เมื่อถึงวัน...เด็กผู้ชายหัวดื้อเติบโต
วันที่ 7 ตุลาคม 2555 ทวีตหนึ่งของคิมจุนซูก็เด้งขึ้นมา "ฟ้ากระจ่างฟ้า เราต่างยิ่งไกลห่าง" the sky is blue and we are growing ...หนุ่มโรแมนติกของพวกเราแปลงเนื้อจากเพลงร้องเล่นของเด็กทวีตไว้... แล้วอีกไม่นาน วันที่ 14 ตุลาคม 2555 ทวีตครั้งนี้ของผู้ชายคนนี้ก็ทำให้เราอดยิ้มขำเมื่อแรกอ่านไม่ได้ ผมมันเป็นไอ้เด็กหัวดื้อมาตั้งแต่ยังเล็ก ผมก็ได้แต่เฝ้าค้นหาคำตอบว่าต้องทำตัวอย่างไร เป็นคนแบบไหนถึงจะดีกันแน่ แต่ทว่า...ตัวผมเองกลับรู้คำตอบนั้นดีอยู่แก่ใจแล้วว่า 'ก็แค่เป็นตัวของตัวเอง' กับทุกเรื่องไม่ว่าจะสวยงามหรือเลวร้ายแค่ไหนก็ตามล้วนแต่คือประสบการณ์ที่งดงาม ...ตัวผมในรูปนี้ช่างเล็กเหลือเกินว่างั้นไหมครับ
จากนั้นอีกสองวัน วันที่ 16 ตุลาคม 2555 หนุ่มน้อยหัวดื้อก็ทวีตบอกผู้คนที่รักเขา ถึง... การตัดสินใจครั้งใหญ่ครั้งหนึ่งในชีิวิตของเขา "ด้วยเหตุผลบางประการของทางครอบครัว ผมตัดสินใจเปลี่ยนชื่อครับ" "ชื่อที่ใช้ในวงการก็ยังคือ Jun. K อยู่เช่นเดิม หากแต่ชื่อจริงได้เปลี่ยนเป็น 'มินจุน' ส่วนชื่อจุนซูจะไม่ถูกนำมาใช้อีกต่อไปแล้วครับ" เราลองย้อนทบทวนทวีตติดๆกันช่วงเวลาสิบวันของหนุ่มคนนี้ เหมือนจะเห็นความเชื่อมโยงบางอย่าง...คิดงั้นไหม แม้เราจะชอบแกล้งชอบล้อว่าจุนเคเป็นปู่แก่ๆ สังขารเสื่อมๆ ขี้โวยวาย เอาแต่ใจ จอมขี้โกง [เฮ้ยยยยยยยยยยยย!!!!!!!!!!!!!] มาโดยตลอดก็เถอะนะ แต่จริงๆแล้วในสายตาเรา เรามองเห็นความไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆในตัวของจุนเคผ่านเหตุการณ์อะไรต่อมิอะไรอยู่เสมอ ...ดูจากการตามตอแยเพื่อนในวงดูก็พอรู้... เพราะงั้นพอเจ้าตัวทวีตเชิงออกตัวก่อนว่าตัวเองเป็นจอมหัวดื้อมาตั้งแต่เด็กแบบนั้น มันยิ่งทำให้เรามองเห็นภาพเด็กผู้ชายตัวเล็กๆทำหน้าดื้อๆ แน่วแน่ไม่ฟังใครแถมไม่ยอมแพ้ง่ายๆ ยืนกรานต่อความคิดของตัวเองแม้จะมองไม่เห็นทางที่ราบเรียบถ้่าจะเดินต่อไป เด็กคนที่จะไม่ยอมก้มหัวให้ใครถ้าเป็นเรื่องที่เขาตัดสินใจไปเรียบร้อยแล้ว แต่ทว่า... ก็ด้วยความเป็นเด็กน้อยขี้กลัวคงยังแฝงอยู่ในตัวเล็กๆไม่หนีหายไปไหนแบบนั้น ก็ทำให้เขายังอดหวั่นเกรงกับเส้นทางเดินที่ตัวเองมุ่งมั่นจะไปทั้งที่ยังมองไม่เห็นปลายทางข้างหน้าไม่ได้ และหากตอนยังเด็กเขาเป็นเด็กหัวดื้อไม่ยอมฟังใคร...เลยแบบนั้นล่ะก็นะ เขาจะเติบโตเป็นชายหนุ่มหัวอ่อนยอมเชื่อใครง่ายๆ...