Group Blog
 
 
มิถุนายน 2553
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
28 มิถุนายน 2553
 
All Blogs
 
เวลาของสายฝน เวลาของการตกหลุม ‘รัก’ จุนซู 2PM






ไม่รู้ว่าว่างจัดเลยมีเวลานั่งจับผิด ...หรือเป็นเพราะว่าทุกทีละเลยจนไม่ให้ความใส่ใจ
ฤดูฝนปีนี้
เราถึงได้...เห็นทั้งเมฆขี้เกียจ แล้วก็ ฝนจอมเกียจคร้าน


เมฆขี้เกียจ ช่างขี้เกียจจนเราชักทึ่ง ก็เล่นทั้งอ้วนทั้งดำปี๋ มองขึ้นไปอีกไม่ไกลก็เอื้อมถึง เล่นเคลื่อนตัวดังตุ้บแล้วหยุดตัวดังตั้บ พอชายตามอง...ไม่ว่าใคร...ก็ต้องลงความเห็นว่า ใกล้คลอด เอ๋ย ใกล้ตกอยู่รอมร่อแล้ว
แต่คุณพี่เล่นทอดสายตาลงมา ตวัดค้อนดังขวับอีกที ก่อนสะบัดหน้าเคลื่อนตัวอย่างอุ้ยอ้ายจากไป
ปล่อยคนเฝ้าอยู่เบื้องล่างได้แต่มองตาค้างในความใจเด็ด


ยัง
...ก็แค่ยังไม่ถึงเวลา


จน
...เมื่อเวลามาถึง


ฝนจอมเกียจคร้าน ก็ช่างขี้คร้านในการทิ้งตัว น้ำของฟ้าในปีนี้จึงทั้งเอื่อยและเฉื่อยอย่างถึงที่สุด
คิดดู...ทั้งลมกระโชกจนกิ่งของต้นไม้กระชากตัวราวจะปลิวหนีไปกับสายลมแรง
ท้องฟ้าดำทมึน ส่งเสียงขึงขัง ทิ้งตัวลงคลุมยังผืนดิน
แต่สุดท้าย เรากลับเจอเพียงแค่ละอองฝนไล้ลงอย่างบางเบา ราวกับตกอยู่ในหมอกสีควันบุหรี่


กลิ่นของดินจางๆโชยมาทักทาย
พร้อมกับเสียงของน้ำหนักของสายฝนแต่ละเม็ดทิ้งตัวกระทบให้ระดับเสียงต่างออกไป
เม็ดฝนกระทบผืนดิน
เม็ดฝนกระทบปลายเรียวแหลมของต้นหญ้า
เม็ดฝนกระทบหน้าต่างกระจกใส
เม็ดฝนกระทบหลังคาดังข่มทุกเสียงจนชวนเขม่น






หรือว่านี่เป็นแค่ท่อนpreludeของฤดูกาลแห่งฝนของปีนี้กันแน่




แต่กระนั้น...
ถึงจะไม่ใช่preludeของบทเพลงแห่งสายฝน
มันก็ยังเป็นpreludeของบล็อกอยู่ดี(ล่ะว้า~!)




เมื่อวานนี้
ตอนกำลังติดไฟแดงท่ามกลางสายฝนพรำ
เรามองไปทางซ้าย เจอถนนสาย...จะว่าตัดใหม่ก็ไม่ใหม่เท่าไรแล้ว
เราเฝ้ามองถนนสายนี้มาตลอดกว่าครึ่งปี
ถนนสายนี้กว้าง ดูสะอาด สองข้างทางเรียงรายไปด้วยต้นไม้ทั้งเล็กและใหญ่ ยิ่งช่วงนี้ยามฝนเริ่มทิ้งตัว ทำให้เราเห็นสีเขียวกระจ่างประกบคู่ไปกับทางสายสีดำเทาตลอดสาย
มองไปจนสุดตา ภูเขาสูงทอดตัวยาวกางกั้นราวกับนั่นคือจุดหมาย


สิ่งหนึ่งที่เราชอบที่สุด จนถือว่าเป็นส่วนสะดุดสายตาของถนนสายนี้ก็คือ ความโล่งไปกับความกว้างของถนน...คือพูดให้สวยไปงั้นล่ะ...พูดตรงไปตรงมาก็คือ มองหารถแล่นบนถนนสายนี้ไม่ค่อยเจอ
หุ หุ หุ
ทั้งๆที่มันไม่ใช่ถนนนอกเมือง มันก็อยู่ใกล้ๆกับเมืองนั่นล่ะ
หุ หุ หุ...อีกสักที เพิ่มความนัย


