้าแก่ๆเหมือนถูกจับกดจานพริกที่เผามาได้ที่ื ร้อนจัดราวกับไฟ พอทบทวนหลายครั้งจำลางๆได้่ว่าแทคออกมาร้องก่อน ยืนโด่คนเดียวรับแสงสปอร์ตไลท์แล้วพอจบท่อนก็เดินกลับไปเวทีใหญ่ลงช่องไฮดรอริค ที่กลับมาจำตรงนี้ได้ก็เพราะความเฟอะฟะขั้นสุดของเหมียว พอช่องมันยุบตัวลงก็เห็นเหมียวย่อตัวซะงอขิงหันหลังเดินวนกลับ ไอ้เราก็แบบ...แทคจะทำอะไรวะนั่น พอดูต่อก็อนุมานได้ว่าคงเตรียมลงแต่ผิดทางสิท่าเพราะทันเห็นตอนแทคม้วนตัวมามีรอยยิ้มติดหน้าเหมือนกำลังขำตัวเอง คือถ้าหันหลังให้เวที แทคจะเลี้ยวรอลงทางขวามือ แต่คงโดนเรียกให้ไปอีกทาง กับภาพผู้ชายตัวโตๆก้มตัวเป็นตึกไม่ให้ล้นทะลักขอบเวทีด้วยท่าทางด็อกๆแด๊กๆ หมุนวนเป็นแมวติดจั่น เห็นแล้วชวนเอน็จอนาถยิ่งนัก คือนั่งดูความเฟอะฟะของแทคเพลินจนลืมฟังชานที่โผล่ขึ้นมาร้องตรงเวทียกสูงที่อยู่ตรงกันพอดีกับที่เหมียวติดจั่นนั่นเลย แล้วเพลงคู่นี้ไม่มีอะไรนอกจากคำว่าเพี้ยน ทั้งแฟลตทั้งคอนโด ไม่รู้เอียร์มอนิเตอร์มีปัญหาหรืออะไรถึงเพี้ยนไปถึงสวรรค์ได้ปานนี้ แต่ทุกอย่างอภัยได้หมดเมื่อถอดเสื้อ...จะเรียกว่า "ถอด" ก็ช่างกระไรอยู่ ถอดเป็นกริยาค่อยๆ ทีละนิด ทีละน้อย หากแต่ผู้ชายเซ็กแอพเพียลคู่นี้สะสางหมื่นเรื่องในหนึ่งวันจริงแท้ "กระชาก" แบบถึงอกถึงใจ ชั่วพริบตาดั่งห้วงฝันคั่นกลาง เสื้อยืดสีขาวที่อยู่ของมันดีๆก็ผลั๊วะหลุดกองที่พื้นโชว์ทุกส่วนสัด เรียบ ลื่น เหลือแต่เสื้อคลุมสีทองตัวนอกชวนให้ขัดหูขัดตายิ่งนัก ไม่ใจเลยน้องเอ๊ย เห็นเพ่นัมยองไหม พี่เขาทุ่มทุนหมดตัว หมดจดเป็นบุญสายตาโดยแท้ตั้งแต่ต้นจนจบเพลง กระเดือกเคลื่อนขึ้น-ลง ลง-ขึ้นคือคำอธิบายเพอร์ฟอร์มมานซ์เพลงนี้โดยไม่ต้องมา่กความ (อ้าวไหนว่าคอนนี้ไม่เน้นเซ็กซี่ไง...แค่ก แค่้ก) พอพูดถึงเสียงแล้วขอบ่นหน่อยเหอะ คอนปีนี้ปัญหาเลยก็คือระบบเสียง ไม่รู้ว่าส่วนอื่นจะเป็นไหม แต่ตรงที่นั่งอยู่ ก็ไม่ใช่ว่ามันถึงขึ้นเลวร้ายมากมายหรอกแต่มันเล่นใส่เบสมาเป็นลูกตบหน้าซ้ายหันเป็นระยะจนทำให้เสียงร้องสู้ไม่ไหวในบางช่วง มีหลายช่วงเลยที่เสียงด้งถูกกลืนหายจนฟังไม่รู้เรื่อง เป็นครั้งแรกที่เราเจอกับปัญหานี้ สองปีที่แล้วระบบเสียงดีกว่านี้ แต่ปีนี้ระบบแสงสีสุดยอด ดูรู้ว่าลงทุนกว่าทุกครั้ง แต่ไม่น่ามาตายตรงส่วนที่สำคัญที่สุดอย่างระบบเสียงนี่เลยให้ตาย จบเซ็ทแรกไป เป็นเซทสอง คือเราแบ่งง่ายๆเลยตรงที่ชุด คือผู้ชายเปลี่ยนชุดก็หมดเซท ซึ่งเซทนี้...กราบสวัสดีครับพ่อผู้ใหญ่คิม พ่อมาเที่ยวชมบางกอกหรือขอรับ ระวังโซ่ทองเส้นโตจะไปฟาดปากนักเลงแถวภูเขาทองเข้านะพ่อนะ เปิดมาด้วยเพลงฝนกำลังตก Rain is falling เพลงป็อบฟังสบาย กำลังเริ่มได้ฟังเพลิน แบ็กกิ้งแทรคดันมีปัญหาซะงั้นแต่ผู้ชายก็สติดี มินจุนกับโฮก็อะคาเพลล่าไป เหมียวก็นั่งห้อยขาบีทบ็อกซ์ไป ้เราพยักหน้าอยู่ในใจอย่างปลาบปลื้ม ดีมาก....