ได้งั้นเหรอ?! ในเมื่อวันเวลายิ่งเดินยิ่งห่างจากจุดเริ่มต้น จนถึงวันต้องเติบใหญ่ที่ไม่ใช่แค่อายุที่วิ่งรันตัวเลขขึ้นทุกปีแบบนั้น มีไม่กี่เหตุการณ์หรอกที่จะทำให้คนเราเป็นผู้ใหญ่(ทางความคิด)ขึ้นมาในแค่ชั่วข้ามคืน ความสูญเสียก็เป็นหนึ่งในนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสูญเสียคนที่เรารักและรักเรามากที่สุดในชีวิตคนหนึ่งไป จุนเคของพวกเราก็ผ่านการสูญเสียนั้นมา ผู้ชายที่จู่ๆก็กลายมาเป็นผู้นำครอบครัว นั่งลงตัดสินใจร่วมกันกับครอบครัว ฟังคำ รับความคิด ไตร่ตรองความเห็น และ ตัดสินใจ ในเรื่องส่วนตัวของตัวเอง เราไม่คิดว่าการเปลี่ยนชื่อครั้งนี้จะเป็นแค่เหตุผลเพื่อตัวของจุนเคเพียงคนเดียว ถ้าเป็นแค่เรื่องของตัวเอง บางทีเรื่องเปลี่ยนชื่อนี้อาจไม่เกิดขึ้น และคงไม่มีทวีตคอมโบแบบนี้ให้เรานั่งอ่าน(และนั่งติดใจสงสัยมาตลอดแบบนี้) ด้วยเหตุผลของครอบครัว ฟังดูง่ายๆแต่มันครอบคลุมให้เห็นตัวตนอะไรหลายอย่างของผู้ชายคนนี้ (แอบเห็นความเป็นเด็กหัวดื้อจอมกบฏนิดๆแฝงอยู่ไม่น้อย ) โดยเฉพาะอย่างยิ่งมันทำให้เราเห็นความเป็นผู้ใหญ่ที่เติบโตขึ้นมาก ผู้ชายที่ในที่สุดก็ยอมรับฟังและยอมเข้าใจ และอาจ...ยอมอ่อนข้อ เพื่อ ครอบครัว โดยไม่คำนึงถึงแต่ตัวเอง ไม่มองเห็นแต่ตัวเอง อย่างที่เขาบอกไว้ไงว่า เขาน่ะเป็นเด็กหัวดื้อ...ถึงตอนนี้ก็ยังมองออกถึงความดื้อ แต่เป็นคนหัวดื้อพร้อมที่จะรับฟังและทำตามความเห็นจากทั้งครอบครัว นั่นก็เพราะ เขามองเห็นตัวเองเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีความรับผิดชอบในมือ ผู้ชายที่บ่ากว้างๆสองข้างแบกรับภาระของครอบครัวตัวเองเอาไว้อย่างเต็มใจ ฟ้ายิ่งฟ้า คนเราก็ยิ่งเติบโต หลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆ...สินะ ...แต่ยังมองเห็น 'ความเป็นเด็กหัวดื้อ' ในแววตาอยู่นะจุนเค... จริงๆแล้วเราถามตัวเองก่อนหน้านี้อยู่หลายครั้งว่าจะเขียนบล็อกวันเกิด 15 มกราคม ของหนุ่มแพนด้า ในปี 2556 แบบไหนดี มันยากที่จะเขียนแบบไม่ระวัง เราต้องไตร่ตรองอะไรอยู่หลายรอบ คิดทบทวนอยู่อีกหลายครั้ง ลองมองย้อนกลับไปในปีที่ถือว่าทั้งดีและร้ายปะปนกันไปแบบนี้ แล้วภาพภาพหนึ่งก็เด้งขึ้นมา ภาพเบื้องหลังรายการที่เราได้มาเห็นหลังจากใจระกำ เอ๊ย ระส่ำไปเพราะปู่เกิดจะไปเล่นจ๊ะจ๋ากับสาว รายการโรแมนติกไอดอลที่จับเอาบรรดาไอดอลมาเดทกันบนเกาะซึ่งบรรยากาศแสนจะเป็นใจ เราไม่เคยคิดจริงๆว่าไอ้รายการทำนองแบบนี้จะมาถึงคิวจุนเค ลองกวาดตามองไปอีก5หนุ่มแล้ว ปู่ก็น่าจะเป็นคิวหลังสุดที่ทางสตาฟจะเรียกตัวนี่นา (หรือพยายามสะกดจิตตัวเองให้เชื่อแบบนั้นฟะ!) อุตส่าห์วางใจมาเนิ่นนาน แต่ก็นะ...