Group Blog
 
<<
มกราคม 2555
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
12 มกราคม 2555
 
All Blogs
 
เรื่องของลุงผักกับเด็กผู้ชายหกคน

















เคยได้ดูคลิปส่วนหนึ่งรายการ win win ตอนลุงผักมาเป็นแขกรับเชิญ
แต่ไม่เคยได้ดูเต็มๆรายการเลย
แถมไม่คิดขวนขวายหามาดู เพราะคิดว่าคงไม่มีอะไร เท่าที่ได้อ่านมาก็ดูจะพอแล้ว
[พูดง่ายๆคือขี้เกียจนั่นเอง แถมก็...ลุงผักบ่ใช่เด็กบ่ายสองนี่หว่า....เอิ้กกกกก]


แต่ตอนช่วงปีใหม่ไปเจอโดยบังเอิญ แถมช่วงนั้นก็ว่างๆเลยเปิดดูสักนิด กะแค่ฆ่าเวลาไปงั้น
แต่มันกลับไม่ใช่อย่างนั้นเลย
เรานั่งใช้เวลาราวๆชั่วโมงไปอย่างคุ้มค่าที่สุด เพลินจนลืมเวลาด้วยซ้ำไป


ดูจบบอกกับตัวเองว่า "โห~ลุงแกน่ารักชะมัด แล้วทำไมซื่อแบบนี้ฟะ"
ครือแกโดนถามอะไรก็สารภาพหมด แถมหน้าตาเฉยไม่รักษามาดอีกต่างหาก
...ทำเอานึกไปถึงเด็กๆทุกคนในสังกัดJYPที่เราพอรู้จัก
เด็กพวกนั้นก็พอๆกับท่านประธานนี่ล่ะ ลูกไม้หล่นแหมะอยู่ตรงโคนต้น


จำได้ว่าก่อนหน้านี้เราเคยได้ดูสัมภาษณ์ลุงแกถึงการคัดเลือกเด็กในรายการk-starหรืออะไรประมาณนี้ล่ะ
ลุงแกบอกว่าแกจะเลือกเด็กที่รู้สึกว่าเข้ากันได้มากกว่าความสามารถ

มันทำให้เราคิดว่าแกคงเลือกคนที่แกอยู่ด้วย ทำงานด้วยอย่างสบายใจมากกว่าจะมองข้ามไปถึงผลกำไรล่วงหน้า
จริงอยู่การเลือกคนที่ความสามารถมันการันตีอะไรหลายๆอย่างได้ คืออย่างน้อยก็ไม่น่าจะเสียเวลากับเหตุการณ์การ[ขุน]ไม่ขึ้นอะไรแบบนั้น
แต่สิ่งหนึ่งที่มันไม่อาจการันตีได้นั่นก็คือคือความพอใจในการทำงานร่วมกัน เพราะทุกอย่างคงขึ้นอยู่กับธุรกิจไปเสียหมด ชนิดต่อให้แทบไม่อยากมองหน้ากันแต่ต้องฝืนทำงานร่วมกันแบบนั้นน่ะ


ดังนั้นเมื่อลุงแกเลือกที่ตัวตน สิ่งหนึ่งที่การันตีได้เลยคือตัวแกจะทำงานอย่างมีความสุขแน่นอน
ทำงานอย่างพอใจกับคนที่พอดีกับตัวเอง


ศิลปินตัวจริงเสียงจริงเลยลุงเนี่ย


เพราะอย่างนี้ เราอยากพูดแทนhottest อาจไม่ทุกคน แต่กับที่เราพอได้รู้จัก
สิ่งหนึ่งที่ทำให้พวกเราต่างหลงรักไอ้เด็กตัวแสบพวกนี้ก็เพราะตัวตนของพวกมันที่เราค่อยๆได้รู้จักเพิ่มทีละนิด
ไม่ใช่เทวดา ไม่ใช่แบดบอย แต่เป็นแค่เด็กหนุ่มธรรมดาที่เต็มไปด้วยความฝัน และพยายามสุดพลังเพื่อก้าวไปทำความฝันให้เป็นจริง
มีความตรงไปตรงมาต่อความรู้สึกตัวเองเสมอ และพร้อมแสดงให้เห็นโดยไม่ปิดบังหรือเสแสร้งเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่ตัวเอง

