วันหนัก ๆ .........

เหตุเกิดจากเมื่อวาน...

สงสัยว่ากินน้ำดอกคำฝอยมากไปหน่อยอ่้ะ แล้วอาหารเมื่อวานนี้ก็เริ่มด้วย ซองเดอร์ 2 ซองตอนเช้า no sugar ซะด้วย ช่วงบ่ายก็บะหมี่เกี๋ยวล้วนกับลูกชิ้นปลาลวก+น้ำเปล่า เย็นก็ข้าวกับต้มจืดมะระ(โนรีฟิว) แล้วก็ชาๆๆๆคำฝอยๆๆๆๆ กินแทนน้ำไปเลย หุหุ แต่พอช่วงหัวค่ำเริ่มมีอาการมึน ๆ งง ๆ ก่งก๊งพิลึก รู้สึกไม่ค่้อยดีเลยหว่ะ (คิดมากไปอีกแล้วหรือเปล่าน้อ แต่....เราว่าไม่นะ) เลยกินยาลมไปประมาณครึ่งช้อนชา ก็ดีขึ้นหน่อยนึง เข้านอนตอนประมาณเที่ยงคืนได้

สะดุ้งตื่นมาตอนตีห้าหน่อย ๆ รู้สึกเวียน ๆ หัวหว่ะ ปวดหัวด้านซ้ายด้านเดียว (บริเวณขมับ) แล้วก็เหมือนหัวใจมันเต้นแรง ๆ พยายามจะไม่คิดว่าเกิดจากยาลดน้ำตาล เพราะไม่อยากกินน้ำตาลเข้าไปเพิ่ม (กลัวว่าถ้าอุปทานไปเองหรือเกิดจากสาเหตุอื่น จะเป็นการเพิ่มน้ำตาลที่กำลังพยายามลดอยู่...ซึ่งถ้าดูจากเวลาที่กินยาลดน้ำตาลเข้าไป มันน่าจะแสดงอาการมาตั้งแต่เมื่อวานบ่าย ๆ แล้วดิ่ เพราะเรากินยาตอนมื้อเช้านี่นา) และแล้วก็...ไม่ไหว ใช้ตัวเองเป็นสนามทดลองจนได้ ลองย่องไปหยิบน้ำผึ้งที่ห้องกินข้าวมากิน ทีแรกกินไป 1 ช้อนชา ผ่านไปประมาณ 15 นาที ก็เหมือนจะดีขึ้น แต่ก็ยังไม่ดีมากจนรู้สึกปกติ สักพักก็เลยกินไปอีก 1 ช้อนชา เอ่อ!!! ทีนี้ดีขึ้นจริง ๆ จนหลับไปเลย

วันนี้ก็เลยลองกินแบบไม่ซีเรียสเหมือนเมื่อวาน (แต่มื้อเย็นนี่ น่าซีเรียสแล้วกรู)
วันนี้เช้าเริ่มด้วยนมช็อกโกแลต 1 กล่อง แคร๊กเกอร์แผ่นเล็กไปอีกประมาณ 4 แผ่น เพราะไม่อยากให้มีแต่นมในท้องแต่เช้าอ่ะ ฟังที่ไหนมาไม่รู้ เขาบอกว่าไม่ควรกินนมเฉย ๆ แต่เช้าอ่ะ
ตอนเที่ยงวันนี้กินเที่ยงจริง ๆ แฮะ กินข้าว 1 จานน้อย ๆ กับผัดแตงกวา(ทีแรกว่าจะไม่ใส่ไข่แร่ะ แต่...คิดว่า ใส่แต่ไม่กินก็ล่ายฟ่ะ เผื่อคนอื่นอยากกิน)

ทว่าาาาาา....
มื้อเย็นนี้ ล่อซะฮาร์ทคอเลยกรู ไ่ก่(น่องไป 2) ปลาเป็นห่วง(ไม่'หร่อยอย่างที่คิด)ไปอีก 2 อันครึ่ง ราดหน้าไปอีกห่อ จริง ๆ ถ้านั่งกินปกติคงกินไม่ถึงหรอก แต่ว่าพอดีมันกินแบบเป็น 2 ขยัก ทีแรกกินน่องไปก่อนด้วยความหิว กะลังจะต่อด้วยก๋วยเตี๋ยวราดหน้าของเมื่อคืน ก็ดั๊นนนต้องไปรับเจ้าณุชาซะก่อน (ยางม่ะอิ่มอ่ะ) ขับรถไปรับ พอขับกลับมามันก็หิวอีกอ่ะ คาจายยยย...กลับมาเลยซัดเต็มคราบเลย พุงกางเลย ไม่ได้ ๆ พรุ่งนี้ต้องเช็ฟ ๆ กว่านี้ แต่...ดีอย่างนึงว่าวันนี้ ไม่รู้สึกมึน ๆ งง ๆ เหมือนเมื่อคืน อาจเป็นเพราะวันนี้ไม่ได้กินคำฝอยด้วยมั้ง ...

แต่พรุ่งนี้ก็จะกินแบบเซ็ฟ ๆ เหมือนวันก่อนแหละ อยากลองดูด้วยว่าปริมาณอาหารขนาดไหนจะโอเค

เมื่อบ่ายถามพระบิฯ ว่า เห็นไปตรวจเลือดทุกเดือน (ตกลงเดี๋ยวนี้ยังได้ยาลดน้ำตาลอยู่หรือเปล่า เขาบอกว่าไม่ได้กินยานั้นมาตั้งนานแล้ว เพราะหมอบอกว่าควบคุมน้ำตาลได้ดี ก็ไม่ต้องกินยาแล้ว แต่ก็ตรวจเลือดทุกเดือน)

ได้ฟังเยี่ยงนั้น...ก็บังเกิดแรงบันดาลใจให้ข้าพเจ้าในบัดดล สิ้นเดือนนี้ น้ำตาลกรูต้องปกติให้จงได้ จะไ้ด้ไม่ต้องกินยาอีก หุหุ

Create Date : 19 มกราคม 2553 Last Update : 19 มกราคม 2553 22:24:17 น. Counter : 609 Pageviews.		3 comments
Share Tweet