เพราะจริง หากแต่ยังพยักหน้าไม่เสร็จสิ้นก็เกิดจังหวะความวุ่นวายแถวโซนที่นั่งอยู่ เกิดมีเสียงโหวกเหวกดังสวนขึ้นบอกให้ปิดไฟ ปิดไฟ๊ ปิดไฟ!!! เสียงตะโกนดังเสียจนกลบเสียงผู้ชายที่เี่รากำลังเบิ่งหูฟัง ความสำราญใจพลันดิ่งวูบ โปรดหาวิธีจัดการใหม่ที่ไม่ขัดต่อการชมคอนเสิร์ตเถอะครับ สารภาพอย่างอับอายว่าเรามารู้ทีหลังนานมากละว่ามีการทำแบล็กโอเชี่ยน OTL คือตอนที่เรานั่งอยู่เราไม่รู้สึกหรอกว่ามันมืดอะไรเพราะตาก็จ้องอยู่ที่เวทีที่แสงสีละลานตาไปหมด ตอนเพื่อนพูดถึงเราก็...อ้าว! เหรอ? ไม่รู้่เลยครับ เป็นพวกความรู้สึกหอยทากก็พลาดแบบนี้นี่เอง แล้วไม่นานดนตรีก็ขึ้นใหม่ ฝนก็ตกใหม่อีกรอบ แล้วโปรเจ็คก็เริ่ม ถ้าพูดกันตามตรง คนแบบเราตอนที่ที่นั่งโบกอยู่ไม่ค่อยรับรู้ถึงความสวยงามของโปรเจคอะไรเท่าไรหรอก ด้วยว่าเราห่างหายจากผู้ชายหกคนไปเยอะก็เลยอยากตักตวงให้เต็มที่ เราได้แหงนหน้าขึ้นไปมองอยู่สองสามแวบได้ แบบแวบเร็วๆด้วยนะ แล้วหันไปเสพผู้ชายต่อ แต่เราคิดแบบนี้นะไอ้ที่เราไม่ค่อยรู้สึกเท่าไรมันไม่สำคัญอะไรหรอก แต่ที่สำคัญคือผู้ชายหกคนที่มองมาจากบนเวทีต่างหากที่ ณ ชั่วขณะหนึ่งพวกเขาจะรับรู้ได้ถึงความรักมากมายที่ถูกTH-HOTTESTมอบไว้ให้ในรูปแบบที่จับต้องได้ ซึ่งถ้าเราเป็นพวกเขา ณ เวลานั้น เวลาที่พวกเขาถูกไทยฮอตเทสโอบกอดไว้ด้วยความรัก ความรู้สึกเช่นนี้มันจะกลายเป็นความทรงจำล้ำค่าที่จะไม่มีวันลบเลือนไปจากใจ จังหวะช่วงหนึ่งที่เราหันเหลือบไปมองจอLED ภาพตัดแบ่งเป็นผู้ชายสามคน จุนเค ชาน คุณ มันเป็นจังหวะที่พอเหมาะพอเจาะพอดี ชานที่นั่งนิ่งๆกับสายตาที่ทอดมองตามไปทั่วทั้งฮอลล์ เราว่าเราเห็นรอยยิ้มในตาคู่นั้น จากนั้นน้องเล็กคนนี้ก็ยกนิ้วขึ้นมามอบให้กับโปรเจคครั้งนี้ ที่ทำให้เราต้องหันตามไปมองโปรเจคนี้เต็มๆตาครั้งแรก แล้วปิดท้ายที่จุนเค สิ้นเสียงLovin U ผู้ชายคนนี้ก็ยกนิ้วให้ปิดท้าย สีหน้าตอนนั้นทำเราอดภูิมิใจแทนสตาฟทุกคนไม่ได้ นี่ล่ะคือความภูิมิใจที่สตาฟthai-hottestควรได้รับมากกว่าคนแบบเรา ซึ่งดูก็รู้ว่าไม่ใช่แค่เรื่องเงินทองแล้วจะทำสำเร็จหากไร้ซึ่งความทุ่มเททั้งกายและใจลงตามไปด้วย ถ้าใช้แต่เงิน สิ่งที่ได้ก็มีแค่ความตื่นตาตื่นใจ แต่ถ้าผูกใจลงไป ความรู้สึกมันจะพันลึกลงไปกว่านั้น ใจที่ให้ไปนั้นย่อมไปถึงใจของผู้ชา่ยหกคน...