เราเองก็รู้สึกว่าที่เราก้าวมาชอบเด็กทั้งหกคนได้มากขึ้นทุกวันก็เพราะรู้สึกเข้ากันได้กับตัวตนที่เรารู้จักนี่เองล่ะ















ย้อนกลับมาที่รายการwin winที่ทำให้เราอยากหยิบบางส่วนมาเล่าต่อละกัน

ลุงแกบอกว่าในบรรดาวงที่แกดูแลอยู่นั้น 2pmเป็นวงที่เชื่อฟังที่สุด
...ซึ่งไอ้เด็กวงที่เชื่อฟังที่สุดของลุง ทำกับลุงแบบนี้ไง


ปฏิเสธแล้วปฏิเสธอีกกับเพลงที่ลุงเสนอมา



ก็อย่างที่พวกเรารู้กันเรื่องลุงแกรู้สึกถูกหยามอย่างแรงในฐานะนักแต่งเพลงผู้มีเพลงฮิตมาตลอดชีวิตการทำงาน
ลุงแกสารภาพว่าเครียดมากกับเพลงที่โดนปฏิเสธถึง 17 เพลง แกถึงกับกุมขมับหน้ามุ่ยตอนหลุดปากออกมาแถมพูดอย่างห่อเหี่ยวว่า

"7เพลงก่อนหน้านั้น แล้วก็อีก 10 เพลงตอนอัลบั้ม ill be back" ลุงผักถึงกับสลดตอนพูดว่า "ผมถึงกับขาดความมั่นใจไปเลย ไม่รู้จะทำไงดี"

ลุงแกเผยหมดเปลือกต่ออีกว่า "ก่อนหน้านี้ผมก็โดน 2am ปฏิเสธไปแล้วแท้ๆ สองอัลบั้มหลังสุดของเจ้าพวกนี้ก็ไม่มีเพลงผมสักเพลง" เสียงลุงผักเหี่ยวลงเป็นผักสลด "ผมก็เลยคิดเองเออเองว่า 2pmคงไม่ชอบเพลงของผมมั๊ง! งั้นผมก็ควรทำแต่เพลงให้ตัวเองดีกว่า"




พอโดนถามว่าใครเป็นคนปฏิเศษงานคุณพักจินยองล่ะคร้าบ


ลุงแกก็สะบัดค้อนเสียงสูงปิ๊ด "ผมก็ไม่รู้~~~~~~~~ แต่ก็มักเป็นเจ้าแทคล่ะที่เป็นคนออกหน้ามาปฏิเศษผมตลอด"
แล้วก็หลุดความคับข้องในใจออกมาว่า "เจ้าแทคน่ะน่าจะแค่พูดออกมาว่ามันใช้ไม่ได้นะแค่นั้นก็พอแล้ววว แต่นี่เจ้านี่กลับเอาแต่พูดว่า 'มันก็ใช้ได้นะครับพี่ แต่ว่า....' "
แล้วลุงแกคอตก กุมขมับด้วยความปวดกะบาลเมื่อนึกย้อนไป



"ผมรู้ทันทีเลยว่ามันต้องมีอะไรตามหลังไอ้ 'แต่' นั่นแน่นอน"
แล้วลุงผักก็เล่าถึงตอนอิเหมียวมันพูดด้วยความเกรงใจอย่างสุดซึ้ง

"มันก็ใช้ได้ แต่มันดีไม่พอจะเป็นเพลงไตเติ้ลน่ะครับ"





ลุงผักถึงกับคอตกอีกรอบ ถอนหายใจกัดฟันตอบลูกน้องในสังกัดกลับไปเสียงอ่อย
"อ่า~!งั้นก็ได้ "









ความสัมพันธ์ในบริษัทนี้ ตำแหน่งหาสำคัญไม่
มันขึ้นอยู่กับเหตุผลว่าใครจะใหญ่กว่าตะหากกกกกก





แล้วจากนั้นลุงแกก็ถือโอกาสฟ้องไอ้พวกเด็กตัวแสบผ่านหน้ากล้อง
"ไม่เคยมีใครกล้าปฎิเศษเพลงผมแบบนี้มาก่อนเลยนะครับ" แถมยังเผลอตัดพ้อไปถึงไอ้เด็กตัวแสบทั้งหกไว้ว่า "หลังจากเอาแต่ปฏิเศษไปแล้วตั้ง 5 เพลงแล้วพวกแกควรจะเห็นใจกันบ้างสิ(วะ) อย่างน้อยๆก็ควรจะเลือกเอาสักเพลงก็ยังดี"

แล้วจากนั้นลุงแกก็เริ่มมือไม้สั่นแสดงถึงบาดแผลที่คุณอ๊คแทคยอนทิ้งไว้
"ผมถึงกับประหม่าสุดๆเวลาเห็นสายเรียกจากแทคยอนขึ้นมา"

ลุงถึงได้ไม่ยอมรับสายจากอิเหมียวไปตั้งสองอาทิตย์เลยสินะ
เหมียวแก....