ถ้าจุนเคไม่ได้ไปร่วมรายการเดทไอดอลล่ะก็... เราคงไม่มีโอกาสได้เห็นภาพอบอุ่นหัวใจแบบนี้กับตา จุนเคคนที่เดินเข้าไปเสนอตัวช่วยเหลือด้วยท่าทีสุภาพโดยไม่มีการร้องขอแบบนี้ นักเรียนของคุณครูที่นั่งรถเข็นอยู่ในภาพอัพบอกเรื่องราวครั้งนี้ไว้ในบล็อกว่า คุณครูของพวกเขานั่งรถเข็นทำให้การขึ้นเขาเป็นไปด้วยความยากลำบาก ตอนนั้นก็ไม่รู้ว่าคนกลุ่มที่ตามมานั้นเป็นใคร แต่มารู้ทีหลังว่าพวกเขาเป็นเหล่าไอดอล เจ้าของบล็อกรู้สึกผิดมากจึงเขียนไว้อย่างน่ารักไว้อีกว่า หวังว่าจะไม่ทำให้พี่เหล่าไอดอลต้องเสียใจที่พวกเราไม่รู้ว่าพวกเขาเป็นใครในตอนนั้น และต้องขอบคุณสำหรับน้ำใจที่พวกเขามีให้แก่คุณครูของพวกเราแบบนี้จริงๆ [จำไม่ได้แล้วว่าอ่านมาจากไหน แต่จำเนื้อหาได้ประมาณนี้...เรียกว่าจำได้ติดใจเลยดีกว่านะ] เราที่มาเห็นภาพพวกนี้ก่อนแล้วก่อนถึงได้อ่านแฟนแอคเค้าท์(หรือเปล่า)ตามมา อ่านแล้วก็ใจก็อดอุ่นขึ้นไม่ได้ ยิ่งถ้าเห็นภาพก่อนวินาทีที่จุนเคของพวกเราจะเดินฉีกตัวเข้าไปช่วยยกรถเข็นนี้ ก็จะยิ่งรักหัวใจปู่ของพวกเรา ความลำบากของการพยายามใช้แรงยกรถเข็นนั่นดูยากไม่น้อย จุนเคที่เฝ้ามองอยู่นั่นก็...เห็น ในระยะห่างก่อนที่จะเดินตัดมาถึงคุณครูนั้น... เป็นภาพที่ขยำหัวใจแข็งๆให้กลับนุ่มนิ่มขึ้นมาได้ ไม่ใช่ภาพที่ถูกจับไว้เพื่อออกอากาศ ไม่ใช่ภาพจากสคริปต์ที่เขียนไว้อย่างดี ไมใช่มาจากการกระทำในฐานะหนึ่งในไอดอลสัตวป่า 2pm แต่เป็นภาพที่เกิดจากตัวตนของผู้ชายคนหนึ่ง ผู้ชายที่มีความเป็นสุภาพบุรุษเต็มหัวใจ ผู้ชายคนที่พร้อมจะเข้าดูแลและช่วยเหลือคนอื่นโดยไม่ต้องร้องขอ ทำให้หัวใจเราอุ่นขึ้นมาอีกครั้ง ไม่เคยคิดว่าดูผิดและไม่ได้ดูผิดเลยสินะเรา ผู้ชายคนนี้เป็นผู้ชายในแบบที่ลอยอวลจางๆในความรู้สึกของเราตลอดมา ผู้ชายคนที่บอกไว้ว่าผู้ชายนั้นนอกจากจะต้อง 'เท่' สุดใจขาดดิ้นแล้ว ยังต้อง มีความจริงใจให้กับทุกคน เขาก็ทำให้เราได้เห็นว่าเป็นผู้ชายแบบที่ตัวเองให้นิยามเอาไว้จริงๆด้วยสินะ อืม.....