มันดูแปลกตากับถนนสายที่ไร้ซึ่งรถผ่านไปมา
ทำให้ถนนสายนี้ในยามฝนพรำ ดูวางตัว ดูสงบนิ่งและเข้มขรึม


ทิ้งความนึกคิด
เราหักเลี้ยวเข้าไปยังถนนสายใหม่นี้เป็นครั้งแรก
ฝนทิ้งตัวหนาและหนักขึ้น จนภูเขาสูงตรงหน้าดูเลือนรางราวกับจะจางหายไปในม่านหมอกของสายฝน
เม็ดฝนเล็กๆตกกระทบกระจกรถ วิ่งอย่างซุกซนขึ้นด้านบนโดยไม่ยอมทิ้งตัวตกลงมาตามทฤษฎีแรงดึงดูด


เราจึงเริ่มคิด ‘คนอย่างเราคงไม่เหมาะกับการต่อสู้กับฤดูกาล’
เลยจำต้องชะลอ จอดเอามันดื้อๆ เพียงลำพังกับทางสายทอดยาว
ละอองฝนสาดตามแรงลมเข้ามายังกระจกรถที่เปิดแง้มอยู่




เมื่อสองสามวันก่อน
เพื่อนส่งลิงค์หนึ่งมาให้อ่าน Junsu's "Music for a Rainy Day"

เครดิต:2pmalways




เราอ่านด้วยความรู้สึกทั้งประหลาดใจและชื่นชมปนด้วยความทึ่ง


บทความนั้นเป็นเรื่องราวของจุนซูแห่งวง 2PM
บ่งบอกถึงรสนิยม(ชั้นเยี่ยม)ทางดนตรีของเขา และการแนะนำอัลบั้มที่เขาชอบฟังในยามฝนพรำ
ไล่อ่านไปเรื่อยๆจนถึงอัลบั้ม voodoo ของ D’Angelo



Junsu’s 2nd album choice: D’Angelo’s Voodoo

“Feel Like Makin’ Love is a song that a fan gifted to me for my minihompy background music. As a fan of D’Angelo’s music, it was a pleasant music gift. Although it’s great to listen to at anytime, it’s a neo-soul song that’s even better on rainy days.

In Feel Like Makin’ Love, D’Angelo leads the song with what’s called lay back, in which it is a beat late. Strangely, the late beat is organized to be at every 8th beat. It’s an art form.

He is not only a singer but a musician as well. D’Angelo is at an artistic level that no one can follow. If you listen to it, you end up feeling good.”



ย้ำประโยคนี้ของจุนซูที่มีต่อศิลปินให้ชัดอีกสักที ด้วยความรู้สึกว่า เด็กหนุ่มคนนี้มีมุมมองไม่ธรรมดาเลยทีเดียว


D’Angelo is at an artistic level that no one can follow





!!! อยากใช้เครื่องหมายนี้อีกสักยกกำลังสิบ



คือข้าพเจ้าไม่ได้ประเมินท่าน D’Angelo ต่ำหรอกนะ
เขาเป็นนักร้อง นักดนตรีที่มีชื่อเสียงในแวดวงของนีโอ-โซลมากพอตัว
เพียงแต่ ถ้าพูดถึงการตลาดวงกว้าง ก็ไม่ใช่แบบนั้น
คนจะรู้จักศิลปินผู้นี้(ต้องใช้คำคำนี้แทนเจ้าตัวจริงๆถึงจะหมาะสม)ก็มักจะอยู่ในแวดวงที่ฟังเพลงทำนองนี้
มันต่างจากวงกว้างอย่างเพลงป็อบ ร็อค อะไรเทือกนั้นน่ะ


เอาง่ายๆ รอบตัวเราเองตอนนี้ หาคนคุยถึงศิลปินคนนี้ไม่เจอสักคน
พูดไปมีแต่คนทำหน้างงๆ ถามกลับมาให้ต้องอธิบายยาวจนขี้เกียจอธิบาย

แล้วการที่ชายหนุ่มวัยยิ่สิบต้นๆในแวดวงบอยแบนด์อย่างจุนซู
รู้จักและชื่นชมD’Angelo



!!! อยากใช้เครื่องหมายนี้อีกยกกำลังห้าสิบ
เพื่อแทนความทึ่งในรสนิยมทางดนตรีของตัวหนุ่มน้อยคนนี้