เราเชื่อเช่นนี้ "เพราะผมสั่ง" หนุ่มน้อยโอท็อปในชุดลายผ้าขาวม้าบ้านเราชี้นิ้วลั่นไกใส่กระหม่อมตัวเองบอกมาอย่างนั้นตอนพูดถึงว่าประเทศไทยเป็นประเทศแรกที่ได้จัดworld tour สีหน้าจอมโอ่ที่พร้อมอวดเต็มที่ทำหัวใจเรากระตุกดัง "ตุบ" "วันนี้รับสองจ๊อบครับ เป็นนักร้องและเป็นล่ามด้วยนะ" หนุ่มน้อยทำหน้าตาน่ารักตัดพ้อฟ้องว่าเขาใช้งานผมหนักนะเนี่ย ทำหัวใจเรากระตุกดัง "ตุบ" ไปก่อนหน้าแล้ว เพราะทำหน้าที่ล่ามสมัครเล่นอีกจ๊อบก็เลยสงสัยว่าจ๊อบที่ว่านั่นรวมถึงการแปลส่วนของคุณคิมมินจุนที่ร่ายอิ๊งซะยาวเหยียดด้วยไหม หลังจา่กครุ่นคิดจึงหยั่งเชิงถามฮอตไปว่า "ไม่ต้องแปลใช่ไหมครับ" แทคผู้อยากเป็นฮอตของคุณปฏิเสธแทนทันทีทันควันไปว่าไม่ต้องแปลเพราะ "ไม่มีเวลา" หัวใจเรากระตุก "ตุบ ตุบ ตุบ" มองแทคปากอ้าตาค้าง คนทั้งฮอลล์ก็(น่าจะ)มองแทคปากอ้าตาค้าง จนป่านฉะนี้แล้วไม่สงสัยถึงความหูดีของแทค ฟังปุ๊บพี่เลียนเสียงได้เหมือนเป๊ะ แต่ไอ้ถึงกับฟังปุ๊บเข้าใจความหมายปั๊บตอบเป๊ะนี่มัน...ปากอ้าตาค้า่งล่ะครับ ภาษาไทยไม่ใหญ่เกินโทอิค 990 คิวพูดมาถึงเรื่อง unit-song แทคก็กวักมือเรียกชานหยอยๆ "Chansung , Come Here" พร้อมหมีว่าง่ายรับเสียงซื่อด้วยเสียงเบาๆไปว่า "ครับผม" เนื่องจากเราได้ยินชานพูดครับผมเป็นครั้งแรกรู้สึกแปลกใหม่ยิ่ง ไอ้เด็กพวกนี้พูดครับผมกันคล่องปากขนาดนี้กันตั้งแต่เมื่อไร ฟังชัดไม่ต่่างจากคนไทยเลยสักนิด แล้วจากนั้นคือการแกล้งหมีเป็นกิจวัตรของเหมียว แทคสั่งให้ชานแนะนำเพลงที่ร้องไป "in thai!" ทำเอาชานที่ยืนนิ่งเรียบร้อยยิ่งกลับหน้าตาตื่น โพล่งออกมา "in thai?" หลังจากเห็นท่าไม่ดีทบทวนอย่างละเอียดในใจไปหนึ่งตลบ สุดท้ายหมีปั้นยิ้มจืดๆออกมา ความหวาดหวั่นพรั่นพรึงล้ำลึกของหมีส่งมาถึง ซึ่งพอแทคเห็นท่าแบบนั้นจะต้อนต่อรึก็กลัวถูกประชาชีกล่าวหาว่าใจไม่กว้างไปเสียเลยจึงยอมรักถนอมมนุษย์อะลุ่มอะล่วยให้ลดขั้นเป็น "in english" ก็ได้ หมีฟังพลางโล่งใจรีบบอกว่าเพลงที่ร้องไปน่ะ "very good song" (น้ำตาเล็ด ขอเช็ดแป๊บ) แทคเห็นว่าตัวเองใจกว้างพอไปแล้วพอจะเริ่มต้อนต่อได้ก็ไม่ดูจะใจแคบอะไรจึงไล่เรียงเอียงซะชิดว่าไอ้ืี้ที่เวรี่กู๊ดซองน่ะชื่อเพลงอะไรล่ะ หมีใบ้รับประทาน ล่ามคุณรีบแทรกแปลบอกว่าเพลงชื่อ "คำว่ารัก" สงสัยเหมียวจะจับได้แค่คำหลังเลยเชิดหน้ายืดอกชักชวนชานหลงไปอีกทางว่า "ฉันรักคุณ" เสียนั่น ศีรษะเราพองโตขึ้นมาเท่าตัวทันควัน ความชัดของคำว่าฉันรักคุณจากปากแทคทำเอาหัวใจน้อยๆของเรากระตุกไปสามตุบบวกหนึ่ง มารักคง รักคุณอะไรตรงนี้ จึงพลันชักชวนให้คุณผู้สงบนิ่งกับภาษาไทยตามอำเภอใจของแทคต้องเข้ามาแทรกแข็งขืนให้กลับเป็น "คำว่ารัก" อย่างลำบากกินแรง คำว่า "รัก" ใช่ว่าจะตามหลังด้วย "คุณ" เสมอไปหรอกนะ แต่ถ้าอ๊คแทคยอนจะหลับหูหลับตาอนุมานไปเช่นนั้นก็...