JYPEnt. นั้นลุงแกคิดจะส่งต่อให้โจควอนกับเยอึนดูแลด้วยสาเหตุแค่ว่าทั้งสองคนให้ความสนใจต่อบริษัทมากที่สุด
โดยเยอึนจะโฟกัสเรื่องใหญ่ๆ
แต่ควอนจะชอบมองอะไรยิบๆย่อยๆ รายละเอียดเล็กๆน้อยๆอย่างสวัสดิการของลูกจ้างอะไรอย่างงี้หรือตารางการทำงานของเพื่อนๆวงอื่นอย่างงั้น(ควอนเอ๊ยควอน)
ท่านประธารผู้น่าสงสารเจอความแสบของลูกน้องเข้าเต็มเปาอีกรอบ
"พวกเขาพากันพูดไปถึงว่าจะเปลี่ยนชื่อบริษัทจากเจวายพีเป็น โจควอนเยอึนและเพื่อน JoKwon and Yeeun Partners"



ไอ้เด็กพวกนี้แสบจริงๆ
แต่ลุงก็เล่นมุกใช่ย่อยนะ...เจ๋งอ่ะ





และกับคำถามนี้ที่ว่าลุงผักแกชอบใครมากกว่าระหว่างกาอินกับวิคตอเรีย
คำตอบคือ.......กาอิน
และก็ใครที่แกกลัวที่สุด
คำตอบคือ.......แฟนๆ

....ก็ไม่กลัวเท่าไรแล้วนี่นา ยอมออกโรงมาจัดการแฟนโรคจิตจนได้เนอะลุงเนอะ
เค้ายุให้ทำเป็นคดีตัวอย่างไปเลย




และลุงผักแกบอกว่าวงที่แกอยากเข้าไปเป็นสมาชิกที่สุดก็คือ 2pm





จากบทสัมภาษณ์ถึงเรื่องที่ลุงแกเคยพูดไว้เมื่อ 10 ปีก่อนว่าสำหรับแกแล้ว sex is a game
และคำพูดนั้นทำให้แกโดนวิจารณ์มากมายเพราะสังคมตอนนั้นยังคงอนุรักษ์นิยมอยู่
ลุงแกอธิบายเพิ่มว่าสำหรับแกแล้วเซ็กส์น่ะเป็นเรื่องสนุกและควรเป็นเรื่องระหว่างคนสองคนที่รักกัน มันคือการหลอมรวมของความต้องการ ความสบายใจและทุกสิ่งทุกอย่างเข้าด้วยกัน
ลุงว่าคุณจะไม่รู้สึกสนุกไปกับมันถ้าคุณทำให้มันกลายเป็นเรื่องซีเรียสจนเกินไป
"ผมแค่อยากจะบอกว่าคุณไม่ควรทำมันเป็นเรื่องใหญ่โต ไม่ใช่จะบอกว่าให้ออกไปมั่วสักหน่อย"


เอิ้กกกกกกกก
ถึงว่าแต่ละเพลงของลุงแก เรต 20+ตลอดตลอด

แกยังว่าแกไม่สามารถรักผู้หญิงทีละหลายๆคนพร้อมกันได้ และความรักต้องมาก่อนการแต่งงาน สังคมเกาหลีมักจะแต่งงานก่อนโดยไม่มีความรักต่อกัน มีเพียงแค่ไม่กี่คู่ที่แต่งงานด้วยความรัก



[เค้าเพิ่งรู้นะเนี่ย....สมัยนี้คงไม่ใช่แล้วล่ะมั๊ง]