อย่างตัวเราเองก็รู้จักศิลปินหนุ่มผิวสีคนนี้ครั้งแรกก็เมื่อราวปี 2000 โน่นแล้ว
ตอนเพลง Feel Like Makin’ Love ถูกปล่อยออกมา


ความจริงแต่เดิมเราเองนั้นรู้จักเพลงนี้ในอีกเวอร์ชั่น
Feel Like Makin’ Love เป็นเพลงเก่ายุค 70 ได้
ขับร้องโดย Roberta Flack นักร้องเพลงโซลผิวสีเสียงเซ็กซี่
ถึงจะเกิดไม่ทัน โตก็ไม่ทัน แต่ถูกยัดเยียดให้ฟังมาตั้งแต่เด็กๆก็เลยชื่นชอบไปโดยปริยาย
ต้นฉบับจะร้องสไตล์เพียลโซล ประมาณฟังแล้วต้อง...ฮู้ววววว์
ก็ตามสไตล์โซลล่ะ อารมณ์จัด ยิ่งประกบตามด้วยเสียงแซ็คโซโฟนฟังแล้วจินตนาการไปไหนต่อไหน
(อื้มมมม….เฮ้อ~อีกสักที)







เพราะงั้นเราจึงพาลมารู้จักD’Angelo ด้วยความที่เขาเอาเพลง Feel Like Makin’ Love มาทำในสไตล์ของเขาเอง
บอกได้เลยว่าลบจากต้นฉบับอย่างสิ้นเชิง เด่นด้วยอารมณ์และเสียงออดเป็นมอดกินไม้ของเขา
ทั้งยังใช้บีทมากำกับทำให้โยกตามไปตลอดเพลง กำกับด้วยการร้องแบบ lay back มาใช้ในทุกบีทที่ 8อย่างที่จุนซูอธิบายไว้



“D’Angelo leads the song with what’s called lay back,
in which it is a beat late.

Strangely, the late beat is organized to be at every 8th beat.

It’s an art form








เรานั่งอยู่ในรถ มีเสียงโปรยปรายของฝน
หลับตาฟังเพลง Feel Like Makin’ Love ตามคำแนะนำของจุนซู









ไม่แน่ใจว่านี่คือครั้งแรกที่ฟังเพลงนี้ในเวลาของสายฝนหรือเปล่า
แต่ที่แน่ๆนี่คือครั้งแรกที่ตั้งใจเปิดเพลงนี้ในวันฝนพรำ
เปิดเพื่อต้องการรับรู้ความรู้สึกว่า เพลงนี้จะให้อารมณ์ต่างไปจากเดิมไหมเมื่อเราจงใจฟังในยามรอบตัวมีแต่สายฝนแบบนี้



....~ Strollin' in the park

Watchin' winter turn to spring

Walkin' in the dark

Watchin' lovers do their thing~





ขณะที่เราโยกตัวตามบีท
เสียงของใครบางคนก็แทรกผ่านกาลเวลามาซ้อนทับ

“เวลาฝนตก คือเวลาที่เหมาะจะกอดใครสักคนเอาไว้แน่นๆ”



มากับเสียงร้องออดอ้อนของD’Angeloราวกับกระซิบเว้าวอนอยู่ข้างหู


~That's the time I feel like making love to you

That's the time I feel like making dreams come true~







อืม...ห์~!
จนวันนี้เราถึงเข้าใจ เข้าจนถึงหัวใจ
ความโรแมนติคของคนขี้เหงาในยามสายฝนโปรยปราย


เมื่อยามฝนตก
ความรู้สึกโดดเดี่ยวเข้าคลุมเมื่อมองผ่านละอองฝนจนภาพเบื้องหน้าดูเลือนรางและห่างไกล
สายแต่ละเส้นของเม็ดฝนตกลงมาราวกับจงใจแยกคนเราให้ทิ้งห่างจากกัน


วงแขนกระชับแน่นขึ้น กอดใครบางคนเอาไว้
อาจเพื่อเติมความรู้สึกให้เต็มแทนช่องว่างที่สายฝนชะให้เกิดขึ้นในหัวใจ




มีใครบางคนหลงรักความเหงาด้วยมันแสนจะโรแมนติค
เราชักสงสัย...
จุนซู ผู้ชายที่แนะนำให้ฟังเพลงนี้ยามฝนพรำ
...จะขี้เหงาแบบนี้ด้วยไหม?