เชิญตามอำเภอ "ใจ" เลยจ๊ะ [ก็เลยรู้เลยว่าเพลงที่สองหนุ่มร้องคือเพลงคำว่ารักเพลงหนึ่ง ส่วนอีกเพลงแทคบอกว่าตัวเองเป็นคนแต่งเอง(ชื่ออะไรหวา??? จำไม่ได้อีก...)] ค่ำคืนนี้เราตกหลุมรักอีจุนโฮ ตลอดหลายปีที่ผ่าน ไม่เคยมีสักครั้งที่เราโดนโฮแอทแทค ไม่เคยเลย แต่ไม่ใช่คืนนี้ ตอนปู่แก่ๆ อุตส่าห์มายืนอ้อยสร้อยแสครชแผ่นในเพลง hands up อยู่ตรงหน้่า เดินมายิ้มยั่วชวนให้ตะโกนคาถา "แอ๊กซีมุส คิมมินจุน" เผื่อเจ้า่ตัวจะลอยล่องเข้ามาในอ้อมกอดอย่างหมั่นเขี้ยวอยู่หลายทีก็ตามเถอะแต่เราก็ยังหน้าไม่แดงใจไม่สั่น สงบนิ่งปานท่อนซุงท่องนโม แต่พอหนุ่มน้อยร่างสะโอดสะอง ผิวขาวผ่องเป็นหิมะแรกฤดูค่อยๆเยื้องกรายด้วยความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยม แจกจ่ายเสน่ห์ตัวเองมาตลอดทาง แล้วทุกครั้งที่เดินมาหยุดตรงหน้าก็จะเจอเข้ากับดวงตาพราวระยับคู่หนึ่งเมื่อส่งยิ้มมาแบบนี้ ช่างเอาเรื่องถึงตายอย่างถึงที่สุด หากใบหน้าแก่ๆของเราไม่แดงกร่ำ น้ำลายไม่ยินดีร่วงจากมุมปาก เสียหลักล้มหน้าคว่ำ ก็ดูจะผิดต่อเสน่ห์ของอีจุนโฮในค่ำคืนนี้โดยแท้ ในที่สุดเราก็หลงทางอยู่ในฤดูกาลของอีจุนโฮ ความมั่นใจจะปลดปล่อยเสน่ห์ในตัวออกมา หลังจากดูครบทุกยูนิทแล้ว ลองใคร่ครวญดูแล้ว ก็พออนุมานโดยเอาการเอาความรู้จักกันพอหอมปากหอมคอ เอายูนิทซูเปอร์แมนของปู่กับหลานมาเทียบกับรักแท้แน่นอนของคุณโฮ ความรู้สึกที่ได้คือความต่างกันอย่างสุดขั้วตั้งแต่สีสันของเพลงยันสีสันของเสื้อผ้าหน้าผม เพลงหนึ่งเด็กน้อยพยายามคูล อีกเพลงสองหนุ่มอารมณ์โรแมนซ์ มันทำให้นึกภาพออกเลยถึงเวลาออกไปแฮงเอ้าท์กันสองคู่นี้สนุกกันด้วยบรรยากาศแบบไหน ...หลังจากใคร่ครวญอย่่างจริงจังแล้ว อยากกล่าวถามด้งอย่างจริงใจยิ่ง หนูแน่ใจแล้วเหรอว่าแนวทางนี้มันใช่ มันใช่แน่ๆ ขอแค่หนูหย่อนหางเปียลงมา ฮอตก็ยินดีพลีชีพปีนขึ้นไปช่วยหนูออกมาจากเงื้อมมือพ่อมดคิมจอมวายร้ายนะลูก รอแค่หนูตัดสินใจนะด้งนะ ค่ำคืนนี้มีคำพูดที่เราประทับใจอยู่ไม่น้อยเลย หนึ่งในนั้นก็คือตอนที่คุณบอกว่าเพลง Love Is True นั้นโฮเป็นคนแต่ง ตอนแรกโฮยังไม่รู้ว่าคุณพูดอะไร แต่หลังจากที่รู้แล้วเจ้าตัวก็รีบปฏิเสธแล้วย้ำคำว่า "TOGETHER" อยู่หลายครั้งเพื่อยืนยันให้ชัดเจนว่าเพลงเพลงนี้เป็นเขาทำร่วมกับคุณ ขณะที่คุณให้เครดิตโฮมากกว่าแต่โฮกลับไม่ต้องการเช่นนั้น คำสั้นๆแค่คำหนึ่งคำมันแสดงให้เห็นถึงการให้เกียรติกันในฐานะคนทำงาน เรารู้สึกถึงความอบอุ่นผ่านคำคำนี้ของโฮได้ชัดเจน "พรุ่งนี้ฟ้าจะสดใส" ลางร้าย! ฟ้าเหนืออิมแพคเป็นพยาน เราหน้ามืดวิงเวียนไปชั่วครู่เมื่อประโยคภาษาไทยประจำตัวของคิมมินจุนหลุดออกมาจนได้ คำว่า "ไม่ต๊ก" และย้ำดังฟังชัดกำชับอีกทีว่า "ไม่ตก!" นี้ทำเอาเราขนลุกเกรียวไปทั้งเนื้อทั้งตัว ยกมือลูบหน้าผากแรงๆ ไซด์งานการพรุ่งนี้ได้ตกบันไดบรรลัยกันหมดแน่ แล้วอีกไม่ทันชั่วหายใจพี่คิมก็ืทำเราเกิดหน้ามืดวิงเวียนไปชั่ววูบอีกรอบด้วยประโยคเด็ดที่พี่คงคิดว่าพี่คัดสรรมาอย่างจริงใจ คิมมินจุนย่อตัวลงโอบฟ้าคว่ำทะเลพูดอย่างหน้าชื่นตาบานมาว่า "พรุ่งนี้...