จากนั้นก็มีเรื่องรักของลุงแก อยากให้ลองไปหาดูกันเนอะ
ดูแล้วจะบอกว่าลุงแกเจ๋งอ่ะ แกเป็นไอด้อลคนแรกของเกาหลีเลยที่กล้าประกาศเรื่องมีแฟน
พอประกาศไปแล้วก็เจ๊งกะบ๊งกันเลยทีเดียว แฟนเพลงแทบหายเกลี้ยง อัลบั้มขายไม่ออก








แล้วก็มาเรื่องความมั่นใจในรูปร่างหน้าตาสุดลิ่มทิ่มประตูของลุงผัก
ขอบอกว่าก่อนหน้านี้ประเด็นนี้เราก็เคยได้ยินคนแซวๆมาก่อน สารภาพว่าเราเองฟังแล้วก็อดขำตามไม่ได้ แถมยังนึกล้อแกนิดๆในใจเสมอ

แต่พอมาได้ฟังความคิดของลุงแกเต็มๆในครั้งนี้ เรายอมรับจากใจจริงแถมนับถือสุดๆไปเลย

ลุงแกว่าสิ่งสำคัญที่สุดก็คือตัวเราเองต้องรู้สึกดีกับตัวเองก่อน นั่นมันจะเป็นจุดเริ่มต้นของความสุขในชีวิต จากนั้นก็ค่อยไปเติมเต็มความฝันของตัวเอง จนสามารถชื่นชมตัวเองในกับอะไรต่อมิอะไรต่อไปได้

และยังว่ากับไอ้เรื่องหน้าตานี่น่ะมันไม่ใช่เรื่องที่จะออกปากชมเชยด้วยตัวเองได้ เพราะมันไม่ใช่ว่าจะมีคนมาปรบมือแล้วออกปากชมว่าคุณได้ทำงานไปอย่างหนักกับหน้าตาของคุณ เพราะนั่นมันไม่ได้เกิดจากความพยายามของตัวคุณเองแต่เป็นสิ่งที่เราได้รับมาจากพ่อแม่ต่างหากล่ะ

และยังย้ำอีกว่าแกรู้สึกเสียใจแทนกับพวกที่มีหน้าตาดี เพราะคิดว่าพวกเขาคงไม่รู้สึกดีเท่าไรที่คนรอบข้างเอาแต่พูดถึงหน้าตาพวกเขา(มากกว่าความสามารถ)


แล้วกีกวางวงบีสต์ก็สงสัยขึ้นมาว่าถ้าลุงผักแกไม่แคร์เรื่องรูปร่างหน้าตา งั้นทำไมถึงต้องให้แทอู(g.o.d) กับ ชางมิน(2am)สวมแว่นตาด้วยล่ะ

ลุงแกก็ตอบง่ายๆว่า "ถึงตัวผมไม่แคร์แต่คนดูเขาแคร์นี่ครับ"








แล้วก็ขอมาที่ dreamhigh
แกเล่าว่าแกตัวสั่นไม่หยุดกับตอนซ้อมบท นั่นเพราะว่าแกมารู้สึกตัวเอาว่ากำลังยืนอยู่ต่อหน้าเด็กๆที่ปกติแกจะฝ่ายคอยวิจารณ์แหลก
ทั้งแทค อูยอง ซูจี จู ต่างก็จ้องตาเป๋งมาที่แก ซึ่งลุงแกไม่เคยตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้มาก่อน สถานะที่ย่ำแย่กว่าไอ้เหล่าเด็กในสังกัด

ฮ่า ฮ่า ฮ่า


และเมื่อถูกถามว่าแทคในฐานะรุ่นพี่ได้ให้คำแนะนำอะไรบ้างไหม
ลุงตอบเสียงอ่อยว่าแทคแค่บอกให้

"ผ่อนคลายหน่อยดิพี่"




ทำเอาฮาตรึมกันทั้งสตูดิโอ




แถมตอนพิธีกรยุให้ลุงผักพูดขอคะแนนเสียงจากผู้อำนวยการกองละครKBSเรื่องรางวัลนักแสดงหน้าใหม่
ลุงแกติดสินบนโดยเอาเด็กในสังกัดทุกคนมาเป็นตัวประกันว่าจะทุ่มเทสุดชีวิตให้กับช่องKBS ไม่ว่าจะ 2pm 2am WGจะทำโชว์อย่างยอดเยี่ยมที่สุดเป็นการตอบแทน