แต่ที่แน่ๆ
เราตกหลุมรักชายหนุ่มคนนี้ด้วยเพลงที่เขาแนะนำให้ฟังในยามฝนพรำ
...อย่างไม่ต้องสงสัย







Create Date : 28 มิถุนายน 2553
Last Update : 28 มิถุนายน 2553 2:34:56 น. 6 comments
Counter : 2304 Pageviews.

 


โดย: หาแฟนตัวเป็นเกลียว วันที่: 28 มิถุนายน 2553 เวลา:11:44:53 น.  

 
ไม่รู้จักแหะคนนี้ เขียนถึงเอเอฟดูจะคุ้นชินกว่า

หนูเชียร์เยอรมันคร้า แต่ศึกหน้าถ้าจะใหญ่หลวงนัก


โดย: บางส้มเปรี้ยว วันที่: 28 มิถุนายน 2553 เวลา:14:12:03 น.  

 
กำลังอยากเขียนเรื่อง ...

หลังฝนตก ... นอกจากฟ้าสดใสแล้ว ถนนหนทาง ต้นไม้ข้างทางก็สวยสว่างด้วยสีเขียวสบายตา

แต่ช้ากว่าคุณ Q แฮะ ...

.... เราจึงเริ่มคิด ‘คนอย่างเราคงไม่เหมาะกับการต่อสู้กับฤดูกาล’ ....

'คนอย่างเรา ยิ่งแย่เข้าไปใหญ่ อย่าว่าแต่ฤดูกาลฝนฟ้าคะนองเลย แค่ฝนตั้งเค้า ก็ทำเราร้องไห้ได้แล้ว'

เกลียดตัวเองจัง


โดย: for Family วันที่: 29 มิถุนายน 2553 เวลา:21:39:42 น.  

 
คิดว่า...
นอกจากจุนซูจะเป็นคนสนุกสนานเฮฮาแล้ว
พ่อหนุ่มคนนี้ยังมีความโรแมนติกสุดๆ อีกด้วย

ขอบคุณนะคะ แล้วจะแวะมาบ่อยๆ ค่ะ

เป็น hottest เหมือนกัน แต่อาจจะเพิ่งจริงๆจังๆ
เอาช่วงต้นปี 53 ที่ผ่านมานี่เอง..


โดย: fon_wanan วันที่: 17 มกราคม 2554 เวลา:8:43:37 น.  

 
เราชอบฤดูฝนเฉพาะตอนมองผ่านหน้าต่าง แต่ไม่ชอบออกไปเปียกฝนอะค่ะ ฮา


โดย: FlyingB2High วันที่: 26 มกราคม 2555 เวลา:21:19:51 น.  

 
กลับมาอ่านใหม่อีกรอบ หลังจากทำความรู้จักจุนซูมากขึ้นจากไม่รู้เรื่องอะไรเลยจำได้แค่เสียง + เสียงหัวเราะ(เป็นคนที่หัวเราะได้สะใจมากกก)
ตอนนี้เราพอจะนึกภาพตามได้แล้วค่ะ
ตอนแรกเข้ามาอ่านนึกตามไม่ค่อยทัน

ขอบคุณ คุณคิวที่เขียนบล็อกเกี่ยวกับผู้ชายคนนี้ เขียนบ่อยๆ นะค่ะ เท่าที่คุณคิวจะมีเวลาอัพเอนทรี่ให้ได้อ่าน คุณคิวละเอียดอ่อนกับซูมากเลย เราพึ่งเคยอ่านแล้วอินก็ที่บล็อกนี้แหล่ะค่ะ
อิน โฮก โอ้ว อู้วว จริงดิ แล้วแบบอยากรู้จักให้มากอยากซับพอร์ต(ตามกำลังทรัพย์55+)
เขินวุ้ย ไปดีกว่า 555+


โดย: poy (FlyingB2High ) วันที่: 1 มิถุนายน 2555 เวลา:21:21:35 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Quaver
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 77 คน [?]




เป็นคนหัวแข็งที่มาพร้อมรอยยิ้มอ่อนๆ
เป็นคนหัวอ่อนที่มาพร้อมท่าทางแข็งๆ




Friends' blogs
[Add Quaver's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.