ฟ้าจะสดใส" คำว่าฟ้าจะสดใสนี้ทำฟ้าถล่มโดยแท้ จากวันนั้น อาทิตย์หนึ่งก็แล้ว สองอาทิตย์ก็แล้ว สามอาทิตย์ก็แล้ว อธิบดีกรมอุตุออกมาประกาศเปลี่ยนฤดูหนาวอย่างเป็นทางการก็แล้ว ไม่มีอาทิตย์ไหนเลยที่ร้างหยดฝน ไม่มีอาทิตย์ไหนเลยที่เมื่อแหงนมองจะไม่เห็นฟ้ามืดครึ้มส่งเสียงอึกทึกครึกโครม ตั้งแต่คำพยากรณ์อากาศหลุดออกมาจากปากคิมมินจุนเป็นครั้งแรก ยากยิ่งคือยังสามารถรักษาความแม่นยำอันยอดแย่ได้อย่่างเสมอต้นเสมอปลาย ทุกครั้งที่หกหนุ่มย่างเท้าเหยียบแผ่นดินไทยไม่มีครั้งไหนไร้ฟ้าที่ไร้ฝนเลยสักครั้ง น้องคุณในฐานะที่ปรึกษาภาษาไทยเด็กบ่ายอย่างเป็นทางการ ถ้าน้องไม่คิดจะชักชวนคิมมาเป็นที่ปรึกษากรมอุตุไทยก็ช่วยแก้ไขซ่อมแซมคำพูดคุณคิมให้ไกลห่างดินฟ้าพยากรณ์สักครั้งเถอะ เวลาชาน จำไม่ได้่ว่าชานพูดอะไรเพราะมีเด็กน้อยกำลังคึกคะนอง มีศิลปินคนไหนจะช่างปั่นป่วนสับสนแฟนคลับตัวเองด้วยสีหน้าสะอกสะใจระดับนี้ได้อีกไหม ด้งขู่ฮอตด้วยการใช้สองนิ้วจิ้มมาที่ตาตัวเองแล้วจิ้มคืนกลับไปประมาณ 'เค้าเห็นนะ!' แล้วไปกระซิบเรียกคุณมาดูด้วย หากเราอยู่ตรงนั้นคงได้ตัวสั่นพั่บๆ ล้มแผละลงไปกับพื้นด้วยทนรับแรงสะเทือน(ใจ)ไม่ไหวเป็นแน่แท้ หลังจากส่ายหน้ากับซีนด้งเกรียนเรียกพี่ไปแล้วก็ขอจะกลับมาตั้งสติฟังชานต่อ ดันไปเจอโฮเขยิบเดินไปกระซิบถามอะไรคุณสักอย่่างแล้วคุณก็กระซิบบอกกลับมาทำเอายายแก่คนนี้ต้องคุกเข่าสำนึกผิดต่อชานเป็นอย่างสูง ไม่ต้องพันคิดหมื่นคาดก็คาดได้ว่าพี่คุณกำลังติวไม่อังกฤษก็ไทยกันต่อหน้าต่อตาฝูงชนล่ะ "REALLY?!" พอฮอตตะโกนบอกว่าสนุกจากที่โฮถามเป็นภาษาไทยว่า "สนุกไหมครับ" ภาษาอังกฤษสำเนียงอีจุนโฮที่ไปไกลกว่า 'HongKong Forever' เรียบร้อยแล้วนั้นย้อนถามย้ำกลับมาว่า "really?!" อยู่หลายครั้งนั้นทำเอาหนุ่มเมกันสองหนุ่มที่อุตส่าห์รักษาความสุขุมเยือกเย็นยิ่งมาตลอดถึงกับปั่นป่วนตัวทรุดยืนไม่ติดที่กันเลยทีเดียว คุณน่ะเหรอก็ขำนำรอแทคไปก่อนเลยด้วยความภาคภูิมิใจในตัวลูกศิษย์สดๆร้อนๆคนนี้เป็นอย่างมาก ทอดถอนหายใจ...รูปปั้นเดวิดยังสัมผัสอักษรคำว่า FLAWLESS ได้ไม่เท่าชานเลย "Thailand is really...it feels like our second home" เราเห็นคุณเงยหน้าหันขวับมาทันทีตอนที่ได้ยินแทคพูดประโยคนี้แล้วจากนั้นก็ดูจะนิ่งเงียบไป ความรู้สึกในใจคุณตอนนั้นจะเหมือนกับเราไหมนะ ในใจเหมือนวงน้ำเล็กๆค่อยกระเพื่อมกลายเป็นระลอกน้ำสั่นไหว คำพูดจากคนต่างชาติต่างภาษาที่ได้ก้าวเท้าเหยียบผืนแผ่นดินไทยถึงไม่น้อยแต่ก็นับครั้งได้ เมืองไทยกลายเป็นบ้านหลังที่สองของผู้ชายกลุ่มนี้เพราะผู้ชายคนหนึ่งที่ต่างเคียงข้างสู้มาด้วยกันตลอดใกล้ 10 ปีอีกไม่นานแล้ว และคงไม่โมเมจนเกินไปที่จะคิดเข้าข้างตัวเองว่าอีกหนึ่งสาเหตุนั้นเป็นเพราะความรู้สึกที่ฮอตไทยมอบให้กับพวกเขา