โอยยยยยยย ลุงแกประจบสุดฤทธิ์ อิเหมียวมันเลียนแบบลูกพี่มันมานี่เองครับผม
และถึงว่าไอ้เด็กบ่ายสองถึงได้วิ่งรอกวันสิ้นปีไปงานประกาศรางวัลละครที่KBSแล้วหัวซุนกลับมาแสดงต่อที่MBCปิดท้ายแบบนี้

เพราะท่านประธานติดสินบนไว้นี่เอง










จากนั้นก็ถูกถามเรื่องความสำเร็จของบริษัท

ลุงผักให้คำตอบถึงคำว่า "ประสบความสำเร็จ" ไว้อย่างน่าสนใจว่า "ถ้าหากเราได้ทำในทุกสิ่งทุกอย่างที่ต้องการจะทำแล้ว นั่นล่ะถึงจะเรียกว่าประสบความสำเร็จแล้ว"



....!!!!!WOW!!!!!.....




ความคิดของลุงผักคือพื้นฐานของความสำเร็จก็คือเราสามารถมีอิสระได้มากแค่ไหน....ถ้าหากเราสามารถมีอิสระพอที่จะทำในสิ่งที่อยากทำ
เราสามารถไปแสดงในประเทศที่อยากไป
เราสามารถเล่นดนตรีในแบบที่เราอยากเล่น
ถ้าหากเราสามารถมีอิสระทำในสิ่งเหล่านี้ได้ล่ะก็...นั่นล่ะเราประสบความสำเร็จแล้ว



....!!!!!WOW!!!!!.....





จากนั้นลุงแกก็เผยแนวคิดการทำธุรกิจของตัวเองไว้ว่า....
ถ้าเราได้เงินมา 10 เซ็นต์แล้วเก็บไว้ 5 เซ็นต์ แล้วเอาที่เหลือจากเก็บไปเสี่ยงโชค...คุณแพ้
คุณควรต้องคุณลงพนันไปทั้ง 10 เซ็นต์ที่คุณมี

[คงจะประมาณคุณต้องทุ่มเทจนหมดที่คุณมีให้กับสิ่งที่คุณต้องการล่ะมั๊ง]


แล้วจู่ๆลุงผักเผยว่าบริษัทมีหนี้ทั้งหมด 5.8 ล้านดอลลาห์
(แถมมีการบ่นว่าเพิ่งรู้ว่าตัวเองมีหนี้ 5.8 ล้านตอนโทรศัพท์ไปถาม เพราะนึกตลอดว่ามีแค่ 5.3 ล้าน)
...ลุงคร้าบลุงควรใส่ใจเรื่องตัวเลขให้มากกว่านี้นะคร้าบ

แกบอกถึงรายได้ส่วนตัวว่ามีแค่จากเงินเดือนและก็ค่าลิขสิทธิ์จากเพลงที่แต่ง








เท่าที่เรารู้มาคือที่เกาหลีจะมีหน่วยงานกลางที่เก็บค่าลิขสิทธิ์เพลงไม่ว่าจะมีการดาวน์โหลดหรือนำเพลงไปใชในงานใด ก็จะมีการจ่ายค่าลิขสิทธิ์กลับคืนมา
แล้วศิลปินเจ้าของเพลงทุกเดือนก็จะไปรับค่าลิขสิทธิ์เพลงนี้ ซึ่งถ้าเป็นเพลงฮิตๆแล้วละก็ถึงจะแค่เพลงเดียวสามารถเก็บกินไปจนตายแถมไปถึงลูกหลานเลยด้วยซ้ำ
แล้วลุงผักแกก็มีเพลงฮิตเยอะมากกกก ตอนอัดรายการนี่เขาว่าแกเป็นอันดับหนึ่ง แต่เราเคยดูรายการในtvNเขาว่าตอนนี้คนที่ได้รับค่าลิขสิทธิ์เพลงเป็นอันดับหนึ่งคือจีดราก้อนวงบิ๊กแบง

เพราะงี้ไงคุณคิมจุนซูถึงได้ดาวน์โหลดเพลงตัวเองส่งไปให้ญาติทั้งแดกูน่ะเพราะอยากได้ค่าลิขสิทธิ์แบบนี้นี่ไง