เหมือนจะเขียนอวยแต่ภาพสวยๆ แต่จริงๆแล้วเท่าที่ตามมาก็พอรู้หรอกว่าผู้ชายคนนี้ไม่ใช่หนุ่มเลิศเลอเพอร์เฟคแสนดี๊ดี [ไม่มีที่ติ] แต่ออกจะแสนเชี่ยวชาญชำนาญผลบวกในมุมทะเล้นบวกทะลึ่งร้ายอยู่ในตัวไม่น้อย โดยเฉพาะเวลาได้เล่นรวมกลุ่มกับบรรดาแบดบอยเพื่อนฝูงมากมายดั่งไก่กาของเขาแบบนั้น มีอยู่ครั้งที่เรานั่งหัวเราะคิกคักด้วยเพราะความเป็นคนคิดลึก เหตุก็เกิดจากไปเผือกเงียบๆแฝงตัวเป็นมดแดงแอบอ่านเพื่อนฝูงเขาแหย่กัน เรื่องมันเริ่มเพราะจุนเคกับพี่ @kenpride เขาทวีตคุยกันกระจุ๊กกระจิ๊ก แล้วคุณ @richkwonjin ก็เลยมาเรียกร้องความสนใจว่า "พวกนายรีบๆมากันเลย!!! ทำฉันอิจฉาอยู่ได้" พ่อหนุ่มดวงถึงฆาตมาเดินเข้าบ่วงด้วยตัวเองให้คุณจุนเคเชือดนิ่มๆแท้ๆ...ให้ตายเถอะ อิตาจุนเคตัวแสบได้ที...พี่แกนั่งออเดรย์ไล่(ฮะ ฮะ ฮะ) "อิจฉาอาราย ฉันต่่างหากที่ต้องเป็นฝ่ายอิจฉา...ผู้ชายที่สามารถเข้า-ออกห้องน้ำเป็น60รอบแบบนาย ช่างเป็นชายเหนือชายอย่างไม่ต้องสงสัย" ไอ้ปู่ตัวแสบบบบบบบบบบบบบบบ คุณนักแสดง @richkwonjin อ่านแล้วสะดุ้ง แก้ัตัวปากคอสั่น "ฉันแค่ซัดอเมริกาโน่ไปแยะต่างหากเล่าไอ้น้อง...โทรมาดิ๊!! เอาเข้าไปยิ่งแก้ยิ่งพันหลัก คุณจุนเคเลยขอตวัดเชือกรัดเอาให้ตายคามือหมดทางรอดแน่ด้วย [ชนิดคงนั่งหัวเราะสไตล์หนุ่มแดกูลั่นอยู่หน้าทวิต] "คิดไปถึงไหนเนี่ย ไอ้ฉันก็พูดเรื่องเข้าห้องน้ำอยู่ไง๊ LOL" โอยยยยยยยยยยยยย นี่ล่ะ...หนึ่งในตัวตนของชายหนุ่มราคาแพงที่พร่ำเพ้อถึงฤดูกาลที่หลงรักไว้ว่า แสงแดดจ้าสว่างตาของแคลิฟอร์เนีย ปรอยสายฝนพร่างพราวท่ามกลางใบไม้ร่วงโปรยปราย เกล็ดหิมะปุกปุยร่วงหล่นไร้ซึ่งสายลมพัดพา พ่อหนุ่มแดกูหลากสไตล์ TRUE SWAG ของพวกเราคนนี้ไงล่ะ รับรักจากผม แล้วเจอกันนะคร้าบบบบบบ ♥ AINT NOBODY FRESHER THAN MY TRUE SWAG ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ กอบโกยความสุขใส่ตัวและมอบให้คนรอบข้างนะจ๊ะพ่อหนุ่มแพนด้าวัย...เท่าไรแล้วหวา?! ...แล้วมาคุยกันอีกทีปีหน้า...
Create Date : 15 มกราคม 2556 |
Last Update : 15 มกราคม 2556 12:59:46 น. |
|
8 comments
|
Counter : 4740 Pageviews. |
|
|
แล้วก็ได้อ่านจริงๆ อิอิ
ขอบคุณมากๆค่ะ
รู้สึกดีทุกครั้งที่ได้อ่าน จริงๆนะ
เวลาที่ว่างๆ เราก็ชอบเปิดไปอ่านบล็อกที่เคยอ่านไปแล้วหลายรอบ แล้วนั่งยิ้มอยู่คนเดียว
ข่าวที่เกาะนี่ เคยเห็นนานแล้ว แต่พอมาดูรายการจริงๆ มัวแต่ลุ้น เลยลืมไปเลย
คิมมินจุน(ของเรา) น่ารักจริงๆแหละเนอะ
พวกเราถึงได้รักไง ^^