ความรู้สึกตรงนั้นมีความนัยซ่อนอยู่คือความกดดันที่ผู้ชายชื่อนิชคุณ หรเวชกุลแบกรับมาตลอด ภาพที่ด้งหันไปเห็นสีหน้าตรงนั้นของคุณจนต้องเอนตัวเอื้อมไปโอบไหล่ให้กำลังใจเบาๆนั้นทำให้เราเหมือนเข้าใจอะไรบางอย่าง สีหน้าภาคภูมิใจกับคำพูดล้อเล่น "เพราะผมสั่ง" ดูจะไม่ล้อเล่นอย่างที่คิด เหมือนจะมองเห็นภาพผู้ชายคนหนึ่งต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งสัญญาหนึ่งที่เคยมอบให้ไว้กับไทยฮอตเทส สัญญาที่ผู้ชายคนนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่เทียมฟ้าที่ต้องแบกรับไว้ พอมานึกย้อนถ้อยคำของแทคที่พููดในวันนั้นแล้วเราก็สงสัยว่านี่เป็นผู้ชายจอมยียวนคนเดียวกับคนที่ปฏิเสธหัวเด็ดตีนขาดยังไงก็ไม่ขอเป็นอุปป้่าของฮอตเทสคนนั้นรึ! วันนั้นแทคพูดหวานหูกลมกล่อมกินอร่อยลื่น ผู้ชายที่ดูจะแขยงการทำตัวเลี่ยนๆกลับพูดออกมาว่าทุกครั้งที่มีการเตรียมทัวร์คอนเสิร์ตก็จะไม่เคยลืมที่จะต้องมาที่ไทยเพื่อมาพบกับไทยฮอตเทส พอจบคอนที่โซลแล้วก็ต้องมาต่อที่บ้านหลังที่สองของพวกเขาที่นี่ที่เมืองไทยนี่ล่ะ หลังจากฟังแทคกล่อมด้วยคำหวานจนเคลิ้มไปวูบหนึ่ง แทคก็ไม่ลืมกลับมาปลุกให้ตื่นสมกับที่แบ่งสมาธิบางส่วนมาตุ้มๆต่อมๆดีแท้ แทคคนคุ้นเคยผู้วางแผนทุกอย่างไว้ในกำมือมาตั้งแต่บ้าน ตาแมวคู่หนึ่งจู่ๆก็หรี่ลงรับแสงตาที่วาบขึ้นพร้อมลูกน้องคู่ใจที่กะเวลาได้อย่างพอดิบพอดีอ แทคทำเป็นนิ่ง...เงียบ ก่อน........ เห็นสายตาหมีแล้วขนหัวลุกเกรียว จะไม่ระเบิดหัวเราะรอรับก็ดูจะผิดต่อความร้ายกาจของเหมียวไปสักหน่อย แล้วในที่สุด "คิดถึงจุงเปย" ก็ลอยออกมาจากปากเหมียวเฉียดหน้าด้งไปฉิวชวนให้หลั่งน้ำตาอย่างสะทกสะท้อนแทน จางอูยองไปก่อกรรมใดมานี่...ไปก่อกรรมใดมา ขณะที่คนอื่นกำลังระทดท้อแทนด้ง ก็เหลือเพียงคุณฉวยโอกาสเอาคืนแทนจากช่องว่างที่ทุกคนกำลังตื่นตะลึงพลันมือก็กระตุกวนกลับมาฟาดผลั๊วะเข้าที่หลังแทคโดยไร้ปราณี พนันเอาขี้หมากองเดียวว่าเหมียวกับหมีนัดแนะแกล้งด้งไว้โดยไม่กะโตกกะตาก ความสะใจหลังจากแทคพูดคำว่าคิดถึงจุงเปยนั้น ด้งมีหรือไม่น่าถือสาหาความ ยิ่งชวนให้ด้งถือสาหาความย่อยยับยิ่ง "what time is it?" หลังจากทอดถอนไปเฮือกใหญ่ ครุ่นคิดหาไั่ปชั่วจิบชาด้งก็หาถ้อยคำเจอ แต่ในเมื่อไม่อาจใช้คิดถึงจุงเปยปิดท้ายเรียกความเอ็นดูได้เสียแล้ว น่าอนาถยิ่งนัก จึงได้แต่ต้องกลับมาขายเวลา what time is it ของเก่ากิน แต่ดูค่ำคืนนี้ฟ้าไร้ปราณี ธรณีไร้เมตตาโดยแท้ ฮอตตอบปลอบใจกลับมาว่า 2PM! แต่สุดท้ายกลับไม่พ้นตาข่ายเหมียวดักเก็บช้อนมุกเข้าตัว แกล้งยกแขนทำเป็นส่องดูเวลา ทำหน้างุนงงทำตาสงสัย บ่ายสงบ่ายสองอะไรกัน บ่ายตรงไหน ดึกดื่นคืนค่ำซะขนาดนี้ พร้อมคู่หูคิมตัวแสบเข้ามารองโดยไม่ต้องร้องหา