ลุงแกเล่าว่าเหล่าเซเล็บที่หันมาเปิดบริษัทโดยทั่วไปก็จะแบ่งรายได้เป็น 7:3 หรือ 8:2 แต่ตัวลุงแกนั้นจะไม่แบ่งเลยคือเอารายได้ทั้งหมดเข้าบริษัท แกจะได้รับเพียงแค่เงินเดือนเท่านั้น


เพราะงี้ถ้าบริษัทเป็นหนี้ เซเล็บคนอื่นที่เป็นเจ้าของบริษัทยังไงก็ไม่มีทางขาดทุนไง เพราะแบ่งรายได้ไปก่อนแล้ว ต่างจากลุงแกที่ถ้าบริษัทเป็นหนี้เท่าไรตัวแกก็เป็นหนี้เท่านั้น

ลุงแกใช้เงิน 5.8 ล้านไปกับการเปิดตัวWGที่อเมริกา 2pmบุกญี่ปุ่น MissAบุกตลาดจีน แล้ว2amบุกตลาดญี่ปุ่นในครึ่งปีหลัง
เพราะงั้นมันจึงต้องใช้เงินก้อนโตในเกมนี้










ลุงผักแกมองเป็นเกมไปหมด เราว่าเพราะแกไม่ต้องการทำให้เป็นเรื่องเครียดและอยากให้สนุกไปกับมันเหมือนแนวความคิดเรื่องเซ็กส์ของแกล่ะมั้ง

เรานึกถึงสัมภาษณ์ถามลุงแกถึงการนำWGไปบุกตลาดอเมริกาทั้งๆที่ตอนนั้นWGคือเกิร์ลกรุ๊ปอันดับหนึ่งของเกาหลี แล้วทำให้โซชิก้าวขึ้นมาครองตำแหน่งแทนว่าไม่เสียดายเหรอ

คำตอบลุงคือว่า "มันไม่เห็นสนุกเลย" แกว่าการเป็นที่หนึ่งอยู่ในที่เล็กๆ มีคนแค่ 30ล้านกว่าคนน่ะมันไม่สนุก...แกว่างั้นน่ะ

คำพูดนี้ทำเอาเราจำฝังใจเลย ทำให้รู้สึกเลยว่าลุงแกติสต์มากกกกกก










จากนั้นก็เป็นประเด็นเรื่องเจย์

....เราเองไม่เข้าใจ คงเพราะเราไม่เก่งภาษาอังกฤษพอละมั้ง เราถึงกับอ่านซับอย่างตั้งใจหลายรอบ แต่มันก็เหมือนจะเข้าใจแต่ก็ไม่เข้าใจ
แถมไอ้ที่เข้าใจก็เหมือนจะเป็นความเข้าใจส่วนตัวแถมเข้ามา

ลุงผักแกพูดถึงกรณีเจย์แบบที่เราไม่รู้ว่าพูดถึงตอนไหน เหตุการณ์ตอนแรกหรือตอนหลังก็ไม่รู้ อ่านไม่เข้าใจ


ตัวเราเองรู้แค่คนเราก้าวผิดกันได้ แก้ไขได้ เรียนรู้จากความผิดพลาด และก็ก้าวต่อไปก็แค่นั้น
ไม่มีใครไม่เคยทำผิด ตัวเราเองก็ลองผิดลองถูกมาตั้งเยอะ จนป่านนี้ก็ยังเป็นอยู่














นี่ล่ะคือโดยรวมของบทสัมภาษณ์ลุงผักที่เราประทับใจมากจนอยากเขียนถึง

ประธานเป็นไง ลูกน้องก็เป็นงั้น
เราคิดว่าเด็กพวกนี้โชคดีที่เจอครูที่ดีขนาดนี้ ไม่ใช่ไปเจอกับนักลงทุนหน้าเลือดที่เห็นแต่ตัวเลขบนใบหน้าศิลปินตัวเองแบบนั้น
แถมเป็นบริษัทที่ลูกน้องดูจะใหญ่กว่าลูกพี่แบบนี้ น่าทำงานด้วยชะมัด


เราเหมือนจะมองเห็นอนาคตบริษัทนี้ลางๆ ถ้าเด็กๆของลุงไม่ไปเปิดบริษัทของตัวเองหรือก้าวไปทำงานด้านอื่นละก็นะ

เจ้าเด็กพวกนี้คงก้าวขึ้นมาเทคโอเวอร์บริษัท แล้วปลดลุงไปเป็นแค่ศิลปิน...ฮา แล้วจัดคอนเสิร์ตJYPNATIONไปจนทั้งศิลปินกะคนดูเดินถือไม้เท้าไปดูกันปีละรอบสองรอบ











Create Date : 12 มกราคม 2555
Last Update : 15 มกราคม 2555 0:53:49 น. 6 comments
Counter : 9464 Pageviews.