รักกันเยี่ยงนี้ชวนให้ตะครั่นเนื้อตะครั่นตัวขนลุกเกรียวยิ่ง "ไทยฮอตเทสคือความภาคภูมิใจส่วนตัวของผม" เราเชิดหน้ารับถ้อยคำที่คุณบอกว่า "ฮอตเทสทุกๆคนคือความภาคภูิมิใจของ2pM" เรื่องนี้มันแน่ยิ่งกว่าแช่แป้งเสียอีก เห็นได้ชัดว่าอดีตเมื่อย้อนระลึกถึงส่วนใหญ่นั้นดี เห็นว่าเมื่อส่วนใหญ่นั้นดีแล้วก็ย่อมโมเมต่อได้ว่าช่วงทุกเวลาต่อจากนี้ย่อมดีเช่นกัน เช่นนั้นแล้วฮอตเทสย่อมคือความภาคภูมิใจยิ่ง ฮอตก็หลงตัวเองพอๆกับศิลปินล่ะ ถ่อมตัวสะกดไงหาในพจนานุกรมฉบับบ่ายสองไม่เจอ หากแต่เมื่อคุณตามมาด้วยถ้อยคำที่ว่า "ไทยฮอตเทสคือความภาคภูมิใจส่วนตัวของผม" ความลิงโลดยินดีในใจก็ดูจะข่มมันไว้ไม่อยู่อีกแล้ว เป็นถ้อยคำที่เอาเรื่องถึงตายยิ่ง นิชคุณ หรเวชกุลที่เห็นผ่านจอกับนิชคุณ หรเวชกุลที่เรามาเจอกับตัวให้ความรู้สึกหนึ่งที่ต่างกันอย่างเห็นได้ชัด ตัวจริงของผู้ชายคนนี้ส่องประกายบางอย่างที่เลนส์กล้องไม่อาจถ่ายทอดออกมาได้ เราไม่ได้พูดถึงรูปโฉมโนมพรรณ ก็น้องเล่นเกิดมาหน้าตาดีเลิศโดยธรรมชาติอยู่แล้ว OTL บรรยากาศคลุมโอบผู้ชายคนนี้เอาไว้คือบรรยากาศของความอบอุ่น เป็นความอบอุ่นที่ชวนวางใจให้เข้าใกล้โดยไม่ต้องสงสัยถึงเบื้องหลังของรอยยิ้มที่มี นิชคุณให้ความรู้สึกแบบนี้ทุกครั้งที่เราได้เจอทั้งๆที่ไม่ต้องพูดคุยกันด้วยซ้ำ เราถึงไม่แปลกใจเวลาได้อ่านเจอคำชมมากมายจากคนที่มีโอกาสได้ร่วมงานกับคุณ ออร่าแบบนี้ใช่ทุกคนจะมี ผ่านการทำงานมานานนับสิบปีทำเราถึงกับสะทกสะท้อนใจเหลือจะเอ่ยกับพวกคนดีคนเก่งแต่ชวนอึดอัดไม่น่าแม้เข้าใกล้พัดพาตัวเองให้ตกอยู่ในสภาพเต็มกลืน เมื่อคุณชี้ไม้ชี้มือ ส่งเสียงถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน "ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเราจะปกป้องกันใช่ไหมครับ" ลองใคร่ครวญดูแล้ว หันมามองร่างแก่ๆของตัวเองดูก็แล้ว ไม่รู้ว่าจะปกป้องผู้ชายตัวเป็นยักษ์ปักหลั่นทั้งหกได้ยังไงไหว เราสงสัยเมื่อทอดตามองไปยังสุดปลายสายทางที่เรามองไม่เห็นนั้น ความเป็นฮอตเทสของเราก็ยังยืนรออยู่อย่างผูกพันรักใคร่ ถ้านั่นคือการปกป้องซึ่งกันและกันแล้ว...นั่นก็คือคำตอบที่เราให้กับคำถามนี้ของคุณ คุณกล่าวยิ้มๆเอ่ยถ้อยคำยืนยันความสัมพันธ์ 'ผูกสมัครรักใคร่กัน' ของพวกเขาหกคน "ผมอยากจะบอกให้ฟังถึงความในใจของเพื่อนผมทั้งห้าคน พวกเขาไม่เคยรักประิเทศใดประเทศอื่นเท่าประเทศไทย" หากวูบหนึ่งพลันนึกถึงความไม่ชอบมาพากลในถ้อยคำนั้นได้ทันจึงรีบแก้ก่อนเกินการณ์ "นอกจากประเทศบ้านเกิดนะครับ" โดยมีแทคผู้ราวถือกำเนิดเป็นหนุ่มไทยคนที่สองคลี่ยิ้มอยู่รำไรร้องรับเป็นลูกคู่ "ช่าย ช่ายย ช่ายยย" สามจังหวะโปรโมทความผูกสมัครรักใคร่กันของพวกเขาหกคน เพื่อนคู่นี้เห็นการหนึ่งชง การหนึ่งตบเป็นความสุนทรีย์เทียมฟ้าประเภทหนึ่งไปแล้ว สำราญกับการนี้ไม่มีหน่ายแหนงเอามันทุกอีเว้นต์ พูดใช่เป็นช่ายได้ขนาดนี้ สายตาที่มองคุณฉ่ำเยิ้มจนคั้นน้ำได้ขนาดนี้ ยอมเชื่อก็ได้ว่าเมืองไทยเป็นบ้านหลังที่สองน่ะ คุณสูดหายใจลึกอีกที มุมปากกระตุกอย่างไม่กระโตกกระตากอีกสองทีก็เห็นว่าไหนๆก็กล่าวถึงการผูกสมัครรักใคร่กันมาซะขนาดนี้แล้ว จะหันมาถือสาหาความเพื่อนต่อหน้าสาธารณะชนก็จะดูขัดกับที่กล่าวมายิ่ง จึงเก็บใจที่อยากดึงแมวเกเรมาเหยียบและย่ำบดขยี้ซ้ำำแล้วซ้ำอีกลงกระเป๋าไปก่อนเสีย ปล่อยเสียงนุ่มนวลกลบสำเนียงคำรามในใจขยายเพื่อย้ำสลักให้ลงลึก "เขาบอกทุกๆครั้งว่าเมืองไทยเป็นเสมือนกับบ้านหลังที่สองของเขา" เหมียวแก....คุณเขากำลังจริงจัง ...สนุกกับภาษาไทยซะขนาดนี้ in public ยิ่งไม่ไกลเกินแรงรักแล้วนะ สู้ต่อไปอ๊คแทคยอน! ช่วงหนึ่งเวลาเราบีบข้อมือแน่น ซุกเก็บหัวใจเต้นกระหน่ำดั่งรัวกลอง ส่งสายตาจนแทบจะเป็นตะคริว ผิวขาวบางจนเห็นเอ็นสีเขียวที่หน้าผากเต้นสองสามกระตุก จุ๊ จุ๊ จุ๊ น่าดูจริงแท้ แ พอเห็นว่าเป็นชื่อแทคยอน ด้งน้อยเราวางพาดแหมะตรงราวเหล็กแล้วหันหลังจากไปทันที แค้นนี้ชวนถือสายิ่ง ที่จำยิ่งกว่าชัดคือตอนคิมมินจุนม้วนผ้าขนหนูขาวๆขัดถูท้ายทอยแทคอย่างเอาเป็นเอาตายสี่ห้ารอบ เราตกตะลึง ความจริงแล้วที่ตกตะลึงก็มีสาเหตุอยู่บ้าง คิดคำนวณตามหลักเหตุผลแล้วการขัดถูอย่างเอาเป็นเอาตายนั้น จังหวะตามมามันควรเป็นการทำตามสัญญาโยนผ้าคืนความสุขประเทศไทย แต่การณ์กลับจบลงตรงที่คุณคิมมินจุนยกเอาผ้ามาดมพิสูจน์กลิ่นเอาเป็นเอาตายห้าหกรอบ ด้วยเหตุนี้เราจึงได้ตกตะลึงอย่างที่เห็นและเป็นอยู่ เอาที่พี่สองคนสบายใจจ๊ะ ก่อนเริ่มเซ็ทเพลงช่วงสุดท้าย ตรงหลุมไฮโดรลิคที่แม้แสงจะไม่ยินดีส่องคงความมืดทะมึน เราก็ยังอุตส่าห์เห็นกำปั้นเล็กแสนเล็กคู่หนึ่งโผล่ออกมาทักทายโดยไร้ที่มาที่ไป คนที่ชอบทำอะำไรกุ๊กกิ๊กผิดภาพลักษณ์จะมีใคร มือคู่นั้นคือมือของอ๊คแทคยอนถือเป็นความบังเกิดรู้โดยไม่ต้องมีความสงสัย หากแต่กำปั้นอีกคู่ที่ตามมาโผล่ทักทา่ยนี่สิกลับชวนให้คลางแคลง ช่างเป็นภาพน่ามหัศจรรย์ชวนกลัดกลุ้มโดยแท้ แต่เมื่อผู้ชายคู่หนึ่งที่ซ่อนตัวอยู่ค่อยโผล่หน้าขึ้นมาพร้อมรอยยิ้มละไมหยอกล้อก็ถึงความเข้าใจกระจ่าง การหนึ่งชง การหนึ่งตบคือความสุนทรีย์เทียมฟ้าของคนทั้งคู่โดยไม่ต้องสงสัยสินะ เรานับถือยิ่งนัก เวลาสามชั่วโมงก็แค่หนึ่งกระพริบตา หนึ่งกระพริบตาคือหกความคิดถึง ผู้ชายหกคนส่งผลกระทบต่อเวลาบนโลกใบนี้ของเรามาตลอดหกปี ทุกครั้งที่แหงนมองฟ้ากว้าง กวาดสายตามองก็มอง 'ท้องฟ้าสดใส' ต่างไปจากเดิม ยามคีบถั่วงอกในชามก๊วยเตี๋ยว เสียงในใจก็กรีดร้องเสียดแทงดังประหนึ่งกำลังฆาตกรรมตัวเอง ถ้านี่ไม่เรียกว่าสวรรค์จัดวางชะตาความผูกพันใส่ศีรษะ จะเรียกอะไร~♥ |