 
555555555555

วิเคราะห์ได้สนุกและฮามากค่ะ อ่านเพลินเลยทีเดียว

แนวคิดของตาผักนี่จะว่าสมัยใหม่ก็สมัยใหม่ แต่บางเรื่องแกก็อนุรักษ์นิยมดีจริงๆ ตึกไม่ยอมย้าย
(แต่แอบคิด ทำเลแถวนั้นที่เที่ยวแยะ)


ส่วนเรื่องค่าลิขสิทธิ์ ของ G-dragon เป็นอันดับ 1 ของปีนั้นๆ หรือเปล่าค่ะ
เพราะนักแต่งเพลงเก่าๆ บางคนที่ออกผลงานมานานและจำนวนมาก น่าจะมียอดลิขสิทธิ์มากกว่าจีนะ

อีกเรื่อง คำว่า "ปฏิเศษ" ที่ถูกควรเขียน "ปฏิเสธ"
เป็นบทวิเคราะห์ที่ดีมาก แต่แก้ไขคำผิดสักนิดจะเยี่ยมที่สุดคะ


โดย: pookong (ผู้กอง ) วันที่: 13 มกราคม 2555 เวลา:21:52:36 น.  

 
เอาละ เม้นท์ละนะ
เค้าไปตามดูรายการนี้ใหม่อีกรอบ ก็ได้เก๊ทแบบที่คิวเขียน
แล้วตัวเค้าเองก็อยากเคลียร์ๆเรื่องเจย์ด้วย
เค้าเกิดเข้าใจลุงผักที่พูด อธิบายนะ แกบอกว่า
มันเป็นเพราะเจย์ยังเด็กแล้วเกิดมีชื่อเสียงตั้งแต่ยังเด็ก แถมยังเป็นความผิดพลาดที่ยิ่งใหญ่ต่อสาธารณะชนเกินไป
ถ้าเป็นเรื่องเล็กๆ ผมยัง cover แทนเค้าได้ ( อันนี้แปลเอง ) ทำให้เห็นเจตนาของลุงว่า เด็กตรู ตรูดูแลได้ ปกป้องเองได้ยังงัย ยังงั้นเลยนะ

แล้วลุงก็พูดว่า ผมพูดเรื่องไม่ได้พอๆกับโกหกเรื่องนี้ไม่ได้เหมือนกัน
ซึ่งมันทำให้เค้างงเหมือนที่คิวบอกว่า เออ แม่ม สุดท้ายก็ไม่เคลียร์
ช่วยไรได้ม้อยยยยยย ลุงเนี้ย


ปล. ลป. ดูแล้วจิงๆ รักลุงผักขึ้นเป็นกอง ศิลปินตัวพ่อ


โดย: w@TerMeLoN วันที่: 13 มกราคม 2555 เวลา:22:57:49 น.  

 
คุณผู้กองคะ แก้ให้แล้วค่ะ ขอบคุณด้วยนะคะ...ผิดประจำเราน่ะ

เรื่องจีเราก็ไม่แน่ใจนะคะ แต่อาจเป็นของปี2011เท่านั้นก็ได้ เพราะจำได้ว่าลุงผักได้ที่สาม(คือเราก็ค่อยแน่ใจ)
แต่ของจีน่ะที่เขาเอามาเผยเพลงที่แต่งน่ะเยอะจริงๆทั้งของบิ๊กแบง ของตัวเองและของศิลปินคนอื่นๆอีกทำเอาเราอ้าปากค้างเลยว่าจีแต่งเพลงฮิตไว้เยอะเกินกว่าที่เราคิดอีก



แหะ แหะ แหะ...น้ำยอมมาแระ
บางเรื่องเราคงต้องทิ้งมันไว้แบบนั้นล่ะ
บางทีการรู้ความจริงมันก็ไม่ช่วยอะไร...นี่กัดฟันพูดเลยนะเนี่ย เอิ้กกกกก
แต่ก็นั่นล่ะ...ความจริงของโลกก็คือเราไม่มีทางรู้ความจริงได้ทุกเรื่อง
ไม่งั้นคงไม่มีคำว่าปริศนา...และคงไม่มีท่านชายพจน์


โดย: Quaver วันที่: 15 มกราคม 2555 เวลา:1:41:41 น.  

 
น่าเห็นใจท่านประธานบริษัทนี้จริงๆ พนักงานแต่ละคนดูจะเกรงอกเกรงใจท่านประธานกันสุดๆ เลยนะ ฮ่าๆๆ

ถึงแม้จะเล่าวีรกรรมที่เด็กๆ มันทำกับท่านให้เจ็บช้ำน้ำใจ (ก๊ากกก) แต่ก็เป็นการเล่าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มและความภูมิใจ เราว่าเด็กๆ ที่เป็นอย่างนี้ส่วนหนึ่งก็มาจากคนที่ดูแลเค้านี่หล่ะค่ะ อย่างคุณคิวว่าลูกไม้หล่นใต้ต้นจริงๆ

เห็นด้วยว่าบางเรื่องก็เกินกว่าคำอธิบายและใช่ว่าอธิบายแล้วจะเข้าใจ...บางเรื่องก็ได้แต่ทำใจและปล่อยไป ถึงจะทำใจลำบากที่จะปล่อยอยู่บ้างก็ตาม เฮ้อ..

ปล.คุณคิว ไปคอนฯ ใหญ่ใช่ป่าวค่ะ อยู่โซนไหนอะคะ


โดย: fon_wanan วันที่: 18 มกราคม 2555 เวลา:8:55:03 น.  

 
อ่านแล้วรู้สึกนับถือลุกผักมากขึ้นอีกทวีคูณ ชอบวิธีคิดของลุง ชอบวิธีการทำงาน ลุงแกกล้า กล้าที่จะทำตามความหวัง ความชอบของตัวเอง โดยไม่แคร์เรื่องอื่นๆ ไม่โดนกระแสของธุรกิจครอบงำ เพราะงั้นชีวิตการทำงานของลุงก็จะมีแต่ความสุข โฮ้ยยยย มายไอดอล....

ต้องหาเทปนี้มาดูบ้างแล้วหล่ะค่ะ อ่านเอนทรี่นี้แล้วทำให้อยากไปนั่งฟัง ดูสีหน้าชัดๆของลุงผักเลย อิอิ ขอบคุณมากค่า


โดย: Pure wing วันที่: 18 มกราคม 2555 เวลา:19:05:55 น.  

 
เสน่ห์ของค่ายเจวายพีอยู่ตรงนี้ คือ กล้าที่จะแตกต่างและแต่ละคนมีบุคลิกเด่นชัด ที่สำคัญคือ แต่ละคนเป็นตัวของตัวเอง

เค้าต้องขอบคุณลุงผัก สิ่งๆนึงที่เค้าประทับใจศิลปินค่ายนี้ คือ ความคิด ไม่รู้เค้าคิดไปเองรึเปล่า แต่มักรู้สึกว่าเด็กค่ายนี้ส่วนใหญ่ เหมือนความคิดจะโตกว่าตัวกันมาก ถึงแม้จะซนๆดื้อๆกันบ้าง แต่ถ้ามีเหตุผลก้อพร้อมยอมรับฟัง
และอีกอย่างคือ ความผูกพันในค่าย เห็นเด็กๆอยู่รวมกันทีไร รู้สึกถึงความอบอุ่นฟุ้งกระจายไปหมด มีแต่เสียงดัง เสียงหัวเราะ รอยยิ้ม เห็นแล้วยังอดยิ้มอดหัวเราะตามไม่ได้เลยค่ะ ^^

ฮ้าาา อยากให้มี JYP Nationที่ไทยบ้างจัง สัญญาเลยนะ ถ้าศิลปินยังร้องเพลงเดินไหว คนดูแบบเค้าก็ยอมถ่อสังขารไปเชียร์เหมือนกันละ


โดย: shchanz วันที่: 19 มกราคม 2555 เวลา:21:24:27 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Quaver
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 77 คน [?]




เป็นคนหัวแข็งที่มาพร้อมรอยยิ้มอ่อนๆ
เป็นคนหัวอ่อนที่มาพร้อมท่าทางแข็งๆ




Friends' blogs
[Add Quaver's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.